เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ถามครับ
ถามว่า เรามีตัวตนแห่งความเป็นไปได้ หลายตัวตน หลายมิติ
หลายชาติภพ แล้วสติสัมปัญชัญญะ เรามีอยู่ทุกตัวตน ไหมครับ
หรือว่ามีสติสัมปชัญญะเดียว แล้ว ทำงานแบบ สลับ ไปทุก มิติอย่างรวดเร็ว


...........................................
หนังสือมีขายที่ 02-7461004-6 ชุดละ 2080 บาท ครับ

 

เดรดเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ ครั้งแรก เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนเป็นเล่มเล็กๆ อ่านแล้วชอบมาก อ่านไป 2 รอบ และพยายาม หาเล่มที่เหลือ แต่ก็หาไม่ได้ จนมาได้ อีก 9 เล่ม ครบ เมื่อต้นปีนี้เอง

หนังสือชุดนี้ ค่อนข้างแปลก เนื่องจากไม่ยึดถือหรืออ้างอิงอะไร จากแหล่งใดเลย แต่เมื่อยิ่งได้อ่าน กลับมีความรู้สึกเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูก(อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ) และทำให้กลับมามองชีวิตที่ผ่านมา ว่า เรายึดมั่นถือมั่นกับอะไรเกินไปหรือเปล่า สิ่งนี้ อ.อนาลัย เรียกว่า ความเชื่อ

และความเชื่อที่ผิดจะนำไปสู่ความทุกข์ คุณ mamboo ลองทบทวนแค่ตรงนี้ก่อนก็ได้ค่ะ เหมือนที่คุณเซลล์กล่าวว่า อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์กับตนเองก่อน ในหนังสือ มีบทฝึกฝนมากมาย ลองดึงมาลองทำดู แต่ต้องมีสัจจะกับตัวเองนะคะ...แล้วได้ผลอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังนะคะ....

ที่เรามารวมตัวกัน เพราะเราเป็นจิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมวัตถุประสงค์ กันไงค่ะ ไม่งั้นไม่มีทางมาเจอกันหรอกค่ะ และวัตถุประสงค์ นั้นก็คือ การมาพัฒนาและเรียนรู้จาก การแบ่งปัน และ การรับ เพื่อให้ชีวิตมีความสมดุลย์ขึ้นค่ะ;aa41

 

หวัดดีครับน้อง Mamboo
จริงๆแล้ว..ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าความรู้สำนักไหนจะถูกหรือผิด หรือดีมากน้อยกว่ากัน มันเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความเชื่อและสิ่งที่เราสนใจของแต่ล่ะคนครับ..ถ้ามองในแง่ดีก็จะได้ประโยชน์ ถ้าไปฟังเค้ามาไม่ได้ลงไปศึกษาก็จะไม่รู้จริง ผมเองก็เรียนรู้มาจากหลายแหล่งข้อมูลเหมือนกัน มีผู้ชวนให้ไปน่ะครับ จึงเลือกเก็บสิ่งดีๆที่สามารถทำให้จิตวิญญาณเติบโตและก้าวหน้ามากกว่า แล้วก็นำมาต่อยอดหรือ mix เข้าด้วยกัน ..ค่อยๆต่อจิกซอร์จนถึงบางอ้อล่ะครับ

