ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

======================================


13 ก.ย. 53


หลานถาม.....? อาตอบ

บทความที่แล้วที่หลานได้ถามอา เกี่ยวกับการสร้างถาวรวัตถุ เช่นบ้านพัก
และศาลาสวดมนต์ ใครจะเป็นผู้ดูแลเมื่อยังไม่มีคนเข้าไปอยู่?

ที่ฐานผาแบ่นจะไม่สร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆที่ยึดอยู่กับที่เป็นการสิ้นเปลืองโดย
ใช่เหตุ จุดประสงค์ตั้งเพื่อรองรับคนดีในช่วงก่อนเกิดภัยจนกระทั้งสิ้นสุดภัย
จากนั้นใครใคร่อยู่ก็อยู่ ใครใคร่ย้ายออกก็ย้ายออกไม่มีข้อผูกมัดใดๆ เว้นแต่ผู้ที่
สร้างปัญหาก็ต้องเชิญออก การสร้างบ้านของอาก็เป็นระบบน็อคดาว์นถอดย้าย
ได้ ส่วนแนวร่วมเช่นหลานอาก็อนุญาตให้สร้างบ้านแบบอาได้เป็นกรณีพิเศษ
คงไม่ให้สร้างมากเกินไปเพราะพื้นที่จะไม่พอรองรับคน บ้านที่สร้างก็สร้างแบบ
ง่ายๆราคาหลังละสี่ถึงห้าหมื่นบาทอยู่ได้สี่ห้าคน ช่วงที่ยังไม่มีคนอยู่ก็ใส่กุญแจ
ล็อคไว้ เพราะยังไม่ย้ายของเข้าไป ส่วนการปลูกผักต้องหาผู้สูงอายุขึ้นไปดูแล
ก่อนในขั้นต้น เมื่อวางแผ่นปูนเสร็จเท่าที่จำเป็นในขณะนั้น มีเงินเหลือก็นำมา
ซื้อเต็นท์คลุมโรงครัว โรงสวดมนต์ ช่วงที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็นำเต็นท์ไป
ฝากไว้บนวัด ถ้าทางวัดจะนำมาใช้ก็ใช้ได้





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เชียงรายรอน้ำแห้ง เร่งทำทางเชื่อมแผ่นดินขึ้นดอยวาวีแยก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย </TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ถึงกรณีถนนทางขึ้นดอยวาวี ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

ซึ่งถูกน้ำป่ากัดเซาะจนขาดเป็นระยะทางยาวบริเวณบ้านทุ่งพร้าว ต.วาวี ส่งผลให้ราษฎรจำนวนกว่า 20,000 ครอบครัวของ ต.วาวี ซึ่งอยู่ด้านบนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนั้น ว่า เบื้องต้นทางจังหวัดได้ประสานทางหลวงชนบทประสาน ขอสะพานชั่วคราวไปยังทางจังหวัดนครราชสีมาเพื่อติดตั้งใช้ขั่วคราว แต่ปรากฎว่าสะพานมีความยาวเพียง 20 เมตร แต่จุดที่ถนนขาดมีความยาวกว่า 50 เมตร ทำให้ไม่สามารถใช้การได้จึงต้องยกเลิกไป

นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 20,000 คนได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะต้องอ้อมไปใช้เส้นทางดอยช้างที่มีระยะทางยาวกว่า 30 กิโลเมตร ยิ่งเป็นรถที่ขนส่งพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด ที่ต้องมีการขนย้ายวันละ 800,000 กิโลกรัม ซึ่งบรรทุกหนักขึ้นดอยก็ไม่ได้ ขณะนี้ทางจังหวัดจึงพยายามหาวิธีอื่นแก้ไขโดยจะทำเป็นถนนเลี่ยง โดยนำเครื่องจักรเข้าพื้นที่แล้ว แต่ยังทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้จึงรอให้น้ำที่ขังอยู่บริเวณที่ขาดและพื้นที่ข้างเคียงในเขื่อนแม่สรวยลดระดับลงอีกหน่อย อาจใช้ท่อคอนกรีตไปจัดสร้างถนนให้ใหม่อีกครั้ง แต่ต้องใช้เวลาหน่อยแต่จะเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 วันนี้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>น้ำป่าเชียงรายไหลท่วมบ้านกว่า500หลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>น้ำป่าไหลหลาก ต.นางแล จ.เชียงราย ทวีความรุนแรงท่วมบ้านกว่า 500 หลัง จนท.ประกาศเก็บของขึ้นที่สูง


วันนี้ 13 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เขตตำบลนางแล และตำบลท่าสุด ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เจ้าหน้าที่รายงานว่า อ่างเก็บน้ำห้วยภู ในพื้นที่ของตำบลนางแลได้แตก และน้ำมีปริมาณมากไหลลงสู่บ้านชาวบ้าน โดยในขณะนี้มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมไปแล้ว ประมาณ 500 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซ.ม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำในอ่างที่แตกลงมามีปริมาณมากเช่นกัน นอกจากนี้ น้ำจากน้ำตกโป่งพระบาท ยังไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ของตำบลบ้านดู่ ซึ่งอยู่เป็นโซนเดียวกันในพื้นที่ดังกล่าว โดยในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนประชาชนให้เก็บข้าวของขึ้นอยู่บนที่สูง ในพื้นที่ของตำบลบ้านดู่แล้ว

นายประยูร วิเศษวุฒิ ผู้ตรวจการบัญชีสหกรณ์การเกษตร จำกัด ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ระดับลำน้ำชีสูงขึ้นที่ประตูระบายน้ำห้วยดังเดียว ตำบลบึงงาม ตำบลเทอดไท อำเภอทุ่งเขาหลวง ลำน้ำชี สูงขึ้น อยู่ที่ 8 เมตร ระดับฝั่งนาอยู่ที่ 6.52 เมตร น้ำชีสูงกว่าฝั่งนา อยู่ที่ 1.48 เมตร นาข้าวสมาชิกของสหกรณ์การเกษตร จำกัด จำนวน 100 ราย เขตตำบลบึงงาม ตำบลเทอดไท น้ำท่วมประมาณ 500 ไร่ ข้าวระยะแตกกอเกิดความเสีย 100% การช่วยเหลือเกษตร ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจข้อมูลร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอ ประธานกลุ่มสหกรณ์การเกษตร ระดับหมู่บ้าน และระดับตำบล เพื่อการช่วยเหลือ โดยพบความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นการฟื้นฟูของสมาชิกด้วย

ทางด้าน นายสุวิทย์ ประธานกลุ่มเกษตรกรการเกษตร จำกัด ของบ้านดอนโมง หมู่ที่ 9 ตำบลบึงงาม

ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สหกรณ์ให้การดูแลสมาชิกเป็นอย่างดี กรณีภัยแล้งภัยน้ำท่วม หรือเกิดภัยพิบัติ เรื่องของโรค และแมลง แม้ว่าจำนวนเงินไม่มาก แต่ก็เป็นกำลังใจให้สำหรับสมาชิกได้ปุ๋ย 1 กระสอบ หรือซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวทดแทนความเสียหาย อุดมการณ์ของสหกรณ์ คือ ไม่หวังกำไร แต่ต้องมีกำไร สมาชิกมีความสุข คือ เป้าหมายสำคัญ.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** อ่าวไทยอย่าประมาท ****



พุ่งเข้าหา....ชายฝั่งอ่าวไทย
ไม่ควรประมาท รู้ทางหนี เอาตัวรอด
วันไหนไม่รู้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ซื้อเป็นเต้นท์เก็บไว้ ทั้งขนย้าย เก็บรักษา ราคาไม่แพงมาก แน่นอนไม่ถาวร
เหมือนอย่างอื่น แต่ถูกตังส์ มากกว่า ภาระลดลง เป็นอีกทางเลือกไหมครับ

 

สธ.ถกเครียดไข้หวัด 2009 รุนแรงขึ้น​

​

ก.สาธารณสุข ประชุมเครียดผู้บริหารระดับสูง หลังถูกโจมตีปล่อยให้ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ระบาดรุนแรงขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายคน และนอนรักษาอาการอีกหลายหมื่นคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ค่อนข้างยาวนานเป็นพิเศษ คาดว่าจะมีประเด็นสำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ และทำให้คนในวงการสื่อมวลชนหลายคนติดเชื้อ บางรายมีอาการหนัก แต่บางฝ่ายระบุว่าได้รับข้อมูลเชิงลึกว่าพนักงานสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 และเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการกลายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ 2009

จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายฝ่ายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ ส.ส.จากฝ่ายค้าน ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ออกมายืนยันชัดเจนว่ามีการเสียชีวิตจากคนในวงการสื่อมวลชนด้วยโรคนี้จริงหรือไม่ ที่สำคัญยังได้รับการยืนยันว่าไม่มีการกลายพันธุ์จากไข้หวัดใหญ่ 2009 ตามที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งต้องรอการประชุมผู้บริหารเสร็จสิ้นจึงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง

ขณะที่ยอดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตามสถิติของกรมควบคุมโรค ระบุว่ามีถึง 51,594 คน เสียชีวิตแล้ว 71 คน ส่วนการติดเชื้อของสื่อมวลชนในวงการสื่อโทรทัศน์ที่ล้มป่วยอาการหนักหลายรายนั้น ยังคงต้องรอการยืนยันที่ชัดเจนอีกครั้ง หลังการประชุมเสร็จสิ้น

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ตรัง-ซ้อมเตือนสึนามิพบ 3 หอมีปัญหาเสียงไม่ดัง​

​

จังหวัดตรัง ทดสอบแจ้งเตือนภัยและฝึกซ้อมแผนอพยพหลบภัยสึนามิ ปี 2553 พบหอเตือนภัยเสียงสัญญาณไม่ดังใน 3 จุด ทั้งในตำบลไม้ฝาด และตำบลเกาะลิบง

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 13 กันยายน 2553 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการทดสอบการแจ้งเตือนภัย และฝึกซ้อมแผนอพยพหลบภัยคลื่นยักษ์สึนามิของจังหวัดตรัง ณ บริเวณสวนสนหาดสำราญ หมู่ 5 ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ โดยมีการสมมุติเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 8.5 ริกเตอร์ จากเกาะสุมาตรา ซึ่งศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ได้เปิดสัญญาณเตือนภัย และใช้ 5 ภาษา คือ ไทย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และเยอรมัน เพื่อเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยใช้เวลาฝึกซ้อมประมาณ 45 นาที ทั้งนี้ เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น นักเรียน นักท่องเที่ยว และประชาชน ต่างแยกย้ายกันหลบหนีขึ้นฝั่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และเร่งอพยพไปยังที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ ทางจังหวัดตรัง ได้มีการทดสอบเสียงสัญญาณหอเตือนภัยทั้งหมด 25 จุด ทั้งบนบก และทะเล อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่า มีหอเตือนภัยใน 3 จุด ที่เสียงสัญญาณไม่ทำงาน หรือไม่มีเสียงดัง คือ จุดที่มัสยิดบ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จุดที่บริเวณชายหาดปากเมง หมู่ที่ 4 ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา และจุดที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวใกล้ท่าเทียบเรือหาดปากเมง หมู่ที่ 4 ตำบลไม้ฝาด โดยหอเตือนภัยทั้ง 3 จุดดังกล่าว แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะได้พยายามทดสอบซ้ำหลายรอบก็ไม่เป็นผล จึงได้รายงานให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป

นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางจังหวัดพอใจในการทดสอบการแจ้งเตือนภัย และฝึกซ้อมแผนอพยพหลบภัยคลื่นยักษ์สึนามิในระดับหนึ่ง เพราะถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะชาวบ้านอย่าเพิ่งท้อแท้กับการติดตามรับฟังเสียงสัญญาณ เพราะเหตุการณ์จริงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงขออย่าได้ประมาท สำหรับจังหวัดตรัง ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปลายปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 2 ราย และมีบ้านเรือนในพื้นที่ 4 อำเภอ เสียหายกว่า 200 หลัง รวมมูลค่าประมาณกว่า 200 ล้านบาท

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

พังงา-ชาวบ้านวิ่งหนีจนเป็นลม หลังสัญญาณเตือนภัยสึนามิผิดพลาด​

​

สัญญาณเตือนภัยสึนามิดังขึ้นเองอีก 7 ครั้งหลังซ้อมแผนสึนามิเสร็จสิ้น ทำให้ชาวบ้านต้องวิ่งหนีหลบภัยต่ออีกหลายรอบ บางคนถึงกับเป็นลม ยอมรับเกิดจากความผิดพลาดของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

เกิดความผิดพลาดจากการซ้อมแผนระบบเตือนภัยและซ้อมแผนอพยพหลบภัยสึนามิที่จังหวัดพังงา หลังจากสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นอีกหลายครั้งหลังการซ้อมแผนเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยและใกล้หอสัญญาณเตือนภัยต้องวิ่งหลบหนีไปที่ปลอดภัยอีก 6-7 รอบ ชาวบ้านบางคนทั้งเหนื่อยและเมื่อยล้า บางคนถึงกับเป็นลมล้มจนหน่วยกู้ภัยต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

โดยทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยอมรับว่าเป็นการผิดพลาดของสำนักงานศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทั้งนี้ได้รายงานให้ นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รับทราบ และแจ้งไปยังท้องถิ่นแต่ละแห่งทราบแล้ว

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

หลวงปู่ท่านเป็นอาจารย์ของผมและพวกเราหลายๆท่านในเวบพลังจิตนี้ครับ

ที่จริงท่านทรงอภิญญาและสำเร็จวิชาธาตุ รวมทั้งปรอทสำเร็จ อันทำให้ท่านเจริญอิทธิบาทสี่ มีอายุยืนยาวได้กว่าร้อยปี

