กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

(ปักหมุด 19) หน้า 22


เรื่อง ภพภูมิต่างๆกับพญานาค
เรื่อง โรคที่แพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่หาย ลองไปที่นี่อาจช่วยได้
เรื่อง (ต่อ)ชีวิตหลังความตาย7วัน อจ.นพเล่าประสบการณ์จริงให้ฟัง
เรื่อง เวลาทำบุญจะมีกระแสเย็นๆมาเกาะที่กาย(ธาตุ4)
เรื่อง รับขันธ์ ถอนขันธ์ ตัดขันธ์ หรืออาจสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
เรื่อง และเรื่องน่าสนใจจากทุกโพสต์(ปิดท้ายยังมีเรื่องน่าตะลึง)
(จัดให้เป็นหน้าTips&Tricks)


https://palungjit.org/threads/88.637310/page-22

 

พระธาตุเสด็จบนพระสมเด็จไพรีพินาศ
วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.

 

ถ่ายภาพที่นครพนม

 

สวยงามครับ

 

"คิดถึงนครพนม"
มีเรื่องราวอดีตที่ตราตรึงและอัศจรรย์ใจ
อีกไม่นานเกินรอปักหมุดถึงถิ่นเก่าแห่งนี้

สำหรับเช้าวันนี้ขอส่งเทียบเชิญท่านอาวุโสนาม "Jommarn"
เข้ามาเปิดตัวเพื่อถ่ายทอดวิทยายุทธด้านพลังจิต
และเล่าเรื่องประสบการณ์ลี้ลับต่างๆให้มวลสมาชิกฟัง
**หากถ้าวันไหนพอมีเวลาว่างเชิญครับผม**

 

(ปักหมุด 20) หน้า23
เรื่อง พระขรรค์เงินครี่งล้าน กับดาบ
เรื่อง รายละเอียดเรื่องธาตุ(ดิน น้ำ ลม ไฟ)ที่เกื้อหนุนกัน
เรื่อง เม้าม้อยเรื่อยเปื่อยถึงเลขศาสตร์ กับ โหราศาสตร์



https://palungjit.org/threads/88.637310/page-23

 

พระธาตุเสด็จบนพระเครื่อง
พระเนื้อผงเกจิอาจารย์?ไม่ทราบครับ
วัดไหน ?ไม่ทราบครับ
รู้แต่ว่าเก็บไว้หลายปีได้มาพร้อมกรอบ
(แต่มั่นใจว่าช่วงนั่นไม่เห็นพระธาตุ)

 

(ปักหมุด 21) หน้า24


เรื่อง ใช้พ่อหมอขับไล่วิญญาณ บางเคสอาจถึงตายหรือเพี้ยน
เรื่อง อจ.นพมีฮา "อำนาจมีอย่าใช้จนหมดไล่หมาอย่าจนตรอก"
(เริ่มต้นดูเข้มขรึม...ไฉนจบด้วยสารพัดฮา)
เรื่อง พญาครุฑปรากฏตัวความสูงระดับโลก ถ้าขยับปีกทีหายว๊าบ
เรื่อง เลขศาสตร์ดูเพื่อทายทักชาติก่อนมาจากภพภูมิอะไร
เรื่อง อจ.นพเห็นแย้งพร้อมรายละเอียดยิบ(น่าเซฟเก็บไว้)
เรื่อง ปิดท้ายด้วยเรื่องจริงผ่านตา"ลบหลู่พระภูมิเจ้าที่เฉียดตาย


https://palungjit.org/threads/88.637310/page-24

 

พระธาตุหรือพระธรรมธาตุเสด็จบนพระผงลป.ทวด คู่ ลป.ดู่
(รุ่นแรกๆที่ลต.ม้าสร้าง วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่)









(หมายเหตุ) ช่วงก่อนเย็นจะขอนำเสนอมุมมองลต.ม้า
เรื่องเหตุผลที่พระธรรมธาตุเสด็จบนพระเครื่องให้อ่าน

 

พระธาตุหรือพระธรรมธาตุเกิดขึ้นได้อย่างใด
ลต.ม้าอธิบายว่า
"พระธรรมธาตุเกิดขึ้นด้วยแรงดึงดูดจากบุญที่ลป.ดู่ทำไว้เยอะ
ผู้ที่จิตเข้าถึงธรรม เข้าถึงไตรสรณคมน์ สร้างบารมีมานาน จิตจะเบา จิตจะควบคุมธาตุ แม้แต่พระเครื่องบางองค์ที่เป็นโลหะยังมีพระธาตุมาเกาะ"

