ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

พระพุทธองค์ตรัสไว้.....

ลหุสัญญาเปนประธานสังขาร ในอิทธิบาท
กายจึงจะเบา จิตจะอ่อนควรแก่การงาน....

พึงปราถนาจะลอย จึงลอย

คนละเรื่อง.หายใจเรื่อยๆ....เดี๋ยวเอียงก้นลอย
พ้นพื้นนิดนึง....แล้ว.............กันทั้งอาราม ไป
ปัดลูกระเบิด

 

เขามีแต่ เหนทุกข์

แล้วค่อย แจงว่า อะไรบ้างที่เปน อาการย่อย
ของเปนผล จาก ทุกข์

ไม่ใช่ มั่วตั้วแบบ สาวก ไม่ฉลาดในมรรค

เหนการเกิดก่อน แล้วจึงเหน ทุกข์

 

สาวก ทุกรูปนาม รู้เองไม่ได้

เพราะ อฐานะ "ฉลาดในมรรค"

ต้อง มวยวัด ฝัดแบบ มั่วๆ(อย่างถูกวิธี) ใน มรรคที่
พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้เท่านั้น จึง
จะ.....ล่วงทุกข์เพราะเพียร ถึก...มะงุมมะงา
หราจน เอ๊อะ!

 

บักโงบะ....ทราบเป่าฮับ( ไม่ได้ลงท้าย เครื่องหมายคำถาม "?" )

หาก จิตโงโง่ใด ฝุ้งซ่านอยู่ ..ไม่ใช่สมัย
ของ....อะไรบ้าง.......

มา แซมส้ม!

ภิกษุทั้งหลายสมัยใดจิตฟุ้งซ่านสมัยนั้นมิใช่กาลสำหรับธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์วิริยสัมโพชฌงค์ปีติสัมโพชฌงค์
ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะว่าจิตที่ฟุ้งซ่านนั้นยากที่จะทำให้สงบด้วยธรรมเหล่านั้นเปรียบเหมือนว่าบุคลต้องการดับไฟกองใหญ่เขาใส่หญ้าแห้งโคมัยแห้งไม้แห้งลงไปเปล่าลมเข้าและไม่โรยฝุ่นลงในไฟนั้นบุรุษนั้นจะสามารถดับไฟกองใหญ่นั้นได้หรือไม่?(ตอบ:ไม่ได้เลย)สมัยที่จิตฟุ้งซ่านฉันนั้นก็เหมือนกัน...


ดังนั้น จิตใดโง่โง่ อยู่....แล้ว งำมา-งาบิ อยากสอน
จนเขาเสียจิตปิดนิพพาน .....บักโงบะ เหน หรือ ดู
ควรเข้าไป..กะมู้ว์...ตู่บัลลังก์ ดำรงกติกกาเฉพาะ
หน้า...... นะ บักโงบะ

 

บักโงบะ ยาเสน อัคคาบาร์ ท้าทุกอย่าง
ที่คนมองไม่เหนได้ เปน 3ารถ...

แต่ อะไรที่เหน "อยู่อย่างถอนบานมาสเตอเพล"
บักโงบะ......เปน อาจารย์เต่า ซะงั้น

ลูกนกลูกกา ตาดำๆ รอ บักโงบะ ผู้เดียว(คงอื่น
เขารบ 3คำรบ ครบกติกาแว้ว ก้ อุเบกขา อะนะ)

 

จิตฟุ้งซ่าน....มีลักษณะแบบไหน?

จิตฟุ้งซ่าน คือ เลื่อนลอย สัดส่าย กวัดแกว่ง ไม่นิ่งอยู่กับที่ ไหลไปไหลมา ไม่รู้ว่าคิดอะไรกัน คิดไปทำไม คิดไปเพื่ออะไร คิดแล้วได้อะไร คือ อยู่กับความคิด โดยไม่รู้ในเหตุ-ผล มั่ว งุนงง สับสนในความคิดอารมณ์รู้สึกไปหมด หาคำตอบให้ตนเองไม่ได้

จิตพิจารณา = คือ จิตหนักแน่นในเหตุผล สามารถระลึกรู้ย้อนเข้าไปในสัญญา ในเวทนา ในสังขาร ดึงสัญญาอารมณ์รู้สึกเหล่านี่ขึ้นมาพิจารณาหาเหตุและผลได้ มีความหนักแน่น แน่วแน่ มั่นคง ไม่หวั่นไหว มีความหนี่งเดียวของจิต ได้ความคิดที่เป็นระเบียบแบบแผน

สองอย่างนี้ ถ้าใครมีความสามารถไปเห็น หรือดูจิตของผู้อื่นก็จเเข้าใจว่ามันเหมือนกันคือ การที่จิตไม่นิ่ง หรือว่าง คือ จิตมีการเคลื่อนไหวที่เหมือนกัน....

ใช่ค่ะ แต่แตกต่างกันที่ คิดรู้ กับ คิดไม่รู้ (ฟุ้งซ่านไม่รู้ว่าจะคิดไปทำไม)

ดังนั้น...จึงแตกต่างกัน

"การคิดรู้" กับ "การรู้คิด" มีความหมายดังนี้

"การคิดรู้" คือ ภูมิปัญญา ที่ได้ทักษะความสามารถในการใช้สมอง

ส่วน ....

