ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    โรงงานทำดอกไม้ไฟของจีนระเบิด คนตาย 13 บาดเจ็บ 148 ช่วงนี้จีนโดนหนักเลย

    <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2" valign="top" width="100%">2010-08-16 13:45:59 - Explosion - China

    </td> </tr> <tr> <td colspan="2" width="100%">
    </td> </tr> <tr> <td valign="top"> <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td width="25%">EDIS Code:</td> <td>EX-20100816-27435-CHN</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2010-08-16 13:45:59 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Asia</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>China</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>Province of Heilongjiang, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>Fireworks factory, </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>Yichun City</td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Number of dead people: 13
    Number of injured people: 148
    Damage level: Moderate (Level 2)

    Not confirmed information!
    </td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="right" width="440"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> An explosion at a fireworks factory in northeastern China has left 13 people dead and another 148 injured, state media said Monday, in the latest deadly industrial accident to strike the country. The blast happened at 9:45 am (0145 GMT) at a factory near Yichun city in Heilongjiang province, shattering the windows of buildings located one kilometre (1,100 yards) away. Shockwaves from the explosion were felt five kilometres away, it said. More than 2,000 residents were evacuated as over 1,700 firefighters were sent to extinguish the blaze caused by the blast, the report said. Hundreds of rescuers were sent to the factory to search for survivors. It is not known how many workers were inside the factory at the time of the accident, it said. In a separate industrial accident on Monday, 11 people were killed when a lift at a hospital construction site in Jilin province in the country's northeast crashed to the ground. The half-finished building in Meihekou city is 12 storeys high but it was not immediately known how far the lift had plunged. China's work safety record is notoriously bad, as an emphasis on economic growth over the past three decades has led to widespread disregard for workplace security.
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ฟ้าผ่าเครื่องบิน กระแทกพื้นหัก 3 ท่อน

    [​IMG]

    เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 เที่ยวบินที่ 8520 ของสายการบินแอร์เรส ประสบอุบัติเหตุถูกฟ้าผ่าขณะที่กำลังลงจอด
    ทำให้นักบินต้องรีบนำเครื่องลงจอดที่หมู่เกาะในโคลัมเบีย ส่งผลให้ส่วนท้องของเครื่องบินกระแทกพื้นรันเวย์ หัก 3 ท่อน ล้อและเครื่องหลุดกระจายออกจากเครื่องในสภาพยับเยิน โดยรายงานข่าวระบุว่า มีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 131 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คนจากอาการหัวใจวาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 คน ส่วนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย โดยผู้โดยสารที่รอดชีวิต ส่วนใหญ่อยู่ในอาการตกใจ
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    3.5 ริกเตอร์ที่หมู่เกาะอันดามัน นี่......เจี๋ยวจิงๆ หนอ....zzzzzzzzz :p
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    5.3 อ่ะจ้า :cool:
     
  5. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865

    โห.....นี่พยายามลดตัวเลขให้น้อยๆ ลงหน่อยแระ (ปลอบใจตัวเอง)

    ยังอุตส่าห์ไปบอกตัวเลขจริงๆ ซะอีก.....เดี๋ยวจะมีผู้คนช่วยกันเสียวมากขึ้น....จร้า :cool:
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สำหรับตอนนี้ ในกรุงเทพเองและหลายจังหวัด มีผู้ป่วยจากโรคหวัด 2009 เป็นจำนวนมากอย่างน่าตกใจและไม่มีประกาศเตือนหรือมาตราการใดๆจากภาครัฐอีกแล้วครับ

    แม้ทางองค์การอนามัยโลกเองก็ประกาศว่าไม่มีการระบาดของไข้หวัด 2009อีกแล้ว ในขณะที่ความเป็นจริง มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

    แม้ในประเทศไทยเองก็ป่วยกันขึ้นหลักหมื่นคนแล้วครับ ลองกระซิบถามคุณหมอ คุณพยาบาลดูครับ

    อย่าประมาทหรือปล่อยปละละเลยเรื่องสุขภาพเป็นอันขาด ดูแลตนเองและทุกคนในครอบครัวเอาไว้ครับ
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คิริวได้อภิญญาใหญ่จริงๆ

    [​IMG]


    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_825991", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    ว่าจะเล่าเรื่องคิริวให้ฟังทีหลัง แต่พี่เกษมเร่งแซงโค้งมาก่อน ก็คงต้องเล่าเพิ่มเติมเรื่องของคิริวให้ได้ฟังกันครับ

    กลุ่มพวกเรา พลังจิตพิชิตภัยพิบัตินั้นเริ่มรู้จัก คิริวก็จากงานพุทธภูมิสโมสร โดยที่คุณก้อง สมาชิกของชมรมรักษ์พระธาตุได้มาคุยกับผมและเอาดีวีดีของคิริวมาเปิดให้ดูกัน ในชุดที่ดูเป็นการแสดงการเหาะโดยมีการคลุมผ้าบังเอาไว้ เพื่อพรางว่าเป็นการแสดงกล แต่ความเป็นจริงนั้น เป็นการแสดงอิทธิวิธี (อย่าลืมว่าในงานนี้พวกเราอธิษฐานขอเปิดอภิญญาใหญ่เอาไว้ด้วย)

    ซึ่งทางนาคามูระก็ได้ไรท์เอาไว้ วันดีคืนดี ผมก็นึกว่านาคาไรท์มาหรือยัง สักพัก นาคามูระก็โทรมาหา บอกว่ากำลังดูดีวีดีอยู่และได้โหลดจากเนทมาอีกหลายแผ่น ก็เลยตกลงให้น้องเขาส่งมาให้ผม

    พอได้ดีวีดี กำลังดูอยู่ตอนกลางคืน นึกถึงว่าขอบใจน้องเขาที่ส่งมาให้ ก็ปรากฏว่า น้องเขาก็โทรมาพอดีอีกเช่นกัน ก็ได้คุยกันว่าเป็นอะไรที่แปลกๆ

    พอโทรไปขอบคุณ คุณเจี๊ยบที่ชมรมรักษ์พระธาตุก็ปรากฏว่า ได้คุยกันเรื่องนี้ด้วย ก็ยืนยันกันว่า คิริวได้อภิญญาใหญ่จริงๆ และได้มีพระสายหลวงพ่อฤาษีที่ท่านอยู่ที่สุโขทัยได้ใช้มโนส่งจิตไปคุยกับคิริวที่ญี่ปุ่น และยืนยันอีกท่านว่าเป็นอภิญญา

    ผมเองก็ได้ใช้มโน ไปบ้างอีกคน คุยกับเขาเรื่องภัยพิบัติ เขาก็เล่าให้ฟังเรื่องการแสดงของเขาเอาไว้ดังนี้

    "ที่ได้ออกไปแสดงเป็นกลนั้น ก็เพื่อเป็นการฝึกอิทธิวิธีให้ชำนาญ ใช้ได้ดังใจนึก ไม่ต้องตั้งท่าใดๆ ที่มีไพ่เป็นส่วนประกอบก็เพื่อให้คนเขาใจว่าเป็นมายากล จะได้ไม่แตกตื่นหรือตกใจ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการทำให้คนคุ้นเคยกับอภิญญา

    ได้ถามต่อไปว่า มีคนที่ได้แบบนี้กี่คน ก็ได้คำตอบมาว่า คนที่ได้อภิญญาในแบบนี้และมาแอบว่าเป็นมายากล มีอยู่ห้า หก คนทั่วโลก

    ได้ถามว่า แล้วมีคนที่ได้อภิญญาในไทยเป็นฆราวาสมากไหม ก็ได้คำตอบว่า มีมาก อยู่ในป่าบ้าง แต่ยังไม่ได้รับคำอนุญาตให้ใช้เป็นสาธารณะแบบตัวเขา"

    จากนั้นเขาก็มาเอามือแปะที่หัวให้ และส่งพลังมาทางหน้าผาก ก็ได้แต่ขอบใจเขาที่มาช่วยเปิดให้ ในฐานะ "ผู้ถือกุญแจ" เรื่องอภิญญาใหญ่ และเป็นเหตุแห่งการขึ้นกระทู้นี้ครับ

    อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่อง วัตถุประสงค์ในการนำอภิญญาไปใช้โดยเด็ดขาด การตั้งมั่นในสัมมาทิษฐิเป็นสำคัญ เพราะคิริวเองเวลาแสดงเสร็จก็ส่งของคืนกลับทุกครั้ง ไม่เอามาเป็นของตนเอง หรืออย่างเวลาเสก เงินให้ไหลออกมาจากมือไม่มีที่สุด จิตก็ไม่ติดในเงิน คิดว่าเป็นเพียงวัตถุ

    และเมื่อมาเมืองไทยที่เชียงใหม่ ก็ไปเล่นกลให้เด็กกำพร้าติดเชื้อ HIV รวมทั้งเสก หินบำบัดโรคเพื่อช่วยเด็กด้วย นับว่าเป็น ผู้มีจิตใจงดงามและทรงพรหมวิหารสี่ผู้หนึ่ง

    การปรากฏและเร่งรัดการได้อภิญญาครั้งนี้ เป็นไปก็เพื่อให้นำอภิญญาใหญ่ไปใช้เพื่อช่วยคนจากภัยพิบัติ ดังนั้นการนำไปใช้ผิดประเภท เป็นอันตรายต่อตนเองอย่างยิ่งครับ<!-- google_ad_section_end -->

    22-11-2007, 04:45 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ร่องรอยอภิญญาใหญ่-โรดแมปสู่อภิญญาสาธารณะ.100360/page-3<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2010
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"มทภ.3"สั่งทหาร2กองพันเดินเท้าปูพรม หาฮ.กระทรวงทรัพย์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>ผู้ว่าฯน่านหยุดบินค้นหาฮ.กระทรวงทรัพย์ วางแผนใหม่บีบพื้นที่ตามเบาะแสสัญญาณโทรสุดท้าย

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 สิงหาคม นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.น่าน กล่าวถึงการเปิดศูนย์ประสานงานและค้นหาเฮลิคอปเตอร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสูญหาย ที่อ.นาหมื่น จ.น่าน ว่า นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลตรีชีวัน โหละบุตร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินค้นหาบริเวณป่าตลอดแม่น้ำน่านฝั่งซ้าย-ขวา อีกด้านหนึ่งก็ให้ชาวบ้าน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่อส. ฝ่ายปกครองอ.นาหมื่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ออกเดินเท้าสำรวจภาคพื้นดินที่มีสภาพเป็นป่า การประสานงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะพื้นที่เป้าหมายไม่มีสัญญานโทรศัพท์มือถือเลย ยังไม่วี่แววชะตากรรมของผู้โดยสารและเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวว่าปลอดภัยดีหรือไม่ และเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.00 น. เป็นเวลามืดค่ำหรือสภาพฟ้าปิดแล้วจะหยุดค้นหาและกลับมาวางแผนกันใหม่อีกครั้ง เพื่อออกค้นหาพื้นที่เป้าหมายต่อไปในวันรุ่งขึ้น
    [/FONT]
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]
    นายธวัช กล่าวว่า ประเด็นการประชุมวางแผนในคืนนี้จะพยายามสรุปบีบพื้นที่เป้าหมายให้แคบลง เพื่อง่ายต่อการค้นหา

    ได้รับเบาะแสจากชาวบ้านให้การยืนยันว่าเห็นเฮลิคอปเตอร์ของคณะปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ บินเหนือพื้นที่หลายแห่งในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน และคลื่นโทรศัพท์ระบบเอไอเอสยังสามารถจับสัญญาณของคนบนเฮลิคอปเตอร์ได้ครั้งสุดท้าย เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ที่บริเวณเขต ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จึงมั่นใจว่าที่เกิดเหตุอยู่ในบริเวณดังกล่าว


    สำหรับผู้ที่เดินทางไปกับเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวประกอบด้วย นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม,นายโกวิทย์ ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และ นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง พร้อมนักบิน 1 คน และช่างเครื่อง 1 คน

    [/FONT]
    สับสนอย่างมาก มทภ.3 ยันยังไม่พบฮ.กระทรวงทรัพย์ฯที่หายไปร่วม12ชม.