 

(ปักหมุด 22) มาจากหน้า26 #508(Tips & Tricks)


เหตุจากอาจารย์นพโพสต์เรื่องสัญญาใจ
"เช่น นาย ก หมอดูเห็นว่าเป็นดวงโจร(ในใจ)
พลังงานหนุนอาจจะส่งให้หมอบอกนาย ก ว่า
ไม่ต้องทำอะไรหรอก ชาตินี้ยังไงก็เป็นโจร
นาย ก ก็จะสร้างสัญญาเรื่องโจรฝั่งหัวตัวเอง
คือพลังงานฝ่ายไม่ค่อยดีคอยแอบแทรกได้อยู่"
(อจ.นพ)

9@จึงหาเรื่องขยายความให้ยาวขึ้น
เรื่องสร้างสัญญาส่วนมากเป็นเรื่องไม่ดี
เป็นพลังงานด้านลบชนิดหนึ่ง
ที่แอบแฝงแทรกอยู่ในตัวคน
**เป็นเรื่องจริงที่สุดของที่สุด**

เป็นพลังจิตที่เกิดจากการเพาะบ่ม
หรือฝังจำเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
...มาเป็นเวลานาน
ส่วนใหญ่ตั้งแต่เด็กจนถึงลาโลง
พูดง่ายๆคือ*แทบไม่มีทางแก้หาย*

ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ*ความกลัว*
....กลัวโน่นกลัวนี่
เช่นคนที่กลัวพวกสัตว์ต่างๆ
เช่นกลัวจิ้งจก ,กลัวแมลงสาบ และอื่นๆ

"กลัว"คือต้องกลัวแบบสุดๆเลยนะ
แบบฝังชิพ ฝังลงในสมอง

เช่นเห็นจิ้งจกหรือแมงสาบอยู่ในห้องนอน
ไม่ว่ามันจะหลบอยู่ในซอกมุมไหน
หรือแค่ได้ยินเสียงมันร้อง
คนนั่นจะไม่ได้หลับนอนทั้งคืนเลย
หรือถือชามจานอยู่...ทิ้งกระจายเลย

นี่คือผู้นั่นได้สะสม*พลังจิต*ชนิดพิเศษนี้
...วงการแพทย์เขาเรียกว่าโรคจิตชนิดหนึ่ง

...แต่หารู้ไม่ว่านี่คือวิชา*พลังจิต*
...ที่ได้มาฟรีๆโดยที่เจ้าตัวไม่รู้

พลังจิตนี่ยิ่งใหญ่
เช่นคนที่กลัวจิ้งจก
"พอแค่นึกคิดขึ้นมา(ยังไม่ทันเห็น)"
...จิ้งจกจะโผล่มาให้เห็นทันที
นี่คือ"นามธรรม"ที่เกิดขึ้น
อาจถือว่าไม่แปลก
เพราะ"ไปใส่ใจกับมัน"
สายตามักต้องกวาดไปทั่ว
ย่อมเห็นจิ้งจกก่อนคนที่ไม่กลัว

แต่ "รูปธรรม" นี่สิ
เป็นเครื่องชี้วัดที่ชัดเจนว่า
...นี่คือเรื่องของอำนาจจิตหรือพลังจิต
ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆคือ
ทำไมจิ้งจกมักบังเอิญตกใส่คนที่กลัว
...ตามตัว หรือตกเกาะเสื้อผ้า
คนเดินเป็นกลุ่ม5-6คน
จิ้กจกยังเลือกที่จะตกใส่คนๆนั่น

...ต่อไปเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ
ใครที่บ่มเพาะว่าจะเป็นโรคนี่โรคนั่น
โอกาสเป็นโรคนั่น...สูงกว่าคนอื่น
**เป็นเท่าตัว**

...ต่อไปเรื่องกลัวสิ่งปกปรก
กลัวกลิ่น ,กลัวฝุ่น ,กลัวควัน(เช่นบุหรี่)
ในด้าน "นามธรรม" ถือว่าไม่แปลก...
เพราะจิตมีแง่ลบกับมัน

