พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7888.jpeg IMG_7889.jpeg

    สิงห์rาแกะ หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก

    บูชา 1,800 บาท

    พุทธคุณสิงห์งาแกะ เด่นด้านมหาอำนาจ ปกป้องคุ้มครอง เมตตา โชคลาภ สภาพสวยเดิมๆ เอกลักษณ์ชัดเจน ดูง่าย
    ตามความเชื่อในส่วนของการบูชาหรือพกพารูปสัตว์ ต่างๆที่สร้างขึ้นเป็นเครื่องรางนั้น เป็นที่นิยมกันมานานหลายยุคหลายสมัยครูบาอาจารย์ท่านที่มีความเก่งกาจสามารถทั้งหลายท่านมักจะได้บรรจงสร้าง "รูปสัตว์"ทั้งหลายขึ้นมาแล้วปลุกเสกให้เป็นเช่นกับสัตว์นั้นๆได้ติดตามไปช่วยเหลือไปปกป้องคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของให้ตลอดไปสิงห์เป็นหนึ่งในบรรดารูปสัตว์ ที่นักนิยมเครื่องรางของขลังมักจะไขว่คว้าหามาติดตัวกันไว้ รูปสิงห์สามารถแกะขึ้นมาได้จากวัสดุต่างๆแต่ที่นิยมกันมากก็มักจะแกะจากงาช้าง เพราะนั่นคือความเป็นมหาอำนาจที่จักเกิดขึ้นจากพลังแห่งสัตว์ใหญ่ทั้งสอง
    นั่นเอง ในอดีตมีสิงห์งาแกะที่ได้รับความนิยมกันมากก็คือ สิงห์งาแกะของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ นครสวรรค์ ของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ของหลวงพ่อทิม วัดพระขาว อยุธยา
    สิงห์เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่า เป็นสัญญาลักษณ์
    แห่งอำนาจ ความลึกลับ การต่อสู้ ความเป็นผู้นำ น่าเกรงขามเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงของผู้ที่ได้พบเห็นในทุกเมื่อ ฉะนั้นการที่ใครๆได้พกพา หรือนำเอารูปเหมือนของพญาสิงห์ติดตัวไปด้วยนั้น ก็เท่ากับการได้นำเอาพลังและบารมีที่มีอยู่ประจำตัวสิงห์ ติดตามไปด้วยนั่นเอง ประการหนึ่ง และถ้ายิ่งได้รับการปลุกเสก ประจุด้วยพระคาถาอาคมขลังจากพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวทย์ จะยิ่งทรงคุณค่ามหาศาลทวีคูณสุดๆ
    การสร้างสิงห์ที่ถูกต้องตามโบราณจารย์และสร้างได้เข้มขลังนั้นมีอยู่ไม่กี่องค์ครับ ที่เด่นดังที่สุดก็หลวงพ่อเดิม และถัดมาก็มีอีกหลายองค์ครับ หลวงพ่อหอมวัดชากหมาก ท่านก็ถือเป็นเลิศด้านสิงห์ไม่เป็นรองใครในยุคนั้นนะครับ หลวงพ่อหอมท่านเสกสิงห์จนกระโดดโลดเต้นเมื่อท่านยังอยู่ในสมัยนั้นใครไปขอบูชาสิงห์จากท่านหากท่านเมตตาท่านจะเอาสิงห์สองตัวมาหันหน้าเข้าหากัน ตั้งไว้ห่างกันสักศอก แล้วท่านจึงเสกจนสิงห์กระโดดเข้าหากันเป็นใช้ได้ท่านทำให้ดูเพื่อให้ผู้ใช้ได้เกิดความเชื่อมั่น หลวงพ่อหอมท่านได้ร่ำเรียนวิชาการสร้างและเสกสิงห์มาจากไหนนั้นท่านไม่เคยได้บอกใคร แต่ประสบการณ์สิงห์งาแกะของท่านนั้นหายห่วงครับ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร สิงห์นั้นหากจะว่าไปแล้วเขาก็จะมีลักษณะเฉพาะของเขาสิงห์นั้นเป็นสัตว์ในตำนานและเป้นที่สุดแห่งมหาอำนาจในตำราโบราณของไทยเรา ลักษณะของสิงห์นั้น จะประกอบไปด้วย
    1.ต้องอ้าปากเห็นฟันถือเป็นบรรลือสีหนาท เป็นตวาดฟ้าป่าหิมพาต์เป็นสกดและเป็นมหาอำนาจแผ่ก้องกังวานไกล
    2.ลิ้นต้องยาวกวัดแกว่งเอาทรัพย์สมบัติเอาโชคลาภเงินทองเข้ามาสู่ ฉะนั้นการแกะต้องให้เห็นลิ้นที่ปากและปากก้ต้องอ้าเพื่อรับโชครับทรัพย์
    3.ท้องของสิงห์ต้องมีลักษณะใหญ่หรือมีลักษณะที่กลมเพื่อให้มีการเก็บรักษาทรัพได้มากมาย และที่ลำตัวนั้นให้มีขวัญเป็นวงกลมให้หมายถึง วัฏฏะที่แปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด ในชาวจีนถือเช่นนี้เหมือนกันชาวจีนให้หมายว่าเป็นโชคลาภที่เข้ามาไม่มีสิ้นสุด ถือเป็น infinity จริงๆแล้วการที่วงกลมอยู่คู่กันนั้นทั่วโลกถือเป็นมงคลเป็นความไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อนำมาเป็นสัญลักษณ์ที่ท้องของสิงห์ก็ให้หมายว่าเป็นการเก็บทรัพได้ไม่ม่ประมาณ
    4.หางที่ยาวมีไว้เพื่อช่วยในการกวาดโชคลาภเงินทองความมั่งคลั่งและหางที่ยาวยังให้หมายถึงการขจัดอุปสรรค์ทั้งปวงเป็นการตวัดออเพื่อขับไล่อุปสรรค์ทั้งปวงและเมื่อกวาดเข้าให้เป็นการกวาดโชคกวาดลาภเข้ามา
    5.สิงห์ต้องไม่มีรูทวารเพื่อการเก็บที่มิดชิดไม่มีรั่วไหลคนจีนถือเป็นเรื่องของเงินทองไม่รั่วไหล
    6.การยืนของสิงห์ต้องตะหง่าน และให้มีลักษณะที่สง่างมาหมายเป็นมหาอำนาจและการอยู่เหนือสัตว์ทั้งมวลในสามโลก สิงห์นั้นเป็นเครื่องหมายแห่งมหาอำนากมาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุทธยาเป็นราชธานี ตำราการสร้างและเสกนั้นก็มีมานาน แม้แต่ที่สุดแห่งเจ้าทัพ คือ กรมพระราชวังบวร สุรสีหนาท มหาอุปราชวังหน้าองค์แรกแห่งแผ่นดินรัตนโกสินท์ท่านยังใช้ตราราชสีห์เป็นตราสัญลักษณ์แทนพระองค์ท่าน
    โบราณจารย์ท่านสร้างและเสกไว้ให้ลูกหลานเพื่อเป็นเครื่องรางที่ทรงคุณค่าอย่างมหาศาล ให้เป็นโชคลาภ เป็นป้องกัน เป็นมหาอำนาจศัตรูคลั่นคล้าม เป็นความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เป็น ที่สุดแห่งมหาตบะเดชะ หากเรามองนึกย้อนไปดูการสร้างและการกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์แล้ว ถือว่าภูมิปัยญาของครูบาอาจารย์ท่านนั้นไม่ธรรมดาจริงๆครับ เราๆท่านๆลูกหลานๆ ก็อย่ามัวแต่ตั้งเป็นราคาค่างวดกันซะจนแพงลิบลิ่วปั่นกันไปใหญ่โตนะครับ ถูกต้องแล้วครับของดีก็ย่อมมีราครแต่ หากเราหมายถึงปรัชญาแห่งโบราณจารย์ท่านได้กำหนดฝากไว้ให้ลูกหลานแล้วมันน่าจะลึกซึ้งตรึงใจและให้หวลคิดถึง
    โบราณจารย์ท่านสร้างและเสกไว้ให้ลูกหลานเพื่อเป็นเครื่องรางที่ทรงคุณค่าอย่างมหาศาล ให้เป็นโชคลาภ เป็นป้องกัน เป็นมหาอำนาจศัตรูคลั่นคล้าม เป็นความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เป็น ที่สุดแห่งมหาตบะเดชะ หากเรามองนึกย้อนไปดูการสร้างและการกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์แล้ว ถือว่าภูมิปัยญาของครูบาอาจารย์ท่านนั้นไม่ธรรมดาจริงๆครับ เราๆท่านๆลูกหลานๆ ก็อย่ามัวแต่ตั้งเป็นราคาค่างวดกันซะจนแพงลิบลิ่วปั่นกันไปใหญ่โตนะครับ ถูกต้องแล้วครับของดีก็ย่อมมีราครแต่ หากเราหมายถึงปรัชญาแห่งโบราณจารย์ท่านได้กำหนดฝากไว้ให้ลูกหลานแล้วมันน่าจะลึกซึ้งตรึงใจและให้หวลคิดถึงความเมตตาที่ท่านมีต่อลูกหลานในยุคปัจจุบันมากกว่านะครับ
    ประวัติหลวงพ่อหอม วัดซากหมาก



