ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ทั่วประเทศไทยฝนลดลงเหลือเพียง10-30% </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ทั่วประเทศไทยฝนลดลงเหลือเพียง10-30%ของพื้นที่ อุณภูมิสูงขึ้น จ.ระนอง ตรัง และสตูล มีคลื่นสูง


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย วันนี้(7ก.ค.)มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อยลงในระยะนี้

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>จ.สตูล เตือนประชาชนรับมือหมอกควันไฟ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    จ.สตูล เตือนประชาชนรับมืออันตรายจากหมอกควันไฟไหม้บนเกาะบอร์เนียว-เกาะสุมาตรา ปกคลุมพื้นที่


    วันนี้ (6 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดสถานการณ์มีหมอกควันปกคลุมไปทั่วพื้นที่ จ.สตูล เป็นเหตุทำให้เกิดทัศนะวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ยวดยานบนถนน สายยนตรการกำธรสตูล-รัตภูมิ ที่เป็นถนนสายเชื่อมต่อกับ จ.สงขลา และบนถนนสายบ้านฉลุง-ละงู-ทุ่งหว้า-ตรัง ซึ่งเป็นถนนสายเอกออกสู่ไปต่างหวัด อย่างค่อนข้างที่จะเสี่ยงต่อการเกิดภัยอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีปัญหาอุปสรรคกับทัศนะวิสัยการมองเห็นต่ำ

    นายอนุ ชาติประสิทธิ์ ทำหน้าที่รักษาการแทน ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล กล่าวว่า สถานการณ์หมอกควันนั้น ทางสำนักงานฯ ได้ทำการประสานไปที่กรมควบคุมมลพิษฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบหมอกควันที่เข้ามาปกคลุมในพื้นที่จังหวัดสตูลแล้ว ซึ่งกรมมลพิษฯ ได้แจ้งกลับมายังสำนักงานฯ แล้วว่า จากการที่กรมควบคุมมลพิษฯ ได้ตรวจสอบพบว่า หมอกควันมีการเพิ่มสูง มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน พบว่า มีแนวโน้มฝุ่นละอองสูงขึ้น ซึ่งระหว่างวันที่ 5-6 ก.ค.254 หมอกควันมีค่า PM-10 และในเวลา 09.00 น.วันเดียวกันนี้ มีค่าอยู่ที่ 53.6 และ 46.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง กำหนดไว้ต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากไฟไหม้บนเกาะสุมาตรา และเกาะบอร์เนียว ของประเทศอินโดนีเซีย ที่มีแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้น

    นายอนุ กล่าวว่า ทางสำนักงานฯ ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์หมอกควันดังกล่าว สำหรับมาตรการแนวทางให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลตนเอง ต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ คือ ให้นำผ้ามาชุบน้ำพอหมาด ๆ ปิดจมูก และปาก ในกรณีที่อยู่ในบริเวณมีหมอกควันหนาทึบ และปิดหน้าต่าง ประตู ไม่ให้หมอกควันเข้าบ้าน ไม่อยู่ในบริเวณที่มีหมอกควันปกคลุม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก คนชรา ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด โรคหัวใจ โรคปอด ควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน รวมทั้งผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ดังกล่าว ควรเตรียมยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้พร้อม

    นอกจากนั้น ควรงดสูบบุหรี่ และควรดื่มน้ำมาก ๆ บ่อย ๆ ในช่วงมีฝุ่นละอองรบกวน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และการทำงานหนักที่ออกแรงมาก ๆ ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองหมอกควันหนาทึบ ฝนตกควรงดการรองรับน้ำฝนไว้ใช้ และการบริโภค แต่หากมีความจำเป็นจะต้องรองรับน้ำฝน ควรปล่อยให้ฝนตกลงมาผ่านไปก่อน 1 ชั่วโมง ก่อนรองรับน้ำไว้ได้ ที่สำคัญจะต้องติดตามฟังข่าวสารข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

    ทั้งนี้ หากประชาชน หรือผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ดังกล่าว มีอาการผิดปกติหลังจากสูดดมฝุ่นละอองหมอกควัน ขอรีบไปพบแพทย์อย่างฉับพลันทันด่วนด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานฯ จะคอยติดตามเรื่องดังกล่าวนี้อย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิดตลอดเวลา จนกว่าหมอกควันจะหายไป นายอนุ กล่าว.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>พบไวรัสหวัดนกกลายพันธุ์ที่อินโดฯ หวั่นระบาดเหมือนหวัดใหญ่ 2009 </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า

    สถานการณ์ของโรคอุบัติใหม่อย่างโรคไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 ทั่วโลกพบผู้ป่วยในจำนวนที่ใกล้เคียงกับจำนวนผู้ป่วยตลอดปี 2553 ซึ่งมีการศึกษาพบว่าหมูที่ติดเชื้อเอช 5 เอ็น 1 แต่ไม่มีการแสดงอาการของโรค แสดงว่าไวรัสชนิดนี้สามารถปรับตัวอยู่ได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับในสัตว์ปีก ซึ่งเมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา มีรายงานของประเทศอินโดนีเซียว่าสัตว์ปีกที่ติดเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 รอดชีวิตถึงร้อยละ 70 จากเดิมที่ตายทั้งหมด จึงน่าเชื่อได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1
    “การที่สัตว์ปีกติดเชื้อไวรัสนี้แล้วรอดชีวิตจากที่เดิมจะตายทั้งหมดนั้น อาจกล่าวได้ว่าเชื้อไวรัสหวัดนกเริ่มกลายพันธุ์บ้างแล้วในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเท่ากับเชื้อไวรัสจะสามารถแพร่เชื้อได้มากขึ้น อาจทำให้มีการระบาดของโรคไข้หวัดนกเหมือนการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งเดิมที่โรคไข้หวัดนกจะเป็นโรคของคนในชนบท ส่วนโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นโรคของคนเมือง หากไข้หวัดนกปรับตัวกลายเป็นโรคของคนเมืองเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคือหายนะ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง” รศ.(พิเศษ) นพ.ทวีกล่าว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2011
  2. Soul Collector

    Soul Collector เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    503
    ค่าพลัง:
    +610
    น่าสงสารคุณแมงกระพรุนครับ พวกเขาอยู่ในทะเลดีๆมนุษย์ก็ดันสูบน้ำทะเลมาเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้ากัน แล้วอย่างนี้อีกหน่อยก็คงไม่มีสัตว์น้ำทะเลอยู่ได้อีกหรอกครับ
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG] ฮุนเซน

    ยืนยันจะยอมรับผลการเลือกตั้ง หลังถูกฝ่ายค้านเรียกร้องให้ดู อภิสิทธิ์ เป็นตัวอย่าง
    7 ก.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า จะละทิ้งอำนาจอย่างสงบ หาก พรรคประชาชนกัมพูชา ภายใต้การนำของตน พ่ายแพ้การเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้น ในวันที่ 28 กรกฎาคม ปี 2556
    ทั้งนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ พรรคสมรังสี ที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ ฮุนเซน ดูตัวอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตผู้นำรัฐบาลไทย ที่ยอมรับความพ่ายแพ้ จากผลของการเลือกตั้งอย่างสง่างาม และลาออกจากตำแหน่ง อย่างสงบ
    ดังนั้น ฮุนเซน จึงให้คำมั่นว่า หากตนพ่ายแพ้การเลือกตั้งจริง ก็จะประกาศยอมรับผลการเลือกตั้ง และผลักดันให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีโดยด่วนจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมจะส่งผ่านตำแหน่ง ในฐานะ นายกรัฐมนตรี และส่งต่อการดำเนินงานให้กับ รัฐมนตรีชุดใหม่ทุก ๆ คน
    อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุนเซน ครองอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชามานานกว่า 20 ปี โดยเคยพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับ พรรคฟุนซินเปค เมื่อปี 2536 จากการเข้ามาจัดการเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชา ซึ่งองค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา หรือ UNTAC แต่ สมเด็จฮุนเซน กลับปฏิเสธความพ่ายแพ้ และไม่ยอมก้าวลงจากอำนาจ ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงรวมเป็นพันธมิตรกับพรรคฟุนชินเปค ในปี 2537


    Mthai News


    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

    Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว ชายชราวัย 61 ปี ประดิษฐ์เก้าอี้ไฟฟ้า เพื่อใช้ฆ่าภรรยาตัวเองที่อยู่กินกันมานาน 18 ปี เพราะเธอขอหย่า
    โดยนายแอนดริว แคสเทิล วัย 61 ปี และนางมากาเร็ต เป็นสามีภรรยาที่เพื่อนบ้านต่างชื่นชมในความรักของทั้งคู่ แต่เมื่อไม่นานมานี้นางมากาเร็ตรู้สึกว่าถูกนายแอนดริวควบคุมมากเกินไปจึงตัดสินใจขอหย่า แต่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแบบต่างคนต่างอยู่
    ต่อมา นายแอนดริวได้ประดิษฐ์เก้าอี้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟถึง 230 โวลต์ แล้วนำไปไว้ที่โรงรถ ก่อนออกอุบายขอคุยเรื่องหย่า และพาเธอไปนั่งที่เก้าอี้ดังกล่าว เขาได้บอกความจริงว่าเขาจะฆ่าเธอ และคว้ากระบองยางยาว 12 นิ้วมาล็อคตัวเธอไว้ มากาเร็ตพยายามวิ่งหนี เขาไล่ตามและใช้กระบอกยางตีที่ศีรษะของเธอ เธอคว้าบันไดพับหวี่ยงไปที่เขา แล้ววิ่งหนีออกไปได้ โดยมีเพื่อนบ้านผ่านมาเห็นเข้าจึงรีบแจ้งตำรวจ หลังจากนั้น แอนดริวจึงพยายามฆ่าตัวตายด้วยเก้าอี้ตัวกล่าว และเอามีดฟันข้อมือตัวเอง ก่อนจะถูกตำรวจจับ
    ทั้งนี้ มากาเร็ตรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังนั้นทันที ส่วนแอนดริวถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ข้อหาพยายามฆ่าคน
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    [​IMG]
    นายแอนดริว แคสเทิล
    [​IMG]
    บ้านที่้เกิดเหตุ



    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
    Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าแพทย์เมืองจีนผ่าตัดพบพยาธิยาว 23 ซม. ในสมองของหญิงสาวคนหนึ่ง
    โดยสาวชาวจีนซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ป่วยเป็นโรคลมบ้าหมู เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว (2010) แต่เมื่อตรวจเลือดกลับพบว่าเธอติดเชื้อในกระแสเลือด และจากการตรวจคบคลื่นสมอง (CT Scan) ก็พบว่ามีจุดบางอย่างอยู่ในสมองของเธอ
    เวลาผ่านไปครึ่งปี เมื่อเธอเกิดอาการลมชักจนทนไม่ไหว จึงขอเข้ารับการผ่าตัด แต่ในขณะผ่าตัด แพทย์พบเชื้อโรคชนิดหนึ่ง ทำให้แพทย์เข้าใจว่า มันคือสาเหตุของอาการลมบ้าหมู
    แต่ในที่สุดแพทย์ก็พบพยาธิซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นยาวถึง 23 ซม. อยู่ในสมอง ซึ่งทำให้แพทย์มั่นใจว่ามันคือสาเหตุที่แท้จริงของเชื้อโรคที่พบและสาเหตุที่ทำให้เธอมีอาการของโรคลมบ้าหมู
    ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า พยาธิเหล่านี้อาจเข้าไปในร่างกายของเธอผ่านทางอาหารที่มีไข่ของพยาธิอยู่ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนดังกล่าว
    Mthai News



