ผลของการโต้ตอบธรรมที่รุนแรง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 1 ตุลาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    รุ้ไหม สันโดษ ชอบไปห้องจิตวิทยา เพราะ เราพูดเรื่องของ พวกเรา

    เราไม่ดูจิต คนอื่น เราไม่ส่องจิตคนอื่น เราไม่วุ่นวาย วิถีชีวิตคนอื่น

    เเละ เราก็ รู้ว่า จิตเรา สงบเเละมีความสุข

    เรา ยินดี กับคนที่ไม่สอน คนอื่น ถามเมื่อสงสัย ตอบเมื่อ อยากตอบ

    เเต่ ห้องนี้ ขอพูดเลยว่า ไม่เปลี่ยนจริงๆ
     
  2. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เมื่อเขา ไม่ทุกข์ จะให้ เขา ดับอะไร?
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เราขอโทษนะ เราไม่ชอบ เคอีกเเล้ว เราคงไม่คุยด้วยเเล้ว เพราะ เรา อึดอัด
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    มาแอบดูสาว ๆ สนทนาธรรมกัน ดีนะครับ อายุยังไม่เยอะก็ให้ความสนใจในธรรมะ เพราะมีโอกาสมากกว่าไปศึกษาตอนอายุเยอะ ศึกษาก่อนก็ได้เปรียบ ยิ่งรู้ ยิ่งเท่าทัน ยิ่งปล่อยวาง ชาติภพย่อมสั้นลง ^-^
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สงสัยจะเจอคอนเวอร์ส์ ซะแร้น แหะ แหะ
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีคนเล่าให้เราฟัง แต่ก็อยากมาเล่าให้เพื่อนที่นี่ฟัง

    จากคนเดินทางไกลคนหนึ่ง

    เขา(คนโน้นนอกเว็บบอร์ดไม่ใช่คนในนี้นะจ๊ะ) บอกว่ามีทางเดินไกลอยู่สองแบบ

    ที่เขามีประสบการณ์เดินทางผ่านมาและเลือกที่จะเดินไป เผื่อเป็นข้อมูลให้คนอื่นได้

    หนึ่ง ทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ สนุกตื่นเต้น เร้าใจ ง่ายดาย แต่เดินไปเรื่อยๆ

    ยิ่งเจอทุกข์ แตกลูกแตกหลานมากมาย แถมยิ่งสูง หนามยิ่งเยอะ ยิ่งทำยิ่งยาก

    ยิ่งทำยิ่งมีแต่ความทุกข์ จนวันหนึ่งเขารู้ว่า ถ้าเดินทางนี้ต่ออาจไม่ใช่ทางที่เขาหวัง

    เหมือนทำงานเพื่อซื้อบ้านหลังหนึ่ง โดยให้อยู่ไปก่อนยืมเงินคนอื่นมาซื้อ

    แล้วจ่ายงวดเดียวเมื่อปลายมือ

    ถ้าสำเร็จได้ ก็ได้ชื่นชมผลงาน ถ้าไม่สำเร็จก็ล้มละลายไม่เหลือแม้แต่จิตวิญญาณ

    อาจต้องเป็นทาสคนให้ยืมของใช้ตลอดไป เมื่อรู้สึกตัวได้ว่าไม่ใช่ทางที่จะทำให้สำเร็จได้

    ก็หยุดก่อนสายแต่ต้องมีรายการชดใช้อยู่ตามฐานะที่ยืมเขามา ก็ต้องอดทนชดใช้ไป

    สอง อีกทางหนึ่งเหมือนโรยด้วยหนาม แต่ยิ่งเดิน ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งเดินยิ่งพบความสุข

    ใช้แรงกาย ของตนเอง เหมือนทะยอยส่งทีละงวด หาเองใช้เอง ทำทีละขั้น

    ไม่ต้องพึ่งคนอื่น มีแต่ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

    หวังว่าเพื่อนๆ จะเลือกได้ถูกทางนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2008
  7. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,329
    แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วยจิตใจที่อ่อนโยน...ทำใจให้เป็นกลางๆ...สบายใจและบางครั้งก็ชื่นใจมากด้วยค่ะ...ขออนุโมทนาสาธุ
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ภาษาธรรมบางทีก็เข้าใจยาก เอา fw mail เก่า ๆ ไปอ่านแล้วกัน

    1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง
    The most formidable enemy in ones life is oneself

    2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี
    The biggest failure in ones life is self-important.

    3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง
    The unwiset act in ones life is deceit.

    4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา
    The most miserable act in ones life is jealousy.

