เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ฝากข้อความดีๆ ให้เพื่อนๆสมาชิกได้อ่านกันครับ...

ไม่ท้อ ไม่ทุกข์ ...

คนเราทุกคน..
ในช่วงเวลาที่เกิดความทุกข์..
ไม่สบายใจ..สับสน..วุ่นวาย..กับเรื่องราวต่าง ๆ
กับปัญหาต่าง ๆ ที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิต

เพียงมีใคร..คนหนึ่ง..
ที่ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา
อดทนอีกสักนิด..แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น..

แต่ก็มีใครอีกหลาย ๆ คน
พอประสบกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต..
ในรูปแบบแตกต่างกัน..
ก็มักคิดท้อแท้..กลายเป็นท้อถอยไป..
เพียงเพราะไม่มีความอดทน..


ความทุกข์..
มักกลัวคนที่ไม่ยอมแพ้..
ความทุกข์..
มักชอบฝังตัวอยู่กับคนอ่อนแอ..

คนที่ไม่ยอมแพ้
จะเรียนรู้ความทุกข์อย่างเข้าใจ
เพราะคิดว่า..
ความทุกข์ คือ..เพื่อนสนิท..
ที่มาทดลอง..ฝึกให้จิตใจของเราเข้มแข็ง..

แต่สำหรับคนที่ท้อแท้..
เขาจะชอบเรียนรู้..ความสุข..ว่าเป็นอย่างไร
มีลักษณะนิสัยอย่างไร..
พร้อมยินดีที่จะคบหากับความสุขตลอดเวลา..

หารู้ไม่ว่า..
ความสุข..ความสบาย..
คือ..ศัตรูของคนที่ท้อแท้..
เพราะจะให้ความสุขในเบื้องต้น..
แล้วจะให้ความทุกข์ในเบื้องปลาย..

เพราะฉะนั้น..
เราจงมาเรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับความสุข-ความทุกข์
ในทุก ๆ เวลาที่เกิดความท้อแท้..กันดีกว่า..

เพื่อนสนิท..
ของคนที่ไม่ท้อแท้..คือ..ความทุกข์
ส่วนเพื่อนจอมปลอม..
ของคนที่ท้อแท้..คือ..ความสุข..

เพราะอะไร ??

เหตุผล..เพราะว่า..
เวลาที่เรามีความสุข..
เราก็มักจะเพลิดเพลิน..หลงใหล..ไปกับความสุข
พอเจอความทุกข์..ก็รู้ไม่เท่าทัน..

แต่สำหรับคนที่ไม่ท้อแท้..
ไม่ว่าจะเจอความทุกข์ในรูปแบบใด
เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้..และอยู่กับมันได้อย่างเข้าใจ..

รู้สุข – รู้ทุกข์
แล้วปล่อยวาง..ไม่ยึดติดในสุข – ทุกข์
เรียนรู้และเข้าใจทั้งสุขและทุกข์

นั่นแหละ..
เราจึงจะเข้าใจถึงความรู้สึกที่ปราศจากสุขและทุกข์
คือ..วาง..ว่างเปล่า..นั่นเอง..

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง หลวงปู่บุญศรีครับ

ติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆ สนุก และได้ความรู้ครับ

 

ครับ ไม่ลืมประเด็นครับ

เรื่องการดูพระกริ่ง โค้ด ผมเป็นตอกเองส่วนใหญ่ นอกนั้นพระที่วัดตอก จะเปิดเผยตอนเขียนถึง แต่ยังไม่น่าจะมีปลอม น่ะครับ ถึงจะปลอมผมก็ว่าไม่มีทางเหมือน พระกริ่ง พระชัยแพโบถส์น้ำมีเอกลักษณ์ของท่านครับ

 

