แล้วเรา คือ อะไร?...../ใคร....?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 4 สิงหาคม 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    พระบาลีในอนัตตลักขณสูตร

    ตรัสให้พิจารณาโดยยถาภูตญาณทัสสนะ

    [๒๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    เพราะเหตุนั้นแล รูปอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
    ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
    ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่ารูป เธอทั้งหลายพึงเห็นรูปนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
    ตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา.

    เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
    ภายในหรือภายนอกหยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
    ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าเวทนา เธอทั้งหลายพึงเห็นเวทนานั้นด้วยปัญญาอันชอบ
    ตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา.


    สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
    ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
    ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าเวทนา เธอทั้งหลายพึงเห็นสัญญานั้นด้วยปัญญาอันชอบ
    ตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา.


    สังขารทั้งหลายอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน
    ภายในหรือภายนอกหยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
    ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าสังขาร เธอทั้งหลายพึงเห็นสังขารนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
    ตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา.


    วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบั
    ภายในหรือภายนอกหยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้
    ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าวิญญาณ เธอทั้งหลายพึงเห็นวิญญาณนั้นด้วยปัญญาอันชอบ
    ตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรานั่นไม่ใช่ตนของเรา.

    [๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้ฟังแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา
    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสัญญา ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสังขาร
    ทั้งหลาย ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในวิญญาณ

    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมสิ้นกำหนัด เพราะสิ้นกำหนัด จิตก็พ้น
    เมื่อจิตพ้นแล้ว ก็รู้ว่าพ้นแล้ว อริยสาวกนั้นทราบชัดว่า
    ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้วกิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว
    กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.


    [๒๔] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระสูตรนี้แล้ว
    พระปัญจวัคคีย์มีใจยินดี เพลิดเพลินภาษิตของผู้มีพระภาค.
    ก็แลเมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่
    จิตของพระปัญจวัคคีย์พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย
    เพราะไม่ถือมั่น.

    อนัตตลักขณสูตร จบ

    ครั้งนั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๖ องค์.

    ...พระไตรปิฎก\พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔ - พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๔..อนัตตลักขณสูตร

    +++++++++++++

    จิตของพระอาจารย์ทั้ง๕ พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น.
    หมายถึงจิตของแต่ละ(องค์)ท่าน/ทั้ง๕(องค์)ท่านใช่มั้ยครับ???

    เมื่อแต่ละ(องค์)ท่านพบปะพูดคุยกัน ท่านต้องบอกให้รู้กันเองใช่มั้ยครับว่า
    "จิตของตนนั้นบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว"/ ต้องละ "ของตน"ทิ้งด้วยใช่มั้ยครับ???
    ...ถ้าไม่ใช่แล้วอะไรของท่านหละที่บรรลุเป็นพระอรหันต์???
    ...ขอคำตอบที่ตรงตรงประเด็นนะครับ/...จิตที่บริสุทธิ์/...หรือกายอันเป็นที่อาศัยเท่านั้น???

    ;aa24
     
  2. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    จิตของพระอาจารย์ทั้ง๕ พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น.
    หมายถึงจิตของแต่ละ(องค์)ท่าน/ทั้ง๕(องค์)ท่านใช่มั้ยครับ???

    เมื่อแต่ละ(องค์)ท่านพบปะพูดคุยกัน ท่านต้องบอกให้รู้กันเองใช่มั้ยครับว่า
    "จิตของตนนั้นบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว"/ ต้องละ "ของตน"ทิ้งด้วยใช่มั้ยครับ???
    ...ถ้าไม่ใช่แล้วอะไรของท่านหละที่บรรลุเป็นพระอรหันต์???
    ...ขอคำตอบที่ตรงตรงประเด็นนะครับ/...จิตที่บริสุทธิ์/...หรือกายอันเป็นที่อาศัยเท่านั้น???