    [​IMG]
    เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ เปิดเผยคลิปพายุฝุ่น เคลื่อนเข้ากลืนเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ เปิดเผยว่า พายุฝุ่นดังกล่าว มีขนาดกว้าง 60 ไมล์ สูง 10,000 ฟุต ความเร็วลม 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นพายุฝุ่นขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคลื่อนผ่านพื้นที่นี้
    ทั้งนี้ พายุลูกนี้ได้พัดโค่นต้น เสาไฟฟ้าหักโค่นระเนระนาด และทำให้เที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่เมืองฟีนิกซ์ ต้องเลื่อนกำหนดการบินออกไปก่อน
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย[​IMG]
    <IFRAME height=225 src="http://player.vimeo.com/video/26045314?title=0&byline=0&portrait=0" frameBorder=0 width=400></IFRAME>


    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=560 height=349>
























    <embed width="560" height="349" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/RLGCmnX_yH4?version=3&hl=en_US&rel=0" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"/></OBJECT></P>[​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : กลืนสหรัฐ, พายุฝุ่น
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์ที่นิวซีแลนด์

    [​IMG]

    เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่วัดได้ 7.6 ริกเตอร์นอกชายฝั่งนิวซีแลนด์ แต่ก็ยกเลิกคำเตือนสึนามิไปแล้ว

    แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 7.03 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีจุดศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งทางเหนือของนิวซีแลนด์ ห่างจากเกาะราาอูลไปทางตะวันออก 163 กิโลเมตรและห่างจากเกาะตองก้าไปทางใต้ 913 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ทะเล 20 กิโลเมตร หลังเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์เตือนภัยสึนามิประจำภาคพื้นแปซิฟิคได้ออกประกาศเตือนสึนามิใน 3 พื้นที่ได้แก่ เกาะคเอร์มาเดค,ตองก้าและนิวซีแลนด์ หลังจากตรวจพบการก่อตัวของคลื่นยักษ์ในทะเล แต่ต่อมาก็ยกเลิกคำเตือน

    รายงานของศูนย์เตือนภัยสึนามิระบุว่า มีสึนามิสูง 1 เมตรพัดขึ้นฝั่งที่เกาะราอูล แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย อย่างไรก็ตามแม้ตจะยกเลิกคำเตือนสึนามิแล้ว แต่กระทรวงจัดการฉุกเฉินและป้องกันพลเรือนนิวซีแลนด์เผยว่า นิวซีแลนด์ยังคงเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งด้านเหนือของประเทศ พร้อมออกคำเตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากชายหาดและชาวเรืองดกิจกรรมบริเวณปากแม่น้ำ

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    หิมะตกในเขตทะเลทรายชิลี

    [​IMG]

    สภาพอากาศแปรปรวนที่ชิลี คลื่นความเย็นที่พัดผ่านขณะนี้ทำให้เกิดหิมะตกในเขตทะเลทรายอะตากาม่า พื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดในโลก

    ศูนย์ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของชิลีเผยว่า ในบางพื้นที่เพิ่งเกิดหิมะเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หิมะท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร การจราจรกลายเป็นอัมพาต ถนนหลายสายปิดและรถยนต์จำนวนมากต้องจอดทิ้งไว้ตามทาง ผู้โดยสารบางคนต้องติดค้างอยู่ในรถท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัดนานถึง 48 ชั่วโมง และต้องอยู่อย่างหิวโหยไม่มีอาหาร

    ขณะที่ในเมืองหลวงที่กรุงซานติอาโก้ อุณหภูมิลดลงไปถึงติดลบ 8.5 องศาเซลเซียสเมื่อวานนี้ ขณะที่ประเทศอื่นๆในละตินอเมริกา ทั้งอุรุกวัยและอาร์เจนติน่า ก็ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวเย็นเฉียบพลันด้วย

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    จีน..ตั้งโครงการปลูกผักกินเอง

    [​IMG]

    จีนส่งเสริมให้ประชาชนหันมาปลูกผักกินเอง ตามโครงการสวนระเบียงกินได้ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ในการปลูกพืชซึ่งใช้พื้นที่น้อยมาเปิดตัวที่กรุงปักกิ่ง

    นิทรรศการพืชสวนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ได้นำสวนระเบียงกินได้ ซึ่งมีความสวยงามและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาเผยแพร่ให้ชาวปักกิ่งทดลองปลูกกัน

    โดยสวนตัวอย่างที่มีการสาธิตในงานนี้ ใช้วิธีปลูกผักในกระถาง ซึ่งติดตั้งบนท่อขนาดใหญ่ 4 ท่อเพื่อประหยัดเนื้อที่ สามารถนำมาติดที่ระเบียง หรือริมหน้าต่างขนาดเล็กได้เลย นอกจากนี้ยังใช้ระบบรดน้ำอัตโนมัติ ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา โดยระบบจะตรวจวัดความชื้นในดินก่อน จากนั้นจึงกำหนดปริมาณน้ำที่เหมาะสม ทำให้ประหยัดน้ำได้มาก และยังสามารถนำน้ำที่ใช้แล้ว อย่างเช่น น้ำล้างผัก หรือน้ำซาวข้าวมาหมุนเวียนใช้กับระบบนี้ได้อีกด้วย ส่วนผักที่เหมาะปลูกด้วยวิธีนี้ก็คือผักสลัด ซึ่งปกติจะใช้เวลาปลูกประมาณ 30 วันก็สามารถเก็บกินได้แล้ว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1310018013.jpg
      1310018013.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.7 KB
      เปิดดู:
      2,533
    • 1310017853.jpg
      1310017853.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.6 KB
      เปิดดู:
      3,196
    • 1310004575.jpg
      1310004575.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.3 KB
      เปิดดู:
      2,619
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ศูนย์เตือนภัยฯ เตรียมแจกคู่มือเตือนภัยพิบัติทั่วประเทศ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>7 กรกฎาคม 2554 17:11 น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้จัดทำคู่มือเตือนภัยพิบัติธรรมชาติทุกประเภท ทั้งสึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม ภัยแล้ง ไฟป่า และพายุ เพื่อแจกจ่ายฟรีให้กับประชาชนทั่วประเทศ

    โดยจัดทำเป็นคู่มือแบบขนาดพกพาและแบบติดผนังคล้ายปฏิทินตามบ้านเรือน องค์กรและหน่วยงานสำคัญต่างๆ ที่มีประชาชนไปรวมตัวจำนวนมาก ภายในคู่มือจะบรรจุความรู้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติทุกประเภท ทั้งลักษณะของภัยธรรมชาติ แนวทางการเตรียมตัวรับมือและการเอาตัวรอด พร้อมหมายเลขของหน่วยงานต่างๆ เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือและให้ประชาชนสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งหลังจัดทำแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ระยะแรกจะแจกจ่ายไปยังพื้นที่ที่เข้าข่ายเสี่ยงภัยประเภทต่างๆ ก่อนจะกระจายให้ครบทุกครัวเรือนทั่วประเทศ ด้วยบริการจัดส่งฟรีของไปรษณีย์ไทย

    นอกจากนี้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติยังฝากเตือนประชาชนที่อาศัยตามที่ลาดเชิงเขาให้ระวังน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะจังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ในระยะนี้ และจังหวัดในพื้นที่ใกล้แม่น้ำโขง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000083569
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "สงครามระหว่างดวงดาว"
    (บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    <!--MsgIDBody=3-->ปฏิบัติการมหาโหด

    สิ่งที่ปรากฏให้เห็นครั้งแรก ก็คงจะเป็นในลักษณะของดาวบริวารหรือดาวเทียมนั่นเอง วงโคจรของมันอยู่ในระดับต่ำและดูคล้ายกับตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น

    “... ความน่ากลัวของพระเจ้าและความสง่างามแห่งอำนาจของพระองค์ เมื่อพระองค์ขึ้นมากระตุ้นให้โลกตื่นกลัว” (ไอเสยะ 2.19)

    มันคงจะต้องเจิดจ้าเสียจนกระทั่ง “ดับรัศมีของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จนมืดมิด ดวงดาวทั้งหลายทั้งมวลก็หยุดส่องประกาย” (โจเอล 2.10)

    “และเมื่อนั้นก็ไม่ต้องการดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ส่องสว่าง เพราะว่าพระรัศมีของพระเป็นเจ้าได้ให้แสงสว่างแก่มัน” (วิวรณ์ 21.23)

    ก็เห็นจะไม่ผิดว่านั่นคือดวงอาทิตย์ของโจชัว และยานอวกาศมหาวินาศก็โผล่ออกมาจากมันด้วย เจเรไมอะบรรยายไว้อย่างน่าทึ่งว่า

    “คำตรัสของพระเป็นเจ้ามาถึงข้าเป็นหนที่สองว่า
    “เจ้ามองเห็นอะไร?

    “กระทะ” ข้าตอบ

    “บนกองไฟแดงฉานมีลมพัด มันถูกทำให้เอียงห่างออกทางทิศเหนือ” ” (เจเรไมอะ 1.13)

    ท่ามกลางกลุ่มควันก็มีฝูงตั๊กแตนบินออกมามากมาย “ตั๊กแตนนั้นมีรูปร่างเหมือนม้า ที่ผูกเครื่องพร้อมสำหรับออกศึก

    ... มันมีทับทรวงเหมือนทับทรวงเหล็ก เสียงปีกมันเหมือนเสียงม้าและรถศึกวิ่งตะลุยเข้าสู่สนามรบ (วิวรณ์ 9.7-9)

    “การมาของพวกเขา เหมือนกองทัพม้า พวกเขาพุ่งเข้าใส่เหนือยอดเขา” (โจเอล 2.4-5)

    กองทัพภาคพื้นอากาศของยะโฮวาห์มีจำนวนมากมายมหาศาล “และพลทหารม้าของพวกเขา ข้าได้ยินมาว่า นับได้ 200 ล้าน” (วิวรณ์ 9.16)

    ตัวยานอวกาศก็ติดอาวุธร้ายแรง “มันมีหางเหมือนแมงป่องและหางนั้นมีเหล็กไน มีอำนาจทำลายล้างมนุษยชาติ” (วิวรณ์ 9.10)

    “ ... และมีไฟ ควันและกำมะถันพลุ่งออกจากปากของมัน” (วิวรณ์ 9.17)

    เหตุการณ์ถัดจากนี้ไปผมจะให้ไอเสยะเป็นผู้บรรยาย

    “พระเป็นเจ้ากำลังเสด็จมาพร้อมกับพระเพลิง กองรถศึกของพระองค์เหมือนกับพายุหมุน เข้าจู่โจมจุดหมายสำคัญด้วยความพิโรธและด้วยเปลวไฟแห่งคำตำหนิ พระองค์จะตัดสินด้วยไฟ พระเพลิงจะทดสอบมนุษย์ทุกชีวิต และพวกเขาจะถูกพระองค์สังหารมากมายก่ายกอง” (ไอเสยะ 66.15-16)

    เขาจะโจมตี “จนกระทั่งประเทศต่าง ๆ พินาศสิ้น บ้านเรือนจะถูกทิ้งไว้ว่างเปล่า ปราศจากผู้คน แผ่นดินจะรกร้างว่างเปล่า จนกระทั่งพระเป็นเจ้าส่งมนุษย์ไปหมดแล้ว และทั้งเมืองกลายเป็นสถานที่โดดเดี่ยวกว้างขวางเพียงผืนเดียว ถึงแม้ประชาชนยังคงเหลืออยู่หนึ่งในสิบ พวกเขาก็จะถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น” (ไอเสยะ 6.11-13)

    “ ... ทุกหนทุกแห่ง ไม่อาจรอดพ้นจากภยันตรายและความมืดมิด” (ไอเสยะ 8.22)

    “จงระวังพระเป็นเจ้าจะทำให้ทั้งโลกว่างเปล่า แผ่นดินจะแยกและคว่ำปฐพี ... โลกจะถูกกวาดล้างจนสะอาดสะอ้านหมดจด ... ผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกจะลดน้อยลง เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ... มันจะเป็นดังนี้ทั่วทั้งโลก ทุกชาติทุกภาษา ประหนึ่งต้นโลอีฟถูกเก็บผลจนโกร๋น ประหนึ่งฤดูการทำเหล้าองุ่นได้สิ้นสุดลงแล้ว ... โลกจะหมุนไปมาเหมือนคนเมาเหล้า” (ไอเสยะ 24.1-20)

    นั่นไม่ใช่ความพินาศ ซึ่งเกิดจากการระเบิดชนิดที่ร้ายแรงหรอกหรือ?

