กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

สาธุครับอ.นพ ตอนนี้พริกไทยเสกทานติดต่อกันยังไม่ร้อนครับ 55

 

คุ้นๆว่าท่านบ. สะพานขาว ทางสายมหายาน สหธรรมมิกของ ท่านโอ บางมด ก็มีความสามารถแบบนี้เหมือนกัน

นี่เป็นสมัย ท่านกส.มุนี กับท่าน ช. วังมุย ศิษย์ เอกของครูบาศ. ยังอยู่ คงได้สร้างมหาบุญกะนคุ้มค่าจริงๆ คิดไปก็น่าอิจฉา คนที่ได้ใส่บาตรกับท่านจังแฮะ

ส่วนตัวผมมองว่า สภาวะธรรม ที่เป็นนามธรรม มีมาทุกสมัยเพราะมาตั้งแต่โลกเกิด แต่ถ้ามีผู้เป็นเลิศทั้งสามภพก็จะมีหลักนิพพานเข้ามาด้วย

 

ถือว่า อจิณไตร หน่อยนะ
ทางสายมหายานเนี่ย ต้องยอมรับจริงๆว่า
เรื่องสัมผัสภายใน เรื่องความละเอียดทางด้านนี้
ถือว่า เก่งจริงๆ ต้องยกนิ้วให้....
บางวัดเนี่ย เดินชนกัน ป่านว่า ตลาดสดก็มีนะ
อย่างเรื่อง ๑๐ ชาติอะไรของพระพุทธฯ
ก็มาจากทางสายมหายานนั้นหละ
ส่วนเรื่อง นรก สวรรค์ ภพภูมิระดับต่างๆ
ก็พึ่งมีแทรกเข้ามาช่วงปลายกรุงศรีอยุทธยานี่เอง
เชื่อไหมว่า องค์ปัจจุบัน ท่านไม่ได้สอนสมาธินะ
ทั้งๆที่ เก่งในระดับที่ พระมหาฤาษี ท่านที่สำเร็จจิตธาตุ
ยังยกให้เป็นอาจารย์ ระดับจิตธาตุคือ
เหาะ เหิร เดินอากาศ หายตัว หยิบจับของในอากาศ
เล่นแร่แปรธาตุได้แบบ สิวๆ
และก็เชื่อ ไหมว่า จากอดีตถึง ปัจจุบัน
ยังหาท่าน ที่ติดในสภาวะ อรูปฌาน
แบบ ๒ ท่านนั้น ยังแทบไม่ได้เลย
เพราะยังไม่มีท่านใด ที่จะมีความสามารถในโหมด
อรูปฌาน ได้เก่ง เท่า อดีตพระมหาฤาษี ๒ ท่าน
ที่เคยเป็นพระอาจารย์ เจ้าชายมาก่อนจวบจน ณ ปัจจุบัน
ดังนั้น เราๆเป็นนักปฏิบัติ ไม่ต้องกลัวหรอก
ว่า จะตายแล้วจะไปเป็นอรูปต่างๆ
ทำให้มันได้จริงๆก่อน จะดีกว่า ๕๕๕


และถ้า ผู้เป็นเลิศด้านทิพย์จักขุ ในยุคนั้น
ไม่ได้ไล่สภาวะตอนที่ พระพุทธฯท่าน เสด็จปรินิพพาน
โลกนี้ เราจะไม่รู้จักคำว่า ฌาน เลย...
แต่ก็แปลกตรงที่ กลับกลายเป็นว่า ถ้าเรื่องทางสมาธิ
แน่นอนว่า ทางพุทธฝ่ายเราเหนือกว่าแน่นอน งงไหม...เหอะๆ

เรื่องต่อไปนี้ก็เป็นนิทานอีกนะ...อ่านแล้วประกันได้ว่า งงกันแน่นอน

ในอดีต พระเกจิหลายท่าน หนึ่งใน Higtmax พูดถึงนั้น
และก็อีกหลายๆท่าน ณ ปัจจุบัน มีความสามารถในการเข้าถึง
นิโรธสมาบัติได้อยู่แล้ว และเชื่อว่า ก็ยังมีฆารวาสบางส่วนที่ทำได้เช่นกัน
แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่า การที่ยังมีใครไปแอบถ่าย
ท่านได้นั้น เจตนาท่าน ณ เวลานั้น คงไม่ใช่กำลังเข้านิโรธแน่นอน
แต่ก็อย่างว่า ศิษย์ใครๆก็ศรัทธา แต่ถ้าศรัทธามากไป
ก็จะทำให้ลืม ธรรมคำสอนของท่านได้อย่างคาดไม่ถึง....
ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว ทางพุทธเราจะเน้นที่คำสอนมากกว่า บุคคล หรือวัตถุ
ส่วนนี้ก็ทราบกันทั่วไป แต่หากว่า ยังต้องอาศัยพึ่งพิงอยู่
ก็ไม่เป็นไร เพราะกำลังใจแต่ละคนไม่เท่ากัน มันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก

สถานที่ใด หากมีท่านใดเคยเข้านิโรธสมาบัติเอาไว้
สังเกตุง่ายๆว่า จิตดวงใดก็ตามที่ไปอยู่บริเวณนั้น
จะไม่มีความสามารถในการทำงานได้เลย ไม่มีไม่ใช่ว่าเสื่อมนะ
แต่จะไม่มีเชื้อ มีเหตุอะไรให้ระลึกถึงการใช้งานเลย
หรือถ้าคนปกติทั่วไป ก็จะเหมือนไม่มีความคิดอะไรผุดขึ้นมาเลย
อย่างเช่น เคยนึกๆเรื่องอะไรไว้ในใจ เดินๆเข้าไป กลับลืมไปเลย
แต่จะเป็นการลืม แบบที่คลี่คลายและหายสงสัยในเรื่องนั้นๆร่วมด้วย
(ไม่ใช่ลืมเฉยๆแบบนึกไม่ออกนะ)
อย่างเช่น ถ้ำที่ ท่านทางจีนๆ ชื่อย่อ ต.ม. เคยเข้าไว้....
หรือ กุฏิ ลป. ด อะไรทำนองนี้

คือ นิโรธหรือสภาวะดับ มันเข้าได้ ๒ นัยยะนะ
๑.นัยยะที่ใช้กำลังจิตหรือมีตัวนำในการเข้า ซึ่งมันยังส่งผลให้เกิด
ผลทางด้านอื่นๆได้อยู่ สภาวะนี้ ยังไม่ถือว่า เป็นทางพุทธจริงๆนะ
แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะทำกันได้ง่ายๆ เพราะว่า ตัวจิตจะต้องมีความสามารถ
ในระดับที่ค่อนข้างสูงมาก่อน เรียกว่า ระดับโปรซีรีย์เลยหละ
เพราะฉนั้น สภาวะนี้ จะไม่มีในกลุ่มดวงจิต
ธรรมดาแน่นอน กลุ่มนี้ที่มักมีความสามารถเข้าได้นานๆหลายวันนั่นหละ
ต่อให้ท่านนั้น จะเป็นระดับที่ไม่มีกิเลสแล้ว แต่ถ้าไม่ได้สร้างสะสมมา
ก็ไม่สามารถที่เข้าได้นั่นเอง...

๒.นัยยะที่เข้าเริ่มเข้าได้ของมันเอง โดยไม่มีตัวอะไรไปกระทำเลย
ซึ่งก็จะค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆตามลำดับ
พัฒนาคือ ระยะเวลาที่สามารถเข้าได้.....
ซึ่งก็ต้องผ่านการใช้งานทางจิต มานานอักโขทีเดียว...

ดังนั้น ประเภทที่บอกว่า จะเข้าสภานิโรธหรือสภาวะดับ
ถ้าแบบว่า จิตไม่มีอะไรที่เหนือมนุษย์ทั่วไป ให้ตีว่า
ไม่ใช่ไว้ก่อนได้เลย..

เพราะสภาวดับนี้ ภายนอกกายเนี่ย มันดับจริงๆ ดับคือ ไม่มีกระแส
อะไรมาเกาะเลย ส่วนตัวจิตและกาย ก็อยู่ของมันอย่างนั้นเลย
เรียกว่า จิตก็ไม่ใช่ กายก็ไม่เกี่ยว ช่วงปลายมันคล้าย อากาศธาตุ
แต่ว่า อากาศธาตุ ยังมีการกระทำผ่านจิตผ่านกายให้เกิดอยู่
สภาวะนี้ เป็นสภาวะที่ ยิ่งกว่า การมีตัวปัญญาญาน ในระดับ
ที่สามารถไม่สร้างเหตุให้เกิดการเกิดในเรื่องนั้นๆได้อีกนะ..
มันยิ่งกว่า เนวะสัญญาฯอะไรอีก เพราะเนวะ ยังส่งผลในด้านอื่นๆได้อยู่
เพราะมันจะเป็นสภาวะที่จะเข้า ถอดถอนต้นเหตุที่เป็นสาเหตุ
ที่เคยทำให้เรื่องๆนั้นๆเกิด ชนิดที่เอามันออกจากตัวจิตไปเลย