    เมื่อเวลา 18.13 น. วันที่ 17 ส.ค. พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.11) ถึงกรณีการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ AS 3501103 จากสำนักการบินอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่นำนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายโกวิทย์ ปัญญาตรง ผู้ตรวจกรมอุทยานฯ นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง พร้อมนักบิน 2 คนจากสนามบินจังหวัดพิษณุโลกไปภูพยัคฆ์ จังหวัดน่าน เพื่อเป็นประธานเปิดงานปิดทองหลังพระ แต่สัญญาณขาดหายไปจากจอเรดาร์ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 รน. วันเดียวกันนี้


    โดยยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบเบาะแสเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวแต่อย่างใด

    โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ทั้งทางภาคอากาศและภาคพื้นดินทำการเร่งค้นหาอยุ่ แต่เป็นไปด้วยควาทมยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่ที่ค้นหา ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดน่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ มีสภาพเป็นป่าเขา แต่อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยังสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเอไอเอสก็ยังไม่สามารถหาพิกัดของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวได้ ส่วนกรณ๊ที่มีกระแสข่าวว่า นักบินของเฮลิคอปเตอร์ติดต่อมา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าได้รับการติดต่อมาจริงหรือไม่


    "เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูง ป่ารกทึบ ต้นไม้สูงชัน เครื่องบินของกองทัพและเฮลิคอปเตอร์ปีกหมุนของกระทรวงทรัพย์ฯ ไม่สามารถค้นหาได้ จึงตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่นาหมื่น จ.น่าน เพื่อค้นหาอย่างปูพรม เริ่มต้นในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ โดยให้กองพันทหารม้าที่ 10 และ 15 พร้อมทหารพราน กองทัพภาคที่ 3 จำนวน 2 กองพัน เดินเท้าหาชุดละ 50 นาย"

    เวลา 17.00 น. ที่อาคารรัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่เฮลิคอปเตอร์ที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะขาดการติดต่อในอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ว่า ขณะนี้กำลังติดตามอยู่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่าขณะนี้กำลังพยายามให้ทางเครื่องบินของกองทัพอากาศเข้าไปดูในพื้นที่ แต่ยังมีปัญหาเรื่องของอากาศอยู่ ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่ามีการลงฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสุวิทย์ได้รายงานมาแล้วว่าจากการตรวจสอบล่าสุดแล้วไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว เป็นข่าวที่สับสนตามที่นายสุวิทย์รายงานตนเมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาตอนนี้กำลังพยายามติดตามอยู่

    ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ยังไม่ยืนยันใช่หรือไม่ว่าเกิดอุบัติเหตุ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ยืนยันและยังไม่ทราบอะไรเลย เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่ออะไรเข้ามาจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง


    ขณะที่ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ประจำจังหวัดแพร่ รายงานว่า สำหรับสัญญาณโทรศัพท์ ของนายสหัส ที่พบสัญญาณอยู่ใน เขต รอยต่อ น่าน อ.นาหมื่น และ อ.ร้องกวางจังหวัดแพร่ นั้น พบว่าเป็นเทือกเขาสูง อยู่ใน ตำบลบ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ดังนั้น นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งเฮลิปคอปเตอร์มาช่วยบินค้นหา อีก 3 ลำ และได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในเขตตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง และตำบลห้วยม้า อำเภอเมืองแพร่ได้ร่วมค้นหาอีกทางหนึ่ง เนื่องจากจุดที่คาดว่าเครื่องจะประสบเหตุนั้น ใกล้เคียง และ คาบเกี่ยวกับพื้นที่บ้านเวียง ของจังหวัดแพร่มาก จากการตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์


    ทางด้าน พ.อ.ยงยุทธ์ เหล่าเขตร์การ รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 2 ได้ร่วมตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดแพร่ในการหาพิกัดสัญญาณโทรศัพท์ของผู้สูญหาย พบว่าอยู่ที่ละติจูด N 18171610000 และ ลองติจูดที่ E 1003014544000 ซึ่งอาณาเขตดังกล่าว ครอบคลุมพื้นที่ บ้านปิงหลวง เมืองลี อ.นาหมื่น จ.น่าน และ ตำบลบ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เลยไปถึงพื้นที่ตำบลห้วยม้า อ.เมืองแพร่ในบางส่วน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>ก่อนหน้านี้ เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ทางหน่วยกอ.รมน.แพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน อ.นาหมื่น จ.น่านว่า

    พบเฮลิค็อปเตอร์ของปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว โดยลงจอดที่บริเวณ ห้วยอ้อย ห้วยเหยียง ใกล้กับลำน้ำน่าน ต.นาทุนุง อ.นาหมื่น จ.น่าน เป็นเขตติดต่อระหว่างจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์และจังหวัดน่าน ปลัดกระทรวงฯพร้อมด้วยนักบินปลอดภัย ข่าวดังกล่าวทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่สั่งให้ชุดค้นหาในจังหวัดแพร่ ถอนกำลังออกและส่งเจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์พื้นที่ที่น่าจะเป็นจุดที่น่าเชื่อถือได้คือที่ ต.นาทะนุง โดยขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจ กำลังเดินทางเข้าพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพภูมิอากาศในบริเวณดังกล่าวยังไม่น่าไว้ใจสำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินทุกชนิด เนื่องจากเป็นภูเขาสูงมีฝนตกหนักและมีหมอกลงหนาแน่นในบริเวณหุบเขา ซึ่งบรรยากาศดังกล่าวมีเครื่องบินประสบอุบัติเหตุก่อนหน้าแล้วหลายครั้ง

    นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย อย่างไรก็ตามจังหวัดแพร่เมื่อทราบข่าวได้ออกติดตามอย่างต่อเนื่องและพร้อมที่จะใช้กำลังเดินเท้าเข้าไปช่วยเหลือ และตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่าในจังหวัดแพร่ไม่มีร่องรอยการตกของเครื่องบิน ในเวลาไม่นานนักก็ได้รับรายงานจาก อ.นาหมื่น จ.น่าน อย่างไรก็ตามยังไม่ปักใจว่าจะเป็นจุดที่ถูกต้องต้องรอการพิสูจน์ก่อนอย่างไรก็ตามจังหวัดแพร่พร้อมที่จะเร่งค้นหาและร่วมมือกับจังหวัดน่าน

    อ้างเจอแล้ว จอดไร่ข้าวโพดบ้านห้วยเอี๋ย จ.น่าน ปลอดภัย

    พ.ต.อ.วุฒิไกร ฦาชา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาหมื่น ให้สัมภาษณ์กับคลื่นจส.100 เมื่อเวลา 15.30 น. ว่า ได้เจอเฮลิคอปเตอร์ AS 3501103 จากสำนักการบินอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ซึ่งหายไปจากเรดาร์ ในบ้านห้วยเอี๋ยง ห่างจากอ.นาหมื่น จ.น่าน 20 กิโลเมตร โดยผู้ใหญ่บ้านห้วยเอี๋ยงพบเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวลงจอดฉุกเฉินในไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน ทุกคนปลอดภัยดี เนื่องจากสภาพอากาศปิดฝนตก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งรถโฟร์วีลล์เข้าไปรับเป็นการด่วนแล้ว

    ก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.นพดล วัชรกิจโสภณ รอง สว.ป. หัวหน้าสถานีตำรวจส่วนแยกป่าแดง-ช่อแฮ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินจังหวัดแพร่ เปิดเผยวันที่ 17 สิงหาคมว่า เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ AS 3501103 จากสำนักการบินอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายโกวิทย์ ปัญญาตรง ผู้ตรวจกรมอุทยานฯ นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง พร้อมนักบิน 2 คนจากสนามบินจังหวัดพิษณุโลกไปภูพยัคฆ์ จังหวัดน่าน เพื่อเป็นประธานเปิดงานปิดทองหลังพระ หลังบินไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมงเฮลิคอปเตอร์ขาดการติดต่อ ซึ่งขณะที่ขาดการติดต่อกำลังบินอยู่ระหว่างเขตติดต่อแพร่-อุตรดิตถ์ แต่ได้ขาดหายไปจากจอเรดาห์หลังทำการบินไปได้ประมาณ 2 ชม.ระหว่างเขตติดต่อแพร่-อุตรดิตถ์

    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ได้รับการติดต่อจากเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวแล้ว โดยลงจอดปลอดภัยอยู่ที่อ.สูงเม่น จ.แพร่ หลังจากเผชิญกับสภาพอาการที่มีฝนตกหนักส่งผลให้อุปกรณ์สื่อสารในเฮลิคอปเตอร์ขัดข้องทำให้ต้องลงจอดฉุกเฉินที่ดังกล่าว

    ต่อมา เมื่อเวลา 13.25 น. ทวิตเตอร์ของจส.100 รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวขาดการติดต่อตั้งแต่เวลา 12.00 น. และยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ก็ยังไม่ทราบพิกัด ทั้งนี้ มีรายงานว่า ลงจอดที่ จ.อุตรดิตถ์

    เมื่อเวลา13.45 น. ทวิตเตอร์ของจส.100 รายงานว่า ยังไม่ยืนยันว่าเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวลงจอดฉุกเฉินที่ใด เนื่องจากสภาพอากาศฟ้าปิด

    เมื่อเวลา 14.00 น. ข่าวต้นชั่วโมงของคลื่นวิทยุ จส.100 รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวลงจอดในจ.น่านแล้ว ทุกคนบนเครื่องปลอดภัยดี

    ต่อมา สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ค้นพบเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวแล้ว โดยเป็นการลงจอดฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ เนื่องจาก ประสบพายุฝน ซึ่งลงจอดอย่างปลอดภัย

    เผยฮ.ปลัดทส.บินผ่าน"น่าน"ก่อนสัญญาณหาย "ม.ร.ว.ดิศนัดดา"ช่วยบินหา

    เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม นายไพฑูรย์ ยุบล หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.น่าน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเอลิคอปเตอร์โดยสารคณะของปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สัญญานขาดหายไปขณะกำลังเดินทางมาสมทบติดตามโครงการปิดทองหลังพระ จ.น่าน ว่า ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบเส้นทางการบินดังกล่าว ล่าสุดได้รับแจ้งจากปลัดอาวุโส อ.นาหมื่น จ.น่าน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.20 น ถึง 09.00 น. วันนี้ เห็นเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวครั้งสุดท้าย บินผ่านบริเวณบ้านน้ำอูน ต.เมืองลี อ.นาหมื่น จ.น่าน เขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มุ่งหน้าไปท่าอากาศยานน่าน อ.เมืองน่าน ประกอบกับสอบถามศูนย์บังคับการบินแพร่ ระบุว่าได้รับสัญญานจากเฮลิคอปเตอร์ครั้งสุดท้ายที่บริเวณพิกัด 008 เรเดียน 43 ไมล์ ความสูง 2,000 ฟิต และสัญญานอ่อนลงเรื่อยๆกระทั่งขาดหายไป เป็นลักษณะการลดระดับการบินลง เนื่องจากมีฝนตกหนักและทัศนวิสัยการบินไม่ดี และอาจลงจอดพื้นที่ อ.นาน้อย หรืออ.เวียงสา จ.น่าน

    นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกติดตามในพื้นที่เป้าหมายทั้งทางบกและทางน้ำ บริเวณป่าอุทยานแห่งชาติศรีน่านและอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ คาดว่าน่าจะอยู่ในเขตต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน

    รายงานข่าวแจ้งว่า คณะของปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.น่าน ตามมาสมทบกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโดยสารเฮลิคอปเตอร์มาตรวจเยี่ยมโครงการปิดทองหลังพระ บ้านเปียงซ้อ ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา

    หลังเกิดเหตุ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานมูลนิธิปิดทองหลังพระ ซึ่งเดินทางมากับคณะชุดแรกได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ทหาร จังหวัดทหารบกน่าน อุตรดิตถ์ นำกำลังออกค้นหาบริเวณอุทยานแห่งชาติด้วยอีกชุดหนึ่ง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชาวบ้านแห่บุกบ้าน"คนออกลูกเป็นไข่" ดังสะพัดทั่วเมืองเลย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่อำเภอหนองหิน มีคนลือกันว่า มีเรื่องประหลาด คนออกลูกเป็นไข่ จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 112 หมู่ 1 บ้านหนองหิน ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านของนายประยูร ชื่นชัยภูมิ อายุ 42 ปี และนางสวิง ชื่นชัยภูมิ อายุ 40 ปี ภรรยา อยู่ในซอยวัดถ้ำมโหฬารริมถนนสายเลย-ขอนแก่น

    เมื่อเดินทางเข้าไปประมาณ 100 เมตร สภาพบ้านเป็นไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง บนบ้านพบชาวบ้านชายหญิงต่างมุงดู กราบไหว้ พร้อมบูชา ด้วยดอกไม้ธูปเทียน และเงิน พร้อมพากันถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่ไม่ทราบว่า เป็นอะไร มีรูปร่างกลมเรียวคล้ายไข่ ขนาดกกว้างประมาณ 5 ซม.ยาวประมาณ 10 ซม มีสีขาวคล้ำวางอยู่บนพาน

    ทั้งนี้ มีชาวบ้านส่วนหนึ่งพูดว่า ผู้สื่อข่าวมา นางประยูร ซึ่งนอนพักอยู่บนแคร่ เพื่ออยู่ไฟ กลับวิ่งลงมาคว้าสิ่งที่อยู่บนพานเอาไปกอดไว้แนบกับอก พร้อมร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น และโวยวายห้ามผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ โดยมีนายประยูร สามี เข้ามาขัดขวาง พร้อมพูดว่า ภรรยาตนไม่ประสงค์ที่จะเป็นข่าว พร้อมเชิญผู้สื่อข่าวและชาวบ้านลงจากบ้านทันที

    สำหรับกระแสข่าวนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายสวัสดิ์ เฒ่าทา อายุ 58 ปี ประธาน อสม.บ้านหนองหิน ที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามบ้านหลังดังกล่าวว่า นางสวิง เดิมเป็นคนจังหวัดพิจิตร เคยมีสามีมาก่อนแล้วและมีลูกสาว 1 คน แต่งงานมีครอบครัวแยกออกไปแล้ว จนมาได้สามีใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีอาชีพทำไร่ และรับจ้างทั่วไป สองสามีภรรยาอยากได้ลูกมาก แต่ท้องทีไรก็แท้งทุกครั้ง จนมาในปีนี้ได้ไปให้หมอไสยศาสตร์ในหมู่บ้านทักว่า ทั้งคู่มีทรวงอยู่ในตัว( มีไฟอยู่ในที่ลับ) ให้ไปเอาออกจึงจะสมใจ ทั้งคู่จึงไปทำตามที่หมอทัก จากนั้นไม่นานจึงมาเล่าให้ที่บ้านฟังว่าได้ตั้งท้องแล้ว และได้ไปฝากท้องกับคลีนิกนายรุ่งเรือง บุญผูก ในตัวอำเภอเมืองเลย ระหว่างตั้งท้องเดินผ่านหน้าบ้าน สังเกตว่า บางวันท้องโต บางวันท้องแฟบ เป็นที่โจษจันของคนในหมู่บ้าน จนกระทั่ง เมื่อเวลา ประมาณ 11.11 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา นางสวิง จึงคลอดลูกออกมา แต่มีรูปร่างคล้ายไข่ดังกล่าว จากนั้นข่าวได้แพร่สะพัดไปทั่วจังหวัดเลย มีผู้คนในจังหวัดและต่างจังหวัดเดินทางมาดูหนาตา

    อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายแพทย์รุ่งเรือง บุญผูก คลีนิค ที่นางสวิง ชินชัยภูมิ อ้างว่า ได้ไปฝากครรภ์ ได้รับคำตอบว่า มีชื่อคนไข้ตามที่อ้างจริง แต่เพียงแต่มาตรวจว่า มีครรภ์จริง เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา จากนั้น ตั้งแต่นั้นก็ไม่มาตรวจตามนัดอีกเลย

    ด้านนายวิวรรธน์ ก่อวิริยกลม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลยเปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว เป็นไปได้ทั้งสองอย่างคือ น่าเชื่อหรือไม่น่าเชื่อก็ได้ แต่ก็ไม่น่าเชื่อมากกว่า อาจเกิดจากแสบในมดลูก มีหินปูน นานหลายปี เรื่องนี้ต้องมีการพิสูจน์ วันนี้ ได้จะส่งเจ้าหน้าที่ เข้าไปที่บ้านนางสวิง ซึ่งเกิดเป็นข่าวที่ชาวบ้านกำลัง สนใจ เป็นอันมาก แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของบ้านเท่าที่ควร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ลูกหนี้นอกระบบทั่วไทยเฮลั่น รัฐเดินหน้าหาเสียงจ่ายตรงเวลามีเงินกู้ด่วน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นายกรัฐมนตรีกดปุ่มปลดหนี้นอกระบบประชาชน 1.1 ล้านราย มูลค่าหนี้ 1.2 แสนล้านบาท

    พร้อมเปิดตัวบัตรลดหนี้วินัยดีมีวงเงิน โดยลูกค้าชั้นดีผ่อนครบทุกๆ 1 ปี รัฐจะประเคนเงินฉุกเฉินพิเศษให้ 50% ของเงินที่ผ่อนชำระต่อเดือน อ้างเสริมสภาพคล่องให้ประชาชนกดเงินสดมาใช้ได้ คุยฟุ้งมั่นใจปลดหนี้สำเร็จ ตั้งเป้าลุยต่อแก้หนี้สินครู-ข้าราชการ หนี้บัตรเครดิตและปัญหาเครดิตบูโร...



    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน "ก้าวที่ยั่งยืนสู่ชีวิตใหม่ หนี้นอกระบบ"

    และเปิดตัว "บัตรลดหนี้วินัยดีมีวงเงิน" โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมด้วยประชาชน ที่เข้าโครงการหนี้นอกระบบกว่า 300 คน ให้การต้อนรับ ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นสิ่งที่รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ไขอย่างจริงจัง โดยได้เปิดตัวลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบไปตั้งแต่เดือน ธ.ค.52 และลงทะเบียนเสร็จสิ้นเมื่อเดือน ม.ค.53 ดังนั้น โครงการที่จะดำเนินการจากนี้ไปถือเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ และจากนั้นปัญหาหนี้ที่รัฐบาลต้องแก้ไขเพิ่มเติม ได้แก่ หนี้บัตรเครดิต หนี้สินของครูและข้าราชการ และเครดิตบูโร โดยจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้

    นายกรณ์กล่าวว่า ยอดหนี้ที่ขึ้นทะเบียนนอกระบบ ผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

    มีจำนวน 1,183,355 ราย มูลค่าหนี้ 122,672.19 ล้านบาท เจรจาประนอมหนี้สำเร็จ 555,589 ราย ไม่สำเร็จ 182,862 ราย ยุติการเจรจา 444,904 ราย ธนาคารอนุมัติสินเชื่อแล้ว 356,527 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 91,485 ราย สำหรับลูกหนี้นอกระบบ 365,527 ราย ที่ได้รับโอนเข้าสู่ระบบเฉลี่ยมีมูลหนี้รายละ 100,000 บาท หากลูกหนี้นอกระบบต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ย 5-10% ต่อเดือน แต่ละรายจะประหยัดดอกเบี้ยได้ถึงเดือนละ 5,000-10,000 บาท คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้รวม 1,830 ล้านบาทต่อเดือน หรือปีละ 21,900 ล้านบาท

    สำหรับบัตรลดหนี้วินัยดีมีวงเงินนั้น ลูกหนี้ที่ผ่านการเจรจาจะได้บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ
    เพื่อเติมสภาพคล่องให้ กรณีที่ชำระเงินกู้รายเดือนตรงตามที่กำหนดเป็นเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือน ธนาคารจะสำรองเงินฉุกเฉินพิเศษให้เดือนที่ 13 ซึ่งผู้ถือบัตรเอทีเอ็มสามารถกดเงินสดจากเอทีเอ็มของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐได้ ยกเว้นธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพราะไม่มีเอทีเอ็ม "บัตรลดหนี้ถือเป็นการเติมสภาพคล่องให้แก่ลูกหนี้นอกระบบที่เข้าสู่ระบบ มีหลักการ
    ว่ากรณีกู้เงิน 200,000 บาท ชำระหนี้เดือนละ 10,000 บาท เดือนที่ 13 ธนาคารจะเติมเงินให้ 50% ของเงินที่ผ่อนชำระต่อเดือน ก็คือ วงเงินสำรองพิเศษ 5,000 บาท ซึ่งผู้กู้สามารถกดเงินไปใช้จ่ายฉุกเฉินได้ ดีกว่ากู้เงินนอกระบบที่เสียดอกเบี้ยแพง มั่นใจว่า ผู้เข้าร่วมโครงการจะมีภาระผ่อนน้อยกว่าการกู้เงินนอกระบบมาก เพราะคลังกำหนดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1% ต่อเดือน ทั้งเงินต้น และเงินที่กู้ฉุกเฉิน หากคำนวณตามระยะเวลาการกู้มั่นใจว่า วงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาทจะชำระหมดภายใน 5-8 ปี"

    ส่วนลูกหนี้ที่ไม่มีผู้ค้ำประกัน 20,000 รายนั้น กระทรวงการคลังจะให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มาค้ำประกันแทน

    และมั่นใจว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะมีไม่มาก เพราะการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละเดือนจะเป็นการผ่อนชำระทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยไปพร้อมๆกัน "เงินสำรองที่เพิ่มเติมเข้าไปใน 1 รอบของการกู้ ผู้กู้จะได้รับเงินฉุกเฉิน 4 ครั้ง หมายความว่า เมื่อผ่อนครบ 12 เดือน ในเดือนที่ 13 จะได้เงิน 5,000 บาท จากยอดเงินผ่อนต่อเดือน 10,000 บาท ถ้าไม่นำออกมาใช้ ผ่อนต่ออีก 12 เดือนรวมเป็น 24 เดือน ในเดือนที่ 25 จะได้อีก 5,000 บาท ในเดือนที่ 37 จะได้อีก 5,000 บาท และในเดือนที่ 49 จะได้อีก 5,000 บาท นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คนที่เข้าสู่การแก้ไขหนี้นอกระบบทุกรายได้รับการประกันชีวิตจากธนาคารรายละไม่เกิน 100,000 บาท"

    ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยลูกหนี้ในโครงการนี้อัตราเดียวกับโครงการธนาคารประชาชน

    โดยวงเงินกู้ 30,000 บาทแรก จะเสียดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน ส่วนที่เกิน 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 200,000 บาท จะเสียดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน ต่ำกว่ากระทรวงการคลังกำหนด ธนาคารอนุมัติปล่อยสินเชื่อแล้ว 136,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 11,000 ล้านบาท ขณะที่นายลักษณ์ วจนานวัช กรรมการผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายละ 1% ต่อเดือน กรณีที่ธนาคารคิดดอกเบี้ยสูงสุดเพราะมีภาระต้องอบรมฟื้นฟูอาชีพให้แก่เกษตรกร เพื่อให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ขณะนี้มีลูกหนี้นอกระบบลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส. 226,548 ราย เป็นวงเงินสินเชื่อ 22,640 ล้านบาท

    ส่วนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

    ขณะนี้มีลูกหนี้ข้าราชการที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบ และเข้าเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อจากธนาคารประมาณ 1,000 ราย สาเหตุที่มีลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์การขอสินเชื่อไม่มาก เพราะติดในเรื่องกฎเกณฑ์ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คือ ลูกหนี้ที่จะขอกู้ต้องมีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ แต่ลูกหนี้นอกระบบส่วนใหญ่จะมีหนี้เกิน แต่ลูกหนี้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ ธนาคารจะโอนไปให้ธนาคารออมสินต่อไป


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ขอร่วมด้วยนิดหน่อยครับ...ฝนถล่มกรุงน้ำท่วมถนนหลายสาย-รถหนึบ

    ฝนถล่มกรุงน้ำท่วมถนนหลายสาย-รถหนึบ

    <!-- CSS = "article-detail partners" -->

    [​IMG]
    ฝนตกหนัก
    ฝนกระหน่ำกรุง ทำจราจร เป็นอัมพาตหลายเส้นทาง ด้าน จตุจักร พหลโยธิน น้ำท่วมผิวจราจร
    ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังเกิดฝนตกหนัก ในหลายพื้นที่ ใน กทม. ล่าสุด บริเวณ ถนนพหลโยธิน ใกล้แยกลาดพร้าว ถนนจตุจักร และลาดพร้าว ได้เกิดน้ำท่วมขังผิวการจราจร ส่งผลให้รถติดขัด สลับหยุดนิ่ง เนื่องจากมีปริมาณรถมากและมีท้ายแถวสะสมยาว ส่วนทางด้าน แยกประชานุกูล ถนนประชาชื่น มีปริมาณรถมาก และมีน้ำท่วมขัง ท้ายแถวสะสม ยาวถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ส่วนถนนดินแดง ก็ติดขัดเช่นกัน เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ถนนสีลม ทั้งสาทรใต้-และสาทรเหนือ การจราจรก็ติดขัดเช่นกัน แต่รถยังคงเคลื่อนตัวได้ ตามกันเป็นระยะ ทางด้านถนนรัชดา-เทียนร่วมมิตร ก็ติดขัดอย่างหนักเช่นกัน
    อย่างไรก็ตาม ทางด้านสำนักระบายน้ำ กทม. แจ้งว่า จุดที่มีน้ำท่วมขังหนัก เป็นช่วงจตุจักร พหลโยธิน และบางเขน มีปริมาณน้ำสูงถึง 60 มิลลิเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการ เร่งระบายน้ำ และขอให้ประชาชนใช้รถอย่างระมัดระวัง เนื่องจากถนนลื่น


    ฝนถล่มกรุงน้ำท่วมถนนหลายสาย-รถหนึบ
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    นักวิทยาศาสตร์จีนทำการทดลองเคลื่อนย้ายสสารระยะทางถีง 10 ไมล์

    <!-- start node-forum.tpl.php -->

    Posted: Thu, 2010-06-24 17:20
    เป็นความ สำเร็จครั้งแรกของนักวิทยาศาสตร์จีนในการทดลองเคลื่อนย้ายสสารระยะถีง 10 ไมล์ ผ่านอากาศทั่วไปซึ่งสามารถย้ายข้อมูลสำเร็จ 89% ซี่งมากกว่าทุกครั้งที่เคยทดลองมา โดยไม่ต้องใช้ตัวนำสสารปกติที่ใช้กันในปัจจุบัน


    [​IMG]
     
  12. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    พระราชทานถุงยังชีพเหยื่อน้ำท่วม

    • 18 สิงหาคม 2553 เวลา 11:41 น.
    <!-- end facebook-share -->
    <!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->ผู้แทนพระองค์ นำถุงพระราชทาน 1 พันถุง มอบให้ชาวบ้านแจ้ห่ม จ.ลำปาง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและท่วมฉับพลัน
    พล.อ.ต.สรชัย ชีวะกลินศักดิ์ ผู้อำนวยการกองงานพระวรชายา ได้เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงพระราชทาน 1,000 ถุง มามอบให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันที่โรงเรียนบ้านใหม่ผ้าขาว ม.3 ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง หลังจากเกิดภัยทางธรรมชาติขึ้น เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ผ่านมา

    ทั้งนี้มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากใน 7 ตำบล ซึ่งภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ได้ทรงรับทราบข่าว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ได้จัดถุงพระราชทาน นำมามอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย
    พล.อ.ต.สรชัย กล่าวกับชาวบ้านว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ได้ทรงห่วงใย และทรงรับสั่งถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงทุกข์สุขของราษฎรในพื้นที่อย่างมาก และขอให้ทุกหน่วยงานในจังหวัดลำปาง ช่วยกันเร่งฟื้นฟูพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างคลอบคลุม นอกจากนี้ ยังขอให้ทุกหน่วยงานได้เฝ้าระวังภัยอย่างต่อเนื่อง เพราะในพื้นที่ ยังเกิดฝนตกลงมา และอาจจะเกิดภัยทางธรรมชาติขึ้นอีกได้
    ด้านนายสุพจน์ หอมชื่น นายอำเภอแจ้ห่ม กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และได้รับถุงยังชีพพระราชทานในครั้งนี้ ได้ปราบปลื้ม และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ได้ทรงห่วงใยความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งถือว่าในปีนี้ประสบภัยรุนแรงอีกครั้ง และเป็นวงกว้างอย่างมาก
    นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 7 ตำบล ของ อ.แจ้ห่ม ได้ประสบภัยดังกล่าวอย่างหนักมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากผลกระทบพายุดอมเรย์ และในครั้งนี้ ชาวบ้านได้ทำการเก็บกวาดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งก็ยังมีหน่วยงานของรัฐกระจายกำลังอยู่ในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน และพื้นฟูพื้นที่ ให้กับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ค่อยจะสู้ดีมากนัก เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาทุกวัน จึงต้องเฝ้าระวังภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง

    [​IMG]
    <IFRAME src="http://api.tweetmeme.com/button.js?url=http%3A//http://palungjit.org/forums/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่-3906-1067.html&style=normal" frameBorder=0 width=50 scrolling=no height=61><.178/IFRAME><IFRAME src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.php?size=large&url=http://bit.ly/dBwN9Z&title=" frameBorder=0 width=53 scrolling=no height=69 allowTransparency></IFRAME>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A1.jpg
      A1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      1,910
  13. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    ตารางสรุปสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ <TABLE border=0 width="100%"><FORM method=post name=form1 action=/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.php><TBODY><TR><TD align=right>วันที่ก่อนหน้านี้ <TD align=middle>วันที่ <INPUT id=sdate class=text value=2010-08-18 size=10 name=sdate> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> Calendar.setup({ inputField : "sdate", ifFormat : "%Y-%m-%d", // format of the input field showsTime : false, // will display a time selector button : "sdate_c" // trigger for the calendar (button ID) }); </SCRIPT> <INPUT class=button value=แสดงข้อมูล type=submit name=submit> <TD></FORM></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ภาค
    อ่างเก็บน้ำ เขื่อน </TD><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ความจุ
    ที่
    รนก.
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td colSpan=5 align=middle>ปริมาตรน้ำในอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=4 align=middle>ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปริมาณน้ำระบาย</TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปี 2552

