ดูจิตที่รู้ผิดจากความเป็นจริง ย่อมเห็นจิตเป็นกองทุกข์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 27 กันยายน 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ จิตเหมือนชิ้นเดียวกับวิญญาณขันธ์ แต่ไม่ใช่วิญญาณขันธ์
    รู้โดยไม่จำเป็นต้องรับเอามาเป็นของเรา ย่อมทำได้

    จิตคิดถึงความว่าง ในเมื่อจิตมีความคิดอยู่ จิตก็ไม่ว่าง
    เพราะจิตรู้โดยไม่ต้องคิดได้ครับ รู้ว่าว่างโดยไม่ต้องคิด

    จิตมีตัวตนให้พึ่งพาได้ แต่ไม่มีตัวตนให้สัมผัสแตะต้องได้
    จิตที่มีสติกำกับอยู่ตลอดเวลา ย่อมเป็นที่พึ่งได้ แต่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้

    จิตมีแน่นอน ที่มีเหมือนไม่มีนั้นเป็นสัญญา คล้ายมีคล้ายไม่มี
    แต่จิตก็รู้อยู่ ว่าอาการเหล่านี้เกิดขึ้นที่จิต

    ส่วนอารมณ์นั้นมีคือมี ไม่มีคือไม่มี มีเหมือนไม่มีไม่เคยเห็นครับ???

    ;aa24
     
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนนั้น ท่านสอนให้ควบคุมจิตไม่ให้ส่งออก
    ถ้าเราอบรมควบคุมจิตได้ เราต้องกลัวอะไรกับระนาบภายนอก
    เพราะระนาบภายนอกจะแปรปรวนไปอย่างไรก็ตาม
    ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่นมาเป็นของๆเรา มันก็ไม่มีผลกับเรา

    อารมณ์เป็นของคู่โลกมานมนานแล้ว
    ถ้าจิตไม่ยึดมั่นมาเป็นของๆเรา ก็ไม่ใช่อารมณ์ของจิต
    จิตก็อยู่ส่วนจิต อารมณ์ก็อยู่ส่วนอารมณ์

