ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>มวลอากาศเย็นจากจีนเริ่มแผ่ปกคลุมตอนบน ทำอากาศเย็นลง 2-4 องศา ใต้ฝนเพิ่ม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2553 ดังนี้
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศจีนตอนล่างแล้ว คาดว่าจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (25 ต.ค. 53) ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอากาศจะเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรงโดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 ต.ค. 53) เป็นต้นไป ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27 องศา สูงสุด 35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โหรแม่น-ท่วมหนัก เคยเตือน ชี้อีกหนาวขั้นหิมะ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สุดตะลึงเหตุน้ำท่วมใหญ่และมีคนตายจำนวนมาก

สอดคล้องกับคำพยากรณ์ในหนังสือดัง'ศาสตร์แห่งโหร 2553' ซึ่งรวมคำพยากรณ์ของโหรชื่อดังเมืองไทย ตีพิมพ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอย่างมาก โดย'นอสตราดามุสเมืองไทย' โสรัจจะ นวลอยู่ พยากรณ์ได้แม่นยำว่าเดือน ต.ค.จะเกิดน้ำเหนือไหลบ่าเข้าท่วมอีสาน-กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และกรุงเทพฯจะจมใต้น้ำยาวถึงเดือนพ.ย. ห้วงเวลานี้จะเกิดพายุถล่มภาคใต้ เผยเคยเตือนไว้ล่วงหน้าว่าเดือนเม.ย.จะเกิดเหตุนองเลือดครั้งใหญ่ ก็เกิดเรื่องสลายม็อบแดงจริงๆ

นอกจากนี้'นอสตรา ดามุสเมืองไทย'เตือนข้ามไปถึงปี 2554 ช่วงเดือนพ.ค.อาจเกิดสึนามิถล่มไทยรุนแรงกว่าเมื่อปี 2547 และปลายปีกรุงเทพฯจะจมอยู่ใต้บาดาลรุนแรงที่สุด ส่วนอีกโหรคือ'กรหริศ บัวสรวง'ผอ.สถาบันพยากรณ์องค์รวม พยา กรณ์ดวงเมืองปีนี้ว่าการเมืองจะรุนแรง และปีหน้าจะเกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ขึ้นอีก

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดทางภาคกลางและภาคอีสาน รวมถึงกรุงเทพฯในช่วงเวลานี้

ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายว่า สอดคล้องกับคำพยากรณ์ที่โหรหลายคนเคยทำนายไว้ในหนังสือ'ศาสตร์แห่งโหร 2553' ซึ่งตีพิมพ์และจำหน่ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อย่างน่าแปลกใจ โดย'โสรัจจะ นวลอยู่'หมอดูชื่อดัง ฉายา'นอสตราดามุสเมืองไทย'พยากรณ์ดวงเมืองของไทยไว้ในหนังสือศาสตร์แห่งโหร 2553 ว่า เดือนตุลาคม จะเกิดดีเปรสชันผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าไหลบ่าจากภาคเหนือและอีสานมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์เสียหายหนัก มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน

"กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน ต่อเนื่องถึงเดือนพฤศจิกายน ที่จะเกิดภัยธรรมชาติรุนแรง เกิดพายุใต้ฝุ่นถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี เป็นเดือนแห่งความวิปโยคสำหรับคนไทย ขณะที่ในเดือนธันวาคม เขื่อนยักษ์อาจแตก น้ำทะลักท่วมหลายจังหวัด เกิดหิมะตกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นที่ตกตะลึงไปทั่ว"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ โสรัจจะ เคยพยากรณ์ดวงเมืองช่วงเดือนเมษายนไว้ว่า รัฐบาลจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาแตกความสามัคคี

เกิดการปฏิวัติรัฐประหารครั้งใหญ่ เลือดนองไปทั่วแผ่นดิน กรุงเทพฯ ถูกก่อวินาศกรรมเสียหาย มีการตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนต์ จะมีเครื่องบินภายในประเทศตก ซึ่งตรงกับเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้โสรัจจะ ยังทำนายดวงเมืองปี 2554 ไว้ในหนังสือศาสตร์แห่งโหร ฉบับพิเศษ 'รู้ทันดวงกับโหรดัง 2554'

ที่เพิ่งตีพิมพ์ออกวางจำหน่าย ว่าจะเกิดมหันตภัยทางธรรมชาติหนักหน่วงยิ่งกว่าปีนี้ จากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอย่างมาก อากาศจะกลับตาลปัตรที่เคยร้อนกลับหนาว และเมืองหนาวกลับกลายเป็นร้อน เดือนพฤษภาคมปีหน้า จะเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน สร้างความเสียหายมากกว่าเมื่อครั้งปี 2547 ปลายปีเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ จะพัฒนาสามารถแพร่พันธุ์จากสัตว์มาสู่คน ทำ ให้มีผู้เสียชีวิตมาก เกิดอากาศร้อนจัด และหนาวจัดในเดือนเดียวกัน จะเกิดเหตุน้ำท่วมไปทั่วโลกรวมทั้งเมืองไทย และกรุงเทพฯบางส่วนจะจมหายไปกับน้ำ

ด้านการเมืองปัญหาคอร์รัปชั่นทำให้รัฐ บาลมีอันเป็นไป การเมืองของประเทศเกิดความว่างเปล่า

ไม่มีนักการเมืองพรรคใดหลงเหลืออยู่ ระบบพรรคการเมืองสูญสิ้นไปจากประวัติศาสตร์ ผู้เป็นใหญ่ บุคคลสำคัญจักร่วงหล่น ฝูงชนอาจมีการเคลื่อนไหวด้วยการสนับสนุนของผู้มีอำนาจเก่าอย่างเร้นลับ เป็นปีที่ทุกฝ่ายควรสามัคคีกัน อย่าแตกแยก

ด้าน'กรหริศ บัวสรวง'ผู้อำนวยการสถา บันพยากรณ์องค์รวม เคยพยากรณ์ดวงเมือง ปี 53 ไว้ว่า รัฐบาลมีปัญหารุมเร้าเข้าขั้นโคม่า