    แล้วพระอัญญาโกญทัญญ ท่านกล่าวว่าอย่างไรครับ ท่านกล่าวว่า จิตของท่านนั้นเป็นของตัวท่านของสังขารขันธ์นั้นหรือ แค่คำว่า จิตของท่าน ผมก็แยกออกมาได้แล้วว่ามันไม่ตรงกับความเป็นจริง
    จิต คือ อะไร
    ของ คือ สมมุติบัญญัติ
    ท่าน คือ สมมุติบัญญัติ
    เหลือแต่จิตว่าคืออะไรเท่านั้น ถ้าจิตเป็นสมมุติบัญญัติด้วย ก็จบ
    แต่ถ้าจิตไม่ใช่สมมติบัญญัติ ก็ยังไม่จบ
    อันนี้ผมไม่รู้แล้วแต่ตัวท่านครับ พี่ธรรมภูต
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านคคห.ที่๔๖ครับ
    รู้แต่ถูก และ รู้แต่ผิด เอาอะไรวัด...(ผลจากการปฏิบัติและเทียบเคียงแล้วลงกับพระสูตร/พระวินัย พร้อมกับบุคคลใกล้ชิด/ครูบาอาจารย์ที่เคารพเป็นเครื่องยืนยันครับ) ใครที่เห็นก็เราไงตัวเราไงที่เห็นที่รู้ และตัวเราคืออะไรละ ถ้าตัวเรา คือ ตัวเรามันก็จบลงที่ตัวเรา...(จบลงที่ตัวเรา/ขันธ์๕...หรือจิต) แต่ถ้าตัวเราไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา เป็นแค่สิ่งสมมติก็ค่อยมาคุยกัน...(จะสมมุติอะไรขึ้นมา สิ่งนั้นต้องมีอยู่จริง ไม่ใช่ติต่างเอาเองนะ) เรื่องสมาธิที่พี่เขียนมา ดูแล้วก็มีแต่ความสับสน ถ้าผมบอกว่าผมอยู่ที่สัญญาเนวสัญญายตนได้ พี่จะเชื่อไหม...(จะเชื่อได้ยังไง? ในเมื่อยังไม่รู้จักจิตที่แท้จริงว่าเป็นยังไง) พี่ก็คงไม่เชื่อเพราะว่ามันเป็นสิ่งไม่ควรเชื่อและมันก็เป็นไปไม่ได้จริงไหมครับ แต่ก็แค่เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ มีสิ่งหนึ่งที่เป็นคำพูดของใครคนหนึ่งที่เป็นคนดีและน่าเชื่อถือได้บ้างอยู่ใน ห้องนี้แหละ คือ คนปฏิบัติเขาไม่ตั้งป้อมสงสัยกันมากหรอกเพราะไม่ว่าจะเห็นอะไรก็ตามหากรู้ว่ามันเป็นสมมุติบทสรุปสุดท้ายก็เหมือนกันคือไม่เป็นทุกข์...(โทษทีครับ อย่าไปโทษสมมุติเลยว่า ทำให้เราทุกข์/ที่ทุกข์เพราะไปยึดมั่นถือมั่นในสมมุติต่างหาก ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอครับ) เราจะมองว่ามันเป็นตัวเราก็ได้เป็นจิตเราก็ได้เป็นคติเราก็ได้หากว่ามันทำแล้วทำให้เราเข้าใจเห็นสัจธรรมนั้นอย่างแท้จริง...(ที่เวียนว่ายเข้าไปในภพน้อยใหญ่หละใครกัน/...จิตที่ยังติดข้องใหญ่ภพอยู่...หรือกายที่เปรียบเหมือนเรือนอาศัยเท่านั้น) เพราะทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวที่ตนของตนเองนั่นแหละ ไม่มีใครช่วยใครได้หรอกครับ สรุปคือ ไม่ว่าพี่จะเห็นว่า ผู้รับคือตัวเรา หรือ ผู้เป็นคือตัวเรา แล้วทำให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร ผมก็ขออนุโมทนาด้วยครับ ส่วนผมก็ต้องฝึกปฏิบัติต่อไปครับ เพราะยังไม่สามารถเห็นในสิ่งนั้นได้...(ถ้าผมไม่เคยเห็น ไม่เคยรู ไม่เคยสัมผัสมาจริง ผมคงไม่กล้ายืนยัดมาจนทุกวันนี้หรอกครับ เจอครูบาอาจารย์ที่ไหนก็กล้าตอบแบบไม่อายว่า ที่อยู่รอดปลอดภัยจนทุกวันนี้เพราะการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา จนได้หลักของใจ(จิต)แล้วครับ)

