นามขันธ์กับจิตเดิมแท้นั้นต่างกันอย่างไร...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Tboon, 12 กรกฎาคม 2009.

  1. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แต่ที่จริงที่เดินผ่านไปผ่านมากันทุกวันนี้มันก็ป่าช้าทั้งนั้น แต่เป็นอนาคตป่าช้า แต่แปลกใจมากแม้ว่าตัวผมเอง ก็ยังยินดีพอใจในป่าช้านั้นอยู่ ตอนนี้รู้สึกแย่นิดหน่อย
     
  2. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว ถึงมันจะเป็นความจริงมันก็เป็นความจริงที่ผ่านพ้นไปแล้ว เราดูไม่ทันเขา เราก็รอดูตัวใหม่ต่อไปจนกว่าจะทัน ที่จริงที่เราไม่ทันเขาเพราะสติเรายังอ่อน เราก็ต้องหมั่นฝึกสติให้มีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้นๆ เราถึงจะสังเกตอาการของเขาได้ทัน
     
  3. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ยอมรับว่ากลัว กลัวความคิดจร กิเลสมาโดยกระทันหัน จำเรื่องที่เล่าให้ฟังได้ไหม
    ที่คุณที บอกนานาน่ะ ที่ว่าเดินให้หมามันกระโดดมาฟัดนั้นน่ะ ในป่าช้า ยังจำได้เลยนะมโนตามเลย หากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริง สติ อยู่หนใดหนอ
    จริง ๆ เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับนานาบ่อยมากคุณที
    คนที่ไม่เคยเจอเหตุแบบนี้คือตั้งค่าไว้ก่อนแล้วจะไม่กลัว
    แต่นานากลัวเพราะ.......ก็นั่นแหล่ะนะ คนเก่งต้องพิสูจน์ด้วยเหตุการณ์เฉพาะหน้า
    งานนี้มีหวัง ใครวิ่งเร็วกว่าคนนั้นแหล่ะ ...อิอิิอิอิ คุณชายทั้งหลาย
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    แต่ก่อน เดินไปทำสมาธิในโบสถ์ดึกๆ มันจะเดินผ่านเมรุเผาศพ พอเข้าโบสถ์มันก็วิเวก สนิท ตอนนั้นล่ะ แรกๆนะ เครื่องปรุงเพียบเลย
    ของวัดใจมันต้องๆค่อยฝึก หากยังไม่เคยฝึกแบบวัดใจ มันก็ต้อง ค่อยๆ วอร์ม จนไปคนเดียวได้สะบายๆ เพราะเจอจนชิน พวกผีลองของก็เยอะนะ แต่ก้ต้องซ้อมๆ ค่อยๆ ทีละนิด บางคนคิดว่าเจ๋ง คิดว่าได้ ตาทิพย์เห็นนั่นเห็นนี่ พอเอาเข้าจริง เป็น บ้าไปเลย ..ต้องค่อยๆ วอร์ม นักกีฬา ก่อนแข่งก็ต้องซ้อมๆ ต้อง วอร์มๆ
     
  5. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ก็จริง ๆ หากฝึกซ้อม บ่อย มันก็ชิน ๆ เองแหล่ะ หรือแกล้งชิน ความกลัว เป็นความคิดจรที่ร้ายนะ แต่เรื่องแบบนี้ ก็ยังกล้า ๆ กลัวอยู่นั้นแหล่ะแต่ถึงเวลาจริง ๆ เอ่อนึกภาพไม่ออก
    หากมาเตือนดี ๆ ไม่เป็นไร หากมาอย่างอื่นล่ะ แบบไม่อยากให้เราไปรบกวนแบบนี้เนี่ย
    ทำไงนะ แต่ก็ดีนะ ใครแกร่งขึ้นมาอนุโมทนา ท่านเยี่ยมที่สุดเลยลูกพี่
     
  6. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    มีแต่สมมุติต่างหาก
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อสุภะ กรรมฐานก็ฝึกดีนะ พิจารณาไป จนชำนาญ ลอกเนื้อลอกหนังดูจนไปถึงกระดูก แล้วกลับไปกลับมา ย่อมได้อานิสงฆ์หลายอย่าง ดีนะ
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เคยเดินรอบโบสถ์เก่า ตอนมืด คนเดียว โบสถ์แบบเหลือแต่ซาก ที่เห็นอิฐแดงก่อไว้ เงียบ ๆ มันก็วูบ ๆ กลัว ๆ หวิว ๆ นะ กะจะเดินสักสามรอบ รอบแรกก็ช้าหน่อยแบบจงกลมเนียน ๆ รอบต่อไปก็เร็วขึ้นแฮะ ยิ่งกัดฟันให้ครบสามรอบตามที่ตั้งใจไว้ ในใจก็ว้า เมื่อไรมันจะครบเนอะ... ยังกลัวเหมือนกันแฮะ ^-^
     
