เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 26 ธันวาคม 2008.

  1. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    สาธุฯ อนุโมทนาด้วยค่ะ ^_^
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ไร้สาระ

    ..................................................................................................

    ดีๆ แบบนี้ใช้ได้ คือ ละวางได้ ลดละได้ แต่ติงต๊องไปหน่อย

    อนุโมทนาสาธุ ด้วย อานิสงค์มาก




     
  3. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    สาธุ อนุโมทนาด้วยคับ... สาธุ<label for="rb_iconid_31">[​IMG]</label>
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนา สาธุ เจ้าค่ะ
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรา ได้มาคุยกันเช่นนี้ แต่อดีตก็เคยมีปรากฎแบบนี้
    ในอดีต ก็เคยปรากฎการโต้แย้งแบบนี้
    ผมรู้สึกเอานะ ว่ามันเป็นเช่นนั้น

    กรรม และ วัฎสงสาร นี้ น่าค้นหา น่าอัศจรรย์ และ น่ากลัว
     
  6. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ลูกสมุนก็ต้องเป็นลูกสมุน
    จะให้เป็นหัวหน้าได้ยังไง
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณขันธ์แปลกคนนะครับ ใช้ความรู้สึกคาดเดาสิ่งต่างๆแม้แต่ธรรมะ
    ผมถึงไม่แปลกใจเลยที่เห็นคุณพูดหนะทำไมถึงขัดกับหลักเหตุผล?
    เพราะใช้ความรู้สึกเดาสวดนี่เอง(ผิดถูกช่างมัน)

    คุณรู้มั้ยครับว่า ในขณะปฏิบัติที่เพ่งดูลมหายใจเข้าก็รู้-ออกก็รู้นั้น
    อย่าให้ความรู้สึกมาหลอก? ความรู้สึกที่ปรากฏเป็นภาพนิมิตเชื่อได้ที่ไหน
    ในพุทธศาสนาของจอมศาสดาไม่มีตรงไหนเลยนะครับ
    ที่ใช้ความรู้สึกมาสอนธรรมแก่พุทธสาวก
    ใช่คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่...

    ผมหละยอมใจคุณจริงๆเลย สอนมาได้ให้ค้นหา กรรมและวัฏสงสาร
    ทุกวันนี้ที่เราต้องเวียนว่ายเข้าไปภพน้อยใหญ่ต่างๆเพราะกิเลส กรรม วิบาก
    ยังไม่พออีกหรือครับ??? ยังจะไปค้นหามันอีกทำไม?
    สิ่งที่น่าค้นหานั้น น่าจะหาสิ่งที่เป็นเหตุให้ต้องเข้ามาในวัฏฏะคือกิเลส กรรม วิบาก....

    ;aa24
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>นิวรณ์*, ธรรมภูต </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อะจึ๋ย ผมปล่าวหือคร้าบ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]
     
  11. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    เห็นด้วยคับ [​IMG]
    ...ถ้ายังไม่พ้นวัฏฏะ ก็จะหมุนวนตามแต่บุพกรรมที่เคยเกี่ยวข้องกันมา..
    ผมเชื่อเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บางคนเจอหน้ารู้สึกว่าดี มีความรู้สึกดีๆให้กัน..แต่บางคนเห็นหน้าก็ไม่ถูกชะตาซะแระ[​IMG]
    ...แต่เราผู้ปฏิบัติธรรม ย่อมเปลี่ยนทุกอย่างได้ด้วยปัจจุบันกรรม[​IMG]..สาธุ

    [​IMG] เป็นความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณะญาณในการอ่าน [​IMG]
     
  12. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    นึกอะไรได้ก็ลองคุยแลกเปลี่ยนกันดูคับ..[​IMG]

    [​IMG]อันไหนไม่เข้าใจ..ก็ยิ่งต้องกล่าวออกมาคับ[​IMG]

    เต็มที่เลยคับ ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2009
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ดีที่เห็น แต่ไม่ดีที่เป็นเช่นนั้น

    ที่ว่าดีที่เห็นนี้แสดงว่า เริ่มมีการสังเกตุความจริงที่ละเอียดขึ้น คือ เริ่มเห็นว่าทำไมจิตใจรู้สึกแบบนั้นแบบนี้

    ไม่ดีที่เป็น หมายความว่า เราควรจะเห็นตรงๆ มากกว่าถูกล่อลวงด้วย ภาพ

    เช่นคำพูดเป็นธรรมอย่างไร ก็ ควรเอาธรรม แต่ไม่ควรเอาความรู้สึกว่า คนนั้นคนนี้พูดแบบนั้นแบบนี้ รู้สึกอย่างไร แบบนี้ไม่ควร หรือ อาจจะมีได้แต่ก็ให้หันกลับมามองที่ธรรมตรงๆ

