ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.

  1. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    เออ ใช่เนาะ คนเราก็อยู่บนโลกนี้เหมือน ๆ กัน โพธิ์สัตว์ไม่จำเป็นต้องเจอทุกข์มากกว่าคนอื่น
    พอเข้าใจอะไรขึ้นมานิดหน่อยแลัวครับ

    พระโพธิสัตว์จะต้องทำความเข้าใจความทุกข์ให้ได้มากกว่าคนอื่นต่างหาก เพราะจะไปเป็นครูเขา

    และแม้ปัญญาถึงพร้อมแค่เพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถทำให้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้หากบารมีอื่นๆ ๆ ไม่ถึงพร้อมจนส่งผลดังกล่าว ขอบคุณครับ ท่านพูดถูก
     
  2. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    ต้องเข้าใจก่อนว่าเราอยู่ในประเทศที่ไร้ระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตและมักง่ายติดอันดับโลก ด้วยจารีต วัฒนธรรม ประเพณี ศาสดา ศรัทธา ความเชื่อ ผสมปนเปชนิดเละโคตรๆ ฟังอะไรมาแล้วก็ปักใจเชื่อเลยไม่ยอมใช้ปัญญาพิจารณาเสียก่อน มันถึงได้มีคำทำนายเพ้อเจ้อไร้สาระเหลวไหลออกมาตลอด ก่อกำเนิดเป็นเหล่าผู้วิเศษทั้งหลาย อ้างความวิเศษสารพัดแต่ไม่เคยพิสูจน์ใดๆได้เลย มักมีคำพูดที่สวยหรูดูดีแต่หาสาระมิได้ ใครไม่เชื่อก็หาวิธีแถ ดิ้น กลบเกลื่อนไปเรื่อยๆ จนพอไม่มีใครสนใจแล้วก็จะหายไปซักพักแล้วอวตารกลับมาใหม่

    โดยส่วนใหญ่ก็พวกหน้าเดิมนี่แหละแต่เปลี่ยนชื่อใหม่เข้ามา สังเกตสำนวนการโพสแนวทางการโพสจะเหมือนเดิมเป๊ะๆ ต่อให้พยายามเปลี่ยนเท่าไร โพสมากเข้าก็พลาดได้ หลุดออกมาให้เห็นจนหมดสิ้น เหมือนครั้งป้ามหาภัยอวตารมาโพส ใครที่เคยรบกับป้าแกเมื่อหลายปีก่อนย่อมจำสำนวนลีลาการโพสของแกได้ ช่วงแรกเราเองก็ไม่แน่ใจแต่มันคุ้นๆ พอตามไปเรื่อยๆ อ้าวเห้ยนี่มันป้ามหาภัยนี่หว่า เหตุไฉนผิดสัจจะตัวเองเข้ามาโพสได้ซะล่ะ ตรงจุดนี้ถ้าใครรู้จักแยกแยะรู้จักผิดชอบชั่วดีจะรู้ว่า คนที่แม้แต่รักษาสัจจะตัวเองยังไม่ได้ มันจะเป็นผู้วิเศษช่วยกู้โลกได้อย่างไร ดีแต่สั่งสอนคนอื่นให้ทำแต่ตัวเองยังทำไม่ได้เลย

