นามขันธ์กับจิตเดิมแท้นั้นต่างกันอย่างไร...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Tboon, 12 กรกฎาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พอดีได้ไปศึกษาเรื่องการแพร่กระจาย ของไวรัสลีจุนกิเลส ที่ห้องวิทย์มา
    ก็เลยได้ข้อคิดมาบางเรื่อง บางทีเราคิดว่าเราหวังดี แต่มาคิดดูอีกที เป็นกิเลสของเราเอง
    ดันไปสงสัย ก็เลยอยากรู้เพื่อจะหายสงสัย พอตามอ่านไปดันไปอินเรื่องของเขาเสียนี่
    กระตุกขากลับแทบไม่ทัน บางเรื่องมันเป็นเวรกรรมร่วมกัน ต้องมาชดใช้กรรมซึ่งกันและกัน
    บางคนเขาก็ยินดีรับกรรม เราแค่ไปเห็นแล้วเกิดสงสารก็เลยอยากช่วย แต่กลายเป็นว่า
    เราอาจจะต้องไปรับกรรมแทนเขา ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ยอมปล่อย ก็เลยต้องถอย
    ออกมา เรายังเสียสละไม่ได้ทุกอย่าง ยังรักตัวกลัวถูกทวงหนี้อยู่..นินา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  2. เดินทาง

    เดินทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +38
    อนุโมทนาครับ
    เหมือนเห็นรูปลางๆผ่านตา ก็เกิดความอยาก และเกิดแรงดันขึ้นที่หน้าอกขึ้นแว็บหนึ่ง ส่งมาจะให้เราหันกลับไปดูนะครับ (ปฏิกิริยาที่หน้าอกมันเป็นผลสะท้อนออกทางร่างกายของความรู้สึกอยากหรือเปล่านะครับ)

    เวลาเกิดสติเห็นสภาวะเอง รู้สึกตัวช่วยส่งจะเป็นตัวความสงบของสมาธิ เหมือนถ้าเกิดช่วงที่มีความสงบครองอยู่ แล้วเกิดสติเข้าเห็นสภาวะเอง จะเกิดการเห็นสภาวะได้ละเอียดกว่าปกตินะครับ

    กับแบบที่กระทบกระทันหันบางครั้งเหมือนมันสร้างกำลังส่งเข้าไปเองเห็นละเอียดได้ดีกว่าปกติเหมือนกันครับ
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    เหมือนเห็นรูปลางๆผ่านตา ก็เกิดความอยาก และเกิดแรงดันขึ้นที่หน้าอกขึ้นแว็บหนึ่ง ส่งมาจะให้เราหันกลับไปดูนะครับ (ปฏิกิริยาที่หน้าอกมันเป็นผลสะท้อนออกทางร่างกายของความรู้สึกอยากหรือเปล่านะครับ)
    ตรงนี้ .. สำหรับผมเข้าใจอย่างท่านล่ะครับ เวลามันรู้สึกตัว มันจะไปรู้สึกถึงสภาวะทางร่างกายที่แสดงออกมา ส่วนใหญ่มันจะรู้สึก ตรงกลางอกมากกว่าที่อื่น แต่ก็มีบางที ที่มันวิ่งจากกลางอกออกไป และก็มีบางที ที่มันวิ่งจากที่อื่นเข้ามากลางอก ในกรณีที่เรา รู้สึกตัว หรือ สติมันเกิด มันจะเริ่มเห็นบ่อยขึ้น กับอาการที่แสดงออกทางกาย หากมองภายนอกมันก็ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่สิ่งที่เคลื่อนไหวกับรับรู้ได้ด้วยสติที่เกิดขึ้น บางทีเหมือน สายเลเซ่อร์เลย แต่เร็วกว่านั้น


    เวลาเกิดสติเห็นสภาวะเอง รู้สึกตัวช่วยส่งจะเป็นตัวความสงบของสมาธิ เหมือนถ้าเกิดช่วงที่มีความสงบครองอยู่ แล้วเกิดสติเข้าเห็นสภาวะเอง จะเกิดการเห็นสภาวะได้ละเอียดกว่าปกตินะครับ... ตรงนี้ผมก็เข้าใจอย่างนั้นนะ แต่บางทีความสงบแค่ช้างกระดิกหู มันก็เห็นละเอียดได้ไม่แพ้กันเลยนะ ต่างกันตรงที่การสืบเนื่องของสติที่เกิดทันสภาวะ