นักการเมืองถูกฟ้องร้องเป็นคดีความ บุคคลสำคัญทางการเมืองถูกลอบทำร้าย สภาผู้แทนกลายเป็นเวทีแห่งความขัดแย้ง แต่ผู้นำคนเดิมยังบริหารประเทศต่อไปได้ ด้านวง การบันเทิงดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดังจะเสียชื่อเสียง

สถานการณ์ในปี 2554 กรหริศ พยากรณ์ว่า จะเกิดปัญหาด้านผลประโยชน์ในพรรคร่วมรัฐบาล แต่สังคมจะเข้าใจกันมากขึ้น

การแบ่งสีแบ่งฝ่ายลดน้อยลง บ้านเมืองหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ของนักการเมืองบางพรรคที่มีแต่สร้างความเสียหายให้ประเทศ เดือนก.ย.-ต.ค. อาจมีความรุนแรงมีการชุมนุมประท้วง รวมไปถึงความขัดแย้งในวงการทหาร ตำรวจ ด้านดินฟ้าอากาศคนในกรุงเทพฯ บางส่วนจะย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อเลี่ยงน้ำท่วม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอย่างยากที่จะแก้ไข ช่วงปลายปีมีความโศกเศร้าสะเทือนใจ จากการจากไปของบุคคลสำคัญ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>♥ 12 ภาพถ่ายสุดแสนสะเทือนใจ ♥ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>12.Timothy H. O’Sullivan – Battle of Gettysburg

ธีโมธีท์ เอช. โอ ซัลลิแวน – ภาพสมรภูมิ แห่ง เกตติเบิร์ก

ภาพถ่าย นี้ได้แสดงความเหมือนของสมรภูมินองเลือดระหว่าง สมรภูมิแห่ง เกตติเบิร์ค และ สมรภูมิ สงครามกลางเมืองแห่งสหรัฐ
บันทึก ภาพไว้โดย ธีโมธีท์ เอช. โอ ซัลลิแวน ในบันทึกสารคดีแห่งสมรภูมิ ภาพนี้ได้ถ่ายทอดห้วงอารมณ์ที่หลากหลาย และตีแผ่ช่วงเวลา แห่งสงครามกลางเมือง
ให้แก่ผู้ที่ได้เห็นภาพในครั้งแรก หรือผ่านประสบการณ์นั้นมา อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่การแพร่ภาพอย่างกว้างขวาง และภาพนี้ก็ยังเป็นภาพที่ไม่เคยมีการนำเสนอมาก่อน
ภาพถูกทำให้เหมือน การพิมพ์ในสมัยโบราณ แต่ภาพได้แสดงถึงการตายหมู่ของทหารในสมรภูมิ และภาพได้ทำการบันทึกส่วนหนึ่งถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>11.Lawrence Beitler – Lynching

ลอเรนซ์ เบลท์เลอล์ - ศาลเตี้ย
ลอเรนซ์ เบลท์เลอล์ ได้บันทึกภาพนี้ไว้เมื่อ วันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1930
ภาพ แสดงถึงการประชาทัณฑ์ ชอง โธมัส ชิปป์ และ อาร์บ สมิธ มันถูกขายออกไปกว่าพันสำเนา โดย เบลท์เลอล์ ที่ใช้เวลาตลอด 10 วัน 10 คืนในการพิมพ์มันออกมา
ภาพกลายเป็นสัญลักษณ์กล่าวขานสืบเนื่องต่อมา เป็นเวลาหลายปี ถึงความเด่นในแง่มุมของการจดจำ ถึงการถูกประชาทัณฑ์ศาลเตี้ย ซึ่งในเวลานั้น
เหมือนมันเป็นเรื่องที่ เกิดขึ้นได้ประจำวัน ภาพนี้ต้องการแสดงถึงยุคก่อนสงครามกลางเมืองเท่านั้น ภาพแสดงถึงผู้คนพยายามเลี่ยงสายตาจากภาพการลงทัณฑ์ ด้วยอารมณ์อันหลากหลาย ระคนด้วยความโกรธและความสะใจ ภาพนี้ได้รับความนิยม และได้ถูกนำมาเป็นแรงบันดานใจในการเขียนกลอน และแต่งเพลงในช่วงหลายปีต่อมา


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>10.Joe Rosenthal – Raising the Flag on Iwo Jima

โจ โรเซนไทล์ - การอัญเชิญธง ณ อิโวจิม่า
ภาพ อัญเชิญธง ณ อิโวจิมา ถูกบันทึกไว้เมื่อ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 โดย โจ โรเซนไทล์ ได้บันทึกภาพ นาวิกโยธินสหรัฐ และ นาวาอากาศสหรัฐ 5 นาย
ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ทหารเสนารักษ์ กำลังพยายามปักธงบนยอดเขา ซึริบาฉิ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ อิโวจิมา ภาพนี้ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์
ในปีเดียวกัน นอกจากการได้บันทึกช่วงเวลานี้เป็นภาพ แต่ยังเป็นหมายเหตุให้กับสหรัฐด้วย ถึงการจดจำ และการบันทึกภาพเหตุการณ์ในช่วงต่างๆ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>9.Alberto Korda – Che Guevara
อัลเบอโต คอร์ดา - เช กูวารา นายแพทย์นักปฏิวัติ
อัล เบอโต คอร์ดา กับภาพที่โด่งดังภาพหนึ่งในการปฏิวัติ มาร์คซิส ของ เช กูวารา ชื่อ เกอริโลโร ฮิรอยโค่ หรือ ฮีรอย เกอริล่า ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในศตวรรษที่ 20
ซึ่งเป็นอนุสร การระเบิด แห่ง ลา คูบร์ ภาพได้ถูกบันทึกมาร่วม 31 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังนำภาพสัญลักษณ์นี้มาแสดง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด รอยสัก และบนกำแพง
ซึ่ง พบเห็นได้ทั่วโลกถึงความเป็นประวัติศาสตร์ โคร์ดา ตลอดชีวิตคอมมิวนิสต์ และการสนับสนุนกลุ่มการปฏิวัติเพื่อประชาชนคิวบา ภาพแสดงออกถึงการเรียกร้องสิทธิ์
และภาพก็ยังแสดงออกถึงความขัดแย้งซึ่งยังคงมีอยู่ และดำรงอยู่