    ส่วนคนบางคนนี่ก็หน้าหนาและลึกมาก เตือนสติไปหลายคราเหมือนไม่สะดุ้งสะเทือน ยังเอาคำทำนายเพ้อเจ้อมาโพสซ้ำไปซ้ำมาอย่างน่าไม่อาย เอาของเดิมมาแต่เปลี่ยนปี พ.ศ. ไปเรื่อย ล่าสุดนี่ถ้าจะขาดสติรุนแรงเอารูปถนนทรุดตัวมาลง บอกว่านี่แหละภัยพิบัติ โดยไม่พิจารณาถึงความจริงเลยว่าเกิดจากอะไร อาจเพราะเล่าเรียนมาน้อย หรือ สักแต่เรียนให้แค่ผ่านๆไป ก็ไม่แปลกใจที่แค่หมาไปขี้หน้าบ้านจะกลายเป็นสัญญาเตือนภัยพิบัติได้ตามกระทู้เมื่อ 4-5 ปีก่อน เกิดเหตุอะไรเอะอะอ้างภัยพิบัติได้หมดทุกเรื่อง ต่อไปขี้ไม่ออกคงจะบอกว่าเทวสภามาเตือนให้ระวังเรื่องอาหารจะมีการวางยาพิษในโลกทิพย์เพื่อกำจัดคนเลวที่ไม่เห็นด้วยกับคำทำนายภัยพิบัติ ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมถึงได้คบหากัน นับถือกัน มันเป็นการให้คนจำพวกเดียวกันอยู่ด้วยกันนั่นเอง
     
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ลุงเกษมครับ ไหน ๆก็มาสิงห้องผมละ บอกผมได้หรือยัง ว่าเอาคำทำนายพระจักรพรรดิ์มาจากไหน ว่าแต่ตอนนี้คุณอินฟินิต รีฟัลเจนท์เป็นแคนดิเดทพระยาธรรมของผมละนะ ... 555
     
  4. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ที่ผมขาดการภาวนา เพราะผมภาวนาไม่ๆด้นานครับ ชาตินี้วาสนามาแบบนี้

    บวกกับต้องการทำความเข้าใจธรรมชาติแบบคนธรรมดามากกว่าซึ่งมันก็อาจะเป็นความหลงขอผมน่ะนะ ที่ต้องการจะเข้าใจธรรมชาติในมุมมองของคนธรรมดามากกว่าธรรมชาติในมุมมองของนักบวช เป็นความเอาแต่ใจของผมเองแหละ ที่ผมอยากเข้าใจธรรมชาติในแบบนี้ เพราะผมคิดว่าการทำความเข้าใจธรรมชาติในมุมมองของนักบวชยังลัดและตรงเกินไปสำหรับผม ผมต้องการทำความเข้าใจในรายละเอียดยิบย่อยให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถ รู้จักมุมมองของคนธรรมดาให้ได้มากที่สุด จะได้เข้าถึงจิตใจของคนธรรมดาได้มากที่สุด


    พุทธภูมิก็คงต้องเรียนธรรมแบบพุทธภูมิ ส่วนคนที่ต้องการหลุดพ้นก้เรียนธรรมะตามปกติไป
     
  5. เงาวิบาก

    เงาวิบาก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2018
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +82
    ไม่ใช่หรอกครับ ของจริงยังไงก็เป็นของจริง ผมเป็นนักปฏิบัติเฉยๆครับผม
     
  6. Cheewin...

    Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +1,514
    ไม่ได้เข้ามานานเลยครับ จะตามหาพระศรีได้ที่ไหนครับ
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    อันนี้ลอกคนอื่นมา เอาไว้อ่านเอง



    https://palungjit.org/threads/เรื่อ...ธพจน์และพระพุทธเจ้า-ครูบาอาจารย์รับรอง.57550/


    พระโพธิสัตว์" คือ ผู้ซึ่งจะได้มาตรัสรู้เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ท่านอธิษฐานจิตถึงพระพุทธภูมิ ทุ่มเทปฏิบัติธรรม ช่วยผู้อื่นทั้งทางโลกและทางธรรม สะสมบารมี ๑๐ ทัศ ทุกๆคนเป็นพระโพธิสัตว์ได้ทั้งนั้น ถ้าหากว่าเขาผู้นั้นเป็นผู้มีจิตเมตตาประจำใจ ทำแต่คุณประโยชน์ช่วยเหลือคนทุกข์ยาก ไม่ประพฤติเบียดเบียนสนับสนุนผู้อื่นในทางผิดศีลธรรม


    คุณธรรมหลักของผู้ตั้งความปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ คือ "มหาเมตตา" แปลว่า ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข พระโพธิสัตว์จึงมีคุณธรรมอื่นๆต่อเนื่องกันคือ