มีโอกาสอยากให้ได้ไปกราบท่านกันครับ

ท่านทราบและเมตตาเตรียมเรื่องภัยพิบัติด้วย

 

ลุงคนเชียงใหม่
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2004
ข้อความ: 89
Groans: 1
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 106
ได้รับอนุโมทนา 1,891 ครั้ง ใน 84 โพส
พลังการให้คะแนน: 207


<center>แจ้งนิมิตของผมครับ

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> สวัสดีครับ พี่คณานันท์ครับ

ช่วงนี้ขอทุกคนได้เตรียมตัวรับกับกรรมใหญ่ของประเทศไทย ถึงแม้จะเป็นระลอกแรกๆ
แต่ก็รุนแรงในความรู้สึกของผม
เจ้ากรรมนายเวรที่เคยฆ่าฟันกันมาในหลายภพหลายชาติแล้ว

ภาพในนิมิตนั้น หลากหลายจนไม่อาจ
อธิบายภาพให้เห็นได้หมด ในช่วงสั้นๆ
หวังว่ากรรมที่ผมนำเรื่องมาบอกเล่านั้น
เจ้ากรรมนายเวรเมตตาให้เป็นออโหสิกรรมด้วยเถิด

ขอฝากขอให้เตรียมผู้ที่ปฏิบัติธรรมได้เตรียม
อาหาร น้ำ ที่สามารถอยู่ในบ้านได้ อย่างน้อย 15 วัน
ยารักษาโรค และอาหารเตรียมการกับ ภาวะที่ไร้พลังงานไฟฟ้า เช่นการไม่ใช่อาหารที่พึ่งตู้เย็น
หรือประกอบอาหารจากไฟฟ้าด้วยครับ

เพราะภาพในนิมิตนั้น เพียงไม่กี่วัน
ภาพที่เห็น คือคนหุงหาอาหารจากไฟ
และใช้ไฟป้องกันตัวเอง จากเงามืด
ครับ

ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์
คุ้มครองพี่น้องทุกคนด้วย
และขอให้กำลังใจพี่คณานันท์ ในการสร้างคนที่
เข้าสู่กระแสธรรมต่อไปครับ

วิกรม หลานพระคุณลุง

(ช่วงนี้พระคุณลุงยังจำวัดอยู่ที่จีนตอนใต้อยู่ครับ
ออกพรรษาท่านจะธุดงค์ธิเบตครับ
จะไปกราบพระอรหันต์ องค์ใหม่ที่ธิเบตครับ )

 

พระพุทธเจ้าพระโคดมถือสัจจะ อยู่ในป่าคนเดียว
มีโลกุตตระ เป็นที่พึ่งพารอดพ้นกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** กรรมใกล้ปรากฏแล้วนะ ****

ที่เหลือเป็นเรื่องบุคคล
สัจจะใครทำได้ ก็ก้าวข้ามกรรมไปได้
ใครทำอะไรไว้ ก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ได้ทำลงไป

... "อย่าลืมสัจจะ"....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯประกาศฉ.1 ฝนตกหนักเหนือ-อีสานหวั่นน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 1 ประจำวันที่ 14 กันยายน 2553

เรื่องฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ว่าร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์ ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีกในระยะนี้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮา นักบินนาซาฉลองทวิตครบ 100 รอบ ถ่ายรูป"แสงห้วงอวกาศ"มาให้ชาวโลกได้ชม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ว่า นายดักลาส วีลล็อค ได้ฉลองการทวิตเตอร์ครบ 100 ครั้งของเขา ด้วยการบันทึกภาพแสงในห้วงอากาศ และส่งตรงมายังศูนย์อวกาศนาซา เพื่อให้นำไปโพสต์แพร่ภาพ โดยภาพเหล่านี้ถูกบันทึกที่สถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งอยู่เหนือโลก 240 ไมล์

นายดักลาส ยังได้ส่งข้อความระบุว่า แด่การทวิตครั้งที่ร้อยของบผม แด่ความงดงามทั้งมวลของโลกเรา ผมรู้สึกประหม่าจริงๆ เมื่อผมมีโอกาสได้ดูการเริงระบำของแสงออร่า มันช่างตื่นเต้นยินดีอย่างมาก และว่า ผมหวังว่า มนุษย์จะไม่สูญเสียความรู้สึกสงสัย เพราะนั่นคือมรดกผลักดันให้ชนรุ่นลูกเราเกิดความกระหายที่จะค้นคว้าและสำรวจ

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ นักบินนาซาผู้นี้ ยังได้เคยบันทึกภาพอันตะลึงของเฮอริเคน"เอิร์ล"เมื่อเดือนที่แล้ว และยังทวิตรูปเมืองต่าง ๆ หลายแห่งในยามราตรีด้วย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ชาวฮ่องกงเสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

<HR style="WIDTH: 100%">
วันจันทร์ ที่ 13 ก.ย. 2553
<SCRIPT type=text/javascript>var addthis_config = {data_use_flash: false}</SCRIPT><!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js#username=xa-4b2f440f591a0d23"></SCRIPT> <!-- AddThis Button END -->


ฮ่องกง 13 ก.ย.- สำนักงานสาธารณสุขฮ่องกงแถลงวันนี้ว่า ชายชาวฮ่องกงเสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ นับเป็นรายที่ 2 ในรอบ 2 เดือน

ชายวัย 48 ปีดังกล่าวเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กันยายน โดยผลการตรวจพบว่า ติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหนังเน่า เชื้อดังกล่าวเข้าสู่ผิวหนังจากบาดแผลขนาดเล็กจากนั้นปล่อยพิษทำลายเนื้อและกล้ามเนื้อ สำหรับชายผู้นี้ได้รับบาดเจ็บที่น่องทั้งสองข้างเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 กันยายน ด้วยอาการปวดขาและหายใจหอบ จากนั้นได้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อตัดเนื้อส่วนที่ติดเชื้อ แต่อาการกลับทรุดลงและเสียชีวิตในที่สุด ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน มีหญิงชาวฮ่องกง วัย 68 ปี เสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกัน

ข้อมูลของเมดสเคป ออนไลน์ระบุว่า แต่ละปีทั่วโลกมีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวเพียง 0.4 ต่อประชากร 100,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปี และทางรักษาก็คือการให้ยาปฏิชีวนะ.-สำนักข่าวไทย



<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แท้งแล้ว! แม่อุ้มบุญหลานแฝด “บิน ลาดิน” หลังถูกทำร้ายในซีเรีย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2553 09:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000128202&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=361><TBODY><TR><TD vAlign=top width=361 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไซนา และ อุมัร บิน ลาดิน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เดลิเมล์ - แม่อุ้มบุญชาวอังกฤษแท้งหลานแฝดของ “อุซามะห์ บิน ลาดิน” หลังถูก 2 ชายนิรนามทำร้ายในซีเรีย