    5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง
    The gravest mistake in ones life is self-abundonment.

    6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตของเรา คือ การหลอกตัวเอง
    The most sinful act in ones life is self-deception.

    7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การถดถอยของตัวเอง
    The most pitiful temperament in ones life is self-abasement.

    8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะวิริยะ
    The most admirable spirit in one's life is perserverance.

    9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง
    The most complete bankruptcy in one�s life is despair.

    10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
    The greatest wealth in ones life is health.

    11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ
    The heaviest debt in ones life is a debt gratitide for
    others help.

    12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ การให้อภัยและความเมตตา
    The groundest gift in ones life is forgiveness and kindness,

    13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล
    The biggest shortcoming in ones life is permissism on unreason.

    14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน
    The greatest gratification in ones life is alms giving

    เข้าใจง่าย แต่ทำใจรับยาก ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า ^-^
     
  9. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    ไม่ได้เข้ามานาน งานยุ่งจนหัวปั่น
    แวะเข้ามาทักทายทุกคนครับ
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เขาทักทายคุณมั้งคะ

    คุณลีลาเคยลองรู้สึกถึงเขาดูไม๊คะ

    ว่าเขาชอบที่คุณทำอย่างนี้ รึป่าว ง่ะ
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อาการวูบวาบปิติ และก่อนที่จิตจะนิ่งสงบ

    คนนี้อะ คนที่นิ่งสงบเนี่ย เคยรู้สึกถึงเขามั่งไม๊ค้า

    เคยแต่ทำให้เขาสงบ อย่างเดียวเลยหรอค้า
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    สันโดษ นี่ มีจิตที่ยังห่างไกลกับความจริงนะ
    ยังหมกมุ่นกับ สมมติอยู่มาก ยังสับสนในชีวิตอยู่มาก

    ถ้าจิตมีกิเลสที่เบาบางแล้ว ใครพูดอะไรมา เราจะยินดีรับฟัง และ ไม่มีปฏิกิริยา
    แต่หากว่า จิตใจเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา มันจะรับไม่ค่อยได้ เพราะไม่อยากฟัง เนื่องจากตัณหามันผลักออกอยู่แล้ว แต่มันมักจะอยากพูดเสียมากกว่า

    ลองไปตั้งกระทู้ถามสิ แบบที่สันโดษเขาเคยทำ ที่ทำนายคนนั้นคนนี้ นั่นแหละ ทำได้ทั้งวัน แต่ ถ้าใครลองไปพูดสิว่า สันโดษควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ รับรองคุยได้เดี๋ยวเดียว

    ก็ คนอย่างนี้ก็ต้องปล่อยไป ให้ทุกข์ให้เข็ด ประเภทเดียวกับขจรนั่น ไม่ผิดกันเท่าไร
    ผมไม่ได้เข้าข้างใครนะ แต่บอกตรงๆ ว่า สันโดษเดินผิดทาง และ ทางนั้นเป็นทางที่เรียบง่ายแต่พาลงเหว ส่วนทางนี้ที่เพื่อนๆ คุยกันอยู่นี้เป็นทางที่วกวนแต่พาขึ้นสวรรค์ ดังตัวผมที่ปราศจากทุกข์หนัก และเป็นพยานได้แล้ว คนเป็นพยานของจริงยืนอยู่ตรงนี้ ดันไม่สนใจ แต่ไป สนเรื่องอะไรไม่รู้

    เปิดใจให้มาก และจะบอกให้ว่าที่มันฟังไม่ได้เพราะกรรมมันปิด มารมันปิด พอฟังของจริงเมื่อไร มันจะรำคาญ เบื่อ หนักหัว นั่นแหละ
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีผู้ชายคนหนึ่งเขาพูดว่า

    เขาอยากมีเมตตา เขาปรารถนาให้สรรพสัตว์รักเขา

    เขาปรารถนาว่าถ้าเดินไปทางไหน จะมีหมาเดินตามเป็นพรวน

    เหมือนท่านผู้เฒ่าฯ (จากบันทึกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    เขาจะเพียรด้วยตัวเอง เพื่อสร้างเมตตาบารมี

    เราก็ช่วยได้อย่างเดียว คือ ดู

    และผู้ชายคนนั้น เขาปรารถนา

    อยากสัมผัส ความรู้สึก ซาบซึ้ง ในรสพระธรรม
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ก็ รู้ ซึ้ง แล้ว ว่า ควร ดู อย่าง เดว อย่า ไป ช่วย คิด