เข้าใจนะ อย่างพระที่พ้นๆหลายๆท่าน ที่จิตท่านไม่เกิดเลย
ไม่ใช่ว่า ในตัวจิตท่าน ไม่มี โทสะ โมหะ โลภะนะ
มีแต่ว่า ไม่มีเชื้อหรือเหตุอะไรมาทำให้เกิดได้ นี่ก็ถือว่า สุดยอดแล้ว
ประเภทที่บอกว่า ต้นเองไม่มี โทสะ โมหะ โลภะ ตัวใดตัวหนึ่ง
ตอนนี้แล้ว แต่ไม่มีความสามารถพิเศษทางจิตอะไรเลยประกันได้ว่า
กำลังถูกกิเลสมันหลอกเอา เหมือนชาติๆก่อนๆก็เลย ยังกลับมาเกิดนี่หละ ๕๕
ถ้าเปรียบกับร่างกายเป็นคอมพิวเตอร์ จิตเป็นฮาร์ทดิส
ก็เหมือนกับว่า ในส่วน เซกเตอร์ของฮาร์ทดิสนั้น ข้อมูลตรงนั้น ใช้ไม่ได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ไม่มี แต่มันใช้ไม่ได้อีก
แต่นิโรธฯนั้น คือ การค่อยๆไปเอา โทสะ โมหะ โลภะ นั้น
ให้มันหายไปจากตัวจิต พูดง่ายๆเหมือนการค่อยๆ
ฟอร์แมท ฮาร์ทดิส ที่ค่อยๆไปล้างข้อมูลตัวให้หายไปเลย นั่นเอง

เรื่องแบบนี้มันพูดยาก มันเป็นเรื่องของวาระ
มันอยู่ในวงของ เรื่องเหนือโลก และถูกความ
สามารถทางจิตแบบพิเศษ คอยปกติปิดไว้อยู่
ความเชื่อทางด้านต่างๆก็ปกปิด ตำรา สื่อต่างๆ
อัตตาตัวตน
วัตถุต่างๆ สภาพแวดล้อม พิธีกรรมต่างๆ
การเปลี่ยนแปลงไปตายยุคตามสมัยของโลก
ก็ทำให้มนุษย์ยิ่งเข้าถึงได้ยากนั่นเอง...

รู้ไหมว่า ทำพระเกจิเก่งๆ มากความสามารถ
ถึงไม่ค่อยสอนธรรมะกัน
เพราะธรรมะ สอนผิด เข้าใจผิด
มีที่ไปคือ อเวจีมหานรกนะ

ไม่ได้สะสมมาทางด้านปัญญา
บารมีอย่าได้ริเสี่ยงที่จะไปสอนธรรมะใครเป็นอันขาด
อันตรายสุดๆ เพราะอเวจีมหานรก
การสร้างความดีต่างๆบนโลกนั้น
ก็ยากที่จะเพียงพอที่จะดึงขึ้นมาได้

เห็นชอบแชร์กันจังในเนท
ของท่านมีชื่อทั้งหลายในอดีต
มันเหมือนดาษสองคมดีๆนี่เอง...
อย่างน้อยๆ ก็สติ ทิฐิ สัญญาจะวิปลาส
ไม่ต้องพูดเรื่องกรรมฐาน ฝึกทั้งชาติก็ไม่มีทางสำเร็จ
และใช้งานได้ซักอย่าง...และจะหลงตัวหลงตนเอง
แบบสุดๆ ชนิดที่ต้องเป็นบุคคลสำคัญ
หรือเข้าใจว่าตนมีความสำคัญอะไรซักอย่าง


เน้นฮา เน้นบันเทิง ที่มาชัดเจน
จะปลอดภัยกว่า ตามภาษาชาวโลก


จบ เรื่องนิทาน ขี้โม้....