แต่ในด้าน "รูปธรรม" นั่นสิแปลก
*ยิ่งกลัวยิ่งเจอ*
เช่นคนที่กลัวคนสูบบุหรี่ หรือควันไฟ
(ต้องกลัวแบบฝังหัวสุดๆนะ)
เวลาเช่าบ้าน หรือร้ายกว่าคือซื้อบ้าน
จะเจอเพื่อนบ้านสิงห์อมควัน
.....ล้อมรอบอยู่ใกล้บ้าน

...นี่คือ "พลังจิต"
ไม่ต่างอะไรกับท่านอาจารย์นพว่าไว้
เป็นพลังงานไม่ดีที่แอบแทรกอยู่ในจิต

เป็นพลังงานด้านลบที่"น่ากลัว"
บั่นทอนและคร่าชีวิตมนุษย์ได้


ผมคิดว่า...
*สร้างพลังงานด้านบวกได้...ทำได้ก็ดี*
(ผมว่า...น่าจะทำได้นะ)
เพราะมีลบ ก็มีบวกได้

ยกตัวอย่างเรื่องหวยๆกันน่าจะมันส์กว่า
....ถูกคอถูกใจคนชอบหวยๆดีนักแล
คือใช้พลังจิตพิเศษนี้มาพิชิตหวย

วิธีการเรียนรู้ก็คงไม่ต่างกับ
"คนกลัวจิ้งจก" หรือ"กลัวเป็นโรคโน่นนี่"

**ยิ่งกลัวยิ่งเจอ**
**ยิ่งกลัวยิ่งเจอ**
**ยิ่งกลัวยิ่งเจอ**

"คนที่ชอบเล่นหวย แต่แทบไม่ถูกหวย*
...น่าจะลองดูสักหน่อย
คิดไว้ในใจเสมอว่า...
***กลัวถูกหวย***
***กลัวถูกหวย***
ฝังความกลัวจะถูกหวยๆเข้าไปในจิต

คนนั่นอาจกลายเป็น...
**คนที่ชอบถูกหวย**

 

พระธาตุเสด็จบนพระสมเด็จลพ.โสธร

 

สาธุครับท่าน9

 

(ปักหมุด 23) tips& Tricks หน้า 27 # 525


รบกวนถามท่านอาจารย์นพครับ
เปรต อสุรกาย สัมภเวสี
--แล้วยังมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นไหม

--กลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างใด
--ทำไมต้องแยกประเภท
(เมื่อเป็นกายที่ดับสูญตายแล้ว)
--แล้วสัตว์เดรัจฉาน
ตายแล้วจะไปเป็นเปรต,อสุรกาย,สัมภเวสี...ได้ไหม
--แล้วนรกภูมิมีสัตว์เดรัจฉานรวมอยู่ด้วยไหม
หรือมีเพียงมนุษย์ที่ทำกรรมชั่วอย่างเดียว

เปรต อสุรกาย สัมภเวสี พวกไหนแย่ที่สุด
(หมายถึงมนุษย์ตกที่ภพภูมิไหนแย่ที่สุด)

--แล้วพญานาคทั้งหลาย ตกนรกภูมิด้วยหรือไม่
9@Phonlee, 22 กรกฎาคม 2018

โพสต์ตอบโดย อาจารย์นพ
ตอบ ก็มีในรายละเอียดปลีกย่อย
ซึ่งน่าจะมีในตำรา ส่วนตัวก็ไม่ได้จะสนใจไปจำด้วย ๕๕๕
เพราะจะดูที่ กิริยา บารมีของท่านเหล่านี้เป็นหลัก
อ่านไป เรียกถูกก็แค่นั้นหละ ถ้าไม่เคยเห็น เคยเจอ ๕๕๕

...แต่หลักๆก็คือ
แตกต่างกันที่กิริยา บารมี
เช่น บางกลุ่มมีวิมาน มีฤิทธิ์ อยู่บนฟ้า มีนางกำนัล
แต่ไม่สามารถยื่นส่วนใดส่วนหนึ่งออกนอก
วิมานได้ เพราะจะโดนจักร จากท่านองค์สีเขียวๆ
ลอยมาตัดส่วนที่ยื่นออกจากวิมานทันที เป็นต้น

บางกลุ่มก็ตัวใสๆ สูงประปาณตึก ๗ ถึง ๘ ชั้น
มีบริวาร ดูแลที่อยู่อาศัยบริเวณนั้นๆ ส่วนมากจะเป็นป่าก็มี

คือไม่ใช่มีแต่ประเภท ที่ร้อนเสียงแหลมๆเล็กๆ ที่มาขอส่วนบุญ
เพียงอย่างเดียว..

--กลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างใด
ตอบ เปรต หลักๆคือ เวลาจะรับบุญ จะมีกระแสวิบาก
มาขวางทำให้ใจไม่เป็นกลาง กระแสที่ขวางอาจจะเป็นกระแสร้อน ที่จะทำให้รู้สึก เวลามีคนมาอุทิศส่วนกุศลให้
ดังนั้น ต้องใช้การทำบุญหลายครั้งหน่อย
เปรตถ้าดูดีๆตาเค้าจะเหมือนมีแสงออกหน่อย
หลักสังเกตุง่ายๆคือ มือจะยาวเลยหัวเข่า..
ผอมๆเห็นแต่กระดูกแบบที่เห็นตามฝาผนังทั่วไปนั่นหละ...

อสูรกาย ทั่วไปเป็นภูมิที่มีฤิทธิ์
และเวลาทำร้ายใครมักจะไปเป็นกลุ่ม
สามารถปรากฏเป็นครึ่งสัตว์ครึ่งมนุษย์ หรือเป็นคล้ายสัตว์เต็มตัวก็ได้ ถ้ายังผูกใจเจ็บแฝงความโกรธอยู่เรื่อยไป...
กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ลูกนัยตาสีแดง....
บางพวก อยู่มาก่อนจะมีพระพุทธฯก็มี
มีฤิทธิ์มาก พระธุดงค์ที่ว่า แน่ๆมีวิชาเสร็จมาหลายราย
ดีว่า กลุ่มเหล่านี้ เด่วนี้ค่อนข้างน้อย เพราะว่า พระป่าในยุค
หนึ่งเวลาที่ท่านธุดงค์ ได้ใช้ ม.44 ปรับทัศนคติภูมิเหล่านี้ไปเรียบร้อย

และก็มีประเภท กึ่งเทพกึ่งอสูรกาย มีฤทธิ์ ลูกนัยตาสีเหลือง
กลุ่มมี มีบารมี มีฤิทธิ์ สังเกตุง่ายๆคือ จะไม่ค่อยสบตากับใคร
มีหน้าที่ สำคัญๆ เช่นดูแลทางเข้าสถานที่สำคัญๆต่างๆเป็นต้น

--ทำไมต้องแยกประเภท
(เมื่อเป็นกายที่ดับสูญตายแล้ว)
ตอบ ไม่ได้แยกประเภทอะไรหรอก มันเป็นไปตามวิบาก
คำว่า วิบากก็คือกะแสจรที่จะจรเข้ามา ในเวลาที่ร่างกาย
แตกดับ ขึ้นอยู่กับว่า กระแสนั้นออกด้านไหน ถ้าออกทางโลภะ
ก็จะไปเป็นเปรต ออกทางขี้โกรธไปเป็นอสูรกาย ประมาณนี้
คือ กระแสตัวนี้ มันไปสร้างรวมกับตัววิญญานการรับรู้ของดวงจิต
ให้เกิดเป็นอย่างโน้นนี่นั้นขึ้นมา เช่น ถ้าดีเป็นเทวดา ฯลฯ

ส่วนสัมภเวสี ตามตำราไม่ทราบกล่าวไว้ว่าอย่างไร
บ้างอาจจะบอกว่า เร่ร่อน ความจริงทุกภพภูมิ ก็ถือว่าเร่ร่อน
ทั้งนั้น เพราะยังเร่ร่อนอยู่ใน วัฏจักรนี้
เพียงแต่ ที่ใช้คำว่า สัมพะเภสี เพียงเพราะว่า
กำลังบุญนั้น ยังเป็นที่ต้องการและมีความสำคัญ
ที่จะหนุนให้ภูมิเหล่านี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้
พูดง่ายๆว่า เป็นภูมิที่ยังต้องการกำลังบุญอยู่