    ;aa24
     
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แต่ผมเชื่อว่าที่ท่านอยู่รอดมาจนทุกวันนี้เป็นเพียงเพราะศรัทธาเท่านั้นหาใช่ปัญญาไม่เลยครับ และผมแน่ใจว่าศรัทธาที่พี่มีต่อพระศาสดาและครูบาอาจารย์มีมากมายมหาศาลแน่นอน แต่ผมไม่เห็นมีปัญญาเลย หรือว่าพี่ยังไม่ได้แสดงทั้งหมดออกมาก็อาจเป็นได้ครับ
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
     
  6. สราวุธ ลำพูน

    สราวุธ ลำพูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +302
    ธรรมเป็นสิ่งที่อักษรเข้าถึงยาก
    ไม่มีภาษาอะไร จะพรรณาได้เหมือนธรรม
    เพราะภาษาล้วนสมมุติ ของสมมุติ เทียบไม่ได้กับวิมุต
    ถ้าท่านเอาภาษามาชนกัน สิ้นอายุไขของคนก็อาจจะไม่หมด
    การปฏิบัติเป็นไปเพื่อความปรุงแต่ง รู้และแยกความปรุงแต่งออกจากจิต
    ..ผมมาทำอะไรทีนี้นะ..
     
  7. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    คำว่าเพิกถอน กับ คำว่า ได้ดวงตาเห็นธรรม มันคนละเรื่องกันครับ คำว่าเพิกถอนจะใช้ก็ต่อเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้วสิ่งนั้น แต่ได้ดวงตาเห็นธรรมนั้นก็ยังคงต้องอยู่กับความเป็นจริงต่อไปแม้ว่าความเป็นจริงเหล่านั้นจะเป็นเพียงสิ่งสมมุติก็ตาม และแม้คำว่านิพพานจะเป็นสมมุติบัญญัติ แต่ สภาวะและเหตุและที่ตั้งแห่งนิพพานก็มีอยู่จริง เช่นเดียวกันกับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดในเนื้อหาที่พี่ยกมานั่นแหละครับ เกี่ยวกับนามและรูป แต่ผมจะไม่กล่าวถึงเพราะไม่ใช่สาระ เรื่องแรกที่เราต้องมีในวิปัสสนาญาณนั้นคืออะไร และเป็นวิปัสสนาญาณจริงๆไม่ใช่แค่ความจำ ไม่ใช่สมาธิและนิมิตที่เกิดขึ้น อันนี้ต่างหากที่ผู้มีปัญญาต้องปฏิบัติให้เห็นจริง และเป็นสันทิฐิโก พร้อมกับ สังโยชน์ดับลง จริงไหมครับผู้ที่เคยปฏิบัติถึงเช่นท่าน
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    วิญญาณ หมายถึงความรู้สึก ที่เราจะต้องปล่อยวางทิ้งไปนะครับ ส่วนตัว จิต ผู้รู้ ผู้เห็น ผู้ไม่ตาย จะต้องได้รับการอบรม การสอนให้เข้าใจกฏแห่งอนิจจังของสรรพสิ่งในโลกนี้ ผ่านตัวเรา-ร่างกาย ครับ--ความเห็นส่วนตัว จะว่าเก่งธรรมมะก็ไม่ใช่นะครับ
    Bloggang.com : jesdath :
    มาคุยธรรมมะกันครับ-แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
     