    กับแบบที่กระทบกระทันหันบางครั้งเหมือนมันสร้างกำลังส่งเข้าไปเองเห็นละเอียดได้ดีกว่าปกติเหมือนกันครับ
    ...กรณีผม ที่มันมาแบบกระทบกระทันหัน จากการฝึกตามรู้ ไว้เนืองๆ สภาวะที่มันเกิดขึ้น รู้สึกจิตมันตั่งมั่นกว่าปกติทุกครั้ง รู้สึกใจมันตั้งมั่นลงที่รู้ และนิ่ง ที่นิ่งนี้หมายความว่า มันไม่ไหลไปกับอารมณ์แต่รู้ อารมณ์ การกระทบกระทั้นหันที่ผมเป็น ส่วนใหญ่เป็น ความ ตกใจแบบกระทันหัน ก็สังเกตุมาเรื่อยๆล่ะครับ
    .....อนุโมทนานะครับ มื้อนี้ยังอร่อยเช่นเคย
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    นั่นแหละ ปัญญา เมื่อจิตมีปัญญา มันจะไม่เลือกข้างว่า ต้องเห็นจากความ
    สงบเท่านั้น แต่จะเห็นเลยว่า เห็นทางเข้าจากมุมที่ไม่สงบก็ได้ เมื่อไม่เอน
    เอียงในการรู้ ก็คือ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในการปฏิบัติ เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็จะเข้าใจ สิ่งที่เรียกว่า

    "จิตตั้งมั่นต่อการรู้"

    เมื่อเข้าใจสภาวะที่เรียกว่า จิตตั้งมั่นแล้ว ก็จะพบว่าเขาทางไหนก็ได้
    ความสงบก็เป็นทางหนึ่ง การฝุ้ง(กำลังกระทบ)อยู่ก็เป็นทางหนึ่ง
    แล้วทั้งสองทางนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสภาวะ "จิตตั้งมั่นรู้"

    แต่จิตตั้งมั่นรู้นี้ จะเห็นว่าเราไม่ได้จงใจสร้างขึ้น เมื่อมันเกิดแล้ว
    เราจะหลงเข้าไปประคองให้มันคงอยู่ ก็จะพบว่าเป็นเรื่องที่เราเผลอ
    ไปทำความสงบอยู่ต่างหาก

    ภาวนาไปอีกหน่อยก็จะรู้ชัดว่า จิตตั้งมั่นรู้นี้ไม่ได้เกิดจากการจงใจ ไม่
    ได้เกิดจากการประคอง แต่เกิดจากความไม่ยึดมั่นถือมั่น แม้กระทั่ง
    การไม่ยึดมั่นถือมั่นในการเกิดสภาวะตั้งมั่นรู้ จิตกลับตั้งมั่นรู้ได้คล่อง
    แคล้วกว่า มันเป็นเรื่องญาณสัมปยุติ ( จะเข้าใจคำว่า สัมปยุติธรรม )

    พอเห็นได้ตามนี้ ก็จะรู้ว่า ทางสายกลางนั้นเดินอย่างไร

    อะไรที่เรียกว่า สัมมาสมาธิ

    และตอนไหนที่เรียกว่า เจริญปัญญา

    แล้วทั้งหมดนั้น ทำได้ตลอดเวลาจริงหรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  5. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
    ถ้าเราเป็นเจ้าของบ้าน วันหนึ่งมีคนดีเข้ามาในบ้านเรา ๆจะทำอย่างไร ?
    แล้วถ้าอีกวันหนึ่ง มีคนชั่วเข้ามา เราจะทำอย่างไร ?

