ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    รบกวนช่วยนำเรื่องที่พระอ.รัตน์ ที่ท่านได้ประดิษฐ์เครื่องสร้างฝนและสร้างโอโซนโลก จนทางนาซ่าขอมาศึกษา

    มานำลงให้หน่อยครับผม
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post1402233 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>TupLuang<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1402233", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 02:07 PM
    วันที่สมัคร: Jun 2008
    ข้อความ: 1,592
    ได้ให้อนุโมทนา: 3,202
    ได้รับอนุโมทนา 11,872 ครั้ง ใน 1,455 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 161 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1402233 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ระวัง"สตอร์ม เซิร์จ" ถล่มชายฝั่ง-ซัดถึงกรุง
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->วันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6457 ข่าวสดรายวัน


    ระวัง"สตอร์ม เซิร์จ" ถล่มชายฝั่ง-ซัดถึงกรุง


    นงนวล รัตนประทีป



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ก่อนหน้านี้ทางผู้เชี่ยวชาญของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมาเตือนว่าในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค.นี้ อาจจะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มด้านอ่าวไทยไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี ทำให้เกิด "สตร์อม เซิร์จ" (Storm Surge) เป็นปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น ไหลทะลักเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา เข้าท่วมขังพื้นที่กทม. และกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์

    มูลนิธิ ดร.สุรพล สุดารา นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลของประเทศไทย ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนาเรื่อง "สตร์อม เซิร์จ" มหันตภัยของคนกทม.และคนชายฝั่ง เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ

    น.อ.กตัญญู ศรีตังนันท์ ผู้บังคับหมวดเรืออุทกศาสตร์ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ อธิบายว่า สตอร์ม เซิร์จ คือ คลื่นพายุซัดฝั่ง หรือระดับน้ำทะเลที่ยกตัวสูงขึ้น จากการเคลื่อนตัวเข้ามาของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงของพายุหมุน หรือมวลน้ำที่ยกระดับสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เคลื่อนตัวผ่านเข้าไปในบริเวณนั้นๆ

    ตามความหมายของนักอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง คือ "พายุหมุนโซนร้อน" นั่นเอง

    การเกิดพายุหมุนโซนร้อนมี 3 สาเหตุ คือ 1.ลมแรงมากบวกคลื่นในทะเลสูงมาก 2.ความกดอากาศต่ำอย่างรุนแรงที่ศูนย์กลางของพายุ 3.ฝนตกหนักเกิดการเคลื่อนตัวของน้ำจากทะเล <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ส่วนตัวการที่ทำให้เกิดความเสียหายจากสตอร์ม เซิร์จ น.อ.กตัญญูอธิบายว่า 1.ลมแรงจากพายุ 2.คลื่นสูง 3.ระดับผิวหน้าน้ำทะเลที่ยกตัวสูงขึ้นจากปกติ ถ้าพื้นที่ชายฝั่งเป็นบริเวณน้ำลึกน้ำทะเลก็สามารถกระจายออกไปได้ โดยน้ำจะสูงขึ้นอย่างช้าๆ แต่ถ้าบริเวณชายฝั่งเป็นที่ตื้น น้ำทะเลไม่สามารถจะกระจายออกไปทางไหนได้ น้ำจะสูงขึ้น และการกระจายตัวของมวลน้ำก็ขึ้นมาบวกความรุนแรงของพายุหมุนโซนร้อน

    พร้อมทั้งยกตัวอย่างสตอร์ม เซิร์จ ที่เคยเกิดขึ้นสูงกว่า 3.7 เมตร หรือประมาณ 12 ฟุต จากพายุเฮอริเคน ออเดรย์ ในปี ค.ศ.1957 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 390 คน ในพื้นที่ชายฝั่งที่เป็นพื้นที่ราบตะวันตกเฉียงใต้ของมลรัฐหลุยเซียน่า สหรัฐอเมริกา และดันให้มวลน้ำไกลเข้าไปในฝั่งได้ถึง 40 กิโลเมตร หากพื้นที่ราบไม่มีสิ่งกีดขวางคลื่นจะกวาดเข้าไปได้ลึกและปริมาณน้ำท่วมจะขึ้นอยู่กับความสูงของระดับน้ำ

    ผู้บังคับหมวดเรืออุทกศาสตร์ กล่าวต่อว่า อ่าวไทยเป็นพื้นที่มีความลาดชันน้อย ระดับความสูงของสตอร์ม เซิร์จ อาจสูงมากกว่าปกติ สำหรับพื้นที่ กทม.และบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยมีโอกาสเสี่ยงต่อภัยพิบัติจากพายุหมุนโซนร้อนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.ของทุกปี ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูงขึ้นกว่าระดับปกติ เกิดลมพายุพัดแรง และฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง

    โดยชายฝั่งด้านอ่าวไทยน่าเป็นห่วง เพราะอาจเกิดการเคลื่อนตัวของมวลน้ำโถมเข้าชายฝั่งดังกล่าวจนเข้ามาถึงพื้นที่ กทม.และ จ.สมุทรปราการ ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และอาจส่งผลกระทบต่อระบบประปาและแหล่งน้ำจืดในชั้นใต้ดิน

    ด้านนายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ศูนย์พิบัติภัย คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ประเทศไทยเคยเกิดสตอร์ต เซิร์จ มาแล้วหลายครั้ง เช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ และลินดา แต่ไม่มีความรุนแรงทำลายล้างเหมือนในต่างประเทศ ในอนาคตจะเกิดหรือไม่ยังไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้

    แต่จากภาวะโลกร้อนและอุณหภูมิน้ำมหาสมุทรที่สูงขึ้น ทำให้จำนวนพายุที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เห็นได้จากน้ำแข็งในทวีปต่างๆ เริ่มละลาย และอุณหภูมิผิวน้ำมหาสมุทรสูงขึ้น สอดคล้องกับจำนวนและความรุนแรงของพายุที่เกิดขึ้นในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มีความถี่มากขึ้นจาก 2.8 ลูกต่อปี เป็น 4.2 ลูกต่อปี ดังนั้นมนุษย์ควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ ไม่ควรเอาชนะธรรมชาติ โชคดีที่ระบบเตือนภัยในปัจจุบันสามารถแจ้งเตือนพายุล่วงหน้าได้เป็นสัปดาห์ จึงไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

    นายธนวัฒน์กล่าวว่า ส่วนแนวทางการลดพิบัติภัยทำได้หลายแนวทาง เช่น การสร้างแนวป้องกันทางทะเลและชายฝั่งเพื่อลดพลังงานของพายุ การสร้างกำแพงป้องกันคลื่น การปลูกป่าชายเลน