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านคคหที่๕๒ครับ
    ธรรมเป็นสิ่งที่อักษรเข้าถึงยาก...(ถูกต้องครับ ที่ภาษาเขียน/หรือภาษาพูดจะเข้าถึงธรรมที่แท้จริงได้)
    ไม่มีภาษาอะไร จะพรรณาได้เหมือนธรรม
    เพราะภาษาล้วนสมมุติ ของสมมุติ...(ใช่ครับ...ภาษาล้วนเป็นสมมุติ/แต่เมื่อเข้าสภาวะนั้น/ท่านก็ยังต้องอาศัยภาษาที่เป็นสมมุติเหล่านั้นสื่อสารใช่มั้ยครับ???/..หรือไม่ต้องใช้ภาษาที่เป็นสมมุตินั้นแล้ว) เทียบไม่ได้กับวิมุต...(ใช่ครับ...คำว่าวิมุตติก็เป็นภาษาที่สมมุติเช่นกันครับ/วิมุตติ...หลุดพ้นจากอะไร???...ใชหลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่นในสมมุตินั้นใช่มั้ย???/เมื่อหลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่นแล้ว...จำเป็นด้วยหรือที่ต้องเลิกใช้สมมุติเหล่านั้นในการสื่อสารกัน)
    ถ้าท่านเอาภาษามาชนกัน สิ้นอายุไขของคนก็อาจจะไม่หมด...(อย่าเข้าใจ(จิต)สับสนสิครับ ภาษามาชนกันไม่ทำให้หมดไปหรอกครับ/การไม่ลงมือปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาต่างหาก..ที่ทำให้ศาสนาพุทธหมดไป)
    การปฏิบัติเป็นไปเพื่อความปรุงแต่ง รู้และแยกความปรุงแต่งออกจากจิต
    ..ผมมาทำอะไรทีนี้นะ...(ใช่ครับ...การแยกจิตออกจากอารมณ์ให้ได้นั่นแหละเป็นเรื่องสำคัยที่สุดในพุทธศาสนา แล้ววิธีหละครับ???)

    ;aa24
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านคคห.ที่๕ภครับ
    คำว่าเพิกถอน กับ คำว่า ได้ดวงตาเห็นธรรม มันคนละเรื่องกันครับ...(ใช่ครับมันคนละเรื่องเดียวกัน...คำว่าเพิกถอนนั้นต้องเป็นการเพิกถอนความยึดมั่นถือมั่นเท่านั้นจึงจะถูกต้อง ไม่ใช่เพิกถอนภาษาที่ใช้สื่อสารกัน/ส่วนดวงตาเห็นธรรมนั้น..เห็นว่าขันธ์๕ไม่ใช่เรา..ไม่เป็นเรา..ไม่ใช่ตัวตนของเรา...เป็นการเพิกถอนความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์๕/ยังต้องใช่ภาษาสมมุติอยู่ดี) คำว่าเพิกถอนจะใช้ก็ต่อเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้วสิ่งนั้น...(มีใครบ้างในโลกนี้ที่บรรลุธรรมแล้ว..เลิกใช้(ถอน)ภาษาสมมุติไว้สื่อสารให้เข้าใจกัน..ไม่เคยปรากฏ...ถ้ามียกตัวอย่างมาด้วย แม้พระพุทธองค์ยังทรงต้องใช้ภาษาสื่อสารนั้นอยู่เลย...ทรงไม่เคยบัญญัติให้เพิกถอนเลย) แต่ได้ดวงตาเห็นธรรมนั้นก็ยังคงต้องอยู่กับความเป็นจริงต่อไปแม้ว่าความเป็นจริงเหล่านั้นจะเป็นเพียงสิ่งสมมุติก็ตาม และแม้คำว่านิพพานจะเป็นสมมุติบัญญัติ แต่ สภาวะและเหตุและที่ตั้งแห่งนิพพานก็มีอยู่จริง เช่นเดียวกันกับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดในเนื้อหาที่พี่ยกมานั่นแหละครับ เกี่ยวกับนามและรูป...(ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นสมมุติบัญญัติที่มีอยู่จริงท...มีไว้เพื่อให้สื่อสารถึงสิ่งเหล่านั้นให้รู้เรื่องเท่านั้น..เมื่อพระพุทธองค์บรรลุพระนิพพานแล้ว...ท่านก็ไม่ได้ให้เพิกถอนสมมุติบัญญัติทิ้งเสียเมื่อไหร่หละ ท่านให้เพิกถอนความยึดมั่นถือมั่นในสมมุติบัญญัตินั้นต่างหากหละ...ไม่บอกว่าเลิกใช้ภาษาพูดเสียเมื่อไหร่???) แต่ผมจะไม่กล่าวถึงเพราะไม่ใช่สาระ เรื่องแรกที่เราต้องมีในวิปัสสนาญาณนั้นคืออะไร และเป็นวิปัสสนาญาณจริงๆไม่ใช่แค่ความจำ ไม่ใช่สมาธิและนิมิตที่เกิดขึ้น...(ถ้าสัมมาสมาธิยังไม่รู้จัก/และไม่เคยเข้าถึง...ไม่ต้องพูดถึงวิปัสสนาญาณให้เสียเวลาเลย เป็นแค่เพียงความคิดที่ตกผลึกเท่านั้น...ไม่ใช่วิปัสสะนง/วิป้สสนาอะไรหรอก/ทั้งสมถะและวิปัสสนานเป็นเรื่องเดียวกันคือเรื่องความหลุดพ้นจากกิเลสเท่านั้นครับ) อันนี้ต่างหากที่ผู้มีปัญญาต้องปฏิบัติให้เห็นจริง และเป็นสันทิฐิโก พร้อมกับ สังโยชน์ดับลง จริงไหมครับผู้ที่เคยปฏิบัติถึงเช่นท่าน...(ปัญญาที่ได้จากความนึกคิดขึ้นเองนั้น...แตกต่างจากปัญญาที่ได้รู้ได้เห็นมาเป็นขั้นเป็นตอนของการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา/ศีล..สติ..สมาธิ..ปัญญา เมื่อได้ผ่านตามขั้นตอนที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะเกิดปัญญาญาณที่แท้จริง(ตามความเป็นจริง) ไม่ใช่นึกคิดคาดเดาเอาเองเท่านั้นแล้วเกิดปัญญาครับ)