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปัจจุบัน</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ใช้การได้จริง</TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ค่าเฉลี่ย
    รวมทั้งปี
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53 </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>วันนี้
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53
    ม.(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบ
    รนก.
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ใช้ได้ทั้งอ่างฯ
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตร
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ค่าเฉลี่ยทั้งปี
    </TD></TR><TR><TD class=td>ภาคเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ภูมิพล (2) <TD class=td align=right> 13,462 <TD class=td align=right> 6,164 <TD class=td align=right> 4,380 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 580 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 5,602 <TD class=td align=right> 51.82 <TD class=td align=right> 697.41 <TD class=td align=right> 12.45 <TD class=td align=right> 3.10 <TD class=td align=right> 4,269.18 <TR><TD class=td>สิริกิติ์ (2) <TD class=td align=right> 9,510 <TD class=td align=right> 5,228 <TD class=td align=right> 4,472 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 1,622 <TD class=td align=right> 17 <TD class=td align=right> 5,391 <TD class=td align=right> 44.06 <TD class=td align=right> 2,299.18 <TD class=td align=right> 42.65 <TD class=td align=right> 5.02 <TD class=td align=right> 3,056.26 <TR><TD class=td>แม่งัด <TD class=td align=right> 265 <TD class=td align=right> 127 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 51 <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 332 <TD class=td align=right> 2.86 <TD class=td align=right> 115.93 <TD class=td align=right> 34.92 <TD class=td align=right> 0.21 <TD class=td align=right> 87.07 <TR><TD class=td>กิ่วลม <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 281 <TD class=td align=right> 4.81 <TD class=td align=right> 254.92 <TD class=td align=right> 90.72 <TD class=td align=right> 1.94 <TD class=td align=right> 263.56 <TR><TD class=td>แม่กวง <TD class=td align=right> 263 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> 186 <TD class=td align=right> 1.14 <TD class=td align=right> 58.51 <TD class=td align=right> 31.46 <TD class=td align=right> 0.03 <TD class=td align=right> 76.00 <TR><TD class=td>กิ่วคอหมา <TD class=td align=right> 170 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 59 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 297 <TD class=td align=right> 1.37 <TD class=td align=right> 46.47 <TD class=td align=right> 15.64 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 89.42 <TR><TD class=td>แควน้อย <TD class=td align=right> 769 <TD class=td align=right> 152 <TD class=td align=right> 256 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 220 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 1,653 <TD class=td align=right> 7.39 <TD class=td align=right> 324.15 <TD class=td align=right> 19.61 <TD class=td align=right> 0.43 <TD class=td align=right> 671.92 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคเหนือ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 24,551 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 11,901 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 9,437 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 38 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,705 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 32 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 13,742 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 113.45 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,796.57 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 28.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 10.73 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 8,513.41 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ลำปาว <TD class=td align=right> 1,430 <TD class=td align=right> 916 <TD class=td align=right> 491 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 406 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 1,985 <TD class=td align=right> 19.26 <TD class=td align=right> 443.56 <TD class=td align=right> 22.35 <TD class=td align=right> 4.56 <TD class=td align=right> 1,014.80 <TR><TD class=td>ลำตะคอง <TD class=td align=right> 314 <TD class=td align=right> 132 <TD class=td align=right> 92 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 270 <TD class=td align=right> 0.86 <TD class=td align=right> 66.64 <TD class=td align=right> 24.68 <TD class=td align=right> 0.35 <TD class=td align=right> 119.62 <TR><TD class=td>ลำพระเพลิง <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 25 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 53 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 184 <TD class=td align=right> 0.59 <TD class=td align=right> 36.26 <TD class=td align=right> 19.71 <TD class=td align=right> 0.35 <TD class=td align=right> 34.47 <TR><TD class=td>น้ำอูน <TD class=td align=right> 520 <TD class=td align=right> 268 <TD class=td align=right> 154 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 111 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 443 <TD class=td align=right> 1.39 <TD class=td align=right> 46.07 <TD class=td align=right> 10.40 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 75.06 <TR><TD class=td>อุบลรัตน์ (2) <TD class=td align=right> 2,432 <TD class=td align=right> 654 <TD class=td align=right> 1,035 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 454 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 2,271 <TD class=td align=right> 42.92 <TD class=td align=right> 721.23 <TD class=td align=right> 31.76 <TD class=td align=right> 10.88 <TD class=td align=right> 674.92 <TR><TD class=td>สิรินธร (2) <TD class=td align=right> 1,966 <TD class=td align=right> 1,330 <TD class=td align=right> 948 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 6 <TD class=td align=right> 1,664 <TD class=td align=right> 2.18 <TD class=td align=right> 307.77 <TD class=td align=right> 18.50 <TD class=td align=right> 1.66 <TD class=td align=right> 497.38 <TR><TD class=td>จุฬาภรณ์ (2) <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 57 <TD class=td align=right> 79 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 0.66 <TD class=td align=right> 49.17 <TD class=td align=right> 29.80 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 76.43 <TR><TD class=td>ห้วยหลวง <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 66 <TD class=td align=right> 67 <TD class=td align=right> 57 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 53 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 3.61 <TD class=td align=right> 53.86 <TD class=td align=right> 33.45 <TD class=td align=right> 0.05 <TD class=td align=right> 28.38 <TR><TD class=td>ลำนางรอง <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 0.03 <TD class=td align=right> 12.89 <TD class=td align=right> 42.97 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 13.04 <TR><TD class=td>มูลบน <TD class=td align=right> 141 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 22 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 0.32 <TD class=td align=right> 11.84 <TD class=td align=right> 14.44 <TD class=td align=right> 0.04 <TD class=td align=right> 49.04 <TR><TD class=td>น้ำพุง (2) <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 74 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 103 <TD class=td align=right> 0.63 <TD class=td align=right> 46.64 <TD class=td align=right> 45.28 <TD class=td align=right> 0.57 <TD class=td align=right> 20.55 <TR><TD class=td>ลำแซะ <TD class=td align=right> 275 <TD class=td align=right> 179 <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 114 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 193 <TD class=td align=right> 0.97 <TD class=td align=right> 47.76 <TD class=td align=right> 24.75 <TD class=td align=right> 0.10 <TD class=td align=right> 118.38 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,756 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,807 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,199 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 41 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,556 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 57 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,551 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 73.42 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,843.69 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 24.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 18.56 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,722.07 <TR><TD class=td>ภาคกลาง <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ป่าสักฯ <TD class=td align=right> 960 <TD class=td align=right> 285 <TD class=td align=right> 181 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 178 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 2,200 <TD class=td align=right> 23.31 <TD class=td align=right> 244.13 <TD class=td align=right> 11.10 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 713.69 <TR><TD class=td>กระเสียว <TD class=td align=right> 240 <TD class=td align=right> 104 <TD class=td align=right> 120 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 80 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 256 <TD class=td align=right> 1.79 <TD class=td align=right> 131.75 <TD class=td align=right> 51.46 <TD class=td align=right> 0.06 <TD class=td align=right> 180.76 <TR><TD class=td>ทับเสลา <TD class=td align=right> 160 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 23 <TD class=td align=right> 124 <TD class=td align=right> 2.93 <TD class=td align=right> 23.30 <TD class=td align=right> 18.79 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 45.31 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคกลาง <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,360 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 415 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 346 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 25 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 295 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 31 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,580 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 28.03 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 399.18 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 15.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 0.06 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 939.76 <TR><TD class=td>ภาคตะวันตก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ศรีนครินทร์ (2) <TD class=td align=right> 17,745 <TD class=td align=right> 14,656 <TD class=td align=right> 12,800 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 2,535 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 4,339 <TD class=td align=right> 17.48 <TD class=td align=right> 946.30 <TD class=td align=right> 21.81 <TD class=td align=right> 23.50 <TD class=td align=right> 3,591.29 <TR><TD class=td>วชิราลงกรณ (2) <TD class=td align=right> 8,860 <TD class=td align=right> 7,187 <TD class=td align=right> 3,731 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 719 <TD class=td align=right> 8 <TD class=td align=right> 5,369 <TD class=td align=right> 14.75 <TD class=td align=right> 836.17 <TD class=td align=right> 15.57 <TD class=td align=right> 5.08 <TD class=td align=right> 3,731.08 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันตก <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 26,605 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 21,843 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 16,531 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 62 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,254 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 44 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 9,708 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 32.23 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,782.47 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 18.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 28.58 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 7,322.37 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>บางพระ <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 16.28 <TD class=td align=right> 37.00 <TD class=td align=right> 0.11 <TD class=td align=right> 28.10 <TR><TD class=td>หนองปลาไหล <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 136 <TD class=td align=right> 83 <TD class=td align=right> 122 <TD class=td align=right> 75 <TD class=td align=right> 203 <TD class=td align=right> 1.41 <TD class=td align=right> 65.76 <TD class=td align=right> 32.39 <TD class=td align=right> 0.29 <TD class=td align=right> 110.76 <TR><TD class=td>คลองสียัด <TD class=td align=right> 420 <TD class=td align=right> 180 <TD class=td align=right> 178 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 148 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 204 <TD class=td align=right> 2.24 <TD class=td align=right> 119.64 <TD class=td align=right> 58.65 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 166.59 <TR><TD class=td>คลองท่าด่าน <TD class=td align=right> 224 <TD class=td align=right> 106 <TD class=td align=right> 87 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 337 <TD class=td align=right> 1.08 <TD class=td align=right> 101.46 <TD class=td align=right> 30.11 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 183.26 <TR><TD class=td>ประแสร์ <TD class=td align=right> 248 <TD class=td align=right> 150 <TD class=td align=right> 178 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 158 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 295 <TD class=td align=right> 1.37 <TD class=td align=right> 107.35 <TD class=td align=right> 36.39 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 105.83 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคตะวันออก <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,173 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 594 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 628 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 54 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 547 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 92 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,083 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 6.22 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 410.49 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 38.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 0.64 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 594.54 <TR><TD class=td>ภาคใต้ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>แก่งกระจาน <TD class=td align=right> 710 <TD class=td align=right> 561 <TD class=td align=right> 196 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 129 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 929 <TD class=td align=right> 1.59 <TD class=td align=right> 261.53 <TD class=td align=right> 28.15 <TD class=td align=right> 1.12 <TD class=td align=right> 440.20 <TR><TD class=td>ปราณบุรี <TD class=td align=right> 347 <TD class=td align=right> 287 <TD class=td align=right> 93 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 10 <TD class=td align=right> 436 <TD class=td align=right> 0.60 <TD class=td align=right> 56.06 <TD class=td align=right> 12.86 <TD class=td align=right> 1.12 <TD class=td align=right> 250.25 <TR><TD class=td>รัชชประภา (2) <TD class=td align=right> 5,639 <TD class=td align=right> 4,751 <TD class=td align=right> 3,484 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 2,132 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 2,598 <TD class=td align=right> 5.81 <TD class=td align=right> 953.32 <TD class=td align=right> 36.69 <TD class=td align=right> 8.16 <TD class=td align=right> 2,142.44 <TR><TD class=td>บางลาง (2) <TD class=td align=right> 1,454 <TD class=td align=right> 950 <TD class=td align=right> 641 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 381 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 1,545 <TD class=td align=right> 8.44 <TD class=td align=right> 562.79 <TD class=td align=right> 36.43 <TD class=td align=right> 4.24 <TD class=td align=right> 1,071.56 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมภาคใต้ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 8,150 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 6,549 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 4,414 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 54 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 2,675 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 69 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 5,508 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 16.44 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 1,833.70 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 33.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 14.64 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 3,904.45 <TR><TD class=td bgColor=#dcdcdc>รวมทั้งประเทศ <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 69,595 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 45,109 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 34,555 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 50 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 11,032 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 46 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 40,172 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 269.79 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 10,066.10 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 25.00 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 73.21 <TD class=td bgColor=#dcdcdc align=right> 23,996.60 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>หมายเหตุ</TD><TD>รนก. หมายถึง ระดับน้ำเก็บกักของอ่างฯ </TD><TD>ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือเกษตรในฤดูแล้ง กรมชลประทาน </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรที่ระดับน้ำสูงสุด </TD><TD>โทร./โทรสาร 0-2243-6956,0-2241-3350 </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างฯ ขนาดกลาง ปรับปรุงทุกวันจันทร์ </TD><TD>www.rid.go.th</TD></TR><TR><TD> </TD><TD><TABLE border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>% เทียบกับ รนก. </TD></TR><TR><TD bgColor=red> </TD><TD>> 80</TD></TR><TR><TD bgColor=blue> </TD><TD>51 - 80</TD></TR><TR><TD bgColor=green> </TD><TD>31 - 50</TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9900> </TD><TD><= 30</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7202 ข่าวสดรายวัน


    ไข้เลือดออก-5จว.ใต้ตายแล้ว16




    สงขลา - น.พ.สุวิช ธรรมปาโล ผอ.สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เปิดเผยว่า ภาพรวมของการระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชาชนป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก 7,213 ราย เสียชีวิต 16 ราย และมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น จ.สงขลา มีผู้ป่วย 2,882 ราย เสียชีวิต 9 ราย จ.นราธิวาส 1,535 ราย เสียชีวิต 2 ราย จ.ปัตตานี 1,355 ราย เสียชีวิต 2 ราย จ.ยะลา 827 ราย เสียชีวิต 1 ราย และจ.สตูล 614 ราย เสียชีวิต 2 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 10-14 ปี

    น.พ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.สงขลา กล่าวว่า จากสถิติตั้งแต่ 1 ม.ค.-3 ส.ค. พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 2,882 ราย เสียชีวิตจำนวน 9 ราย จึงจำเป็นต้องเร่งป้องกันทั้งในระดับบุคคลและครอบครัว โดยเน้นไปที่การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง รวมไปถึงการดูแลสถานที่สำคัญๆ คือ โรงเรียน โรงเรือน และโรงพยาบาล ทั้งนี้ การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจะไม่เน้นการพ่นสารเคมีเพียงอย่างเดียว แต่จะมุ่งเน้นขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่อง


    หนุนสร้างท่าเทียบเรือชายฝั่งใต้ หวังทดแทน"แหลมฉบัง"



    ตรัง - นายเดชา เกื้อกูล อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เมื่อวันก่อนที่โรงแรมธรรมรินทร์ธนา อ.เมือง มีการจัดประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ครั้งที่ 3 โดยมีประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วมหารือในการประชุม ทั้งนี้ สืบเนื่องจากทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีการลงพื้นที่สำรวจท่าเรือฝั่งตะวันตกของประเทศ เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศไทย เพื่อลดต้นทุนในระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการสำรวจความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าเรือชายฝั่ง และเซาเทิร์น ซีบอร์ด