    หลวงพ่อหอม (พระครูภาวนานุโยค) แห่งวัดชากหมาก หมู่ 2 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ห่างจากตัวอำเภอบ้านฉางเข้าไปทางสี่แยกระยะทาง ประมาณ 9 กม. วัดชากหมาก (ป่าเรไร ) เป็นวัดเล็ก ๆ เงียบสงบ ในอดีตเคยเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในทางคุณวิเศษอันลือลั่น หลวงพ่อหอมซึ่งเป็น เจ้าอาวาสในสมัยที่มีชีวิต มักจะถูกอาราธนาไปร่วมในการประกอบพิธีพุทธาภิเษกที่สำคัญ ทั้งราชพิธีและพิธีสามัญ สม่ำเสมอทั่วประเทศไทย ผู้นิยม วัตถุมงคลน้อยคนที่จะไม่ได้ยินกิตติศัพท์ความเป็นผู้ทรงพุทธเวทย์ของท่าน จากวัตถุมงคลที่ได้ปลุกเศกไม่ว่าจะเป็นสิงห์งาช้าง ขี้ผึ้ง นางกวัก งาช้าง ไชมงคล พระกริ่งรูปเหมือน แหนบรูป เหมือน เหรียญรูปเหมือน แหวนทอง
    เมื่อ 2500 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี มีการจัดให้มีงานฉลอง 25 ปี พุทธศตวรรษขึ้นนับเป็นพิธีใหญ่ที่สุดในพุทธอาณาจักร โดยมีการจัดทำพระเครื่อง พระบูชา และวัตถุมงคล ไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมากหลวงพ่อหอมเป็น 1 ในจำนวน 108 รูปของพระเวทยาจารย์ผู้ทรง คุณวิเศษที่รัฐบาลอาราธนาไปร่วมพุทธาภิเษกในมลฑลพิธี ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ แม้เมื่อประกอบ พิธีเสร็จก็ยังมีผู้คนหลั่งไหลไปขอพรไม่ขาดสาย จนศิษย์ต้อง ออกมาขอร้องให้หลวงพ่อ พักผ่อนบ้างแต่หลวงพ่อกลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเมตตาว่า "ช่างเขาเถอะลูก" และเป็นคำพูดที่ถูกใช้ติดปาก เรื่อยมาจนหลวงพ่อหมดสิ้นอายุขัย
    การก่อสร้างวัดชากหมากเมื่อประมาณพ.ศ.2471 ชากหมากซึ่งมีสภาพเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย เสือ ช้าง หมูป่า หลวงพ่อได้พบเรือนไม้ หลังคุ้มไม้ไผ่ 2 หลัง สอบถามชาวบ้าน ได้ความว่า เป็น สำนักสงฆ์ ซึ่งพระอาจารย์ล้ำเคยอยู่มาก่อน แต่ปล่อยร้างมา 10 ปี หลวงพ่อหอมจึงตกลงใจ ฟื้นฟูสำนักสงฆ์นี้ให้เป็นวัดขึ้นมาและได้ออกป่าไปจำพรรษาที่ถ้ำเขานั่ง หย่อง แล้วก็ได้ปรากฎสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น
    สิ่งมหัศจรรย์ที่ปรากฎมีช้าง เสือ และสัตว์ร้ายมาวนเวียนอยู่ใกล้หลวงพ่อตลอดเวลา แต่สัตว์ร้ายก็ไม่เข้ามาทำร้ายหลวงพ่อนานวันจนเกิดความคุ้นเคย สัตว์เหล่านั้นก็เชื่องและสามารถรับรู้คำพูด หลวงพ่อ ได้ เมื่อหลวงพ่อนำชาวบ้านมาช่วยกันตัดต้นไม้ในป่านั้นมาทำวัดได้แล้วก็เกิด ปัญหา ไม่สามารถ ชักลากไม้ลงมาได้ระยะทางก็ไกลกันถึง 7 กม. ชาวบ้านจึงลงจากเขามาปรึกษาหาทาง นำไม้ที่ตัดไว้ลงมาแต่หลวงพ่อกลับขึ้นไปบ้นเขาเพื่อสำรวจหา ช่องทางอีกครั้ง หลังจากนั้นชาวบ้านก็ต้องประหลาดใจเพราะพบท่อนไม้ที่ตัดไว้นั้น ลงมากองอยู่ที่เชิงเขาอย่างครบถ้วน และยังเห็น รอยเท้าช้างป่า ขนาดใหญ่อยู่รอบบริเวณนั้นมากมายคาดว่าน่ำจะเป็นช้างทีคุ้นเคยกับหลวงพ่อมา ช่วยกันชักลากลงมา เมื่อชาวบ้านรู้เข้าจึงทำให้เกิดความเลื่อมใส ศรัทธาหลวงพ่อ นับเป็นต้นมา หลังสร้างวัดเสร็จไม่นานก็มีชาวบ้านใกล้ ๆ มาแจ้งหลวงพ่อว่ามีช้างป่าลงมากินพืชผักที่ปลูกไว้จนเสียหาย ตนจะยิงช้างก็เกรงใจหลวงพ่อ จึงขอให้หลวงพ่อ ช่วยแก้ไขหลวงพ่อ ก็รับปากว่า จะช่วยพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปยืนบริกรรมสักครู่ที่หน้าวัด แล้วร้อยตะโกนขึ้นว่า "ลูกหลาน พญาฉัททันต์อย่าไปเหยียบย่ำของเขาเลยเจ้าของเขาจะยิงเอา ของเรามีอยู่แล้วในแปลงขวามือไปกินได้" ซึ่งภายหลังก็ปรากฎว่าไม่มีช้าง เข้าไปรบกวนชาวบ้านอีกเลย แต่ปรากฎว่าพืชผักที่อยู่บริเวณวัดกลับไม่มีเหลืออยู่เลย
    เมื่อประมาณ พ.ศ.2481 หลวงพ่อบวชได้ 12 พรรษาแล้ว มีนายพรานช้างมาขอพักที่วัดและบอกหลวงพ่อว่า จะมาล่าช้างในป่าแถบนี้แต่เวลาใกล้ค่ำ จึงขอพักเอาแรงที่วัดก่อนหลวงพ่อ ก็อนุญาต และ ไปยืนบริกรรมที่หน้าวัดสักครู่ เมื่อนายพรานออกป่าเพื่อล่าช้างก็ปรากฎว่าไม่พบช้างแเยแม้แต่ตัวเดียว