    มหากรุณา คือความปราณีต่อสรรพสัตว์(หมายรวมมนุษย์) ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง สงสารผู้ยากลำบากทั้งหลาย เฝ้าตามช่วยแนะเพื่อความสุขของเขา เป็นความยินดีกรุณาของพระโพธิสัตว์ทั้งลาย

    มหาปัญญา คือเป็นผู้มีความรู้หรือศึกษาหาวิชาใส่ตัว ได้เป็นประโยชน์ส่วนตนเอง ส่วนผู้อื่นช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปให้รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว

    มหาอุบาย คือรู้ในวิธีนำตนและผู้อื่นให้พ้นภัยและสัมฤทธิผลเข้าถึงในคุณธรรมต่างๆที่มีประโยชน์

    ความหมายของคำว่า
    "พระโพธิสัตว์"



    โพธิสัตว์ หรืออาจจะเขียนได้ว่า โพธิสัตต์ มาจากคำว่า โพธิ + สัตต

    "โพธิ" แปลว่า ความตรัสรู้หรือความรู้แจ้ง

    "สัตต" ตามบาลีไม่ได้หมายถึงสิ่งมีชีวิต (สัตวะ) หรือมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการใช้ความหมายคล้ายคลึงกับ "สัตวัน" (Sattavan) ในคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์ ซึ่งหมายถึง ผู้ทรงพลัง ผู้นำ นักรบ "สัตต" ในคำว่า "โพธิสัตต์" จึงหมายถึง ผู้นำ หรือผู้มีใจเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ องอาจ เยี่ยงนักรบ ซึ่งให้ความหมายเดียวกับคำว่า โพธิสัตต์ ในภาษาทิเบต คือ byan chub sems-dpah โดยคำว่า byan chub หมายถึง โพธิ (bodhi), sems หมายถึง จิต (mind) และ dpah หมายถึง วีรบุรุษ ผู้กล้า หรือผู้เข้มแข็ง

    "โพธิสัตต์" จึงแปลว่า ผู้มีใจยึดมั่นในสัมมาสัมโพธิญาณอย่างเด็ดเดี่ยว

    มหาปณิธานของพระโพธิสัตว์

    ๑. เราจะละกิเลสทั้งหลายให้หมด
    ๒. เราจะต้องตั้งใจศึกษาพระธรรมทั้งหลายให้เจนจบ
    ๓. เราจะไปโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้สิ้น
    ๔. เราจะบำเพ็ญตนให้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    ทศภูมิของพระโพธิสัตว์

    ทศภูมิของพระโพธิสัตว์ คือภูมิจิตของพระโพธิสัตว์ มี ๑๐ ภูมิดังนี้
    ๑. มุทิตาภูมิ พระโพธิสัตว์มีความยินดีในความไร้ทุกข์ของสัตว์ (ภูมินี้บำเพ็ญหนักในทานบารมี)
    ๒. วิมลาภูมิ (ปราศจากมลทิน) พระโพธิสัตว์ละมิจฉาจริยาได้เด็ดขาด ปฏิบัติแต่ในสัมมาจริยา (ภูมินี้มีศีลบารมีเป็นใหญ่)
    ๓. ประภาการีภูมิ (มีความสว่าง) พระโพธิสัตว์ทำลายอวิชาได้เด็ดขาด มีความอดทนทุกประการ (ภูมินี้มีขันติบารมีเป็นใหญ่)
    ๔. อรรถจีสมดีภูมิ (รุ่งเรือง) พระโพธิสัตว์มีความเพียรในการบำเพ็ญธรรม (ภูมินี้มีวิริยะบารมีเป็นใหญ่)
    ๕. ทุรชยาภูมิ (ผู้อื่นชนะยาก) พระโพธิสัตว์ละสภาวะสาวกญาณ กับปัจเจกโพธิญาณ ซึ่งเป็นธรรมเครื่องกั้นพุทธภูมิ (ภูมินี้มีญาณบารมีเป็นใหญ่)
    ๖. อภิมุขีภูมิ (มุ่งหน้าต่อทางนิพพาน) พระโพธิสัตว์บำเพ็ญยิ่งในปัญญาบารมี เพื่อรู้แจ้งเห็นชัดในปฏิจจสมุปบาท (ภูมินี้มีปัญญาบารมีเป็นใหญ่)
    ๗. ทูรังคมาภูมิ (ไปไกล) พระโพธิสัตว์มีอุบายอันฉลาดแม้บำเพ็ญกุศลน้อย แต่ได้ผลแก่สรรพสัตว์มาก (ภูมินี้มีอุบายบารมีเป็นใหญ่)
    ๘. อจลาภูมิ (ไม่คลอนแคลน มั่นคง) พระโพธิสัตว์บำเพ็ญหนักในปณิธานบารมี
    ๙. สาธุบดีภูมิ พระโพธิสัตว์แตกฉานในอภิญญา และปฏิสัมภิทาญาณ (ภูมินี้บำเพ็ญหนักในพลบารมี)
    ๑๐. ธรรมเมฆภูมิ พระโพธิสัตว์บำเพ็ญหนักในญาณบารมีมีจิตอิสระ ไม่ติดในรูปธรรม นามธรรม (บำเพ็ญหนักญาณบารมี)