    นายเดชา เปิดเผยต่อไปว่า การสำรวจความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าเทียบเรือดังกล่าวขึ้นก็เนื่องจากในพื้นที่อีสเทิร์น ซีบอร์ด ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของประเทศไทยในอนาคตอีก 5 ปี จะมีความหนาแน่น จึงทำให้ไม่สามารถรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมได้

    "สำหรับทางด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงตระหนักถึงความสำคัญในศักยภาพของพื้นที่ภาคใต้ในหลายพื้นที่ และการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศกว่าร้อยละ 95 ส่งผลต่อต้นทุนโลจิสติกส์ที่ประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ นอกจากนี้การส่งออกทางทะเลของไทยไปซีกโลกตะวันตกจะต้องพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ดังนั้น การที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แก่ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีการก่อสร้างท่าเรือฝั่งตะวันตก เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของประเทศในปี 2560 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า" นายเดชา กล่าว


    "บอลลูนฮีเลียม" กำจัดขยะอวกาศ

    หมุนก่อนโลก

    สาวิตรี เฉลิมจิระรัตน์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในห้วงอวกาศนอกโลกของเรานั้นเต็มไปด้วยขยะลอยฟ่องเต็มไปหมด โดยเฉพาะใน "ชั้นบรรยากาศโลก" บ้านของดาวเทียมซึ่งมีทั้งที่กำลังปฏิบัติภารกิจและที่สิ้นอายุขัย แต่ลอยเท้งเต้งเป็นอันตรายต่อดาวเทียมดวงอื่นๆ จนที่ผ่านมาสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซ่า) กังวลหนัก

    เพราะมีตัวอย่างมาแล้วเมื่อปี 2552 ดาวเทียมหมดอายุดวงหนึ่งลอยไปชนกับดาวเทียมอีกดวง การชนปะทะทำให้เศษชิ้นส่วนนับพันชิ้นกระจายไปทั่ว

    เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเฉี่ยวชน นักวิทยาศาสตร์ฝันถึงดาวเทียมที่เผาทำลายตัวเองเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ แต่ถ้าทำอย่างนั้นจะต้องส่งดาวเทียมขึ้นไปพร้อมเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ต้นทุนแพงขึ้นด้วย ทีมวิศวกรจากบริษัทการบินโกลบอล แอโรสเปซ คอร์ปอเรชั่น ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ นำเสนอไอเดียการใช้ "บอลลูนฮีเลียม" ในที่ประชุมผู้เชี่ยวชาญดาราพลศาสตร์ในเมืองโตรอนโต แคนาดา ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า

    คริสติน เกตส์ หนึ่งในวิศวกรผู้คิดค้น กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าบอลลูนยักษ์พาสิ่งของขึ้นสู่ฟ้าได้ ในทำนองเดียวกันก็ลากเอาดาวเทียมหมดอายุกลับลงมาได้เช่นกัน แต่ดาวเทียมใหม่ๆ ที่จะถูกส่งขึ้นไปจะต้องติดตั้งบอลลูนเอาไว้ เมื่อใกล้หมดอายุ เครื่องยนต์จะสั่งปั๊มก๊าซฮีเลียมเข้าบอลลูน ทำให้เกิดแรงฉุดเมื่อบอลลูนปะทะกับบรรยากาศเบาบางรอบนอกของโลก

    ทีมวิจัยประเมินว่า บอลลูนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 37 เมตรสามารถดึงดาวเทียมน้ำหนัก 1,200 กิโลกรัมจากวงโคจรชั้นในที่ระยะ 830 กิโลเมตร ลงมาสู่ชั้นที่ต่ำกว่าเพื่อเผาไหม้ในบรรยากาศ ใช้เวลาเพียงปีเดียว แต่ถ้าไม่มีบอลลูน ขั้นตอนการทำลายทิ้งดาวเทียมใช้เวลาหลายทศวรรษ การติดตั้งบอลลูนและอุปกรณ์เสริมรวมแล้วมีน้ำหนักเพิ่มเพียง 36 กิโลกรัม น้อยกว่าเชื้อเพลิงที่จะใส่ให้ดาวเทียมเพื่อให้ออกนอกวงโคจรเสียอีก

    ด้านไบรอัน วีเดน ประธานกองทุนความมั่นคงโลกในกรุงวอชิงตัน ซึ่งสนับสนุนการใช้อวกาศอย่างสันติ กล่าวว่า

    คอนเซ็ปต์บอลลูนมีความเป็นไปได้ แต่อาจจะใช้ไม่ได้กับดาวเทียมทุกดวง ดาวเทียมที่มีวงโคจรแบบวงกลมประจำที่ในระยะ 36,000 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ก๊าซในบอลลูนจะไม่มีแรงพอลากดาวเทียมกลับลงมาได้ ซึ่งทีมวิศวกรผู้คิดค้นก็ยอมรับว่าบอลลูนมีข้อจำกัดใช้งานได้ที่ระยะต่ำกว่า 1,500 กิโลเมตรลงมา จึงต้องมุ่งมั่นพัฒนากันต่อไป

    [FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]
    รัสเซียร้อนไฟป่าลาม ผลาญศก.เขย่าการเมือง

    สกู๊ปพิเศษ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>คลื่นความร้อนที่เคยเล่นงานประเทศยุโรปในช่วงหน้าร้อนกลางปี มาปีนี้แผ่เข้าไปในรัสเซียและเล่นงานอย่างหนัก

    ไม่เพียงทำให้เกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง ที่ทำให้เกิดความความแห้งแล้ง ไฟป่า และควันพิษ ยังเผาผลาญพ่นพิษไปถึงเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศด้วย

    ความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรัสเซียจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในสองปีที่ผ่านมาถูกไฟเผาเหี้ยน

    อเล็กซานเดอร์ โมโรซอฟ หัวหน้าคณะ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารเอชเอสบีซีในรัสเซีย กล่าวว่า ไฟปƒาและคลื่นความร‰อนทำให้เกิดความเสียหาย ร้อยละ 1.0 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี

    คิดเป็นเงินราว 7-15 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2-4.8 แสนล้านบาท

    ตัวเลขนี้นับจากความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ยังไม่รวมความเสียหายทางอ้อมที่เกี่ยวกับสุขภาพและการเสียชีวิตของประชาชน ส่วนตัวเลขทั้งหมดรัฐบาลต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อประเมินความเสียหาย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจยิ่งถดถอยโดยพยากรณ์ว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะโตเพียงร้อยละ 4.25 ขณะที่ในปีหน้าโต 4.0 ลดลงอย่างมากจากปีที่แล้วที่สูงถึงร้อยละ 7.9 จากการส่งออกเชื้อเพลิง

    นอกจากนี้บริษัทชั้นนำของรัสเซียจำนวนมากต้องปิดตัวชั่วคราวเพื่อป้องกันคนงานจากอากาศร้อนและควันไฟ

    วลาดิเมียร์ ทิกโฮมิรอฟ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันการเงินยูราลซิบ พยากรณ์ว่า หากคลื่นความร้อนยังไม่สลายตัวไปภายในเดือน ส.ค. นี้ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะเพิ่มไปอยู่ที่ร้อยละ 0.5-1.0 ของจีดีพีปีนี้ หรือราว 2.2 แสนล้านบาท

    ด้านนักเศรษฐ ศาสตร์คนอื่นๆ ประเมินคล้ายกันว่า ความสูญเสียในระยะยาวมีมูลค่าสูงมาก แม้ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะดีดลูกคิดออกมา

    "เราต่างเพิ่มระดับอัตราเงินเฟ้อในปี 2553 และ 2554 ไว้ที่ร้อยละ 8.5 และ 9.5-10 จากที่ปีที่แล้วภาวะเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 7.6" ดมิทรี โปเลวอย นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคาร ING ที่มอสโก กล่าว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    วลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผลกระทบจากไฟป่าและคลื่นความร้อนที่ทำ ให้อุณหภูมิสูงเป็นสถิติ ในรอบ 130 ปีทำให้รัฐบาลรัสเซีย รวมถึง ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเว เดฟ และ วลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพล ก็หนีไม่พ้นเสียง วิพากษ์วิจารณ์ถึงการรับมือ ที่ถูกสับว่าไม่รวดเร็วพอและยังปิดบังตัวเลข ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

    ตัวเลขจากทางการต้นสัปดาห์นี้ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าอยู่ที่ 53 ราย บ้านเรือนถูกเผาทำลายไป 2,000 หลัง

    ส่วนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องจากคลื่นความร้อน สัปดาห์ก่อน เฉพาะในมอสโก เพิ่มจากวันละ 300 เป็น 700 ราย

    ปูตินต้องงัดใช้มาดกร้าวแกร่งขับเครื่องบินช่วยดับไฟป่าด้วยตนเอง ที่แคว้นรยาซาน ห่างจากกรุงมอสโก 180 กิโลเมตร

    ขณะเดียวกัน ยังบัญชาการลดการส่งออกข้าวสาลีเหลือ 1 ใน 3 ของปกติอยู่ที่ 60-65 ล้านตัน หลังผลผลิตร้อยละ 30 เสียหาย และพืชผลอย่างอื่นได้รับผลกระทบถ้วนหน้า

    พร้อมประกาศงดการส่งออกข้าวสาลีในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อพยุงราคาข้าวในประเทศ

    ด้านประธานาธิบดีเมดเวเดฟ กล่าวว่า สภาพอากาศนั้นแปรปรวนวิปริตเกินกว่าปกติ ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนไม่อาจควบคุมได้ แม้จะใช้ความพยายามขั้นสูงสุดแล้ว

    ผู้นำรัสเซียยังต่อสายคุยกับประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ ที่โทร.มาแสดงความห่วงใยและเสนอให้ความช่วยเหลือ ในฐานะที่สหรัฐมีประสบการณ์เผชิญไฟป่าที่แคลิฟอร์เนียเกือบทุกปี

    ขณะเดียวกันสหรัฐยังส่งอุปกรณ์ดับไฟไปให้ รวมกับความช่วยเหลือผ่านองค์การกาชาดและเสี้ยววงเดือน คิดแล้วมูลค่าถึง 4.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 145 ล้านบาท

    แม้การรับความช่วยเหลือจากคู่มหาอำนาจยุคสงครามเย็นของรัสเซีย อาจทำให้กลุ่มชาติ นิยมจัดขัดใจอยู่บ้าง แต่นาทีนี้ ผู้นำหมีขาวไม่มีเวลามาเล่นกับการเมืองที่กำลังถูกไฟลนแต่อย่างใด

    หวั่นปากีฯตายระลอก 2



    เมื่อ 17 ส.ค. เอพีรายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมโคลนถล่มในปากี สถาน ว่า นานาประเทศเริ่มทยอยบริจาคเงินให้ตามคำขอของสหประชาชาติ ซึ่งเกรงว่า จะมีการตายหมู่ครั้งใหญ่ระลอกที่สอง หากความช่วยเหลือไปไม่ถึงผู้ประสบภัย 20 ล้านคน รวมถึงเด็ก 3.5 ล้านคน เสี่ยงติดโรคจากน้ำปนเปื้อน โดยซาอุดีอาระเบียให้ 650 ล้านบาท ญี่ปุ่นเพิ่มให้อีก 320 ล้านบาท ออสเตร เลียให้ 1,100 ล้านบาท ธนาคารโลกจะให้กู้ 28,500 ล้านบาท ไทยให้ 2.5 ล้านบาท