    ;aa24
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่าคคห.ที่๕๔ครับ
    วิญญาณ หมายถึงความรู้สึก ที่เราจะต้องปล่อยวางทิ้งไปนะครับ ส่วนตัว จิต ผู้รู้ ผู้เห็น ผู้ไม่ตาย จะต้องได้รับการอบรม การสอนให้เข้าใจกฏแห่งอนิจจังของสรรพสิ่งในโลกนี้ ผ่านตัวเรา-ร่างกาย ครับ--ความเห็นส่วนตัว จะว่าเก่งธรรมมะก็ไม่ใช่นะครับ
    Bloggang.com : jesdath :
    มาคุยธรรมมะกันครับ-แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน...(อนุโมทนาครับ...ที่รู้จักจิตว่าเป็นผู้รู้จักทุกข์...ผู้เห็นเหตุแห่งทุกข์...ผู้ไม่ตายไปตามอารมณ์ที่เข้ามาปรุงแต่งจิต...ตั้งอยู่...แล้วดับไปจากจิตตามวาระ...ตราบใดที่ยังมีการลงมือปฏิบัติอริยมรรคมีองค์๘(ปฏิบัติทางจิต)อย่างจริงจัง...โลกนี้จักไม่ว่างเว้นจากพระอรหันต์ครับ มีเวลาจะแวะไปเยี่ยมที่บล๊อกครับ...)

    ;aa24
     
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ถ้าผมบอกว่าปัจจุบันผมไม่เคยหลงพี่จะเชื่อไหมครับ ถ้าพี่คิดว่าเข้าใจว่าพี่บรรลุแล้วในสิ่งที่พี่เป็นและได้เทียบเคียงกับพระสูตรแล้วเทียบเคียงกับครูบาอาจารย์และพองเพื่อนกัลยานมิตรของพี่แล้วผมก็ขออนุโมทนาให้พี่ได้เห็นฝั่งฝันนั้นด้วยดีครับเพราะยังไงๆพี่ก็ไม่มีวันได้เจอผมและก็เจอแล้วก็ไม่รู้จักหรอกครับและปัญญาของผมกับของพี่ไม่ว่าจะทางโลกหรือทางธรรมนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือแม้องค์ประกอบจะเหมือนกันในแต่ละวันแต่ก็ต่างกันมากอยู่ดีครับเช่นเดียวกับที่ผมไม่ทราบว่าที่พี่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้มาจากปัญญาที่พระศาสดาเรียกว่าปัญญาญาณหรือเปล่าและก็เช่นกันอีกพี่ก็ไม่น่าจะทราบในปัญญาของผมเช่นกันแต่ตัวพิสูจน์ก็คือเหตุและผลของการมีอยู่ของตัวพี่เองนั่นแหละครับ สำหรับตัวผมผมถือว่าเกิดมาชาตินี้ได้เห็นพระสัทธรรมแล้วและไม่ว่าใครจะมองว่าเป็นว่าเป็นมิจฉาทิฐินั้น หรือว่าใครจะมองว่าเป็นสัมมาทิฐินั้นมันก็สุดแล้วแต่ผู้อื่นเขาจะปรุงแต่งหรือคิดกันไปด้วย ทิฐิ ของแต่ละคนแต่ผมสบายใจแล้วรู้แล้วเห็นแล้วว่านี่กิเลส ว่าสิ่งนี้ถ้าละได้ก็ละสิ่งนี้ยังละไม่ได้ก็ค่อยๆพิจารณาไป นี่คือผลของ ทิฐิ ที่มีต่อพระพุทธศาสนาของผมส่วนใครจะเติมคำหน้าว่าอย่างไรก็สุดแล้วแต่เขาหรือพี่เองครับผมไม่เอาอีกแล้วที่จะมาใช้ภาษาสื่อสารเพื่อให้ได้คนเก่ง คนชนะประสบการณ์มันสอนผมแล้วว่า สันทิกฐิโก แท้จริงแล้วมันคือ อะไร ไม่ว่ายังไงก็ตามผมก็เดินทางนี้ทางเดิมไม่แปรเปลี่ยนส่วนพี่ถ้าคิดว่าทางเดียวกับผมก็ทางเดียวกับผมถ้าคิดว่าไม่ใช่ก็สุดแล้วแต่พี่ครับเพราะผมไม่เคยเดินตามใครนอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดจนพระอริยะสงฆ์และอริยะสาวกทั้งหลายทั้งที่เป็นบรรพชิตและปุถุชนครับ<O:p</O:p
    ขอบคุณที่ชี้แนะครับ พี่ธรรมภูต<O:p</O:p
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    จิตของเรานี่แหละ คือ พุทธะผู้รู้ ...หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