    ต่อมาหลวงพ่อกับภิกษุอีก 4 รูป ได้ธุดงค์ไปเพื่อหากระเพรา 7 อ้อม เมื่อเดินไปถึง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณี ก็พบศาลายกพื้นสูงมากหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ในป่าทึบมีข้อความเขียนไว้ว่า "ใครผ่านทางนี้ เมื่อมืดแล้วให้ขึ้นข้างบนเพราะมีสัตว์ชุกชุมมาก"แต่หลวงพ่อกลับบอกพระที่ไป ด้วยกันว่าเรา ปักกลดอยู่ข้างล่างนี้แหละ และทั้งหมดก็ปักกลดลงข้างล่างนั้นเอง เมื่อปักกลดแล้ว หลวงพ่อก็เสกทรายซัด ล้อมกลดไว้โดยรอบพร้อมสั่งพระที่ไปด้วยกัน ทั้งหมดว่าอย่าได้ออกนอกกลดเป็นอันขาดไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ชวนกันนั้งสมาธิเจริญภาวนาแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ ในคืนนั้นเองก็มีสัตว์ร้าย หลายชนิดมาวนเวียนรอบ ๆ กลดแต่ไม่มีตัวใดเข้ามาทำร้ายหลวงพ่อและพระภิกษุอีก 4 รูปเลย จนรุ่งสางหลวงพ่อหอมจึงเดินทางต่อเมื่อเดินทางต่อไป หลวงพ่อเล่าว่าหนทางเป็นป่าเขา โดยตลอด เดินทาง 3 วัน ก็ไม่พบบ้านคนเลยต้องอดข้าวกันทั้ง 3 วัน จนกระทั้งวันที่ 4 จึงได้สวนทางกับชายคนหนึ่ง หาบขนบจีนผ่านมาแล้วเอาขนมจีนนั้นถวายทุกองค์ได้ฉันจนอิ่ม หลวงพ่อ ได้ถามชายคนนั้นว่า "ต่อจากที่นี่ไปอีกไกลมากไหมจึงจะถึงบ้านคน" ชายผู้นั้นตอบว่า "พอพลบค่ำก็จะเห็นแสงไฟบ้านคน" แล้วเดินหายไปในป่านั้น หลวงพ่อจึงชวนพระที่ไปด้วยออกเดินทางต่อ ซึ่งตลอดทาง ที่เดินผ่าน นั้นไม่พบบ้านคนจริงตามที่ผู้นั้นบอกไว้ จึงชวนพระ ที่ไปด้วยกันทั้งหมดปัก กลดพักที่บริเวณใกล้ ๆ กับหมู่บ้านนั้น แล้วก็เดินทางกลับ วัดชากหมากโดยไม่พบกระเพรา 7 อ้อม มาตามต้องการ ส่วนเรื่องที่พบคนนำขนมจีนมาถวายกลางป่าทั้ง ๆ ที่บริเวณใกล้ ๆไม่ม่บ้านคนเลยก็คง เป็นปริศนาให้ต้องแปลกใจอยู่ตลอด
    วิทยาเวทย์ที่เป็นคุณวิเศษของหลวงพ่อหอมวัดชากหมากอีกประการหนึ่งที่ยังไม่ เคยได้เรียนรู้มาก่อน คือ "การต่อชะตาดิน" ซึ่งคุณวิเศษนี้ก็เป็นที่เลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอย่างมากที เดียว คือหากที่ดินของผู้ใดที่ เคยอยู่อาศัย หรือใช้ประกอบกิจการใดๆ มาก่อนเกิดอาการเสื่อมทรามลง หลวงพ่อก็จะไปทำพิธี "ฝังหิน" ให้แล้วกิจการบนที่ดินแห่งนั้น ก็จะกลับคืนเป็นคุณแก่เจ้าของดังเดิม อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ซึ่งวิชาต่อชะตาดินนี้ได้เคยมีบรรดาศิษย์อยากจะขอเรียนจากหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อก็บอกว่าผู้ที่จะเรียนได้จะต้องเป็นภิกษุเท่านั้น และเมื่อเรียนแล้วก็จะต้อง ตั้งนโมปนิธาณ ด้วยว่า "จะบวชจนตายในผ้ากาสาวพัตร์" คือจะสึกออกไปครองเพศฆราวาสไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าผิดไปจากนี้แล้วจะต้องถูก "ฟ้าผ่า" ทันทีจึงไม่มีใครกล้าพอที่จะเรียนต่อจากท่าน เพราะการบวช เป็นพระภิกษุในพระพุทธ ศาสนานี้ไม่ใช่เป็นของง่ายนักที่ประกาศตนว่าจะไม่สึกไว้ล่วงหน้า
    นอกจากหลวงพ่อหอมวัดชากหมากจะเป็นผู้มีวิทยาคุณในทางเครื่องลางของขลังแล้ว ท่านยังเป็นเชี่ยวชาญในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิดอีกด้วย ทั้งนี้เพราะท่านได้เคย ศึกษาเล่าเรียน มาจาก ทางบิดาของท่านซึ่งเป็นแพทย์ ประจำตำบลในสมัยเมื่อท่านยังเป็นฆราวาสอยู่นั้นตามธรรดาทุกๆวัน จะมีคนป่วยด้วยโรคต่างๆ มาหาท่านที่วัดเพื่อขอให้ท่านขจัดปัดเป่า โรคร้ายเหล่านั้น ให้หาย วันหนึ่งๆ ถึง 40-50 คน หลวงพ่อจึงเป็นภิกษุผู้ได้รับความเคารพนับถือ อย่างสูง ทั้งที่เป็นคนไทย จีน แขก ซิกส์ และฝรั่ง ดังจะเห็นได้จากเมื่อหลวงพ่อมรณภาพได้มีผู้หลั่งไหลกันไป เคารพศพของท่านอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะวันถวายน้ำสรงศพของท่าน เจ้าหน้าที่ได้จัดให้เรียงแถวกันเข้าไปต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง จึงหมดคนที่ไปถวายน้ำสรงท่าน