ลูอิส พอลลาร์ด วัย 24 ปี จากเมืองบริสตอล แท้งลูกแฝดอายุครรภ์ 10 สัปดาห์ ที่เกิดจากเชื้ออสุจิของ อุมัร บิน ลาดิน บุตรชายของ อุซามะห์ บิน ลาดิน กับ ไซนา ภรรยาชาวอังกฤษวัย 54 ปี ซึ่งมีชื่อเดิมว่า เจน เฟลิกซ์-บราวน์

พอลลาร์ดเดินทางไปซีเรียพร้อมกับไซนา และถูกชาย 2 คนทำร้ายร่างกายขณะเดินจากร้านกาแฟขึ้นมายังที่พักเพียงคนเดียว

ชายทั้งสองตรงเข้าชกพอลลาร์ดจนทรุดลงกับพื้นโดยไม่พูดจา จากนั้นก็วิ่งหนีไปทันที

พอลลาร์ดพยายามพาตนเองกลับมาถึงที่พัก และเมื่อไปพบแพทย์จึงทราบว่าเธอสูญเสียทารกทั้งสองไปแล้ว

พอลลาร์ดกล่าวว่า เธอไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถูกทำร้าย แต่ตัวเธอเป็นที่รู้จักทั้งในอังกฤษและตะวันออกกลาง ในฐานะ “หญิงชาวตะวันตกที่อุ้มท้องหลานของบิน ลาดิน”

หลังถูกทำร้ายร่างกาย พอลลาร์ดไม่ได้แจ้งความต่อตำรวจ และตัดสินใจไม่รับอุ้มท้องให้ครอบครัว บิน ลาดิน อีกต่อไป

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=228><TBODY><TR><TD vAlign=top width=228 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลูอิส พอลลาร์ด วัย 24 ปี แม่อุ้มบุญชาวอังกฤษ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> อย่างไรก็ตาม พอลลาร์ดยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ ไซนา และ อุมัร เกี่ยวข้องกับผู้ก่อก้ารร้ายที่ทั่วโลกต้องการตัว และระบุว่า “ในฐานะแม่อุ้มบุญ ฉันนึกถึงแต่เพียงอนาคตของเด็กเท่านั้นเอง”

“ตอนที่ฉันตกลงอุ้มบุญให้ ฉันคิดว่าฉันกำลังช่วยสามีภรรยาคู่หนึ่งให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์"

“แค่เขาสองคนใช้นามสกุล บิน ลาดิน ไม่ได้แปลว่าเขาทั้งคู่ทำอะไรผิด”

“แต่ตอนนี้พวกเขาแยกทางกันแล้ว ไซนาเป็นแค่หญิงสูงอายุตัวคนเดียวและไม่ได้มีเงินมากมาย ส่วนอุมัรก็กำลังป่วยเป็นโรคจิตเภท”

“เขาทั้งคู่ยังมีไข่และน้ำเชื้อที่จะใช้ทำเด็กหลอดแก้วอีกได้ แต่ไข่ก็อาจจะใช้ไม่ได้อยู่ดี เพราะไซนาอายุมากแล้ว”

พอลลาร์ดซึ่งทำงานเป็นนักเต้นในบาร์เพื่อหาเงินเรียนปริญญาตรีด้านการบัญชีระบุว่า เธอจะรับเป็นแม่อุ้มบุญแก่ครอบครัวอื่นๆต่อไป

ด้าน อุมัร บิน ลาดิน ให้สัมภาษณ์วานนี้ (12) ว่า คงไม่มีโอกาสกลับไปคืนดีกับภรรยาอีก และเมื่อถูกถามถึงการแท้งบุตรของพอลลาร์ด อุมัรยอมรับว่าเป็น “โชคชะตา” ของเขาเอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทนายออสซีแพร่คลิปเผาคัมภีร์รำลึกวินาศกรรมในสหรัฐฯ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2553 14:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000128421&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ทนายความชาวออสเตรเลียเผยแพร่วิดีโอคลิปความยาว 12 นาที ผ่านเว็บไซต์ YouTube ชื่อ "ไบเบิล หรือ อัลกุรอาน คัมภีร์ไหนติดไฟได้ดีกว่า" โดยเป็นภาพตัวเขาฉีกคัมภีร์อัลกุรอาน และไบเบิล และนำมาจุดไฟ เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 9 ของเหตุการณ์วินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

======================================


13 ก.ย. 53

ท่านสมาชิก ( ยาล้างตา) คงอ่านบทความไม่ครบถ้วน เรื่องที่อยู่อาศัย

แนวร่วมที่จะตามไปอยู่ด้วยต้องนำเต็นท์นอนไปกันเอง ส่วนผม(เจ้าของที่ดิน)
จะสร้างบ้านน็อคดาว์นไว้ใช้ดำเนินงานและเผื่อไว้ถ้าผู้สูงอายุรายใดที่แนวร่วม
เป็นห่วงจะให้ขึ้นไปก่อนเพื่อไปปลูกผักสวนครัวก็เข้าไปใช้ก่อนได้ แนวร่วมเก่า
ที่ได้ช่วยเหลืองานอย่างเต็มที่ ผมก็อนุญาตให้สร้างได้(ถ้าจะสร้าง)เป็นกรณี
พิเศษเป็นรายๆไป

ถึงแม้ว่ามีบ้านน็อคดาว์น เต็นท์นอนก็ต้องมีเผื่อไว้ใช้ในยามที่ต้องขึ้นที่สูง
กว่านี้ เมื่อมีคำสั่งให้ขึ้น ตัวผมเองได้ซื้อชนิดนอนได้สามคนไว้สามหลังแล้ว




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

<IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh799 height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh23.html#cb=0&ab=pz-3&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fnewreply.php%3Fdo%3Dnewreply%26p%3D3785860&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4b2f440f591a0d23&ssl=0&sid=4c8f5a41205127e8&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0&ver=250&xck=0&rev=80995&xd=1" width=1 name=_atssh799 frameborder="0"></IFRAME>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แท้งแล้ว! แม่อุ้มบุญหลานแฝด “บิน ลาดิน” หลังถูกทำร้ายในซีเรีย

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2553 09:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000128202&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=361><TBODY><TR><TD vAlign=top width=361 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไซนา และ อุมัร บิน ลาดิน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เดลิเมล์ - แม่อุ้มบุญชาวอังกฤษแท้งหลานแฝดของ “อุซามะห์ บิน ลาดิน” หลังถูก 2 ชายนิรนามทำร้ายในซีเรีย

ลูอิส พอลลาร์ด วัย 24 ปี จากเมืองบริสตอล แท้งลูกแฝดอายุครรภ์ 10 สัปดาห์ ที่เกิดจากเชื้ออสุจิของ อุมัร บิน ลาดิน บุตรชายของ อุซามะห์ บิน ลาดิน กับ ไซนา ภรรยาชาวอังกฤษวัย 54 ปี ซึ่งมีชื่อเดิมว่า เจน เฟลิกซ์-บราวน์

พอลลาร์ดเดินทางไปซีเรียพร้อมกับไซนา และถูกชาย 2 คนทำร้ายร่างกายขณะเดินจากร้านกาแฟขึ้นมายังที่พักเพียงคนเดียว