    ฝูง “ตั๊กแตน” ของพระเป็นเจ้ากำลังปฏิบัติงานของมัน

    “เมื่อพระองค์แกะดวงตราที่หกแล้วนั้น ข้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ดวงอาทิตย์ก็กลับมืดดำดุจผ้ากระสอบขอสัตว์ ดวงจันทร์วันเพ็ญกลายเป็นสีเลือด ดวงดาวทั้งหลายบนท้องฟ้าจะร่วงลงสู่พื้นแผ่นดิน เหมือนกับต้นมะเดื่อถูกลมพายุพัดจนที่ยังไม่ทันสุกหล่นหมดท้องฟ้าก็หายไป เหมือนหนังสือที่ถูกม้วนเก็บไว้ ภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม” (วิวรณ์ 63.12-14) เหล่ามนุษย์ผู้เคราะห์ร้ายพูดว่าอย่างไรหรือ?”

    ... พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า “จงล้มทับเราเถิด และจงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่ง” (วิวรณ์ 6.16)

    คำพยากรณ์ดังกล่าว ต่อเนื่องกันไปเป็นเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ โฉมหน้าของยะโฮวาห์ หรือยานอวกาศอันน่าสะพรึงกลัว ก็คือเครื่องมือแห่งการทำลายล้างและความตาย อานุภาพอันร้อนแรงมหาศาลของมันมีมากจนกระทั่ง มีผลต่อการโคจรหมุนเวียนของโลก และทำให้ท้องฟ้าถึงกับม้วนวนต่อหน้าต่อตาคนที่ยังสามารถลืมตาและมีสติพอที่จะสังเกตดูมันได้ ผมอยากจะชี้ให้เห็นดังเรื่องที่เคยกล่าวมาแล้วว่า การป้องกันตัวเองจากการแผ่รังสีนั้น ก็เป็นวิธีเดียวกันกับที่ใช้ในสมัยของโมเสสนั้นเอง นั่นคือการซ่อนอยู่ระหว่างหินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่จะใหญ่ได้ (“ภูเขาและโขดหิน”)

    การโคจรของโลกคงจะถูกเร่งให้หมุนเร็วขึ้น ...

    “และกลางวันก็ไม่สว่างเสียหนึ่งในสามส่วน และกลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน” ( วิวรณ์ 8.12)

    แล้วดาวประกายเจิดจ้าดวงที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และทำให้น้ำในแม่น้ำลำธารตลอดจนบ่อน้ำทั้งหลายนั่นละเป็นตัวอะไร?

    “ชื่อของดวงดาวนั้นคือบอระเพ็ด” (วิวรณ์ 8.11)

    สำหรับนักวิจารณ์ผู้นิยมข้อเท็จจริง ทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่า ข้อความตอนนั้นหมายถึงลูกอุกาบาต หรือสะเก็ดดาวที่ตกลงมา แต่ใครเคยได้ยินบ้างล่ะว่าสะเก็ดดาวตกทำให้น้ำเป็นพิษถึงกับ “คนจำนวนมากมายมหาศาลต้องตายเพราะมัน?” มันควรจะเป็นอาวุธอย่างเดียวที่นำมาใช้เพื่อการนี้มากกว่า

    คราวนี้จะไม่มีใครเหลือรอดชีวิตอยู่ได้ (ยกเว้นชาวยิว) เพราะพวกที่หนีจากอัคคีภัย อุทกภัย ลูกปืน และการแผ่รังสีได้ ก็จะต้องอดน้ำตายกันหมดเหมือนกัน

    ไอเสยะเตือนเราว่า มันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและปัจจุบันทันด่วน

    เยซูเองก็เรียกร้องให้เราสนใจมหันตภัย อันจะบังเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดเช่นกัน !!

    ท่านผู้อ่านอาจแปลกใจที่ผมอ้างถึง เยซูกับศาสดาพยากรณ์คนอื่น ๆ ในพระคัมภีร์ฉบับเก่าในเรื่องเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองก็เป็นชาวยิว แม้ต่างคนต่างได้ตั้งศาสนาใหม่โดยมีมูลฐานแตกต่างจากลัทธิจูดาอิสซึม พวกเขาก็ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับเจ้านายผู้มาจากอวกาศอยู่เช่นเดิม เยซูได้ร่วมประกาศการกลับมาของพระเจ้าครั้งยิ่งใหญ่ว่า

    “... เวลานั้นให้ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูดายหนีไปยังภูเขา ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าหลังคาตึกอย่าให้ลงมา เก็บข้าวของออกจากตึกของตน ผู้ที่อยู่ตามทุ่งนาให้กลับไปเอาเสื้อผ้าของตน” (แม็ทธิว 24.16-18)

    อันนี้ทำให้เรานึกไปถึงคำแนะนำที่ล็อทและครอบครัวของเขาได้รับเมื่อครั้งกระโน้นว่า พวกเขาจะต้องหนีไปโดยรีบด่วน และห้ามหันหลังมองเป็นอันขาด มิฉะนั้นจะต้องตายทันที

    แต่คราวนี่จะไม่มีที่หลบซ่อนภัยพิบัติต่อไปอีกแล้ว เพราะนอกจากมนุษย์จะถูกทำลายล้าง ด้วยความพินาศดังวิธีการต่าง ๆ เหล่านั้นยังมีสงครามเชื้อโรคผนวกเข้าไปอีกด้วย ...

    “และโรคระบาดก็จะบังเกิดผลดังนี้ เนื้อของพวกเขาจะเน่าเปื่อยทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่ ตาก็จะเน่าอยู่ในเบ้าตา ลิ้นก็จะเน่าอยู่ในปาก ในวันนั้นพระเป็นเจ้าจะส่งความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัสมาให้แก่พวกเขา” (เซคาไรอะ 14.12-13)

    ไม่มีความหวังอันใดเหลือไว้ สำหรับโลกอีกต่อไปแล้ว มันจะกลายเป็นแผ่นดินโสโครก เต็มไปด้วยซากศพเน่าเปื่อยเกลื่อนกลาดทั้งของมนุษย์และสัตว์ ซากปรักหักพังของเมืองใหญ่ ๆ โครงเหล็กกล้าและคอนกรีตบิดเบี้ยวแตกกระจาย ไม้ในป่าล้มระเนระนาดถอนรากถอนโคน พืชผักในไร่นาเรือกสวนเหี่ยวเฉาแห้งตายเพราะถูกเผา พื้นพิภพเต็มไปด้วยหลุมบ่อเพราะลูกกระสุนที่ตกลงมากระทบ ทุกทวีปถูกความร้อนรุนแรงมหาศาลอย่างเหลือเชื่อเผาผลาญ ภูเขาไฟทุกลูกปะทุและระเบิด พื้นที่ราบทุกแห่งนองไปด้วยน้ำพิษจากดาวบอระเพ็ด แผ่นดินไหวติดต่อกันนานจนไม่มีใครรู้ว่ามันจะหยุดเมื่อใด อารยธรรมอันรุ่งโรจน์ของมนุษย์ต้องสูญสิ้นไปก่อนที่จะทันป้องกัน ณ ที่แห่งไหนสักแห่งใกล้ ๆ กับดาวพฤหัส เครื่องตรวจสอบอวกาศของอเมริกายังคงส่งข่าวสารกลับมายังโลกอยู่เรื่อย ๆ แต่ทว่าจะไม่มีใครได้รับมันอีกแล้ว

    ผมเคยพูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า สักวันเราอาจจะต้องใช้จรวดต่อสู้กับยะโฮวาห์ แต่ทว่าบางทีเขาคงไม่ให้เวลาเราทำเช่นนั้นได้หรอก เสียงตะโกนออกมาในอดีตกาลจากเซคาไรอะถึงจอห์น ดิ อีแวนเจลิสท์ ได้กันเราออกไป เสมือนหนึ่งพวกเราแกล้งเรียกเอาคำสาปแช่งของยะโฮวาห์ลงมาใส่ พวกชาลเดียนหรืออันโมไนท์ หรือกองทหารจักรพรรดิโรมัน ส่วนอาวุธที่จะใช้จัดการกับโลกเราครั้งนี้ คงไม่เหมือนครั้งที่ใช้ทำลายอาณาจักรยูดาห์เป็นแน่

    แต่สงครามระหว่างดาวคงจะยังไม่เกิดถ้าหากไม่ใช่เพราะโลกเรามีความเจริญก้าวหน้ามากเกินไป จนเป็นอันตรายต่ออำนาจของบุคคล ๆ หนึ่ง ซึ่งนามของเขาคือ ‘ยะโฮวาห์’

    นี่เป็นการแปลความหมายคำพยากรณ์ของศาสดาเหล่านั้นผิดไปหรือ? พวกเขาพูดย้ำเสมอว่า “ใครที่มีหู ก็ปล่อยให้เขาได้ยินไปเถอะ” นั้นแสดงว่ามันมีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ควรจะต้องเข้าใจในคำพยากรณ์ของพวกเขา มากกว่าที่คิดไว้แต่แรก ไอเสยะก็เคยกล่าวไว้ว่า “คำพยากรณ์ทั้งหมดที่พวกเจ้าได้รับ ก็คล้ายกับหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกห่อเอาไว้ จงให้หนังสือเช่นว่านั้นแก่คนที่อ่านได้และพูดว่า

    “มาเถอะ จงอ่านสิ่งนี้สิ”

    เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านไม่ได้” เพราะว่ามันถูกผนึกเอาไว้ จงให้มันแก่คนที่อ่านไม่ได้และพูดว่า “มาเถอะ จงอ่านสิ” เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านไม่ได้” (ไอเสยะ 29.11-12)

    บางทีถึงเวลาแล้วที่ทุกคนที่ได้รับหนังสือไบเบิ้ลเป็นของขวัญ จะได้เปิดมันออก และถามตัวพวกเขาเองว่าทำไมหนังสือแปลกปลอมนั้นจึงตกทอดมาสู่พวกเขา ทำไมจะต้องเป็นไบเบิ้ล แทนที่จะเป็นหนังสือ “บทเพลงของโรแลนด์” ?