  9. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    คิดว่ารอบที่สามเนี่ย พี่จินนี่วิ่งจงไป จงไปเลยล่ะ ไม่กลมแล้วล่ะ ^__^
     
  10. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    มันมืด ยิ่งเดินก็ยิ่งเย็น ยิ่งเดินมันยิ่งเงียบ นี่ถ้าได้ซาวด์เสียงหอน คงจะกิ่งเดินกิ่งวิ่งครับ มันแสดงออกเลยว่ายังปอดอยู่ ^-^
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    มันส์ดีนะ จินนี่ อิอิ
     
  12. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    คนปกติจะมีสองขา ต่อมาได้ยิน พี่มากกกก ขาาาา โอ๊ย หนอ
    ------------------------------------------------------------

    แต่ความกลัวนี่มันระงับยากนะ เส้นประสาทมันตึงมาก ๆ เย็นสันหลัง
    อัมพาตกินชั่วขณะเลย หูอื้อ อีกตะหาก บางครั้งประสาทและสมองทำงาน
    ไม่สัมผัสกัน ควบคุม ร่างลำบากไม่เป็นไปตามที่เราตั้งใจ
    รู้เลยตอนนี้ จิต วิญญาญ ร่าง อยู่กันคนละทิศ ละทางเลย ทั้ง ๆ
    ที่มันก็อยู่จุดเดียวกันแท้ ๆ เนอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2009
  13. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ต้องอบรม อสุภะ ให้มาก
    ทำสมาธิด้วยการพิจารณาร่างตัวเองนอนตายอยู่แล้วค่อยๆเละเน่าเฟะไป จนชำนาญ นั่นล่ะ กำลังจิตจะดีมาก มีอานิสงฆ์หลายอย่าง
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เล่นเครื่องเล่นที่ว่าเสียวทั้งในและนอกประเทศ หรือขับรถสักสองร้อยห้าสิบ ยังไม่เท่ากับความมืดในใจเลย

    ไปนอนดีกว่า ^-^
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ประสบการณ์ใจปรุงกลัว โคดๆ
    ที่บ้านมีชั้นดาดฟ้าอยู่ เวลาโกรธสามี จะไปนอนดูดาวบนดาดฟ้า ไม่ได้คิดอะไร
    ไม่รู้สึกกลัวอะไร ไม่ได้คิดถึงผีซักนิด ขนาดบ้านอยู่เยื้องกับวัด แล้วที่โค้งหน้าวัดก็มี
    คนโดนรถชนตายประจำ แต่ไม่ได้คิดอะไร ก็ไม่มีอะไร พอหลังๆ โดนสามีพูดให้ฟัง
    เรื่องผีมาอยู่ที่นี่ ที่นั่น พูดเรื่องหมาหอน พูดจนเราอิน พอเราอินก็เริ่มจะวิตกจริตตาม
    พอวิตกจริตแล้ว ความคิดมันมาจากไหนก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ไปนอนดูดาวไม่ได้แล้ว จิตมัน
    ชอบปรุงนอนเพลิน ได้ยินเสียงแมว ก็สะดุ้งแล้ว ได้ยินเสียงหมาหอน ก็ปรุงแล้ว
    เริ่มกลายเป็นคนกลัวความเงียบ ความสงบสบายก็หายไปด้วย ตอนนี้เริ่มพิจารณากลับ
    มาอีกข้าง ดูใจมันปรุงความกลัวจากความคิด ก็เลยได้ดูอีกแบบ แต่ก็ยังไม่กล้าไปนอน
    ดูดาวบนดาดฟ้าคนเดียวอยู่ดี เหมือนรู้สึกว่ามีคนดูเราอยู่มันไม่สงบเหมือนทีแรก
    ก็แปลกดี ความรู้สึก ความคิด จิตเกิด ใจปรุง รูปปรมัติ ความจริงที่เกิดจริง สิ่งแปลกปลอม
    ดูไม่ค่อยจะทัน
     
  16. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ค่ะ จะพยายามนะ เคยพยายามแล้วนะ ผลคือได้แค่พยายาม
    จะลองอีกที
     
  17. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ไม่กลัวผีนะเห็นบ่อยแล้ว แทบจะอยุ่ด้วยกันแล้วชอบมารบกวน
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ฉลาดมากเกิน ไอ้ที่พูดมา นี่พูดขึ้นมาลอยๆ ทั้งสิ้น
    ไม่มีที่มาที่ไปสักอย่าง เพี้ยนไปแล้วไม่เข็ด
    ยังไปพูดกลบธรรมในการพิจารณา

