ผลของการโต้ตอบธรรมที่รุนแรง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 1 ตุลาคม 2008.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    หลายๆ ท่านอาจจะมองว่า การโต้ตอบธรรมที่รุนแรงเป็นเรื่องไม่ควร ผมมีเหตุผลมาให้ท่าน พิจารณา และจะได้ประโยชน์ จากการอ่านธรรมที่โต้ตอบกัน
    การโต้ตอบธรรม มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล และ พูดตำหนิกันอย่างรุนแรงเสียด้วย ดังจะเห็นได้ว่า มีพราหมณ์ ถามพระพุทธองค์ และตำหนิพระพุทธองค์ ใครจำได้ช่วยบอกด้วยว่า อยู่ใน ตำราเล่มไหนนะ

    พราหมณ์นั้นกล่าว " เขาว่าำพระโคดมเป็นผู้ไม่อัญชลี " พูดง่ายๆว่า บอกว่า พระพุทธองค์ ไม่ไหว้ใครเลย
    พระพุทธองค์ ตรัสว่า " ถูกแล้ว หากตถาคต กระทำการอัญชลีใคร ผู้นั้นจะมีศรีษะตกไป "

    พราหมณ์นั้นกล่าว " เขาว่า พระพุทธองค์เป็นผู้ชอบประหาร " ถ้าเทียบสมัยนี้ ก็ประมาณว่า พระพุทธองค์ ท่านชอบ ประหัตประหาร เชือดเฉือน
    พระพุทธองค์กล่าวว่า " ถูกแล้ว ตถาคตเป็นผู้ชอบประหาร กิเลส "

    ก็จะเห็นว่า ในการโต้ตอบนั้น คนถามก็ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง พระพุทธองค์ ก็ย้อนกลับ ตลอด
    อีกทั้งเมื่อครั้งที่มีคนมีปัญญา ผู้หนึ่ง ท้าประลองธรรมกับพระพุทธองค์ และเขากล่าวว่า ใครก็ตามที่จะมาโต้กับเขาจะต้องประหม่าพรั่นพรึง จนเขามาปะทะวาทะกับพระพุทธองค์ พระพุทธองค์รับคำท้าและ กล่าวจน พราหมณ์นั้น เถียงไม่ออก เหงื่อแตก

    นี่จะเห็นได้ว่า พระองค์ทรง เห็นประโยชน์ ในการโต้ธรรม แม้ดุเดือด แต่ก็เป็นเรื่องน่าสรรเสริญ เพราะว่า คนอ่านเขาได้อ่าน เหตุและผลที่ต่างฝ่ายต่างโต้กันไปมา

    ดังนั้น ยิ่งในเว็บไซต์ ยิ่งดีมากกว่า เพราะสามารถเป็นอิสระในการโต้แย้งได้อย่างเต็มที่ ไม่ปิดกั้นอายุอานาม เป็นการเปิดสติปัญญาเต็มที่ จึง ควรใช้โอกาสนี้ ได้โต้ธรรมกันให้เต็มที่ไปเลย จะเกิดประโยชน์มหาศาล อย่างนึกไม่ถึงกันทีเดียว

    บางท่าน อาจจะติดมาเป็น แสนๆ ชาติ จะมาเข้าถึงธรรมอันยอดเยี่ยมก็ด้วยการโต้ธรรมกันนี่แหละ

    อย่าไปหยิบ พระสูตรที่กล่าวถึงสัมมาวาจา มาปนกัน เพราะคำว่า สัมมาวาจา ที่ว่า ไม่พูดส่อเสียด นั้น มุ่งเน้นไปที่ การเจรจาซึ่งหน้า อันไม่เกี่ยวกับธรรม เช่นนักเลงคุยกัน เพื่อนคยกันสัพเพเหระ แล้วส่อเสียดกัน