ปล. หาต้นบุญให้เจอ ถ้าต้องการกำลังบุญเยอะ
อย่างรู้ว่า ทำบุญกับท่านนี้ ท่านจะไปสร้างวัด
สร้างพระพุทธรูป
สร้างโรงพยาบาล
หรือนำไปช่วยเหลือคน อะไรทำนองนี้
และยิ่งได้รู้ว่า ท่านนี้ มีบารมีทางภพภูมิสูงยิ่งได้บุญใหญ่
(คือ มีเทพเทวดา ให้การเคารพนับถือมากมาย
เป็นที่ยอมรับในระบบภพภูมิ)

ทำกับพี่ตูน ก็ได้บุญ แต่ต้นบุญนั้นกำลังยังไม่พอ
สมมุติว่า บุญมี ๑๐๐ % ก็ได้ประมาณ ๑๐ %
หรือ การทำบุญกับขอทาน เราได้เรื่อง เมตตา การเสียสละ
เพราะขอทาน ไม่มีกำลังต้นบุญเพียงพอ....
เค้าถึงให้ทำบุญกับระดับพระพุทธเจ้านั่นแลหลังจากสวดมนต์
แล้วหยอดเหรียญบาทเอาไว้ในบารตนั้นหละ
ก็เป็นอุบายในเรื่องต้นบุญนั้นเอง

อย่างท่านที่ออกจากนิโรธฯหรือสภาวะดับ ที่ทำกับท่าน
ได้บุญเยอะเพราะ สภาวะนี้ ดับเชื้อการเกิดทุกสิ่งทุกอย่าง
จึงเสมือนกับว่า เจอฮาร์ทดิสใหม่เอี่ยม ที่ยังมีที่เก็บข้อมูล
เหลืออีกเพียบนั่นแล... ถ้าทำแล้วรวยดังที่หลายท่านกล่าว
เป็นเรื่องจริงนะ...

จบ นิทานขี้โม้แล้วจริงๆ

 

อุทิศบุญตามอ.นพ เจ็บเท้าครับ 555 ขวดแรกหมด ต่อขวดสอง พอจบขวดสองลมพัดเย็นเลย สบายมากๆครับ เย็นใจจริงๆ

 

".....คำถามเด็ด สภาวะธรรม ที่เป็นนามธรรม
ต้องรอเฉพาะยุคที่มี
พระพุทธเจ้าหรือ ???....."



"ไม่จำเป็นครับ"

 

ส่วนใหญ่ผมก็เห็นแต่แชร์ข่ม เสียดสีผู้อื่น สุดท้ายก็เป็น avenger

 

ผมมีซีเนียร์ ใน Office คนนึง เป็นแบบนี้ครับ ปฏิบัติธรรมเก่งมาก เปิดธรรมะท่านลป.ฤษดังจนให้คนอื่นฟังระหว่างทำงานด้วย แต่เสียงดาย ชอบเสียดสีคนอื่น เห็นใครเก่งกว่าไม่ได้ ตรงไปแซะเขา หลังมานี่อาเฮียมีอาการตรรกะเพี้ยน เช่น ถามเรื่อง ต้นไม้ จะไปตอบ จะไปตอบเรื่องมอเตอร์ไซค์ บางทีคุยดีก็เครียดอย่างด่าคนอื่นไร้สาเหตุ??? เวลาผมบูชาพระธาตุแกก็ชอบมาแซว ว่าของปลอมว่ะ มึวจะบูชาทำไม (พระธาตุจากวัดท่านช.ว.ศที่ลำพูน) ก็งงใจกับแกว่าท่าน ลป.ฤษ ท่านเน้นเรื่องระวังการปรามาสพระรัตนตรัยแล้วทำไมอาเฮียถึงไม่เข้าใจ

 

ถ้าสายตรง ลพ. ส่วนมากจะเงียบๆกัน
และที่เก่งๆกันยิ่งเงียบ และใช้งาน
ที่เป็นสาธารณะเท่านั้นรวมทั้ง
หมอดูด้วยนะที่เป็นสาธารณะ
(แต่ท่านจะห้ามเป็น เพราะไม่เป็น
ไปตามอัธยาศัย คือให้รู้ตนเองแต่อย่ายึด
ส่วนคนอื่นรู้ได้แต่อย่าสนใจ)
เพราะจะมีคำสอน
พระพุทฯองค์ต้นๆกำกับอยู่
พูดง่ายๆไม่ค่อยไประรานใคร