ชายทั้งสองตรงเข้าชกพอลลาร์ดจนทรุดลงกับพื้นโดยไม่พูดจา จากนั้นก็วิ่งหนีไปทันที

พอลลาร์ดพยายามพาตนเองกลับมาถึงที่พัก และเมื่อไปพบแพทย์จึงทราบว่าเธอสูญเสียทารกทั้งสองไปแล้ว

พอลลาร์ดกล่าวว่า เธอไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถูกทำร้าย แต่ตัวเธอเป็นที่รู้จักทั้งในอังกฤษและตะวันออกกลาง ในฐานะ “หญิงชาวตะวันตกที่อุ้มท้องหลานของบิน ลาดิน”

หลังถูกทำร้ายร่างกาย พอลลาร์ดไม่ได้แจ้งความต่อตำรวจ และตัดสินใจไม่รับอุ้มท้องให้ครอบครัว บิน ลาดิน อีกต่อไป


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=228><TBODY><TR><TD vAlign=top width=228 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลูอิส พอลลาร์ด วัย 24 ปี แม่อุ้มบุญชาวอังกฤษ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อย่างไรก็ตาม พอลลาร์ดยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ ไซนา และ อุมัร เกี่ยวข้องกับผู้ก่อก้ารร้ายที่ทั่วโลกต้องการตัว และระบุว่า “ในฐานะแม่อุ้มบุญ ฉันนึกถึงแต่เพียงอนาคตของเด็กเท่านั้นเอง”

“ตอนที่ฉันตกลงอุ้มบุญให้ ฉันคิดว่าฉันกำลังช่วยสามีภรรยาคู่หนึ่งให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์"

“แค่เขาสองคนใช้นามสกุล บิน ลาดิน ไม่ได้แปลว่าเขาทั้งคู่ทำอะไรผิด”

“แต่ตอนนี้พวกเขาแยกทางกันแล้ว ไซนาเป็นแค่หญิงสูงอายุตัวคนเดียวและไม่ได้มีเงินมากมาย ส่วนอุมัรก็กำลังป่วยเป็นโรคจิตเภท”

“เขาทั้งคู่ยังมีไข่และน้ำเชื้อที่จะใช้ทำเด็กหลอดแก้วอีกได้ แต่ไข่ก็อาจจะใช้ไม่ได้อยู่ดี เพราะไซนาอายุมากแล้ว”

พอลลาร์ดซึ่งทำงานเป็นนักเต้นในบาร์เพื่อหาเงินเรียนปริญญาตรีด้านการบัญชีระบุว่า เธอจะรับเป็นแม่อุ้มบุญแก่ครอบครัวอื่นๆต่อไป

ด้าน อุมัร บิน ลาดิน ให้สัมภาษณ์วานนี้ (12) ว่า คงไม่มีโอกาสกลับไปคืนดีกับภรรยาอีก และเมื่อถูกถามถึงการแท้งบุตรของพอลลาร์ด อุมัรยอมรับว่าเป็น “โชคชะตา” ของเขาเอง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทนายออสซีแพร่คลิปเผาคัมภีร์รำลึกวินาศกรรมในสหรัฐฯ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2553 14:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000128421&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ทนายความชาวออสเตรเลียเผยแพร่วิดีโอคลิปความยาว 12 นาที ผ่านเว็บไซต์ YouTube ชื่อ "ไบเบิล หรือ อัลกุรอาน คัมภีร์ไหนติดไฟได้ดีกว่า" โดยเป็นภาพตัวเขาฉีกคัมภีร์อัลกุรอาน และไบเบิล และนำมาจุดไฟ เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 9 ของเหตุการณ์วินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[/QUOTE]

หวังว่าคงไม่ใช่จุดเริ่มต้นของ สงครามนะครับ

 

ไข้เลือดออกระบาดหนักในรอบ 10 ปี สธ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการณ์​

​

รมว.สาธารณสุข สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการโรคไข้เลือดออกทั่วประเทศ หลังพบการแพร่ระบาดวิกฤตหนัก ผู้ป่วยพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 10 ปี เกือบ 1 แสนคนทั่วประเทศ เสียชีวิตแล้ว 87 คน

การประชุมปฏิบัติการคุมเข้มไข้หวัดใหญ่ 2009 และไข้เลือดออกผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ของกรมควบคุมโรค โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน และมีเครือข่ายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก 14 เขตพื้นที่ทั่วประเทศ ใน 76 จังหวัด ร่วมประชุม

ที่ประชุมได้หยิบยกสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกที่ปีนี้วิกฤตหนัก เนื่องจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงถึง 75,852 คน ถือเป็นผู้ป่วยที่มากที่สุดในรอบ 10 ปี และเชื่อว่าผู้ป่วยจะพุ่งถึง 100,000 คน ในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคนี้แล้วถึง 87 คน

นายแพทย์ไพจิตร วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กลุ่มผู้ป่วยที่พบมากที่สุดจะเป็นนักเรียนพบสูงถึง 34,068 คน รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี พบ 20,865 คน เพื่อแก้ปัญหานี้ นายจุรินทร์ จึงต้องใช้มาตรการเชิงรุก เน้น 4 นโยบายหลัก สั่งทุกจังหวัดดำเนินการทันที ก่อนที่ไทยจะได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่มีปัญหาเรื่องโรคระบาด คือ

1.ให้ทุกจังหวัดควบคุมโรคไข้เลือดออกเป็นนโยบายปฏิบัติเร่งด่วน
2.ให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขโรคไข้เลือดออก
3.ปรับระบบการรายงานของแต่ละจังหวัดให้เกิดความสมบูรณ์ และต้องรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยทุกสัปดาห์
4.ทุกจังหวัดต้องร่วมมือกันกับหน่วยการปกครองท้องถิ่น ค้นหาผู้ป่วยในระดับชุมชนให้เข้ารับการรักษาเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้เชื้อไข้เลือดออกยังคงเป็นไวรัสเดงกี่ ที่ยังไม่พบการกลายพันธุ์ แต่ยุงมีการพัฒนาตนเองขึ้นในการนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายคนทำให้ติดง่าย และรวดเร็ว

นายจุรินทร์ ยังขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ช่วยประชาสัมพันธ์ข่าว และกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวด้วยการลงมือปฏิบัติการป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างจริงจัง ทั้งการกำจัดลูกน้ำ ยุงลาย และการคว่ำกะโหลก กะลา ที่อยู่ในบ้าน รวมไปถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ปลอดโปร่ง มีแสงสว่างส่องถึงจะสามารถป้องกันยุงลายได้ในระดับหนึ่ง

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

ส.ส.สมุทรปราการ ป่วยเป็นโรคหวัด 2009 กลายพันธุ์ ​

​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 จ.สมุทรปราการ ล้มป่วยด้วยโรคไข้หวัด 2009

พักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง 2501 ชั้น 5 อาคาร 2 โรงพยาบาลศิครินทร์ แขวงและเขตบางนา กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบ นางอรุณลักษณ์ นอนซมรักษาตัวอยู่บนเตียง โดยมีสายออกซิเจนเสียบคาอยู่ที่จมูกในสภาพนอนซม โดยมีนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สามี ได้เข้าเยี่ยมยื่นให้กำลังใจด้วยความเป็นห่วงอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า แพทย์ได้แจ้งว่าตนป่วยเป็นโรคไข้หวัดตามฤดูกาลสายพันธ์ A ซึ่งเป็นโรคที่กลายพันธุ์จากโรคไข้หวัด 2009 โดยได้เข้าพักรักษาตัวหลังจากตนเดินทางกลับจากการประชุมสภาฯเกี่ยวกับงบประมาณเมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยตนมีอาการปวดหัว ต้องกินยาแก้ปวดทุก 3 ชม.แต่อาการก็ไม่ได้ทุเลา จนกระทั่งถึงวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม ตนมีอาการหนักขึ้น ญาติจึงรีบพาตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิครินทร์ ในขณะนี้ญาติที่เดินทางมาเยี่ยมตนก็ได้ล้มป่วยตนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลถึง 7 คน ขณะเดียวกันตนทราบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัด 2009 เข้าพักรักษาตัวอีกจำนวนมาก จนทางโรงพยาบาลไม่มีเตียงให้คนไข้พักรักษา โดยญาติที่ป่วยต้องมานอนรวมกันกับห้องตนถึง 2 คน

“ขอฝากเตือนให้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการที่เข้มงวดในการที่จะป้องกันโรคไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ควรจะมีการประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริงแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อที่จะหาแนวทางในการป้องกันโรค ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร พยายามปิดกั้นข่าวสาร ในข้อเท็จจริงโรคไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ ยังไม่ได้หายไปไหนยังคงมีอยู่ในเมืองไทย”

มติชนออนไลน์ วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 07:39:11 น.

ที่มา http://www.matichon.co.th

 

คำทำนายจากคัมภีร์ไบเบิ้ล ในปี ค.ศ.2010​

NIBIRU- COMET PLANET- SIGHTED - VISIBLE ​

BIBLE CODE: 2010 (5770) ISRAEL - WAR - IRAN

BIBLE CODE: 2010 (5770) - NIBIRU- COMET PLANET-
SIGHTED- VISIBLE

BIBLE CODE: 2010 (5770) - SWINE FLU- MUTATION - NYC - DALLAS - MARTIAL LAW - MASS DEATH - BANKS SEIZED - WALL STREET CRASH

BIBLE CODE - 2010 (5770) OBAMA ASSASSINATED-
HILLARY PRESIDENT - 2010 - HILLARY WELCOMES
AND ACCEPTS ANTICHRIST 666

BIBLE CODE 2010? (5770) MAY- EBOLA BIO-ATTACK-
PHILADELPHIA - OBAMA - SPEECH- INFECTED - DEAD

BIBLE CODE 2010 (5770)- ANTICHRIST- UFO ARRIVAL- JERUSALEM

BIBLE CODE 2010 (5770)- SEPTEMBER- IRAN - MAJOR EARTHQUAKE

BIBLE CODE 2010 (5770) - WALL STREET - COLLAPSE - CRASH UNDER OBAMA - SECOND YEAR - PANIC

The Bible Code does seem to warn The Biblical Apocalypse will start in 2010 or at least giving the highest probability for the year 2010 (5770 Hebrew Calendar). 2010 (5770) is encoded over 340,000 times vs approx 12,000 times for 2011 (5771) and about 8400 times for 2012 (5772).
In the Parable of the Fig Tree (Matt:24:32) JESUS spoke of a "final generation" of ISRAEL that would go through the Biblical Apocalypse (Tribulation). On 14 MAY 1948, ISRAEL was reborn as a nation. If we adde 70 years + 1948 = 2018 minus seven years for the tribulation = 2011 -2010.

ที่มาBIBLE CODE PREDICTIONS: 2010 - [ แปลหน้านี้ ]

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ญี่ปุ่นประสบภาวะอากาศร้อนจัดในฤดูร้อนปีนี้ โดยหลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศในวันอังคาร (14) มีชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 170 คน เป็นลมแดดเสียชีวิต และอีกกว่า 54,000 คน ต้องถูกนำส่งโรงพยาบาล เพราะอากาศที่ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์

หน่วยงานจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม - 12 กันยายน ที่ผ่านมา มีประชาชน 54,386 คน ซึ่งกว่าครึ่งอายุเกิน 65 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการเป็นลมแดด โดย 1,824 ราย ยังอยู่ในภาวะวิกฤต

หน่วยงานดังกล่าว เผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 170 คน และคาดว่า จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก

ในฤดูร้อนปีนี้ ญี่ปุ่นต้องประสบกับอากาศร้อนจัดที่สุดตั้งแต่ปี 1898 เป็นต้นมา โดยอุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อเดือนสิงหาคม

นักอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงกว่าปกติราว 1.64 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติของปี 1994 ที่อุณหภูมิในฤดูร้อนสูงผิดปกติประมาณ 1.36 องศาเซลเซียส

สหรัฐ"พล่าน"เสนอขายอาวุธมโหฬาร 6 หมื่นล้านด.ให้ซาอุถ่วงดุลอิหร่าน สื่อจวกโอบามาเสียภาพเจ้าของโนเบล

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐมีแผนจะขายอาวุธมโหฬารเป็นมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ซาอุดิอาระเบีย พันธมิตรหลักแห่งตะวันออกกลาง โดยรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัก โอบามา มีแผนจะแจ้งรายละเอียดดังกล่าวต่อรัฐสภาคองเกรสภายในสัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า เมื่อพิจารณาถึงภูมิภาคตะวันออกกลาง ต้องยอมรับว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคนี้ และแผนขายอาวุธให้แก่ซาอุดิอาระเบีย ก็ถือเป็นมาตรการจะที่ตอบโต้รับมือต่ออิหร่าน และปกป้องภูมิภาคตะวันออกกลาง

รายงานระบุว่า สำหรับอาวุธที่เชื่อว่าสหรัฐจะเสนอขายแก่ซาอุดิอาระเบีย ประกอบด้วย เครื่องบินรบเอฟ 15 จำนวน 84 ลำ และชนิดอัพเกรดอีก 70 ลำ เฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ 70 ลำ,แบล๊คฮอลค์ 72 ลำ และลิตเติ้ล เบิร์ด 36 ลำ นอกจากนี้ ยังรวมทั้งขีปนาวุธป้องกันการตรวจจับของเรดาห์จำนวนหลายลูก ระเบิดนำวิถีJDAM ขีปนาวุธ"Hellfire"และอุปกรณ์รบอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ระบุด้วยว่า การขายอาวุธเหล่านี้ให้แก่ซาอุฯ จะสร้างงานจำนวนมากให้แก่ชาวอเมริกันด้วย