    บางที ถึงเวลาแล้วที่จะสงสัยคำบรรยายอันประณีตเฉียบขาด ซึ่งได้ให้ไว้โดยคนธรรมดา ๆ ซึ่งไม่มีความชำนาญการใช้ศัพท์แสงเลยตั้งแต่สมัยเกือบสามพันปีมาแล้ว ถ้าหากใครคนใดที่เปิดเผยเรื่องราวในอนาคตของเขา เบื้องหลังดวงตาอันปิดสนิทของอีซีเกล เป็นคนเดียวกับนักบินลึกลับของยานอวกาศซึ่งแอบเคลื่อนไหวอยู่เหนือฟากฟ้าของเรา มาตั้งแต่ 20 ปีแล้วล่ะก้อ มันก็จะเป็นประโยชน์ไม่น้อยที่จะทราบเรื่องของเขาให้มากขึ้น <!--MsgFile=4-->

    สถานที่ชุมชนเพื่อขึ้นไปสู่โลกใหม่

    ก่อนโลกจะถึงวาระพินาศย่อยยับ ก่อนพวกนอกศาสนาคนสุดท้ายจะตายเพราะโดนรังสี หรือตายเพราะกินน้ำอันขมฝาดเนื่องจากดาวบอระเพ็ด ชาวยิวก็จะได้รับการช่วยเหลือให้รอดปลอดภัยไปแล้ว

    ที่พูดมานั้น ผมอาศัยหลักฐานจากหนังสือเล่มสุดท้ายของคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับพันธสัญญาใหม่ นั่นคือ วิวรณ์ ของ จอห์น ดิ อีแวนเจลิสท์ จอห์นแยกผองพี่น้องชาวยิวของเขาออกมาจากการฆาตกรรมหมู่

    “แล้วข้าได้เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งขึ้นมาแต่ทิศตะวันออก ถือดวงตราของพระเจ้าผู้ทรงสภาพอยู่ และท่านร้องประกาศด้วยเสียงอันดังแก่ทูตทั้งสี่ผู้มีอำนาจ และจะทำอันตรายแก่แผ่นดินและทะเลนั้นว่า

    “อย่าทำอันตรายแก่แผ่นดินหรือทะเลหรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราไว้ที่หน้าผากของทาสทั้งหลายของพระเจ้า"

    "และข้าก็ได้ยินว่า จำนวนคนที่รับตราประทานนั้น คือทุกตระกูลในพวกอิสราเอล มี 144,000 คน” (วิวรณ์ 7.2-4)

    จอห์นได้แสดงให้เห็นความตั้งใจของยะโฮวาห์ อย่างซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา ในจำนวนชาวอิสราเอลสิบสองเผ่านั้นเขาได้รวมเอาพวกที่มีความเชื่อมั่นใหม่ ๆ ซึ่งสมควรจะได้รับรางวัลตอบแทนจากเขาเข้าไว้ด้วย ที่เป็นดังนี้ก็เพราะเขาคือสาวกสำคัญคนหนึ่ง จึงต้องรับผิดชอบในการให้ความหมายอย่างใหม่ของข่าวสารของบรรพบุรุษ ไว้ในเนื้อหาคำพยากรณ์บทสุดท้ายอันยิ่งใหญ่ของคัมภีร์ไบเบิ้ล นอกจากนี้เขายังได้กล่าวถึง

    “พวกที่เรียกร้องจะเป็นยิว แต่ไม่ได้เป็น” (วิวรณ์ 2.9)

    นี่มิใช่หมายความว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า พวกโกยิม (ชนชาติอื่นที่ไม่ใช่ยิว) จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นยิวหรอกหรือ? ใช่สิ ถ้าหากพวกเขารู้ว่าชาวยิวมีสิทธิพิเศษในการมีชีวิตรอด จากมหันตภัยครั้งใหญ่ของโลก

    เราก็ได้เคยทราบมาแล้วที่ดาวเทียม มาแทนที่พระอาทิตย์ และได้เห็นยานอวกาศออกมาปฏิบัติการทำลายล้าง คราวนี้เกิดมีวัตถุประหลาดอันที่สามปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งกำลังสับสนอลหม่าน มันคือยานลำเลียงสินค้าที่จะพาชาวยิวไปให้พ้นจากโลกนั่นเอง

    “คนที่ยืนอยู่ในความมืด ได้เห็นแสงสว่างโชติช่วง” (ไอเสยะ 9.2)

    จอห์น ดิ อีแวนเจลิสท์ มีความรู้สึกสังหรณ์อย่างประหลาดกับสภาพซึ่งใกล้เข้ามา มันปรากฏอยู่ในยานอวกาศของยะโฮวาห์ และล้อมรอบด้วยวงรัศมีการแผ่รังสี

    เยรูซาเล็มนครแห่งสวรรค์ จะลงมาสู่พื้นโลกได้ก็เฉพาะแต่ตรวจจุดที่ยะโฮวาห์ได้เลือกตำแหน่งแห่งที่ไว้แล้วเท่านั้น และมันก็เป็นที่ซึ่งเขาตั้งฐานที่มั่น กับเป็นแหล่งพำนักของคนของเขาด้วย

    “ข้าได้เห็นเมืองบริสุทธิ์ คือเมืองเยรูซาเล็มใหม่เลื่อนลอยลงมาจากสวรรค์ แต่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้เหมือนอย่างที่เจ้าสาวแต่ตัวไว้สำหรับเจ้าบ่าว ข้าได้ยินเสียงดังมาจากพระที่นั่งว่า “จงดูเถิด พลับพลาของพระเจ้าก็อยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะสถิตอยู่กับเขา เขาจะเป็นพลเมืองของพระองค์ พระองค์จะทรงดำรงอยู่กับเขา”” (วิวรณ์ 21.2-3)

    และสถานที่ ๆ คนยิวจะได้รับการช่วยเหลือให้พ้นจากภัยพิบัติ

    “แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงพูดมาจากสวรรค์ว่า “ขึ้นมาที่นี่เถิด!” และพวกเขาจึงขึ้นไปสู่สวรรค์ในกลุ่มเมฆ โดยเหล่าศัตรูต่างมองเห็นภาพที่ปรากฏชัดเจนเต็มตา” (วิวรณ์ 11.12)

    เมื่อพวกเขาพากันขึ้นไปหมดแล้ว ยานก็ลอยขึ้นสู่อวกาศ

    “ ... มันมีรัศมีของพระเจ้า มีแสงสว่างดุจแก้วที่มีราคามาก คือแก้วมณีโชติอันสดใส” (วิวรณ์ 21.11)

    และทุกอย่างก็เป็นไปตามคำมั่นสัญญา

    “สำหรับผู้ที่ประสพชัยชนะ ข้าจะอนุญาตให้ผู้นั้นนั่งลงกับข้าที่พระที่นั่งของข้า” (วิวรณ์ – ขอโทษครับตัวหนังสือเลือน – ผู้พิมพ์)

    ณ หนแห่งใดในจักรวาล หรือที่เหล่าผู้ปฏิบัติตามวิถีทางของยะโฮวาห์จะถูกพาตัวไป? เราไม่ทราบว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ร้อยกี่พันปี ก่อนที่โลกจะอยู่อาศัยได้อีกครั้ง จอห์นได้ยืนยันคำพูดของบรรพบุรุษของเขาว่า

    “แล้วข้าก็ได้เห็นสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ เพราะสวรรค์เดิมและโลกเดิม ได้อันตรธานไปแล้ว และไม่มีทะเลอีกต่อไปเลย” (วิวรณ์ 21.1)

    เราน่าจะสังวรเอาไว้ด้วยว่า ยะโฮวาห์ถ่ายทอดข่าวสารภายหลังเริ่มสมัยคริสเตียน และเขาก็ได้แสดงให้เราเข้าใจว่าเขายังไม่ได้ทิ้งแผนเดิมของเขา คำขู่ของเขาไม่ได้หมายที่จะทำกับพวกโมอะไบท์ หรือพวกอัสซีเรียให้หวาดกลัวเท่านั้น และเขายังคงมีความตั้งใจที่จะโยกย้ายคนของเขา ซึ่งเขาปั้นแต่งมาด้วยมือตัวเอง ตั้งแต่ยุคมืดสมัยหินบนโลกเรานี้

    ปีเตอร์ได้เปิดเผยเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และขอให้เราอย่าได้ดูถูกเรื่องที่เขากล่าวถึงเป็นอันขาด ...

    “จงจำไว้ว่าในเวลาวันสุดท้าย คนประมาทหมิ่นจะบังเกิดขึ้น และประพฤติตามใจปรารถนาของตน และจะถามว่า “คำที่ทรงสัญญาไว้ว่าพระองค์จะเสด็จมานั้น อยู่ที่ไหนเล่า? ด้วยว่าตั้งแต่บรรพบุรุษล่วงลับไปแล้ว สิ่งทั้งปวงก็เป็นอยู่เหมือนที่ได้มีอยู่ตั้งแต่เดิมทรงสร้างโลก” เพราะว่าข้อนี้เขาแกล้งลืมเสีย คือว่าโดยคำตรัสของพระเจ้า ฟ้าสวรรค์จึงได้อุบัติขึ้นตั้งแต่บุพกาลและแผ่นดินจึงได้เกิดขึ้นแยกจากน้ำ และท่ามกลางน้ำ โดยเหตุเหล่นี้พระองค์จึงได้ทรงบันดาลให้น้ำมาท่วมทำลายโลกที่มีอยู่ในเวลานั้น

    แต่ว่าท้องฟ้าอากาศ และแผ่นดินโลกที่อยู่เดี๋ยวนี้พระองค์ทรงเก็บงำไว้ โดยคำตรัสนั้นสำหรับให้ไฟเผา คือเก็บไว้จนถึงวันทรงพิพากษาและวันพินาศแห่งบรรดาทุรชน เพื่อนเอ๋ย อย่าลืมข้อนี้เสียล่ะ เพราะว่าวันเดียวของพระเจ้าเหมือนพันปี และพันปีก็เหมือนวันเดียว พระเป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในคำมั่นสัญญาของพระองค์เหมือนบางคนคิดช้านั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายเป็นช้านาน ไม่ประสงค์จะให้คนหนึ่งคนใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาจะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่

    แต่ว่าวันของพระเจ้าคงจะมาเหมือนอย่างขโมยตอดมาและวันนั้น ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยเสียงสนั่น โลกธาตุจะละลายไปด้วยไฟอันร้อนยิ่ง และแผ่นดินโลกกับสิ่งสารพัดที่มีอยู่ในโลกนั้นจะต้องไหม้เสียสิ้น ครั้งเห็นแล้วว่าสรรพสิ่งนี้ต้องละลายไปสิ้น ท่านทั้งหลายควรจะเป็นคนอย่างไรในการประพฤติอันบริสุทธิ์และในธรรม รอคอยและกระหายที่จะให้วันของพระเจ้ามาถึง เมื่อไฟจะติดท้องฟ้าอากาศให้ละลายไปและโลกธาตุจะละลายด้วยไฟอันร้อนยิ่ง? แต่ว่าตามคำมั่นสัญญาของพระองค์นั้นเราจะรอคอยท้องฟ้าอากาศใหม่ และแผ่นดินโลกใหม่ ซึ่งจะเป็นที่ที่ความชอบธรรมจะดำรงอยู่” (2 ปีเตอร์ 3.3-13)

    ที่ผมยกเอาคำพยากรณ์นี้มาทั้งดุ้น ก็เพราะผมถือว่าเนื้อหาอันสำคัญนี้ถูกส่งผ่านมาถึงเรา โดยอำนาจลึกลับอันหนึ่ง ก็เหมือนกับการส่งข่าวมาในขวด ให้ลอยอยู่ในมหาสมุทรนั่นแหละครับ ตามความเห็นของผม ยะโฮวาห์ไม่ใช่เทพเจ้าโบราณคร่ำครึอย่างเทพเจ้าจูปิเตอร์ หรือเทพเจ้าไวทัน และพวกชาวยิวในสมัยปัจจุบันนี้เองที่เขากำลังเตรียมจะพาขึ้นไปสู่นครเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ชั้นฟ้า โลกใหม่ก็คือดาวนพเคราะห์ดวงอื่นมันอยู่ที่ไหนน่ะหรือ? บางทีจะอยู่ไกลออกไปจากระบบสุริยะจักรวาลของเราก็ได้ จอห์นกล่าวว่า “โลกเดิมได้อันตรธานไป” ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่ได้รับการช่วยให้รอดพ้นภัยไปแล้วจะไม่ได้เห็นโลกอีก เพราะพวกเขาจะต้องจากมันตลอดกาล มุ่งตรงออกไปสู่ความน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านี้มาก

    “คนจะพูดว่าแผ่นดินเดิม ซึ่งสูญเสียไปนี้จะกลายเป็นเหมือนดังเช่นสวนอีเด็น” (อีซีเกิล 36.35)

    “ ... พระเจ้าได้ทรงช่วยนครไซอัน ตลอดจนบ้านเรือนที่พินาศให้ได้รับความสุขสบาย เปลี่ยนจากความป่าเถื่อนเป็นสวนสวรรค์” (ไอเสยะ 51.3) ...

