ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

27 ก.ย. 52

แผน 2

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 52 ผมได้ซื้อที่ดินที่อำเภอเชียงคานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้ลูกสาวคนโต เป็นเจ้าของที่ดิน

แผน 2 เดิมท่านสมาชิกในเว็บฯ ได้กรุณาโอนเงินมาให้ 1หมื่นบาท วันนี้ผมได้คุยกับแนวร่วมว่า ที่ดินผมซื้อแล้ว ให้มาช่วยผมออกเงินซื้อโอ่งน้ำ ขุดบ่อเก็บมูล พื้นสำเร็จปูพื้นที่เผื่อฝนตกที่จะแฉะและอื่นๆ เป็นเงิน 3หมื่นบาทและจะทะยอยเพิ่มเติมทีหลัง ก็รวมเป็น 4หมื่นบาท

ช่วงทำบุญทอดกฐิน วันที่ 24 ตุลาคม 52 ผมจะขึ้นไปทำบุญพร้อมกับดำเนินการแผน 2 ต่อ

สำหรับท่านใดสนใจก็ pm เข้ามาคุยกันก่อน ผมต้องขอตรวจสอบท่านที่จะไปอยู่กับผมก่อน

 

อุตุฯย้ำเหนือ-อีสานรับมือพายุ "กิสนา" ฝนกระหน่ำเพิ่ม​

​

ภูมิภาค 27 ก.ย.- รองผู้ว่าฯ เลยสั่งช่วยราษฎรภูหลวงถูกน้ำป่าหลากท่วมเช้าวันนี้ 4 หมู่บ้าน หลังฝนตกต่อเนื่อง ขณะที่อุตุฯ เตือนรับมือพายุ “กิสนา” แผ่อิทธิพล 30 ก.ย.-3 ต.ค. มีฝนเพิ่ม ด้าน ปภ.เชียงใหม่ กำชับมิสเตอร์เตือนภัยทุกพื้นที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

นายพรศักดิ์ เจียรณัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กำชับให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ภูหอ อ.ภูหลวง ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในระยะนี้เป็นพิเศษ พร้อมให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยที่ถูกน้ำป่าจากภูหลวงทะลักท่วมฉับพลันเกือบ 70 เซนติเมตร เมื่อเช้าวันนี้ (27 ก.ย.) ถึง 4 หมู่บ้าน 100 หลังคาเรือน คือ บ้านหนองบัว บ้านน้ำคู้ บ้านหนองบัวน้อย และบ้านศรีอุบล ต.ภูหอ

ล่าสุดสถานีอุตุนิยมวิทยาเลยรายงานภาวะอากาศทั่วไปว่า ยังมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จะทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มระวังน้ำท่วมฉับพลัน ประกอบกับพายุโซนร้อน “กิสนา” บริเวณทะเลจีนใต้ทางด้านตะวันตกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อลมฟ้าอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยช่วงวันที่ 30 ก.ย.- 3 ต.ค.นี้ สำหรับ จ.เลย วัดปริมาณฝนตกหนักวานนี้ (26 ก.ย.) ได้มากสุดที่ อ.ภูหลวง 121 มิลลิเมตร

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือประกาศเตือนอีกครั้ง หลังจากพายุ “กิสนา” ผ่านฟิลิปปินส์สู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักขึ้นอีกช่วงวันที่ 30 ก.ย.-3 ต.ค.นี้ โดยช่วงนี้ไทยได้รับอิทธิพลของร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และความกดอากาศต่ำ ทำให้ฝนตกกระจายทั่วประเทศอยู่แล้ว จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนสะสมทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ดินถล่มดินไหลตัวได้ง่าย โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลหลาก

อย่างไรก็ตาม นายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง เป็นเพียงน้ำท่วมขังเล็กน้อยในเขต อ.เมือง และแม่น้ำสำคัญยังไม่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าฝนยังตกต่อเนื่องอาจมีความเสี่ยงสูง และเพื่อความไม่ประมาทได้ประสานให้ทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและมิสเตอร์เตือนภัยให้เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง.- สำนักข่าวไทย

2009-09-27 13:38:52

น้ำท่วมเหนือ-อีสานทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก​

​

พิจิตร 27 ก.ย.-เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัด ทั้งในภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยเฉพาะที่ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่าสิบหลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูง 30 ถึง 70 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องอพยพสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่าและสัตว์เลี้ยงหนีน้ำขึ้นไปไว้บนถนน ขณะที่พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน

ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลก ภายในหมู่บ้านการเคหะ อำเภอเมือง ชาวบ้านกว่า 400 หลังคาเรือน ต้องเดินลุยน้ำไปจับจ่ายซื้ออาหารเช้า ขณะที่ในตัวเมือง ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประกาศเตือนประชาชน 5 อำเภอ 100 หมู่บ้าน ระวังน้ำท่วมเฉียบพลันในวันนี้

ด้านจังหวัดชัยภูมิ ประชาชนตามลุ่มแม่น้ำชี ต่างผวาน้ำท่วมระลอก 2 หลังมีข่าวเขื่อนลำประทาว จะเปิดประตูระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนอีกเท่าตัว เพื่อลดปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น จากฝนที่ตกหนักมาตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันเขื่อนเสียหาย ทำให้ส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่างเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและนำกระสอบทรายกั้นหน้าบ้านกันอย่างโกลาหล.-สำนักข่าวไทย

2009-09-27 10:34:10

น้ำป่าถล่ม 3 อำเภอใน จ.เพชรบูรณ์ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก​