สายนี้ตั้งแต่ลดกำลังในการเข้าถึง
ลงมาเหลือระดับอุปจาระสมาธิ
และอาศัยบารมีพระในการเข้าถึง
(ถ้าไม่ลดคงนับคนได้)เพื่อ
ให้คนส่วนมากเข้าถึงได้ง่าย
จะได้มาเน้น
ทางด้านวิปัสสนาต่อ
เพื่อตัดความยึดมั่นถือ
มั่นทางร่างกาย จะได้ไปทาง
ด้านปัญญาต่อ ถ้าไม่ใช่ประมานนี้
ร้อยละร้อยจะเฝื่อ

เช่น ๑ การรับรู้ทางนามธรรมที่คาดเคลื่อน
(เพราะหลังๆจะเข้าใจว่าตนเองเก่งกว่าพระ
เลยไม่ผ่านพระก่อนเหมือนแรกๆ)
๒หลงสภาวะเข้าใจว่าตนได้สมาธิระดับสูง
ทั้งๆที่ ฌาน ๔ ต้องอฐิษฐานจิต
เล่นแร่แปรธาตุแบบชิวๆ เหาะ หายตัวสิวๆ
๓ ยึดตัวตนในอดีต เอามาเป็นปัจจุบัน
ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่ธรรมดาๆ
๔ มีเหตุอ้างอดีต เป็นเหตุให้ผิดศีลธรรม
๕ ฟังความเห็นต่างไม่ได้ ยึดตนเป็นที่สุด
๖ ติดลาภ ยศ สรรเสริญ อย่างใดอย่างหนึ่ง
๗ ไม่มีความสามารถใช้งานที่เป็นสากล
คือรู่เอง เข้าใจเองคนเดียว
แต่เข้าใจว่า ที่ตนรับรู้ได้คือที่สุด
๘ พาลไปปรามาสผู้อื่น เหตุเพราะ
เข้าไม่ถึงสภาพจิตอื่น เพราะกำลังจิตน้อย
มีความยกตนข่มท่าน ใจถูกปิดด้วยทิฐิ
๙ เน้นทางหมอดู ทำนายทายทักโชว์มุขเทพ
โน้นนี่นั่นตาม เชิงอวดความสามารถตน
รวมๆแล้วเรียกว่า เฝื่อ
สติ ทิฐิ สัญญา ก็้เลยวิปลาสตามมา
คือ เห็นต่าง คลาดเคลื่อนจากคนปกติเค้า


ตรรกะเพี้ยน คือส่วนหนึ่ง
ของสติ สัญญาวิปลาส
ที่บอกว่าของปลอมบูชาทำไม
คือ ทิฐิวิปลาส ถ้าเคสแบบนี้นะ

เล่าให้ฟังเฉยๆ
ให้เต็มที่ ๑๐ คนมี ๑ คน
ที่จะปกติและไปตามปฎิปฎาท่านจริงๆ
ประมานนี้แระ สังเกตุได้ไม่ยากหรอก
พบเห็นได้ทั่วไป

จบนิทาน

 

หลวงพ่อสำราญ ธัมมธุโร (หลวงพ่อกล้วย) มีดำริจัดงานวางศิลาฤกษ์สร้างพระโพธิสัตว์กวนอิม วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2562 (วันวิสาขบูชา) ณ วัดป่าสำราญธรรม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

‍‍ ขอเชิญชวนผู้มีใจเป็นบุญ ทุกท่าน ร่วมเปิดโรงทานในวันงานดังกล่าว

เจ้าภาพท่านใด ต้องการจารึกชื่อบนแผ่นศิลาฤกษ์ (แผ่นละ 3,500 บาท จารึกชื่อได้ 2-3 บรรทัด รูปตัวอย่างด้านล่าง)

ส่งสลิปการโอนใน inbox เฟสวัดป่าสำราญธรรม หรือส่งเข้าในไลน์ id_line : po_dham และเขียนชื่อที่จะจารึก พร้อมเบอร์โทร
(โปรดระบุ พระเพื่อแผ่นดิน หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิม)

ทุกท่านสามารถเขียนชื่อ-นามสกุล ลงบนแผ่นทองเหลือง ส่งมาตามที่อยู่ด้านล่าง (ทั้งแผ่นศิลาฤกษ์พระโพธิสัตว์กวนอิม, แผ่นศิลาฤกษ์พระเพื่อแผ่นดิน และแผ่นทองเหลือง จะนำให้ครูบาอาจารย์อธิษฐานจิตในวันงาน)