กราบ กราบ กราบหลวงปู่บุญศรีครับ ไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ เคยได้ยินเรื่องราวของท่านจากป้าอี๊ด ก็นับถือท่าน พอได้อ่านเรื่องราวที่คุณพี เสาวภาได้ลงไว้ในกระทู้เก่าๆเกี่ยวกับท่านก็ยิ่งนับถือท่านขึ้นไปอีก ตอนนี้ขอขอบคุณคุณพี ครับที่ได้เล่าเรื่องของท่านเพิ่มขึ้นทำให้รู้สึกใกล้ชิดท่านมากขึ้นไปเรื่อยๆครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง
กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี
คุณลุงพีเคยเปิดประเด็น เรื่องเหรียญเต่าเนื้อแร่ของหลวงปู่บุญศรี
ความอยากก็เลยบังเกิด ตอนนี้ก็รออย่างใจจดจ่อว่าเมื่ิอไรคุณลุงจะมาเล่าให้ฟัง
ตอนนี้ก็แอบโทรไปบูชากับคุณป้าอี๊ด ไว้หนึ่งเหรียญ รู้สึกว่าพระเครื่องของหลวงปู่บุญศรี ที่ป้าอี๊ดยังพอมีอยู่บ้าง ผมเองก็ยังติดวัตถุมงคลอยู่ เลิกไม่ได้เสียที อ่านกระทู้ไหนก็ดีไปเสียหมด สรุปก็คือว่ายังไม่มีหลักยึด แต่ที่ได้มีโอกาสได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่ท่านยังทรงขันธ์อยู่ คือหลวงปู่ละมัย ซึ่งพอได้ไปกราบท่านทำให้เข้าใจว่า การบูชาวัตถุมงคลใดๆ ให้เกิดผลเป็นความเจริญของเรา ต้องประกอบไปด้วยความศัทธาที่เรามีต่อครูบาอาจารย์ ที่ท่านทำวัตถุมงคลนั้นๆ ยิ่งถ้ามีโอกาสได้ไกล้ชิดรับใช้ท่าน และสิ่งที่ท่านทำให้เราเห็น เป็นสิ่งดีงามยิ่งจะทำให้ศัทธาของเรามั้นคง

 

กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง และ หลวงปู่อั๊บ ค่ะ

ติดตามอ่านเงียบๆนะคะ...

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี และหลวงพ่อทรงครับ

 

ถวายความเคารพหลวงปู่บุญศรี หลวงปู่ทรง
เจริญพร คุณโยมเสาวภา อาตมาภาพขอบคุณมากที่ว่าได้ถามคุณโยมไว้คืออาตมาเดินไปพญาไม้วงเวียนเล็กแล้วเจอเหรีญเต่าของหลวงปู่ทรงเลยสนใจถามคนที่ให้เช่าพระต่อท่านเลยบอกว่ามีเหรียญบินรุ่นแรกของหลวงปู่เขาเลยบอกว่ามี วันหลังเขาบอกให้หลวงพี่มาดูอีกนะครับแต่อาตมาไม่ชัดเจนในส่วนนี้เลยมาขอความรู้จากคุณโยม

 

ครับ สำนักคุณแม่ปทุม นับได้ว่าเป็นสายตรงของหลวงปู่พระครูบุญศรีเลยครับ ผมจะเล่าไปเรื่อยๆตามที่เจอมาก็แล้วกันน่ะครับ

 

ชอบวัตถุมงคลยังดีกว่าไปชอบวัตถุไม่มงคลอย่างอื่นน่ะครับ

ส่วนสะสมก็อย่าไปอยากมาก เอาตามกำลังครับ

 

เหรียญบินรูปหลวงพ่อ มีปลอมมานานแล้วน่ะครับ มีมาตั้งแต่หลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่

ท่านลองขอเขาแห่ก่อนได้ไหมครับ ได้แล้วถ่ายรูปมาดูกัน มีปัญหาขอคืนได้น่ะครับ ให้ตกลงกันก่อนซื้อ

 

คอมผมพอจะเข้าที่แล้ว ตั้งแต่ล้างเครื่อง ปล้ำมา สองวัน...แหะๆ

 

ขอบคุณข้อคิดนี้ครับ กำลังทำงานก็ต้องเก็บเงินไว้ยามฉุกเฉิน เก็บพอหายอยากก็พอครับ อิอิ

 

คอมยังมีปัญหา สงสัยต้องยกไปหาหมอคอม...แหะๆ

 

ครับผม ขอบคุณครับที่เตือนสติ บางที่ก็เพลินเหมือนกันครับ มารู้ตัวอีกทีกระเป๋าแบนเสียแล้ว 555555

 