    แต่นี่ หากใครถกธรรมกัน แม้จะเสียดสีกัน ก็ไม่ถือว่า เป็นเรื่องบาป ไปเสียทีเดียว
    จึงขอรณรงค์ ให้ บรรยากาศ แห่งครั้งพุทธกาล กลับคืนมาสู่ พุทธศักราช 2551
    ที่ ยุคนั้นเต็มไปด้วยนักปราชญ์ แม้การศึกษา ก็มุ่งเน้นไปที่ธรรมะ อันเป็นแก่นสารของชีวิต มีมานพ พราหมณ์ต่างๆ มากมาย ที่มีสติปัญญา ไปทางไหนก็มีแต่คุยธรรมะกัน แม้เถียงกัน ก็เถียงธรรมะกัน

    มีสำนักต่างๆ ที่ค้นคว้าหาธรรมกัน อย่างถึงพริกถึงขิง จนมาถึงที่สุด คือ สำนักแห่ง พระสมณโคดม ที่สามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด
    แต่กว่าที่พระพุทธองค์ จะประกาศศาสนาได้เป็น หลักเป็นฐาน ท่านต้องโดนรังเกียจ โดนประณาม โดนด่า มากมายเท่าไร แต่ ท่านทรงใช้เหตุและผล บางครั้งก็ต้องใช้คำโต้แย้ง บางครั้งก็พูดรุนแรงเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้คิด บางครั้งท่าน ก็ใช้ ฤทธิ์ เพื่อชนะมาร

    การที่ท่านมีเจโตปริยญาณ และ ปาฏิหารย์ ทางเทศนาสั่งสอน ก็ไม่ได้ใช้สำหรับคนได้ทุกคน ดังนั้น การถกธรรม เพื่อนำไปสู่ปัญญา จึงเป็นเรื่องประเสริฐอย่างยิ่ง มากกว่า กรรม ในวาจา ที่หลายคนกลัวกัน
     
  2. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    ที่คุณขันธ์พูดมานั้นถูกต้องจริง ๆ การถกเถียงกันนั้น ถ้าเป็นการเถียงกันเพื่อให้ได้ประโยชน์ย่อมเป็นเรื่องดีแน่นอน
    ดีกว่าพวกที่มาตั้งกระทู้และตอบเพียงเพื่อหาประโยชน์ใส่ตนเช่นทุกวันนี้ แถมพอมีใครพูดว่าก็มีคนมาปกป้อง ยิ่งกว่าขอบปกป้องเสียอีก โฮะ โฮะ
    ไม่ทราบว่าได้รับผลประโยชน์อะไรกันถึงได้ปกป้องกันนักหนา...
    ทุกวันนี้ก็เลยเบื่อพอใครถามก็เลยบอกว่าอ่านแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ เหอะเพราะว่าตอบไปก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมา ทั้งตัวเราและคนอื่น (ที่จะต้องเสียผลประโยชน์) เพราะว่าถูกเผยความจริงออกมาแล้วรับไม่ได้
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ถ้าเป็นการชี้ทางออกให้สัตว์ ก็เป็นเรื่องดี ^-^


    ...................................................................

    ข้างล่างเกรงว่า คุณคนกลับใจ จะจำคนผิดนะครับ ว่าง ๆ ก็แก้ข่าวให้ด้วยนะครับ ^-^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2008
  4. คนกลับใจ

    คนกลับใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +397
    แต่ถ้าเป็นไปเพื่อประโยชน์ตนโดยไม่รับผิดชอบต่อความถูกผิดละ จำได้ว่าชื่อนี้ jinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT> ได้นำพระปลอมออกมาจำหน่ายในเวบพระเครื่อง กรรมท่านได้กระทำแล้วท่านสำนึกบ้างเปล่า
    ถ้านึกไม่ออก ยังจำพระผงที่บอกว่ามีรูปคล้ายร.5ได้หรือไม่