    เมื่อพระโพธิสัตว์บำเพ็ญทศภูมิเต็มบริบูรณ์แล้ว ย่อมมีพระคุณเทียบเท่าพระพุทธเจ้า เหลืออีกชาติเดียวก็จักตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เช่นเดียวกับพระศรีอริยเมตตไตรยโพธิสัตว์

    จริยธรรมของพระโพธิสัตว์ ๑๐ ประการ

    ๑. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า ร่างกายจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
    ๒. พระโพธิสัตว์ ครองชีวิตโดยไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีภยันตราย
    ๓. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีอุปสรรคในการชำระจิตให้บริสุทธิ์
    ๔. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีมารมาขัดขวางการปฏิบัติภารกิจ
    ๕. พระโพธิสัตว์ คิดว่าจะทำงานให้นานที่สุด โดยไม่ปรารถนาจะให้สำเร็จผลเร็ว
    ๖. พระโพธิสัตว์ จะคบเพื่อน โดยไม่ปรารถนาจะได้รับผล
    ๗. พระโพธิสัตว์ จะไม่ปรารถนาว่า จะให้คนอื่นต้องตามใจตนเองเสมอทุกอย่าง
    ๘. พระโพธิสัตว์ จะทำความดีกับคนอื่น โดยไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน
    ๙. พระโพธิสัตว์ เห็นลาภแล้ว ไม่ปรารถนาจะมีหุ้นส่วนด้วย
    ๑๐ พระโพธิสัตว์ เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ติเตียน นินทาแล้ว ไม่ปรารถนาจะโต้ตอบ หรือฟ้องร้อง

    อุดมการณ์โพธิสัตว์ มีหน้าที่หลัก ๒ ประการ

    ๑. โพธิสัตว์นอกจากจะมุ่งช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์แล้ว ยังมุ่งในความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีในโลกนี้
    ๒. โพธิสัตว์ปรารถนาให้สรรพสัตว์ได้บรรลุนิพพาน โดยตนเองปฏิเสธการเข้าถึงนิพพานของตน เพื่อที่จะได้ยังมีโอกาสรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น แม้ว่าจะต้องยังอยู่ในที่แห่งความทุกข์ยาก เพื่อสร้างคุณความดีช่วยเหลือสรรพสัตว์ ซึ่งนับว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่โดยตั้งปณิธานสำคัญว่า


    "ข้าฯจะไม่เข้าสู่ปรินิพพานจนกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจะพ้นทุกข์
    ข้าฯจะยังคงอยู่ที่นี่ตราบจนวัฏสงสารจะสิ้นสุดลง
    แม้ว่าข้าฯยังจะต้องอยู่ที่นี่อีก แม้เพียงชีวิตใดชีวิตเดียว"

