นามขันธ์กับจิตเดิมแท้นั้นต่างกันอย่างไร...

ช่วงนี้เหมือนสวิทย์ไฟชำรุดน่ะ ค่อนข้างหนักทีเดียว
ทุกอย่างไม่ประสานกันเหมือนเดิม แต่

 

ชักชวนการรู้ทุกข์ฮะ เหตุแห่งทุกข์
กำลังเทียบอยู่

 

เมื่อคืนนอน ๆ อยู่ แล้วก็มารู้สึกตัวกลางดึก

เคยเห็นดักแด้ไหมคะ มันเหมือนเรามีอีกคนหนึ่งอยู่ข้างใน หันหน้า ส่ายหน้า ดุกดิกอยู่ข้างใน

แต่ตัวข้างนอกมันนอนอยู่เฉย ๆ ก็สวดบทพุทธคุณ สวดแล้วก็ยังดุกดิกอยู่ แรก ๆ ก็กลัวเหมือนกัน เพราะไม่เคย พอสวด ๆ แล้วก็หลับต่อ แต่เหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ตื่นมา แจ่มใสมากคั๊ป ^^

 

อาหาร4 ตรงนี้ก็สัมพันธ์กันการละสักกาย แล้วก็สัมพันธ์กับการทำฌาณจิต

นานา ตอนนี้น่าจะอิ่มแล้วกับการเห็น อาหารที่เป็นไปเพื่อกายเนื้อ ขยับแขน
ขา เดิน ยืน นั่งนอน ก็จะไปเห็นรวมลงที่ใจ ทำให้รู้เรื่องกามคุณ5

เมื่อจิตเริ่มรู้ถ้วนในกายเนื้อละความสนใจ การรู้ธรรมจึงพุ่งมาที่ส่วนจิต แต่
ก่อนจะไปถึงจิตหรือละทิ้งกายเนื้อได้จริง ก็จะติดๆ คาๆ อยู่ที่อยาตนะ ทำ
ให้เห็นอาหารที่เกิดจากอยาตนะ เมื่อรู้ถ้วนรสอร่อยที่ได้จากอยาตนะ ไม่
สนใจรสอร่อยแล้ว จิตก็จะเริ่มเป็นสมาธได้ง่ายขึ้น เอากรรมฐานอะไรมาทำ
ก็จะพบว่าง่ายขึ้น จึงเห็น สุขเวทนา ทุกขเทนา และ อทุกขมสุกเวทนา หรือ
เห็นเวทนา3 ได้ [ ที่นานาบ่นว่าเห็นอะไรสับสนอยู่ น่าจะเป็นการนัวเนียอยู่แถวนี้
ถ้าผ่านไปก็จะเลิกสนใจว่ามันประสานหรือไม่ประสาน พร้อมแยกรู้ หรือรู้ตรง
ไหนก็ได้ ]

เมื่อจิตมีสมาธิได้ง่าย ก็จะพุ่งการรู้ การดูมาที่จิตได้ พ้นการดูอยานตนะไป
แต่จะมาติด ภพชาติ ปราณีตชนิดต่างๆ จะเรียกรูปฌาณก็ได้ อรูปฌาณก็ได้
แล้วแต่ว่าทำเหตุอะไรไว้เป็นกรรม แล้วจิตก็เคลื่อนเข้าไปในภพ เพราะละ
มโนสัญญเจตนาหาร ที่ทำไว้ไม่ได้ จึงเป็นช่วงของการเห็นว่า เราไปตั้งใจ
เจตนากระทำสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะปุญญาภิสังขาร ไม่คิดจะทำก็ไม่ได้ เพราะ
มันก็คือการทำหรือ ภวตัณหา ทำให้รู้ใน ตัณหา3 ได้ [ ตรงนี้จะเป็นเรื่องการ
ฟังธรรมของเขามา แล้วเราไปเผลอเอามาเป็นเรา ทำให้วกวนได้ หากไป
หยิบมาแบบว่า กะว่าจะเป็น Vita รสใหม่ๆ แทนที่จะทาน Vita ที่เคยทานประจำ
ก็พอ -- ก็เลยเป็นที่มาของ การลองเอาเรื่องอาหาร4 มาให้ฟัง ]

ตรงนี้ก็จะติดกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยอมรับ และเข้าใจเรื่องตัณหา3 ก็จะทำ
ให้สมาธิมีอย่างเต็มที่ มีฌาณจิตเต็มที่ตามฐานะ ตามรอบ ตามธรรมนิยาม
ก็จะไปเห็นการสืบเนื่องของการรู้ของการรู้ในรอบธรรมนิยามนั้นๆ จึงทำให้
เห็นวิญญาณาหาร ก็ต้องเห็นไปเรื่อยๆ ขึ้นกับกำลังของ สติปัญญาที่จะสัมปยุตกับ
จิตตอนที่ออกไปเห็นวิญญาหาร หากไม่มีสติเพียงพอก็เห็นอริยสัจจไม่ได้
คำว่า "กำหนดรู้รูปนามได้ด้วย" ตรงนี้ไม่ใช่การเห็นธรรมดา จะเห็นวิเศษแค่
ไหนก็ขึ้นกับวาสนา วาสนาดีก็จะรู้แบบ โลกวิทู(รู้ถ้วนรูปนาม)

 

<!-- google_ad_section_end -->

 

เห็นสักว่าเห็น สำหรับผมมันยากนะครับ

จะมีวิธีไหนไหมครับ สำหรับไห้คนที่เห็นแล้ว ปรุงแต่ง
รู้ว่า ที่เห็นนั้นไม่จริง ที่ใจรู้สึกนั้นก็ไม่จริง

 

แบบนี้น่าตอบหน่อย

ให้เห็น ใจที่กำลังมีเจตนาเจือโดยให้ค่าว่า จริง หรือ ไม่จริง
ให้ระลึกรู้ทันใจที่ก่อกริยานี้ขึ้นอีกที แล้วจะเฉียด....