    "สตอร์ม เซิร์จ มันมากับพายุ เราต้องเข้าใจการเกิดพายุโซนร้อนก่อน ว่าคือหย่อมความกดอากาศต่ำที่มีรูอยู่ตรงกลาง หรือตาของพายุ และข้างๆ มีความกดอากาศสูง มันก็จะดันให้น้ำขึ้นไปข้างบน สตอร์ม เซิร์จ ถ้าอยู่ในทะเล หรือระดับน้ำในทะเล จะราบเรียบเท่ากันหมด แต่ตรงตาของพายุจะสูงกว่าปกติ เราจึงเรียกตรงตาของพายุตรงนี้ว่าสตอร์ม เซิร์จ และมีระดับความรุนแรงแบ่งออกเป็น 5 ระดับ"

    อาจารย์ธนวัฒน์ระบุว่า ถ้าระดับ 4 เหมือนกับพายุนาร์กีส ที่ถล่มประเทศพม่า ก็เป็น สตอร์ม เซิร์จ มีความเร็วลม 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนกับเอาน้ำที่มีขนาดใหญ่มากสาดไปอย่างแรงมันก็พังหมด ส่วนจุดอันตรายที่สุดที่อยากเตือน คือ จ.เพชรบุรี ไปถึง จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา จะเกิดบ่อยที่สุด รองมาคือ กทม.โอกาสเกิดน้อยกว่า แต่ก็มีโอกาสเกิดได้

    ด้าน รศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สตร์อม เซิร์จ ถือเป็นเรื่องใหม่ และหากเกิดขึ้นและซัดฝั่งอ่าวไทยจริง ทาง กทม.เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว โดยมีแผนระบายน้ำท่วม การแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง และแผนปฏิบัติการก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุ มีหน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนของสำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา และสำนักงานเขต เตรียมพร้อมประจำทุกพื้นที่ รวมถึงมีระบบสื่อสารการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

    แม้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดสตอร์ม เซิร์จ ขึ้นเมื่อใด แต่อาจจะเกิดขึ้นได้หากสภาวะอากาศและสภาวะแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องมีการศึกษาและหาแนวทางร่วมกันแก้ปัญหา และอพยพประชาชนออกจากบริเวณเกิดเหตุ

    [FONT=Tahoma,]หน้า 6[/FONT]


    http://www.matichon.co.th/khaosod/vi...MHdPQzB3TXc9PQ==
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    ในชีวิตของคนแต่ละวัน ๆ มันขึ้นอยู่กับเรื่องดึงเข้ามาและผลักออกไป สิ่งใดที่เราพอใจชอบใจก็ดึงเข้ามา สิ่งใดที่เราไม่พอใจก็ผลักออกไป ไม่มีอะไรที่จะสมใจของใครเสมอไป ได้บ้าง เสียบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ทุกชีวิตนั้นเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น และปรารถนาความสุข ไม่ต้องการความทุกข์ความเดือดร้อน เราก็อย่าให้ความทุกข์ความเดือดร้อนเกิดขึ้นแก่ผู้อื่นเนื่องด้วยการกระทำของเราเลย ชีวิตทุกรูปทุกนามซึ่งเกิดขึ้นมาในโลกนี้ล้วนตกอยู่ในวงล้อมแห่งกรรม ไม่มีใครจะอยู่เหนือกฎธรรมชาติได้เลย ในวันสุดท้ายจำต้องละจากสิ่งทั้งปวงไป
    (พระคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร)
    <!-- / sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "นาซา"ทึ่งพระประดิษฐ์เครื่องขอฝนเตรียมเข้าพบ

    [​IMG]
    พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ

    พระไทยประสบความสำเร็จผลิดเครื่องลดมลภาวะโลกร้อนได้สำเร็จ นำไปทดลองใช้ในประเทศฟิลิปปินส์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีตัวแทนจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซ่า และดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา วิศวกรผู้ออกแบบระบบลงจอดของยาน อวกาศไวกิ้งเพื่อลงจอดบนดาวอังคาร จะเข้าพบเพื่อศึกษาเครื่องดังกล่าวด้วย


    [​IMG]

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 สิงหาคม 2551 ที่สำนักสงฆ์บูรณรักษ์ธรรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ได้ประสบความสำเร็จในการคิดค้นและประดิษฐ์เครื่องลดมลภาวะทางอากาศได้สำเร็จ ซึ่งเครื่องดังกล่าวประกอบด้วยพีรามิดรูปทรงสามเหลี่ยม มุม 60 องศา จำนวน 7 ก้อน โดยนำพิรามิดมาจัดเรียงแนวตั้งแล้วพันรอบด้วยสายยาง ก่อนบรรจุน้ำเข้าไป ภายในติดตั้งปั๊มน้ำภายใน เมื่อปั๊มน้ำทำงาน แรงดันจากปั๊มน้ำจะทำให้น้ำหมุนวนรอบพีรามิดเป็นจนเกิดเป็นเกลียว วนจากขวาไปซ้ายตามศูนย์แรงดึงดูดของกาแลกซี่ทางช้างเผือก แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นจะถูกผลักขึ้น มาด้านบนของเครื่องและจะทำให้น้ำบริเวณรอบจะวิ่งมาแทนที่ และทำให้อากาศไหลตัวจนเกิดลม ขึ้น และขณะที่เครื่องทำงานจะมีการดึงความชื้นและดึงดูดฝนให้ตกลงมารอบรัศมีของเครื่องในระยะ 5 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังจะดึงมลพิษทางอากาศเข้ามาทำลายจนทำให้อากาศสะอาด

    สำหรับพีรามิดซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเครื่องทำจากแร่ชนิดหนึ่งซึ่งถูกค้นพบในถ้ำแห่งหนึ่งใน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเแร่ดังกล่าวยังไม่มีการต้งชื่อในทางวิทยาศาสตร์ โดยแร่ดังกล่าวจะถูกนำมาผสมกับซีเมนท์และทำเป็นรูปพีรมิดก่อนนำไปจัดเรียงไว้ในเครื่อง

    พระอาจารย์รัตน์ กล่าวว่า เครื่องลดมลภาวะที่ทำขึ้น เป็นการผสมผสานกันระหว่าง หลักการทางวิทยาศาสตร์และพลังจิตจากสมาธิ ซึ่งในการทำงานจะใช้พลังงานจากวัตถุ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นพลังจิต หากใครผลิตเลียนแบบก็ไม่สามารถใช้ได้เนื่อง จากไม่มีส่วนผสมของพลังจิต โดยเครื่องลดมลภาวะได้ใช้เวลาศึกษาและทดลองมานานกว่า 3 ปี จึงประสบความสำเร็จ โดยในช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาสมลพิษทาวงอากาศจนต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในปี 2548 ได้นำเครื่องลดมลภาวะไปติดตั้งบริเวณแจ่งศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และปรากฏว่าทำให้อากาศบริเวณดังกล่าวมีค่ามลพิษน้อยกว่าจุดอื่นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดีเครื่องที่คิดค้นขึ้นมา ไม่คิดจะทำขายเชิงพาณิชย์ แต่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง โดยขณะนี้ได้ผลิตเครื่องได้ทั้งหมด 9 เครื่อง หากในพื้นที่ใดที่ประสบปัญหาภัยแล้งสามารถมายืมเครื่องไปใช้ฟรี

    [​IMG]