--แล้วสัตว์เดรัจฉาน
ตายแล้วจะไปเป็นเปรต,อสุรกาย,สัมภเวสี...ได้ไหม
ตอบ ทั่วไป ปกติแล้ว ขึ้นอยู่กับวาระของดวงจิตที่อยู่
ในกายของสัตว์เหล่านั้น มามีต้นเหตุมาจากทางด้านไหน
เช่น เป็นมด อาจจะเป็นวิบากสุดท้าย แล้วไปเป็นคน
บ้างก็ไปเป็นพระโพธิสัตว์ก็มี...แต่ทั่วไปก็จะวนไปเป็น
สัตว์เดรัจฉานจนจบวิบาก แล้วก็ไปเป็นภูมิที่ดีกว่า
จากสัตว์ลงนรกไม่ค่อยเห็น เพราะไม่ใช่ กรณีเปรตและอสูรกาย

--แล้วนรกภูมิมีสัตว์เดรัจฉานรวมอยู่ด้วยไหม
หรือมีเพียงมนุษย์ที่ทำกรรมชั่วอย่างเดียว
ตอบ มีที่เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งสัตว์ ก็ภูมิเหล่านี้หละ
ที่มักจะแอบหนีออกมาจากนรก และก็มีกรณี
ที่ครึ่งล่างอยู่ในนรก ครึ่งบนอยู่บนโลก
ก็ภูมินี้ที่มาเกาะกายใคร เราจำเป็นต้องใช้น้ำ
ในการเป็นตัวเชื่อมให้เค้าได้รับบุญนั่นหละ
เพราะพวกนี้ต้องรอมีคนที่พอจะทำบุญได้ผ่านมา....

เปรต อสุรกาย สัมภเวสี...พวกไหนแย่ที่สุด
(หมายถึงมนุษย์ตกที่ภพภูมิไหนแย่ที่สุด)
ตอบ เปรต กับ อสูรกาย เพราะต่อไปจะต้องลงข้างล่าง
ส่วนสัมพะเวสี ถ้าเจอท่านที่มากบารมี
บางทีถึงชั้นพรหมไปเลยก็มีเยอะแยะ..
ส่วนระดับพรหมถ้าเจอผู้โปรดก็เข้านิพพานไปเลย
แต่โอกาศที่จะเจอคนที่เข้าใจหรือผู้โปรดนั้นมีน้อย

--แล้วตกนรกภูมิ...แย่กว่า 3 กลุ่มนี้ไหม
ตอบ..จะถามว่า มีภูมิที่ตกนรก แย่กว่า เปรต อสูรกายไหม
ตอบว่า มีก็คือ ขุมพิเศษ เกี่ยวกับพวกหรือกลุ่มที่ทำร้าย
ทำให้สงฆ์แตกแยก หรือ กลุ่มที่ทำให้ ๔ ข้อที่พระพุทธท่าน
กล่าวว่าเป็นกรรมหนัก นั่นหละ....
ยกตัวอย่าง ท่านเทวทัต ที่ตอนนี้ ดวงวิญญานท่านจะ
ลอยอยู่ในอากาศ และมีเข็มนับล้านเล่ม วิ่งทะลุล่างกายท่าน
ในทุกๆวัน แต่เชื่อกันว่า พอพ้นแล้ว ท่านจะเป็นพระปัจจเจก
พุทธเจ้าองค์หนึ่ง เพราะบารมีเก่าท่านก็สร้างมาดี
และตอนนี้ท่านก็ปลงและสำนึกแล้ว เป็นต้น..

--แล้วพญานาคทั้งหลาย ตกนรกภูมิด้วยหรือไม่
ตอบ เป็นไปได้ยากมาก เพราะส่วนมากท่านเหล่านี้
จะติดในเรื่อง ตบะ คือ ชอบนั่งสมาธิมาก นั่งจนเกิดเป็น
ลูกแก้วบารมี บางกลุ่มก็ชอบช่วยคน บางกลุ่มก็ชอบ
ช่วยพุทธศาสนา และเคารพพระพุทธเจ้าองค์นี้มาก
ถึงขนาด มีท่านสีขาว และ สีดำ เฝ้าพระสรีระบางอย่าง
ของ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันไว้ ถ้าใครที่เคยผ่านไปเมือง
เค้าแค่ฝ่านประตูเข้าไปก็จะมองเห็นได้ชัดเจน
เหมือนพระสรีระบางอย่าง ที่อยู่ยอดพระจุฬามณี
ที่มี เทวดา หลายท่านชุดเขียว ลอยในท่า งอเข่า เฝ้าอยู่นั่นหละ