    ความสุขเกษมเปรมปรีดิ์และความยุติธรรมจะปกครองอาณาจักรของพระเจ้า นี่มิใช่จินตนาการใฝ่ฝันของคนที่เจ็บปวดทนทุกข์ทรมานต่อเมืองแมนแดนสวรรค์ซึ่งสาบสูญไป และพยายามคิดว่าตัวเองจะได้พบกับมันอีกหรือ? ทำไมมันจะเกิดขึ้นกับเหล่าผู้อยู่นอกโลกไม่ได้ล่ะ? มันก็เหมือนกับวิธีการที่นักทฤษฎีทางการเมืองของเราชอบนำเอามาอ้าง และโกหกหลอกลวงประชาชนนั่นเอง แต่ข้อแตกต่างระหว่างพวกเขากับนักการเมืองของเราอยู่ที่ พวกเขารู้วิธีนำเอาความคิดมาใช้ในทางปฏิบัติอย่างได้ผลต่างหาก

    เวลาการนัดชุมนุมกันในอวกาศ ได้กำหนดเอาไว้แล้ว สำหรับชาติอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ในข่าย ยิ่งช้าก็ยิ่งดี ผมมีหลักฐานอันใดหรือที่ทำให้คิดว่าเวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว? ... นักคำนวณเก่ง ๆ จำนวนมากที่อ่านคำพยากรณ์ ในขณะที่ดินสอพร้อมอยู่ในมือ พวกเขามักจะไปลงเอยกันที่ตัวเลข 2000 เสมอ บางครั้งเขาก็ได้มันมาโดยตรง อย่างที่บันทึกของ ‘สาธุคุณจอห์นแห่งเคลฟร็อค’ เขียนไว้เมื่อปี ค.ศ.1340 กล่าวเอาไว้ว่า หลังศตวรรษที่ 20 ของโลก สัตว์ร้ายก็จะถูกส่งมาเกิดด้วย และนั่นก็คือ ในราวปี ค.ศ.2000 ‘คุณแม่ชิฟตัน’ พยากรณ์ไว้เมื่อต้นศตวรรษที่ 16 ว่า โลกจะถึงวาระสุดท้ายในปี ค.ศ.1991

    ผมขอพูดให้ชัดลงไปเลยว่า การคาดคะเนแบบนี้รู้สึกจะเป็นปัญหาเกินไปสำหรับผมเอง ถึงแม้มันอาจจะมีประโยชน์ต่อข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพยากรณ์จริง ๆ จัง ๆ ก็ตามที ความเห็นส่วนตัวผมเองนั้น เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ประดังกันขึ้นมานับแต่ต้นศตวรรษนี้ มันมีแต่ความไม่สงบเสียมากกว่า ขั้นแรกของการปฏิบัติการล้างโลกของยะโฮวาห์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.1917 ด้วยคำประกาศของ ‘ลอร์ด มัลโฟร์’ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้ปาเลสไตน์เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของชนชาติยิว แม้ตอนนั้นจะไม่มีผลบังคับทางการเมืองนัก แต่มันก็เป็นสาเหตุโดยตรงอันหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการก่อตั้งประเทศของคนยิวขึ้นมาในปี ค.ศ.1947

    แต่ใครล่ะจะกล้ายอมรับ ว่ามันเป็นสาเหตุของภัยพิบัติและนำความมรณะมาสู่โลกเรา เพราะชัยชนะนี้หมายถึงว่าชาวยิวสามารถรักษากำหนดการนัดพบชุมนุมกัน ซึ่งยะโฮวาห์ได้ทำไว้กับพวกเขาอย่างอิสระ และนั่นคือโอกาสเดียวของพวกเขาที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ถนนที่มุ่งสู่ปาเลสไตน์ ต้องเปิดออกเพื่อกระตุ้นให้หมอสอนศาสนาจากอวกาศได้ปฏิบัติตามที่เขาพูดไว้ว่าเขาจะทำ

    หรือว่า ลอร์ดบัลโฟร์ตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น? อ่ยางนั้นก็หมายถึงว่าเขาถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ดังเช่นนักการเมืองทั้งหลายผู้ซึ่งมีส่วนในการเจรจาจะซื้อขาย และต่อรองมานานถึง 30 ปี ซึ่งในท้ายที่สุดก็นำไปสู่การกำเนิดชาติใหม่ขึ้นมา คนยิวทั้งโลกถูกผลักดันด้วยแรงกระตุ้นอื่นไม่อาจขัดขืนได้ มันปรากฎขึ้นมาอย่างฉับพลันทันใด ในรูปของการรวมพลังทุกชนิดที่มีอยู่ มีทั้งการทุ่มเทความพยายามเพื่อคานอำนาจทางการเมือง ทุ่มเทเงินทุนเพื่อซื้อดินแดนจากพวกอาหรับในปาเลสไตน์ และกระทั่งบุกรุกและเข้าไปอยู่ในแผ่นดินแห่งพันธสัญญา โดยไม่ฟังเสียงหรือยอมรับว่าจะอยู่ในแว่นแคว้นของใคร

    หลังจากความฝันอันไม่สมปรารถนา ผ่านมาศตวรรษแล้วศตวรรษเล่า และใช้วิธีการทุกอย่างเพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายต้องประสพกับความผิดหวัง ขมขื่น ความพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขนาดใช้กองเรือโกโรโกโสออกทะเล สู้กับราชนาวีอังกฤษอย่างไม่ยอมแพ้ พวกเขาไม่ยอมสละเรือ นอกจากฝรั่งเศสจะรับข้อเสนอให้พวกเขาไปอยู่ในประเทศ แต่ก็ถูกบังคับให้กลับเยอรมัน และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มอพยพมุ่งสู่ปาเลสไตน์อีก

    มีใครบอกพวกเขาถึงการนัดชุมนุมกันงั้นหรือ?

    มีคำสั่งลึกลับ ถูกบอกต่อ ๆ กันในสุเหร่ายิวหรือ?

    เรื่องนี้ต้องมีใครบางคนรู้ แต่พวกเขาจะไม่ยอมพูดอะไรเลย คนยิวส่วนใหญ่จะต้องฉงนสนเท่ห์หากพวกเขาถูกถามถึงเรื่องนี้

    ถ้างั้นอะไรทำให้คนยิวกลับประเทศเดิม นับตั้งแต่เริ่มศตวรรษนี้เป็นต้นมา แน่นอนเราหาสาเหตุได้หลายประการ แต่ที่ลึกซึ้งกว่านั้นล่ะ?

    การปฏิวัติครั้งใหญ่ในฝรั่งเศส ทำให้ข้าวยากหมากแพง ตลอดจนความอ่อนแอของระบบการปกครอง แบบกษัตริย์ไม่อาจนำมาเป็นเหตุผลใช้อธิบายได้พอเพียง และการที่คนยิวมุ่งสู่นครเยรูซาเล็มเป็นระลอกในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ก็หาเหตุผลที่พิเศษโดยเฉพาะไม่ได้เช่นเดียวกัน

    เพราะฉะนั้น มันจึงน่าจะเป็นจิตสำนึกอะไรบางอย่างซึ่งมีอยู่ในตัวพวกเขาแต่ละคนโดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ และถูกควบคุมพฤติกรรมอันนี้อยู่อย่างเร้นลับโดยใครสักคน ... เขาผู้นั้นคือ ยะโฮวาห์!!

    นักชีววิทยาผู้นี้ใช้กฎธรรมชาติอันใดหรือ?

    มันก็เป็นกฎเดียวกับที่ทำให้นกตะกรุม หรือนกกระสากลับไปยังแหล่งที่พวกมันถูกฟักออกมานั่นแหละ หรืออย่างเช่นพวกนกระจอก ซึ่งกล่าวถึงบ่อย ๆ ในไบเบิ้ล มันจะเชื่อแรงกระตุ้นเช่นนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย คือเมื่อสภาพอากาศหนาวจัดผิดปกติ มันจะเข้าใจผิด รีบออกไข่ฟักเป็นลูกครอกถัดไป แล้วทิ้งตัวอ่อนของมันไว้ บินจากไปเมื่อสัญชาติญาณเช่นว่าเกิดขึ้น การที่เราจะเอาสัญชาติญาณของนกเหล่านี้มาเปรียบกับมนุษย์ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกหรือ?

    ตามแผนระยะยาวและวิธีปฏิบัติของยะโฮวาห์นั้น ชาวยิวถูกเทียมแอกมาตั้งแต่เริ่มกำเนิดชนชาติของเขาแล้ว พวกเขาจะกลับไปยังหมู่ดาว ที่ซึ่งพวกเขาได้จากมาโดยขั้นแรกต้องเดินทางไปยังที่ซึ่งนครเยรูซาเล็มใหม่ จะลงมาพาเขาขึ้นไปและตอนนี้พวกเขาก็กำลังมุ่งหน้าสู่แหล่งชุมนุมชนกัน อย่างปราศจากการขัดขืน ไอเสยะรู้เรื่องนี้ดี หรืออย่างน้อยเขาก็ได้เขียนมันขึ้นมาตามคำบอกของเจ้านายอาคันตุกะต่างดาวของเขา เพื่อบันทึกเป็นความทรงจำเอาไว้ด้วย ...