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>8.Eddie Adams – Nguy?n Ng?c Loan executing Nguy?n V?n Lém
เอ็ดดี้ อดัม

ภาพ สัญลักษณ์ที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 20 และ 21 อีกภาพหนึ่ง ของ เอ็ดดี้ อดัม ช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์ และภาพนี้ด้วยเช่นกัน เอ็ดดี้ อดัม มีชื่อเสียงในการถ่ายภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง
ลงตามสือสิ่งพิมพ์มากมาย มีชีวิตในช่วงสงครามถึง 13 ครั้ง อย่างไรก็ดี ภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็เห็นจะเป็น ภาพในสงครามเวียดนาม อดัม
ได้ ขอขมาต่อผู้คนในบังคับบัญชาของ พันเอก นูเยน และครอบครัวของเขา ถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้น และรางวัลเกียรติยศในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่

*ขยายความ The Photograph That Ended a War But Ruined a Life

"Murder of a Vietcong by Saigon Police Chief"
ไซ่ง่อน, เวียดนาม, โดย Eddie Adams, 1968

"ภาพถ่ายคืออาวุธที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก"

เอ็ดดี้ อดัมส์เคยเขียนประโยคนี้ไว้ และเข้าใจได้ไม่ยาก หากทราบที่มา และที่ไป

ในปี 1968 เอ็ดดี้ ได้ถ่ายรูปตำรวจ ที่จ่อยิงศีรษะของนักโทษเวียดกง ที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่
และภาพนี้ ได้รางวัลพูลิตเซอร์ ในปี 1969

ดูแล้วก็น่าสงสาร รันทดใจ ในชะตากรรมของผู้ตกเป็นเหยื่อ และอดดูถูกนายตำรวจตัวร้าย ผู้ลั่นไกมิได้
และทำให้นายพล Nguyen Ngoc Loan กลายเป็นผู้รายในสายตาชาวโลก และเป็นสัญลักษณ์ของความร้ายกาจ รุนแรง

แต่อย่างที่พอจะเดากันได้ โลกนี้ไม่ใช่มีเฉพาะ ขาว-ดำ, ถูก-ผิด อย่างที่เอ็ดดี้ได้เสนอไว้ในภาพนี้
เบื้องหลังก็คือ ผู้ที่ถูกยิง เป็นหัวหน้าหน่วยล่าสังหาร ของฝ่ายเวียดกง
ที่วันนี้ เพิ่งฆ่าหมู่ชาวบ้านที่ไม่มีอาวุธ และไร้ทางต่อสู้นับสิบคน

ส่วนนายพล Loan ท่านนั้น ก็ได้รับผลกระทบอย่างมากมาย จากภาพนั้น
ถูกไล่ออก โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ก็ปฏิเสธที่จะรักษาท่าน
และเมื่อเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ก็ถูกต่อต้าน และต่อว่า
เปิดร้านอาหารในอเมริกา ก็ต้องถูกบังคับให้ปิด
และมีชีวิตที่ยากลำบาก ตลอดชีวิตที่เหลือ

ในภายหลัง เอ็ดดี้ ได้แถลงขออภัย ต่อนายพล Loan ที่ได้ถ่ายทอดภาพออกมาในลักษณะนั้น

"ท่านนายพลได้สังหารเวียดกงด้วยปืน แต่ผมกลับสังหารท่านด้วยกล้อง"


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>7.Moon Landing
การลงจอดบนดวงจันทร์

ภาพ หนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการกล่าวขาน และการโต้เถียงมากมาย ภาพการลงจอดบนดวงจันทร์ เป็นการประกาศถึงบทสำเร็จทางวิศกรรมของมนุษยชาติ
โดย อีกนัยหนึ่งเป็นการวิพากวิจารณ์ถึงการหลอกลวงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความสงสัยต่อข้อเท็จจริงในภาพถ่าย ซึ่งได้รับการวิจารอย่างกว้างขวางในแง่ของการปลอมแปลงภาพ
ด้วยคำถามว่า ทำไม และ อย่างไร อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาต่างๆ ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริง
และ ความสงสัยก็ขยายออกเป็นวงกว้าง หลายๆ กรณีถูกกล่าวถึงในแง่ภารกิจที่สำเร็จลุล่วง ของมนุษยชาติ ที่สามารถส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
ธงชาติสหรัฐได้ถูกปักลงเพื่อ เป็นเกียรติภูมิแห่งความสำเร็จ และได้ชื่อว่าเป็น ผู้พิชิตอวกาศ และยังคงประกาศถึงมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>6.Richard Drew – The Falling Man
ริชาร์ด ดริว – เดอะ ฟอลลิ่ง แมน

“เด อะ ฟอลลิ่ง แมน” ถูกบันทึกภาพไว้โดย ริชาร์ด ดริว เมื่อเวลาเช้าของวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ณ เวลา 9.41.15 น. เป้นภาพชายคนหนึ่งกำลังร่วงลงมาจากตึก เวิร์ด เทรด เซนเตแอร์ นครนิวยอร์ค
ซึ่งไม่ทราบชื่อชายในภาพ หลายคนลงความเห็นว่า เป็นภาพที่รบกวนจิตใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นภาพที่อกสั่นขวัญแขวนต่อผู้ชม ภาพที่แสดงเหมือนเป็นภาพลวงตา อย่างไรก็ตาม
มีหลายคนวิจารย์ว่าทำไมคนถึงร่วงลงมาในแนวดิ่งแบบนั้น แต่ยังไงภาพนี้ก็เป็นเพียงภาพเดียวจากหลายๆ ภาพของการตกลงมา และภาพนี้ก็อาจเป็นภาพที่เขากำลังตีลังกาขณะร่วงลงมาจากตึกโดยปราศจากการควบ คุมก็เป็นได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>5.Huynh Cong Ut – Napalm Strike