    ยาน (yanas) หรือเส้นทางซึ่งนำไปสู่การบรรลุโพธิ แบ่งเป็น ๓ ประเภท

    ๑. สาวกยาน คือ ยานของพระสาวกที่มุ่งเพียงอรหันตภูมิ ซึ่งรู้แจ้งในอริยสัจ ๔ ด้วยการสดับจากพระพุทธเจ้า
    ๒. ปัจเจกยาน คือ ยานของพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้แก่ ผู้รู้แจ้งในปฏิจจสมุปบาทด้วยตนเอง แต่ไม่สามารถแสดงธรรมสั่งสอนสัตว์ให้บรรลุมรรคผลได้
    ๓. โพธิสัตวยาน คือ ยานของพระโพธิสัตว์ ซึ่งได้แก่ผู้มีจิตใจเมตตา ใจคอกว้างขวาง ประกอบด้วยมหากรุณาในสรรพสัตว์ ไม่ต้องการอรหันตภูมิ ปัจเจกภูมิ แต่ปรารถนาพุทธภูมิ เพื่อโปรดสัตว์ได้กว้างขวาง และเป็นรู้แจ้งในสุญญตธรรม

    โพธิสัตว์จะต้องมีจรรยา ๔ คือ

    ๑. โพธิปักขิยจรรยา คือ ปฏิบัติเพื่อความรู้แจ้ง อันประกอบด้วยคุณธรรม ๓๗ ประการ คือ
    ๑.๑ สติปัฏฐาน ๔ ได้แก่ กาย เวทนา จิต ธรรม
    ๑.๒ สัมมัปปธาน ๔ คือ ความเพียรอันบุคคลตั้งไว้ชอบ ได้แก่ สังวรปธาน(เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน), ปหาปธาน(เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว), ภาวนาปธาน(เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน) และอนุรักขนาปธาน(เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม)
    ๑.๓ อิทธิบาท ๔ ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
    ๑.๔ อินทรีย์ ๕
    ๑.๕ พละ ๕ ได้แก่ สัทธา, วิริยะ, สติ, สมาธิ และปัญญา
    ๑.๖ โพชฌงค์ ๗ ได้แก่ สติ(ความระลึกได้), ธัมมวิจยะ(ความเฟ้นหาธรรม), วิริยะ(ความเพียร), ปีติ(ความอิ่มใจ), ปัสสัทธิ(ความสงบใจ), สมาธิ(ความมีใจตั้งมั่น), อุเบกขา(ความมีใจเป็นกลางเพราะเห็นตามความเป็นจริง)
    ๑.๗ มรรค ๘ ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ, สัมมาสังกัปปะ, สัมมาวาจา, สัมมากัมมันตะ, สัมมาอาชีวะ, สัมมาวายามะ, สัมมาสติ, สัมมาสมาธิ

    ๒. อภิญญาจรรยา คือ การปฏิบัติความรู้ทั้งมวล

    ๓. ปารมิจาจรรยา คือ ปฏิบัติเพื่อการสร้างสมบารมี ซึ่งในทางเถรวาทจะกล่าวถึงทศบารมี ๑๐ ประการ แต่ฝ่ายมหายานจะกล่าวถึงบารมีหรือปารมิตาที่สำคัญ ๖ ประการ ได้แก่ ทาน ศีล ขันติ วิริยะ ฌาน ปัญญา โดยสาระที่แท้จริงแล้วก็คือการพัฒนาหลัก ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง ส่วนเนกขัมบารมี ซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุไว้ในบารมีของฝ่ายมหายาน แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียด จะพบว่า ในการบำเพ็ญฌานบารมีนั้น เมื่อปฏิบัติในขั้นสูง ผู้ปฏิบัติจะรักษาพรหมจรรย์ ซึ่งใกล้เคียงกับการออกบวชในประเด็นที่เป็นผู้ออกจากกามเช่นกัน