​

เพชรบูรณ์ 27 ก.ย.-เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วม 3 อำเภอ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก รถบางคันถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรใน 3 อำเภอของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ อำเภอเมือง หนองไผ่ และชนแดน บางแห่งถูกน้ำท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร ถนนสายสำคัญมีน้ำท่วมสูง ส่วนบริเวณถนนสายเพชรบูรณ์ วิเชียรบุรีสายใหม่ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 73 ความแรงของกระแสน้ำพัดรถยนต์ทะเบียน กง 51 เพชรบูรณ์ ของนายไพรวัน ขุนทิพย์ ที่ขับมาจากกรุงเทพฯ กลับมาเยี่ยมบ้าน จนตกถนน รถจักรยานยนต์ของนายพิชิตพล มิ่งรอด ถูกน้ำพัดจนสูญหายไปกับกระแสน้ำ พื้นที่การเกษตรนับหมื่นไร่จมอยู่ใต้น้ำ

ส่วนใน 2 ตำบล ของอำเภอหนองไผ่ ก็ถูกน้ำป่าเข้าท่วมเป็นระลอกที่ 2 ทั้งระดับน้ำยังมีทีท่าเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

2009-09-27 13:18:20

น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพิจิตร​

​

พิจิตร 27 ก.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดพิจิตร ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลบ่ามาตามลำคลองและแหล่งน้ำสาธารณะผ่านมาจากทางอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก สมทบกับปริมาณน้ำฝน แต่ไม่สามารถไหลระบายลงสู่แม่น้ำน่านที่มีระดับสูงได้ จึงไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่าสิบหลังคาเรือนในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร ระดับน้ำท่วมสูง 30-70 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านต้องเร่งอพยพขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่าและสัตว์เลี้ยงหนีน้ำขึ้น ไปไว้ในที่ปลอดภัยอย่างอลหม่าน

นอกจากนี้น้ำป่าดังกล่าวยังไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความ เสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะสวนกล้วยน้ำว้าที่เกษตรกรเพาะปลูกก็ถูกน้ำท่วมแช่ขังในระดับสูงด้วย ขณะที่สวนมะเขือพวงของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลท่าฬ่อก็ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร เกษตรกรต้องระดมเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เนื่องจากต้นมะเขือกำลังออกผลผลิต แต่ก็มาถูกน้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วม.- สำนักข่าวไทย

2009-09-27 09:49:31

ฝนกระหน่ำพิษณุโลกส่งผลหลายหมู่บ้านเจอปัญหาน้ำท่วม​

​

พิษณุโลก 27 ก.ย.-ฝนตกลงมาอย่างหนักที่ จ.พิษณุโลก ตลอดคืน ส่งผลพื้นที่ลุ่มต่ำหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง ขณะนาข้าวที่กำลังออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ผู้ว่าฯ เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยกว่า 100 หมู่บ้านใน 5 อำเภอระวังภัยน้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลกว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงอย่างหนักส่งผลให้หลายหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำถูกน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะหมู่บ้านการเคหะพิษณุโลก ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกว่า 400 หลังคาเรือน ต้องเดินลุยน้ำซื้อหาอาหาร การคมนาคมยากลำบาก เพราะถนนภายในหมู่บ้านทุกสายถูกน้ำท่วมขัง ขณะนี้ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มปกคลุมไปด้วยเมฆฝน และฝนก็โปรยปรายลงมาตลอดเวลา ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งสูบน้ำเพื่อระบายออกจากพื้นที่ บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ผลพวงจากฝนตกและน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ทำให้นาข้าวของเกษตรกรใน จ.พิษณุโลก ซึ่งกำลังตั้งท้องและออกรวง บางแห่งใกล้เก็บเกี่ยว ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลกอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎรต่อไป

ด้านนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประกาศเตือนราษฎรทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะราษฎรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากกว่า 100 หมู่บ้าน ใน 5 อำเภอ คือ อ.ชาติตระการ นครไทย เนินมะปรางวังทอง และ อ.วัดโบสถ์ ให้ขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไว้บนพื้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

2009-09-27 08:58:12

สสจ.สงขลาส่งชุดเคลื่อนที่เร็วหาไข่ไก่ปลอมหลังผู้บริโภคร้องเรียน​

​

สงขลา 27 ก.ย.-เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (27 ก.ย.) ชุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสงขลาเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในย่านซอย 14 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง หลังรับแจ้งจากชาวบ้านร้องว่าพบไข่ไก่ต้องสงสัยเป็นของปลอม เพราะสังเกตลักษณะผิดปกติอยู่ 1 ใบ ที่ซื้อมาจากร้านขายของชำในละแวกดังกล่าว โดยมีความเหลวทั้งไข่แดงและไข่ขาว ไม่มีกลิ่นคาว ส่วนเปลือกเหมือนมีรอยเชื่อมต่อกัน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงออกสุ่มซื้อไข่ไก่ตามร้านค้าและนำมาตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไข่ทั้งหมดไม่มีความผิดปกติ และมีแหล่งที่มาจากจากฟาร์มใหญ่เดียวกันทั้งหมู่บ้าน จึงเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีปัญหาไข่ปลอม สันนิษฐานว่าไข่ใบดังกล่าวน่าจะเป็นไข่ค้างสตอกมากกว่า ฉะนั้นประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะขณะนี้ยังไม่มีปัญหาการลักลอบนำเข้าไข่ปลอมเข้ามาในพื้นที่ แต่ถ้าประชาชนสงสัยการปลอมปนของสินค้าบริโภคสามารถแจ้งสำนักงานสาธารณสุขได้ตลอดเวลา ซึ่งจะมีชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบทันที. -สำนักข่าวไทย

2009-09-27 14:52:15

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ช่วยกันเฝ้าดูและเอาใจช่วยให้ปลอดภัยกันครับ

 

ช่วยกันเฝ้าดูและเอาใจช่วยให้ปลอดภัยกันครับ

 