    ฝากไว้ให้คิด แสดงความคิดเห็นได้นะ อยากรู้ความคิดเห็นของเพื่อนนักปฎิบัติครับ
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอโหมไฟอีกหน่อยนะคุณเดินทาง

    ยินดีด้วยนะครับ คุณหา "ใจ" ตามตำสอนของหลวงปู่เทสก์เจอแล้ว

    เมื่อหา "ใจ" เจอแล้ว ต่อไปการภาวนา การปฏิบัติ จะไม่พลาดเป้า

    ไม่เชื่อช่วงนี้ ลองกลับไปอ่านหนังสือธรรมที่เคยอ่านติดขัดซิครับ
    จะพบว่า ความเข้าใจนั้น จะแตกต่างจากเดิมมากที่เดียว แม้แต่ข้อ
    ความที่เคยคิดว่าเข้าใจ กลับลึกซึ้งมากขึ้น โดยไม่รู้ว่าอรรถรสนั้นลอย
    จากไหน [ ปัญญาแท้ๆนั้นมันเงียบเสมอ ]

    [music]http://charyen.com/jukebox/asx_file/old_7092.wma[/music]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ใครเข้ามาในบ้าน ก็ต้องมีสติจำหน้าตาและพฤติกรรมไว้ให้ได้ทุกอย่าง
    แรกๆ ถ้ายัง งงๆ ยังไม่รู้จักกัน ก็ต้องดูท่าทีไปก่อน พอแสดงอาการออกมา
    ก็ต้องพิจารณาว่ามันดี หรือไม่ดี มีผลเสียหาย ผิดศีลธรรมประจำใจหรือเปล่า
    พอรู้ตัวแล้ว ไหวตัวทันแล้ว คนไม่ดีก็ไม่ให้เข้าบ้าน ส่วนคนดีก็ปล่อยให้เข้ามา
    ได้ แบบว่าคบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
    ยังอยู่อาศัยในโลก ก็ต้องพึ่งพากันไปก่อน พอถึงวันไม่ต้องอาศัยอยู่ในโลก
    แล้ว ก็ต้องจากกันไป ปล่อยวางเป็นอิสระแยกกันไปตามทาง
     
  8. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ลืมไปเลยว่าเคยมีบ้าน ไม่มีเจ้าของบ้านหรอกน้า
    ทั้งคนดี และคนชั่วก็เข้าบ้านเี่ราไม่ได้ เพราะมันไม่มีบ้าน
    มันก็สงบเองจ้า น้า
     
  9. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ตอนนี้เรายังมีธาตุมีขันธ์
    มีร่างกายอยู่ ยังต้องการปัจจัย 4 อยู่
    บ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเรา

    ถ้าไม่มีบ้านจะไปนอนสวนสาธารณะเหรอ ป้ายรถเมล์เหรอ
    เมื่อยังมีธาตุมีขันธ์ มันก็จำเป็นต้องมีบ้าน

    ถ้าไม่มีก็เป็นคนจรจัดน่ะสิ

    เราอยู่บ้านก็ต้องเฝ้าบ้านตัวเอง
    เปรียบเรามีสติ ก็เหมือนเราอยู่เฝ้าบ้าน
    ใครจะไปใครจะมาบ้าน เราก็รู้

    ถ้าไม่มีสติ ก็เปรียบเหมือนเราไ่ม่ได้อยู่เฝ้าบ้าน
    เหมือนเราไปที่อื่นไม่ได้อยู่บ้าน ใครจะไปจะมาก็ไม่รู้

    คนดีมาก็ทำให้บ้่านเราสะอาดน่าอยู่
    ส่วนคนชั่วมาก็คอยแต่จะทำความสกปรกให้บ้านของเรา

    เพราะฉนั้นเราควรต้อนรับแต่คนดี
    ส่วนคนชั่วอย่าไปต้อนรับ เพราะจะทำให้บ้านสกปรก
    และต้องมั่นความสะอาดบ้านให้สะอาดหมดจดให้ได้

    เมื่อบ้านสะอาดหมดจด
    ก็ไม่มีพิษมีภัย
    สารก่อภูมิแพ้ก็ไม่มี

    ก็อยู่ได้ด้วยความสุข ตามอัตภาพ
    นี่ว่า่งจากขันธ์ 5 เป็นอย่างนี้
    เปรียบขันธ์ 5 เป็นบ้าน