    ๔. สัตตวปริปาจรรยา คือ การอบรมสั่งสอนสรรพสัตว์

    ประเภทของพระโพธิสัตว์

    ในทางพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน แบ่งพระโพธิสัตว์ออกเป็น ๒ ประเภท คือ

    ๑. พระฌานิโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ซึ่งกำหนดไม่ได้ว่ามาเกิดในโลกมนุษย์เมื่อใด แต่เกิดขึ้นก่อนกาลแห่งพระศากยมุนีพุทธเจ้า ซึ่งพระโพธิสัตว์เหล่านี้ ท่านได้บรรลุพุทธภูมิแล้ว แต่ทรงมีความกรุณาในหมู่สัตว์ ทรงตั้งพระทัยไม่เข้าสู่พุทธภูมิ ประทับอยู่เพื่อโปรดสัตว์ในโลกนี้ต่อไป ดังเช่น

    - พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์แห่งปัญญา ในหัตถ์ขวาทรงถือพระขันธ์เป็นสัญลักษณ์ในการทำลายล้างกิเลสตัณหาและอวิชาทั้งปวง และในหัตถ์ซ้ายถือคัมภีร์บนดอกบัว
    - พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่ทรงไว้ด้วยความกรุณา และได้ทรงตั้งปณิธานว่าจะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นจากกิเลสความผูกพันทั้งปวง หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการรื้อสัตว์ ขนสัตว์จากนรก
    - พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา จะลงมาจุติในโลกมนุษย์เป็นครั้งคราว เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นภัย ความเมตตาของพระองค์แผ่ไปไกลและลึกแม้กระทั่งในดินแดนนรก ในประเทศจีนพระอวโลกิเตศวรเป็นที่รู้จักกันในปางสตรีคือ "เจ้าแม่กวนอิม" และชาวธิเบตเชื่อว่าองค์ประมุขทไลลามะ เป็นอวตารของพระโพธิสัตว์พระองค์นี้
    - พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ ทรงปัญญาเป็นเยี่ยม และทรงใช้ปัญญานี้เป็นเครื่อง บั่นทอนอวิชา
    - พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ทรงตั้งปณิธานที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ยาก และเจาะจงช่วยโดยเฉพาะแก่เด็กและมิจฉาชน
    - พระเมตไตรยโพธิสัตว์ (พระศรีอริยเมตไตรย มหาโพธิสัตว์) เชื่อว่าเป็นองค์อนาคตพุทธเจ้า และจะลงมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า เป็นผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา

    ๒. มนุษิโพธิสัตว์ คือ ผู้ปฏิบัติตนเพื่อบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์ ปฏิบัติตนอยู่ในความบริสุทธิ์ ประกอบการบุญ เจริญศีล ทาน ภาวนา ทำประโยชน์แก่มวลมนุษย์ ช่วยชีวิตคนและสัตว์โลกให้พ้นจากกองทุกข์ กระทำกัลยาณวัตร และบำเพ็ญกุศลเพื่อบารมีแต่ละชาติไป โดยมุ่งหวังบรรลุพระโพธิญาณในขั้นสุดท้าย เช่น อดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นโพธิสัตว์ จึงเป็นอุดมการณ์ของชาวพุทธมหายาน ที่พยายามดำเนินรอยตามแนวทางพระยุคลบาทสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งทรงเป็นมนุษิโพธิสัตว์ เพื่อให้ได้ถึงพุทธภูมิในที่สุด

