เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

จิตยิ้มกำลังปลดปล่อยพลังงานช่วยเหลืออยู่ค่ะ ด้วยการเข้ามาอ่านของเพื่อนพี่น้องกระทู้ในนี้แหละคะที่เป็นตัวช่วย นั่นคือ 2 ข้อใน 8 ข้อที่จะช่วยปลดปล่อยให้แก่โลกที่พลังงานตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ให้แนวทางไว้ คือ

๑.การค้นพบความปิติสุขในใจตน แล้วรักษามันไว้อย่างยาวนาน ไม่ยอมให้สิ่งเร้าใด มายื้อแย่งไปได้ ไม่ว่าจะเกิดด้วยวิธีการมองโลกในแง่ดี หรือวิธีการเลียนแบบเด็ก ๆ ด้วยการนำความเป็นในตนเองออกมาก็ตาม

๒.รู้สึกเพลิดเพลินกับผลการกระทำที่ดีงามของตนต่อมนุษย์คนอื่น ๆ และทำให้ดียิ่งขึ้นโดยไม่มีจิตคิดหวังสิ่งใดเป็นการตอบแทน มีเพียงความพอใจที่ได้กระทำเท่านั้น

นี้ก็เป็นพลังงานด้านบวกจากจิตสำนึกต่อโลกและเพื่อนมนุษย์คนอื่น ๆ ที่จะช่วยเหลือโลกบรรเทาภัยพิบัติได้ค่ะ เ

ส่วน 6 ข้อที่เหลือคือ....

๑.การสร้างปัญญาในการคิดรู้สู่การหยั่งรู้
๒.การแผ่เมตตา
๓.การบรรลุถึงความจริงในการกระทำไม่ถูกต้องของตนเอง และขออภัยยอมรับผิดมันด้วยจิตสำนึก พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขทัศนคติและความรู้สึกนึกคิดของตนทันที
๔.การรักษาศีลเพื่อเพาะบ่มจิตใจให้สงบงัน
๕.การหยั่งรู้ระดับสูงสุดเพื่อการหลุดพ้นทางกายและจิตใจ
๖.การเข้าถึงความดีงามทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ภายในจิตใจตน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้....ถ้ามนุษย์สามารถเข้าถึง 8 ประการนั้นได้ พลังอำนาจจากแรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึก จะเป็นประโยชน์ด้านพลังงานต่อดาวเคราะห์โลกอย่างยิ่ง ซึ่งสนามแม่เหล็กโลกเชื่อมโยงไว้คอยรองรับเอาจากจิตสำนึกมนุษย์ตลอด 24 ชม.อยู่แล้ว

มนุษย์พึงรู้ว่า สมการพลังงานจากจิตสำนึกด้านบวกของมนุษย์ เคยเป็นเรื่องลี้ลับมาตลอดในยุคพลังงานเก่า ถ้ามนุษย์สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกของตนต่อ โลก และ เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ( โลกในที่นี้หมายถึงสรรพสิ่งในระบบโลกด้วย ) ค่าของพลังงานด้านบวกที่แต่ละคนปลดปล่อยออกมาสู่สนามพลังงานแม่เหล็กโลกภายนอกร่างกาย มันจะมีพลังอำนาจมหาศาลอย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

วันนึงนอนทำสมาธิแล้วรู้สึกได้ว่าพื้นสะเทือนอยู่

พอลืมตาตื่น จะตักน้ำกิน มองดูน้ำในกระติก น้ำก็ยังนิ่งอยู่

ได้ความว่า สิ่งที่สะเทือน คือร่างกายเราเอง ไม่ใช่พื้น

การทำงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายรู้สึกว่าพื้นสะเทือนแต่เราแยกไม่ออกระหว่างพื้นสะเทือนกับร่างกายสะเทือน เพราะสัมผัสได้ไม่ละเอียดพอ

 

เจ๊ ถ้ามั่นใจ ไปตั้งกระทู้ประกาศตน แล้วสอนธรรมเลยเจ๊
หรือจะบำเพ็ญอัญเชิญจักรแก้วก็ว่าไป

 

เราถึงบอกให้ท่านและคนอื่นๆแผ่เมตตาทุกวันไง...ประโยชน์ของจิต...จิตมันมีกระแส...กระแสบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ยิ่งมีอำนาจสูง...จะบริสุทธิ์หรือไม่เราต้องทำให้เกิดเอง...