    พระอาจารย์รัตน์ กล่าวด้วยว่า ต้นปีที่ผ่านมา ได้มีบริษัทเอกชนจากประเทศฟิลิปินส์ได้ยืมเครื่องไปใช้ ปรากฏว่าสามารถลดมลพิษได้กว่าร้อยละ 80 และบริษัทดัง กล่าวได้พยายามขอจดสิทธิบัตรแต่เราไม่ยอมเพราะผิดสัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามขณะนี้เครื่องลดมลภาวะได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาตร์เป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่จากองค์การสหประชาชาติเดินทางมาทดลองและศึกษาถึง 2 ครั้ง ซึ่งในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ จะมีทีมแพทย์ จากประเทศเยอรมันเข้ามาศึกษา จากนั้นในวันที่ 9 สิงหาคม จะมีตัวแทนจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซ่า เข้าพบนอกจากนี้ในวันที่ 20 สิงหาคมดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา วิศวกรผู้ออกแบบระบบลงจอดของยาน อวกาศไวกิ้งเพื่อลงจอดบนดาวอังคาร จะเข้าพบเพื่อศึกษาเครื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน

    โดย reporter วันที่ 02 ส.ค. 51 เวลา 16:52:30

    ที่มา http://www.cmprice.com/forum/?content=detail&wb_type_id=18&topic_id=31393
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2008
  4. tubeTronix

    tubeTronix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +52

    หาความรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://santati2007.googlepages.com/home
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • santati-1.jpg
      santati-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.4 KB
      เปิดดู:
      81
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2008
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ข่าวจากพระอาจารย์รัตน์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ทำสมาธิกับอุปกรณ์พีรามิด

    [​IMG]
    สฟิงซ์ที่เมืองกิซ่า ประเทศอียิป​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • santati-1.jpg
      santati-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89 KB
      เปิดดู:
      1,025
    • hand1-b.jpg
      hand1-b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.5 KB
      เปิดดู:
      1,021
    • 1-2-11-c.jpg
      1-2-11-c.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10 KB
      เปิดดู:
      1,066
    • sphinx2.jpg
      sphinx2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.9 KB
      เปิดดู:
      1,304
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    การปรับเปลี่ยนการใช้พลังพีระมิด และพลังกระแสลมปราณ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p> </O:p><O:p>โดยพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ</O:p>

    [​IMG]

    การปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมองค์ความรู้ในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นลูกศิษย์ ผู้ฝึก ผู้ป่วย จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน และรับความรู้ใหม่เพิ่มเติมจึงจะได้รับประโยชน์จากพลังพีระมิดเหมือนเดิม<O:p> </O:p>

    การเปลี่ยนแปลงของพลังงานได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงหลายครั้งด้วยกัน เช่น<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <TABLE class=MsoNormalTable style="MARGIN-LEFT: 5.4pt; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-padding-alt: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96>13 พ.ค. 2547<O:p> </O:p>

    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้เดินทางถึงประเทศอียิปต์ และเชื่อมโยงการทำงานของพลังงานระหว่างสฟิงซ์-มหาพีระมิด-ดวงดาว และมหาอาณาจักรแอตแลนตีส<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96>13 มิ.ย. 2547<O:p> </O:p>


    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>พลังกระแสลมปราณที่ดาวโลกเคยได้รับอย่างพอเพียงจากดวงอาทิตย์ลดน้อยลงไปจนแทบจะไม่มีเลยเนื่องจากสภาพที่เลวร้ายของบรรยากาศสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันๆ<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96><O:p></O:p>





    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ใช้พลังจิตดึงพลังกระแสลมปราณมาจากดวงอาทิตย์ และนำพลังงานเก็บพักไว้ก่อน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยทำให้พลังงานกระแสลมปราณบริสุทธิ์ ปราศจากมลภาวะของชั้นบรรยากาศ แล้วจึงใช้พลังจิตเชื่อมโยงพลังกระแสลมปราณเข้าสู่วัตถุ-อุปกรณ์ของท่าน เช่น พีระมิด และ สฟิงซ์<O:p> </O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96><O:p></O:p>




    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>พลังกระแสลมปราณเป็นพลังงานที่มีประโยชน์และสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกายมนุษย์ซึ่งมนุษย์จะขาดมิได้เลย เช่น เป็นภูมิคุ้มกันร่างกายตามธรรมชาติ, เป็นพลังงานช่วยระบายของเสียออกจากร่างกายตามธรรมชาติ, เป็นพลังงานหล่อเลี้ยงหลอดเลือดไม่ให้ตีบหรือตัน<O:p> </O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96>22 มิ.ย. 2547<O:p> </O:p>




    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>พีระมิดทุกก้อนที่พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ผลิตขึ้นเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ของการฝึกจิตและทางเลือกของสุขภาพ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงคือให้ใช้สว่านเจาะเป็นรูที่ ด้านหนึ่งด้านใดของรูปทรงสามเหลี่ยมเพื่อให้พระอาจารย์ใช้พลังจิตเชื่อมโยงกระแสลมปราณเข้าสู่ก้อนพีระมิด ทำให้พีระมิดมีพลังในการดูดของเสีย และลดความเจ็บปวดได้เหมือนดังเดิม<O:p> </O:p></TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96><O:p></O:p>





    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>สำหรับสนามพลังพีระมิดที่ประกอบด้วยพีระมิดทั้ง 11 ก้อน ซึ่งในขณะนี้ (มิถุนายน 2547 เป็นต้นไป) ให้จัดวางโดยวางยอดแหลมตั้งขึ้นทุกก้อน (D) และก้อนที่ต้องใช้สว่านเจาะให้เป็นรูเพื่อเชื่อมโยงหรือนำกระแสลมปราณเข้าคือก้อนล่าง และก้อนกลางของแกนพลังงานเพียง 2 ก้อน เท่านั้น (ก้อนแกนกลางที่วางอยู่ก้อนบนสุดและก้อนบริวารอีก 8 ก้อน ไม่ต้องเจาะ)

    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96><O:p></O:p>


    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>เมื่อเจาะแล้วให้นำไปวางคืนที่แกนพลังงานดังเดิม โดยวางด้านสามเหลี่ยมที่เจาะเป็นรูไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น<O:p> </O:p>
    </TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96><O:p></O:p>



    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>ก้อนพีระมิดอื่นๆ ที่ใช้สำหรับกำไว้ในมือ หรือกำไล สร้อยข้อมือ หรือ จี้ ให้ใช้สว่านเจาะเป็นรูเช่นกัน (การใช้พีระมิดวิธีนี้ ไม่ต้องสัมพันธ์กับทิศแต่อย่างใด<O:p> </O:p></TD></TR><TR style="mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 72pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=96><O:p></O:p>




    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5.4pt; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; WIDTH: 415.8pt; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width=554>พระอาจารย์รัตน์ รตนณาโณ จะส่งพลังจิตนึกไปถึงพีระมิดของท่านทุกก้อนที่เจาะเป็นรูปเรียบร้อยแล้วเพื่อเชื่อมโยงพลังกระแสลมปราณให้โดยอัตโนมัติไม่ว่าพีระมิดเหล่านั้นจะอยู่ที่ไหนก็ตาม<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <O:p></O:p>
    วิธีเจาะพีระมิด<O:p> </O:p>