    จิตของเรานี่แหละ คือ พุทธะผู้รู้
    พากันกำหนดรู้ว่าผู้รู้อยู่ตรงไหนแล้วตั้งสติลงตรงนั้น เพ่งดูไปตรงนั้น
    พอจิตสงบดี มีความสุขความสบาย เย็นอกเย็นใจไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่วุ่นวาย สบาย
    นี่นำความสุขความเจริญมาให้ในปัจจุบันและเบื้องหน้า

    ดูที่จิตของเราอย่างนี้แหละ เรามานี้ก็ต้องการความสุขความเจริญ
    ต้องการความสุขความสบาย เป็นอย่างนี้
    เหตุนั้นไม่ใช่อื่นสุขอื่นสบาย(ดังนั้นจึงไม่ใช่ความสุขอื่น ความสบายอื่น)
    นอกจากจิตของเราสุขจิตของเราสบาย...(กุศลจิต)

    อกุศลเป็นยังไง คือจิตมันไม่สงบ จิตมันไม่ดี จิตไม่ดีมันก็ทุกข์ยากวุ่นวายเดือดร้อน
    นี่แหละนำสัตว์ทั้งหลายตกทุกข์ได้ยากในปัจจุบันและเบื้องหน้า พากันพิจารณาดูซิ
    มีบางคนทำอะไรๆขาดทุนขาดรอนเป็นหนี้เป็นสินกันเพราะเหตุใด
    บางคนทำการงานก็ไม่ดี หาอะไรก็ไม่ได้ เพราะอะไร ดูซิมันไม่ดีตรงไหนเล่า
    นี่แหละคนทั้งหลายเป็นอย่างนี้ บ้านเมืองก็ไม่ดี
    ดูซิภูเขาเลากาเขาเขาก็ไม่ได้มีอะไร นั่งดูซิ นั่น

    เราทำมาหากินอะไรก็ขาดทุนขาดรอน หาอะไรก็ทุกข์ยากลำบาก
    อะไรทุกข์อะไรยาก ให้นั่งดูซี่ แต่ก่อนเราไม่มีโอกาสจัดทำบุญทำกุศล
    เวลานี้เราทำได้เต็มที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ดูซิมันขัดมันเขินอะไร ขาดตกบกพร่องสิ่งใด
    ให้หัดตรวจน้ำจิตน้ำใจของเราดูซี่ การที่ขาดทุนขาดรอนก็เพราะอันนี้คือจิตของเราไม่ดี