 

ถ้าร่างกายสะเทือน ให้ลองกำหนดจิตไปที่อกด้านซ้ายค่ะ มันจะหมุนแกว่งสัดส่ายไปตามอารมณ์ ยิ่งอารมณ์มากการกวัดแกว่งก็จะมาก ถ้าร่างกายสะเทือนจะรู้ถึงได้ใจอ่อนล้า ถ้า ณ ขณะนั้นไม่มีอารมณ์ดังกล่าว ...พื้นสะเทือน...แน่นอนค่ะ คำว่าพื้นสะเทือน นี้ไม่ได้หมายความว่าตัวพื้นกระเพื่อมนะคะ แต่เป็นพลังงานที่ไหวไปมาใต้พื้นภิภพค่ะ

จิตยิ้มรับรู้พลังงานนี้มาตั้งแต่หลังออกพรรษาได้อาทิตย์หนึ่ง และจนถึงเวลานี้การกวัดแกว่งมีแรงหนืดมากกว่าเดิม คือรู้สึกรับรู้การไหวได้มากขึ้น หรือแรงขึ้นนะค่ะ

 

จึงกล่าวไงค่ะว่า สนามแม่เหล็กโลกกำลังอ่อนแรง เราจึงรับรู้ถึงการกวัดแกว่งได้ถ้าใครมีจิตนิ่งสงบพอค่ะ จึงไม่ควรประมาทเรื่องภัยพิบัติครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นจากสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแรงได้เลยค่ะ

แต่...ถ้าหากจะร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือโลกกันต้องช่วยกันตามแนวทางของสิ่งศักดิ์สิทธิ์หนักก็จะกลายเป็นเบาได้ค่ะ

 

*** วันที่กรรมมาถึง ****

ประดังเข้ามาพร้อมๆกัน
ตั้งตัวไม่ติด
ทุกท่านต้องพึ่ง
ผลการกระทำของตนเอง

ปฏิหาริย์อยู่ที่การกระทำ
กาย ใจ ปาก กระทำตรงกัน

นิสัย คือ ตัวสร้างการกระทำเดิมๆ
การกระทำ คือ ตัวสร้างตัวกระทำ
ตัวกระทำ คือ ตัวสร้างกรรม

ถ้า สร้างการกระทำ
ตัดลดนิสัยตนเองได้
ก็เกิด ตัวกระทำใหม่
เป็นตัวกระทำที่พาให้รอดพ้น
กรรมเก่าๆ

เป็นหนทางพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

การสื่อสารของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จิตจักรวาล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อเป็นการเตือนสติมนุษย์เป็นครั้งสุดท้าย ใช้โอกาสที่มีเหลืออยู่ไม่มาก เร่งสร้างกลุ่มพลังงานด้านบวกคล้ายกลุ่มเมฆสีทองเพื่อปกคลุมเหนืแผ่นดินของตนขึ้นมาให้ได้

พลังจิตสำนึกด้านบวกของแต่ละคนบนแผ่นดินนั้น มันเป็นการสื่อความหมายว่ามนุษย์ที่อาศัยบนแผ่นดินนั้นต้องการมีชีวิตอยู่รอด สู่การเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แล้ว เหมือนเป็นการร้องขอโอกาสหมู่คณะนั่นเอง