    ;aa24
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ตอนที่บอกว่าจิตเกิด-ดับรู้มั้ย???
    รู้ได้ด้วยจิตใหม่ไปรู้จิตดวงที่พึ่งดับไป<O:p</O:p
    ถ้ายังมีรู้อยู่ก็แสดงว่าไม่ใช่จิตเกิดดับเป็นอารมณ์ต่างหากที่เกิดดับ<O:p</O:p
    จิตดวงใหม่จะรู้ได้อย่างไร ดวงเก่ายังไม่ดับเมื่อดวงเก่าดับดวงใหม่ก็ยังไม่เกิด<O:p</O:p
    จะเป็นไปได้อย่างไร แบบนี้เรียกว่าเดาเอานิครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ++++++++
    แล้วกรรมดี-กรรมชั่วบันทึกลงที่จิตดวงไหน???
    จิตดวงใหม่ที่เกิด ผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ทุกสิ่งที่จิตดวงเก่ามีจะส่งต่อไปยัง
    จิตใหม่ด้วย<O:p</O:p
    ส่งต่อกันตอนไหนครับ ดวงเก่ายังไม่ดับ ดวงใหม่ก็เกิดไม่ได้ <O:p</O:p
    เมื่อดวงใหม่เกิด ดวงเก่าก็ดับไปแล้วเอาเวลาที่ไหนมาส่งต่อครับ<O:p</O:p
    จิตจะมีทีเดียวสองดวงไม่ได้ครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    +++++++++++++++
    เวลาจะสำรวมจิตควรจะสำรวมจิตดวงไหน???
    การสำรวมจิตตามความเห็นผม(เฉพาะตัวผม) คือการที่จิตปัจจุบันไปบังคับ
    ให้จิตที่จะเกิดดวงต่อไปให้เป็นสติและจะยาวนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ
    ของจิตนั้นๆ ฉะนั้นไม่ชี้ลงไปตรงๆว่าดวงไหน แต่สังเกตุได้จากจิตณ.
    ปัจจุบันเป็นอารมณ์ที่เป็นกุศลอยากดีอยากสำรวมจิต จิตดวงต่อไปนั้น
    แหละครับเริ่มสำรวมจิต<O:p</O:p
    ถ้าสำรวมดวงปัจจุบันโดยชี้ลงไปไม่ได้เกิดมีดวงอื่นแทรกจะทำยังไงเพราะเกิดดับเร็วมาก<O:p</O:p
    เกิดสำรวมไปๆจิตเกิดดับขึ้นมาเพราะอกุศลจิตเข้ามาแย่งจะทำยังไงครับ???<O:p</O:p
    แล้วทำไมไม่สำรวมจิตดวงที่มีอกุศลจิตหละครับ เมื่อมันดับไปแล้วจะทำยังไง???<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    +++++++++++++++++++++++
    จิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นมารู้มั้ยว่าจิตดวงเก่าดับไป???
    ผู้ปฏิบัติทางนี้เขารู้กันทั้งนั้นและยังรู้ไปถึงว่าทำไมคนอื่นถึงไม่รู้ ก็เพราะคน
    ที่ไม่รู้ มีอารมณ์โมหะ(หลง)อยู่ ขาดสติตัวระลึกรู้ครับ<O:p</O:p
    ถ้ายังมีตัวสติระลึกรู้อยู่ก็แสดงว่ายังมีจิตอยู่ขนาดไม่รู้ก็ยังรู้ เอาอะไรมาเกิดดับ<O:p</O:p
    สติจะระลึกรู้ได้ต้องมีจิต แสดงว่าจิตไม่ได้เกิดดับเลยที่เกิดดับนั่นหนะอารมณ์ต่างหาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    +++++++++++++++++
    เวลาต้องชดใช้กรรมดี-กรรมชั่วจิตดวงไหนชดใช้???
    จิตดวงปัจจุบันไงครับผมว่าท่านคงเข้าใจว่าจิตเกิดดับคงจะเหมือนกาย ที่
    ผุพังเน่าเปื่อยหมดสภาพ เมื่อจิตละสังขารแล้วจิตก็ยังคงทำงานต่อคือเกิดดับ
    อย่างต่อเนื่อง กุศลอกุศลก็ส่งต่อกันไป จนจิตไปอยู่ในรูปกายใหม่
    ซึ่งกายหรือรูปขันธ์จะต้องไปประสบอะไรบ้างมันเป็นเรื่องภพชาติส่วนจิตจะ
    สุขจะทุกข์ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจิตจะไปยึดเอาอารมณ์ของจิตดวงเก่ามาหรือไม่
    ....ตามความเข้าใจผม ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่าเพราะยังไปไม่ถึงถ้าจะกล่าว
    ถึงจิตในลักษณะของนิพพานแล้วคือจิตที่เป็นอรหันต์หยุดการทำงาน ที่เรียก
    ว่าจิตเกิดดับ อย่างที่เราชอบพูดกันว่าไม่ขอมาเกิดนั้นมันแค่กายหรือรูป
    ขันธ์อันที่จริงต้องบอกว่าไม่อยากให้จิตเกิดดับอีกแล้ว
    ท่านครับจิตไม่ใช่ผีกระสือ ที่เกิดดับวูบวาบๆ <O:p</O:p
    มันยุติธรรมแล้วหรือครับ ที่จิตดวงใหม่ไม่ได้ทำกรรมชั่วนั้นเลย<O:p</O:p
    แต่ต้องมารับกรรมของจิตดวงเก่าที่ทำกรรมชั่วไว้<O:p</O:p
    ในเมื่อมันเป็นคนละดวง จะต้องมารับกรรมแทนกันมันถูกต้องแล้วหรือครับ<O:p</O:p
    พระพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า ใครทำกรรมเช่นใดก็ต้องได้รับผลเช่นนั้น ก็ผิดสิครับ<O:p</O:p
    ในเมื่อจิตดวงใหม่ไม่รู้เรื่องเลย เกิดมาก็ต้องรับกรรมหละไม่รู้สึกว่าขาดเหตุผลไปบ้างหรือครับ<O:p</O:p
    จิตพระอรหันต์ไม่หยุดทำงานหรอกครับ<O:p</O:p
    แต่หยุดทำอกุศลกรรม ส่วนกุศลธรรมยังทำอยู่แต่ไม่ยึดครับ<O:p</O:p
    ทำด้วยเมตตาล้วนๆโดยไม่มีอามีสแม้สักนิดเข้ามาเกี่ยงข้องครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในอภิธรรมก็บอกไว้เองว่า จิตมีธรรมชาติรู้รับอารมณ์<O:p</O:p
    ที่เกิดดับน่าจะเป็นอารมณ์ที่รับเข้ามามากกว่านะครับ<O:p</O:p
    เมื่อเกิดก็รู้ ดับก็รู้ แสดงว่ารู้อยู่ตลอดเวลา เอ่ตรงไหนมาเกิดดับครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมดเวลา เวลาหมด ไปละ
    ;aa24<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
  4. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
  5. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ท่านธรรมภูตครับ ก่อนจะว่าใครกรุณามองดูตัวเองหน่อยนะครับ หรือก่อน
    แสดงความเห็นกรุณา อ่านความเห็นคู่สนทนาให้หมดเสียก่อนแล้วจึงตอบที่
    เดียว ผมขี้เกียจกลับไปหาคำตอบที่ได้ตอบไปแล้วมาตอบใหม่ แล้วรู้สึกว่า
    กระทู้นี้ของท่านมันดูเละเทะยังไงไม่รู้ ทำไมความเห็นมันเยอะไปหมด ผมขอ
    เสนอแนะหน่อยนะครับ ถ้าใครแสดงมาหลายความเห็นหลายข้อ ท่าน
    อ่านให้หมด แล้วรวบรวมมาตอบที่เดียวเลยได้มั้ยครับ
    ......ท่านชอบกล่าวหาว่าผมเดา การเดามันคือการกล่าวแบบไม่มีเหตุผล ไม่
    มีที่มาที่ไป ตัวผมกล่าวอะไรกับท่านไปส่วนใหญ่ก็อธิบายให้ฟัง แถมมีตัวอย่าง
    ประกอบ ซึ่งทุกตัวอย่างมันมีจริงและเกิดขึ้นจริง ผิดกับท่านที่
    ชอบอ้างตำราตลอด หาได้เป็นตัวของตัวเอง สมองมีไม่หัดใช้อีกหน่อย โรค
    อัลไซเมอร์ก็ถามหาหรอก
    .....ทีนี้ขออธิบาย ข้อความอ้างอิงด้านบน ซึ่งเคยอธิบายมาแล้วแต่ท่านไม่ใส่
    ใจ หรืออาจเป็นเพราะโปรแกรมในสมองมีแค่นี้
    .....จากความเห็นด้านบนของท่าน ผมขออธิบายลักษณะการเกิดดับของจิต
    ดังนี้ ท่านลองเอาไม้ขีดไฟมาเรียงกันเป็นแถวเดียว โดยให้หัวไม้ขีดเรียง
    ติดกัน แล้วท่านจุดไฟที่หัวไม้ขีดก้านแรก แล้วลองสังเกตุดูว่ามันมีลักษณะ
    อย่างไร นั้นแหละครับการเกิดดับของจิต
    ผมขออธิบายเรื่องกรรมดีกรรมชั่วให้ฟังนะครับ จะกล่าวในทางโลกอย่างเดียว
    นรกสวรรค์ไม่เกี่ยว คนเราจะเห็นการชดใช้กรรมในโลกปัจจุบัน ส่วน
    ใหญ่ จะเอารูป(กาย)เป็นหลัก ถ้ากายได้รับความลำบากหรือพิกลพิการ ก็
    จะว่ากำลังชดใช้กรรมแต่ปางก่อน ส่วนจิตที่มาอยู่ในกายใหม่ไม่เกี่ยวข้อง
    ครับ การที่จิตในปัจจุบันมีความรู้สึก ทุกข์สุขเพราะไปยึดรูปกายมาเป็น
    อารมณ์ คนที่ต้องทำงานหนักหรือคนพิการ จิตก็มีสุขได้ คนที่ร่ำรวยเงิน
    ทองจิตก็เป็นทุกข์ได้เช่นกัน ฉะนั้นรูปกายเราจะพบกับอะไรในชาติปัจจุบัน
    มันขึ้นกับภพชาติ หรือจิตดวงสุดท้ายก่อนจุติไปยึดอารมณ์ใดบ้าง
    .....ถ้าเป็นการคุยกันเรื่องจิตอย่างเดียว ผมจะไม่ยกตัวอย่างในตำรามาอ้าง
    แต่นี้เห็นว่าเป็นเรื่อง การชดใช้กรรม กรรมเก่ากรรมใหม่ ดังนั้นขอยกเรื่อง
    องคุลีมาลมาให้ท่านพิจารณา ในชาติขององคุลีมาลท่านได้ก่อกรรมมากมาย
    ทำบาปมหันต์ฆ่าคนตั้งมากมาย ทำไมท่านสามารถบรรลุอรหันต์ได้
    ในชาตินั้นเลยละ นั้นเป็นเพราะจิตดวงใหม่ไม่มีอารมณ์กรรมของจิตดวงเก่า
    ถ้าเป็นไปตามท่านว่าจิตมีหนึ่งเดียว องคุลีมาลต้องใช้กรรมอีกกี่ชาติครับ
    ....และแม้ในขณะที่ท่านออกบิณฑบารต จะถูกคนขว้างหินเข้าใส่ ท่านก็มิได้
    รู็สึกทุกข์ร้อนกับรูปกายที่ถูกขว้างปา นี้เป็นเหตุที่ผมบอกว่า จิตไม่ได้มีหน้าที่
    ชดใช้กรรม เพียงแต่จิตหลงไปยึดอารมณ์ทำให้เกิดภพชาติ
     