ยังมีอีกกลุ่มหนึ่ง คือ พวกภูติเอกลักษณ์คือ
จะแต่งตัวไม่เรียบร้อย คล้ายๆใส่ชุดที่ไม่ผ่านการรีดมาก่อน
ที่สำคัญขาจะติดพื้น...พวกนี้แปลงกายได้ สามารถเปลี่ยน
เป็นอะไรก็ได้ ที่หน้ากลัว สามารถเข้าถึงตัวเราได้
แต่จะไม่ถูกตัวเรา ไม่เหมือนภูมิอสูรกายที่ถ้าเจตนาไม่ดี
จะมาทำร้ายและถูกเนื้อต้องตัว....
แต่พวกภูตดีอย่างคือแค่มาทดสอบกับนักปฎิบัติ
ที่เค้าเห็นว่าสามารถทำอะไรพิเศษได้
พอทดสอบเสร็จแล้วก็จบไป
มักจะเจอเฉพาะมนพวกที่ฝึกกรรมฐานพิเศษ
ดังนั้นไม่ต้องกลัว ถ้าเราง่องแง๋งทั่วไป
พวกนี้จะไม่มาให้เสียเวลา

 

*พระธาตุเสด็จองค์พระไว้รอรอบใหม่*(10ชุดสุดท้าย)

เช้าวันนี้มีเรื่องเหลือเชื่อเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3เดือนที่ผ่านมา
"เหรียญดวงโพธิญาณ" ลต.ม้า วัดถ้ำเมืองนะ"
พิมพ์เล็ก เนื้อชินเงิน ปี 2552
เช่ามาปีที่แล้วจากแม่ชีที่เคยอยู่วัดนี้มานาน(แต่สึกแล้ว)


ก่อนเช่าท่านส่งรูปให้ดูก่อน


"รังแตนยกฝูงบินว่อนรอบศรีษะแต่ไม่โดนต่อย"
เกิดขึ้น 3 ครั้งในรอบ10กว่าวัน
แต่ครั้งที่ 3 โดนต่อยสะดุ้งเลย..เพราะเหตุอันใด ???

(ครั้งแรกตามภาพรูปนี้)


ครั้งที่1ก้มลงใต้พุ่มไม้เพื่อเปิดก๊อกน้ำ
โดยไม่รู้ว่าใต้พุ่มไม้นี้มีรังแตน
พอก้าวออกมา ว่าจะฉีดน้ำรดต้นไม้
ขณะที่ก้าวเท้าถอยหลังเหลือบเห็นฝูงแตน 10-20ตัว
บินว่อนรอบๆศรีษะ
ทำไงดีเรา.....วิ่ง100ม.สิครับ
มีตามมาหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่โดนต่อย

(ตามภาพ)ครั้งที่ 2 ผ่านไปอาทิตย์



ว่างๆว่าจะตัดแต่งพุ่มไม้รกๆบริเวณด้านข้างกำแพงรั้ว
เริ่มต้นก้มลงเอากรรไกรตัดตรงกลางต้น
หารู้ไม่ว่ามีรังแตนฝูงใหญ่จ่ออยู่ใกล้หัวไม่เกินครึ่งเมตร
พอต้นไม้ล้มไปโดนรังแตน
ฝูงแตนแตกรัง 30-40ตัวบินว่อนเข้ามาประชิดตัว


ทำไงดีเรา.....วิ่งสิครับพร้อมกรรไกร
มีตามมาหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่โดนต่อย
พอตั้งหลักได้ งงว่ะ รอดมาได้ไง
"เฮ้ย...ฝันไปหรือเปล่า...อย่าล้อเล่นนะ
พอเอามือตบที่กลางหน้าอก
"เหรียญดวงโพธิญาณ" แขวนอยู่เพียงองค์เดียว
เช่นเดียวกับครัั้งแรก

เพียงแค่นี้น่าจะพอสรุปได้แล้วว่า...
มาจากพุทธานุภาพของเหรียญดวงฯ

แต่...แต่...พอผ่านไปได้ 10 กว่าวัน
เช้าวันหนึ่งขณะที่ยืนรดต้นไม้ตรงบริเวณรังแตนที่ว่า
ยืนห่าง 2-3 เมตรฉีดน้ำตามโคนต้น โดนยอดบ้าง
ขณะที่ฉีดเพลินๆ สะดุ้งฮึก
เจ็บลึกๆตรงท่อนแขน อะไรมาต่อยว่ะ
เลยรีบทิ้งสายยาง เดินหนีออกห่าง
พอเห็นว่าปลอดภัย เอามือลูบที่กลางอก
"อ้าววันนี้ไม่ได้แขวนเหรียญดวงโพธิญาณ"