ประโคมข่าวภัยมี ...ภัยมา
ขายหนังสือตำรา ...มากล้น
อีกทั้งซีดีขาย .......เป็นชุด เชียวนา
เมื่อไหร่จะขายหน้า ..อยากดู

รู้อะไรรู้หมด .........จักรวาล
จะเกิดนั่นเกิดนี่........อดสู
แสนรู้มากจังนะ .......หมอดู
ตัวเองยังไม่รู้ ..........รู้แต่ จิตจักรวาล

ฮ่าๆๆ

 

ใจเย็นๆๆกันนะครับเรื่องภัยพิบัติ ตุลาคมเตือนแต่เรื่องน้ำนะครับใน กทม แต่ก็แก้ไขได้ครับยังมีเวลานะครับ

 

คนชั่วกล้าทำบาปเพราะไม่เชื่อว่านรกมีจริง !!!
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2463490", true); </SCRIPT>

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เฌ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2463490", true); </SCRIPT>
สมาชิก(อันธพาล)​

บทสนทนา "นรกมีจริงหรือไม่ ?" ​

กล่าวกันว่าการที่คนเราสมัยนี้ มีความประพฤติย่อหย่อนทางศีลธรรมกันมาก ก็เพราะว่าไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ไม่กลัวโลกหน้า เนื่องจากยุคนี้เป็นยุควิทยาศาสตร์ อันเป็นยุคที่นักวิทยาศาสตร์ได้สอนไว้ว่า ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เราไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ หรือไม่สามารถตรวจวัดได้ สิ่งนั้นล้วนย่อมเป็นเรื่องที่งมงายทั้งนั้น​

คนเราสมัยนี้ก็เลยไม่กลัว "นรก" บอกว่าเป็นเรื่องที่เหลวไหล เป็นเรื่องที่ไม่ สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริง ๆ ได้ "นรก"คงเอาไว้สำหรับหลอกคนปัญญาอ่อนเล่นเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้เองคนเราสมัยนี้เลยชอบทำผิดศีลธรรมกันตามใจชอบ ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน สับสนวุ่นวายไปหมด ​

ถาม : ถึงตรงนี้ก็เลยอยากจะถามว่าในทางพุทธศาสนายืนยันได้หรือไม่ว่า "นรกมีจริง " ​

ตอบ : ถ้าตอบตามหลักฐานที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ก็คงต้องตอบว่า พระพุทธศาสนายืนยันว่า "นรก" มีจริง ! ​

ถาม : เราจะมีการพิสูจน์เรื่องนี้ให้ประจักษ์ชัดได้อย่างไร เพราะสมัยนี้เป็นสมัยวิทยาศาสตร์ คนเราย่อมไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว คือต้องเห็นกับตาจึงจะเชื่อ เพราะถ้าจะอ้างว่า มีมาในพระไตรปิฎกเพียงอย่างเดียว คนสมัยนี้คงจะรับกันยาก​

ตอบ : มีวิธีพิสูจน์ความจริงอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าจะมีใครกล้าพิสูจน์หรือเปล่า​

ถาม : ถ้าเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้จริง คนเราก็จะกลัวบาปกรรมกันมากขึ้น สังคมก็จะสงบสุข มากขึ้นกว่านี้​

ตอบ : ถ้าอ่านคำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับการทำความดีความชั่ว หลาย ๆ แห่ง ท่าน จะบอกชัดเลยว่า คนทำความดีแล้วก็จะได้รับผลดีในชีวิตนี้อย่างนี้ ๆ และเมื่อ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ก็จะไปเกิดในสวรรค์ชั้นนั้น ๆ คนทำความชั่วก็เช่น เดียวกัน เมื่อทำความชั่วย่อมได้รับผลร้ายในชีวิตนี้อย่างนี้ ๆ และเมื่อเบื้องหน้าแต่ตาย เพราะกายแตก ก็จะไปตกนรกชั้นนั้น ๆ ​

ถาม : ยังไม่เห็นมีวิธีพิสูจน์ตรงไหนเลย​

ตอบ : มีสิ..ท่านก็บอกเราให้เห็นชัดแล้วว่า นรกสวรรค์นี้เป็นเรื่องของชีวิตหลังความตาย คำว่า "เบื้องหน้าแต่ตาย เมื่อกายแตก..." ก็บอกให้รู้ ๆ อยู่ว่าต้องตายไปก่อนจึงจะได้พบเห็น นรกสวรรค์จึงไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถพบเห็นประจักษ์ได้ใน ขณะที่มีชีวิตอยู่​

ถาม : อ้าว..แล้วอย่างนี้จะพิสูจน์กันได้อย่างไร​

ตอบ : พิสูจน์ได้แน่นอน..แต่มีปัญหาอยู่ที่ว่าจะมีใครกล้าพิสูจน์หรือเปล่า นั่นคือ คนที่ต้องการจะรู้เห็นด้วยตัวเองว่านรกมีจริงหรือไม่ ก็ต้อง "ยอมตาย" เพื่อที่จะพิสูจน์ด้วยชีวิตของตนเอง เพื่อให้เป็นไปตามหลักที่ท่านได้วางไว้ นี้เป็นหนทางเดียว เท่านั้นในการพิสูจน์เรื่องนรกสวรรค์สำหรับปุถุชนอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ​

ถาม : โห..! อย่างนี้ใครจะกล้าลงทุนยอมตาย แล้วไม่มีทางอื่น ๆ จะพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ได้อีกหรือไม่ เช่นวิธีการใช้เครื่องมือตรวจสอบต่าง ๆ​