    1. เลือกด้านสามเหลี่ยมด้านใดด้านหนึ่งของก้อนพีระมิด และใช้สว่านเจาะเป็นรู ดังตัวอย่างในภาพ<O:p> </O:p>
    2. เจาะให้ลึกตรงเข้าไปข้างในประมาณถึงกึ่งกลางเพื่อให้ของเสีย หรือความเจ็บความปวดได้ระบายออกทางยอดแหลมของก้อนพีระมิดพอดี (ห้ามเจาะทะลุ)<O:p> </O:p>

    [​IMG]<O:p> </O:p>

    การใช้พลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์ (SPHINX)<O:p> </O:p>

    เนื่องจากในปัจจุบันนี้มนุษย์เราได้รับกระแสลมปราณจากธรรมชาติในปริมาณที่น้อยมากจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้นสฟิงซ์ (SPHINX) จึงถูกนำมาใช้เป็นอุปกรณ์เสริมที่พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้ใช้พลังจิตบรรจุพลังของกระแสลมปราณเข้าไว้เป็นจำนวนมหาศาล และนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการสร้างภูมิต้านทานและช่วยรักษาโรคทุกโรคด้วยตนเอง เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง-ต่ำ หัวใจ ไต มะเร็ง เอดส์ โรคทางเดินหายใจทุกชนิด ฯลฯ<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    การใช้พลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์ 2 ตัว (องค์)<O:p> </O:p>

    การจัดวาง

    วางสฟิงซ์ทั้ง 2 ตัว(องค์) ให้อยู่ในแนวทิศตะวันตกและทิศตะวันออก โดยหันใบหน้าของสฟิงซ์ไปทางทิศตะวันตกทั้งคู่ และผู้ฝึก ผู้ป่วย นั่งอยู่ระหว่างกลางและหันหน้าไปทางทิศตะวันตกด้วยเช่นกัน (สำหรับผู้ป่วยหนักให้นอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก)<O:p> </O:p>

    [​IMG]<O:p> </O:p>

    วิธีปฏิบัติ

    1. ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย นั่ง(นอน) หันหน้าไปทางทิศตะวันตก และสฟิงซ์สำหรับทิศตะวันตกและตะวันออก หันใบหน้าไปทางทิศตะวันตก<O:p> </O:p>
    2. ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย ส่งความรู้สึก นึกไปถึงใบหน้าของสฟิงซ์ที่วางอยู่ข้างหน้าและข้างหลังของตนเอง พลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์ทั้งคู่จะไหลเข้าหากันโดยอัตโนมัติทำให้ร่างกายของผู้ป่วย ผู้ฝึก ถูกดึงไป-มา หน้า-หลัง<O:p> </O:p>
    3. ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย ทำตัวอ่อนๆ คล้อยตามแรงดึงแรงผลักที่เกิดขึ้น (ไม่สร้างความรู้สึกต้าน) พลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์จะเข้าไปช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์ที่บกพร่องมีอาการเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย<O:p> </O:p>
    4. ผู้ฝึก ผู้ป่วย จะมีความรู้สึกว่าความเจ็บปวดได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ให้มีความอดทน เสมหะ น้ำลาย หนองหรือเลือดเสีย จะถูกขับออกมาจากร่างกายอย่างต่อเนื่อง ให้บ้วนทิ้ง (รวมทั้งอาการหาว เรอ ปัสสาวะ อุจจาระ) พีระมิดที่วางอยู่ด้านหลังของสฟิงซ์จะทำหน้าที่ดันระบายของเสียทิ้งออกไปจากร่างกาย<O:p> </O:p>
    5. ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วย อยากให้อาการเจ็บป่วยที่มีอยู่หายเร็วยิ่งขึ้น ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย ใช้พลังจิตของตนเองเพียงเล็กน้อยทำงานร่วมกับพลังงานกระแสลมปราณจากสฟิงซ์ โดยการนึกให้พลังกระแสลมปราณเคลื่อนที่ขึ้น-ลง เป็นการถูขึ้นและถูลงเป็นจังหวะๆ (เหมือนกับการถูของเส้นแสง) ช่วยให้เซลล์หรือเนื้อเยื่อได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว<O:p> </O:p>
    6. ในช่วงเวลาปกติ เช่น พักผ่อน หรือทำกิจการงานหรือนอนหลับในเวลากลางคืน ผู้ฝึก ผู้ป่วย ไม่จำเป็นต้องบังคับหรือกำหนดให้ตนเองหันหน้าไปทางทิศตะวันตกตลอดเวลา ให้ปฏิบัติตนตามปกติ เพียงแต่ให้จัดวางสฟิงซ์ไว้ให้สุดมุมห้อง หรือเตียง โดยหันใบหน้าสฟิงซ์ไปทางทิศตะวันตกทั้ง 2 ตัว (องค์) ผู้ฝึก ผู้ป่วย จะได้พลังรักษาจากพลังกระแสลมปราณตลอด 24 ชั่วโมง<O:p> </O:p>
    a. วิธีการฝึกปฏิบัติ ข้อ 1-6 อาจจะมีผลทำให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย มีความรู้สึกเหมือนกับว่านอนหลับไม่อิ่ม หรือหลับไม่สนิท ซึ่งมีสาเหตุเนื่องมาจากพลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์จะให้พลังรักษาตลอดเวลาทำให้เซลล์ในร่างกายได้รับการกระตุ้น และฟื้นฟูตลอดระยะเวลาที่นั่ง-นอนอยู่ภายในรัศมีของสฟิงซ์ 2 ตัว (องค์) ซึ่งถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยสังเกตตนเองจะพบว่าถึงแม้จะรู้สึกว่านอนหลับไม่ลึก หลับไม่สนิท แต่จะไม่รู้สึกเพลีย<O:p> </O:p>
    b. โดยหลักธรรมชาติเมื่อเซลล์ได้รับการกระตุ้นฟื้นฟูอยู่ตลอดเวลาจะช่วยเพิ่มความเป็นหนุ่มสาวให้แก่ร่างกาย<O:p> </O:p>
    c. เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายดูดซับพลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์ไว้อย่างเพียงพอแล้ว กระแสลมปราณจะถูกตัดโดยอัตโนมัติ<O:p> </O:p>
    7. สำหรับผู้ฝึกบางท่าน เมื่อได้รับพลังกระแสลมปราณเข้าสู่ร่างกายอย่างพอเพียง และรู้สึกว่าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีแล้ว ให้ผู้ฝึก เปลี่ยนทิศของการนั่ง โดยนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และปรับสฟิงซ์ให้หันหน้าตามไปทางทิศตะวันออกด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการปรับสมดุลของพลังงานภายในร่างกาย<O:p> </O:p>