รายงานระบุว่า แผนการดังกล่าวถูกคัดค้านจากอิสราเอลและสมาชิกรัฐสภาหลายคนในสภาคองเกรส แต่รัฐบาลสหรัฐคาดว่า ที่สุดแล้วรัฐสภาจะยอมรับผ่านการขายอาวุธล็อตใหญ่ และอิสราเอลจะยอมรับด้วย อย่างไรก็ตาม สื่อตะวันตกบางฉบับได้ออกโรงโจมตีประธานาธิบดีสหรัฐว่า ค้าอาวุธสงครามให้แก่ต่างชาติ ทั้งที่เขาได้รับการเลือกให้เป็นนักพิทักษ์สันติภาพโลก คือ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อปีที่แล้ว


<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=105 align=left>


</TD><TD vAlign=top align=left>วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 13:00:58 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
<CENTER>
</CENTER>
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]หนุ่มทนายออสซี่สุดห่าม ฉีกคัมภีร์"ไบเบิล"-อัล กุรอ่าน"มวนเป็นบุหรี่สูบ [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่า นายอเล็ก สจ๊วต ทนายหนุ่มชาวออสเตรเลีย ได้ก่อเหตุสุดห่ามแพร่คลิปวีดีโอฉีกหน้ากระดาษในพระคัมภีร์ไบเบิล และอัล กุรอ่าน ก่อนมวนเป็นบุหรี่สูบ คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงในยูทิวบ์ มีความยาว 12 นาที มีชื่อเรื่องว่า"ไบเบิล และกุรอ่านอันไหนเผาดีกว่ากัน"และฉากหนึ่ง เขายังได้แสดงพฤติกรรมห่ามกวน โดยอัดบุหรี่อย่างแรง ก่อนจะพ่นออกมา และพูดว่า"ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ"อย่างไรก็ตาม คลิปดังกล่าวขณะนี้ได้ถูกลบออกจากยูทิวบ์แล้ว [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเกิดเหตุภายหลังเกิดเหตุชาวมุสลิมแห่ประท้วงบาทหลวงเทอร์รี่ โจนส์ แห่งรัฐฟลอริด้า ซึ่งวางแผนจะเผาคัมภีร์อัล กุรอ่าน กว่า 200 เล่ม ก่อนจะตัดสินใจยกเลิก หลังเกิดกระแสโลกประท้วงจากนานาชาติและรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่อิหม่ามเจ้าของสถานที่มัสยิดใกล้กราวนด์ ซีโร่ ซึ่งถูกประท้วงแผนการสร้างดังกล่าว ระบุว่า ความพยายามเผาคัมภีร์อัล กุรอ่าน ของบาทหลวงโจนส์ จะยิ่งสร้างสถานการณ์รุนแรงให้เกิดขึ้นกับสหรัฐด้วย [/FONT]


</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=105 align=left>
ราอูล คาสโตร


</TD><TD vAlign=top align=left>วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 12:30:47 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
<CENTER>
</CENTER>
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เศรษฐกิจทรุดหนัก "คิวบา" เล่นบทโหด ประกาศปลดข้าราชการ 1ล้านคน ประเดิมลอตแรก 5 แสนคน ภายใน 6 เดือน [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการคิวบา ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีแผนที่จะปลดเจ้าหน้าที่ของรัฐ "อย่างน้อย" 500,000 คน ภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้ ในขณะเดียวกันกับอนุญาตให้ภาคเอกชนเพิ่มตำแหน่งงานได้ อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าคิวบาอยู่ในขณะนี้[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]โดยแผนการดังกล่าว ซึ่งได้รับการประกาศโดยสื่อของรัฐบาลแห่งหนึ่ง ยืนยันว่าประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ยังคงดำเนินการตามแผนการที่จะปลดเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวน 1 ใน 5 ของจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศ ซึ่งเร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]"ประเทศของเรา ไม่สามารถคงไว้ซึ่งหน่วยงาน ภาคการผลิตและบริการ ในขณะที่ประเทศประสบกับปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นตัวบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดความไม่สร้างสรรค์ สร้างพฤติกรรมที่แย่ และบิดเบือนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่" สหภาพแรงงานของคิวบากล่าว[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ในขณะเดียวกัน นายคาสโตร กล่าวว่า "รัฐบาลตกลงที่จะขยายการฝึกฝนอาชีพด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่อาจต้องออกจากงาน"[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]วิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้าย และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในคิวบา สร้างความวิตกให้กับประชาชนว่า งานที่พวกเขาเคยคิดว่ามีความมั่นคงในรัฐบาลคอมมิวนิสต์นี้ กลับไม่สามารถรับประกันความมั่นคงใดๆได้อีกต่อไป ในขณะทีประชาชนอีกส่วนหนึ่งก็หวังว่าพวกเขาจะมีเสรีภาพเพิ่มขึ้นในการกำหนดราคาสินค้า และมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยที่พวกเขาเคยได้รับจากรัฐอยู่ที่ 20 เหรียญสหรัฐต่อเดือน[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]รัฐบาลในปัจจุบัน ทำการควบคุมเศรษฐกิจในประเทศมากกว่าร้อยละ 90 ตั้งแต่ร้านขายไอศครีมและปั๊มน้ำมัน ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมและห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์ หรือแม้กระทั่งอาชีพดั้งเดิมอย่างช่างไม้ ช่างประปา และช่างซ่อมรองเท้า ก็ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลทั้งสิ้น[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]โดยการประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการแจ้งรายละเอียดที่แน่ชัดว่ามีหน่วยงานใดยังคงสามารถดำเนินการต่อไปได้ หรือหน่วยงานใดจะต้องประสบปัญหาการเลิกจ้าง เพียงแต่กล่าวโดยคร่าวๆเท่านั้นว่าพื้นที่ใดที่ยังคงอยู่ในแผนบ้าง[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ภายในหน่วยงานของรัฐ อาจมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเพิ่มตำแหน่งงานซึ่งจำเป็นต้องมีอยู่ ในพื้นที่ที่มีการใช้แรงงานอยู่เดิม อาทิ การเกษตรกรรม การก่อสร้าง ครู ตำรวจ แรงงานภาคอุตสาหกรรม และอื่นๆ[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เห็นได้ชัดว่าการประกาศครั้งนี้ หลีกเลี่ยงคำว่า "ส่วนบุคคล" แต่กล่าวว่า รูปแบบทางเลือกของการจ้างงานซึ่งได้รับการอนุญาตจะรวมถึงการเช่าและยืมสิ่งอำนวยความสะดวกของรัฐ ความร่วมมือ และการสร้างกิจการของตนเอง และนั่นทำให้แรงงานนับแสน สามารถมีงานทำนอกหน่วยงานของรัฐ ภายใน 2-3 ปีนี้[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]นายราอูล คาสโตร ได้ริเริ่มให้มีการปฏิรูปตลาดเสรีขนาดเล็กมาแล้ว 2-3 ครั้ง นับตั้งแต่เขาได้รับอำนาจการปกครองประเทศจากนายฟิเดล คาสโตร พี่ชายของเขา เมื่อปี 2006[/FONT]