ตอบ : การตรวจสอบผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า เป็นขอบเขตที่วิทยาศาสตร์สามารถทำได้ แต่ การพิสูจน์เรื่องของ "นรกสวรรค์" ท่านว่าเป็นเรื่องของประสบการณ์ชีวิตหลังความตาย โดยตรง จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ด้วยชีวิต ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ใช้ในการ ตรวจสอบได้ (แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยี่เป็นเครื่องมือช่วยก็ตาม ) ​

ถาม : ถ้า "นรก" เป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่เช่นนี้ แล้วเราจะเอาอะไรมาเป็น เครื่องช่วยให้เราให้เราเกิดความมั่นใจในการความดี ละเว้นความชั่ว ​

ตอบ : ถ้าเป็นชาวพุทธสมัยก่อน เขาใช้หลักศรัทธา คือเชื่อมั่นในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัส ว่าเป็นความจริง เพราะเขาสามารถพิสูจน์ในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเกี่ยวกับชีวิต ปัจจุบันว่าล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ส่วนเรื่องของโลกหน้าซึ่งเป็นสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เขาก็ใช้ความศรัทธาเชื่อมั่นว่า สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องนรกสวรรค์ย่อม เป็นความจริงอย่างแน่นอน ​

ความมั่นใจในความตรัสรู้ดีของพระพุทธองค์นี้เองที่ทำให้ชาวพุทธในสมัยก่อน ปฏิบัติตัวเป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่เหมือนคนที่ไม่มีศรัทธาอย่างในยุคปัจจุบัน เพราะคนเรา หากไม่มีศรัทธา ก็มักจะทำอะไรตามใจชอบโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม บ้านเมืองจึงเกิดความ วุ่นวายเสื่อมโทรมดังที่เห็นอยู่ในยุคปัจจุบัน ​

ถาม : วิธีที่จะให้คนรุ่นใหม่หันมาเชื่อเรื่องนรกสวรรค์โดยอ้างว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสนี้คงจะ ยากสักหน่อย เพราะคนรุ่นนี้ยิ่งเห็นเรื่อง"ศรัทธา" ว่าเป็นความงมงายอยู่ด้วย น่าจะ ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่ใช้ได้ผลอีกไหมในการชักจูงให้คนกลัวบาปกลัวกรรมกันมากขึ้น​

ตอบ : เราอาจจะใช้วิธี "ไม่ประมาท" ก็ได้​

ถาม : วิธีนี้เราต้องปฏิบัติอย่างไร ​

ตอบ : ในเมื่อเรายังไม่รู้ชัดว่า นรกมีจริงหรือไม่จริง เราก็ไม่ประมาทไว้ก่อน คือ ตามหลักพุทธศาสนาท่านก็กล่าวไว้แล้วว่าหากเราทำความดี ผลแห่งกรรมดีนั้น ย่อมจะประจักษ์แก่ใจของเราในชีวิตนี้เอง คือมีความสุข ปีติ โสมนัส รื่นเริงบันเทิงใจ และ ทีนี้ในวันข้างหน้าหากเมื่อใดที่เราจะต้องตายไป เราก็มั่นใจได้เลยว่าหากมีนรก สวรรค์ขึ้นมาจริงละก้อ เราปลอดภัยแน่ ๆ เพราะเราทำความดีไว้มากมาย ทีนี้ถ้าหากว่า เราตายไปแล้ว เกิดนรกสวรรค์ไม่มีจริง ก็ยังถือว่าชีวิตของเราเท่าที่ได้ดำเนินมาก็ได้รับ ความสุขจากการทำความดี เป็นผลกำไรอย่างคุ้มค่าเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเสียดายเวลาอะไร คิดได้อย่างนี้ก็สบายใจ หายกังวล มีความมั่นใจในชีวิตมากขึ้น​

ตรงกันข้ามกับคนประมาท ที่คิดว่านรกสวรรค์ฉันไม่เชื่อหรอก ชาตินี้เกิดมา ขอกอบโกยทุกรูปแบบเอาไว้ก่อน ทีนี้ความชั่วที่เขาทำไว้เยอะแยะ ที่จริงมันก็ก่อให้ เกิดผลร้ายแก่จิตใจของเขาทารุณมากพอแล้ว ต่อมาในยามเมื่อเขาตายไป ถ้ามันไม่มีนรก จริงๆ อย่างที่เขาว่าก็แล้วกันไป แต่ถ้าทีนี้มันเกิดมีนรกจริง ๆ ขึ้นมา แล้วเขาจะทำอย่างไร จะกลับมาแก้ตัวใหม่ก็ไม่ได้อีกแล้ว และ ความทุกข์ที่ได้รับในนรกก็แสนจะทารุณ มันไม่คุ้มค่า เลยกับความสุขทางวัตถุเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ตัวเองได้รับในยามเมื่อมีชีวิตอยู่เลย​

ถาม : ทำไมนรกมันน่ากลัวนักหรือ เหมือนกับที่เขียนตามผนังโบสถ์หรือเปล่า​

ตอบ : ความน่ากลัวของนรก ที่เขาเขียนตามผนังโบสถ์ในสมัยโบราณ มันเป็นเรื่องของจินตนาการของศิลปิน แต่ในพระไตรปิฎกมีอยู่พระสูตรหนึ่งที่กล่าวไว้ในเชิงเปรียบเทียบให้เห็นถึงความน่ากลัวของนรก คือท่านพูดบรรยายไม่ไหวก็เลย ใช้วิธีเปรียบเทียบเอา ​

ถาม : ท่านเปรียบเทียบไว้อย่างไร​

ตอบ : พระภิกษุรูปหนึ่งได้ถามถึงความน่ากลัวของนรกกับพระพุทธเจ้า ว่านรกมีความทุกข์แสนสาหัส เพียงไร พระพุทธองค์จึงย้อนถามพระภิกษุรูปนั้นว่า คนเราถ้าโดนหอกร้อยเล่มแทงทั่วร่างกาย ทุกเช้าเย็น ติดต่อกันเป็นเวลา ๓ วัน รวมเป็นหอก ๓๐๐ เล่ม เขาจะรู้สึกทุกข์สักเพียงไร ​