    เมื่อจิตของเราไม่ดี ก็ทุกข์ยากวุ่นวายเดือดร้อน
    เมื่อจิตเป็นอย่างนี้ ก็ทำให้ขาดทุนขาดรอน
    เมื่อจิตไม่ดีทำอะไรก็ไม่ดี หาอะไรก็ไม่ดี การงานก็ไม่ดี ทำมาหากินอะไรก็ไม่ดี
    ราชการก็ไม่ดี ค้าขายก็ไม่ดี ครอบครัวก็ไม่ดี ชาวบ้านร้านตลาดประเทศชาติก็ไม่ดี
    จิตเราไม่ดีเท่านี้ ดูซิภรรยาสามีก็ทะเลาะกัน
    จิตไม่ดีว่ายังไงล่ะ ดูซิ ดูให้รู้จัก นี่แหละมันเป็นเพราะเหตุนี้

    ให้ดูซี่ เมื่อจิตไม่ดีแล้วล่ะ ให้รู้จักนึกพุทโธ พุทโธ ตัดเสีย


    ;aa24



    <!-- google_ad_section_end -->
     
  14. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    มิจฉาทิฐิ ไง เห็นผิดในธรรม
    แต่เค้าไม่ใช่คนไม่ดีนะ ทำบุนก้มาก ทำดีก้มาก
    เทวดา ก้รักษา บุญก้ส่งผล ทำอย่างไรได้อย่างนั้น แต่เพราะความตำหนิธรรมนี้แหละ จะยัง จิตไม่ไห้เข้าถึงได้ คงอีกนาน
     
  15. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    มิจฉาทิฐิ ไง เห็นผิดในธรรม
    แต่เค้าไม่ใช่คนไม่ดีนะ ทำบุนก้มาก ทำดีก้มาก
    เทวดา ก้รักษา บุญก้ส่งผล ทำอย่างไรได้อย่างนั้น แต่เพราะความตำหนิธรรมนี้แหละ จะยัง จิตไม่ไห้เข้าถึงได้ คงอีกนาน
     
  16. zeedhama

    zeedhama Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +48
    เรา คือ จิต ที่สิงภายในหรือที่เรียกว่า อทิสมานกาย เราจริงๆ คือ จิต ร่างกายเป็นแต่เพียงเรือนร่างที่อาศัยชั่วคราว

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) มีกล่าวไว้ว่า

    เรา คือ จิต ร่างกายมันเป็นร่างที่อาศัย
    อารมณ์ที่เราต้องการแบบนี้ มีความปรารถนาเหมือนกันหมดทุกคน
    แล้วก็ร่างกาย มันตามใจเราไหม

    ลองนึกดูเวลานี้เราอายุเท่าไหร่แล้ว
    ถ้าร่างกายมันเป็นของจริง เราพอใจอยู่แค่ไหน
    ถึงความเป็นหนุ่ม เป็นสาว ร่างกายสมบูรณ์บริบูรณ์

    ก็เพราะว่าเราไม่อยากจะไม่แก่ แล้วมันเชื่อไหมล่ะ
    อยากจะกินอาหารอย่างไหน ที่มันดีที่สุด
    ที่มันมีประโยชน์แก่ร่างกายที่สุด ร่างกายจะได้ไม่ทรุดโทรม
    แต่กินเข้าไปเท่าไร ก็โทรม ก็แก่

    ยาขนาดไหนดีที่สุด กินแล้วไม่แก่ ไม่ป่วย
    กินเข้าไปเถอะ ไม่ช้ามันก็ตายมันก็แก่

    นี่เป็นอันว่าเราห้ามร่างกายไม่ได้
    ในเมื่อร่างกายเราห้ามมันไม่ได้แล้ว

    เราก็ต้องรู้ว่า
    ร่างกายความจริงมันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของเรา
    เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา

    เรา คือ จิต ที่เรียกว่า อทิสมานกาย
    ที่เข้ามาอาศัยร่างกายเป็นเรือนร่างที่อาศัย อันนี้

    ร่างกายมันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
    แล้วมันก็ไม่อยู่ในอำนาจของเรา
    เราจะปรนเปรอ บังคับบัญชา มันอย่างไรก็ตาม
    มันจะไม่ยอมปฏิบัติตามด้วยประการทั้งปวง

    ถึงเวลาที่มันจะแก่ มันก็ต้องแก่
    ถึงเวลาที่มันจะป่วย ก็ต้องป่วย
    ถึงเวลาเวทนาต่างๆ เวทนาจะเกิดขึ้นมันก็เกิด
    ถึงเวลามันจะตาย จ้างมันเท่าไรมันก็ไม่เอา