    [​IMG]<O:p> </O:p>

    8. ผู้ฝึก ผู้ป่วย สามารถวางสฟิงซ์โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกทั้ง 2 ตัว (องค์) เพื่อให้ได้ประโยชน์ ตามรายละเอียดในข้อ 6 นั้น แต่จะมีสิ่งที่แตกต่างกันบ้าง คือ จำนวนของพลังกระแสลมปราณที่ได้รับจากสฟิงซ์ ที่จัดวางให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกจะมีน้อยกว่า จึงทำให้หลับลึก หลับสนิท เพราะเซลล์ในร่างกายได้รับการกระตุ้นที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน (ฉะนั้นการวางสฟิงซ์วิธีนี้ อาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยหนัก ที่ต้องการพลังของการรักษามากกว่า)<O:p> </O:p>

    การใช้สฟิงซ์ 1 ตัว (องค์) ร่วมกับพลังจิต<O:p> </O:p>

    การจัดวาง

    ผู้ฝึก ผู้ป่วย นั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก และสฟิงซ์วางไว้ด้านหน้าของผู้ฝึก ผู้ป่วยและหันใบหน้าไปทางทิศตะวันตกด้วยเช่นกัน<O:p> </O:p>

    [​IMG]<O:p> </O:p>

    วิธีปฏิบัติ

    1. ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย นึกไปถึงใบหน้าของสฟิงซ์เพื่อนึกดึงพลังกระแสลมปราณจากสฟิงซ์เข้าสู่ร่างกาย<O:p> </O:p>
    2. นึกให้พลังกระแสลมปราณทำการรักษาส่วนที่บกพร่องโดยการถูขึ้น-ถูลง เหมือนกับการถูของเส้นแสง หรือนึกให้พลังกระแสลมปราณเข้าไปกระตุ้น กระทุ้ง ตามจุดลมปราณทั้ง 12 จุดทั่วร่างกาย<O:p> </O:p>
    3. เมื่อทำการรักษาหรือสิ้นสุดการฝึกปฏิบัติในแต่ละครั้ง ผู้ฝึก ผู้ป่วย สามารถเลือกทำได้ 2 วิธี<O:p> </O:p>
    a. จบการฝึกปฏิบัติในทิศตะวันตก<O:p> </O:p>
    b. เปลี่ยนทิศของการนั่งโดยนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และปรับสฟิงซ์วางไว้ด้านหน้าผู้ฝึก และหันหน้าไปทางทิศตะวันออกด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยปรับสมดุลของพลังงาน และดูดระบายของเสีย<O:p> </O:p>

    ข้อควรจำ

    1. เมื่อใดก็ตามที่ใช้พลังจากสฟิงซ์ทั้ง 2 ตัว(องค์) นั่นหมายความว่า ผู้ฝึก ผู้ป่วย ได้รับพลังกระแสลมปราณช่วยในการสร้างภูมิต้านทานหรือรักษาร่างกายอย่างพอเพียง (จะใช้พลังจิตเข้าร่วมด้วยหรือไม่ ท่านสามารถเลือกเองได้)<O:p> </O:p>
    2. ถ้าใช้สฟิงซ์ 2 ตัว (องค์) จะต้องวางสฟิงซ์หันใบหน้าตามไปในทิศทางเดียวกัน เช่น วางหันหน้าไปทางทิศตะวันตกทั้งคู่ หรือหันไปทางทิศตะวันออกทั้งคู่<O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p>ที่มา http://www.geocities.com/healthmeditation/update/pyramid.htm</O:p><!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --></OBJECT></LAYER>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • egypt058.jpg
      egypt058.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.6 KB
      เปิดดู:
      1,390
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  7. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    เราชาวไทย ไม่ใช่ชาวไอยคุปต์ ไม่มีสฟิงค์ มีแต่พระเครื่องค่ะ
    ก็คงช่วยได้แต่ลูกศิษย์ของท่านกระมังคะ
     
  8. ทามปายได้

    ทามปายได้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +56
    อืม แต่ว่าอยากรู้เรื่อง วันนี้ วันที่4 ที่บอกไว้ว่า พระอ.รัตน์เขา ดึงเส้นแรงออก

    อยากทราบรายละเอียดลึกๆอ่า
     
  9. SCJ

    SCJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +122
    บางที ข่าวลืออาจจะทำให้สูญเสียมากกว่าข่าวจริงซะอีก

    ในที่ที่มีคนอยู่กันมากๆ ระวังเรื่องนี้ไว้บ้างก็ดี


    Stampede kills 145 at remote Hindu temple in India
    <!-- BEGIN STORY BODY -->By GAVIN RABINOWITZ, Associated Press Writer Sun Aug 3, 4:04 PM ET


    <!-- end storyhdr -->NEW DELHI - Thousands of panicked pilgrims stampeded Sunday at a remote mountaintop temple in northern India during celebrations to honor a Hindu goddess, sending dozens of people plummeting to their deaths and trampling scores more. Police said 145 people were killed.
    Rumors of a landslide apparently started the panic at the shrine in the foothills of the Himalayas, said C.P. Verma, a senior government official in the Bilaspur district.
     
  10. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ตามข่าวนี้ คนชุมนุมในงานเทสกาล มีข่าวแผ่นดินถล่มจึงเหยียบกันตาย 145 คน

    ถ้าไม่อยู่ในที่ชุมนุมคนหมู่มากเรื่องนี้ไม่เกิดค่ะ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    โทษภัยจากเกมส์ออนไลน์(ประเภทใช้ความรุนแรง)เริ่มออกฤทธิ์แล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    นักเรียน ม. 6 ฆ่าชิงทรัพย์คนขับรถแท็กซี่

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-เกิดเหตุนักเรียนชั้น ม. 6 ฆ่าชิงทรัพย์คนขับรถแท็กซี่ เบื้องต้นสารภาพทำไปเพราะเลียนแบบเกมส์ออนไลน์

    ผู้ต้องหาคนนี้อายุเพียง 18 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพระนคร ถูกตำรวจ สน.บางพลัดจับกุม หลังก่อเหตุใช้มีดฆ่าชิงทรัพย์นายควร โพธิ์แข็ง คนขับรถแท็กซี่ ทะเบียน ทล 5764 กรุงเทพมหานคร ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 77 เขตบางพลัด

    ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เลียนแบบเกมส์ออนไลน์ชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นจะต้องก่ออาชญากรรม จึงขอเงินมารดา 500 บาท ไปซื้อมีด 2 เล่ม ก่อนเรียกแท็กซี่จากหน้าโรงพยาบาลยันฮีให้มาส่งบริเวณเกิดเหตุ ก่อนใช้มีดจี้ชิงทรัพย์จนเกิดการชกต่อยกันขึ้น จึงใช้มีดแทงนายควรจนเสียชีวิต ระหว่างเคลื่อนย้ายศพไปไว้เบาะหลัง เพื่อนำไปทิ้ง พลเมืองผ่านมาเจอจึงแจ้งตำรวจเข้าจับกุม.-สำนักข่าวไทย