    ก็ในชีวิตคนก็เป็นแบบนี้ คือ สังเกตุสิ่งที่มันเป็นตรงๆ อย่าไปเอาสิ่งที่ไม่เกี่ยวมาบัง หรือบิดเบือนทำให้สิ่งตรงๆ นั้นเบนไป
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    นั่นแหละ ต้นจิตคิด จะเห็นว่าไม่ใช่คิด คำพูดยังไม่ขึ้น มันเป็นความรู้สึก

    เอาอันนั้นแหละ ในการเห็นธรรม เรียกว่า รู้สภาวะธรรม

    มันจะคนละเรื่องกับ คิด พิจารณา แค่รู้สึก มันก็ซึ้ง เข้าใจ เข้าใจคือมัน
    เข้าสู่ใจ ไม่ใช่อ่านแล้วเข้าใจแบบเข้าสมอง

    ต่อไป จะเกิดปัญหา คือ เราจะควานหาตัวนี้ โดยลืมรู้สึกว่า กำลังควานหา

    พอรู้สึก รู้ทัน ก็ตื่น เรียบร้อย

    ก็ใช้รู้สึกตัวนี้นี่แหละ ทำการรู้ ทำการจดจำ มันจะเป็นสิ่งที่จิตเขาจำ ไม่ใช่เราจำ

    พ้นการควบคุมของเรา เป็นอนัตตาธรรม โดยแท้ และเรียนแบบของจริง ตามความเป็นจริง
    เพราะพ้นการสมมติเข้าไปเกี่ยว เข้าไปยุ่งโดยดุษฎี ;aa13
     
  15. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    คับ..อย่างที่บอกมาก็มีส่วนคับ เพราะตาเป็นประตูหนึ่งที่ปรุ่งแต่งได้เยอะยิ่งเราอ่านข้อความ ความรู้สึกก็ส่งตรงถึงใจแหละคับ จิตก็ปรุ่งต่อเป็นธรรมดา ที่จะออกมาในรูปของความรู้สึก ...

    แต่ที่แน่ๆ ในส่วนของคลื่นจิตมีผลมากก่าคับ (ส่วนตัวนะ)คนจิตคิดบวกคิดลบ จะมีแรงส่งออกมา เราจึงสัมผัสได้...

    ที่บอกว่ามะก่อนไม่เคยสัมผัส เพราะสติ ที่ไม่ได้ฝึก เรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะไม่ได้สนใจ(มันเป็นส่วนปลีกย่อยอ่ะนะ) จิตจะรับรู้ตัวที่ปรุ่งเสร็จแล้วมากก่า แต่พอฝึกสติ จิตก็ละเอียดขึ้น ประกอบกะความสนใจในรายละเอียดก็เลยเห็นรายละเอียดมากขึ้นอ่ะคับ...

    ดีแล้วนะ ที่เห็นอ่ะ...พิจารณาไปเรื่อยๆ...ไม่ต้องเชื่อผมอ่ะคับ ดูเอาในจิตของตนเองเลยคับ...นั่นแหละของจริง
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สติ มันเกิดได้ขณะจิตเดียว และเนื่องจากไม่เคยภาวนาเจริญ สติ ตัวนี้
    มันจึงไม่ตั้งมั่นเกิดไม่ต่อเนื่อง

    แต่ที่คุณเริ่มเห็นมันเพราะหัดสังเกต หัดดู จนกระทั่งรูปของการเปลี่ยน
    อารมณ์เดิมๆ มันเกิดขึ้น แล้วจิตเขาจดจำได้ สติจึงเกิด โดยที่เราไม่ได้
    เกี่ยวข้อง

    เราจึงเห็นว่า สติมันเกิดเอง เป็น อสังขาริกัง เราไม่ใช่คนทำให้มันเกิด มันเกิด
    แล้วก็รักษาไม่ได้ แล้วก็ดูไม่ออกด้วยว่า มายังไง ไปอย่างไร

    แต่เราบอกได้แค่ว่า มันมีเหตุใกล้อะไรสักอย่างที่ทำให้เกิด

    เราจึงต้องหมั่นภาวนา คอยระลึกรู้สภาวะ ความรู้สึกช่วยไปก่อน
    จนกระทั่ง สติ เขาเกิดจริงๆ เพราะเกิด ถิรสัญญา ความเสถียรใน
    การจดจำสภาวะธรรม

    คนอื่นที่เขารู้สึกได้ละเอียด เพราะเขาคุ้นเคยกับการรู้สึก แต่หลายคน
    รู้สึกแล้ว สติ มันเกิดแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เพราะจะทำให้มันเกิดอีก
    ก็ทำไม่ได้ แต่พระพุทธองค์ก็ชี้ตัว สติ ตัวนี้แหละที่ใช้ในการภาวนาดูสภาวะ
    ธรรม ดูรูปนาม