    แก้ไขข้อมูลและขอภัยคุณjinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT>
    จากข้อความข้างบนของข้าพเจ้าที่ได้กล่าวหาคุณjinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT> นั้น ตอนนี้ผมได้ไล่เช็คข้อมูลอย่างละเอียดแล้วjinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT> เป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องจริง ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆเลยกับการข้อกล่าวหาดังกล่าว ที่จริงชื่อนั้นเป็นjanny29 ครับ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขออภัยคุณjinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT> ที่ได้ในความเข้าใจผิด กรรมใดๆที่ข้าพเจ้าได้ทำผิดลงไปท่านใดที่ได้กดอนุโมทนาให้แก่คนกลับใจในข้อความกล่าวหานั้นจงอย่าได้มีผลใดๆเลย และขอให้คุณjinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT> ได้โปรดยกโทษและให้อภัยแก่กรรมที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่านในครั้งนี้ด้วย

    ขอให้คุณjinny95<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1545291", true); </SCRIPT> และครอบครัวจงมีแต่ความสุขความเจริญทั้งในทางโลกและทางธรรม ขอให้มีความก้าวหน้าในธรรมได้ดวงตาเห็นธรรมสู่พระนิพพานในเร็วพลันเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2008
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรื่องใดใด ในอดีต เป็นแค่ภาพลวงตา สิ่งที่เห็นอาจใช่ หรือไม่ใช่

    อาจเป็นเรื่องการเข้าใจผิด หรือเข้าใจไม่ตรงกัน

    อย่าเอาอดีต ที่ไม่รู้ชัดว่าจริงหรือไม่จริง มาตัดสินคนในปัจจุบัน

    ดูที่เจตนาของการกระทำในปัจจุบัน เป็นสำคัญ

    หากเป็นเรื่องจริงแล้วปัจจุบันสำนึกผิดจากใจแล้ว ก็ควรอโหสิกรรมแก่กันและกัน

    แล้วออกเดินทางหาความจริง

    หากเป็นเรื่องไม่จริง ก็เป็นเรื่องของ คนไม่รู้ ทำแต่กรรม ก็ควรอโหสิกรรม ให้คนไม่รู้

    ในโลกนี้มีความจริงแท้อยู่ 2 อย่าง คือ รู้ กับ ไม่รู้

    ทุกคนล้วนเคยทำผิด เดินผิดทาง เพราะ ไม่รู้ มาก่อน

    เมื่อ รู้ แล้ว ย่อมเกิดเป็นมหากุศล ที่ควรร่วม อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2008
  6. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    พระพุทธองค์เป็นผู้สูง เป็นเอก เป็นผู้ไม่มีผู้ใดเทียบ
    ทรงไม่โต้ธรรมกับใครด้วยอารมณ์
    และไม่เสียเวลากับผู้ที่ไม่มีประโยชน์




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="86%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>00520 อดทนต่อถ้อยคำได้



    </TD></TR><TR><TD>จริงอย่างนั้น ติสสะ เธอว่าเขาข้างเดียว

    แต่เธอไม่อดทนต่อถ้อยคำ

    ข้อที่เธอว่าเขาข้างเดียว ไม่อดทนต่อถ้อยคำนั้น
    ไม่สมควรแก่เธอผู้เป็นกุลบุตร

    ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา
    แต่ข้อที่เธอว่าเขาด้วย อดทนต่อถ้อยคำได้ด้วย

    นั่นแล สมควรแก่เธอผู้เป็นกุลบุตร

    ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา
    พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒
    หน้าที่ 774 ติสสสูตร​



    </TD></TR><TR><TD align=right>ธรรมเตือนใจวันที่ : 12-08-2551 จากเว็บบ้านธรรมะ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เต้าเจี้ยว นิยาม คำว่า ผู้ที่ไม่มีประโยชน์หน่อย เอาอะไรมาชี้วัดหรือ
    และ ที่สำคัญ พระพุทธองค์ ทรงเมตตาเสมอกันหมด แม้เทวทัต คุณจะมีคำตอบกับคำว่า ไม่มีประโยชน์อย่างไร ในเมื่อเทวทัต สร้างโทษเสียด้วยซ้ำ