    หลวงพ่อหอม จนทโชโต หรือพระครูภาวนานุโยค อดีตเจ้าอาวาสวัดชากหมาก หมู่ที่ 2 ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เดิมชื่อ หอม ทองสัมฤทธิ์ เกิดวันจันทร์ เดือน 10 ปีขาล พุทธศักราช 2433 เป็นบุตร ของนายสัมฤทธิ์ กับนางพุ่ม ทองสัมฤทธิ์ เป็นชาวบ้านสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวักรอยง มีพี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน 3 คน หลวงพ่อเป็นคนสุดท้าย พี่ๆ สองคนเป็นหญิงคนโตชื่อนางวอน คนรองชื่อนางเชื่อม
    เมื่อเยาว์วัยอาศัยอยู่กับบิดามารดาที่บ้านเกิดของท่านเอง ส่วนในด้านการศึกษาเบื้องต้นนั้น เป็นที่น่าเสียดายที่ ไม่มีผู้ใดทราบว่าท่านได้ศึกษากับใครที่ไหน เพราะในสมัยนั้น โรงเรียนในชนบท ห่างไกลจากความเจริญ เช่นบ้านเกิดของ หลวงพ่อคงจะไม่มีตั้งขึ้นแน่นอนโรงเรียนที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น โรงเรียนวัดสมบูรณาราม โรงเรียนวัดชากหมาก โรงเรียนวัดสุวรรณรังสรรค์ ล้วนแต่พึ่ง ตั้งขึ้นมาไม่ถึง 50 ปีทั้งนัน ถ้าในสมัยหลวงพ่อหอม 8-15 ปี มีโรงเรียนอยู่ที่บ้านเกิด ของท่านแล้วโรงเรียนนั้นก็จะต้องมีอายุมาถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 75 ปี จึงสันนิษฐานว่าหลวงพ่อ น่าจะเริ่ม ศึกษาเมื่อตอน ได้อุปสมบทแล้วมากกว่า
    หลวงพ่อหอมวัดชากหมาก ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเมื่อปีศักราช 2469 อายุ 36 ปี พัทธสีมาวัดทับมา ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยมีหลวงพ่อขาววัดทับมา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจิ๊ด วัดเขาตาแขกเป็นพระกรรมวาจารย์และหลวงพ่อชื่น (ปัจจุบันเป็นพระครูพิพิธวรญาณ และยังมีชีวิตอยู่วัดมาบข่า เป็นอนุสาวนาจารย์)
    เมื่อหลวงพ่อหอมอุปสมบทใหม่ ๆ ยังเป็นพระภิกษุผู้น้อยด้วยคุณวุฒิไม่อาจที่จะปกครองตนเองและผู้อื่นได้จึง ยังจำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยเบื้องต้นในฐานะอันเตวาสิกของหลวงพ่อชื่นอยู่ ที่วัดมาบข่า แต่เพียงชั่วระยะ 2 พรรษา เท่านั้น หลวงพ่อหอมก็เป็นผู้แตกฉานในพระธรรมวินัยอย่างอัศจรรย์ เนื่องจากเป็นผู้มีความเพียรในการศึกษาเป็นเลิศ ยากที่จะหา พระภิกษุรูปใดในรุ่นเดียวกันเสมอ และหลวงพ่อชื่นเองก็ยังเคยปรารภให้พระภิกษุรูปอื่นๆ ฟังว่า "อีกหน่อยคุณหอมเขาจะหอมทวนลมนะ" และต่อมาหลวงพ่อหอมก็ได้กลายเป็นหลวงพ่อผู้มีชื่อเสียงหอมทวนลมจริงดังคำ ของหลวงพ่อชื่นนั้น เมื่อหลวงพ่อหอมได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อชื่น ซึ่งเป็นพระอาจารย์เบื้องต้นให้ไปอยู่ทีวัดชากหมากใกล้ ๆ บ้านเกิดของท่านได้พยายามศึกษาพุทธเวทย์เพิ่มเดิมอย่างจริงจัง จนเป็นที่ประจักษ์แก่ บรรดาศิษยานุศิษย์ถ้วนหน้า และนอกจากจะได้ราษฎรช่วยเหลือกันพึ่งทางใจแก่ผู้เลื่อมใสแล้ว ยังได้สร้างอาคารเรียน"หอมราษฎร์วิทยา" ถึง สองหลังซึ่งเป็นเงิน ที่หลวงพ่อได้รับ จากราษฎรช่วยเหลือกัน จำนวน 1,980,000 บาท รัฐบาลช่วยสมทบ 200,000 บาท เพื่อสร้างอาคารเรียนให้เด็กๆ ได้เล่าเรียนสร้างอุโบสถศาลาการเปรียญ หอระฆังคอนกรีต หอไตรกลางสระน้ำ กุฏิตึก 2 ชั้น ซุ้มประตูคอนกรีตหน้าวัด กำแพงรอบวัด หอสวดมนต์ และสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีกมากจนเกือบวาระสุดท้าย ยังได้สร้างกุฏิครึ่งตึกครึ่งไม้เพิ่มอีก 1 หลัง แต่ไม่ทันเสร็จก็ถึงแก่มรณภาพ
    ด้วยคุณงามความดีที่ปรากฎนี้เอง หลวงพ่อจึงได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี พระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูภาวนานุโยคในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2507 เป็นเกียรติประวัต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2025 at 10:09
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิด จองแล้วครับ