ร่วมบุญได้.....ตามจิตศรัทธา

1.สร้างพระใหญ่, พระแม่กวนอิม, สร้างเสนาสนะและอื่นๆ ได้ที่
บัญชี " วัดป่าสำราญธรรม "
ธ.กสิกรไทย เลขที่ 035-141-9695

2.โรงทานงานวางศิลาฤกษ์ สร้างพระโพธิสัตว์กวนอิม ได้ที่
บัญชี " วัดป่าสำราญธรรม เพื่อกองบุญพิเศษเฉพาะกิจ "
ธ.กสิกรไทย เลขที่ 035-141-9644

3.บริจาคโลงศพ, ชุดฌาปนกิจสงเคราะห์ และเงินทำศพ ได้ที่
บัญชี " วัดป่าสำราญธรรม เพื่อกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ "
ธ.กสิกรไทย เลขบัญชี 035-141-9466

ถึงแม้ไม่ได้ร่วมปัจจัย ขอให้มีใจยินดีอนุโมทนา

‍♂️ ‍♀️

 

ผมเจอ avenger พวกนี้บ่อยมากครับ ระยะหลัง บางคนก็ไป ทำจิตบำบัดบ้าง เพี้ยนไปเลยบ้าง เป็นท่านขุน คุณหลวงบ้าง เป็นผู้จุติมาจากมิติอันยิ่งใหญ่บ้าง ผู้รับภารกิจกอบกู้ โลกบ้าง ........

 

อิอิ กลับมาแอบอ่านหลังจาก มัวไปเล่นมาครับ มีแต่เรื่องหน้าสนุกๆ ทั้งนั้นเลย...

 

แฮะ ๆ...เพิ่งรู้คร๊าบ
...แรงสุดๆเลยนะ
ถึงกับตกอเวจีมหานรกกันเชียว

ที่บ้านจะวางกระปุกบาตรพระไว้บนโต๊ะบูชา
...เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่า...
จะได้กำลังต้นบุญสูง
เพราะเสมือนเป็นการทำบุญกับพระพุทธเจ้า


ขอบคุณครับ

 

วันนี้ได้รับข่าวบุญ...แต่เช้าตรู่เลย

ขออนุโมทนา สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุครับอ.นพ ยอดเลย

 

คีนปาก พูดตรระกเพี้ยนะถึงอาเฮีย ซะหน่อย เมื่อวานพาไปกัน ทำบุญที่วัด ภ.ษ แถวบางพลัด แล้วก็แวะเช่าวัตถุมงคล ที่ลป.ตท่านมาปลุกเสก แล้วก็เจอลูกศิษย์ หลวงพ่อวัดท่า ข.น ก็คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์วัตถุมงคล โน่นนี่นั่น อย่างเมามันส์ พอสนาทนาเสร็จ ก็จะขึ้นรถเมล์กลับที่พัก

อาเฮียโวยวายกับผม ว่า "เมิงนี่เป็นคนอวดดีนะ ไปโชว์เรื่องวัตถุมงคลกับเขา เขานิ่งๆเขารู้ดีกว่ามึงอีก บลาๆ กรูไม่ชอบคนอวดดีอย่างมึง เขาเป็นลูกศิษย์สายตรงเก่งกว่ามึงอีกบลาๆ" (อ้าวก็คุยกันสนุกๆ ไม่ได้คิดอะไรกับกันนะ เขาเองก็ขอชมวัตถุมงคลผม แล้วผมก็ไม่ได้แคร์ด้วยว่า เขาจะคิดคิดยังไงกับผม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แล้วอาเฮียมาคิดมากกับกรูเพื่ออะไรวะ แถมตัวอาเฮียก็ร่วมวงสทนาอย่างเมามันส์ )

"แล้วก็มาด่าเรื่องผมไปนั่งเสมอพระที่เคาน์เตอร์วัตถุมงคล เนี่ยมึงรู้มั้ยว่าอย่านั่งเสมอ พระ ขนาดเณรไปนั่งเสมอ ลปฤษ ท่านยังให้บวชใหม่เลย กรูกลัวบาปก็ยืนอยู่ไกลๆ มึงเนี่ยปรามาสพระปรามาสเจ้าระวังจะลงอบายภูมิ" (อ้าวก็ทางวัดเขาจัดที่นั่งไว้ให้คนนั่งก็นั่งสิ จะให้กรูนั่งบน เคาน์เตอร์วัตถุมงคล เลยรึไง แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องของ ลปฤษ แล้วก็ปรามาสตรงไหนวะ)