     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา

    เมื่อถึงเวลา เมื่อมีธรรม จึงควรให้ธรรม

    ทำด้วยรู้ และมีเจตนาดี จึงเรียกว่ามีธรรม

    ทำด้วยไม่รู้ ถึงมีเจตนาดี หรือไม่มีเจตนาดี ก็เรียกว่าไม่มีธรรม มีแต่กรรม

    (นอกเหนือจากนี้ อาจทำด้วยมีความคิดปรารถนาลามก ซึ่งเราไม่มีความเห็น)
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ไหนลองว่า มาซิว่า อะไรจะเป็นตัวชี้วัดว่า ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลานี้เอาอะไรมาตัดสิน
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    มีอีกบทหนึ่งผมชอบมาก อาจจะจำผิดในรายละเอียดแต่ความรวมแล้วถูกต้องก็คือ

    พราหมณ์ถามว่า พระโคดมไม่ไหว้ใครเลย ทั้งๆที่ คนมีอายุมากกว่า

    พระพุทธองค์กล่าวว่า ไข่ไก่ ทั้งหมดเธอจะเรียกตัวไหนว่า เป็นตัวพี่
    ( ขอโทษนะครับ ถ้าเป็นผมพูดแบบนี้ คนก็คงจะหาว่าผมกวน แต่พระพุทธองค์ทรงพูด หนักกว่าผมท่านใช้อุปมาตลอดเพื่อให้เห็นภาพ )

    พราหมณ์ตอบว่า ตัวที่กระเทาะเปลือกไข่ออกมาก่อน

    ตถาคตก็เช่นเดียวกัน เจาะเปลือกแห่งอวิชชามาก่อนใคร ดังนั้น พระพุทธองค์ ควรที่จะถือได้ว่า เป็นพี่คนแรก อาวุโสที่สุด
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ขออนุญาต ไปทำธุระก่อน เดี๋ยวจะมาโต้ธรรม ด้วยใหม่
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ใช้ความรู้สึก เมื่อ รู้ตัว

    เมื่อรู้ตัว ว่ามีเจตนาดี

    เมื่อรู้ตัว ว่า รู้ดี รู้ชั่ว รู้ถูก รู้ผิด รู้ควร และไม่ควร

    เมื่อรู้ตัว ว่าทำไปแล้ว ผลจะดี หรือไม่ดี ก็ยอมรับผลแห่งกรรม

    เมื่อรู้ตัวว่า รู้จักพระธรรม

    เมื่อรู้ตัวว่า ไม่เสียใจในการกระทำกรรม(อันนี้หวาดเสียว ถ้าไม่รู้ดี รู้ชั่ว ก็... น่ากลัว มั่กๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2008
  13. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    ผู้ไม่มีประโยชน์ คือผู้ไม่สามารถเข้าถึงธรรมได้
    พระเทวทัต เป็นถึง พระปัจเจกพุทธะ (เรียกว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้าอีกประเภทนึงทีเดียว) อย่าลืมในด้านคุณงามความดีของท่านที่ทำไว้มากด้วย

    ...หลายคนอวดดี กล่าวโทษพระพุทธองค์ แต่เมื่อพระองค์ให้สติ สอนธรรม แล้วกลับเข้าถึงธรรมได้ แม้นจะต่างกลับผู้ที่นอบน้อม แต่บุคคลประเภทนี้ก็ยังว่ามีประโยชน์ เพราะมีเชื้อปัญญาอยู่
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ข้าพเจ้าไม่รู้ตัว ว่าเป็นคนใจดำ (ที่รู้เพราะสามีบอกปราจำ จนจำได้ขึ้นใจ แต่ก็ยังไม่รู้ตัว)