Huynh Cong Ut หรือ Nick Ut ช่างภาพแนว Photojournalism จาก AP
บันทึกภาพการทิ้งระเบิดนาปาล์ม ลงหมู่บ้าน Trang Bang โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศเวียดนาม
ในวันที่ 8 มิถุนายน 1972 เนื่องจากสงสัยว่าจะมีกองกำลังเวียดกง ซุ่มซ่อนอยู่ในหมู่บ้าน
Kim Phuc อายุ 9 ขวบ วิ่งหนีออกจากหมู่บ้านมาตามถนน ในสภาพไม่มีทั้งเสื้อผ้า และเสียขวัญสุดขีด
มาพร้อมกับพี่ชายอายุ 12 ปี ทางซ้ายสุดของภาพ น้องชายอายุห้าขวบที่วิ่งไป พร้อมกันเหลียวมองไปที่หมู่บ้าน
และลูกพี่ลูกน้องอีกสองคนที่จูงมือกันวิ่งมาด้วย

" ...บรรณาธิการ AP ไม่ยอมให้ตีพิมพ์รูปของ Kim Phuc ที่กำลังวิ่งไปบนถนน โดยไม่ใส่เสื้อผ้า
เพราะเป็นภาพที่เห็นด้านหน้าชัดเจน และนโยบายของ AP ในยุคนั้นจะไม่ตีพิมพ์ภาพเปลือย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ และเพศใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพด้านหน้า โดยไม่มีข้อยกเว้น
...การโต้เถียงผ่าน Telex อย่างดุเดือดกับสำนักงานใหญ่ของ AP ที่นิวยอร์ค ให้ยกเว้นกฎระเบียบ
โดยมีข้อตกลงกันว่า จะต้องไม่มีภาพถ่ายใกล้ ของเธอ เผยแพร่ออกไป
Hal Buell บรรณาธิการภาพของ The New York ที่จะนำภาพไปตีพิมพ์ เห็นด้วยว่า
คุณค่าของภาพข่าวนี้ มีเหนือกว่า แนวทางปฏิบัติใดๆ เกี่ยวกับภาพเปลือย"
...Nick Ut...
ภาพนี้ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ในปีนั้น


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>4.Stanley J. Forman – Fire on Marlborough Street
สแตนเลย์ เจ. ฟอร์แมน – ไฟไหม้ที่ถนนมาล์บอรอช

ในวันที่ 22 กรกฏาคม ค.ศ. 1975 สแตนเลย์ เจ. ฟอร์แมน ได้ถ่ายภาพที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมได้ ในขณะเดินทางไปทำงานที่ ฮารอล บอสตัน
เขาคลานข้ามรถดับเพลิงขึ้นมาเพื่อทำข่าวไฟไหม้ที่ถนนมาล์บอรอช
ขณะ ที่คลานเข้ามาใกล้เหตุการณ์ หญิงสาว กับ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ร่วงลงมาจากอพาร์ทเม้นท์ด้านบน หญิงสาวตายสนิททันที แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ รอดชีวิตมาได้
ภาพนี้ทำให้ฟอร์แมนได้รับรางวัลพูลิตเซอร์
และยังสามารถนำภาพนี้ไปใช้ในการออกกฏหมายเกี่ยวกับอัคคีภัยในเมืองบอสตันอีก ด้วย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>3.Tank Man – Jeff Widener
แทงค์ แมน – เจฟ วิเดนเนอร์

หลาย ภาพที่ได้รับการพิจารณา ให้ เป็นภาพแห่งประวัติศาสตร์ คือ ภาพ แทงค์ แมน หรือ กบฏแห่งจลาจล เป็นพฤติกรรมที่กล้าหาญ และ ท้าทายเป็นอย่างมาก
เป็นการถ่ายภาพหน้ากว้าง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ปักกิ่ง ในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1989
ในเหตุการณ์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งการจบสิ้นสงครามเย็น ภาพนี้ยังเป็นภาพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 20 ด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>2.Mike Wells – Uganda
ไมค์ วอลล์ – อูกันด้า

นี่ เป็นตัวอย่างการถ่ายทอดอารมณ์และจิตนาการภาพหนึ่ง ภาพมิชชันนารีกำลังประคองมือของเด็กน้อยชาวอูกันดา ภาพแสดงออกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างมนุษย์ 2 คน ที่ได้รับทรัพยากรที่แตกต่างกัน ระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา ช่างภาพ ไมค์ วอลล์ ถ่ายภาพนี้เพื่อแสดงถึงภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงในทวีปอัฟริกา เขาถ่ายภาพนี้เสนอนิตยสาร โดยไม่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 5 เดือน ทำให้เขาต้องเข้าไปเจรจากำสำนักพิมพ์ด้วยตนเอง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถนำภาพเด็กอดอยากภาพนี้ลงในนิตยสารได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>1.Kevin Carter – Vulture Stalking a Child
เควิน คาร์เตอร์ – นกแร้งกำลังใกล้เข้ามา

ภาพ ที่ดูแล้ว น่าตกใจนี้ เกิดขึ้นกับเด็กน้อยชาวซูดาน ที่กำลังถูกนกแร้งย่องเข้ามาใกล้โดยที่เค้าไม่รู้ตัว มันเป็นภาพที่น่าขนลุกมาก ที่เห็นมนุษย์คนหนึ่งอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น
ที่ ซาหาราน อัฟริกา เควิน คาร์เตอร์ ผู้ถ่ายภาพ ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในภาพนี้ เควิน ได้ใช้เวลาไคร่ครวญอย่างมาก เขาใช้เวลาถึง 20 นาที กว่าจะถ่ายภาพได้ โดยไม่เข้าไปช่วยเด็ก
หลังจากเขาได้ถ่ายภาพนั้น 3 เดือน เค้าตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเขาตามไป รู้ไหมครับว่าทำไม?