    แต่นี่ยังไม่ที่สุดเพราะบ้านยังไม่ว่างเปล่าจริง ๆ
    ยังไม่ว่างเหมือนนิพพาน
    ถึงเราจะอยู่ในบ้านที่ว่างเปล่าจากของสกปรกแล้ว
    เปรียบเรารู้จักขันธ์ 5 แล้ว
    ของสกปรกในขันธ์ 5 ไม่มีแล้ว

    แต่บ้านยังไ่ม่ว่าง
    เพราะตัวเราไปยืนขวางอยู่ในบ้านเสียเอง
    เหมือนขันธ์ 5 ว่างไปแล้ว
    แต่จิตยังไม่ว่าง

    ถ้าเอาเราที่ยืนขวางอยู่ในบ้านออก
    บ้านก็ว่างโดยสมบูรณ์

    ในบ้านก็ว่างเปล่า
    เป็นนิพพานโดยสมบูรณ์
     
  10. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ไม่ได้หมายถึงบ้านที่เป็นขันธ์ 5 ค่ะ
    หมายถึง จิต ที่ไม่มีเจตสิก แยกออกมา
    เพื่อให้รู้ ว่าเราไม่สร้างอารมณ์ปรุงแต่งค่ะ
    พยายามเหมือนกันนะ ที่จะแยกตัวนี้ออกมา
    ให้รู้เฉย ๆ ไม่ติดลอยอยู่กลาง ๆ น่ะ
    เพราะความคิดจรที่เข้ามา เขามากระทันหันใช่ไหมคะ
    หากจิตเรามั้นคงย่อมไม่หวั่นไหว
    ไม่ได้เกี่ยวกับขันธ์ 5 แต่อย่างไร
    หากไปนึกถึงขันธ์ ตรงนั้นต้องไปเริ่มที่จะไปทำให้สภาวะเพื่อทำให้ชิน
    อีกหลายขั้นตอนที่เดียว เราเป็นพวกนิสัย เด็กแนวน่ะ แว้น ๆ บ้างบางที แต่ไม่ง่อนแง่น
    เราชอบรวม ๆ แล้วแทงเลยค่ะ
    อันนี้มันเป็นจริตของเราน่ะ
    ตอบที่เข้าใจนะ
     
  11. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ถ้าชอบรวมแล้วแทง
    ต้องรวมจิตให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้

    ให้สติกับจิตรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

    แล้วคราวนี้แทงได้เลย
    แทงทะลุเนื้อหนังเข้าไปถึงใจใครก็ได้
    จะได้รู้ว่าใจใครคิดยังไง

    หรือจะให้ทะลุท้องฟ้าอากาศ
    ไปชมสวรรค์วิมานก็ตามใจ
     
  12. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    จริงแล้วชอบรวม ๆ นะ มรณานุสติอันนี้พี่จินนี่ แนะนำมาอีกที ได้ผลชะมัด
    เลยบางเรื่องก็ตัดได้
    แต่มีอย่างนะ นานารู้ใจคนใกล้ชิดได้นะ
    แต่จะให้ไปเห็นเทวดา นางฟ้า
    เอ่อคงไม่ใช่ประเด็น ไม่ได้อยากเห็นหรอก ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย
    เอาแค่เห็นกิเลสตัวเอง ก็พอเนาะ พี่เกส์ทที่น่ารักเนอะ
    เอาเป็นว่านานาจะพยายามรวมใจให้เป็นหนึ่งแบบพี่เกส์ทบอกแล้วกันเนอะ
    เออนี้ว่างหรือเปล่า พี่ทีบูล เขาชวนไปเดินป่าช้า ไปป่ะ ไปไหม
     
  13. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    เหตุที่ควรรู้ได้ก็รู้ได้
    อย่างนี้เป็นสมบัติของแต่ละ่บุคคล
    ไม่ได้สาธารณะกับคนทั่วไป
    นี่ก็คือผลจากการปฏิบัติอย่างหนึ่งที่ควรภูมิใจ
    และมุ่งปฏิบัติให้ก้าวหน้าต่อไป

    ส่วนคุณ การเป็นผู้หญิง
    จะเดินทางไปปฏิบัติที่นั่นที่นี่ควรพิจารณาให้ดี
    แม้แต่ในสมัยพุทธกาล การเป็นภิกษุณีก็ค่อนข้างมีปัญหา
    กับการออกปฏิบัิติ