พระภิกษุรูปนั้นกล่าวตอบว่า อย่าว่าแต่หอก ๓๐๐ เล่มเลย แค่เล่มเดียวก็ทุกข์เจ็บปวดทรมานเจียนตายแล้ว จากนั้นพระพุทธองค์จึงได้ทรงหยิบก้อนหินก้อนขนาดฝ่ามือขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วถามภิกษุรูปนั้นต่อไปว่า หากเธอเปรียบเทียบก้อนหินก้อนเท่าฝ่ามือนี้กับภูเขาหิมาลัย (ขนาดสูงประมาณ 9000 เมตร ) ที่อยู่เบื้องหลัง เธอว่ามันมีความแตกต่างกันสักเพียงไร​

ภิกษุรูปนั้นกล่าวตอบว่า โอ! มันช่างแตกต่างกันมากมายมหาศาลอย่างที่เปรียบเทียบกันไม่ได้เลย พระพุทธองค์จึงตรัสอุปมาให้เห็นภาพทันทีว่า ความทุกข์ที่เกิดจากหอก๓๐๐ เล่มแทงตามร่างกาย เปรียบเสมือนกับขนาดก้อนหินที่ถืออยู่ในมือนี้ ส่วนความทุกข์ในนรกนั้นช่างใหญ่หลวง เปรียบเสมือนขนาดภูเขาหิมาลัยที่ใหญ่โตมโหฬารที่ตั้งตระหง่านที่เบื้องหลังของเรานี้ ​

จะเห็นได้ว่าพระพุทธองค์ท่านทรงใช้วิธีพูดเปรียบเทียบเพื่อให้เราจินตนาการให้เห็นความทุกข์ในนรกว่ามันช่างหนักหนาสาหัสเพียงไร ทุกข์แค่ไหนก็นึกภาพเอาเองก็แล้วกัน​

ถึงตรงนี้ก็เลยขอถามว่า ถึงเราจะไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์นี้ก็ตาม แต่ว่าเราจะยอมเสี่ยงหรือเปล่า เพราะถ้าหาก "นรก" มันเกิดมีจริงๆ ขึ้นมา การตกนรกนั้นก็ย่อมหมายถึงการที่เราหมดโอกาสที่จะกลับมาแก้ไขตัวเองใหม่อีกต่อไป ใช่หรือไม่ อีกทั้งเวลาของการที่ต้องได้รับความทุกข์ทรมานในนรกนั้น หากเราประกอบกรรมชั่วไว้เป็นอาจิณ ท่านว่าเวลาที่เรารับผลกรรมมันช่างยาวนานยิ่งนัก นรกบางขุมนั้นมีความยาวนานมากจนจินตนาการ แทบไม่ไหวเลยทีเดียว​

ถาม : ระยะเวลาในนรกยาวนานแค่ไหน?​

ตอบ : ท่านว่าขึ้นอยู่กับกรรม(การกระทำ)ของผู้นั้น ระยะเวลาตกนรกมีตั้งแต่ไม่กี่วัน (เช่น ในกรณีที่ทำความดีมานาน แต่เผอิญเผลอสติไปคิดชั่วก่อนตายเพียงแว้บเดียว ) ​

หนึ่งเดือน หนึ่งปี ร้อยปี พันปี แสนปี จนถึงบางคนที่ประกอบกรรมชั่วหนัก ๆ เช่น มีจิตอาฆาตในพระอริยเจ้า ท่านว่าต้องทนทุกข์ทรมานนรกที่มีระยะเวลายาวนานปีนับหลายล้าน ๆ ปี ( จำนวนศูนย์ ๑๒๔ ตัว) เป็นต้น​

จะเห็นได้ว่ามันไม่คุ้มค่าเลยที่จะทำความชั่วเพียงเพื่อแลกกับความสุขทางวัตถุชั่วครั้งชั่วคราว ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ​

ถาม : ถึงตรงนี้อยากให้สรุปสักหน่อยว่า คนรุ่นใหม่ควรมีท่าทีอย่างไร เกี่ยวกับเรื่อง "นรกสวรรค์"​

ตอบ : สรุปคือ ถ้ามีใครมาถามชาวพุทธว่า นรกสวรรค์มีจริงหรือไม่ ก็ตอบไปได้เลยว่า พระพุทธเจ้าสอนว่ามีจริง (ตามหลักฐานในพระไตรปิฎก) และถ้าหากเขาถามถึงความคิดเห็นส่วนตัวของเราว่าเชื่อในเรื่องนี้หรือเปล่า เราก็ตอบไปอย่างตรงไปตรงมาว่า "ยังไม่เชื่อ" เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นสักที แต่ที่แน่ ๆ คือฉัน "ไม่ประมาท" คือ ฉันมีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องของฉันเองว่า ถ้าหากมันเกิดมี"นรก" ขึ้นมาจริงๆละก้อ สถานที่เช่นนั้นคงจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของชีวิตฉันอย่างแน่นอน​

chai 4 เมษายน 2009, 10:55:13 am​

ที่มา http://www.dhammakid.com/board/index.php?topic=2445.0​

 

มันพุ่งมาตรงๆ เลยหละ...​

​

พายุ "กีสนา"(กฤษณา) ชื่อก็คล้ายๆพายุ "นากีส" ที่เคยพัดเข้าถล่มประเทศพม่าจนมีคนตายเป็นแสนไปแล้ว เมื่อวานเปิดดูข่าวของเจ้าพายุตัวนี้ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์จนเกิดน้ำท่วมมีคนตายเป็นร้อย ไร้ที่อยู่อาศัยอีกเกือบสามแสนคน กระแสน้ำพัดเชี่ยวกราดรุนแรงมากเลยครับ