ผ่านไป 10 นาทีมีอาการบวมแดงเล็กน้อย
แต่ความคันแบบยิ่งเกา-ยิ่งมันส์ กว่าจะหาย2-3วัน
นี่แค่โดนเพียงตัวเดียว
ถ้าโดนต่อยเกือบ10ตัวตรงหัวและใบหน้า
...เจ็บปวดแค่ไหน...ยากที่จะบรรยาย

ส่วนตัวจึงมั่นใจเกินร้อยว่า...
ที่ไม่โดนฝูงแตนล้อมต่อยถึง 2 ครั้ง
มาจากพุทธานุภาพของเหรียญดวงญาณโพธิญาณ
ทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ที่มีประสบการณ์(ตามที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว)

 

นั่นสิครับคุณนพหายไปเลย

 

เหรียญโคตรดีเลยท่าน สาธุๆ

 

อ่านแล้วซึ้งใจจริงๆที่มี FC ของอจ.นพตามหา
ไม่ใช่แค่คนเดียวนะครับ
นับได้มากมายรวมทั้งที่ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิก
ซึ่งมีจำนวนมากถึง70-80%ที่เป็นบุคคลทั่วไป
ส่วนตัว9ค่อนข้างมั่นใจว่าต่างก็คิดถึงอจ.นพ
และต้องการให้อาจารย์เข้ามาถ่ายทอดเรื่องลี้ลับ
และไขเรื่องพิศวงต่างๆและนานาปัญหาที่FCถามมา

อย่างน้องเอก(aegmanmu)ก็เช่นกัน

(ปกติถ้ามีคำถามจากFC ท่านจะเข้ามาตอบ)
วันนี้น่าจะเป็นนิมิตหมายดี
ที่จะเชิญอจ.นพเปิดตัวไขข้อสงสัยของคุณรูปติดบัตร
*ซึ่งเป็นข้อสงสัยที่น่าสนใจยิ่ง*
(ข้อสงสัย)คือ
ทุกคนเคยเป็นผี-เทวดาแล้วจึงมาเกิดเป็นคน การด้อยค่า"ผี-เทวดา"เท่ากับเรา"มีมานะ+ลืมรากเหง้า" หรือเปล่า ?
คนเราบูชาทั้งผู้ที่มีชีวิต และผู้ที่เสียชีวิตแล้ว การบูชาผู้ที่เสียชีวิตแล้วเท่ากับบูชาผี-เทวดาหรือเปล่า ?

(บุรุษไร้เงาก็คือท่านอจ.นพนั่นเองครับ)

(หมายเหตุ)
ที่ถามถึงอจ.นพไว้รออีกสักช่วงเวลาหนึ่งนะครับผม

 

ตามที่คุณรูปติดบัตรโพสต์ไว้ข้างบนดังนี้
ที่ผมถามว่า "บุรุษไร้เงา" คือคุณนพหรือ ใช่จริงๆมั๊ย ผมเองไม่แน่ใจเพราะ คุณนพเคยตั้งกระทู้ขอขมาฯเมื่อ 29 มี.ค.2019 หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนชื่อ และใหม่ๆ

ที่ชวนให้ผมในฐานะเจ้าของกระทู้สงสัยคือ
ทำไมคุณรูปฯไม่บอกว่า"บุรุษไร้เงา"(คุณนพ)ขอขมาเรื่องอะไร?
เขียนลอยๆไว้เช่นนี้ ทำให้สมาชิกหรือบุคคลทั่วไปเข้ามาอ่านที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน จะเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีหรือร้ายแรงคุณนพถึงกับต้องตั้งกระทู้มาขอขมา
ทั้งๆที่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่นั่นเอง

(เรื่องราวเท่าที่9พอจำได้ประมาณดังนี้นะครับ)
*มีเทวดาหลายท่านลอยในท่างอเข่า ยังมีอีกกลุ่มคือพวกภูติลักษณะแต่งตัวคล้ายใส่ชุดที่ยังไม่รีด ที่สำคัญขาจะติดพื้น*