* ขยายความ:...ภาพ ต่อมาที่เขาถ่ายนั้นเป็นวินาทีชีวิตของเด็กน้อยผู้หิวโหยหมดแรงฟุบลงผู้ นั้น ที่ถูกนกแร้งจิกตีตายแล้วทึ้งกินเป็นอาหารด้วยความหิวโหย
โดยที่ เขาไม่ได้ขยับเข้าไปช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย ...รางวัลพูลิตเซอร์ที่แลกมาด้วยของชีวิตเด็กน้อย ทำให้เขาไม่สามารถอภัยให้ตัวเองได้เลย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :<~♥เพราะว่ารัก @ I STILL BELIEVE♥~> ( สมาชิกไอดีที่ 126030) โพสเมื่อ [ วันอาทิตย์ ที่ 24 ตุลาคม 2553 เวลา 13:55 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก่อนหน้านี้เล็กน้อยฝันเรื่องน้ำท่วมบ่อยมาก แต่ไม่เข้าใจว่าคืออะไร เพิ่งเข้าใจตอนนี้นี่เอง
แต่เมือคืนนี้ผมฝันถึง ตึกสูงถล่ม มีหลายตึก วิ่งหนีกันอลหม่านทีเดียว ผมแทบเอาตัวไม่รอด อาจจะเกิดจากแผ่นดินไหว หรือแผ่นดินทรุด เมื่อปี2000 ทุกคนกลัวกันมาก แต่อาจารย์ทางจิตวิญญาณผมรับประกันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มาปี2012นี้อาจารย์ให้เตรียมตัวอย่างยิ่งยวด อาจารย์ไม่รับประกันแล้ว มันอาจจะรุนแรงกว่าที่คิดไว้ โดยเฉพาะก๊าซมีเทน ที่สะสมอยู่ใต้ก้อนน้ำแข็งขั้วโลก เมื่อโลกร้อนจะทำให้ก๊าซเหล่านี้กลายเป็นไอ ซึ่งก๊าซจำนวนมหาศาลนี้อาจทำให้คนเสียชีวิตจำนวนมาก และท่านให้ทำสมาธิและกินมังสวิรัตอย่างเคร่งครัด เพราะมีผลต่อความรุนแรงของภัยพิบัติโดยตรง

 

ประโยชน์ของเรือนแพหลังน้อย​

ภาพน้ำท่วมที่จังหวัดนครสวรรค์ เขามีเรือนแพหลังเล็กๆ ด้วยครับ​

คือผมอยากจะให้ท่านที่พอมีงบประมาณและมีพื้นที่ว่าง เจียดเงินซักเล็กน้อยสร้างเก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินก็จะดีมากเลยครับ โดยอาจจะสร้างเฉพาะฐานที่เป็นส่วนลอยน้ำเก็บเอาไว้ก่อนก็ได้ เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2012 เราอาจจะนำส่วนฐานลอยน้ำ มาต่อกันเป็นแพขนาดใหญ่ได้ โดยเฉพาะท่านที่อยู่ในกรุงเทพ ถ้ามีแพลอยน้ำนี้ก็จะได้ใช้ประโยชน์อย่างมากเลยครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อสังเวยอหิวาต์ระบาดหนักใน “เฮติ” พุ่งทะลุ 250 ราย</TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 ตุลาคม 2553 08:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผู้ติดเชื้ออหิวาตกโรคเข้าแถวรอรับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงปอร์โตแปรงซ์​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคที่แพร่ระบาดหนักในจังหวัดอาร์ตีโบนีต ทางภาคเหนือของเฮติ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 250 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้ป่วยที่เสียชีวิตค่อยๆ ลดลง ให้ความหวังว่าสามารถยับยั้งการระบาดของโรคได้แล้ว

กาเบรียล ทิโมเต อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขของเฮติแถลงสถานการณ์การระบาดของอหิวาตกโรค โดยระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดมี 253 คน และผู้ติดเชื้อ 3,115 คน แสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 33 รายในรอบ 24 ชั่วโมง

มาเรีย มิเชเล เรย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเฮติเผยว่า โรคดังกล่าวระบาดอยู่ในขอบเขตจำกัด ที่เมืองอาร์ตีโบนีต และที่ราบสูงตอนกลางเท่านั้น จึงเชื่อว่าผู้รับผิดชอบดูแลในพื้นที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลว่าวิกฤตด้านสาธารณสุขอาจทำให้อหิวาตกโรคระบาดแทรกซึมในหลายพื้นที่ของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งประชาชนอีกหลายแสนคนอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราวสภาพย่ำแย่ หลังต้องไร้ที่อยู่อาศัยจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

องค์การสหประชาชาติยืนยันว่า จนถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้ออหิวาต์ในเมืองหลวงปอร์โตแปรงซ์เพียง 5 ราย และเจ้าหน้าที่สำนักความร่วมมือด้านกิจการความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของยูเอ็นก็เดินทางลงพื้นที่ศูนย์กลางการระบาดในอาร์ตีโบนีตแล้วเช่นกัน

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000150058

 

*** มองไม่เห็นความสำเร็จ ****

อีกกี่วันจะเสร็จ !!!
ความเสี่ยงสูงเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
น่าจะรีบสร้างเมืองหลวงใหม่เป็นที่พึ่งในวันหน้า
สร้างในที่สูง น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงแน่นอน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "


<!-- google_ad_section_end -->

 

อินโดนีเซียประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด หลังภูเขาไฟ “เมราปี” ปะทุลาวา​

​

ภูเขาไฟ “เมราปี” ปะทุลาวาเป็นทางยาวเกือบ 4 กิโลเมตร แถมสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งเกาะเกือบ 500 ครั้ง ทำให้ทางการอินโดฯรีบประกาศเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 25 ต.ค. ทางการอินโดนีเซียประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยสำหรับภูเขาไฟ “เมราปี” ในจังหวัดชวากลางเป็นระดับสีแดงซึ่งเป็นระดับสูงสุด หลังจากที่ภูเขาไฟลูกนี้ซึ่งมีการปะทุบ่อยครั้งที่สุดในประเทศได้พ่นกลุ่มควันหนาทึบมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมพ่นลาวาไหลออกมาเป็นระยะทางยาวเกือบ 4 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินมากถึงเกือบ 500 ครั้ง

รายงานระบุว่า นอกจากปรับระดับเตือนภัยแล้ว ทางการอินโดนีเซียยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอพยพประชาชนราว 40,000 คนออกจากบ้านเรือนในเขตพื้นที่อันตรายในระยะ 10 กิโลเมตรจากปากปล่องของภูเขาไฟที่สูง 2,914 เมตร ซึ่งขณะนี้อพยพไปได้ราว 5,000 คนแล้ว