คนที่หนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ถูกกระแสน้ำพัดพาลอยไปตามกระแสน้ำเชื่ยว น่ากลัวมากครับ นี่ถ้าไม่เห็นกับตาจากข่าวทางทีวีจะไม่เชื่อเลยว่า ชีวิตของคนที่กำลังอยู่บนเส้นด้าย ระหว่างความเป็นกับความตายนั้นมันจะน่ากลัว น่าหวาดเสียวมากถึงขนาดนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ฝึกสติ ทำสมาธิ ให้จิตใจเข้มแข็งกันตั้งแต่บัดนี้ เมื่อใดก็ตามที่เราต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้ เราอาจจะต้องเสียสติสัมปชัญญะไปเลยก็เป็นได้ครับ

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เฌ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2463490", true); </SCRIPT>
สมาชิก(???)

การเตือนภัยจากหลายฝ่าย เพื่อ ให้เกิดความระมัดระวังและเตรียมพร้อม
เมื่อไม่เห็นด้วย แสดงความคิดเห็นได้ การเห็นต่างเห็นได้ แต่ควรแสดงความคิดเห็น ที่เคารพในสิทธิของผู้อื่น

การกล่าวแสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมกับการเสียดสีถากถาง ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี บางท่านอาจรู้สึกเสียกำลังใจ โกรธ (เป็นการสร้างกรรม)
โดยกระทู้นี้มีผู้เปิดวันๆ มากกว่า 100 ครั้ง 100 ความไม่พอใจเกิดเป็นกรรมระดับมวลชน ไม่ดีอย่างแน่นอน

ทุกความคิดเห็นควรประกอบไปด้วยความเคารพในสิทธิผู้อื่น อยู่ร่วมกันด้วยความไม่เบียดเบียน กาย ใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ควรมีในศีล 5

 

เตือนภัยกิสนา 10 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมสูง

ประกาศกรมอุตุฯเตือนปชช.ในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ลุ่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่ไต้ฝุ่นกิสนาจ่อเข้าไทย 30 ก.ย.นี้....

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา(28 ก.ย.)กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย พายุหมุนเขตร้อน"กิสนา (KETSANA)"ฉบับที่ 1 ระบุว่า พายุโซนร้อน บริเวณทะเลจีนใต้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้(28 ก.ย.52) ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุไต้ฝุ่น “กิสนา (กฤษณา)” มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 420 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือ ที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความ เร็ว ประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้( 29 ก.ย.52) และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนวจังหวัดมุกดาหาร ในวันที่ 30 ก.ย. 52 นี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางพื้นที่โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ในวันที่ 29 ก.ย. 52 ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป

จึงขอ ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มของจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้

ส่วน สถานการณ์ล่าสุดที่จังหวัดพิจิตร ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่ 3 ตำบล ในเขตอำเภอเมือง เสียหายกว่า 100 ไร่ ชาวนาเดือดร้อนหนักเนื่องจากนาข้าวส่วนใหญ่ ใกล้เก็บเกี่ยว ชาวนาต้องเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเสียหายในเบื้องต้น ส่วนที่จังหวัดจันทบุรี ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำให้เตรียมอพยพ สิ่งของไว้ในที่สูงและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังพบปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เตือนภัยกิสนา 10 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมสูง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยรับมือภัยน้ำท่วมไม่ไหว​

​

มะนิลา 28 ก.ย.- รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยว่า ไม่สามารถรับมือกับภัยน้ำท่วมใหญ่ที่ทำให้มีผู้เดือดร้อนเกือบ 500,000 คน และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะสูงกว่า 86 คน ซึ่งเป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ

นายแอนโธนี โกเลซ หัวหน้าสำนักงานประสานงานภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังหาทางบรรเทาทุกข์ขนานใหญ่ แต่เนื่องจากเคยช่วยเหลือครั้งละไม่กี่แห่ง ขณะที่ครั้งนี้ขนาดของความเสียหายเกินวงกว้าง บุคลากรและเครื่องมือที่มีอยู่จึงไม่เพียงพอที่จะรับมือ สิ่งที่เจ้าหน้าที่กังวลมากที่สุดคือเรื่องโรคระบาดและการจัดสรรสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนที่ยังติดค้างหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวันเสาร์ในกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียง

นายกิลเบอร์โต ทีโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการช่วยเหลือเผยยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ 86 คน สูญหาย 32 คน ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 435,000 คน และกำลังตรวจสอบรายงานข่าวที่ว่าพบศพเพิ่มอีก 58 คน ในย่านมาริกินา ชานกรุงมะนิลา ด้านหัวหน้าหมู่บ้านริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในเมืองเกซอนเผยว่า ยังไม่ได้แจ้งต่อทางการว่าพบศพ 29 ศพ และมีผู้สูญหาย 108 คน เพราะทางการยังไม่ติดต่อมา.-สำนักข่าวไทย

2009-09-28 09:09:37

คาดน้ำท่วมฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไม่ต่ำกว่า 100 คนแล้ว​

​

มะนิลา 27 ก.ย.- ทางการฟิลิปปินส์คาดว่ามีผู้เสียชีวิตและสูญหายไม่ต่ำกว่า 100 คนหลังเกิดน้ำท่วมหนักในรอบ 42 ปีที่กรุงมะนิลาและ 5 จังหวัดใกล้เคียงเพราะพายุกิสนา (กฤษณา) กระหน่ำ