    การพิจารณาธรรมใดๆ ก็ตาม ต้องไล่หาเหตุแห่งทุกข์ให้เจอ ด้วยการหยิบจับอุบายธรรมต่างๆขึ้นมา ข้อนี้หลวงตามหาบัว หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท พระอริยะหลายๆ ท่านพูดเหมือนกันหมด ว่าทำไมเรายังวางตรงนั้นไม่ได้ ทำไมตรงนั้นยังติดยังข้อง มันต้องระลึกได้ในเหตุก่อนหน้า รวมถึง ความจริง หลายๆ อย่างเพื่อเทียบให้ใจนี้ยอมรับกับธรรมนั้น ว่าการที่เราทุกข์อยู่นั้นมันมาจากการ ไม่เท่าทันกิเลสของใจ ก็หาอุบายให้มันเห็นตัวโง่ให้ได้ นั่นแหละคือทาง

    ผมไม่เข้าใจว่า นายนิวรณ์จะยกมาพูดกลบธรรม ทำไม
    ตัวเองรู้ยังไม่ตรงสักอย่าง จะไปสอนคนอื่น บังทางคนอื่นเขาทำไม
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    การพิจารณาธรรมต่างๆ หากเราไม่ได้เอากิเลสไปปน

    มันก็เหมือนกับ การที่เราพิจารณา สิ่งต่างๆ ทั่วๆไป เช่นพิจารณา ข้อคิดต่างๆ พิจารณาคดีความ พิจารณาเรื่องนั้นเรื่องนี้ โดยไม่ได้มีอันตรายอะไรเลย
    ตรงกันข้าม การพิจารณาก็เป็นสิ่งดี ที่เราทำเพื่อที่จะเปลื้องความโง่ ความไม่รู้

    แล้ว การที่บอกว่า จะทำให้ติดนิมิต ติดสัญญา มันเป็นเรื่องกิเลสของผู้พูด ที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก การพิจารณาธรรมที่แท้จริง ซึ่งเป็นอุบายไถ่ถอนกิเลส

    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CJITTAK%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:16.0pt; font-family:"Angsana New"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    ดูเอาว่า พระศาสดาสอนให้พิจารณาอย่างไร ทั้งอดีต ทั้งปัจจุบัน อนาคต ใกล้ไกล หยาบละเอียด เอาให้ให้ลงตัวเดียว คือ ปัญญาเห็นจริงตามนั้นว่า นั่นไม่ใช่เรา
     
  20. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    คุณคงจะสับสนในคำศัพท์

    ผมจะรวม แล้วเรียกใหม่ว่า วิธีออกกรรม

    ซึ่งคนที่ใช้กระบวนการเติมมโนสัญญเจตนาหารนั้น หากประสงค์จะแสดงออก
    ผ่านร่างกาย ก็จะเต้นแร้งเต้นกา เต้นไปจนกว่าจะเหนื่อย แล้วหยุดโง่ คิดว่าสิ้น
    กรรมแล้วมันจึงหยุด นี่ก็คือการออกกรรมอีกตัวอย่างหนึ่ง

    หากประสงค์จะพูด จะจา ทำวาที จะหัวเราะ จะร้องเพลง ก็จะร้อง พูดกับ
    ตัวเอง ไปจนกว่าจะหยุดโง่ นี่ก็คือการออกกรรมอีกตัวอย่างหนึ่ง

    หากประสงค์จะแสดงออกทางสัมผัส ก็จะนอนบนตะปู เฆี่ยนตีร่างกายตัวเอง
    ด้วยแซ่ ด้วยหอก ด้วยหลาว ด้วยคมมีด จนกว่าจะหยุดโง่หมดแรง คิดว่าสิ้น
    กรรมแล้วมันจึงหยุด นี่ก็คือการออกกรรมอีกตัวอย่างหนึ่ง

    หากประสงค์จะรื้อฝื้นความคิด โศกา อาดูลย์ ร่ำไห้ ยินดีปรีดา แสดงไปเรื่อยๆ ในเรื่อง
    นั้นจนกว่าจะหยุดทำหยุดโง่ คิดว่าสิ้นกรรมแล้วกริยาจึงหยุด จึงลุกออก นี่ก็คือการออก
    กรรมอีกตัวอย่างหนึ่ง

    คำสอนของพระท่านทั้งหลาย ไม่ได้มีวิถีการออกกรรมดั่งที่กล่าวมาข้างตน หรือ
    คุณจะรับรองว่ามี ว่าใช่

    ดังนั้น ก่อนจะกล่าว ก็ควรอ่านให้ดี หากเอาคำว่า "เติมมโนสัญเจตนาหาร" ออกไป
    แต่ให้สิ่งต่างๆปรากฏตามจริง แล้วจึงน้อมมาพิจารณาโดยสักแต่ว่า นั้นก็จะเป็นอีก
    เรื่องหนึ่ง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...