    2008-08-03 07:08:02

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไฟไหม้รง.พลาสติก ควันหนาทึบ-การจราจรติดขัด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 สิงหาคม 2551 10:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เพลิงไหม้โรงงานพลาสติก ปล่อยกลุ่มควันหนาทึบทั่วกรุงฯ พร้อมกับเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำได้เพียงสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม เหตุเป็นเชื้อเพลิงประเภทพลาสติก โดยยังไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    วันนี้(4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติกขนาดใหญ่ ของ บริษัท กรุงเทพยนต์ ศิริวัฒน์ ภายใน ซ.พุทธบูชา 4 บน ถ.พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง โดยมีกลุ่มควันหนาทึบลุกลามไปทั่วกรุงเทพฯ กระจายตัวเป็นวงกว้างจนสามารถมองเห็นได้ทั่วไป อาทิ บริเวณถนนพระราม 8 และอนุสาวรีย์ฯ โดยมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะๆ

    ส่วนความคืบหน้าขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว เนื่องจากโรงงานดังกล่าวมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงประเภทพลาสติกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำได้เพียงการฉีดน้ำเลี้ยงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบยังไม่พบผู้บาดเจ็บ หรือได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แต่อย่างใด

    ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรภายใน ซ.พุทธบูชา 6 และ 4 เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานได้อย่างสะดวก ส่วนมูลค่าความเสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการตรวจสอบจากเจ้าของบริษัท

    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000091373
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. SCJ

    SCJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +122

    เกมส์ พวกนี้ อันตรายยิ่งกว่ายาเสพติดซะอีก

    เยาวชนถูกโปรแกรมจิต โดยไม่รู้ตัว

    จิดจะเสพติดความรุนแรง

    ก่อให้เกิดพฤติกรรมตามมา

    ;k05

    http://www.apa.org/journals/features/psp784772.pdf
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ไฟไหม้โรงงานย่านพุทธบูชาเสียหายร้อยล้าน

    [​IMG]

    กทม.4 ส.ค.- เกิดเพลิงลุกไหม้โรงงานผลิตไฟเบอร์เฟรมจักรยานยนต์ ซอยพุทธบูชาซอย 4 เขตจอมทอง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 100 ล้านบาท

    เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเพลิงลุกไหม้โรงงานและโกดังผลิตไฟเบอร์เฟรมรถจักรยานยนต์ของบริษัท ยงศิริวัฒน์ เลขที่ 45/17-18 ซอยพุทธบูชา ซอย 4 แขวงบางมด เขตจอมทอง ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่โกดังเก็บแผ่นเฟรมรถจักรยานยนต์ เป็นอาคารชั้นเดียว ซึ่งอยู่ด้านอาคารฝ่ายผลิต

    ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า จู่ ๆ ก็เห็นแสงเพลิงลุกโชนก่อนได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง และเพลิงก็ลุกลามตัวอาคารฝ่ายผลิตอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถฉีดน้ำจากสำนักงานเขตในละแวกที่เกิดเหตุระดมสกัดเพลิง นานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสงบและพบว่าอาคารโรงงานเสียหายทั้งหมด

    เบื้องต้น พบว่าเป็นโรงงานเก่าแก่ เปิดกิจการมากว่า 30 ปี โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในโรงงานแต่มีชาววบ้านสำลักควัน 1 คน ตำรวจ สน.บางมด เตรียมเรียกนายยันยง คลังจตุรเวช เจ้าของโรงงาน มาสอบสวนหาสาเหตุมการเกิดเพลิงไหม้ ส่วนความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาท และสำนักโยธา กรุงเทพมหานครเร่งตรวจสอบแบบแปลนโครงสร้างตัวอาคารหลังพบรอยแตกร้าวและเอียงจากการทรุดตัว ว่าก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ และได้กั้นพื้นที่ไฟไหม้เป็นแขตหวงห้าม หรือพื้นที่อันตรายแล้ว-สำนักข่าวไทย

    2008-08-04 10:45:09

    ที่มา http://news.mcot.net/crime/inside.php?value=bmlkPTQ4MzkzJm50eXBlPXRleHQ=
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    แฉ มหันตภัย "โอโซน", พระเอก หรือ...ผู้ร้าย
    โ<!--sizec--><!--/sizec-->อโซนเป็นก๊าซสีน้ำเงินเข้ม พบได้ทั่วไปในบรรยากาศโลก และเป็นอันตรายต่อปอด หากเราหายใจเข้าไปมาก ๆ ก๊าซโอโซนที่อยู่ในบรรยากาศระดับสูงเรียกว่า ชั้นสตราโซเฟียร์ จะจับตัวกันเป็นก้อนโอโซนปกคลุมทั่วโลก ในบางแห่งจะหนา และบางในบางแห่งชั้นโอโซนจะทำหน้าที่ปกป้องโลกจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ ซึ่งรังสีนี้จะทำให้โลกร้อนขึ้น และทำให้เกิดอันตรายกับสิ่งมีชีวิต เช่น ทำให้คนและสัตว์เป็นมะเร็งผิวหนัง ตาเป็นต้อหรือมัวลง และทำให้เกิดการเปลียนแปลงของดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสารทีถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต มีผลทำให้พืชและสัตว์กลายพันธ์ไปจากเดิม ตลอดจนเกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ และทำลายจุลินทรีย์ต่างๆ ในปี ค.ศ 1974 มาริโอ โมลินา กับเพื่อนร่วมงานชื่อ เชอร์วุ้ด โรว์แลนด์ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ ได้ทำการวิจัยพบว่า สารชนิดหนึ่งชื่อว่า สาร CFCs คือตัวการทำลายชั้นโอโซนส่งผลให้เขาและเพื่อนได้รับรางวัลโนเบล สาขาเคมีปี ค.ศ 1995 ในฐานะผู้ค้นพบสาร CFCs เป็นคัวการทำลายชั้นบรรยากาศ


    สาร CFCs มีชื่อทางการค้าว่า ฟรีรอน ซึ่งครั้งหนึ่งถือว่าเป็นสารมหัศจรรย์ เพราะไม่ติดไฟ ไม่เป็นพิษต่อผู้สูดดมเข้าไป ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง จึงมีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น ใช้เป็นสารทำให้เกิดความเย็น ในตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตโฟม พลาสติก ใช้เป็นสารทำลายในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และใช้เป็นสารขับดันในสเปรย์กระป๋อง เช่น สีพ่น สเปรย์ฆ่าแมลง สเปรย์ฉีดผม และอื่นๆ อีกจำนวนมาก


    การใช้สารกลุ่ม CFCs มีความสามารถทำลายชั้นบรรยากาศได้เพราะมีคลอรีน (chlorine) เป็นองค์ประกอบในโมเลกุล เมื่อสารนี้ลอยขึ้นไปสู่ชั้นสตราโตสเฟียร์และถูกรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ ก็จะแตกตัวทำให้เกิดคลอรีนอิสระ และคลอรีนนี้จะไปทำลายได้โอโซน ทำให้ไม่สามารถที่จะกั้นรังสีอัลตราไวโอเลตได้