ด้าน สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติทางธรณีวิทยาและภูเขาไฟวิทยา เตือนว่า ภูเขาไฟ “เมราปี” อาจจะระเบิดครั้งใหญ่ที่มีความรุนแรงกว่าการปะทุเมื่อกลางปี 2549 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนการระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 2473 มีผู้เสียชีวิต 1,370 คน

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.isnhotnews.com

 

บูโรพุทโธ กับ ภูเขาไฟเมราปิ


ในภาพเป็นพระพุทธรูปที่ Borobodur จะมองเห็นภูเขาไฟ Merapi อยู่ในฉากหลัง ​

บูโรพุทโธ (Borobudur) หรือ โบโรบูดูร์ หรือ บูโรบูโด หรือที่ชาวชวาเขียนว่า Barabudur มีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤตโดยคำว่า Bara มาจากคำว่า Biara หมายถึง ‘วิหาร (Vihara)’ หรือ ‘วัด (Temple)’ ส่วนคำว่า Budur หมายถึง ‘ภูเขาสูง (Mountain)’

ในสมัยโบราณ ยามฤดูน้ำหลากมาเยือนก็จะมีน้ำเอ่อนองอยู่รอบบูโรพุทโธ เหมือนกับดอกบัวลอยอยู่ในน้ำจริง ๆ นับเป็นความชาญฉลาดทางด้านสถาปัตยกรรมแห่งยุคที่ปล่อยให้ธรรมชาติเข้ามามีส่วนร่วมอย่างผสมกลมกลืน

นักโบราณคดีเชื่อว่าแนวคิดนี้ได้ถูกจำลองมาจากการสร้างศาสนถานอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่ในที่ราบกว้างใหญ่ระหว่างแม่น้ำคงคาและแม่น้ำยมุนาที่ไหลมาบรรจบกัน โดยบูโรพุทโธตั้งอยู่ในบริเวณที่แม่น้ำปราคาและแม่น้ำอีโลมาบรรจบกันพอดี

การที่บูโรพุทโธได้รับการก่อสร้างขึ้นในเขตชวาตอนกลางนั้นมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีเหตุผลหลายหลากช่วยสนับสนุน แม้ว่าสถานที่ก่อสร้างจะตั้งอยู่ไม่ห่างจากภูเขาไฟเมราปิ (Gunung Merapi) ความสูง 2,911 เมตร ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

ทว่าเถ้าของภูเขาไฟนั้นเอง ได้ช่วยเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผืนดินในแถบที่ราบของชวากลางจนสามารถปลูกข้าวได้ แล้วกลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเกาะนี้ไปในที่สุด นอกจากนี้การก่อสร้างสถาปัตยกรรมขนาดมโหฬารอย่างบูโรพุทโธจำเป็นต้องใช้ก้อนหินนับล้าน ๆ ก้อน

ซึ่งแหล่งที่พอจะหาได้ง่ายที่สุดในชวากลางก็คือการใช้ ‘หินภูเขาไฟ’ ชนิดหนึ่งชื่อ ‘หินแอนดีไซต์ (Andesite)’ นั่นเอง และประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ ชวากลางเป็นศูนย์รวมแห่งศิลปะวัฒนธรรมของเกาะนี้และของอินโดนีเซียมาแต่ยุคโบราณ บูโรพุทโธ จึงตั้งอยู่ ณ ใจกลางแห่งความมั่งคั่งทั้งมวลของแดนอิเหนาเลยก็ว่าได้

แม้ว่าบูโรพุทโธจะยิ่งใหญ่สักปานใด แต่เมื่อศาสนาอิสลามเข้าครอบครองเกาะชวาไว้ได้โดยสมบูรณ์ในศตวรรษที่ 15 ศาสนาสถานแห่งนี้ก็เริ่มถูกละเลย แล้วถูกทิ้งร้างอยู่กลางป่ารกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ผู้คนที่เคยอาศัยอยู่รอบบูโรพุทโธก็พากันย้ายออกไปหาที่ทำกินใหม่ ซ้ำร้ายยังเกิดแผ่นดินไหวและเถ้าถ่านของภูเขาไฟเมาราปิ ปลิวมาทับถมปกคลุมโบราณสถานแห่งนี้เอาไว้

จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 เกิดน้ำท่วมจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ส่วนฐานรากของโบราณสถานแห่งนี้ทรุดตัวตาม จนกระทั่งเซอร์-โทมัส สแตมฟอร์ม แรฟเฟิล (Sir Thomas Stamford Raffles) ผู้สำเร็จราชการอังกฤษประจำเกาะชวา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบูโรพุทโธ จึงเริ่มมีการบูรณะอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1855

ที่มา http://travel.thaiza.com

 

แผ่นดินไหว 7.5 ริกเตอร์ที่อินโดเมื่อสักครู่ น่าจะมีผลต่อเนื่องโดยตรงกับการระเบิดและปะทุของภูเขาไฟเมราปิ

สิ่งนี้บอกเเละเตือนเราว่า เพลทของโลก เริ่มไม่เสถียรขึ้นเรื่อยๆ

 

หากมันปริและร้าวต่อไปนี่ มีผลไปยังอีกหลายจุดเลยครับ เฝ้าระวังต่อไป

 