    แต่ทั้งนี้การเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้เป็นการปิดมรรคผลนิพพานแต่อย่างใด

    ก็ควรจะพิจารณากันไปด้วยความเหมาะสม
     
  14. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ค่ะ บางอย่างเมื่อถึงเวลามันจะเกิดมันก็เกิดเอง
    เนอะ หากถึงรอบของมันเนอะ
    เพียงแต่เราทำอย่างต่อเนื่องไม่ให้เกิดเป็นปม
    มันก็จะยาวเองแหล่ะเนอะ

    ค่ะ เกิดเป็นผู้หญิงลำบากนะ เงื่อนไขเยอะไปหมดเลย
    เดี๋ยวไปสวดมนต์นอนก่อน ช่วงนี้นอนดึกไม่ค่อยได้
    ร่างกายไม่ค่อยสบายน่ะ ไปก่อนนะ
     
  15. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
    หมายถึง จิต ที่ไม่มีเจตสิก แยกออกมา
    เพื่อให้รู้ ว่าเราไม่สร้างอารมณ์ปรุงแต่งค่ะ

    ก็ไม่ใช่เราแล้วจะไปสร้างอารมณ์ปรุงแต่งได้อย่างไรล่ะ สังขารเป็นสมุทัยนะครับ แต่ก็ตอบได้เกือบเข้าไปในใจลุงแน่ะ หุ หุ หุ


     
  16. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
    ถ้าสมมุติว่าบ้านที่ผมถามเปรียบเหมือนจิตของเราล่ะครับ
    เวลาคนดีเข้ามา เราจะทำอย่างไร ถ้าคนชั่วเข้ามา เราจะทำแบบไหน


    ลองดูใหม่นะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดกัน
    ขอบคุณคุณขวัญ คุณเกรท์และ นานา ที่ร่วมแสดงความเห็นนะครับ
    จะเห็นได้ว่า เรื่องเดียวกันแต่มุมมองของแต่ละคนก็ต่างกันไปตามความเข้าใจ ไม่มีถูกมีผิด
    มีแต่ความคิดเห็นที่มีคุณค่าครับ
     
  17. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    จิตมีหน้ารู้อย่างเดียวค่ะ
    จิตเราเข้มแข็งเมื่อไร จิตเขารู้และแยกได้ค่ะ ว่าเทพ หรือนิมิตมาร
    สติสัมปะชัญญะ จะเป็นไปโดยอัตโนมัติค่ะ ว่าควรจะทำอะไรให้ถูกกาล
    อย่างทุกวันนี้เจอเยอะนะทั้งเทพ และมาร แต่เจตสิกไม่ได้ตั้งค่าเอาไว้
    เลยไม่ได้หนัก ที่จะเดินทางต่อไป ก็ไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก

    หลาย ๆ ครั้งด้วยความที่มีปัญญาน้อยทำอะไรที่เจตสิกไม่รู้ หรือหลง ก็จะมีผู้ใหญ่มาเตือนหลาย ๆ ครั้ง เขาเตือนอ้อม ๆ ก็บ่อย เอ่อแต่นานารู้
    บางครั้งเตือนตรงๆ เลย นานาฟังค่ะ
    นี้คือจิตเขารู้ และเจตสิกแยกออก เพื่อพิจารณา
     
  18. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    อืม มีเครื่อง scan ไวรัส หรือยังลุง
    ไวรัสตัวเนี่ย ร้ายนะ (ล้อเล่นนะ)
     
  19. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อะอะ ผมไม่ได้แนะนำอะไรคุณน้องนาเลย นานาประสบกับตัวกับชีวิต แล้วทุกข์ไปกับมัน ดำรงไปกับมัน เมื่ออยากพ้นจะมัน เลยขวนขวายเพิ่มเติมเอง ^-^
     
  20. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    น้ำดื่มเพื่อ ดับกระหาย ยังต้องมีส่วนประกอบของน้ำเลย ใช่ป่ะ
    หากเครื่องอ่อนแรง ก็ยังต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเลย
    จนกว่าจะไปถึงเส้นชัยนั้นแหล่ะ เนอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...