    “คนเหล่านี้ซึ่งล่องลอยไปเหมือนหมู่เมฆหรือบินไปเหมือนนกเขา เป็นใครกันหนอ? “ (ไอเสยะ 60.8)

    ไอเสยะกล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ และค่อนข้างจะเห็นถนัดชัดเจนกว่าเสียอีกว่า

    “ ... เหล่าลูกชายของข้าจะโผล่ออกมาจากทางทิศตะวันตกด้วยความรวดเร็ว พวกเขาจะมารวดเร็วมาก บินมาเหมือนนกจากอียิปต์ เหมือนนกพิราบจากอัสไซเรีย” (โฮเสยะ 11.10-11)

    เมื่อยะโฮวาห์ กล่าวคำว่า ‘ชาโลม’ (สันติสุข) เขาจะพบกับอะไรในพื้นที่หรือบริเวณที่เขาจะลงมา? ก่อนอื่นขอให้เราตีเสียว่า เวลาและสถานที่จะถูกกำหนดไว้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งซึ่งเราไม่ทราบ อาจจะเป็นที่ ‘ภูเขาคาร์เมล’ หรือภูเขาที่สูงใกล้เคียงกันเช่น ‘ภูเขาเมกิดโด’ (อาร์มาเกดดอน) ซึ่งจอห์นเอ่ยถึงในวิวรณ์บทที่ 16 ตอนที่ 16

    “แล้วพวกเขาจึงมารวมกันอยู่ ณ สถานที่ซึ่งในภาษาฮีบรูว์เรียกว่า “อาร์มาเกดดอน” มันเป็นสถานที่ซึ่งอีไลจาห์เคยขอร้องให้ ‘กษัตริย์อาฮับ’ ใช้เป็นจุดชุมนุมเพื่อเดินทางไกล

    “ดังนั้นอาฮับจึงส่งข่าวให้ชาวอิสราเอลและศาสดาพยากรณ์ทุกคนไปที่ภูเขาคาร์เมล” (1 คิงส์ 18.20) จุดประสงค์ของการชุมนุมนี้ ก็เพื่อทำพิธีบูชาไฟและแสงสว่างให้ยะโฮวาห์ลงมา เห็นได้ชัดว่าการปรากฏตัวของอีไลจาห์ และการเลือกเอาจุดนั้นมันต้องมีคุณค่าอะไรบางอย่างโดยเฉพาะ

    ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นจึงจะได้รับข่าวสารที่แน่นอน แต่ทั้งนี้ มีเหตุผลพอจะเชื่อได้ว่า เมื่อมหันตภัยเกิดขึ้น ทุกคนจะต้องพยายามเล็ดลอดปะปนอยู่ในหมู่ชาวยิว เพื่อการอยู่รอดอย่างแน่นอนในเวลาเช่นนั้น ไม่ว่าใครมีชาติกำเนิดเช่นไร ความปรารถนาอย่างเดียวของพวกเขาก็คือ ... หนีไปสู่ดาวเคราะห์ดวงใหม่พร้อมกับชาวยิว

    จอห์นตระหนักถึงข้อนี้ดี เขาได้ถ่ายทอดคำตำหนิของยะโฮวาห์ต่อ “ผู้ที่เรียกร้องที่จะเป็นชาวยิว แต่ไม่ได้เป็น” โดยบอกผู้ที่จะไปกับพระเจ้าว่า “ข้าจะมาในไม่ช้านี้ จงเก็บของที่พวกเจ้ามีอยู่ไว้ให้มั่นคง อย่าให้ใครมาขโมยมงกุฎของพวกเจ้าไปได้” (วิวรณ์ 3.11)

    จำนวนผู้โดยสารสู่อวกาศคงจะต้องมีจำกัด ถึงแม้มันจะมีมากกว่า 144,000 คน ตามที่กล่าวไว้ในวิวรณ์ก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงตัวเลขลอย ๆ เท่านั้น ดังนั้นหากพวกเขาอยู่กันตามลำพังในประเทศที่ภูเขาคาร์เมลตั้งอยู่ มันก็จะเป็นประโยชน์และสะดวกต่อการอพยพไปสู่ดินแดนใหม่เท่านั้น

    จากคุณ : <!--MsgFrom=6-->สุธี - [ <!--MsgTime=6-->9 ก.ย. 48 07:11:25 <!--MsgIP=6-->]

    ที่มา http/www.pantip.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2011
  7. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กับ มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ คนละหน่วยงานกันนะครับ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รับทราบครับ คือว่าข่าวจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาตินี้ ไม่มีภาพประกอบเนื้อข่าวเลย ทำให้เนื้อหาดูไม่น่าสนใจและผมเห็นว่าโลโก้ของมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติมันสวยดี เลยขอยืมภาพของเขามาประกอบเนื้อข่าวให้ดูน่าสนใจขึ้นเท่านั้นเองครับ
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  10. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    เด็กสวีเดนต้องเรียนภาษาจีน

    [​IMG]

    สตอกโฮล์ม- ยาน บียอร์คลุนด์ รัฐมนตรีศึกษาสวีเดน กล่าวเมื่อวันพุธ (6 ก.ค.) ว่า ต้องการเห็นสวีเดนเป็นประเทศแรกในยุโรปที่บรรจุภาษาจีนเป็นวิชาภาษาต่างประเทศของโรงเรียนประถมภายใน 10 ปี


    เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากต่อไปภาษาจีนจะมีความสำคัญในแง่เศรษฐกิจมากกว่าภาษาสเปนหรือฝรั่งเศส ปัจจุบันอังกฤษเป็นภาษาต่างชาติหลักในโรงเรียนสวีเดน ตามด้วยภาษาสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศส

     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รวมคำทำนายเรื่องอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก!!!

    [​IMG]


    มหันตภัยที่กำลังคุกคามโลกมนุษย์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต พอสรุปได้ดังนี้
      1. ภัยจากน้ำท่วม และมลภาวะสิ่งแวดล้อม (ภัยทางธรรมชาติต่างๆ)
      2. ภัยจากสงครามเศรษฐกิจ (อดอยากขาดแคลนอาหาร)
      3. ภัยจากสงครามพลังจิต (อภิญญาขาว vs อภิญญาตำ)
      4. ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ ๓ (สงครามระเบิดนิวเคลียร์)
      5. ภัยจากสงครามจักรวาลระหว่างดวงดาว (พระคริสต์ กับ ซาตาน)
      6. ภัยจากอุกกาบาตขนาดยักษ์ ที่หลุดจากดวงอาทิตย์ กำลังเดินทางมาชนโลก
    "ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์เราควรจะดำรงชีวิตอยู่อย่างธรรมชาติ ปฎิบัติยึดมั่นในปัญจศีล พัฒนาจิตใจให้มีคุณธรรม ศีลธรรมเพื่อให้ธรรมนำโลก ก็คงจะช่วยผ่อนคลายจากหนักเป็นเบา ในการที่มนุษย์จะเผชิญมหันตภัยข้างต้นได้ไม่มากก็น้อย..." เชื่อหรือไม่เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนตัวของท่าน? คัดจากหนังสือวิธียุติสงครามจักรวาล " พล.ต.ต. พิบูลย์ ภาษวัธน์ รวบรวม

    ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-4.html

    จากหลวงปู่เทพโลกอุดรแจ้งไว้แก่ หลวงปู่ภารตะ ฤาษี (บัวขาว)

    จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
    ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร์ จะถามโถม โจมดีเรา
    พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
    ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา

    ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พีงจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
    ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
    เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร์ ไร้ชีวิต วิบัติภัย

    บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
    สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
    พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
    ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย

    ที่มา http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=77655.0

    คำพยากรณ์ที่ 8 : อุกกาบาตยักษ์ตกลงสู่พื้นโลก

    La grande montagne ronde de sept stades,
    Apres paix, guerre, faim, inondation,
    Roulera loin abimant grands contrades,
    Memes antiques, et grande fondation. (I,69) คำแปล

    ในขณะที่เอเชียประสบกับความเดือดร้อนทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกหนทุกแห่งกำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม เกิดทุพภิกขภัย และอุทกภัยอยู่นั้น จะมีหินกลมขนาดยักษ์ (ก้อนอุกกาบาต) ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งไมล์ หมุนลอยละล่องตกจากท้องฟ้าลงมาสู่โลก ผลจากการตกลงมาของหินยักษ์นี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในประเทศใหญ่ ๆ ที่มีอายุเก่าแก่ในโลกหลายประเทศ

    ตีความและวิเคราะห์

    พร้อม ๆ กับที่สันติภาพกำลังถูกคุกคามอย่างหนักเพราะเกิดสงครามในตะวันออกไกลอยู่นั้น จะมีอุกกาบาตลูกหนึ่งตกลงมาในมหาสมุทรอินเดีย และจะเกิดผลทำลายล้างอย่างกว้างขวาง โดยทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่และรุนแรงในมหาสมุทรซัดเข้าไปท่วมชาติต่าง ๆ ในอาณาบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาติต่าง ๆ ในแอฟริกาตะวันออก ออสเตรเลีย และเอเชียใต้ จะประสบกับอำนาจทำลายล้างของอุกกาบาตยักษ์จากฟากฟ้าลูกนี้อย่างเต็มที่ ดินแดนต่าง ๆ ในแถบนี้ซึ่งมีภาวะสงครามอยู่แล้วก็จะเกิดความสับสนวุ่นวายมากยิ่งขึ้น

    ในต้นฉบับของคำพยากรณ์ นอสตราดามุสไม่ได้บอกว่าเป็นอุกกาบาต แต่บรรยายไว้ว่าเป็นภูเขากลมขนาดใหญ่ ขนาดของภูเขาลูกนี้เขาบรรยายว่าใหญ่เจ็ดสแต๊ด จากรูปลักษณ์และขนาดที่บรรยายไว้นี้ เราพอจะอนุมานภูเขาลูกนี้ได้ สแต๊ดเป็นมาตราวัดของกรีกในสมัยโบราณ ซึ่งความยาวของมันจะแตกต่างไปตามกาลเวลาและสถานที่ แต่โดยทั่วๆไป หนึ่งสแต๊ดมีความยาวประมาณ 607-738 ฟุต เมื่อภูเขากลมลูกนี้มีขนาดเจ็ดสแต๊ด ก็จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ประมาณ 1 ไมล์ แต่ในที่นี้เราวิเคราะห์ว่า ภูเขา ได้แก่ ลูกอุกกาบาต ทั้งนี้เพราะในบรรทัดที่ 3 ของคำพยากรณ์ได้ชี้ชัดโดยระบุว่า ภูเขาจะหมุนลอยละล่องลงมาและในการหมุนลงมานั้นจะทำให้ชาติใหญ่ ๆ จมอยู่ใต้น้ำ

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือบรรดาโหรในยุคปัจจุบันหลายต่อหลายคนต่างก็พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกันกับนอสตราดามุส เช่น นางจีน ดิกสัน กล่าวไว้ว่า ดิฉันเห็นดาวหางดวงหนึ่งโคจรมาปะทะกับโลกของเรา… ผลของการปะทะกันระหว่างโลกกับดาวหางครั้งนี้ จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดคลื่นอย่างรุนแรงในมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ผลที่ติดตามมาก็คือความหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เท่าที่โลกเคยประสบมา นางจีน ดิกสัน ไม่ได้ระบุชื่อของชาติต่าง ๆ ที่จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติครั้งนี้

    แต่นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้ชัดเจน โดยกล่าวว่า ชาติเก่าแก่และมีอายุมานานมากหลายชาติ จะประสบกับความหายนะจากดาวหางดวงนี้ เมื่อศึกษาตามประวัติศาสตร์จะเห็นว่าแหล่งอารยธรรมโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ลุ่มแม่น้ำไนล์ในประเทศอียิปต์ ที่ลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมียในประเทศอิรักในปัจจุบัน และที่ลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศปากีสถาน และเมื่อมองดูในแผนที่โลกแล้ว จะเห็นว่าดินแดนในลุ่มแม่น้ำดังกล่าวอยู่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย หรือไม่ไกลจากมหาสมุทรอินเดียมากนัก จึงเป็นไปได้ว่าภัยที่เกิดจากดาวหางหรืออุกกาบาตจะครอบคลุมไปถึงดินแดนตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวันออกและเอเชียใต้ รวมทั้งประเทศไทย (โปรดดูจากแผนที่)

    ดังได้กล่าวมาแล้วว่า หลังจากองค์การระหว่างประเทศประสบกับความล้มเหลว จนสลายตัวไปในที่สุดแล้ว จะเกิดสงครามในตะวันออกไกล พร้อมกับเกิดโรคระบาด ทุพภิกขภัย อัคคีภัยและอุทกภัยอย่างร้ายแรง เมื่อต้องประสพเคราะห์กรรมอันเนื่องจากคลื่นในมหาสมุทรอินเดียซ้ำเข้าอีก จะทำให้ฉากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผลที่จะติดตามมาจากภัยพิบัติครั้งนี้ ได้แก่ เกิดภาวะอ่อนแอทางด้านการทหารในประเทศแถบเอเชียใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ อินเดียซึ่งเป็นศัตรูของจีน สถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งเอื้ออำนวยให้กองกำลังรุกรานจากตะวันออกไกลภายใต้การนำของจีน บุกและยึดครองประเทศในย่านเอเชียใต้ได้ในที่สุด

    ที่มา http://www.tarot.is.in.th/?md=content&ma=show&id=276

    นิมิตจากพระเจ้า จะมีอุกกาบาตใหญ่ 3 ลูก ตกที่อ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติก

    BIBLE CODE: EX:39:10, DEUT:1:36:
    MARCH 01, 2010- COMET IMPACT- UTAH
    DAYTIME - DAYLIGHT- IN THE MORNING
    HOLOCAUST - CATASTROPHE- ANNIHILATION
    SOUTH - PATH - TRAJECTORY - SOUTH
    PREVENTION - PREVENTABLE - STOPPED
    ACTUAL DATE: 15 ADAR 5770 (HC).