    มิฉะนั้น จะแกะไม่ออก อะดิ
     
  15. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คุณลีลาวดี

    หลังจากที่ผมเล่าเรื่องการถอดจิต วิถีจิตการถอดจิต เหตุปัจจัยในกระทู้ mamboo ก็ไป
    เจอกระทู้คุณ ชัชวาล เพ่งวัฒน ไม่ต้องบอกนะว่า ชาวลานธรรม ท่านหนึ่ง เป็นนักเล่น
    ชานแถมเลี้ยง....... เขาเล่าวิถีจิตการทำสมาธิเพื่อถอดจิตเหมือนกัน แล้วเขาให้หัวใจ
    การทำสมาธิมาตัวหนึ่ง เรียก ปัญจขณวสี ก็ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า แต่มันคือ จุดที่เกิด
    ปิติบ่อยๆ ของคุณลีลาวดี ก็คงริมฝีปากกระมัง แต่ของผมจะเป็นตรงกระหม่อม พอเกิด
    ขึ้นไม่ได้ให้สนใจตรงนั้น แต่เพียงรู้สึกว่าเกิด แล้วเหมือนจะต้องน้อมธรรมที่เรียก
    เอกัคคตา ผมก็เลยืมาตะกี้ ก็อืม ใช้ได้ รู้สึกมันเข้าสมาธิไปนิ่งได้เลย หากนมสิการ
    เอกัคคตา ได้ แต่ไม่รู้ว่าผมทำถูกตัวเปล่านะ เพราะดูไม่ออกว่ามีองค์ฌาณอะไรบ้าง
    เห็นแต่นิมิตมันพาหลงไปเรื่อยๆ แป่ว !!!

    อ้อ คุณชัชวาล เริ่มมาโพสการทำสมาธิของตนในห้องพุทธศาสนา แต่มีห้องย่อย เรา
    จำไม่ได้ละ ไปค้นเอาเอง ตอนนี้ติดเฉย ซึมออกมาจากสมาธิ แปลว่า เผลอไปทำ
    มิจฉาสมาธิมาเสียแล้ว หงอย !!!
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ก็แสดงว่า แทนที่จะได้สมาธิ มันไปตกภวังค์นะสิ กึ่งภวังค์มันก็ไม่คิดอะไร แต่มันก็เหมือนนิ่งแต่ ไม่ตื่น
    เพราะไม่ยึด สิ่งบริกรรมให้ดี และ ขาดสติ สติพร่อง ก็พยายามนั่งแล้วให้มันตื่น มันรู้ตัว
    ไม่ใช่ไหลไป
     
  17. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    สาธุ น้าขันธ์ ไว้แก้ใหม่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2008
  18. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ตอนนมสิการเอกัคคตา หรือ เห็นปิติ แล้วน้อมสมาธิ

    ถ้าไปน้อม จุดสัมผัส อันนี้ถลำเข้าภวังค์ เห็นนิมิต ไปเรื่อยๆได้ง่าย ( มิจฉาสมาธิ )

    ถ้าไปน้อม กองกสิณ รู้สึกไม่ชัด ได้บ้างไม่ได้บ้าง สงสัยผิดช่อง ( มิจฉาสมาธิ )

    ถ้าน้อมออกมาที่ อานาปานสติ ลมเข้ารู้ ลมออกรู้ อันนี้ค่อยกลับมาเป็นสัมมาสมาธิ
    ได้แบบแจ่มๆ เหมือนการเจริญสติดูจิตดูกายไป เกิดการทรงจิตทีฐาน

    แหะ แหะ กำลังวิจัยสมาธิและ เพราะ เรื่องการเจริญสติปัฏฐาน รู้สึกว่าจะมีทายาท
    อสูรแล้ว

    Dr.Kwan
     
  19. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    สาธุ ท่านบุคคลทั่วไป 3 คน
     
  20. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    กลางกระหม่อมหมุน ๆ เข้าไป ก็ได้ ผ่อนคลาย รู้สึกเหมือนซักฟอกธาตุขันธ์ กลางหว่างคิ้ว หมุน ๆ เข้าไป ก็เปิดตาสาม เห็นโลกอื่น มันไม่ธรรมดาตรงไหน หรือจะเอาตรงคอ ตรงอก สะดือ ท้องน้อย พลังที่เหมือนจะวิเศษ

    หรือจะเอาญาน มันก็ได้พักจิต แล้วพอออกจากญานล่ะ (กรณีสังโยชน์เบื้องต่ำไม่สิ้น)

    ไม่เห็นทุกข์มันจะดับเลย ^-^
     

แชร์หน้านี้

Loading...