หลวงปู่กับลูกศิษย์ต่างชาติ<O</O
<O</O
เรื่องนี้ยาวมาก มีหลายตอน และผมจะไม่แจงเชื้อชาติ เพราะบางเรื่องที่จะเปิดเผย มันไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ครับ
<O</O
ในระยะเวลาก่อนผมมาพบหลวงปู่ ผมทำงานบริษัทฝรั่ง ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๒ ในช่วงนั้นผมเป็นลูกค้าซื้อของกับบริษัทต่างชาติ หลายบริษัท ที่จริงบริษัท น่ะเป็น ผมเป็นลูกจ้างเขาก็คอยควบคุมการซื้ออุปกรณ์ บางประเภท ทำให้ผมรู้จัก นาย จ สนิทสนมกันดี เพราะเป็นคู่ค้ากัน มีอุปนิสัยคล้ายกันคือชอบ พระเครื่อง นาย จ แม้จะเป็นต่างชาติ แต่นับถิอพระพุทธศาสนา ชอบเรื่องเครื่องรางของขลัง และเคยมาบวชเป็นพระแถวๆ สุพรรณบุรีด้วย รู้จักพวกเกจิฯเก่งๆ ไปหามาแทบจะทั่วเมืองไทย สะสมเครื่องรางของขลัง ทั้งเก่าและใหม่ เพียบ <O</O
<O</O
จนผมมาพบ หลวงปู่ น่าจะแถวๆ พ.ศ. ๒๕๓๘/๓๙ จำได้ว่าก่อนลูกสาวผมเกิดในปี ๒๕๓๙ ตอนนั้นนาย จ ยังไม่รู้จักหลวงปู่ เพราะผมไม่ได้โฆษณาใคร เจตนาตอนนั้นกำลังจับตาดูหลวงปู่อยู่ด้วย จนผมแน่ใจผมก็ฝากตัวเป็นศิษย์ จัดว่าเป็นอาจารย์คนแรกของผมที่มีการขึ้นครู ผมจะแยกเล่าน่ะครับ <O</O
<O</O
จนกระทั่ง ครั้งหนึ่ง นาย จ มีปัญหาครับ ปัญหาใหญ่ซ่ะด้วย คือว่าบ้านเมืองนาย จ บ้านที่อยู่ราคาแพง พวกชาวบ้านธรรมดาจะไม่มีกำลัง ก็จะเช่าบ้านการเคหะ ของรัฐบาลอยู่ แทบทุกคน นาย จ ก็เหมือนกัน ทีนี้นาย จ ก็ตามวิถีชีวิตสามัญชน ก็ไปแต่งงานกับสาว ประเทศเดียวกัน พอแต่งงานกันก็อยู่ด้วยกัน นาย จ ก็ย้ายไปอยู่บ้าน เมีย ทีนี้ตามหลักการ เมื่อไปอยู่บ้านเมีย ตัวเองต้องคืนบ้านเดิมให้ กับการเคหะ ต้องแจ้งคืน เขาจะได้เอาไปคนอื่นเช่าต่อ แต่ไม่เป็นแบบนั้น นาย จ ดัน ไม่แจ้งออกครับ เอาบ้านตัวเองไปให้เขาเช่าต่อ ฟันเงินอีกต่อ...แหะๆ อยู่มาหลายปี ไม่มีปัญหาใดๆ ผู้เช่ารายใหม่ดันเอาบ้านไปทำที่ค้าขาย แทนที่จะเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาคงมีคนไปแจ้ง ตำรวจเลยมาจับผู้เช่า เรื่องก็เลยแดง สาวมาถึงผู้ให้เช่า ตำรวจก็มาลากนาย จ ไปโรงพักด้วย มีเรื่องมีราวกัน นาย จ เดือดร้อนมาก หาทางออกไม่ได้ มาปรึกษาผม ( คือ เขาบินไปๆมาๆ ระหว่างเมืองไทยบ่อย ) ผมก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะมันเกี่ยวกับกฎหมายบ้านเขา ถ้าเป็นบ้านเรา ผมอาจจะหาทนาย ดีๆให้ ช่วยดูทีมแข็งๆ เป็นความกัน<O</O
<O</O
ผมก็เลยบอก นาย จ ว่า ไปหา อาจารย์ผมไหมเผื่อท่านจะช่วยอะไรได้ ให้นาย จ นำหมายเอกสารของตำรวจไปด้วย ถ่ายเอกสารมาชุดหนึ่ง นาย จ มีความเชื่อเลี่อมใสแบบนี้อยู่แล้ว ก็ โอเค แล้วพอวันเสาร์ผมกับนาย จ ก็บึ่งรถไปหาหลวงปู่ แต่เช้า ไปถึงท่านก็สายแล้วแหละครับ ตัดขั้นตอนตามมารยาทออกไป ผมก็ให้เขาเรื่องเล่าให้หลวงปู่ฟัง นาย จ ก็ อธิบาย เขาพูดไทยได้นิดหน่อย ผมคอยเสริม และอธิบายหลวงปู่ ให้ท่านเข้าใจ เล่าให้ฟังแบบตรงๆตั้งแต่ต้น ผมบอกนาย จ ว่าอย่าไปกั้ก ให้ท่านด่าก็ทนเอา หลวงปู่นั่งฟังนิ่งๆ ตามนิสัยของท่าน ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ตาคอยมองที่ นาย จ และผมสังเกตว่า ท่านเมตตานาย จ มากพอสมควร และ ในอนาคต นาย จ ก็เป็นศิษย์คนพิเศษ คนหนึ่ง หลวงปู่จะเมตตาศิษย์ต่างชาติคนนี้มาก ขนาดลงตะกรุด แล้วม้วนเองให้อย่างดี หลายดอก ผมยังไปไถนาย จ มาดอกหนึ่ง...แหะๆ