นายกิลเบิร์ต ทีโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมเผยว่า ทหาร ตำรวจและอาสาสมัครช่วยประชาชนได้มากกว่า 5,000 คนแล้ว ส่วนใหญ่กอดกันอย่างหวาดผวาอยู่บนหลังคาบ้านหรือหลังคารถนานกว่า 24 ชั่วโมงเพราะน้ำท่วมหนัก หลายพื้นที่ในกรุงมะนิลาน้ำท่วมสูงถึง 6 เมตร ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วขณะนี้อยู่ที่ 73 คน ส่วนผู้เดือดร้อนมีมากกว่า 337,000 คน ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยว่า แม้ฝนซาลงบ้างแล้วในวันนี้แต่เกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเพราะจะพบศพเพิ่มขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลง รัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งว่า วัดระดับน้ำฝนได้ถึง 41.6 เซนติเมตรในวันเดียว ทำลายสถิติเดือนกรกฎาคม 2510 ที่มีฝนตกหนักวัดระดับน้ำฝนได้ 33.4 เซนติเมตรในวันเดียว

ด้านสหรัฐส่งเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และเรือ 6 ลำไปช่วยกู้ภัย รวมทั้งเสนอจัดสรรความช่วยเหลือ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านบาท) ส่วนจีนบริจาคเงินช่วยเหลือ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 340,000 บาท).-สำนักข่าวไทย

2009-09-27 23:11:03

ฟิลิปปินส์เสี่ยงถูกพายุถล่มซ้ำ​

​

มะนิลา 28 ก.ย.- กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์กำลังจับตาดีเปรสชั่นโซนร้อนและหย่อมความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนตัวมุ่งหน้ามาทางฟิลิปปินส์ เพราะอาจทวีความรุนแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่นลูกใหม่ ซ้ำเติมฟิลิปปินส์ที่เพิ่งประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 42 ปี

นักอุตุนิยมวิทยาเผยว่า ดีเปรสชั่นโซนร้อนและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีความเป็นไปได้สูงมากที่ดีเปรสชั่นโซนร้อนจะทวีกำลังขึ้นเป็นไต้ฝุ่น ขณะนี้มุ่งหน้าไปทางตอนเหนือของเกาะลูซอน อย่างไรก็ดี ทั้งดีเปรสชั่นโซนร้อนและหย่อมความกดอากาศต่ำจะไม่ส่งผลต่อฟิลิปปินส์ภายใน 2 วันเป็นอย่างต่ำ และอาจเป็นไปได้ที่จะเคลื่อนตัวมาไม่ถึงฟิลิปปินส์ ส่วนสถานการณ์ในกรุงมะนิลา น้ำที่ท่วมมาแล้ว 2 วันยังไม่ลดระดับลง และแม้พายุกฤษณาเคลื่อนตัวพ้นไปแล้ว แต่พยากรณ์ว่าจะยังคงทำให้เกิดฝนตกกระจายและพายุฟ้าคะนองบนเกาะลูซอนในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-09-28 09:14:25

อิหร่านทดลองขีปนาวุธพิสัยกลาง ​

​

เตหะราน 28 ก.ย.-สถานีโทรทัศน์รัฐบาลอิหร่าน รายงานว่าอิหร่านทดลองขีปนาวุธพิสัยกลาง หลังจากที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติทดลองขีปนาวุธพิสัยใกล้เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบ

เพรส ทีวี รายงานเพียงว่า เป็นการทดลองขีปนาวุธพิสัยปานกลาง แต่ไม่มีรายละเอียดชนิดของขีปนาวุธหรือเวลาในการทดลอง นับเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในประเด็นข้อพิพาทนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก หลังจากที่รัฐบาลเตหะรานเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังก่อสร้างโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งที่ 2.- สำนักข่าวไทย

2009-09-28 13:15:59

คลินตันไม่เชื่ออิหร่านพัฒนานิวเคลียร์เพื่อสันติ​

​

สหรัฐ 28 ก.ย. - รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ไม่เชื่อว่าโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน มีจุดประสงค์ทางสันติจริงอย่างที่อิหร่านกล่าวอ้าง

นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในรายการ “เฟซ เดอะ เนชั่น” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ว่า แม้อิหร่านพยายามแสดงหลักฐานต่อประชาคมโลกให้เห็นว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมีจุดประสงค์ทางสันติ แต่เธอไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง และจะเร่งหาทางพิสูจน์ว่า อิหร่านไม่ได้พัฒนาโครงการนิวเคลียร์เพื่อหวังผลิตอาวุธนิวเคลียร์

ด้านนายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า สหรัฐยังไม่มีความคิดที่จะใช้กำลังทหารโจมตีสถานที่ที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งที่ 2 ของอิหร่านในขณะนี้ และว่า อิหร่านกำลังเสี่ยงที่จะถูกคว่ำบาตรจากประชาคมโลกรุนแรงขึ้น. - สำนักข่าวไทย

2009-09-28 04:17:39

เผยอิสราเอลวิ่งเต้นให้มหาอำนาจลงโทษอิหร่านหนักขึ้น​

​

เยรูซาเลม 27 ก.ย.-สื่อในอิสราเอลรายงานว่า อิสราเอลกำลังวิ่งเต้นให้ชาติมหาอำนาจตะวันตกเพิ่มการลงโทษอิหร่านให้หนักขึ้นหลังจากอิหร่านเปิดเผยเรื่องโรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งที่ 2

หนังสือพิมพ์ฮาอาเร็ตซ์รายงานว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกร้องระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกสหรัฐหลายคนว่าต้องเพิ่มแรงกดดันและมาตรการลงโทษอิหร่านในทุกด้าน