พอมาพบหนังสือ "ธรรมชาติของชาติภพ" เล่มเล็กๆเมื่อ 2-3 ปีก่อน (มีเพื่อน'ถาปัดศิลปากรแนะนำให้อ่าน..) เค้าบอกว่าถ้าชอบศึกษาแนวนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ก็อดใจไม่ได้ อิอิ ไปหามาอ่านจนได้..พออ่านแล้วยิ่งต้องอ่านซ้ำเพราะพบคำตอบที่น่าสนใจมากมายชนิดเปลื่ยนความเชื่อบางอย่างได้จริง..จึงรักหนังสือเล่มนี้มากครับ และบอกกับตัวเองว่า เอ..คนเขียนเป็นใครนะ?..สื่อข้อมูลมาได้อย่างไร? เลยโทรไปถามที่สำนักพิมพิ์ขวัญข้าว..เค้าบอกว่าคนเขียนเป็นคนไทยอยู่ที่เมกา..เราก็คิดว่า ทำไงจะได้อ่านเล่มอื่นๆต่อ..เพราะมีเขียนว่าโปรดติดตามเล่มต่อไป >>> ก็รอ..ร้อ..รอ..ก็รอมา1-2 ปีนี่ล่ะ..ก็ไม่เห็นสักที..จนไปเดินเจอหนังสือชุดนี้ที่ร้าน Se-Ed เต็มไปหมด..ก็ตื่นเต้นมาก รู้เลยว่าจิตวิญญาณข้างในเค้าสั่นสะเทือนออกมาเลย..จึงซื้อมาอ่านซะ 2 เล่มก่อน...แล้วก็ตามเก็บมาเรื่อยๆครับ

มีอยู่วันนึงก็เลยลอง Search ค้นชื่อ โนวา อนาลัย ดู..ไปเจอเวปไซท์พี่นักเขียนฯ ที่เพิ่งทำเสร็จหมาดๆเข้าอย่างจัง..อ่านจนไปพบว่าพี่เค้าเป็นรุ่นพี่ถาปัด ศิลปากรนี่เอง..เลยลองส่ง E-Mail เข้าไปหาครับ..ตอนนั้นรู้สึกว่าจะเป็นคนแรกที่ส่ง Mail ให้นักเขียนฯ..เลยคุยกันมาเรื่อยๆ..แล้วชวนพี่นักเขียนมาพูดคุยกันที่เวปพลังจิตนี่ล่ะครับ ตอนที่พี่นักเขียนตอบรับก็ดีใจสุดๆเลยล่ะครับ

สรุปว่าที่ mamboo ถามมานี่ตอบไปรึยังน้อ.. อิอิ

 

ไปเจอข้อความนี้ที่เวปอื่นครับ..ดูเค้าประทับใจเนื้อหาในหนังสือเอามากๆเสียด้วย
อาจเป็นท่านหนึ่งที่กำลังตามอ่านแต่ไม่ได้สมัครเข้ามารีเปล่านะครับ