ผมก็กราบเรียนถามหลวงปู่ว่า พอจะช่วยได้ไหมครับ ท่านรับเอกสารมา เห็นเป็นภาษาอังกฤษ ท่านก็ชี้บางประโยคให้ผมดู แปลให้ผมฟังเสร็จ...แหะๆ ว่าคำนี้แปลว่าอย่างนี้น่ะ คำโน้นแปลว่าอย่างนี้น่ะ ขอโทษ ท่านเคยเจอพระหลวงตาบ้านนอก อยู่ในป่าดง เป็นแบบนี้ไหมครับ ผมก็อึ้งได้แต่ฟัง และถูกของท่านครับ<O</O
<O</O
ท่านรับเอกสารแล้ว บอกว่าแบบนี้ต้องนั่งเทียน ( คือตอนกลางคืนท่านจะจุดเทียนเพ่ง ) จะเอาให้ลืมเลยไหม ผมฟังยังอึ้ง มองหน้าหลวงปู่ ท่านก็ยิ้มๆ และไม่เห็นแววว่าท่านพูดเล่นหรือคุยโม้โอ้อวดอย่างใด และก็มีแค่นั้นจริงๆ ไม่มีอะไร วิริศมาหรา ทำให้นาย จ กังวล เพราะไม่เห็นมีพิธีอะไร และยังไม่รู้จักหลวงปู่ดีด้วย ตอนขากลับผมก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าเอ็งก็ทำไปตามเกม สวดมนต์ไหว้พระนึกถึงหลวงปู่ก็แล้วกัน ขากลับท่านแจกพระและสีผึ้งตามฟอร์ม<O</O
<O</O
ผมจะไม่เล่ายาว หลังจากตำรวจเรียก นาย จ ไปคุยที่โรงพัก ครั้งแรก เรื่องก็เงียบไปเลยครับ สองปี ไม่เรียกมาอีกเลย ซึ่งแปลกมากสำหรับตำรวจเมืองนี้ เพราะกิติศัพท์โด่งดังว่าท่านเฮียบและตงฉินเป็นอย่างมาก เขี่ยบุหรี่ข้างถนน ท่านเจอ หรือ กล้องเจอยังตามไปจับถึงโรงแรมเอามาปรับ เข้าห้องน้ำ ไม่กดน้ำล้าง มีคนแจ้ง ท่านก็ตามไปจับมาปรับครับ เรื่องนี้เรื่องจริงน่ะครับ เหตุการณ์ก็ผ่านไปจนนิ่งไปแล้ว นึกว่าไม่มีอะไร จากการที่นึกว่าตำรวจจะตามมาจับ ปรับ ขัง หรือมีคดีความอะไรตามกฎหมายก็ว่ากันไป แต่ไม่มีอะไรเลยครับ เงียบกริบ สองปีครับ สองปีนั้น นาย จ ก็ไปมาหาสู่หลวงปู่จนสนิทสนม และเป็นกำลังสำคัญของหลวงปู่คนหนึ่งทีเดียว<O</O
<O</O
เหตุการณ์ยังไม่จบน่ะครับ<O</O

 

ตำรวจเมืองนี้เค้าเฮี๊ยบครับ ผมก็รู้จักอยู่คนหนึ่งมาทำงานให้ ห้อยพระเป็นพวงเลยครับ

ที่สำคัญศรัทธาแรงเลี่ยมทองทุกองค์ เล่นเอาไทยแท้ๆอย่างผมอายไปเลยครับ แหะๆๆ

 

พรุ่งนี้มาต่อน่ะครับ คอมผมมีปัญหาอีกนิดหน่อย

 

พี่พีเล่นเปิดซะหมดหน้าตักเลยนะครับ ถ้างั้นขออนุญาตพี่พีเล่าความเป็นมาของหลวงพี่ผม เมื่อประมาณปี2539หลวงพี่ผมไปวัดหลวงปู่บุญศรีโดยการนำของแม่ชีปทุม เมื่อไปถึงวัดได้กราบหลวงปู่ หลวงปู่ชวนหลวงพี่ผมบวชเลย หลวงพี่ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานก็บวชกับหลวงปู่บุญศรี แล้วอยู่กับหลวงปู่จนหลวงปู่มรณะภาพ เอาย่อๆก่อนนะครับ เรื่องปราฏิหารย์และประสบการณ์ต่างๆผมจะมาเล่าให้ฟังทีหลังครับ กราบ กราบ กราบหลวงปู่บุญศรี และหลวงพ่อทรง

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี ครับ

เรื่องที่พี่พีเล่า ทำให้ผมเคารพ และ เชื่อมั่นในพระเครื่องของหลวงปู่มากครับ และก็ได้ผลด้วย แหะๆ เงียบกริบ