    ในปีนี้จะมีอุกกาบาตตกใ่ส่โลก และ Code จากแหล่งอื่น ๆ ก็บอกว่า อุกกาบาตนี้จะใหญ่ขนาดตกใส่มหาสมุทรแอตแลนติก จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์อย่างในหนัง Deep Impact ได้ทีเดียว ต้องรอดูกัน

    ส่วนดาว NIBIRU นั้นก็มีบอกอยู่ใน BIBLE CODE ว่ามันมีอยู่จริง ๆ และกำลังใกล้เข้ามาและจะได้เห็น แม้ตอนนี้จะไม่เห็น BIBLE กล่าวว่า มันเป็นดาวที่หลบ ๆ ซ่อน ผลุบโผล่ ๆ ที่เรียกว่า HIDDEN STAR จึงไม่เห็นตลอดเวลาหรืออยู่ที่เดียวตลอด และยังมี Bible Code ที่กล่าวเตือนถึงการบุกรุกของมนุษย์ต่างดาว(ฝ่ายชั่ว)ด้วย ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลมานำเสนออยู่

    ยังมีเรื่่องที่อยากนำเสนออีกเช่น นิมิตที่พระเจ้าสำแดงให้เห็นว่าจะมีอุกกาบาตใหญ่ 3 ลูก ตกที่อ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติกด้วย ใหญ่ขนาดทำให้เกิดคลื่นยักษ์อย่างที่ดูในหนัง Deep Impact เลยนั่นแหละ และผู้เ็ห็นนิมิตจากพระเจ้าได้เปิดเผยแผนที่อเมริกาที่จะถูกคลื่นถล่มจนเละ ด้วย

    แนะนำเวปของคริสเตียนคนหนึ่ง ที่เป็นอาจารย์และได้ถอด Bible Code มาเตือนเป็นระยะ ข้อมูลเยอะมาก http://www.satansrapture.com/ ไบเบิลโค้ดปีนี้ถูกหมดทุกรายละเอียดเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เฮติและ ชิลี

    คำทำนายนี้ มาจากนิมิต ไม่ใช่ Bible Code และที่สำคัญต่อมาคือ เขาทำนายว่า จะเกิดกลียุคหรือสงครามกลางเมืองในอเมริกาพร้อม ๆ กับการใช้ Martial Law หรือ พรก. ฉุกเฉิน + กฎอัยการศึก แบบบ้านเรานั่นแหละ และ รัสเซียกับจีนอาจจะถือโอกาสบุกอเมริกา เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ในปีนี้ เรื่องสงครามนิวเคลียร์นี้ กำลังแปลนิมิตที่เขาเห็นมาให้อ่าน อเมริกาจะถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ในเมืองใหญ่ ๆ คนตายเป็นล้าน ๆ

    และหลายฝ่ายทำนายคล้ายกันว่าปี 2012 จะมีผู้มาจากต่างแดนไกลหรือมนุษย์ต่างดาวมาเพื่อยุติสงครามโลกนิวเคลียร์นี้ และประกาศตัวเป็นจ้าวโลกควบคุมมนุษย์ทั้งหมด แต่ที่แน่ ๆ แผ่นดินไหวใหญ่ใน กันยายน ปีนี้ต้องจับตาดูอย่ากระพริบตา รับรองว่าช๊อกกันทั้งโลกแน่ ๆ เพราะอาจะทำให้โกลาหลวุ่นวายทั้งโลกเพราะมันจะทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่าหายนะ 2012 คงเกิดจริงแน่ ๆ !

    From : 1p2m [25 กุมภาพันธ์ 2553 23:04]

    ที่มา Bloggang.com : jesdath

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->MatrixCore<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4805396", true); </SCRIPT> สมาชิก

    พรุ่งนี้ หรือไม่ก็ในเร็วๆนี้ อุกกาบาตขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง จะระเบิดเหนือทวีปยุโรป และเมือง madrid สเปน ก่อให้เกิดสะเก็ดอุกกาบาตขนาดใหญ่แตกกระจาย บางส่วนตกลงผืนดิน บางส่วนตกลงบนทะเล บางส่วนตกที่ชายฝั่งอังกฤษ ก่อให้เกิดมหาคลื่นซึนามิครั้งใหญ่ที่สุดพัดทำลายล้างไปทั่วทั้งทวีป ผู้เสียชีวิตทันทีมีประมาณ 3 - 10 ล้านคน !!

    อันที่จริงแล้วในที่นี้ ณ ที่ที่ผมจากมา ผมหมายถึงเรื่องระยะเวลาของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งผมกำลังทดสอบ และเรียนรู้บางอย่างอยู่ว่าจะ 1.พรุ่งนี้ หรือ 2.ในเร็วนี้ หรือ 3.อีกนาน แต่แค่สามกรณีนี้เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

    วันเดือนปีที่แท้จริงนั้น คือวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้ล่ะครับ เตรียมตัวล้างคอไว้รอกันเลยครับ จริงอยู่ที่อุกาบาตที่ตกใส่โลกนี้มันจะอันเล็กจิ้ดเดียวเมื่อเทียบกับขนาดของโลก แต่หลังจากการชนครั้งนี้ มันจะมีเอ็ฟเฟ็คท์ตามมาอย่างมหาศาลจนเกินกว่าที่จะคาดคิด หากพวกคุณจะจินตนาการตามได้ก็คงไม่อยากคิดว่าหลังการชนในครั้งนี้อะไรมันจะเกิดขึ้น! ซึ่งจะนำไปสู่ที่มาของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก และได้มีการกล่าวขวัญกันอย่างมากมายในอนาคต

    เอ๋ ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว จะบอกเลยดีกว่า หลังเดือนตุลาคมไปแล้วโลกใบนี้จะเข้าสู่ยุคระส่ำระส่ายอย่างยิ่งยวด พวกคุณจะรู้สึกได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปแล้ว มันคือการย่างก้าวเข้าสู่ยุคมืดที่แท้จริงของมนุษย์นั่นเอง

    วันที่ 8 พฤศจิกายน เกิดดาวเคราะห์น้อยพุ่งเฉียดโลกและเกิดการระเบิดกระทันหันในระหว่างโคจรเข้ามาไกล้โลก จนทำให้วิถีวงโคจรเปลี่ยนและได้พุ่งชนโลกทำมุม 45 องศาจากพื้นโลก เข้ากระแทกผืนน้ำจนทำให้เกิดคลื่นซึนามิขนาดยักษ์ และสะเก็ดบางส่วนพุ่งไปทำลายล้างเมืองต่างๆ จากเหตุการณ์นี้มีคนตายทันทีหลายล้านคน แต่ว่าหลังจากนี้ภูเขาไฟที่ต่างๆ ทั่วโลก

    และ Yellow stone จะพร้อมใจกันระเบิดพ่นลาวาออกมาอย่างมากมาย จนเกิดปรากฎการณ์ Butterfly effect ไปทั่วทั้งโลก เช่นแผ่นดินไหว ฤดูหนาวนิวเคลียร์ อากาศเป็นพิษ etc.. (อันนี้/ช่วงนี้ล่ะ โหดที่สุดเลย เป็นช่วงเวลาของความน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง) และในปี 2012 ช่วงกลางๆปีไปแล้ว มนุษย์ก็แทบจะสูญสิ้นไปหมด หากแต่ว่ายังดีนะครับที่ได้รับการช่วยเหลือไว้ได้น้อยนิด -สิ้นสุดยุคสงครามอวกาศครั้งที่1-

    อ้อ สิ่งนี้ที่พวกคุณควรจะรู้จริงๆก็คงอันนี้แหละมั้งคับ "เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เริ่มต้นด้วยน้ำมือธรรมชาติ" ยังไงเมื่อถึงวันนั้น "ผู้ที่รอด" ก็คงจะได้รู้เองล่ะครับ โชคดีนะครับ เดือนตุลาคมนี้ช่วงกลางเดือนจนถึงปลายเดือนจะเกิดความสับสนชุลมุนวุ่นวาย ข่าวลือถึงความน่ากลัวต่างๆ จะแพร่สะพัดไปทั่วโลก และจะเริ่มเห็นเค้าลางของความน่าสะพรึงกลัวของจริงจะเริ่มปรากฎ

    8 พฤศจิกายน เกิดอุกาบาตพุ่งชนโลก (ลองจับตาดู)หลังจากนั้นก็คงจะเดากันได้ อ้อผมได้เห็นกระทู้ของพวกคุณที่ตั้งขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่อง Nibiru นั้นน่ะ ผมอยากจะบอกไว้อย่างนึงว่าพวกคุณคิดผิดถนัดกันหมด ความจริงนั้นไม่มี Nibiru อะไรทั้งนั้น อันที่จริงคำว่า Nibiru นั้นเดิมทีมาจากชาวสุเมเรียนที่ใช้เรียกขานกันเกี่ยวกับสรวงสวรรค์ ที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของพระเจ้าของเขาและเป็นที่ที่พระเจ้าของเขาได้จากมา แต่ว่าถ้าสืบค้นไปยาวๆแล้วพวกคุณจะรู้ว่า มันได้ถูกทำลายไปแล้ว ซึ่งก็คือไม่มี Nibiru อีกต่อไปแล้ว(มีแต่ยานอวกาศขนาดยักษ์) การที่พวกคุณคาดหวังว่าจะได้เจอ Nibiru นั้น คงเป็นไปไม่ได้

    แต่สิ่งที่พวกคุณจะได้เจอในเร็วนี้นั้น จะไม่ใช่ Nibiru แต่จะเป็นสิ่งที่บางคนอาจจะพอรู้อยู่แล้ว ใช่แล้ว ในหมู่พวกชาวสุเมเรียนนั้นได้ยกย่องให้เทพเจ้า Anunnaki(มนุษย์ต่างดาวบนยานอวกาศ) เป็นพระเจ้าของพวกเขา และสิ่งที่กำลังจะมานี้ก็คือ The return of Anunnaki ไงล่ะครับ นี่คือข้อเท็จจริงที่พวกคุณควรจะทราบ ยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ยังรอการเปิดเผย แต่สำหรับบางคนแล้ว พวกเขาได้รู้อยู่ก่อนแล้วว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเรื่องนั้น พวกคุณต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง

    ที่มา http://palungjit.org/threads/พรุ่งนี้หรือในเร็วนี้-อุกกาบาตจะพุ่งชนโลก.295557/page-1