รางวัลจากการกระทำในครั้งนี้ที่เป็นการมอบของขวัญให้คือ การเร่งสร้างตาข่ายสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ ครอบคลุมเหนือแผ่นดินนั้นไว้ เพื่อใช้เป็นแผงดูดซึมซับคลื่นพลังงานความถี่สูง ซึ่งจะถูกส่งเข้ามายังระบบโลก ให้มันลดทอนพลังอำนาจความรุนแรงลงจนเหลือเล็ดลอดเข้าสู่ผืนแผ่นดินนั้นในสัดส่วนที่เหมาะสม ก็คือ ความคลาดแคล้วจากภัยภัยธรรมขาติที่รุนแรงและได้รับผลกระทบระดับต่ำค่ะ

 

พิมพ์เองหรือว่าก็อป ถ้าพิมพ์เองน้องจะซึ้งมาก

 

*** ใช้ความจริง ไม่ใช้ความเห็น ****

ไม่พึ่งสวรรค์
ไม่พึ่งผู้วิเศษ
ไม่พึ่งจานบิน
ไม่พึ่งมนุษย์ต่างดาว
ไม่พึ่งวัตถุ
ไม่พึ่งพิธีกรรม

พึ่งตนเอง
มีสัจจะเป็นผู้นำ
มีการกระทำเป็นที่พึ่ง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

การเตรียมพร้อมสำหรับมนุษย์ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ที่เหลืออยู่นี้ สามารถกระทำได้ดังนี้

1.หมั่นทำความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง และแก้ไขพฤติกรรมขยะของตนเองให้สิ้น

2.มอบความรักให้แก่เพื่อนมนุษย์และโลก ผ่านการกระทำที่ถูกต้องต่อกัน

3.ฝึกสติให้เกิดแก่ตนเองตลอดเวลา ด้วยการอยู่เหนืออารมณ์ทุกสิ่งของตนให้ได้ (ตอนนี้จิตยิ้มโดนฝึกอยู่ค่ะ เคยกล่าวไว้ในโพสของตนเองแล้ว เมื่อกระทบจิตจะไหวขึ้นแต่ไม่ส่งออกนอก กลับมาตั้งมั่นที่ตนเองเป็นหนึ่งเดียว แล้วก็นิ่งรู้อยู่อย่างนั้น) คือไม่ปล่อยให้มันสั่นไหวไปกับสิ่งเร้าภายนอกและภายใน โดยรักษาความสุขสงบในจิตใจตนเองไว้เสมอแม้ยามภัยมา

4.ปฏิบัติสมาธิเพื่อมอบพลังงานด้านบวกมอบให้แก่โลกและทุกสรรพสิ่ง

 

สภาวะหดหู่ใจไม่มีแรงนี่ผมอยู่กะมันมาทั้งชีวิต *0* ไม่เพ่งจิตไปที่หัวใจผมก็รู้ได้ครับ
ใจผมปกติ แต่ก็รู้สึกร่างกายสั่นสะเทือนได้เหมือนกันนะครับ กรณีเลือลมติดขัดน่ะนะ
คนที่สัมผัสพลังงานไม่ได้อย่างผม ก็ต้องคิดอย่างนี้ไปก่อนแหละ

 

เด็กยังไงก็คือเด็ก...เรียนรู้โลกไปเรื่อยๆสักวันจะเข้าใจ❤

 

บ้านท่านเรียกว่าดาบรึนั่น...บ้านเราเรียกว่าแขนนะท่าน5555






แซวเล่นๆ..ยังไงเราก็เป็นมิตรสหายกันนนน

 

ภัยพิบัติมาหรือยัง
มาเมื่อไหร่บอกด้วยนะ

 

หน้าแตกเรื่องไร

 

เหมือนเก็บกดมากๆเลยนะแม่ชี....เราเกือบทำบาปไปแล้วนะนิ...ฝึกแม่ชีให้พูดแต่กับแมว555555

 

จูนิป......สาวาดดี...หายปายหนายมาาาาาาา

 

แผ่นดินไหวในใจอ้าย...ไงจ๊ะหนูจูนิป5555