    ด้วยเหตุแห่งความรุนแรงของสาร CFCs ต่อโอโซนในบรรยากาศของโลก ทำให้ประเทศต่าง ๆ จำนวน 31 ประเทศ ได้ส่งตัวแทนไปประชุมกันที่เมือง มอนทรีออล ประเทศแคนนาดา ในเดือนกันยายน ค.ศ 1987 และได้ร่วมกันจัดตั้งอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยการป้องกันบรรยากาศชั้นโอโซน ซึ่งภายใต้อนุ
    สัญญานี้ ได้มีการจัดทำพิธีสารมอนทรีออลขึ้น โดยระบุประเทศที่พัฒนาแล้วต้องเลิกผลิตและการใช้สารที่ทำลายชั้นโอโซน

    พิธีสารมอนทรีออล มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ 1989 โดยประเทศไทยร่วมลงนามในพิธีสารนี้ เมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ 1988 และให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ 1989 และมีผลบังคับให้ต่อประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ 1989โดยประ จากผลของอนุสัญญาฯ องสค์การสหประชาชาติ จึงได้กำหนดให้วันที่ 16 กันยายนของทุกปี เป็น "วันโอโซนโลก" พิธีสารมอนทรีออล ได้มีการแก้ไขฉบับต่อ ๆ มา ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการผลิต ในอุตสาหกรรมที่ใช้สารพวกนี้ เป็นอย่างมาก สำหรับประเทศไทย กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้วางแผนการลดและเลิก ใช้สารทำลายโอโซน โดยคาดว่า ในปี ค.ศ 1998 ประเทศไทยจะสามารถเลิกใช้สารนี้ ได้เกือบทุกชนิด ยกเว้นการใช้สาร CFCs ในอุปกรณ์ห้องเย็น ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะในส่วนที่เกียวข้องกับการให้บริการเติมน้ำยาแอร์แก่อุปกรณ์เดิม คาดว่าจะเลิก ใช้ทั้งหมดภายในปี ค.ศ 2010 ตามพิธีสารฯ กำหนด



    ..................................................................................................
    ชั้นบรรยากาศของโลก

    Attached image(s)
    [​IMG]

    http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=64135
     
  16. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    พายุโซนร้อนก่อตัวใกล้แหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก

    [​IMG]

    ไมอามี 4 ส.ค. - ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า พายุโซนร้อนลูกที่ 5 ของฤดูเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ ได้ก่อตัวขึ้นใกล้แหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซแหล่งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก เมื่อวานนี้

    พายุโซนร้อน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'บุช' เริ่มทัวร์ 'เกาหลีใต้-ไทย-จีน'</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 สิงหาคม 2551 08:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชแห่งสหรัฐฯ ออกเดินทางพร้อมกับสตรีหมายเลข 1</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชแห่งสหรัฐฯ ออกเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียในวันจันทร์ (4) โดยหลังจากเยือนเกาหลีใต้และไทยแล้ว ก็จะเข้าร่วมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง ส่วนประเด็นที่เขาเตรียมนำมาหารือกับผู้นำชาติเอเชียเหล่านี้ มีทั้งด้านการค้า สิทธิมนุษยชน และการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ

    การเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากกลุ่มรณรงค์สิทธิมนุษยชนที่ต้องการให้บุชบอยคอตต์การเข้าร่วมมหกรรมกีฬาดังกล่าว และจะเป็นการทดสอบว่า คำมั่นสัญญาที่จะแยกการเมืองออกจากกีฬาโอลิมปิกของบุชนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่

    "ผมได้ตัดสินใจที่จะไม่นำการเมืองไปเกี่ยวข้องกับกีฬาโอลิมปิก นี่เป็นเรื่องของการกีฬา" บุชกล่าวเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ว่าเขาจะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 7-11 สิงหาคม และว่า "ยังมีเวลาอีกมากสำหรับเรื่องการเมือง และผมมั่นใจว่าผมยังมีเวลาสำหรับการเมือง"

    ทั้งนี้ กำหนดการของบุชในคราวนี้ค่อนข้างยืดหยุ่น เขาจึงจะเข้าชมการแข่งขันบาสเกตบอลระหว่างทีมสหรัฐฯ กับทีมจีน และจะปั่นจักรยานภูเขาไปตามเส้นทางการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยบุชบอกด้วยว่า เขาไม่ได้วิตกกับปัญหามลพิษในอากาศ

    ทว่า ในสายตาของทั่วโลกที่จับจ้องกีฬาโอลิมปิกกันอยู่นั้น กลุ่มสิทธิมนุษยชนและพวก ส.ส. ของสหรัฐฯ ต่างก็คาดหวังว่าผู้นำสหรัฐฯ จะใช้มหกรรมกีฬาดังกล่าวกดดันให้ผู้นำจีนยอมให้เสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น

    บุชยืนกรานว่าเขาได้หยิบยกประเด็นสิทธิมนุษยชนขึ้นมากล่าวทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีหูจินเทาของจีน และในครั้งนี้ผู้นำทั้งสองก็มีกำหนดการพบปะเจรจากันด้วยเช่นกัน

    ก่อนหน้านี้บุชเคยทำให้จีนโกรธเคืองเพราะเขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ปรากฏตัวในที่สาธารณชนเคียงข้างทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต และเมื่อเร็วๆ นี้เขาก็ยังพบปะกับกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลจีนที่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศด้วย

    บุชยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนนั้นมีความสลับซับซ้อน เขาจึงต้องหาทางสานสัมพันธ์ทางการทูตกับมหาอำนาจเอเชียรายนี้ อีกทั้งสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มต้องพึ่งพาปักกิ่งมากขึ้น ทั้งเพื่อหาทางลดการดุลการค้ากับจีนที่สูงถึง 21,000 ล้านดอลลาร์ ตลอดจนหาความร่วมมือเพื่อกำจัดอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศ โน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และต่อสู้กับปัญหาโลกร้อนด้วย

    อนึ่ง การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือตามข้อตกลงร่วมของที่ประชุม 6 ฝ่ายนั้น จะเป็นประเด็นสำคัญในระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ของบุชในวันอังคารและวันพุธนี้ และการเยือนเอเชียครั้งที่ 9 ของบุชครั้งนี้ ก็ยังประจวบเหมาะกับช่วงวันท้ายๆ ของกำหนดการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือด้วย โดยบุชประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนว่าเขาตั้งใจที่จะถอดเกาหลีเหนือออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายของสหรัฐฯ ภายใน 45 วัน ซึ่งตามกำหนดการแล้วจะสิ้นสุดลงในวันที่ 11 สิงหาคม นั่นเอง

    อย่างไรก็ตาม การจะถอดเกาหลีเหนือออกจากบัญชีรายชื่อดังกล่าวจะทำได้ก็ต่อเมื่อเกาหลีปฏิบัติตามพิธีสารว่าด้วยการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์เสียก่อน