ตามข้อเท็จจริงบุรุษไร้เงา(คุณนพ)เขียนผิด
ที่ถูกต้องคือ ขาจะไม่ติดพื้น

ส่วนตัว9เห็นว่าคุณนพไม่จำเป็นต้องออกมาตั้งกระทู้ขอขมาเลย
นี่แสดงว่าคุณนพ(บุรุษไร้เงา)มีคุณธรรมสูง
ยังดีที่ผมเคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
แม้เรื่องราวผ่านไปหลายปีแต่ผมยังพอจำได้บ้าง
เพราะความมีสปิริตของคุณนพนั่นแหละ

ถ้าผมนิ่งเฉยไม่ออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น
...ย่อมไม่ถูกต้องใช่ไหมครับ?
ที่สำคัญคือคุณรูปฯลงเรื่องราวเก่าตั้งแต่ปี2019
ผ่านมา5ปีแล้วโพสต์กล่าวพาดพิงคุณนพ(อจ.นพ)
ทั้งที่คุณนพไม่สามารถเข้ามาชี้แจงได้
ไม่ว่าจะเพราะจำรหัส passwordไม่ได้
หรือด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม

ณ วันนี้การกลับกลายเป็นว่าคุณรูปฯ
ต้องออกมาขอขมาบุรุษไร้เงา(คุณนพ)หรือไม่?
ก็สุดแท้แต่คุณรูปฯจะพิจารณาเองนะครับ


วันนี้ผมคิดว่าบุรุษไร้เงาหรือจะใช้ชื่อใหม่อันใดก็ตาม
น่าจะถึงเวลาที่ต้องเข้ามารอบใหม่จะเดือนละครั้ง2-3ครั้ง
เท่าที่อาจารย์นพจะสะดวกและเห็นสมควร
น่าจะเป็นประโยชน์ต่อมวลสมาชิกรวมทั้งบุคคลทั่วไป

สำหรับการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง
พวกเราๆก็ไม่จำเป็นต้องนำมาคิดปรุงแต่งนานา
"เป็นเรื่องธรรมดาๆในเวทีเวปบอร์ด"
ขอให้มองว่าเป็นเรื่องดอกไม้งามหลากสีสันก็แล้วกันครับ

และที่สำคัญคือคุณรูปฯเลือกเอากระทู้ผมมาเป็นเวที
ผมคิดว่าไม่ถูกต้องนะครับ
เพราะกระทู้นี้ ทุก7-10วันจะมีมวลสมาชิก
ส่วนใหญ่เป็นบุคคลทั่วไปเข้ามาอ่าน 2-3พันคน
(เป็นสถิติที่ผมบันทึกไว้ตั้งแต่20/8/66)
การกระจายข่าวกว้างในแง่ลบ
ย่อมไม่เหมาะสม...จริงไหมครับ

ขอสรุปไว้เพียงแค่นี้
(9@ ของด...ตอบโต้ไปมานะครับ)
ขอบคุณมากครับคุณรูปฯ

 

คุณ9

ไม่ขอเรียกตอบโต้นะ เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาหาเรื่องวุ่นวายอะไรกับคุณ

ที่ผมเข้ามาก็มาดีอยู่นะ ข้อความต่างๆก็ไม่เห็นมีอะไรที่เป็นการะกระทบกระทั่งเลย ถามหาคุณนพเท่านั้นเอง และเพื่อบอกคุณว่า ที่ตั้งข้อสงสัยนั้นไม่ใช่คำถาม ฉะนั้นคุณอย่าคิดมากไปเลย

ถ้าไม่เข้ามาแล้วที่คุณอ้างอิงข้อความ ลักษณะที่ผมอาจล่วงเกินคุณนพล่ะ จะทำไง เพราะมันไม่ใช่จะเป็นการล่วงเกินอะไรเลย ผมหมายความว่าคุณนพตั้งกระทู้ขอขมาแล้วอาจจากไปหรือเปล่า และที่มาเขียนนั้นเป็นตัวจริงหรือเปล่า ความหมายทำนองนี้

ผมจะลบข้อความต่างๆของผมออกนะ คุณลบที่อ้างอิง และพาดพิงออกก่อน แล้วผมจึงจะมาลบโพสต์นี้ขั้นสุดท้าย จะได้เหมือนว่าผมไม่เคยเข้ามาในกระทู้นี้.