    อ่านต่อที่นี่
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    พี่ zeedhama ครับ ผมถามหน่อย ซักหน่อยๆ

    เมื่อ ยังอยู่ในกาย มัน มีความรู้สึก

    เมื่อ อาทิสมาย(จิต)กายออกมา มันมีความรู้สึกไหม

    ชื่อเท่ห์ดีนะครับ
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านคคห.ที่๖๒
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) มีกล่าวไว้ว่า

    เรา คือ จิต ร่างกายมันเป็นร่างที่อาศัย
    อารมณ์ที่เราต้องการแบบนี้ มีความปรารถนาเหมือนกันหมดทุกคน
    แล้วก็ร่างกาย มันตามใจเราไหม

    ลองนึกดูเวลานี้เราอายุเท่าไหร่แล้ว
    ถ้าร่างกายมันเป็นของจริง เราพอใจอยู่แค่ไหน
    ถึงความเป็นหนุ่ม เป็นสาว ร่างกายสมบูรณ์บริบูรณ์

    ก็เพราะว่าเราไม่อยากจะไม่แก่ แล้วมันเชื่อไหมล่ะ
    อยากจะกินอาหารอย่างไหน ที่มันดีที่สุด
    ที่มันมีประโยชน์แก่ร่างกายที่สุด ร่างกายจะได้ไม่ทรุดโทรม
    แต่กินเข้าไปเท่าไร ก็โทรม ก็แก่

    ยาขนาดไหนดีที่สุด กินแล้วไม่แก่ ไม่ป่วย
    กินเข้าไปเถอะ ไม่ช้ามันก็ตายมันก็แก่

    นี่เป็นอันว่าเราห้ามร่างกายไม่ได้
    ในเมื่อร่างกายเราห้ามมันไม่ได้แล้ว

    เราก็ต้องรู้ว่า
    ร่างกายความจริงมันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของเรา
    เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา

    เรา คือ จิต ที่เรียกว่า อทิสมานกาย
    ที่เข้ามาอาศัยร่างกายเป็นเรือนร่างที่อาศัย อันนี้

    ร่างกายมันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
    แล้วมันก็ไม่อยู่ในอำนาจของเรา
    เราจะปรนเปรอ บังคับบัญชา มันอย่างไรก็ตาม
    มันจะไม่ยอมปฏิบัติตามด้วยประการทั้งปวง

    ถึงเวลาที่มันจะแก่ มันก็ต้องแก่
    ถึงเวลาที่มันจะป่วย ก็ต้องป่วย
    ถึงเวลาเวทนาต่างๆ เวทนาจะเกิดขึ้นมันก็เกิด
    ถึงเวลามันจะตาย จ้างมันเท่าไรมันก็ไม่เอา

    อ่านต่อที่นี่

    ++++++++++++++

    อนุโมทนา สาธุฯ ครับท่านคคห.ที่๖๒ ที่ยกคำเทศน์ของครูบาอาจารย์มาให้ได้ศึกษา
    เพื่อเข้าถึงธรรมอันละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งยากแก่การที่คนหยาบกระด้างต่ออารมณ์จะเข้าถึงได้

    แม้ผู้ชี้ทางซึ่งเป็นที่เคารพบูชายกย่องของมหาชนทั้งหลายนั้น
    ท่านก็อบรมสั่งสอนตามพุทธโอวาทที่ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

    ก็ยังมีผู้ที่หลงผิด คิดว่าตัวเองเป็นสัมมาทิฐิ เข้าใจธรรมลึกซึ้งแล้ว
    ทั้งที่มืดสนิท ไม่เคยรู้จักธรรม/..เห็นธรรม/..สัมผัสธรรมที่แท้จริงเลยครับ

    ;aa24
     
  19. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    มีแต่คนเห็นจิต หาจิตจนเจอ ผมเป็นผู้น้อย ยังหาจิตไม่เจอ ยังหาอะไรที่มันเป็นเราเป็นของเราไม่ได้สักอย่างเดียว

    ใครมีประสบการณ์มีภูมิธรรม ก็แสดงออก ให้ผู้น้อยได้ศึกษาหน่อยแล้วกัน

    เจริญธรรม^-^
     
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    จินนี่เห็นไหมล่ะ มันแสบๆ คันๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...