    เมื่อรู้จักรสธรรมของ สติ ตัวนี้แล้ว หน้าที่เราจึงทำได้แค่สร้างเหตุใกล้
    คือ คอยรู้สึกการมีอยู่ของกาย(ธาตุ) การมีอยู่ขอใจ(อารมณ์) พอรู้ได้
    เนืองๆ ได้ตั้งมั่น ก็ค่อยเจริญปัญญาโดยเอา สติ ตัวที่ตั้งมั่นมาระลึกดู
    สภาวะที่เรียกว่า ลักขณูปณิชฌาณ หรือ ดูไตรลักษณ์นั้นเอง
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คนที่น่าอิจฉาที่สุด คือ เค ขวัญ เจ๊ไปถามหลวงพ่อ แต่พอยิงคำถามไปแล้ว
    ก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง ไม่มีการตั้งใจจะจดจำคำ เนื่องจาก ลูกเกิดซนขึ้นมา แกเลย
    ห่วงลูกมากกว่าจะฟังคำสอน จะจดจำคำสอน

    พอหลวงพ่อเห็น ก็ชี้ให้ดูสภาวะธรรม ความรู้สึกตัวนี้ เจ๊ กลับเห็นว่า เอ๋ มีแบบนี้
    ด้วยเหรอ ก็สรุปใช้เวลาแค่เสี้ยววินาที ก็เห็นสิ่งที่ใช้ภาวนา

    ปริยัตที่เธอต้องการในการฟังธรรมใช้เวลาฟังแค่ 2 3 วินาที เท่านั้น

    ที่เหลือ ไปภาวนาต่อเอาเอง ไม่เพียร ไม่พัก แต่ไม่เลิกขยันทำเหตุ

    เหตุ ก็ทำในชีวิตประจำวันก็ได้ จะทำขณะทำสมาธิตามรูปแบบก็ได้

    จะทำไปในชีวิตประจำวันพร้อมสมาธิไปพร้อมๆกันทั้งหมดก็ได้ เพราะ
    การตาม รู้สึก มันเป็นอะไรที่ใช้เวลาระลึกดูแค่ไม่กี่ขณะจิต ตามรู้ตามดู
    สิ่งที่ถูกรู้ถูกดูไปเรื่อยๆ เนืองๆ พหุลีกตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2009
  18. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ผมก็ไม่มีอะไรค้างใจ

    เพียงแค่เอาความจริงเรื่อง อริยะไซเบอร์ มาเปิดเผยเท่านั้น
    ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องของผู้นั้น

    เมื่อผมทำแบบนี้
    ย่อมต้องมีคนเข้าใจผมไปต่าง ๆ นา ๆ
    คนเห็นด้วยก็มี
    คนไม่เห็นด้วยก็มี

    ส่วนตัวผมถือเป็นเรื่องธรรมดา

    นัตถิ โลเก อนันทิโต
     
  19. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    เราไม่มีกายแล้วเวลากระทบร้อนหนาว รู้สึกไหมกายรู้สึกหรือเรารู้สึก กายไม่มีเราแล้วกายกับเราแยกกันอยู่เหรอ แล้วเวลาทานข้าวเราทานหรือกายทาน แล้วดูทีวีกายดูหรือเราดู แล้วเวลาขับรถกายขับหรือเราขับ เวลาเดินนี้กายเดินหรือเราเดิน เวลาพูดกันเราพูดหรือกายพูดแล้วที่พิมพ์ดีดอยู่นี้เราพิมพ์หรือกายพิมพ์ ถามท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายช่วยให้ปัญญาที
     
  20. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    จะขอเสนอความคิดตามความคิดตนเองนะครับ
    ตามแบบปัญญาโลก ๆ ที่มี

    แล้วคุณผีเสื้อราตรีคิดว่า
    คนที่ตายไป แล้วถูกเผาอยู่ในเมรุ
    เค้าจะร้อนมั้ยครับ

    ถ้าเค้าไม่ร้อน
    ก็แสดงว่ากาย กับ เรา ก็ต่างอันต่างจริง ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

    เพราะถ้ากายกับเราเป็นอันเดียวกัน
    คนตายถูกเผาก็ต้องร้อนใช่มั้ยครับ
    เพราะกายถูกเผาเราก็ถูกเผาด้วย

    แต่นี้กาย กับ เรา ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
    เมื่อตายไปแล้วเราก็เอากายนี้ไปไม่ได้
    ลูกหลานญาติพี่น้อง เอาไปเผา ก็ไม่ร้อน
    เพราะกายไม่ใช่เรา เราไม่ใช่กาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...