  6. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ก็ใช่ไงครับจิตพระอรหันต์ยังไม่หยุดทำงาน ก็เหมือนกับใจเป็นนายกายเป็น
    บ่าวที่ท่านชอบพูดนั้นละครับ(จะพูดทำไมเด็กเล็กยังรู้เลย) ที่ผมกล่าวคืออรหันต์
    ที่ละสังขารเข้าสู่นิพพานแล้ว จิตจึงจะหยุดการเกิดดับ
    ....ที่ท่านบอกจิตเที่ยง จิตเป็นอัตตา มีดวงเดียวเป็นตัวรู้ สิ่งที่ท่านกล่าวมา
    เมื่อนิพพานแล้ว ท่านช่วยอธิบายในสิ่งที่ท่านกล่าวเมื่อนิพพานให้ฟังหน่อย?
    ....ยังมีอีกเรื่องที่ท่านบอกว่า จิตเห็นจิตเดิมแท้ มันเป็นอย่างไร ? ดูมันแย้งๆ
    กันนะครับ
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ที่ท่านพูดหนะ เป็นกานจ้อง(เพ่ง)สิ่งภายนอก
    พอนานวันเข้า ก็คิดว่านั่นเป็นของๆเรา เป็นการเข้าผิดๆของจิตครับ