คือ ให้เน้นที่รู้สภาวะใจกำลังก่อกริยาให้ค่า โดยไม่ต้องไป
สนใจว่ามันกำลังให้ค่า จริง หรือไม่จริง ตรงนั้นไม่ใช่สาระ
ของการเห็น สาระของการเห็นคือ สภาวะกริยาของใจ

 

ต้องย้อนกลับมาดูที่ต้นตอนะ
ดูว่า ใครเห็น ใครปรุง ใครรู้ ใครคิด
พิจารณาไปแบบนี้ ถ้าเมื่อไหร่เห็นว่าจริงๆแล้วไม่มีใคร เมื่อนั้นก็สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่ารู้
มันจะแยกออกระหว่างผู้รู้กับสิ่งที่ถูกรู้นะ ต้องทำเอานะ

ลองหาฟัง "หลวงปู่ฉลวย สัจจบารมี"

 

เข้าใจมวลสารเบา ๆ ระหว่างอกแล้ว
ขอโทษที่เถียงไป อันนี้รู้ผิด ๆ ไม่ใช้กล้ามเนื้อ ขอโทษฮะ
อืม อาหาร..เห็นก็เห็นเฉยๆ ก็ให้รู้ว่าเห็นก็พอแล้วเนอะ

 

นานา ยังไม่ได้ฟังที่พี่เปลือกไม้แนะนำละซี

พระท่านว่า อะไรๆ มันก็คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นแหละ มันมาเป็นตัวนี้หมด
แล้วเจ้าตัวนี้แหละที่มันแปรเปลี่ยนไป และก็ค่อยฟื้นขึ้นมารู้

รู้อาหารแบบที่ 1 มันก็ไปรู้ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในลักษณะหนึ่ง

รู้ผัสสาหาร มันก็ไปรู้ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในอีกลักษณะหนึ่ง

ไปรู้มโนสัญเจตนาหาร ก็ไปรู้ ดิน น้ำ ลม ไฟ อีกลักษณะหนึ่งอีก
แล้วก็ติดกันตรงนี้กันเป็นกัปๆ

เพราะลืมรู้วิญญาณาหารที่เป็นการรู้ถ้วนใน ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นแหละ

 

ยังไม่ได้ฟัง load เก็บไว้ก่อน
File ใหญ่ ใช้เวลา load หน่อย
กำลัง save ใส่ mp 3 อยู่
เครื่องมันช้านิดหน่อย ใช้มือถือต่อก็งี้แหล่ะ

 

โฆษณาซักหน่อย

ผมพิศูจน์แล้วตอนเที่ยง อยู่ที่เสียดายของ อิอิ แซวก็ให้รู้ว่าแซว

 

<!-- google_ad_section_end -->

 

ทานอะไรมาล่ะ เอาชาไหม

 

ป่าวๆ แซวพี่ภูตน่ะ วันนี้ได้ไปร่วมถวายภัตตราหาร หลวงปู่ บุญฤทธิ์ ปุณฑิโต แถว ปากเกล็ดมา กับคณะพี่ภูต แล้วก็มาทานอาหาร สนทนากันแถวๆนั้นกับ คณะของพันทิพย์ด้วย อบอุ่น ดีมากครับ ... ตอนทานอาหารกัน ก็เลยมาแซวผู้ใหญ่ เล่นน่ะ ..พี่ภูตสุดหล่อ

 

ดีจัง อนุโมทนาบุญด้วยนะ ถือว่าได้ร่วมทำบุญกัน
เอ่อแล้วตกลงใครหล่อสุด เห็นโม้แต่ก่อนไปกัน
แล้วทานอาหารแต่พอดี หรือ อร่อยไปกลับรดชาดล่ะ

พรุ่งนี้นานาก็นัดเพื่อนไปวัดเหมือนกัน ไม่เคยไป ได้แผนที่มาแล้ว
เดี๋ยวคลำทางไปด้วยออกเจ็ดโมงเช้า เอ้าเดี๋ยวนำบุญมาฝาก

 

สาธุ.. อนุโมทนาเช่นกันครับ

เดี๋ยวพี่ภูตท่านคงมาตอบ ว่า อร่อยมั๊ย..

 

ค่ะ เดี๋ยวรอ พี่ภูตมาบอกรดชาดอาหารแล้วกัน

แต่ดูท่าทางพี่ณุ จะทานเยอะกว่าเขานะเนี่ย
เอ่อเดี๋ยวไปคลีนิคก่อน ไปนะ <label for="rb_iconid_11"></label>

 

ผิดคาดครับ เรื่องความหล่อผมอาจจะเป็นรอง
แต่เรื่องท้องเนี่ย ท่านวิษณุ๑๒ ไม่ทันผมอยู่แล้ว
เพราะผมทานเผื่อมื้อเย็นด้วยครับ

งานอบอุ่นมากครับ รอท่านวิษณุ ๑๒ เป็นแม่งานจัดที่พลังจิตครับ

;aa24

 

ทายเอา ธรรมภูต กับวิษณุ ๑๒ ใครเป็นใคร