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** หมดเวลาผ่อนผันแล้ว...ยุคมิกสัญญี ****

ตอนนี้หมดยุคไปแล้ว กำลังเข้ายุคใหม่
จึงเกิดเป็นมิกสัญญีขึ้นมา เพราะความชั่วที่มนุษย์ได้ทำลงไป
พระพรหมผู้สร้างโลก ท่านก็ดูอยู่
ถือไม้อยู่อัน ที่นอสตราดามุสพูดถึง ไม้เคาะหัวคน สอนคนได้
ขีดเส้นว่า ประเทศไทยจะเหลือเป็นกลมๆ
เรือวิ่งไปก็ต้องหยุดแถวบางประกง เพราะเขามาเอาสามจังหวัดไป
ทางใต้มาถึงระนอง มีธงปักไว้ เป็นรัฐอิสระ เขมรก็สูงขึ้นมาหน่อย
พม่าก็เอาลึกเข้ามาในตาก เชียงรายก็ขาดหายไป
ประเทศไทยก็ไม่เป็นรูปขวน เหลือเป็นกลมๆลูกตระกร้อ
ศึกนามิไม่เท่าไหร่ ต่อไปจะเกิด ศึกประลัยกัลป์ อีกไม่นาน
คนนี่จะวิ่งลุกเป็นไฟ คลอง แม่น้ำเจ้าพระยา จะไม่มีน้ำสักหยด
ปราสาทราชวังต่างๆ วัดอรุณ สองริมตลิ่ง จะทลายไหลลงแม่น้ำหมด
เจ้าพระยาจะมีแต่ลาวา หินละลายลุกเป็นไฟ ไหลลงทะเล
ตอนนี้ หมดเวลาแล้ว ไม่มีใครผ่อนผันอะไรได้แล้ว
คนที่เหลือรอดไปได้ เป็นคนที่มีสัจจะ
เพราะสัจจะ เป็นเหง้าการกระทำของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ศีล
ศีลพาไปนิพพานไม่ได้ นี่โลกุตตระประกาศไว้
สัจจะเป็นนิยามของการหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๓<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ดีคับเกิดขึ้นหนักๆตายกันเยอะๆโลกจะได้น่าอยู่ขึ้น......

 

15 ก.ย. 53 รายงานข่าวอ้างจากสำนักข่าวต่างประเทศ หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสนามบินเบ๋าตู ในเขตมองโกเลียในทางตอนเหนือของจีน ได้สั่งปิดสนามบินประมาณ 1ชั่วโมง หลังจับเรดาวัตถุบินต้องสงสัยที่ไม่ระบุตัวตนปรากฎอยู่ใกล้ๆ กับสนามบิน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งระงับการลงจอดของ 3เที่ยวบิน และให้ไปลงที่สนามบินใกล้เคียงแทน
เบื้องต้นไม่มีรายงานว่าวัตถุดังกล่าว ปรากฏอยู่ใกล้สนามบินเบ๋าตูเป็นเวลานานเท่าใด โดยที่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานเสี่ยวชานของจีน ก็ต้องประกาศปิดทำการ เนื่องจากมีการพบ “ยูเอฟโอ” มาบินวนเวียนใกล้สนามบินมาแล้ว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งได้เปิดเผย เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เขาคิดว่าอาจจะเป็นเพียง “เครื่องบินรบ” ของกองทัพจีน ที่ทำการฝึกบินในพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้น คงไม่ใช่จานบิน หรือ UFO ตามที่หลายฝ่ายตื่นกลัวแต่อย่างใด

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วุ่นมือมืดขู่บึ้ม..หอไอเฟล ในกรุงปารีสฝรั่งเศส </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตร.ฝรั่งเศสเร่งอพยพผู้คนออกจากหอไอเฟลในกรุงปารีส หลังมีรายงานว่ามีการขู่วางระเบิดหอไอเฟล


วันนี้ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจฝรั่งเศสเร่งอพยพผู้คนออกจากหอไอเฟลในกรุงปารีส และพื้นที่โดยรอบ หลังมีรายงานว่ามีการขู่วางระเบิดหอไอเฟล สำนักข่าวเอเอฟพี และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า มีผู้คนอยู่รอบบริเวณหอไอเฟลกว่า 25,000 คน ในช่วงที่ตำรวจได้ข้อมูลว่าอาจมีการลอบวางระเบิดในช่วง 21.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น จึงได้เร่งอพยพประชาชน

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวฝรั่งเศส ออกนอกพื้นที่ โดยให้ทั้งหมดไปรวมตัวกันบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแซน

และประกาศให้พื้นที่รอบหอไอเฟล รวมถึงสวนสาธารณะฌอมป์ เดอ มาร์ เป็นพื้นที่ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด ตำรวจกรุงปารีสเผยข้อมูลไม่มากนัก ระบุเพียงว่าได้รับข้อมูลจากผู้ไม่หวังดีที่โทรศัพท์มาขู่วางระเบิด รวมถึงมีการพบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ใกล้กับหอไอเฟล


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน19 จว.เสี่ยงน้ำท่วม-ฝนตกหนัก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย 19 จังหวัด ฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน

วันนี้ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน"ฉบับที่ 4 (127/2553) ลงวันที่ 15 กันยายน 2553 ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งต่อไปอีกในระยะนี้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 15 กันยายน 2553 เวลา 08:04 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากท่วมเมืองลับแล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
จ.อุตรดิตถ์ อ่วม น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมเมืองลับแล บ้านเรือนราษฎรกว่า 150 หลัง จมอยู่ใต้น้ำ รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้



วันนี้ (15 ก.ย.) กลางดึกที่ผ่านมา เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 120 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้น้ำป่าซัดฝายโคกกฐิน ที่อยู่บริเวณหลังวัดเจดีย์คีรีวิหาร หมู่ 9 ต.ฝายหลวง พังเสียหาย นอกจากนี้ คลองแม่พร่องยังได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านทุ่งเอี้ยง หมู่ 11 ต.ฝายหลวง ทำให้บ้านเรือราษฎรกว่า 150 หลังคาเรือน จมอยู่ใต้น้ำ คาดว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ น้ำป่าจะไหลเข้าท่วมเขตชุมชนในเขตเทศบาล ต.ศรีพนมมาศ อ.ลับแล ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของ ต.ฝายหลวง

ขณะเดียวกัน ถนนสายอุตรดิตถ์-ลับแล บริเวณเนินหนึ่ง รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เนื่องจากน้ำท่วมถนนสูงกว่า 80 ซม. ผู้สัญจรต้องใช้ถนนสายเลี่ยงเมืองเข้าหมู่บ้านหนองผา ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล ขณะเดียวกัน น้ำป่าได้เริ่มไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวบ้านหนองห้า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อีกด้วย.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>