ทั้งหมดที่เตือนภัย...ก็เพื่อให้เตรียมตัวเตรียมใจ เข้าหาธรรมให้ทัน

สาธุ..สาธุ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“สนธิ”แฉอเมริกันส่งเงินร้อนปั่นหุ้น เตือนแมงเม่าเจ็บตัว-ถึงพันจุดฝรั่งเทขาย </TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 ตุลาคม 2553 22:40 น</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>“สนธิ”เตือนแมงเม่าระวังเล่ห์อเมริกันเทขายหุ้นเมื่อถึง 1 พันจุด ฉวยจังหวะเงินบาทยังแข็ง แลกเป็นดอลลาร์กินกำไร 2 ต่อส่งกลับประเทศ ระบุเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ชิงความมั่งคั่ง โดยไม่ใช้กองทัพ แค่กดคีย์บอร์ดสั่งโอนเงินเข้าออก หลังสหรัฐฯ ประสบวิกฤติหนี้สินท่วมตัว “โอบามา”อัดเงินเข้าระบบ 2 ล้านล้านเหรียญ แต่ไม่เกิดการใช้จ่าย จึงถูกส่งออกไปเก็งกำไรในประเทศที่หลงตามเกม</TD></TR></TBODY></TABLE>
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 22 ต.ค.ถึงสถานการณ์ในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ว่า เป็นภาวะยาพิษเคลือบน้ำตาล เพราะเงินที่นำเข้ามาซื้อขายหุ้นในประเทศไทย เป็นเงินดอลลาร์จากสหรัฐอเมริกาที่ถูกส่งออกมาหากำไรส่งกลับประเทศ หลังจากที่สหรัฐฯ ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน จนรัฐบาลต้องพิมพ์เงินแล้วทุ่มเข้าระบบราว 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า Quantitative Easing (Q.E.) แต่ธนาคารก็ไม่ยอมปล่อยกู้เพราะเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีขึ้นจริง จึงมีการส่งเงินไปให้ลูกค้าที่เล่นหุ้นเก็งกำไรอยู่ต่างประเทศ

นายสนธิ กล่าวต่อว่า เงิน QE ดังกล่าวถูกส่งออกไปยัง 5 ประเทศ คือ บราซิล เกาหลีใต้ จีน รัสเซีย และไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตและรัฐบาลยอมเล่นตามเกมเขา โดยเฉพาะนายกรณ์ จาติกวณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย ที่บ้ายอหลงเชื่อคำชื่นชมของเขา แต่ทำนายได้เลยว่า นักลงทุนต่างชาติจะเริ่มเทขายหุ้นเมื่อถึง 1,000 จุด และมีคนเข้ามาเล่นหุ้นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็จะเอาเงินบาทแลกเป็นดอลลาร์ส่งกลับประเทศ ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ทำให้ได้เงินดอลาร์มากกว่าเดิม เพราะค่าเงินบาทแข็งขึ้น หลังจากนั้นค่าเงินบาทก็จะเริ่มกลับไปสู่ราคาที่แท้จริงที่ 30 กว่าบาท

นายสนธิ กล่าวว่าสหรัฐอเมริกาเป็นหนี้มหาศาล ราว 12 ล้านล้านดอลลาร์ฯ หรือ 360 ล้านล้านบาท เท่ากับงบประมาณประเทศไทย 180 ปี จากการส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายเกินตัวและรัฐบาลในยุคที่ผ่านมาก็ทุ่มเทงบประมาณไปกับการทำสงครามซึ่งไม่ก่อให้เกิดการผลิต จนก่อให้เกิดวิกฤติทางการเงิน บริษัทขนาดใหญ่ประสบปัญหาต้องล้มละลาย แม้นายโอบามาขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี มีการใช้เงินงบประมาณไปอุ้มบริษัทเอกชนรายใหญ่ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น จนต้องมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ แต่จากนโยบายดอกเบี้ยถูกและประชาชนยังไม่จับจ่ายใช้สอย ทำให้เงินถูกส่งออกไปต่างประเทศ

นายสนธิ กล่าวว่า เงินที่เข้ามาเล่นหุ้นในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ถือว่าเป็นเงินร้อน ส่งเข้ามาเพื่อเล่นการพนัน ตนไม่เคยมองว่าตลาดหลักทรัพย์เป็นแหล่งระดมทุน แต่มันคือตลาดเล่นการพนัน และสหรัฐอเมริกาก็ใช้นโยบายส่งออกหนี้ (debt exporting) เป็นการยึดเอาความมั่งคั่งของประเทศอื่นไปเป็นของตนเอง โดยไม่ต้องยกกองทัพมายึด แค่นั่งกดคีย์บอร์ดหน้าจอคอมพิวเตอร์สั่งโอนเงินเข้าออก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่มีการสรีนว่าเงินส่งเข้ามาทำอะไร ปล่อยให้เข้ามาโดยอ้างกลไกตลาดเสรี สิ่งนี้เรียกว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ทำสงครามโดยไม่ต้องใช้กองทัพ

นายสนธิกล่าวอีกว่า เป็นเจตนาของรัฐบาลอมริกาที่พิมพ์เงินแล้วส่งออกมาหลอกแมงเม่าในประเทศเราที่คิดว่าหุ้นกำลังขึ้น เห็นตลาดกำลังคึกคัก ก็ตาลุกวาว เข้ามาเล่นกันเป็นแสนๆ คน แต่ให้ระวังต้นปีหน้าจะมีการขายทิ้ง แมงเม่าเป็นแสนๆ คนคือตัวที่รองรับความเจ้าเล่ห์ของอเมริกา หลังจากเข้ามาซื้อหุ้นในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมารวมแล้ว 6 หมื่นกว่าล้าน เมื่อถึงปลายปีอาจเพิ่มถึง 1 แสนล้าน เมื่อคนเข้ามาเล่นเยอะๆ ดัชนี้ขึ้นสูงๆ ก็จะเทขาย แล้วคนไทยจะเจ็บตัวกันระงม

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000149370

 

*** เริ่มแล้ว ****

คนที่จุดชนวน ... ศึกประลัยกัลป์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"เรือ-ถุงทราย"รีดเลือดคนน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top> คมชัดลึก :หลังเกิดวิกฤติปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมาปริมาณน้ำท่วมขังยังสูง เนื่องจากอยู่ติดริมน้ำและใต้เขื่อน ทำให้การสัญจรที่เคยใช้รถใช้ถนน ต้องปรับเปลี่ยนมาสัญจรทางน้ำด้วยการใช้เรือแทน และหลายครอบครัวต้องการกระสอบทรายเพื่อทำเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม กลับมาพบกับปัญหาซ้ำเติม เมื่อราคาของ เรือ" และ "ทราย" ถีบตัวขึ้นสูงมาก




"คม ชัด ลึก" ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมถึงการฉกฉวยขึ้นราคาของสินค้าที่กำลังเป็นที่ต้องการของท้องตลาด