    และอุดมการณ์โพธิสัตว์นี้ยังมีสมบัติเป็นตัวเชื่อมทำให้ไม่มีช่องว่างมากนักระหว่างบรรพชิตกับฆราวาส เนื่องจากผู้ที่จะเป็นโพธิสัตว์ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นบรรพชิต แม้ฆราวาสเองก็เป็นโพธิสัตว์ได้ (ไม่ใช่ด้วยความอยากจะเป็น) เช่นกัน โดยหัวใจของการเป็นโพธิสัตว์นั้นขั้นแรกต้องมี โพธิจิต คือจิตตั้งมั่น ยึดพุทธภูมิเป็นจุดมุ่งหมายของชีวิต มีศรัทธาในโพธิ หรือความรู้แจ้งว่าเป็นอุดมการณ์สูงสุด และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2019
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ใครเป็น พระโพธิสัตว์ ขั้นไหน ชั้นไหน
    ทำงานถึงตรงไหนแล้ว ลองเทียบเคียงเอาเองเถิด
     
  9. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ตอนนี้ผมศึกษาธรรมชาติอยู่

    เพราะผมมีความเห็นว่า คนดีใช้เหตุผลไม่เป็น

    นายเซแลเวียน ขอทำนาย

    ศีลธรรมจะเสื่อม เพราะ

    เจ้านายไม่มีศีลธรรม
    คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ไม่เห็นประโยชน์ของการทำความดี

    คนดีใช้เหตุผลไม่เก่ง
    ยิ่งถ้าเป็นผู้นำที่ใช้เหตุผลไม่เก่ง ก็มีแต่สั่งอย่างเดียว หรือบังคับใช้กฏในองกรณ์ โดยไม่มีการอธิบายเหตุผลให้คนในองกรณ์เกิดความกระจ่าง สบายใจ ในกรณีที่มีแรงกดดันในองกรณ์เยอะ ๆ อาจทำให้องกรณ์เกิดความแตกแยกได้
     
  10. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    เรืรองการบำเพ็ญเพียร ตอนนี้ผมคงทำได้แค่เกือบ ๆ เทียบเท่าชาติที่พระโพธิสัตว์ไม่ได้เสวยชาติเป็นนักบวชเช่น เป็นนกกระจาบบ้าง เป็นปูบ้าง เป็นโจรบ้าง ระดับไหนผมไม่สนใจหรอก ตอนนี้ผมพอใจแต่การทำความเข้าใจโลก ผมไม่อยากเป็นคนที่ไม่มีคำตอบให้กับคนอื่นเลย นอกจากการปฏิบัติ คือไม่อยากกลายเป็นคนที่พูดได้แต่เรื่องปฏิบัตืเรื่องเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2019
  11. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    เราว่าคุณ Zalievan หยุดโพสและเข้าเวปซักระยะนึงแล้วใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น น่าจะเป็นผลดีกว่ากระมัง เลิกย้ำคิดย้ำทำเรื่อง "พระยาทำขี้เรี่ยราด" เอาเวลาที่เข้ามาพร่ำเพ้อไปปฏิบัติให้เห็นผลตามจริงดีเสียกว่า เข้ามาในนี้มีแต่ความฟุ้งซ่านและเพ้อเจ้อจากพวกผู้วิเศษและลิ่วล้อเยอะ มีแต่ข้อมูลขยะหาสาระมิได้เลย
     
  12. Pngtree

    Pngtree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    1,609
    ค่าพลัง:
    +1,335
    .
    ทำไมถึงคิดว่า reflect จะหมายถึงคุณเป็นป้ามหาภัย
     
  13. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    แล้วคุณคิดยังใงคะ
    กับคำพูดลอยๆ
    แบบนั้น
    คนที่ไม่ใช่ก็แจ้งว่าไม่ใช่
    คิดว่า..ทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่คะ
    หรือคุณคิดว่าใงคะ
     
  14. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เพราะจริงๆ เรามีพรบคอมกำกับการใช้งาน
    มีข้อกฎหมายแนบอยู่ในการใช้งาน
    และที่นี้ ยูสนี้ก็ใช้งานนานละคะ
    ไม่ได้เป็น..มือรอง
    หรือพึ่งมาใหม่
    เพราะเล่น
    มือแรกแรกมาเลยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2019
  15. Pngtree

    Pngtree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    1,609
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ปวีไม่คิดยังไง เพราะพวกเรารู้สำนวนการโพสของคนกลุ่มนี้ ต่อให้เปลี่ยนไอดีมาก็รู้ อยู่ที่จะทักหรือตามน้ำไปก่อน แล้วจะกลับมาเคลียร์ทีหลัง เท่านั้น