ผมได้อ่านหนังสือของอาจารย์โนวา อนาลัยไปแล้ว 7เล่ม อ่านซ้ำๆทุกเล่ม ประทับใจกับ
คำสอนมากตรงที่ท่านว่า ท่านไม่ได้สอนอะไรใหม่ให้กับเรา แต่มารื้อฟื้นความจำ ทำให้เรา
รู้ว่าจิตวิญญาณของเรามีพลังอำนาจตามธรรมชาติ ท่านว่าให้เราฝึกที่จะมีสติติดตามรู้
เห็นความเป้นไปได้ของจิตวิญญาณ ไม่ใช่ให้เราฝึกจิตวิญญาณให้เป็นไป เพราะมันเป็น
ไปอย่างเป็นธรรมชาติตลอดเวลา แต่เราขาดสติสัมปชัญญะที่จะติดตามรู้เห็น ข้อนี้น่า
คิดมากๆ เพราะผมเป็นคนฝึกปฏิบัติสมาธิมานานกว่า 30 ปี ผมหลงเชื่อว่าผู้ที่อยู่ในศิล
ในสมาธิคงจะพัฒนาได้ก้าวไกลกว่าคนอย่างผมที่ยังทำมาหาเลี้ยงชีพ และมีภาระทาง
โลกมากมาย อย่างมากผมก็คิดได้เพียงว่า การทำสมาธิช่วยให้ผมสงบ แต่ไม่เคยคิดว่า
จะก้าวหน้าไปได้อย่างผู้ทรงศีล การศึกษาข้อมูลของอาจารย์โนวา อนาลัย ทำให้ผม
เข้าใจการฝึกปฏิบัติของตนเองได้ลึกซึ้งกว่าเดิมเป็นอันมาก ผมเผชิญกับประสบการณ์ที่
ไม่เคยเผชิญมาก่อนในสมาธิ ในความฝัน และในยามตื่น เพียงเพราะผมได้เรียนรู้ถึง
ความเป็นไปได้ที่ท่านอาจารย์บอกว่า มันเป็นธรรมชาติ หากผมฝึกปฏิบัติต่อไปโดยไม่มี
โอกาสได้เรียนรู้จากท่านอาจารย์ ผมคงไม่ได้พัฒนาไปกว่าที่เป็นมาแล้วกว่า 30 ปี
ความเชื่อของผมที่ว่าผมไม่ใช่ผู้ทรงศีล ทำให้ผมไม่ก้าวหน้า หรือหากก้าวหน้าก็คงไม่รู้
ไม่เห็น ผมอยากให้ผู้ฝึกปฏิบัติสมาธิทั้งหลายได้มีโอกาสได้อ่านหนังงสือ ชุดนี้ มันจะเป็น
ประโยชน์กับท่านทั้งหลายอย่างมาก ผมประทับใจกับประสบการณ์จนไม่อาจจะบรรยาย
ได้ถูกต้อง แต่อยากจะเรียนกับทุกท่านที่ฝึกสมาธิมายาวนานอย่างผมว่า ท่านอาจารย์โน
วา อนาลัยเป็นของจริง สิ่งที่ท่านสอนเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง แม้คนอย่างผมที่ทำ
สมาธิมากว่า 30 ปี และคิดว่าไม่ก้าวหน้า ก็ต้องยอมรับอย่างหมดหัวใจว่าท่านพูดถูก ไม่
ลองไม่รู้ ลองแล้วรู้จับจิต เชื่อจับใจ
สุจินดา

http://managerroom.com/forums/forum_posts.asp?TID=2191&PN=15

 

ถ้ามองจากมุมมองของตัวเราจากจุดนี้ ก็จะพอเห็นความสัมพันธ์ในระบบเครือข่ายที่สลับซับซ้อนหลายตัวตน-หลายมิติครับ แต่ที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นธรรมชาติก็คือ..สภาวะความรู้ของจิตวิญญาณรวมที่ถ่ายเทให้กันและกันอยู่ตลอดเวลาครับ..สติสัมปัญชัญญะของทุกตัวตนก็จะแยกการทำงานในแต่ละตัวตนไปและแบ่งหน้าที่ย่อยๆลงไปเพื่อการใช้งานเฉพาะเรื่อง..แต่ก็ยังมีคุณสมบัติเหมือนต้นแบบทุกประการ โดยแต่ละตัวตนจะต่างกันตรงบุคลิกที่จิตวิญญาณสร้างสรรค์ขึ้น อันนี้ผมว่าไปตามความรู้ที่เข้าใจครับ ถ้าไงคุณ brotherpray รอให้พี่นักเขียนมาขยายความให้อีกจะละเอียดขึ้นแน่ครับ

 

ขอบคุณมากค่ะคุณ เซลล์ ;aa9 ...


Little Duck..

 

;aa49

สวัสดีครับคุณลูกเป็ดน้อย ระบบส่งมาเชื่อมกันแล้วนะครับ
มาทักทายแลกเปลื่ยนประสบการณ์กันได้นะครับ
เห็นอยู่นานแล้ว สงสัยว่าคุณเป็ดน้อยมารู้จักกลุ่มเขากะลาได้ยังไง ว่าจะถามพี่สุดใจอยู่น่ะครับ+
(||)

 

ยินดีต้อนรับ
คุณ ลูกเป็ดน้อยค่ะ

 

แหม!! พูดราวกับเราเป็นพวกที่ต้องจุดธูปเชิญแน่ะ...แฮะๆๆ ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง

ช่วงนี้ไม่ได้ฝึกโทรจิตอะไรเลย โทรศัพท์เอาไวกว่าค่ะ อิอิ

จะส่งคุณ dred กะเราไปเหรอ 50+50 ก็ 100 พอดี 555 เข้าไปเป็น maid ในบ้าน AF ของพอไหวค่ะ ถ้าให้ไปร้องโหยหวนอยู่ในนั้นคงไม่เอาอ่ะค่ะ เดี๋ยวเค้านึกว่ามาเรามาร้องขอส่วนบุญใครอยู่แถวนี้....คุณ mead เก๊าะติดต่อน้องนกสิ เอาไปร้องคู่กะคุณ dred ลองดูเผื่อได้คู่ดูโอ้ประดับวงการเพลงอีกคู่งัย พาดหัวตัวเบ้งๆ ว่า "เว็บพลังจิตส่งเข้าประกวดดดดดด!!!!!!!!!"


.......................................................

 

อายุเป็นเครื่องพรางหรือเป็นข้ออ้างคะคุณ dred ...อิอิอิ...

 

เอานะ...แหม!!!!
เรียกให้มันสวยหรูหน่อยซิค่ะ...ดูมีเหตุผล เข้ากะศัพท์แสงวิชาการห้องวิทยยยยย์...หุหุ

ว่าแต่เมื่อไหร่ คุณ fidgi จะมาเล่าประสบการณ์ ความฝันอีกค่ะ อยู่แต่หลังบ้าน คนอื่นเค้าอยากฟังนา...แต่ละเรื่อง ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย

 

ขอเป็นแจ๋วอยู่กับกะละมังซักผ้าหลังบ้านดีกว่าค่ะ .......

 

คุณฟิดจินี่ นาน ๆมาที ชำกลิ้งเลย ฮ่า ๆๆ

 

อยู่ในพื้นที่เดียวกันครับ
ผมมีไม่ครบทุกเล่มเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะหาซื้อได้ทีหลัง แต่ที่ไหนได้
กลายเป็นหนังสือหายากเสียแล้ว
แต่โชคดีที่หลานสาวมีครบทุกเล่ม พอได้หยิบยืม
แต่เขาหวงหนังสือชุดนี้มากนะ เดี๋ยวจะลองถามดูให้ครับ
ว่าเขาจะให้ใครยืมได้หรือเปล่า

 

นานๆมาที ขนมุขมาเทกระจาดตามเก็บไม่ทันเลยนะคุณ Fidgi
นักเรียนเก่าที่ซุ่มกันอยู่หลังห้อง...มารายงานตัวด้วยนะครับ
วันที่ 7-8 สิงหานี่ก็จะครบรอบ 1 ปีแล้วไม่งั้นจุดธูปเรียกแน่ อิอิ
ลืม password กันรึยัง? นักเรียนใหม่เชิญเข้าแถวไว้...ครับ
(||)

 

สวัสดีค่ะ คุณ mead พี่ ๆ และ เพื่อน ทุกคนค่ะ.. :VO
คงเป็นเพราะระบบวางการเชื่อมต่อไว้แล้ว นะค่ะ ..


ขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ .. ;aa7..


Little Duck ..

 

เข้ามาบ่อยๆนะครับ คุณ fidgi
เตรียมกะละมังไว้รับมุขแล้วครับ อิอิ
คุณเป็ดน้อยมีประสบการณ์อะไร มาเล่าให้เพื่อนๆฟังบ้างนะครับ ;aa21

 