    ติดยศโฮ่ง2ขากำลังใจเหยื่อสมรภูมิ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เดลี่เมล์รายงานว่า เมื่อ 17 ส.ค. กองทัพสหรัฐประดับยศให้สุนัข 2 ขา ชื่อ เฟธ เป็นสิบเอกเกียรติยศเพื่อปลอบขวัญให้กับเหล่าทหารผ่านศึกที่พิการ โดยเจ้าเฟธ สุนัขเพศเมียพันธุ์ผสมระหว่างลาบราดอร์กับเชาเชา อายุ 8 ปี เป็นขวัญใจตัวโปรดในค่ายทหารและตามโรงพยาบาล แม้สองขาหน้าด้วน แต่มันฝึกฝนจนเดินด้วย 2 ขาหลังได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นคง

    "เฟธเป็นแรงบันดาลใจอย่างดีให้กับคนหนุ่มเหล่านั้น มันทำได้ดีแม้จะพิการ ฉันอยากให้มันทำให้ทหารอังกฤษยิ้มออก" จูดี้ สตริงเฟลโลว์ ชาวเมืองโอกลาโฮมา สหรัฐ เจ้าของสุนัขกล่าว และว่ามีแผนจะพาเฟธไปอังกฤษเยี่ยมทหารบาดเจ็บจากศึกอัฟกานิสถาน

    เฟธเกิดมาโดยขาหน้าข้างหนึ่งด้วน ส่วนอีกข้างงอกไม่สมบูรณ์จนต้องตัดทิ้ง แม่ของมันไม่ยอมเลี้ยง ลูกชายของจูดี้ไปพบเข้าจึงรับมาเลี้ยงดูและสอนให้มันเดินโดยใช้เนยถั่วหลอกล่อ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปากีสถานเคราะห์ซ้ำ! น้ำท่วมครั้งหายนะทำเศรษฐกิจล่มจม หวั่นเกิดจลาจล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 สิงหาคม 2553 14:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ประสบภัยน้ำท่วมชาวปากีสถานต่างเข้าแถวรอรับอาหารและน้ำดื่ม

    เอเอฟพี - ปากีสถานประสบหายนะทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังน้ำท่วมทำลายเรือกสวนไร่นา และระบบสาธารณูปโภค สร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลาร์ และอาจบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจไปอีกหลายปี

    ภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดนี้ ได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตชาวปากีสถานกว่า 20 ล้านคน และทำให้เกิดวิกฤตพลังงาน จนเกรงกันว่าประชาชนอาจลุกฮือขึ้นก่อการจลาจลได้

    “ดูเหมือนเราถูกกำหนดให้ต้องเดินไปตามอุโมงค์ที่มืดมน ต้องทุกข์ทรมานอย่างนี้ไม่จบสิ้น” โมริโอ ปาโฮเร ชาวนาคนหนึ่งจากเมืองทูลทางตอนใต้ของปากีสถานกล่าว

    โมริโอ วัย 50 ปี ซึ่งไม่สวมเสื้อและมีใบหน้าดำคล้ำจากแสงแดดเล่าว่า ฝนที่ตกหนักทำให้แม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและทรัพย์สินของเขาจนไม่เหลืออะไรเลย

    “เราเคยมีกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่ง มีแพะ มีควาย มีข้าวกิน แต่แม่น้ำพาทุกอย่างไปหมด จนตอนนี้เราเหลือแต่ตัวกับความหิวโหย คงอีกหลายปีกว่าเราจะตั้งตัวได้ เพราะทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำ และถึงน้ำในแม่น้ำจะลดลง น้ำก็คงจะท่วมอยู่อีกนาน”

    นี่คือ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับชาวไร่ชาวนานับล้านในปากีสถาน หลังอุทกภัยครั้งใหญ่พัดพาเอาทุกอย่างไปจากพวกเขาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน

    ผลิตผลทางการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของปากีสถาน ประธานาธิบดี อาซิฟ อาลี ซาร์ดารี ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะจัดหาต้นกล้า ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช และ อาหารให้แก่ชาวนาทั้งหมดที่ประสบความเดือดร้อนได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญ คาดว่า อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น

    ธนาคารโลกซึ่งออกเงินกู้จำนวน 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแก่ปากีสถาน คาดว่า น้ำท่วมจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจสูงมาก พร้อมระบุว่า บ้านเรือนประชาชน ถนน ระบบชลประทาน และ พื้นที่เกษตรกรรม ได้รับความเสียหายโดยตรง

    ความเสียหายที่เกิดกับพืชเศรษฐกิจ อย่าง ฝ้าย ข้าว อ้อย และ ข้าวโพด จะส่งผลต่อการส่งออก ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศหลักของปากีสถาน ส่วนสิ่งทอและผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 75 ของมูลค่าการส่งออก 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ในปีนี้

    ซามีร์ อครัม ผู้แทนปากีสถานในองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการบูรณะเมืองทางตอนเหนือเพียงอย่างเดียวอาจสูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะนี้เครื่องอุปโภคบริโภคในปากีสถานมีราคาสูงขึ้น และบางพื้นที่ขาดแคลนเชื้อเพลิง ชาวบ้านในหมู่บ้าน 1,000 แห่งทางตอนใต้ของรัฐปัญจาบ ต้องอยู่อย่างไม่มีไฟฟ้าใช้

    ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้รัฐบาลที่อ่อนแอ และไม่เป็นที่นิยมของปากีสถานดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมเตือนว่าความสูญเสียอาจทำให้เกิดการว่างงาน และการจลาจลตามมา

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000114786
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประตูมิติแห่งเวลาคืออะไร?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประตูเวลาคืออะไรนะหรือ ชื่อก็บอกอยู่ว่ามันคืออะไร มันก็คือประตูเวลาที่สามารถให้คนข้ามไปในอดีตหรืออนาคตได้ สมัยโบราณได้มีคำจารึกโบราณต่างๆ หรือข้อสันนิฐานต่างๆเกี่ยวกับพิธีการติดต่อมนุษย์ต่างดาว มีคนพบเมืองโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำ โดยมีการพบภาพวาดมนุษย์ต่างดาวและเรือมีเครื่องยนต์ เป็นไปไม่ได้ที่สมัยเมื่อก่อนจะมีเรือมีเครื่องยนต์ แล้วภาพวาดมนุษย์ต่างดาวไปอยู่ในฝาผนังเมืองโบราณได้อย่างไร

    แสดงให้เห็นชัดว่ามนุษย์สมัยเมื่อก่อน มีความสามารถในการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว มหานครแอตแลนติสที่ชื่อดัง สันนิฐานว่าน่าจะจมอยู่ใต้สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งมหานครแอตแลนติสเป็นจุดที่พบมนุษย์ต่างดาวมากที่สุด และมีคนถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานไว้ด้วย แสดงให้เห็นว่ามหานครแอตแลนติสน่าจะมีพลังไรสักอย่างเช่น แท่งแก้วพลังที่สามารถสร้างประตูเวลาหรือหลุมดำหรือหลุมเชื่อมมิติ ไปยังอีกที่นึงของจักรวาลได้

    แต่พอมหานครแอตแลนติสล่มสลายลงเพราะภัยพิบัติน้ำท่วม ทำให้ไม่มีใครควบคุมแท่งแก้วพลังเหล่านั้น ทำให้แท่งแก้วพลังส่งพลังออกมา เป็นผลทำให้เครื่องบิน หรือเรือที่ผ่านไปบริเวณนั้น(สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า)หายสาบสูญเพราะต้องโดนย้ายจากโลกไปอยู่อีกส่วนหนึ่งของจักรวาล ถ้าสันนิฐานเป็นจริง มนุษย์ต่างดาวมายังโลกเราโดยผ่านประตูมิติตรงสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า(แอตแลนติสสมัยเมื่อก่อน) พอมนุษย์ต่างดาวเห็นโลกเราเปลี่ยนไป เจริญทางเทคโนโลยีมากขึ้น มนุษย์ต่างดาวจึงคิดจะสำรวจ เทคโนโลยีของมนุษย์ เพราะกลัวว่ามนุษย์จะรุกรานไปดินแดนของมนุษย์ต่างดาว

    ตัวอย่างเช่น การปล่อยจรวจขึ้นไปบนท้องฟ้า มีมีนักบินอวกาศเห็นจานบินลอยตามมาติดๆสักพักไม่กี่นาทีก็หายไป เป็นไปได้อย่างมากที่มนุษย์ต่างดาวต้องการสำรวจเทคโนโลยีของมนุษย์ว่าก้าวไปถึงไหน เป็นไปได้หรือไม่ว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นที่ตั้งเดียวกับมหานครแอตแลนติสเมื่อก่อน!!!!

    ในมหานครแอตแลนติสมีแท่งแก้ว ตรงกับคำจารึกในสมัยเมื่อก่อนที่สามารถส่งพลังมีผลต่อสนามแม่เหล็กโลก แล้วกลายเป็นหลุมมิติไปเป็นเหตุให้มนุษย์ต่างดาวสามารถมายังโลกได้

    โดยคุณ MR.Benjamin_Shadow วันที่ 24 พฤษภาคม 2552

    นี่เป็น ทฤษฎีอย่างหนึ่งที่ค้นพบนะ ทฤษฎีที่ว่า อาจจะเป็นไปได้ที่บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้น ตั้งอยู่ในจุดสมดุลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า กับพลังของสนามแห่งแรงโน้มถ่วงพอดี ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างของอีกมิติหนึ่งในห้วงเวลาอวกาศ และเมื่อเรือหรือเครื่องบินแล่นเข้าสู่ช่องว่างแห่งนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติหายลับไปทันที แต่เนื่องจากว่าวิทยาการทางเทคนิคของเราในปัจจุบันนี้ยังไม่มีความรู้พอที่จะแก้ไขสถานการณ์อันนี้ได้ การหายสาบสูญของพวกเรา ก็เป็นไปในทำนอง เดินทางเดียว เท่านั้น

    คือเมื่อมิติถูกเปลี่ยนไปแล้ว ก็ไม่อาจจะทำให้กลับคืนสู่มิติเดิมได้ ส่วนสิ่งมีชีวิตปัญญาสูงจากนอกโลกที่มาจากจานบิน คงจะทราบและเข้าใจในกฎเกณฑ์อันนี้เป็นอย่างดีจึงได้ใช้ช่องว่างที่เกิดจากสมดุลอันนี้ เป็น ประตู ทางเข้าออกในการเปลี่ยนแปลงทางมิติเพื่อเข้าสู่โลก ด้วยเหตุจึงมีผู้พบเห็นจานบินบ่อยๆ (สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นสถานที่ซึ่งมีผู้พบเห็นจานบินบ่อยที่สุดและมากที่สุดในโลก) และมันจะหายตัวไปแบบฉับพลัน ซึ่งตอนนั้นเองที่จานบินเปิดประตูมิติ เรือหรือเครื่องบินผ่านมาบริเวณนั้นพอดี ก็เลยแล่นเข้าสู่ประตูมิติ ว่างั้นเปล่าล่ะ ที่ว่า มีแท่งแก้วพลังหรืออะไรน่ะ ผมไม่อยากจะเชื่อ แต่ถ้ามันมีจริง ก็ว่าไปอย่าง ทุกอย่างน่ะนะ เกิดขึ้นจากธรรมชาติทั้งนั้น