    ขอได้โปรด อภัยให้ข้าพเจ้าด้วย
     
  15. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    การกล่าวธรรมไม่มีประโยชน์เลย ถ้าไม่สามารถชักนำสติกลับมา
    หรือทำให้จิตตื่นขึ้น เข้าถึงปัญญาได้
    จิตที่ตื่นตัว จิตที่เที่ยง จึงกล่าวธรรมไม่บิดพลิ้ว

    มิเช่นนั้น การนำธรรมมาแค่การทะเลาะวิวาท มีแต่สร้างเวรผูกเวรกันไป
    ด้วยธรรมที่มาแต่กิเลส ปากพูดได้ แต่ทำได้อย่างที่กล่าวมาหรือไม่


    ใครกันที่ปากตรงกับใจ อย่างพระอรหันต์

    ;welcome2
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พูดถึงเรื่องใจดำ เมื่อวานตอนจะนอน ลูกชายนายตี๋เล็ก 4 ขวบ ร้องไห้เพราะเราไม่สนใจ

    แบบว่า เราบอกให้นอน ก็ไม่ยอมนอน 5 ทุ่มแระ เราก็ปล่อยเลยอยากเล่นก็เล่นไป แม่จะนอน

    เค้าก็เล่นไปคนเดียวนะ บนที่นอน เอารถของเล่นมาเทเต็มที่นอน เล่นอยู่คนเดียว

    เล่นไปซักพัก เขาร้องไห้มั่ง หัวเราะมั่ง

    เราสงสารเลยเอามากอด เขาก็เล่นไปเงียบๆ ไม่ร้องไห้แระ เราก็กอดไว้เฉยๆ

    ซักพัก ก็หลับไปเอง หลับก่อนเราอีกนะ

    สงสัยเพราะเค้า รู้สึก ได้ถึงใจ ว่าเราใจดำ ไม่สนใจไยดี เราเองก็เพิ่งจะนึกออก
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การสร้าง ทุกอย่าง ต้องลงทุน

    ถ้าไม่ยอมลงทุน ก็มีแต่ กินทุน เท่าทุน

    แต่การลงทุนก็ยังมี ขาดทุน และกำไร

    การทำสิ่งใด ก็อยู่ที่เรา สุขใจ พอใจ เลือกสิ่งใดให้ตัวเอง

    เลือกแล้ว ก็ยอมรับผล ก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจ

    บางคนยอมเป็นกระทั่ง มาร แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะยอมรับผลของการกระทำ
     
  18. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    :)

    อนุโมทนาครับคุณขวัญ

    เหมือนคนไปส่งการบ้านแล้ว

    นะเอย นะเอย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2008
  19. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    สังเกตจากคนรอบข้างเทียบกับเมื่อก่อน กับวันนี้ว่าต่างกันมั้ย หากคนรอบข้าง เค้าหงุดหงิด ยังร้อนเป็นไฟหล่ะก็ กิเลศของเราก็ยังไม่เบาบางพอ เพราะเมื่อกิเลศเบาบาง ย่อมดึงดูดความสนใจจากผู้คนรอบข้าง เค้าจะเห็นว่าเราวันก่อน กับวันนี้มันต่างกันเช่นไร เมื่อเราเย็น คนรอบข้างก็จะเย็นตาม มันเป็นเรื่องของกระแส ความเบา และสบายที่แผ่ปกคลุมคนรอบข้าง เหมือนดั่งที่เห็นรัศมี ความเมตตาของพระพุทธองค์แผ่ปกคลุมได้กว้างไกล ดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็นได้ มันเป็นรัศมีแห่งความดีงาม
    ;aa22<O:p</O:p
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ใครไปหว่า ไวจริงๆ ถึงยังดิ้นแต่ก็โอเค

    สงสัยกามนิตหนุ่มกลับชาติมาเกิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...