;42 ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่านสู่ห้องวิทย์ค่ะ ;42

ก่อนจะตอบคำถาม พี่นักเขียนขอสนับสนุนคำตอบของพวกเราชาวห้องวิทย์ทุกท่านว่า เรามาชุมนุมกันที่นี่เพื่อศึกษาหาความรู้ร่วมกัน ไม่ใช่มารวมตัวกันด้วยความเชื่อที่พ้องกัน เราต่างก็พกพาความเชื่อหลากหลายมาสนทนากัน จากมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรากลายเป็นญาติมิตรทางจิตวิญญาณ ที่ดูเสมือนจะมีบางสิ่งบางอย่างที่คล้องจองกันคือ เราต่างก็มีเป้าหมายที่จะแสวงหาความรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ และธรรมชาติความเป็นจริง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราแต่ละคนปรารถนาที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง การรวมตัวของเราเป็นไปเพื่อการสนับสนุน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันให้สามารถขยายมุมมอง ขยายความรู้และประสบการณ์ และเปลี่ยนความเชื่อในแง่ลบที่เป็นพิษเป็นภัย หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ให้กลายเป็นความเชื่อในแง่บวก หรือความรู้ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่น

เป้าหมายดังกล่าวนี้ จึงไม่ใช่การขอให้เชื่อ หรือ การโน้มน้าวให้เชื่อ ในทางตรงกันข้าม เป็นการสนับสนุนให้ใช้สติสัมชปัญญะอย่างคมชัด เพื่อพิสูจน์ทุกสาระ ทุกประเด็นด้วยตนเอง

คำถามของคุณ brotherpray ตั้งอยู่บนมุมมองที่อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา
คำว่า สลับไปทุกมิติ แสดงให้เราเห็นถึงภาพของการมีหลายช่องว่าง หลายมิติ
คำว่า อย่างรวดเร็ว แสดงให้เราเห็นถึงภาพของการใช้เวลา
ดังนั้นหากจะตอบคำถามนี้สั้นๆเพียงว่า มี หรือ ไม่มี คงเป็นคำตอบที่เปล่าประโยชน์
เพราะกลายเป็นคำตอบที่อยู่ภายใต้เครื่องพรางของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลาไปด้วย

ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆว่า การที่เราจะเข้าใจธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณได้นั้น เราจะต้องทำความเข้าใจจากมุมมองอันเป็นภาวะที่จิตวิญญาณมีชีิวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป ตามธรรมชาติอันปราศจากเครื่องพราง คือปราศจากช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา มิฉะนัั้นแล้วเราจะไม่อาจเข้าใจในธรรมชาติที่แท้จริงได้เลย เพราะมันมักจะทำให้เราตั้งคำถามที่ผิด ซึ่งจะทำให้เราไม่อาจได้รับคำตอบที่ถูกต้อง

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ brotherpray มีปรากฏในหนังสือ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ ซึ่งพี่นักเขียนจะคัดลอกมาให้อ่านใน post ต่อไปค่ะ ณ จุดนี้พี่นักเขียนจะขอขยายความก่อน

ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ทุกตัวตน ทุกมิติ ล้วนมีจิตวิญญาณพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ไม่น้อยไปกว่าตัวตนของเรา-ที่เรารู้จัก และการมีสติสัมปชัญญะของตัวตนเหล่านั้น มีความสำคัญต่อตัวตนนี้ที่เรารู้จักมากมายมหาศาล เพราะมันเป็นรากฐานทั้งหมดของการเป็นบุคคลตัวตนที่เรารู้จักตัวตนนี้

หลายสัปดาห์มาแล้ว หัวหน้าได้เคยเอ่ยว่า อยากจะให้พี่นักเขียนช่วยถ่ายทอดให้ฟังเกี่ยวกับชีวิตนอกเหนือชาดิภพ แต่สาระในจุดนั้นที่เรากำลังสนทนากัน เกี่ยวพันกับประเด็นของการรู้เห็นความตาย หรือชีวิตหลังความตาย ซึ่งพี่นักเขียนเชื่อว่า มีหลายท่านที่เมื่อเห็นชื่อหนังสือ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ มักจะสรุปว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย หรือชีวิตก่อนมาถือกำเนิด ซึ่งที่จริงแล้ว-ไม่ใช่เช่นนั้นเลย ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า ชีวิตหลังความตายและชีวิตก่อนมาถือกำเนิด ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวงจรชีวิตของชาติภพ ซึ่งท่านได้อธิบายในรายละเอียดไว้ใน อมตะแห่งจิตวิญญาณภาคต้นและอมตะแห่งจิตวิญญาณภาคปลาย