    ;aa24
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ท่านจะดูหนัง ใครเป็นคนดูครับ?
    ท่านต้องรู้จักจิตตนเองก่อนว่าเป็นอย่างไร?
    การดูหนังก็เหมือนกับเรื่องราวต่างๆผ่านเข้ามา ท่านเป็นผู้ดูที่ดี
    ดูโดยไม่ไปเอาตัวเองเกี่ยวข้องกับหนังนั้น(ปรุงแต่ง)
    และซัดส่ายไปตามอารมณ์ในหนังนั้นครับ

    เมื่อไม่รู้จักจิตตนเอง เวลาดูหนังจิตก็เป็นไปตามอารมณ์ในหนังนั้นด้วยครับ
    ต้องปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาจนกระทั่งรู้จิตเห็นจิตตนเองก่อนครับ...

    ;aa24
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บุญยง โคกกระทา [​IMG]
    มีความเป็นไปได้มะ
    ที่หากเราไปจ้องดุอะไรซักอย่างนานๆ บ่อยๆ
    เราจะคิดว่า นี่หละคือเรา

    [​IMG]
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คนที่ดูแต่หนัง ไม่เคยเห็นคนดูหนัง จะเป็นไงหนอ

    [​IMG]
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ท่านกำลังเปรียบเทียบแบบไม่ถูกฝาถูกตัวนะครับ
    จิตคือธาตุรู้ วิญญาณขันธ์นั้นตัวรับรู้เป็นยึดครับ
    การกำหนดรู้ท่านรู้อยู่ตลอดเวลา
    เพียงแค่กำหนดให้หมดไป มันจะหมดไปหรือครับ
    ถ้าง่ายๆแค่นี้ คนก็บรรลุเป็นพระอริยเจ้ากันไปครึ่งโลกแล้วครับ

    ท่านครับเนวสัญญานาสัญญายตนะต้องแปลว่า จะว่าสัญญาก็ใช่ จะว่าไม่ใช่สัญญาก็ใช่ครับ
    ไม่ใช่มีก็ช่างไม่มีก็ช่างครับ

    ท่านครับ เจตสิกเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต
    ที่จดจ่อคือจิตจดจ่ออยู่กับอาการของจิต(เจตสิก)
    ไม่ใช่เจตสิกของจิตจดจ่อครับครับ

    ;aa24
     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ภายนอก กับ ภายใน
    มันต่างกันยังไงหละ

    มีอะไรระบุมั้ย ว่านี้คือในไม่นอก และนี่คือนอกไม่ใน

    มันในอยู่ตลอดไม่มีอะไรเจือปนเลยได้มั้ย
    แล้วมันนอกอยู่ตลอดกาลตลอดสมัยไม่มีอะไรเจือปนเลยหนะ
    มันมีมั้ย?
     