เมื่อสุ่มสำรวจตรวจสอบร้านขายเรือไฟเบอร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับห้างสรรพสินค้าใหญ่ พบว่า ร้านแห่งนี้จำหน่ายเรือไฟเบอร์อยู่ 3 ขนาด คือ เล็ก กลาง และใหญ่ มีราคาสูงขึ้น อย่างเรือขนาดเล็กนั่งได้ 2 คน เป็นที่นิยมมากที่สุด ปกติราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาท ขยับขึ้นมาตามกระแสน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3,000-3,500 บาท, เรือขนาดกลางจาก 4,000 บาท เป็น 5,500 บาท ขณะที่เรือลำขนาดใหญ่ราคาพุ่งพรวดจาก 5,000 บาท ปรับราคาใหม่ 7,000 บาท



"ตอนนี้เรือไฟเบอร์ในจังหวัดนครราชสีมานั้นไม่มีเหลือขายให้แก่ใครแล้วแม้สักลำเดียว ใครจะซื้อก็ต้องสั่งและต้องรอนานเกือบ 2 สัปดาห์ กว่าของจากโรงงานจะนำมาส่ง ส่วนราคาที่ต้องปรับขึ้นเนื่องจากโรงงานมีการปรับราคา จึงทำให้เราต้องขายในราคาที่สูงขึ้น" ผู้ประกอบการรายหนึ่งให้เหตุผล


ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายนี้ขายเรือได้วันละ 30 ลำ ยังไม่รวมยอดสั่งจอง

โดยยอมรับว่า ยามปกติที่ยังไม่เกิดน้ำท่วมเรือพวกนี้จะขายได้ 3-4 เดือนต่อลำเท่านั้น แต่ตอนนี้สั่งเรือไฟเบอร์เข้ามาเท่าไหร่ก็ขายหมดเกลี้ยง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.สระบุรี จ.พิจิตร นำเรือไฟเบอร์ขนาดเล็กเข้ามาขายให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่ไม่นิยมมาขายให้แก่ผู้ประสบภัยโดยตรง แต่จะเลือกขายส่งให้แก่ร้านขายพลาสติกหรือเรือไฟเบอร์ในจังหวัด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 กว่าร้านแทน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ขณะเดียวกัน "คม ชัด ลึก" สำรวจพื้นที่ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม หลังจากมีข่าวว่าน้ำจะไหลเอ่อล้นมาท่วมพื้นที่นั้น

ชาวบ้านเริ่มซื้อเรือไฟเบอร์และทรายบรรจุกระสอบ เพื่อมาทำแนวกั้นน้ำที่จะเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ก็กำลังประสบปัญหาถูกพ่อค้าฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาเรือไฟเบอร์และทรายบรรจุกระสอบด้วย ซึ่งกลุ่มพ่อค้าเหล่านี้จะนำทรายมากรอกใส่กระสอบนำขึ้นรถกระบะหรือรถบรรทุกเข้าไปขายตามชุมชนต่างๆ ในราคาที่แพงมาก กระสอบละ 60 บาท ทั้งที่ทราย 1 คิว จะซื้อขายอยู่ที่ราคา 200-300 บาท ซึ่งหากนำมาบรรจุใส่กระสอบจะได้ประมาณ 30 กระสอบเลยทีเดียว


ด้านนางสุบงกช วงค์วิชยาภรณ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา

ผู้ประกอบการหลายรายได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และกลุ่มผู้ประกอบการยังปรึกษาหารือกันว่า จะมีมาตรการที่จะควบคุมผู้ประกอบการด้วยกันเอง ขอความร่วมมือไม่ให้ผู้ประกอบการฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าต่างๆ ในภาวะวิกฤติแบบนี้ แต่ก็อาจมีผู้ประกอบการบางกลุ่มฉกฉวยโอกาสจากวิกฤติครั้งนี้


"เชื่อว่าคงเป็นคนกลุ่มเล็กๆ หรือไม่ก็เดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียง เพราะปกติทรายนั้นเราก็ช่วยกันขนไปบริจาคให้เป็นคันรถอยู่แล้ว แต่เราจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งว่ามีกลุ่มไหนเข้ามาหาผลประโยชน์ตอนนี้ หรือหากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขอให้แจ้งเข้ามาที่หอการค้าจังหวัด จะไปดำเนินการหรือเข้าไปจัดการให้" นางสุบงกชกล่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบ 'ยุงลายยักษ์' ตัวใหญ่เท่าเหรียญ 10 บาท</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวบ้านเมืองพิษณุโลกพบ "ยุงลายยักษ์" ตัวใหญ่ขนาดเท่ากับเหรียญ 10 บาท วอนจนท.เข้ามาฉีดพ่นยากำจัดยุง หวั่นเป็นพาหะนำโรค


<!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->
นางสำเนียง แกล้วกสิกิจ อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อคืนเกิดฝนตกหนัก เจอยุงลายยักษ์ โดยยุงตัววดังกล่าวขนาดเท่ากับเหรียญ 10 บาท ปีกใสมีลายจุด ขายาวมีลายขาวดำเป็นปล้อง ๆ เหมือนยุงลาย ส่วนขาช่วงที่เจอยุงพบมีเพียง 3 ขา จึงไม่ทราบว่ายุงลายยักษ์ตัวนี้มีกี่ขาแน่


นางสำเนียง กล่าวว่า ด้วยช่วงนี้ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เกิดฤดูฝนต่อเนื่อง และบริเวณรอบ ๆ บ้านตนเป็นป่าทึบ

เนื่องจากมีการปลูกผักผลไม้ไว้แน่น ทำให้มียุงหลายชนิด และมีขนาดแตกต่างกัน มีตั้งแต่ตัวเล็กจิ๋วเท่าปลายหัวไม้ขีด ล่าสุดพบตัวใหญ่เท่ากับเหรียญ 10 บาท ทำให้รู้สึกกลัวว่าถ้าถูกยุงยักษ์กัดคงเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ ที่สำคัญกลัวว่าอาจเป็นพาหนะนำโรคร้ายได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาฉีดพ่นยากำจัดยุง มาให้ความรู้และหาแนวทางป้องกันโรคจากยุงเป็นพาหนะด้วย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>