ชีวิตนอกเหนือชาติภพ เต็มไปด้วยสาระที่เกี่ยวพันกับภาวะของจิตวิญญาณที่ท่านอาจารย์อนาลัยเรียกว่า หน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณ ซึ่งสถิตย์อยู่ในสรรพสิ่งทั้งหลาย-ทุกอนู หน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณมีข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ และมีสติสัมปชัญญะในนัยที่ปราศจากการเป็นบุคคลตัวตนอันจำกัด มันจึงสามารถถ่ายทอดซึ่งกันและกัน รวมตัว แตกแขนง ได้โดยปราศจากขีดจำกัด เราไม่อาจนำหน่วยย่อยของจิตวิญญาณเปรียบกับภาวะหรือสิ่งใดในโลกที่เรารู้จักได้ เพราะมันปราศจากหน่วยนับและไม่อาจคำนวณได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ปราศจากการเป็นบุคคลตัวตนเรา-เขา เป็นภาวะที่เต็มไปด้วยแนวโน้มอันคาดการณ์ไม่ได้ แต่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้อันหลากหลาย-เป็นอนันต์ ซึ่งเป็นภาวะต้นกำเนิดของจิตวิญญาณ

เมื่อกล่าวถึงการมีสติสัมปชัญญะ มีจิตวิญญาณ ที่ดูเสมือนจะเป็นเอกเทศในตัวตนทั้งหลายของเรา ในมิติต่างๆ ชาติภพต่างๆ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นต่างๆ ทุกตัวตนเชื่อมโยงกัน ประสานกันเป็นระบบเครือข่ายได้ด้วยหน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณที่ถ่ายทอดถึงกันและกันตลอดเวลา เสมือนลมหายใจที่ถ่ายทอดผ่านร่างทุกร่างในโลก-โดยปราศจากเจ้าของ ปราศจากกาลเวลา เรากำลังหายใจเอาลมหายใจส่วนหนึ่ง ที่เคยเป็นลมหายใจของใครบางคนในประวัติศาสตร์อยู่ ณ วินาทีนี้ แต่เราก็ไม่เคยตระหนักว่าตามธรรมชาติความเป็นจริงแล้วมันเป็นเช่นนั้น ลมหายใจที่ดูเสมือนเป็นของส่วนตัวของเรา ไม่เคยเป็นของเรา ไม่เคยเป็นของใคร บางส่วนกำลังอยู่ในร่างกายของเรา บางส่วนอยู่ในร่างกายของผู้อื่น และมีอีกมากมายที่เป็นอากาศที่อยู่ภายนอกร่างกายของบุคคลทั้งหลาย แต่อยู่ในสัตว์ พืช ก้อนหิน ดิน น้ำ ลม ไฟ และสรรพสิ่งทั้งปวง

เมื่อกล่าวถึงจิตวิญญาณพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ พี่นักเขียนขอให้พวกเราทำใจให้กว้าง และคิดถึงจิตวิญญาณและสติสัมปชัญญะในนัยที่นอกเหนือช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา และในนัยที่ปราศจากเจ้าของ หรือขอบเขตจำกัด เพราะหากเรานำเอาจิตวิญญาณและสติสัมปชัญญะมาพิจารณาภายใต้กฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา เราจะไม่สามารถรู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของมันได้เลย

จิตวิญญาณที่เป็นหน่วยย่อยพื้นฐาน ผ่านร่างกายของเรา และของบุคคลทั้งหลาย รวมทั้งบุคคลตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่นๆ มิติอื่นๆ ชาติภพอื่นๆ ในนัยเดียวกัน แต่ทั้งนี้เราจะต้องตัดเอาคำว่า หลากมิติ และความรวดเร็วออกไป โดยมองจากมุมมองที่ปราศจากช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา

ดังนั้นต่อคำถามของคุณ brotherpray จากมุมมองที่ปราศจากเครื่องพราง เราจะกล่าวได้ว่า ทุกบุคคลตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ล้วนมีสติสัมปชญญะ หรือมีจิตวิญญาณส่วนที่จดจ่ออย่างคมชัดในการเป็นบุคคลตัวตนนั้นๆ และมีหน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณ หรือสติสัมปชัญญะส่วนอื่น-ชนิดอื่นที่แตกต่างไปจากสติสัมปชัญญะที่เราคุ้นเคย-ที่ไม่ได้จดจ่อกับการเป็นบุคคลตัวตนจำเพาะ ซึ่งถ่ายทอดกับบุคคลตัวตนอื่นๆ บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น มิติอิื่น ชาติภพอื่นๆ พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบันเช่นเดียวกับอากาศที่เป็นของกลาง แต่ชั่วขณะหนึ่งมันก็กลายมาเป็นลมหายใจส่วนตัวของเรา หรือของบุคคลหนึ่งๆ

พี่นักเขียนขอแนะนำให้ผู้ที่ต้องการศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับสติสัมปชัญญะ อ่านหนังสือ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 2 สติสัมปชัญญะของนักฝัน เพื่อศึกษาดูว่า สติสัมปชัญญะของเรานั้นมีกี่ส่วน ทำหน้าที่อย่างไร เพราะจะช่วยทำให้เราเข้าใจสาระทั้งหมดนี้ได้กระจ่างขึ้นค่ะ(rose)

ปล. หนังสือไม่ได้มีขายแล้วค่ะ หากมีตามเบอร์ที่คุณ brotherpray แจ้งให้ทราบ ก็เป็นหนังสือที่ละเมิดลิขสิทธิ์และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งการซื้อขายจะทำให้ผู้จำหน่ายเดือดร้อนอย่างยิ่งค่ะ

 

พี่นักเขียนขอคัดลอกบทความจากหนังสือ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ
บทที่ 4 ความเป็นอมตะของจิตวิญญาณ กับ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ มาให้พวกเราได้อ่านกัน
เพราะมีคำตอบสำหรับคำถามของคุณ botherpray เกี่ยวกับสติสัมปชัญญะและตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อยู่มากมาย

หน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณเป็นพลังงานที่มีสติรู้เห็น และตระหนักในการเป็นตัวตนของมัน ซึ่งไม่ใช่การมีสติรู้เห็นการเป็นบุคคลตัวตนอย่างที่เธอรู้จักคุ้นเคย หน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณเป็นต้นกำเนิดของจิตวิญญาณทุกชนิดทุกประเภท การเคลื่อนไหวของมันหลากหลายเป็นอนันต์ มันสามารถรวมตัวกับหน่วยย่อยพื้นฐานอื่นๆได้ ก่อให้เกิดหน่วยของจิตวิญญาณขึ้น เช่นเดียวกันกับการที่อะตอมรวมตัวกันขึ้นเป็นโมเลกุล

หน่วยย่อยพื้นฐานของจิตวิญญาณเหล่านี้ได้รับมอบความไม่แน่นอนอันคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งเอื้ออำนวยให้มันสามารถสร้างแบบแผนและการเติมเต็มได้อย่างหลากหลาย-เป็นอนันต์ เป็นที่น่าเสียดายว่าคำว่า

 

:z1 สวัสดีครับทุกคนวันหยุดไปเที่ยวไหนกันมาบ้างครับ ผมอ่านหนังสือของ อาจาร์ยอโนวา ยังไม่หมดเล่มหนึ่งเลยครับ แต่รู้สึกว่าอ่านแล้วได้รับความรู้มากเลยครับ แต่ว่ายังฝึกฝันไม่เป็นเลยอ่ะครับ ต้องอ่านเล่มไหนถึงจะฝึกฝันได้เหรอครับช่วยตอบผมด้วยนะครับ ขอบคุงก๊าบบบ;aa31