    เดนนิส ไวล์เดอร์ ผู้ช่วยคนสำคัญของบุชด้านกิจการเอเชีย บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธที่แล้วว่าเกาหลีเหนืออาจจะพลาดการได้ "โอกาสแรก" ที่จะถูกถอดออกจากบัญชีรายชื่อดังกล่าว แต่ทว่าโอกาสก็ยังคงเปิดอยู่

    ส่วนการเยือนกรุงเทพฯ ในวันพฤหัส บุชจะกล่าวสุนทรพจน์ซึ่งน่าจะเป็นการปกป้องนโยบายต่อเอเชียของเขาตลอด 7 ปีที่บริหารประเทศ อีกทั้งยังจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับเอเชีย ภายหลังวาระการคำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งจะสิ้นสุดวาระในเดือนมกราคม ปีหน้า

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000091351</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    พี่ภูมิ says:

    <DIR>เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ในช่วงเดือนนี้มาก(สิงหาคม 2551)

    </DIR>

    พัฒนาตน พัฒนาจิต พัฒนาความคิด พัฒนาปัญญา says:

    <DIR>ลองเช็คน่ะครับ เห็นเหมือนจราจลขนาดใหญ่ มีไฟไหม้เต็มไปหมด และมีทหารเข้ามาวุ่นวาย รวมถึงพายุอะไรสักอย่าง

    </DIR>

    พี่ภูมิ says:

    <DIR>วันไหนบ้างครับผม ของพี่วันที่ 4

    </DIR>

    พัฒนาตน พัฒนาจิต พัฒนาความคิด พัฒนาปัญญา says:

    <DIR>วันที่ 5 แต่ปลายเดือนหนักมากกว่า

    </DIR>

    พี่ภูมิ says:

    <DIR>ใช้ได้ๆๆ</DIR><DIR><TABLE class=tborder id=post1398463 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">01-08-2008, 01:38 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2191 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Little Duck<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1398463", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2008
    ข้อความ: 178
    ได้ให้อนุโมทนา: 959
    ได้รับอนุโมทนา 2,422 ครั้ง ใน 180 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 20 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1398463 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อเช้านี้ขณะสวดมนต์ และนั่งสมาธิตามปกติ ก่อนช่วงที่จะออกจากสมาธิ ได้รับสัญญาณจากระบบ สื่อสารมาว่า " ไฟ ระวังไฟ " ได้ยินสองครั้งค่ะ..</B>
    หากใครได้รับสัญญาณเดียวกัน แจ้งด้วยนะคะ เพื่ออัพเดทข้อมูลต่อไป..


    แจ้งมาเพื่อทราบ


    Little Duck ..[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B></DIR>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  20. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 829 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6458 ข่าวสดรายวัน


    ฮือฮางูชนิดใหม่จิ๋วสุดในโลก




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 3 ส.ค. เว็บไซต์ไซเอินซ์ดอตโอ อาร์จี รายงานว่านายแบลร์ เฮดจ์ นักวิทยา ศาสตร์มหาวิทยาลัยรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐ อเมริกา ค้นพบงูชนิดใหม่ที่หมู่เกาะบาร์ เบโดส เป็นงูที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ตัวเท่าเส้นสปาเกตตี ยาว 10 เซนติเมตร ตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Leptotyphlops carlae เพื่อเป็นเกียรติแก่ภรรยาที่ชื่อ คาร์ล่า แอนน์ ฮาสส์

    นายเฮดจ์และภรรยาเดินทางไปสำรวจงูในบาร์เบโดสและพบงูตัวนี้ใต้โขดหินในป่าฝั่งตะวันตกของเกาะเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2549 จากการตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วสรุปได้ว่าเป็นงูชนิดใหม่ นายเฮดจ์กล่าวด้วยว่า งูบนหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มีขนาดไม่ใหญ่ไปเลย ก็เล็กไปเลย บางชนิดมีเฉพาะเกาะแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ที่น่าศึกษามาก
    [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 411 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6458 ข่าวสดรายวัน


    ม้าน้ำยังกิน




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ม้าน้ำย่างเสียบไม้ขายอยู่ในร้านอาหารริมถนนในกรุงปักกิ่ง เป็นของกินขบเคี้ยวที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็น ในช่วงมหกรรมโอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ ที่จีนเป็นเจ้าภาพ เมื่อ 3 ส.ค.
    [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 1338 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6458 ข่าวสดรายวัน


    อินเดียย่ำกันตายนับร้อยคาวัด




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    จุดที่เกิดเหตุ</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 3 ส.ค. เกิดเหตุเหยียบกันตายหมู่ในกลุ่ม ผู้แสวงบุญที่วัดนัยนาเทวี ในเขตพิลาศปุระ รัฐหิมาจัลประเทศ ทางภาคเหนือของอินเดีย พบผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 145 ราย เป็นเด็กกว่า 40 ราย ผู้หญิง 45 ราย เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บกว่า 45 ราย ตำรวจต้องอาศัยกระเช้าลอยฟ้า และเฮลิคอปเตอร์ เข้าไปลำเลียงคนเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตออกมา เนื่องจากวัดอยู่ในเขตห่างไกลตรงปลายเนินเขาของเทือกเขาหิมาลัย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    วัดนัยนาเทวี</TD></TR></TBODY></TABLE>

    อุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่วงที่คลื่นฝูงชนหลั่งไหลไปยังวัดนัยนาเทวี วัดชื่อดังในชุมชน เพื่อสักการะพระแม่นันทาเทวี ตำรวจกล่าวว่า ทุกๆ วันตลอดเทศกาลทางศาสนานี้ มีผู้แสวงบุญมาเยือนวันละเกือบ 50,000 คน โดยวันอาทิตย์คนมีจำนวนมากขึ้นอีก และแย่งกันขึ้นไปยังศูนย์กลางของการทำพิธีตรงเนินเขาหิมาลัย ทำให้ราวบันไดหักลงมา และมีคนร่วงตกลงไปยังขั้นบันไดที่แคบและสูงชัน จนเกิดภาวะตื่นตระหนกเบียดเสียดกันหนีและกลายเป็นการเหยียบกันตาย

    "เป็นไปได้ว่าภาวะแตกตื่นเกิดจากการได้ยินว่า มีเหตุดินถล่มเกิดขึ้น และสถานการณ์แย่ลงอีกเมื่อฝูงชนแย่งกันหนีบริเวณทางเดินแคบๆ" นายซี.พี.เวอร์มา รองผู้อำนวยการเขต กล่าวถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

    รายงานระบุว่า เหตุการณ์เหยียบกันตายในกลุ่มผู้แสวงบุญของอินเดียเกิดขึ้นบ่อยครั้งตามประเพณีช่วงต่างๆ ครั้งล่าสุดเกิดที่รัฐโอริสสา เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ช่วงมีพิธีกรรมทางศาสนาฮินดู มีผู้เสียชีวิต 6 ราย
    [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผมว่าถ้าเกิดคนไทยไปวัดไปวากันอย่างข่าวข้างบนประมาณครึ่งหนึ่งมันจะดี
    มากเลยครับแต่ไม่ใช่ไปเหยียบกันตายนะจ๊ะจะบอกให้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...