สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ก็ พระอาจารย์ท่านก็บอกแล้วไงว่า ดุจดังกวักมือเรียก ผมทบทวนมาก่อนเช่นกัน

 

แต่เอาเถอะครับ ไม่เป็นไรหรอก แล้วแต่ความเห็นนะ
เชิญท่านนิวรณ์ กล่าวความเห็นต่อ แล้วกัน ยินดีรับฟัง

 

เด๋วนี้นิสัยท่านเป็นเช่นนี้หรือ
ตีความได้มั่วแบบสุดโต่งมากมาย

 

อ้าว ... ผมไม่มีอะไรจะกล่าวครับ มีแต่ความอยาก

อยากฟังธรรม เรื่องอาหาร จากท่านขันธ์โดยพิศดารกว่าเดิม เพราะที่อธิบาย
มานั้นยังไม่สะใจ เหมือนยังไม่อิ่ม

ผมมีคำถาม อุมงค์ ดังนี้

1. จิตเป็นธรรมชาติหิวอารมณ์ คำว่า ธรรมชาติหิวอามรณ์ก็แปลว่า มันเป็นปรกติ
ของจิตที่จะต้องเสพ การไปทำให้มันหยุดเสพ จึงเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ

2. อารมณ์ในที่นี้ย่อมหมายถึง รูป-นาม อันเป็นสังขารธรรม และรูป-นามนี้ ก็คือโลก
ที่ปรากฏอยู่แล้วตามธรรมชาติ การจะไปดับโลกที่มีอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ

จากเงื่อนไขสองข้อนี้

เราจะดับอาหารวารแก่จิตได้อย่างไร ?

 

นี่ว่าผมเล่นๆ ไปงั้นเอง ใช่ไหม

หรือ ว่า ว่ากันจริงๆ จะยึดถือจริงจัง

 

คำถามด้านบนไว้รอ อ ขันธ์ มาตอบแล้วกัน
เพราะกล่าวถึงเรื่องอาหาร
แต่ผมเพิ่งกินกลางวันมาอิ่มแล้ว
ท่านนิวรณ์ทำให้ผมเซอร์ไพร์สกับวิธีคิดของท่านได้ไม่เว้นแต่ละวันเลยนะ
เป็นกรณีศึกษาได้ดีครับ ขอบคุณครับ...

 

จะไปยึดทำไมล่ะ...

 

บำเรอขันธ์ ทำไมขันธ์ จึงต้องบำเรอ หรือเป็นเพราะมันถูกบำเรอมายาวนานมาก ยามใดไม่บำเรอมันจึงร้อนหนักหนา^-^

 

งั้นทีหลังผมไม่ต้องสงสัยเนอะ

พี่จะโพสอะไรผมก็ไม่ต้องไต่ถาม

 

ขันธ์ก็คงต้องได้รับการบำเรอ เพราะขันธ์เป็นวิบาก มันก็ต้องได้รับผลของ
มันไป จะให้ขันธ์หายไป หรือ ไม่ได้รับการบำเรอ ก็ผิดธรรมชาติของขันธ์

เราจะดับอาหารวารแก่จิตได้อย่างไร ?

 

ขันธ์ เป็นวิบาก แล้ว จิต(ที่ไม่ใช่สังขาร) เป็นอะไร ใจ เป็น อะไร

 

รักตัวเองมาก ๆ
แล้วแบ่งปัน
หวัด D คับคนที่เป็นทุกอย่าง

 

การไต่ถามหาเหตุผลที่มาที่ไป เป็นสิ่งที่สมควร เพื่อความเข้าใจ เพื่อให้เกิดปัญญา

แต่การยึด ไม่ว่าสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็น ปัญญา วิธีทาง ศีล ข้อวัตรต่างๆ ล้วนไม่สมควรทั้งสิ้น
เราปฏิบัติเพื่อสลัดออก คลายออก ไม่ใช่ยึดไว้ให้มี
แต่ก่อนที่จะสลัดออก คลายออก ความเข้าใจ รู้แจ้ง เป็นสิ่งจำเป็น
การพิจารณา ใคร่ครวญ ไต่ถามกัลยาณมิตร เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

ท่านนิวรณ์ยังสุดโต่งอีกเหมือนเดิม...

 

ข้อความนี้ พระในนิมิต ท่านสอนให้พูดมาแบบนี้หรือเปล่า

หรือ ว่าคิดเอาเอง

ยังไง ไปถามในนิมิตก่อนดีไหม ว่าท่านจะให้พูดอย่างไร
จะให้ออกมาสอนอย่างไร วันไหนเวลาไหนต้องยกธรรม
ข้อไหนมา เวลาคนย้อนถาม ควรตอบอย่างไร คุณไม่ควร
คิดเอาเองนะ

 

เ้ด้วเราพักชมโฆษณาสักครู่ครับ

งานบุญ พุทธศาสนา เหล้าเบียร์เพียบบบบ...!
บาป.......!

http://www.youtube.com/watch?v=STtkV5reZlw

 

ดีนะ ที่มี ..ไม้ขัดหม้อข้าว

 

แล้วกลับมาพบกันในช่วงต่อไป
ทันสติ ทันปัญญา ครับ

 

เอ่อ ครับ

อย่า มา ว่า ผม นะ

แต่ เอา จาก ที่ คุณ ใบ ไม้ แก เอา มา แปะ ไว้

พุทธเกษตรของตถาคตนั้นย่อม บริสุทธิ์ อยู่ เป็น นิตย์ ทั้ง ที่ มัน เป็น อัน เดียว กัน กับ ที่ เรา เห็น

แต่ พอ ท่านทรงแสดง ให้ เห็น เป็น สิ่ง บริสุทธิ์ ก็ พลัน บริสุทธ์ขึ้นมา แบบ ตระการตา

เอ่อ พอ จะ เก็ท กัน บ้าง มั๊ย ครับ

ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม

ทำไมต้องมี ไตรปิฎก ขึ้นมา

ทำไมต้องเล่มใหญ่โตขนาดนั้น

คน เรา ไม่ ได้ มี ความ สามารถในการใช้ภาษากันได้ดีทุกคน

การจะสื่อความคิดให้ออกมาเป็นภาษเขียนแล้วให้ อีกบุคคลเข้าใจ ไม่ใช่เรื่องง่าย

บางคนไม่ชอบตีความอีกที บางคนชอบอะไรที่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อน ต้องแปลไทยเป็นไทย เพื่อที่จะ แปลให้มันเป็นไทยอีกที

แล้ว แต่ เวร กรรม ทำ กัน มา ครับ

ถ้า ไม่ ยึด ติด ก็ ไม่ ร้อน ใจ

 

จอมยุทธ จรนี่ไม่เข้ามา จะแซวซักหน่อย..