"การรู้คิด" ก็คือ ความมีสติ ที่ได้จากทักษะในการใช้สมองแบบการรู้ตัวในขณะคิด การรู้คิด ก็คือ การมีสติ

ส่วน..

"การคิดไม่รู้" คือ การฟุ้งซ่าน สัดส่าย เข้าไปอยู่ในความคิดแบบไม่รู้ตัว ไม่มีสติสัมปชัญญะ และก็ไม่รู้ว่า ตนเองอะไร มีเหตุมีผลหรือไม่ และจะคิดไปทำไม นะค่ะ

และอีกอย่างหนึ่ง...

การเป็นผู้รู้ตื่น หมายถึง การรู้ตัวหรือรู้เท่าทันอารมณ์รู้สึกนึกคิดตนเองในทุกขณะจิต นะคะ

 

จิกยิ้ม ไง

จิตฝุ้งซ่าน

พอวางจิต ปล่อยให้สงบ ให้มีปิติ ให้วิจัย
ก้จะ เตลิดเปิดเปิง หวั่นไหว กวัดแกว่ง
ดิ้นรนหาบัญญัติมาปะผุ หนักขึ้น

เหมือนเติมหญ้าแห้ง ให้กองไฟ

 

ยิ่งให้ พูดธรรมะ ยิ่ง ไปกันใหญ่

เหมือนเติม โฮโดรเจน เข้าเตาปฏิกรณ์

 

เหมือน เผาขยะ ในกรุง .25

 

"เหมือน เอาน้ำ รดหลังหมา" คำสอนหลวงตามหาบัว

 

พอดีเจอหนังสือวิชชาธรรมกาย...นี่แหละธาตุต่างๆทั้ง๕ธาตุของมนุษย์...

อยู่เหนือสะดือขึ้นมาสามนิ้ว...ส่วนวิธีของเราสามนิ้วนั้น..ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางทาบลงไป.....ให้วางอารมณ์ไว้ตรงจุดเล็กๆตรงกลางนั้นแหละ

 

กำหนดลมหายใจที่ปากช่องจมูก...หญิงซ้าย ชายขวา....ให้สร้างจินตนาการว่าตนอยู่กลางช่องจมูก..คอยสัมผัสลมเข้าก็รู้ ลมออกก็รู้...หรือจะสัมผัสลมเข้าอย่างเดียวก็ได้ตามสะดวกของแต่ละบุคคล

 

น่าจะผิดน้าาาาา

วิธีของ โงบะ ต้องจ้องหน้ามัน จนมั่นตื่น..
เต็มที่...แบ้วสองมือกำ กดมาทาบตัว...
แล้วส่ง.....ไกลแค่ไหน ก้ แค่นั้นแหละ..

สูบยาเส้น วัยปาเข้าไปกลางคน มันก้จะเคลื่อน
นะ ไม่มีอะไรคงที่ แย่สุดแบบ ....เมินเลยนี่
คือ.....ซึมๆ...แถมยังเปน....ถูกเผา

 

กลุ้มนะ หาก รู้ไม่จริง รู้ไม่หมด

มะเคยได้ยินเหรอ วิชชาเปลี่ยนหญิงเปนชาย

ดังนั้น หญิงซ้าย ชายขวา นี้ เขายกเลิกแล้ว

ด้วยการบัญญัติ วิชาเปลี่ยนเพศ แม่ชีชื่อเฮย!
อะไรนะ ไม่มี เรื่องซ้าย เรื่องขวา แล้ว เปนของลวง

 

ส่วนจิตเราพอกำหนดลงไปดู(ตามแบบวิชชาธรรมกาย)จะเห็นเป็นรูปนี้..

มันเต้นเกิดดับอยู่ตลอดเวลา

 

หงบ ลพ สดเนี่ยะ บางอย่างท่านปรับแก้ที่วัดมหาธาตุนะมึง อ่านเพิ่มมั่งหรือป่าววะ

 

วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสดกับวิชชากรรมฐานของพุฒาจารย์โต พรหมรังษี คล้ายกัน...วิชชากรรมฐานของขรัวโตนั้นเพิ่มมาอีกจุดหนึ่งเป็นแปดฐาน...วิชชากรรมฐานของขรัวโตกับของพระเจ้าตากสินอันเดียวกัน...ฐานที่แปดที่เพิ่มมานั้นอยู่ท้ายทอย(อันนี้ก็เล่าสู่กันฟังจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

 

ส่วน บุคคล ชื่อพ้อง ที่อยู่ราชรี

มีคนวงใน เหน ท่านฉันข้าวเย็น บ่อย
แทนที่จะบอกว่า หมอสั่งแก้โรคกระเพาะ
คนวงในเล่าว่า ท่านกลับพูดว่า "ขอถอย
จาอนาคามีมาสกิทาคา ก่อน จึงฉันข้าว
ผิดพระวินัยได้....."

ข้อเท็จจริงเปนอย่างไร เซนโอนลอย ลง นา
หญ้าขึ้นรกหมดแระ.....

ล่าสุด เหมือนจะ ถอยมาเปน นิยตโพธิสัตว์
เลยมั้ง ยัง งง ภาษา ที่ศิษยเอกหนึ่งเดียวใน
พลังจิต เขาโพสบอก