    IMG_7891.jpeg IMG_7892.jpeg IMG_7894.jpeg

    เหรียญหลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ ปี 2518 รุ่นเมตตาต่อวิทยาลัยสงฆ์ภาคฯ วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ จ.ขอนแก่น

    รุ่นนี้กล่าวกันว่า เป็นรุ่นที่พุทธคุณไม่แพ้รุ่น 1 (รุ่นประสบการณ์)

    หลวงพ่อผางรุ่นปี2518เมตตาต่อวิทยาลัยลัยสงฆ์ภาคฯ ขนาดเหรียญเท่ากับเหรียญปี2512
    มีทหารที่จะไปปฎิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากจะมีวัตถุมงคลไว้เพื่อป้องกันตัวและขวัญกำลังใจ จึงได้ทดสอบวัตถุมงคลหลายคณาจารย์ด้วยกัน ทั้งพระหลักพัน หลักหมื่นและยอดนิยมโดยได้จุดธูปเทียนขอขมาก่อนทดลองยิง ปรากฎว่าหลายคณาจารย์ต่างแตกกระจุย

    มีหลวงพ่อผางปี 2518 คณะทดลองใช้ปืน.38 ยิง3นัด ไม่ออกแต่รอยกระสุนมีรอยสับแล้วทั้ง3ลูก พอยิงไปที่อื่นออกทั้ง3นัด นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วครับ ลูกศิษย์จึงตามเก็บกันเงียบๆ

    บูชา 800 บาท เหรียญสวยมากอยู่ในเลี่ยมเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2025 at 07:38
  3. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +987
    จองพระอ.ฝัั้นครับท่าน/ล.พ.ผาง
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ขอบคุณครับ
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิดครับ

    IMG_7911.jpeg IMG_7912.jpeg IMG_7913.jpeg IMG_7914.jpeg
    IMG_7915.jpeg
    IMG_7917.jpeg IMG_7918.jpeg IMG_7919.jpeg IMG_7925.png

    ชานหมากสร้างโบสถ์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลีจ.นครสวรรค์

    คำนี้เดิมเลี่ยมมาเก่าๆ ผมแกะออกเพื่อความสบายใจแก่ผู้จะบูชา เจ้าของเดิมบอกว่ารับจากมือท่านแล้วเลี่ยมบูชามานาน จึงขอขมาบอกกล่าวหลวงปู่ท่านแกะออกดู เพราะปัจจุบันของแท้หายาก เลี่ยมมาก็ไม่เห็นว่าใช่หรือไม่ ลูกนี้จึงบูชาได้สบายใจครับ

    อีกหนึ่งตำนานต้องจารึก ชานหมากสร้างโบสถ์ ที่ขลังยิ่งนักพระแก่ๆ บ้านนอก เคี้ยวหมากสร้างโบสถ์ได้เป็นหลัง ขลังขนาด ไม่มีตกถึงพื้น ลองยิงแล้วลองยิงอีก จนเป็นตำนานดังที่กล่าวขานจวบจนวันนี้ เมื่อก่อนแพงมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2025 at 06:39
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7920.jpeg IMG_7921.jpeg IMG_7922.jpeg IMG_7923.jpeg IMG_7924.jpeg

    เสือเขาแกะ

    เป็นศิลป์วัดกลาง สายวัดคลองด่านเป็นเขาแกะ ขนาดใหญ่ เก่า มีอายุ เผื่อท่านใดชอบครับ

    บูชา 2,000 บาท
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7930.jpeg IMG_7931.jpeg IMG_7933.jpeg IMG_7932.jpeg

    รูปเหมือนเข่ากว้างหลังเต็ม หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค รุ่น 2 เนื้อทองแดง ปี 2535

    รูปเหมือนเข่ากว้างหลังเต็มหลวงพ่อพรหม เข่ากว้างหลังเต็ม วัดช่องแค รุ่น ๒ ปี 2535 (พระเข่ากว้างหลังเต็มหลวงพ่อพรหม รุ่นแรกสร้าง ปี 2516 และหลังจากนั้นจึงมีการสร้างพระรูปเหมือนเข่ากว้างหลังเต็มหลวงพ่อพรหม ปี 2535 ขึ้นมาอีกครั้ง) มีทั้งตอกโค๊ดเลข ๒ ที่ข้างเข่าขวาขององค์พระ และไม่ตอกโค๊ดเลข ๒ ที่ตอกโค๊ดมีน้อย กล่องที่ใส่พระถ้าองค์ที่ตอกโค้ดเลข ๒ เอากล่องพระรุ่นมหามงคลมาใส่ไว้ ถ้าไม่ตอกโค้ดเอากล่องพระรุ่นเมตตาจิตมาใส่ไว้ แต่เป็นพระรุ่นเดียวกัน

    พระรุ่นนี้พระครูนิวิฐปัญญากา เจ้าอาวาสวัดช่องแค (ต่อจากหลวงพ่อแบ๊ง เจ้าอาวาสวัดช่องแค ที่มรณภาพไปแล้ว) เป็นผู้สร้าง โดยได้นำเนื้อระฆังที่เป็นเศษขอบตัดจากพระเข่ากว้างรุ่นแรก ปี 2516 ที่ยังเหลืออยู่มาเป็นส่วนผสมด้วย และเศษเนื้อระฆังที่หลวงพ่อพรหมได้อธิษฐานจิตปลุกเสกไว้แล้ว เกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกพระรุ่นนี้ได้แก่.-

    - หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    - หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    - หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    - หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    - หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    - หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
    - หลวงพ่อบัวเผื่อน วัดหลังเขา
    ........... เป็นต้น ...........
    จำนวนจัดสร้างไม่มากนัก ออกให้ทำบุญบูชาปี2535 องค์ละ 3,000 บาท ปัจจุบันหายาก รูปหล่อรุ่นแรกปี2516 ราคาต้องมีสองแสนบาทแล้ว รุ่นนี้จึงกลายเป็นพระที่นักสะสมเช่าหากันเพราะเจตนาการสร้างดีและมีมวลสารเก่าของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคด้วย

    บูชา 800 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2025 at 11:41
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7951.jpeg IMG_7952.jpeg IMG_7944.jpeg IMG_7945.jpeg IMG_7946.jpeg IMG_7683.png IMG_7684.png

    เนื้อ2 k เลขเรียง ๒๓๔

    อภิมหาเศรษฐีร่ำรวยเงินทอง สุดเฮง ปี 59 พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่

    พระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข เจ้าอาวาสวัดประดู่ ปลุกเสก 28 มิถุนายน 2559

    เหรียญเศรษฐีมหาเฮง ๆ"สุดเฮง!"
    จัดสร้างโดยชมรมกลุ่มศรัทธาท้าวหิรัญพนาสูร (ฮู) ในวันที่ 28 มิถุนายน 2559 และได้นำวัตถุมงคล รุ่นนี้ไปเข้าพิธี อธิษฐานจิตพุทธาภิเษก
    โดยพระมหาสุรศักดิ์ อติสกโข เจ้าอาวาสวัดประดู่พระอารามหลวง อำเภอ อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวนการจัดสร้างในครั้งนี้
    รวมทั้งหมด 2559เหรียญ โดยมี
    1. เหรียญเนื้อทองคำ จัดสร้าง 19 เหรียญ มีหมายเลขทุกเหรียญ
    2. เหรียญเนื้อเงินลงยาสีแดง สร้าง 99 เหรียญ มี หมายเลขทุกเหรียญ
    3. เหรียญเนื้อกะไหล่ทองลงยาแดง สร้าง 443 เหรียญ เนื้อกะไหล่ทองลงยาแดงนี้ ได้ถูกนำไปแจกกรรมการผู้มาในงาน พุทธาภิเษก และในชมรมกลุ่มศรัทธาท่านท้าวหิรัญ(ฮู) ส่วนหนึ่งด้วย
    4. เนื้อ 2K จำนวนการสร้าง 999 เหรียญมี Number
    5. เนื้อทองแดงผิวไฟ จำนวนการสร้าง 999 เหรียญ มี Number
    ด้านพุทธคุณ เหรียญ'สุดเฮง"นี่โดดเด่นด้านทางด้านการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงและค้าขายเรียกทรัพย์ เงินจะเข้ามือตลอดเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคง ดวงสุดดี ดวงสุดเฮง ดวงเปิดเฮงสุดๆ

    เนื้อ2k เลข ๒๓๔ 1ใน 999 เหรียญ
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7949.jpeg IMG_7950.jpeg IMG_7947.jpeg IMG_7948.jpeg

    พระผงหลวงพ่อเกษม ปี2536

    ถ้าเป็นเหรียญรุ่นนี้จากหลักร้อย ตอนนี้ราคาไป 1-2,000 แล้วครับ

    บูชา 700 บาท

    พระผงข้าวก้นบาตร รูปเหมือนอุ้มบาตร หลวงพ่อเกษม เขมโก สารพัดนึก

    ตะกุดเงิน+จีวร รุ่นวันเพ็ญเดือน 12 ปี2536 พบเจอน้อย สวยเดิมเลี่ยมพร้อมบูชา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2025 at 17:20
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_7968.jpeg IMG_7969.jpeg IMG_7967.jpeg IMG_7970.jpeg IMG_7971.jpeg IMG_7972.jpeg IMG_7955.png

    แหวนหลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข เนื้อทองคำ

    เบอร์ 9 ขนาดเล็กเหมาะสำหรับสุภาพสตรี หรือผู้ชายสวมนิ้วนาง/นิ้วก้อย หนัก 10.41 กรัม

    บูชา 50,000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2025 at 09:46
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_8008.jpeg IMG_8007.jpeg IMG_8009.jpeg IMG_8010.jpeg

    พระสีวลีหลวงพ่อกวย รุ่นแรงครู ปี2560

    กล่องเดิม

    บูชา 500 บาท
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_8013.jpeg IMG_8011.jpeg IMG_8012.jpeg

    เหรียญหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ปี2528

    เนื้ออัลปาก้า สร้างน้อย หายาก

    บูชา 900 บาท
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิดครับ

    IMG_8017.jpeg IMG_8015.jpeg IMG_8014.jpeg IMG_8016.jpeg

    เหรียญหลวงพ่อกวย ปี2565

    เหรียญย้อนยุค หลังยันต์ ที่นิยมสุด ปกติแทบทุกปีของการสร้างย้อนยุคหลังหนุมานจะนิยมสุด แต่ปี65 กลายเป็นรุ่นนิยมสุดเพราะว่าสร้างน้อยมาก ช่วงก่อนนั้นราคาไปถึง1,500-1,600 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2025 at 14:17
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_8018.jpeg IMG_8020.jpeg IMG_8021.jpeg IMG_8022.jpeg
    IMG_8023.png

    เหรียญหลวงปู่แผ้ว ลาภผลพูนทวี ปี2563

    บูชา 800 บาท เนื้อทองแดงสร้าง 8,000 องค์

    หลวงปู่แผ้ว ปวโร พระเถราจารย์ชื่อดังแห่งวัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
    ปัจจุบันท่านมีอายุ 102 ปี

    ได้รับการขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งเมืองกำแพงแสน องค์หลวงปู่เป็นพระเถระผู้ถือครองเพศบรรพชิตแบบเรียบง่าย สมถะ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านไม่มีตำแหน่งทางปกครองคณะสงฆ์ ด้วยท่านไม่มีความปรารถนาในลาภยศตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น

    ด้านวัตถุมงคลของท่านก็เป็นที่กล่าวขานร่ำลือกันว่า มีพุทธคุณเข้มขลังที่สุด มีประสบการณ์แก่ผู้ที่บูชามากมาย ถึงขนาดมีคำกล่าวกันว่า “วัตถุมงคลรุ่นใดหรือวัดใด หากไม่นิมนต์หลวงปู่แผ้วไปนั่งปรก จะได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่หลวงปู่แผ้วไปนั่งปรก” ล่าสุดวัตถุมงคลของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ปรารถนาในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมวัตถุมงคล คือ เหรียญพิทักษ์แดนใต้, เหรียญระฆังที่ระลึกอายุ 87 ปีหลวงปู่แผ้ว เป็นต้น