"แล้วปิดท้ายเรื่องมหาสะท้อนของอาเฮีย เนี่ย กรูมีมหาสะท้อน ใครว่ากรูก็มีอันเป็น
(อ้าวกลัวโดนด่ากลับรึไง เลยอ้างมหาสะท้อน โธ่ เฮีย มหาสะท้อน ก็มีกฏอยู่ว่าห้ามไประรานใครก่อน)


สรุป ว่าผมโครตงงกับตรรกะอาเฮียมากเลย ไปทำบุญ เช่าวัตถุมงคล โม้เรื่องพระเครื่อง หาเรื่องด่าเพื่อนตัวเอง จบด้วยมหาสะท้อน ดุจ คุยเรื่อง A แถไปเรื่อง B ทำเรื่อง C แต่ไปจบที่เรื่อง Z ภาวนาว่า อาเฮียคงจะไม่เป็น แบบพวก Avenger แบบที่เจอมา นับวันตตรกะของอาเฮียยิ่งคล้ายเข้าไปทุกที

 

แล้วไปคบกับคนอย่างงั้นทำไม

 

ดีงามครับ หลังสวดมนต์เสร็จ
ก็หยอดเหรียญบาท ๑ เหรียญ
เต็มแล้วก็ถวายวัด ยิ่งได้ร่วมสร้างพระใหญ่
ยิ่งดี หรือ ร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ครับ

ตัวอย่าง บาตรเผื่อใครนึกไม่ออก
ภาพสดๆ

 

ฮาๆเป็นนิทานนะ ...
นิสัยแบบนี้หละ ๕๕๕ ตามธีมปกติทั่วไป
กรณนี้เอาความคิดตนเป็นที่ตั้ง(ไม่ได้มาจากข้างบนเพราะถูกตัด + วิบากพลังงานในอดีต(จากการปรามาส))
ดูหน้าที่สมองซีกซ้าย ตามเนทนะ จะเข้าใจเลย...พวกนี้เกี่ยวกับวิบากพลังงานในอดีตทั้งสิ้น

จริงๆเฮียแอบคิดอยู่นะเรื่อง Avenger ไม่เชื่อแกล้งลองถามดูซิ
ว่าในอดีตเมื่อก่อนเฮียมาเกิดเฮียเป็นใครหรือครับ ?
แล้วตอนนี้เฮียคิดว่า เฮียเป็นระดับไหนครับ ? จะได้คำตอบแบบไหน
ปล. ตะกรุดมหาสะท้อน ไม่มีผลหรอก เพราะวิบากภพภูมิระดับล่านและบน
รวมกันอยู่ ไปตามสถานที่แรงๆ ประกันว่ามีออกอาการ
เผลอๆตอนนี้ ม้ามซึ่งส่งผลเกี่ยวกับระบบเลือด
ตรงนี้ที่เป็นเหตุให้ข้อต่อหัวเข่าขวาไม่ค่อยดี กับตับและท่อไต ก็ไม่ค่อยดีแระ
ส่งผลเรื่องระบบขับถ่าย
แถมอัณฑะยังมีปัญหา
ทำให้ส่งผลต่อเรื่องแบบอย่างว่าด้วย
โอ้ยวิบากเยอะ

จบนิทาน

 

ผมคบกับเขาด้วยเหตุผลเชิงธุรกิจและหน้าที่ครับ

 

แกเคยเล่าให้ผมฟังว่าแกเป็นพระลูกศิษย์หลวงปู่มั่น เป็นไข้ป่า มรณภาพ ไปเกิดเป็นพรหม แล้วแกไม่สบายใจเรื่องสร้างบารมีแกตัดสินใจลงมาสร้างบุญต่อ ในโลกมนุษย์ เคยเกิดเป็นลูกชาวนาอยุธยา ด้วย

ปัจจุบันนี้แกบอกว่าแกจะบำเพ็ญตัดภพตัดชาติไปสู่นิพพาน ไปซอย ส.ล ของ ลปฤษ อยู่บ่อยๆ แต่วันดีคืนดีแกก็บอกว่า สาย ลปฤษ ไม่ใช่แนวของแก แล้วบอกว่า อีกนานเลยยุคพระ .ม.ต แกถึงจะสำเร็จ

แกบ่นประจำว่า ปวดสะบักร้าวลงขา ปวดหน้าอกช่วงล่างลงท้องน้อย