ส่วนหนังสือพิมพ์มาอารีฟอ้างสิ่งที่นายกาบี อาชเคนาซี หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารบกอิสราเอลกล่าวกับคนสนิทว่า ยังพอมีเวลาที่จะหยุดยั้งอิหร่านไม่ให้มีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยการเพิ่มมาตรการลงโทษ ประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจัดของอิหร่านจะต้องเลือกว่าอยากมีจุดจบเหมือนซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำอิรักที่ถูกแขวนคอประหารชีวิตหรือลงเอยแบบ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟีของลิเบียที่ประกาศยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และได้กลับเข้าสู่ประชาคมโลก. -สำนักข่าวไทย

2009-09-27 18:04:44

กัมพูชาพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 รายแรก​

​

พนมเปญ 28 ก.ย. - นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา เปิดเผยวันนี้ว่า กัมพูชาพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายแรกแล้ว

ผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นหญิงวัย 40 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ป่วยเป็นเวลานานแล้วด้วยปัญหาเกี่ยวกับปอด เธอเสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ที่โรงพยาบาลกาลเมต์ ในกรุงพนมเปญ โดยผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวได้เข้ารับการตรวจสุขภาพที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนเสียชีวิต แต่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลดังกล่าว

ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกัมพูชา ล่าสุดมีอย่างน้อยแล้ว 88 คน หลังพบเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นครั้งแรกในประเทศเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้านองค์การอนามัยโลกเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีประชากรทั่วโลกกว่า 3,900 คน เสียชีวิตด้วยไข้หวัดใหญ่ 2009 นับตั้งแต่มีการค้นพบไวรัสดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

2009-09-28 14:09:12

ชาวอินโดนีเซียเสียชีวิตบนถนนเกือบ 500 คนช่วงตรุษอีดิ้ลฟิตริ​

​

จาการ์ตา 27 ก.ย.- ทางการอินโดนีเซียเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คนจากอุบัติเหตุจราจรช่วงที่ผู้คนหลั่งไหลเดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองวันตรุษอีดิ้ลฟิตริ สิ้นสุดการถือศีลอด

โฆษกกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียแจ้งว่า ช่วง 6 วันก่อนและ 3 วันหลังวันตรุษอีดิ้ลฟิตริ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่แล้วได้รับแจ้งอุบัติเหตุทั้งหมด 1,153 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตรวม 472 คน บาดเจ็บสาหัส 551 คน ผู้เดินทางใช้เวลาบนถนนเฉลี่ย 16 ชั่วโมง หลายคนเหนื่อยล้าและเร่งรีบ ส่วนช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 548 คน ส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์. -สำนักข่าวไทย

2009-09-27 17:23:35

อินเดีย-ปากีสถานเสร็จสิ้นเจรจาโดยไม่มีความคืบหน้าใด ๆ​

​

นิวยอร์ก 28 ก.ย.- รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียและปากีสถานเสร็จสิ้นการเจรจานอกรอบการประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติแต่ไม่ได้ผลคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับการฟื้นเจรจาสันติภาพเต็มขั้น

นายเอส เอ็ม กฤษณา รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย และนายชาห์ เมห์มูด กูเรชี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน แยกกันแถลงข่าวหลังหารือเป็นเวลา 100 นาที รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวว่า การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์แต่การเจรจาจะมีประโยชน์ต่อเมื่อปราศจากความรุนแรงและการก่อการร้าย เพราะบางกลุ่มและบางคนในปากีสถานยังคงเป็นภัยต่ออินเดีย อินเดียยอมรับว่าปากีสถานได้ดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับผู้ต้องสงสัยก่อเหตุในนครมุมไบของอินเดียเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่ลำพังคนเพียง 7-8 คนคงไม่สามารถก่ออาชญากรรมร้ายแรงที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 166 คน

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานกล่าวว่า ต้องการฟื้นการเจรจาทุกประเด็นตั้งแต่เรื่องแคว้นแคชเมียร์ไปจนถึงการค้า เขาได้เสนอแนะต่ออินเดียถึงแนวทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ และพร้อมเดินทางไปอินเดียด้วยตัวเองเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของชาวอินเดีย รวมทั้งย้ำว่าชาวปากีสถานสนับสนุนให้ฟื้นการเจรจาสันติภาพแต่เรื่องนี้คงลำบากหากอินเดียยังคงเตะถ่วงด้วยการตั้งเงื่อนไขในการเจรจา.-สำนักข่าวไทย

2009-09-28 08:31:02

ที่มา http://news.mcot.net

 

สังเกตดีๆนะครับ
รู้สึกทิศทางมันเบี่ยงลง
รู้สึกว่าจะมาบ้านเรานี่
West Pacific IR4 Imagery - Satellite Services Division
Weather Image & Chart
http://www.goes.noaa.gov/sohemi/sohemiloops/shirgmsw.html
http://tiwrm.haii.or.th/TyphoonTracking/wc.php?imgwc=lastest_wc.jpg

 

ฟังข่าวเมื่อวานนี้ว่า เขื่อนลำตะคอง มีน้ำน้อย อาจไม่พอใช้ในหน้าแล้งนี้

พอรู้ว่าพายุกิสนา กำลังจะเข้ามาบริเวณเหนือเขื่อนพอดี ก็ให้รู้สึกดีใจ

ตอนฟังข่าวเมื่อวานนี้ผมยังคิดว่า น่าจะมีน้ำฝนมาตกลงเขื่อนซะหน่อย

มาเห็นข่าววันนี้ รู้สึกดีใจมาก ที่หน้าแล้งนี้ เกษตรกรในเขตชลประธานของเขื่อนลำตะคองจะได้ไม่ขาดน้ำ

เพราะเท่าที่ติดตามข่าว พายุนี้มีน้ำมามากทีเดียว ( แต่ขอให้พอดี ๆ อย่ามากจนเกินไปนะครับ )