  13. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    "มี" ก็คือ "สัญญา" ชนิดหนึ่ง
    จำได้ -> ก็คือมี
    จำไม่ได้ -> ก้คือไม่มี
    จำได้ -> ก้คือไม่มี
    จำไม่ได้ -> ก้คือมี

    ของมันจะมี หรือ ไม่มี เพราะ "สัญญา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2009
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ อายตนะเป็นช่องทางรับรู้อารมณ์ของจิต มีอยู่๖ชองทาง ที่เข้ามาทางอายนตะคือเจตสิกต่างๆครับ
    จิตจะให้เจตสิกปรุงหรือไม่ปรุงได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับกำลังของจิตที่ถูกฝนอบรมให้มีกำลังสติที่จะปลอยวางครับ

    ;aa24
     
  15. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    สัญญา มีทั้งสิ่งที่เรานิยามว่า
    "จะจำ"
    และ
    สิ่งที่นิยามว่า
    "จะไม่จำ"
    เป็นสัญญาทั้งคู่

    จะให้ "ว่าง" แบบ "เนวสัญญานาสัญญา"
    แม้แต่ "นิเสธ" หรือ ส่วนกลับ ของมัน
    ก็ต้องเอาไว้

    เป็นการรวมตัวของมัน(potato)และนิเสธของมัน(^potato)
    และเอาไว้ไม่ได้ด้วย แต่ก็ต้องเอาไว้ ปฏิเสธอะไรไม่ได้เลย

    แถมท้าย
    เนวสัญญานาสัญญาอยุ่ในประเภทฌานโลกีย์นะ
    ยังไม่พ้นทุกข์นะ อาจจะทุกข์หนักกว่าเก่านะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2009
  16. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    เนวสัญญญานาสัญญา
    มันดูลักหลั่น ลักปิดลักเปิด มะ
    แต่มีคนทรงอารมณ์ใจ ลักปิดลักเปิดนี้ได้ถึงฌาน 4ได้

    "เค้า"ถึงบอกให้ระวัง
    ดีสุดขั้ว ก็ชั่วสุดขีด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2009
  17. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    น่าจะเป็นไปได้นะครับ เคยเห็นไหมเด็กที่ติดเกมส์ไง แล้วเอาปืนพ่อแม่ไปยิงคนอื่น หรือไปปล้นคนอื่น อย่างที่เป็นข่าวไงครับ ตอบเฉยๆนะไม่ได้มีอคติอะไร
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ รูปฌานและอรูปฌาน เป็นฌานที่เกิดจากอารมณ์ภายนอก
    เป็นฌานที่พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธไปแล้วในตอนต้น
    ถึงจะทำให้กิเลสเบาบางได้ แต่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์

    ส่วนอารมณ์ฌานภายในนั้นเป็นอารมณ์ที่อยู่ในมหาสติปัฏฐานครับ
    การส่งจิตออกนอกนั้น ล้วนต้องเจือด้วยอารมณ์ทั้งนั้นครับ

    ;aa24
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ มันไม่ใช่อย่างนั้น
    มันต้อง มีก็ใช่ จะว่าไม่มีก็ใช่ครับ จึงจะถูก
    จะว่าต้องจำก็ใช่ จะว่าไม่ต้องจำก็ใช่....

    ;aa24
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    คนที่ฝึกกรรมฐานสไตล์อภิญญาแท้มา (แบบเพียวๆ)
    มีความเป็นไปได้ว่า จะไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่อง อรูป ได้เลย
    ถ้าจะให้เค้าเข้าใจเค้าต้องหัดใหม่
    ซึ่งไม่จำเป็น

    มันเหมือนรสชาติของอาหารนั้นแหละ

    ถ้าจะให้เค้าสละรูปไปเสียแต่ตอนนี้
    ผลที่ได้รับอาจไม่ดีเท่าที่เค้าทำได้อยู่แล้ว

    เป็นไปได้มะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...