    ตลอดระยะเวลากว่าชั่วชีวิตในการครองเพศบรรพชิต นอกจากปฏิบัติในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ท่านยังศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า แผ้ว บุญวัฒน์ ชื่อเล่น แกละ เกิดเมื่อวันแรม 14 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ตรงกับวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2466 ณ หมู่บ้านหลักเมตร ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพาน และนางจุ้ย บุญวัฒน์ ครอบครัวของท่านประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก ฐานะพอเลี้ยงตัวได้สบายโดยไม่เดือดร้อน

    เมื่ออายุได้ 2 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จากนั้นท่านจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 3 จากโรงเรียนวัดหนองม่วง ต.เตาอิฐ อ.บางแพ จ.ราชบุรีในช่วงวัยเยาว์ ท่านเป็นเด็กค่อนข้างเงียบขรึม ใจเย็น ไม่เที่ยวเตร่ เกเร ชีวิตส่วนใหญ่จะผูกพันอยู่กับวัด ด้วยโยมพ่อโยมแม่เป็นคนใจบุญสุนทาน ทุกวันพระจะพาลูกไปทำบุญที่วัด สมาทานศีลฟังเทศน์ฟังธรรมและสนทนาธรรมมิได้ขาด

    เมื่อมีอายุประมาณ 8 ขวบ โยมพ่อได้พาบุตรชายไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหงส์ วัดหนองม่วง ต.เตาอิฐ อ.บางแพ จ.ราชบุรี เพื่อเรียนหนังสือ และศึกษาพระธรรมวินัยครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เกิดความศรัทธาประสงค์จะบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา เพื่อแทนคุณของโยมบิดา-มารดา ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหนองปลาไหล ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2486 โดยมี พระครูสุกิจธรรมสร (หลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร)วัดกำแพงแสน เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อปาน อารักโข วัดหนองปลาไหล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์สนั่น วัดหนองปลาไหล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ปวโร”

    หลังครองเพศบรรพชิต ท่านตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง หมั่นพิจารณาคำสอนของครูบาอาจารย์อย่างถ่องแท้ ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไปช่วงแรกบวช ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดหนองปลาไหล เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นได้จาริกไปจำพรรษาที่วัดหนองม่วง 8 พรรษา ท่านมีหน้าที่สอนนักธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรภายในวัดต่อมาในปี พ.ศ. 2497 ท่านได้ย้ายมาเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จำพรรษาอยู่ที่วัดปลักลายไม้ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในปี พ.ศ. 2497 หลวงปู่ได้ย้ายไปสอนพระปริยัติธรรม และจำพรรษาที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

    อย่างไรก็ตาม ทั้งสองวัดเมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง พระภิกษุสามเณรและชาวบ้านต่างต้องการให้หลวงปู่ดำรงตำแหน่งแทน แต่ท่านไม่ประสงค์ที่จะรับตำแหน่งทางปกครองคณะสงฆ์แต่อย่างใดพ.ศ. ๒๕๐๒ หลวงปู่เริ่มสนใจที่จะศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง ท่านจึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดกำแพงแสน ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมกับหลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร อย่างมุ่งมั่นจริงจังจนแตกฉาน

    เมื่อปี พ.ศ. 2524 หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ พระกัมมัฏฐานสายพระอาจารย์มั่น ได้เดินทางมาพักอยู่จำพรรษา ณ วัดกำแพงแสน ทำให้หลวงปู่แผ้ว ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับหลวงปู่ดุลย์ และได้รับความเมตตาถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติกัมมัฏฐานให้ด้วย

    ตลอดเวลา หลวงปู่แผ้ว ได้สร้างคุณูปการสืบสานจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างรอบด้าน อาทิ ปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่าง ๆ ทั้งในเขตอำเภอกำแพงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง ท่านจะอุดหนุนด้วยการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก เพื่อให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้สมทบทุนปัจจัยนำไปใช้เพื่อการสาธารณ ประโยชน์

    แม้วัยที่ล่วงเลยกว่า 87 ปี แต่หลวงปู่แผ้ว ยังคงรับกิจนิมนต์นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่เป็นประจำหลวงปู่แผ้ว เคยกล่าวปรารภไว้ว่า “ญาติโยมที่เขานิมนต์ให้เราไปร่วมพิธีนั่งปรก ก็เพราะเขาเชื่อว่าเราไปนั่งปรกแล้ววัตถุมงคลจะเข้มขลัง เราจะปฏิเสธไม่ได้”

    ส่วนวิทยาคมอันเข้มขลังที่หลวงปู่แผ้วใช้นั่งบริกรรมระหว่างนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล ล้วนแต่เป็นวิทยาคมของหลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจาก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกอีกทอดหนึ่ง ในช่วงที่ หลวงพ่อหว่าง ธัมมสโร ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงแสน ท่านมีความเชี่ยวชาญเรื่องยาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ

    วัตถุมงคลของท่านก็เข้มขลังเป็นที่นิยม ทั้งนี้ หลวงปู่แผ้วได้ศึกษาอยู่กับหลวงพ่อหว่างจนกระทั่งท่านได้มรณภาพ เมื่อได้รับกิจนิมนต์นั่งปรก จึงนำวิชาของหลวงพ่อหว่างใช้รวมกับวิชาวิปัสสนากรรมฐานที่ได้เรียนมาที่วัดมหาธาตุฯ สนามหลวง มาใช้บริกรรมคาถา เพื่อให้เกิดความเข้มขลัง

    สำหรับคาถาเสกวัตถุมงคลเข้มขลัง หลวงปู่แผ้ว บอกว่า มีบทเดียว แต่สร้อยของคาถามีหลายแบบ เช่น อาจจะบริกรรมว่า “พุทธังหลีก ธัมมังหลีก สังฆังหลีก” บ้างก็บริกรรมว่า “พุทธังแหวก ธัมมังแหวก สังฆังแหวก” หรืออาจจะบริกรรมว่า “พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด”

    ท่านกล่าวแนะนำว่า “ตำราคาถาของวัดและสำนักต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่เป็นของเดิมที่สืบทอดจากครูบาอาจารย์ในอดีต หลายคนท่องคาถาถูกต้องตามอักขระชัดเจน แต่เหนือสิ่งอื่นใดจิตต้องนิ่งเป็นสมาธิ คาถาจึงมีความเข้มขลัง ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ถ้าจิตนิ่งเป็นสมาธิ บริกรรมคาถาบทใดก็เข้มขลัง ที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องตั้งอยู่ในศีลมั่นอยู่ในธรรม
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_8027.jpeg IMG_8026.jpeg IMG_8024.jpeg IMG_8025.jpeg IMG_8028.png