    โดยคุณ Krit Lnw วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552

    เราอยากรู้มากเลยเกี่ยวกับเรื่องของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เห็นตามเว็ปกะหนังสือเค้าบอกว่าเป็นบริเวณที่มีมิติของเวลาอีกมิติหนึ่ง แล้วก็พูดถึงทฤษฎีของไอน์สไตน์ด้วย เกี่ยวกับเรื่องของเวลาและทฤษฎีสัมพันธภาพ แต่เราไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ

    ส่วนเรื่องของมนุษย์ต่างดาวเราว่าเป็นไปได้นะ ขนาดโลกเรายังมีคนเลยทำไมโลกอื่นจะมีมนุษย์ต่างดาวไม่ได้ ในหนังสือที่เราอ่านเค้าบอกว่าพบจานบิน บินเข้าไปในบริเวณของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า จากนั้นก็ออกมาพร้อมกับจานบินที่เพิ่มขึ้นมารวมแล้วเป็นห้าลำซึ่งมีลักษณะเหมือนกัน เท่าที่เรารู้ก็มีแค่นี้แหละ หวังว่าจะแลกเปลี่ยนอะไรได้มั่งนะ เจ้าของกระทู้ตั้งหัวข้อได้น่าสนใจมากเลยค่ะ

    โดยคุณ thing thing วันที่ 2 กรกฎาคม 2553

    ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1347576
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Stargate_sg1.jpg
      Stargate_sg1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.2 KB
      เปิดดู:
      1,811
    • bw_85549.jpg
      bw_85549.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      1,705
    • atlan.jpg
      atlan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66 KB
      เปิดดู:
      1,669
    • 1128846941.jpg
      1128846941.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.6 KB
      เปิดดู:
      104
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2010
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การเคลื่อนย้ายสสาร(คน,สัตว์,สิ่งของ)ผ่านทางประตูมิติแห่งเวลา

    [​IMG]

    ในงานมหาสโมสรสันนิบาตพุทธภูมิ วันออกพรรษา ณ วัดสังกัสรัตนคิรี จ.อุทัยธานี(พ.ศ.2550) ผมได้มีโอกาสฟังการบรรยายของ อ.สุดใจ แห่งเขากะลา ท่านได้เล่าเรื่องประตูของอีกมิติหนึ่ง ที่ซ้อนกันอยู่ในโลกมนุษย์เรานี้ว่า:-

    คนเราสามารถทะลุข้ามไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง โดยการอาศัยการช่วยเหลือของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งวิธีนี้มีความสำคัญมากในการช่วยเหลือคนในช่วงเกิดภัยพิบัติ ว่าสามารถจะพาคนไปหลบในอีกมิติหนึ่ง (ในช่วงเกิดภัยพิบัติ) คล้ายๆ กับการเดินทางข้ามเวลาไปในอดีตและอนาคต ของสถานที่แห่งเดิมนั้นได้

    ทำให้ผมนึกถึงการแสดงมายากล ของเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ว่าเขาก็มีความสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุใหญ่ๆ ไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งได้(ด้วยกำลังของอภิญญา) แล้วเรียกกลับคืนมาอยู่ในมิติเดิมได้ เช่นการทำให้เทพีแห่งเสรีภาพของสหรัฐอเมริกา หายวับไปกับตาต่อหน้าผู้คนที่อยู่ในสถานที่นั้นนับเป็นพันๆ คนได้ การทำให้เครื่องบินทั้งลำ หายไปจากวงล้อมของคนที่ยืนจับมือกันล้อมเครื่องบินนั้นได้ การยกรถไฟทั้งขบวนให้ลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วหายวับไปกับตาของคนที่ยืนดูอยู่หลายพันคนได้ และไม่ใช่การใช้กระจกหรือวัตถุอะไรมาบังตาด้วย เพราะสามารถให้คนเข้าไปเดินค้นหาเครื่องบิน และรถไฟทั้งขบวนในบริเวณที่มันเคยตั้งอยู่ได้ด้วย

    ในกลุ่มของอาจารย์สุดใจ ก็มีคนที่มีความสามารถทำเช่นนี้ได้หลายคน โดยอาศัยอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวที่มอบให้ กับผู้ที่ได้ถูกคัดเลือกให้มาทำหน้าที่นี้ คอยช่วยเหลือผู้คนยามเกิดภัยพิบัติใหญ่ ในเวลานั้นเราคงได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน นับว่าเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งที่เพื่อนต่างดาวของเรา ได้เตรียมไว้ช่วยเหลือมนุษย์โลก ให้มีโอกาสรอดชีวิตจาก มหาภัยพิบัติล้างโลกในครั้งนี้ครับ<!-- google_ad_section_end --> -เกษม-

    ท่านที่สนใจข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://www.ufokaokala.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2010
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <OBJECT id=sIFR_replacement_0 class=sIFR-flash classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 width=930 height=34>
























    </OBJECT>วิหารเกิดรอยร้าว พระธาตุช้างค้ำ กรมศิลป์เร่งบูรณะ



    [​IMG]
    วิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำอายุราว 600 ปีร้าว หวั่นโครงสร้างทรุดตัวจากภาวะฝนตกหนัก กรมศิลป์เร่งส่งวิศวกรเข้าไปดูแลก่อนได้รับความเสียหาย พร้อมสั่งการสำนักศิลปากรเฝ้าระวังภาวะเสี่ยงภัยโบราณสถาน...

    เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตนได้ลงตรวจเยี่ยมแหล่งโบราณสถานที่วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมือง จ.น่าน และวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและมีน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อโบราณสถานที่อยู่ในวัดสำคัญได้ โดยเฉพาะวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อายุประมาณ 600 ปี พบว่า เกิดอาการร้าวหลายจุด อาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของวิหารได้ เพราะโครงสร้างของวิหารได้ก่อสร้างด้วยรูปแบบการก่ออิฐถือปูน ซึ่งจะดูดความชื้นอมน้ำได้ค่อนข้างมาก

    นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ส่วนที่วัดพระธาตุช่อแฮนั้น พบปัญหาหลังคาวิหารรั่ว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างที่จะอมน้ำได้ แต่ไม่มากเท่ากับวัดพระธาตุช้างค้ำ จ.น่าน ดังนั้น กรมศิลปากร จึงมอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน ส่งวิศวกร และสถาปนิก ไปตรวจสภาพโครงสร้างวิหารของทั้ง 2 วัดว่า ควรจะดำเนินการบูรณะเช่นไร หรือควรป้องกันเหตุทรุดตัวของโครงสร้างไว้ก่อนด้วย เพราะวิหารเป็นโบราณสถานมีอายุค่อนข้างมาก เสี่ยงต่อการพังทลายได้

    "ผมได้หารือกับทางพระธรรมนันทโสภณ เจ้าอาวาสพระธาตุช้างค้ำฯว่า ควรจะดำเนินการบูรณะอย่างไร เพราะวัดพระธาตุช้างค้ำไม่ได้รับการบูรณะมานานถึง 5-6 ปี ซึ่งในเบื้องต้น กรมศิลปากรเห็นว่า ควรที่จะฉาบด้วยวัสดุกันน้ำก่อน อาจจะทำให้คุณค่าของโบราณสถานลดลงบ้าง แต่ก็ต้องดำเนินการป้องกันความเสียหายไว้ก่อน โดยทางเจ้าอาวาสท่านก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของกรมศิลปากร อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรยังพบปัญหาโบราณสถาน โบราณวัตถุเกิดอาการร้าวหรือทรุดตัวหลายจุด เนื่องจากภาวะฝนตกหนัก ดังนั้น ผมจึงมอบหมายให้สำนักศิลปากรในทุกพื้นที่เฝ้าระวังภาวะเสี่ยงภัยของแหล่ง โบราณสถานอย่างต่อเนื่อง"อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว

    ด้านนายวิเศษ เพชรประดับ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากเจ้าอาวาสวัดช้างค้ำว่า สาเหตุการร้าวเกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 2549 และในปีนื้ทางวัดได้แจ้งว่ามีอาการร้าวมากขึ้น ประกอบกับฝนตกหนัก ซึ่งทางวัดกังวลว่าจะเกิดปัญหาต่างๆตามมา ดังนั้น กรมศิลปากร จะเข้าไปตรวจสอบรอยร้าวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรเคยได้เสริมคานความแน่นหนาของวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำ เมื่อปี 2546 แล้ว ตนคิดว่า ไม่น่าจะเกิดปัญหาใดขึ้นสำหรับวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร สร้างขึ้นราวพ.ศ. 1949 เป็นวิหารขนาดใหญ่ รูปทรงสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือ ลักษณะภายในโอ่โถง ด้านหน้ามีสิงห์คู่ ยืนตรงเชิงบันได หน้าบันตีด้วยแผ่นกระดาน ภายในพระวิหารกว้างขวาง มีเสาปูนกลมขนาดใหญ่ ขนาด 2 คนโอบรอบ จำหลักลวดลายปูนปั้นนูนสูงไว้ เหนือจากระดับพื้นพระวิหาร 1.50 เมตร เป็นลวดลายกนกระย้าย้อยเหมือนลวดลายที่เสาในวิหารวัดภูมินทร์.
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    เปิดตัวเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง

    วันพุธ ที่ 18 สิงหาคม 2553 เวลา 1:00 น
    <SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa"></SCRIPT> ​


    <TABLE id=ext-gen5 class=x-tabs-strip border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD style="WIDTH: 72px" id=ext-gen10 class=" on">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    วันนี้ (17ส.ค.) ที่ห้องประชุม ชั้น 9 ตึกล้วน-เพิ่มพูน ว่องวานิช รพ.จุฬาลงกรณ์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จัดงานเปิดตัวเครื่องฉายรังสีแบบปรับความเข้ม 1,000 องศา (1,000 Degree Direction Art Therapy) เครื่องแรกในประเทศไทย โดยมี ศ.นพ. อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นประธาน พร้อมกันนี้ รศ.นพ.เกียรติ อาจหาญศิริ หัวหน้าฝ่ายรังสีวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ และ ผศ.นพ.ชลเกียรติ ขอประเสริฐ หัวหน้าสาขาวิชารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ ร่วมกันอธิบายหลักการทำงานและศักยภาพของเครื่องฉายรังสีดังกล่าว

    ผศ.นพ.ชลเกียรติ กล่าวว่า เครื่องฉายรังสีแบบปรับความเข้ม 1,000 องศา เป็นเครื่องมือใหม่ ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย คุณภาพสูง สามารถให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้นลงกว่าเดิม อยู่ที่ประมาณ 2-7 นาทีต่อคน ทั้งนี้ยังสามารถให้รังสีแบบสามมิติ เฉพาะจุด หรือครอบคลุมไปตามรูปร่างต่าง ๆ ของเซลล์มะเร็งตามที่แพทย์วางแผนการรักษาได้ รวมถึงมีความแม่นยำในการฉายรังสีสูงสุด จึงทำให้สามารถบริการผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และลดการแทรกซ้อนจากการฉายรังสีได้อีกด้วย.
     
  20. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    น่าสงสารมากๆค่ะ

    เห็นภาพที่แม่ลูกอ่อน นอนอยู่ด้วยกัน ในสภาพนั้น.... คิดถึงตัวเองค่ะ เพราะตัวเองก็กำลังจะมีลูกอ่อนเหมือนกัน (ยังไม่คลอด)
    ขอให้เขาปลอดภัย.. สู้ต่อไปค่ะ


     

แชร์หน้านี้

Loading...