    รีเฟลกไม่ได้หมายถึงคุณ เขาก็พูดสไตล์เตือนแบบนั้นมานานแล้ว เขาเตือนทุกคน แล้วก็ไม่ใช่คนบาป มิจฉาชีพ พูดสร้างกระแส หรือตัวร้ายลับหลังอะไร ..พวกเราคุยกันอยู่ในกระทู้นึง ที่มีแนวความคิดคล้ายๆ กัน ปวีเห็นเขามานานแล้ว มากกว่า 5-6 ปี

    อย่าคิดมากไปเลยค่ะ คุยปกติกะเพื่อนๆ แบบเดิมไปเถอะค่ะ
     
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    คุณถามมาอย่างนั้น
    ก็ต้องตอบให้เข้าใจ
    เพราะถาม..เจาะจง
    ก็ถือว่า..ชัดเจนกันนะคะ
    เราถือกฎหมายมาคุยกันดีกว่า
    เพราะกฎหมู่...มันจะเป็นอีกความหมายหนึ่งไปคะ
    ยินดีที่คุยกันคะ
    แต่ถ้จับกลุ่มคุยคงแตกต่างจากดิฉันมากมาย
    ที่ดิฉัน..แยกขาดคะ
    ผ่านมาทักทาย
    แยกย้ายปฎิบัติ
    อันนี้ดิฉัน..ชัดเจนเสมอคะ
     
  17. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    การจับผิด
    ขอเรื่องข้อกฎหมายมาคุยกันจะดีมากคะ
    เพราะมีคดีแบบอย่างในนี้มาแล้ว
    เรื่องการหมิ่นประมาท
    การพูดโดยไม่คิด
    ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
    มีคดีตัวอย่างมาแล้วคะ
    การแสดงอัตลักษ์ทางบุคคล ใช้บัตรประชาชนลงทะเบียน มันชัดเจน
    เล่นได้ตรงตัว
    อันนี้สนับสนุนให้เว็บทำนานมาแล้วคะ
     
  18. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    อีกอย่างนะคะ
    ป้ายสีส้มนั้น...ตรงชื่อนั้น
    พี่เว็บทำให้
    คงมีอะไรหลายอย่าง
    ที่บอกที่ป้าย
    ได้อยู่นะคะ
    ถ้าจะกรุณาพิจารณา
    ก็ขอขอบคุณ
    ในคำถามคะ
     
  19. Pngtree

    Pngtree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    1,609
    ค่าพลัง:
    +1,335
    กม. กฎหมู่ พรบ คอม ใช้ที่นี่ไม่ได้ค่ะ แค่คำโลกสวย
    ถ้าขลังจริง มิจฉาชีพที่นี่ไม่มีหรอกค่ะ

    รีเฟลกไม่รู้จักคุณ เขาโพสก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ .. เขาจะพูดแนวๆ ภัยพิบัติเก่าๆ ว่ามีใครบ้างมาประกอบสำนวนเท่านั้น สไตล์โพสเขาจะเป็นแบบนี้ มันแค่คุณเข้ามาในจังหวะที่เขาโพส เลยคิดว่าเขากระทบ แต่ทั้งหมดคือคุณคิดไปเอง

    ถ้าคุณเป็นป้ามหาภัย เจอกะปวีไปนานแล้วหล่ะค่ะ

    ถ้าไม่เชื่อว่าเขาไม่ได้หมายถึงคุณจริงๆ ย้อนดูประวัติการโพสเก่าๆ ของเขาค่ะ ช่วงที่ไม่มีโพสของคุณ สำนวนโพสและพูดถึงป้ามหาภัยก็ยังมีอยู่ตลอด
     
  20. Cheewin...

    Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +1,514
    ผมชอบบทความนี้น่ะ ท่าน nilakarn
     

แชร์หน้านี้

Loading...