    พญาครุฑ รุ่น "มีแล้วรวย" หลวงพ่อวราห์ วัดโพธิ์ทอง [เล็ก]


    เนื้อสามกษัตรย์ เมื่อก่อนหลายๆพันเกือบครึ่งหมื่นครับ

    บูชา 1,800 บาท ราคาเดียว



    ปลุกเสกโดย หลวงพ่อวราห์ เจ้าอาวาสวัดโพธิทอง

    "ราชาแห่งครุฑ" ผู้เป็นที่ยอมรับ กล่าวขานกว้างไกลถึงความศักดิ์สิทธิ์เรื่องพุทธคุณ โดดเด่นในเรื่องพุทธศิลป์


    เจิมเบิกเนตร ด้านหลังเป็นรูปถุงเงินถุงทอง ลงอักษร "ว" อักษรย่อชื่อของหลวงพ่อวราห์ต่อด้วยคำว่า "รวย" และคำว่า "ดี" ที่ปีกซ้ายขวา


    คาถาบูชาองค์พญาครุฑ


    นะโม ๓ จบ


    คะรุปิจะ กิติมันตัง มะอะอุ

    โอมพญาครุฑ รุจรุจแล้วรวบ

    นะได้เงิน นะได้ทอง นะได้ทรัพย์

    นะเมตตา นะล้างอาถรรพ์ นะเจริญ

    นะมั่นคง อธิฐามิ


    ผู้บูชาองค์พญาครุฑแล้วกตัญญูต่อ บิดา-มารดา ผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์ แทนบุญคุณต่อแผ่นดิน

    ทำแต่ความดี หมั่นให้ทาน รักษาศิล หมั่นทำบุญสร้างกุศล องค์พญาครุฑจะส่งผล

    ให้ประสบความสำเร็จ ดั่งที่หวังในทุกๆด้าน จะร่ำรวยเงินทอง เป็นที่รักและเมตตาแก่ผู้พบเจอ


    พุทธคุณ - เสริมอำนาจบารมี เมตตามหานิยม โชคลาภ ป้องกันภูติผีและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ปิด จองแล้วครับ

    IMG_8031.jpeg IMG_8032.jpeg IMG_8035.png IMG_8036.png IMG_8038.jpeg IMG_8037.jpeg IMG_8039.jpeg IMG_8040.jpeg IMG_8041.jpeg
    ผ้ายันต์ วัดแหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ ปี ๒๔๘๔
    สุดยอดแห่งพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองสมุทรปราการครับ โดยมีท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ เป็นประธานในพิธี วัตถุมงคลที่จัดสร้าง อาทิเช่น ผ้ายันต์ , พระกริ่ง , พระรูปเหมือนปั๊มประทานพร เป็นต้น
    มีคณาจารย์เกจิฯ ดังผู้แก่กล้าวิชา เข้าร่วมปลุกเสกมากมายหลายท่าน รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก อาธิเช่น
    - เจ้าคุณศรีสนธ์ วัดสุทัศน์ (เป็นประธานในพิธี)
    - หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
    - ท่านพ่อลี วัดอโศการาม
    - หลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรก
    - หลวงพ่ออยู่ วัดบางหัวเสือ
    - หลวงพ่อวงษ์ วัดปาริวาส
    - หลวงพ่อบุตร วัดใหญ่บางปลากด
    - อธิการเอี่ยม เจ้าอาวาสวัดแหลมฟ้าผ่า
    - หลวงพ่อนาม วัดใหม่
    - หลวงพ่อชม วัดชมนิมิตร ฯลฯ เป็นต้น

    ชิ้นนี้เดิมเลี่ยมอยู่ แกะออกมาเพื่อความมั่นใจ ผ้าเก่าจนผุ รับประกันแท้สากล

    บูชา 600 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2025 at 14:17
  17. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +987
    จองผ้ายันต์
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    ขอบคุณครับ
     
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_8073.jpeg IMG_8072.jpeg IMG_8070.jpeg IMG_8071.jpeg

    ตะกรุดมงคลโสฬส หลวงปู่ญาท่านสวน


    หายากสุดๆ เมื่อก่อนหลายหมื่น

    บูชา 7,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2025 at 20:47
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,769
    ค่าพลัง:
    +53,128
    IMG_8074.jpeg IMG_8076.jpeg IMG_8080.png IMG_8079.png

    เหรียญหันข้าง กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ วัดราชบพิธฯ ปี 2481 (ครั้งที่4)

    พระพิธีดีปีลึกบูชาได้พุทธคุณแบบสบายใจ หย่อนสวย แต่แท้ดูง่าย ห่วงเชื่อมเดิม สวยๆ หมื่นขึ้น รับประกัน

    บูชา 3,500 บาท

    เหรียญนี้ประกอบพิธีพุทธาภิเศก ณ วัดราชบพิตรฯเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ ที่รวมเอาสุดยอดพระเกจิยุคเก่าสมัยนั้นเข้าร่วมปลุกเศกมากมาย

    วัดราชบพิตร ปลุกเสกครั้งที่4 ปี2481 เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยรวมเกจิเก่าโบราณที่เคยมีในเมืองไทย สำหรับพระเกจิที่มาปลุกเสกหมู่
    พิธีนี้นับว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พิธีหนึ่งเลยทีเดียว เป็นพิธีปลุกเสกพิธีใหญ่โดยมีพระมหาอมตคณาจารย์หลายองค์เป็นผู้ปลุกเสก(ดูในรูปประกอบ)
    และยังมีสุดยอดพระคณาจารย์ 108 รูปจากทั่วประเทศ ร่วมลงเลขยันต์ในแผ่นทองแดง อาทิ สมเด็จพระสังฆราช (แพ), สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ), หลวงปู่นาค วัดอรุณ, หลวงพ่อเปลี่ยน, หลวงพ่อพุ่ม, หลวงพ่อพริ้ง, หลวงพ่อดิ่ง, หลวงพ่อจาด, หลวงปู่กลิ่น, หลวงพ่อเดิม, หลวงพ่อโสก, หลวงพ่อเหลือ, หลวงปู่เผือก, หลวงพ่ออี๋, หลวงพ่อรุ่ง, หลวงพ่อคง บางกระพ้อม, หลวงพ่อจง, หลวงพ่อพิธ, หลวงพ่อสุ่น ศาลากุน, หลวงพ่ออ่ำ หนองกระบอก, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง, หลวงพ่อแฉ่ง, หลวงพ่อขัน ฯลฯ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2025 at 21:12

แชร์หน้านี้

Loading...