    นิมิตฝันเรื่องอุกกาบาตตกใส่โลก

    บวรทัต สมาชิก ​

    อาทิตย์ก่อนฝันว่าอุกาบาตย์ลูกใหญ่ตกใส่โลก มีฝุ่นปกคลุมโลกเต็มไปหมด ที่แปลกคือเป็นคนจำความฝันไม่ค่อยได้ ตื่นขึ้นมาจะลืมหมด แต่ ณ ตอนนี้ยังเห็นภาพอยู่เลย อีกอย่างไม่เคยคิดหรือสนใจเรื่องอุกาบาตตกลงพื้นโลกด้วย ​

    06-06-2011, 06:54 AM​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2011
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 8 กรกฏาคม 2554 </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย และพิษณุโลก

    อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคายบึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สระบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี

    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด

    อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล

    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ

    อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ปาฏิหาริย์คุณทวดอายุ73ปีตายแล้วฟื้น </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>รูปภาพประกอบจาก เดลินิวส์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปาฏิหาริย์คุณทวดอายุ73ปีตายแล้วฟื้น

    เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (7 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นมีคนตายแล้วฟื้น ที่บ้านเลขที่ 89 บ้านชุมแสง หมู่ 1 ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ จึงเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นพบญาติพี่น้องกำลังรุมล้อมให้กำลังใจ 'นางแนบ สายกระสุน' หญิงชราวัย 73 ปี แน่นขนัดภายในบ้าน

    ทั้งนี้ญาติบอกว่า นางแนบ ล้มป่วยด้วยโรคฝีพุพองตามร่างกายหรือโรคคุดทะราด ลักษณะลักษณะคล้ายโรคป้าวแสนปมมานานหลายปี แพทย์แผนปัจจุบันหมดทางรักษา จนต้องปล่อยให้สิ้นลมหายใจตามยถากรรมในบ้านด้วยสภาพบวมอืดตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกหลานและญาติได้เตรียมจัดงานศพ ตบแต่งสถานที่ กางเต็นท์ และนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดมาติกาบังสุกุลตามประเพณี โดยทำการมัดตราสังข์เอาไว้

    จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ของวันเดียวกัน ลูกหลานและญาติได้เปิดผ้ามัดตราสังข์ออกเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมบรรจุในโลงศพ ปรากฏว่าศพกลับเคลื่อนไหวและขยับเขยื้อนสร้างความแตกตื่นให้ทุกคนที่เห็น เหตุการณ์ หลายรายถึงกับขวัญผวาคิดว่าผีหลอก จนนางแนบได้เปล่งเสียงแหบแห้งเรียกหาลูกหลานและลุกขึ้นนั่งได้ตามปกติ ลูกหลานจึงเปลี่ยนจากงานศพเป็นงานทำบุญต่ออายุบายศรีสู่ขวัญแทน

    ทางด้านนางแนบ พอเห็นผู้สื่อข่าวก็โชว์ความแข็งแรงด้วยการยืนรำวงให้ดูเป็นขวัญตา ก่อนเล่าว่า ในช่วงนอนป่วยในบ้าน ลูกหลานได้นิมนต์พระอธิการชมพู วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านชุมแสงและเจ้าคณะตำบลชุมแสง มาทำพิธีสวดต่ออายุ ตนถามหลวงพ่อว่า “จะรอดไหม” หลวงพ่อก็บอกว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องตาย ให้นึกถึงแต่สิ่งดี ๆ เป็นมงคล เช่น การทำบุญตักบาตร บุญกุศลจะได้ส่งให้ไปในภพภูมิที่ดี จากนั้นสติก็ดับวูบไป คล้ายไปยืนอยู่ในสถานที่บางอย่าง

    ตอนนั้นไม่รู้ไปยืนอยู่ที่ไหน เจอพี่สาวชื่อ นางบึง ดาทอง ที่เสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว มาชวนให้ไปดูพระลูกชายที่กำลังผ่าตัดใน รพ.สงฆ์ ที่กรุงเทพฯ ยายไม่ไปเพราะไม่มีเงินค่ารถ นางบึง ก็เลยชวนไปดูวัด 3 แห่ง ซึ่งเป็นสถานที่เก็บกระดูกของพี่สาวและญาติผู้ล่วงลับ จำได้ว่าคือ วัดอุดม วัดบ้านขาม ที่พักสงฆ์บ่าช้า เห็นคนนุ่งขาวห่มขาวนั่งปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุข ยายไม่รู้จักใครสักคน แต่เห็นพี่สาวนุ่งขาวห่มขาวเดินเข้าไปปฏิบัติธรรมกับคนพวกนั้นด้วย”

    นางแนบ เล่าด้วยว่า จากนั้นพี่สาวก็พาไปดูชุมชน หมู่บ้านไม่รู้ว่าที่ไหน แต่คนส่วนใหญ่จะนั่งสมาธิ นุ่งขาวห่มขาวกันทั้งนั้น นานพอสมควรแล้ว ยายจึงขอพี่สาวกลับมาที่บ้านเพื่อร่วมงานบวชหลานชายคนโตในวันที่ 8 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าได้ตายไปแล้วกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

    พระอธิการชมพู เจ้าอาวาสวัดบ้านชุมแสง กล่าวว่า นางแนบเป็นคนใจบุญ ชอบตักบาตรทุกเช้าและเข้าวัดฟังเทศฟังธรรมเป็นประจำ ชอบช่วยเหลือคนอื่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงวิจารณ์ไม่ได้ เป็นความเชื่อแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่อยากเตือนพุทธศาสนิกชนทุกคนว่า มนุษย์เรานั้นประมาทไม่ได้ ความตายมาเยือนเราทุกขณะ จงหมั่นทำบุญทำความดีให้มาก ๆ สักวันบุญกุศลจะกลับมาตอบแทนเราเอง เรื่องนี้ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ตายแล้วฟื้น ซึ่งมีโอกาสน้อยและเกิดขึ้นได้ยากมาก.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ตัวเงินตัวทองเนรคุณกัดขาพระเหวอะ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>รูปภาพประกอบจาก เดลินิวส์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตัวเงินตัวทองเนรคุณกัดขาพระเหวอะ

    วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจาก รพ.อ่างทอง ว่ามีพระภิษุถูกนำส่งมารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน เนื่องจากถูกตัวเงินตัวทองกัดที่ขาเป็นแผลฉกรรจ์ หลังรับแจ้งไปตรวจสอบห้องฉุกเฉินพบแพทย์และพยาบาลกำลังช่วยกันเย็บและทำแผลให้ พระยุทธไตร หอมทรง อายุ32 ปี พระลูกวัดสำนักพุทธบวร ต.บางนา อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

    โดยที่น่องขวาถูกตัวเงินตัวทองกัดเป็นแผล ลึกราว 2 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร จำนวน 2 เขี้ยว พระยุทธไตร กล่าวว่า อาตมาเป็นพระลูกวัดอยู่สำนักสงฆ์บวร มีพระจำวัดอยู่ 2 รูป และมีแม่ชีอยู่จำนวนหนึ่ง ที่วัดได้เลี้ยงแมว ไก่ ไว้ที่วัด แต่ทุกวันเจ้าตัวเงินตัวทองซึ่งอาศัยอยู่ในบ่อน้ำภายในสำนักสงฆ์ได้ขึ้นมากินลูกแมว กินไก่จนใกล้จะหมด

    ที่สำคัญชอบเข้ามาอาละวาดทำถ้วยชามแก้วน้ำแตกเสียหาย อาตมาสงสารแมวและไก่ จึงเข้าไปจับเจ้าตัวเงินตัวทองเพื่อเอาไปปล่อยที่อื่น โดยมีแม่ชีช่วยจับแต่ตัวเงินตัวทองมีขนาดใหญ่ยาวถึง 2 เมตร ไม่ยอมให้จับแถมยังกัดที่ขาอาตมา กระชากแม่ชีจนลื่นล้มก่อนวิ่งหนีหายไป แม่ชีจึงช่วยพาอาตมาส่ง รพ.ดังกล่าว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เหมืองจีนบึ้ม-น้ำท่วมดับ8ติดใต้ดินนับร้อย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>รูปภาพประกอบจาก เดลินิวส์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เหมืองจีนบึ้ม-น้ำท่วมดับ8ติดใต้ดินนับร้อย

    วันนี้ ( 7 ก.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีว่า เกิดอุบัติเหตุเหมืองถ่านหินหลายแห่งในจีนระเบิด ที่เขตปกครองตนเองซินเจียง ทางภาคตะวันตกสุดของประเทศ เป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ติดอยู่ใต้ปล่องเหมืองหลายสิบคน เจ้าหน้าที่เผยว่า สาเหตุเกิดจากแก๊สระเบิด ขณะเกิดเหตุมีคนงานเข้ากะเกือบร้อยคน หนีขึ้นสู่พื้นดินได้ปลอดภัย 7 คน ได้รับบาดเจ็บอีกนับสิบคน


    ขณะที่อุบัติเหตุ ไฟไหม้เหมืองถ่านหินที่ เมืองเซาจ้วง มณฑลชานตง ทางภาคตะวันออกเมื่อคืนวันพุธ (6 ก.ค.) ล่าสุดในวันนี้ ตัวเลขคนงานที่ติดอยู่ใต้เหมืองลดลงเป็น 28 ราย และน้ำท่วมเหมืองถ่านหินที่มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่วันเสาร์ ยังมีคนงานติดอยู่ใต้เหมือง รอการช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัย 23 คน.


    ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมเหมือง ที่มณฑลกวางสีตั้งแต่วันเสาร์ (2 ก.ค.) ตัวเลขคนงานเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย และยังมีติดค้างอยู่ใต้เหมืองอีก 18 คน หน่วยกู้ภัยท้องที่กำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อพยายามช่วยเหลือชีวิต



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นดินไหวเขย่าญี่ปุ่นอีก 5.6 ริคเตอร์ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>วันนี้ (8 ก.ค.) สำนักข่าวเอพี รายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ว่า เกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างรุนแรง วัดได้ 5.6 ริคเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ทางเหนือของญี่ปุ่น ไม่ไกลจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในจังหวัดฟูกุชิมะ ที่กำลังประสบปัญหาจากแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

    ด้านสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐ แจ้งว่า

    สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้เมื่อเวลา 03.35 น.ของเช้าวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น หรือเวลา 01.35 น. ของวันที่ 8 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย แผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเล ลึกลงไป 45 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดฟูกุชิมะ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 83 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือประกาศเตือนภัยสึนามิ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64


    สิ่งที่เราเฝ้ามอง ใกล้เข้าแล้ว
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ อัลอาลาม ของอิหร่าน แพร่ภาพการยิงทดสอบขีปนาวุธแบบพื้นสู่ทะเลรุ่นล่าสุดของหน่วยการบินและอวกาศของกองกำลังปฏิวัติอิหร่าน
    โดยขีปนาวุธทั้ง 2 ชนิดนี้มีชื่อว่า ทอนด้า และ เปอร์เซียน กัล์ฟ ซึ่งได้ทดลองยิงที่บริเวณใกล้กับท่าอากาศยานของกรุงจาส์กทางตอนใต้ของอิหร่าน ใน 10 วันสุดท้ายของการซ้อมรบที่มีชื่อว่า Gret Prophet 6
    ทั้งนี้ ขีปนาวุธทั้ง 2 ชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อค้นหาเป้าหมายบนอากาศ มีวิถีโคจรเป็นรัศมี 1,100 ก.ม. สูง 300 ก.ม.จะถูกปล่อยจากฐานไปที่น่านน้ำสากลและทะเลโอมาน
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]

    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=480 height=390>
























    <embed width="480" height="390" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/AUwHC9SiTWw?version=3&hl=en_US" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"/></OBJECT></P>[​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    Photo:: news.cn
    แท็ก : ขีปนาวุธ, อิหร่าน




    [​IMG] กริพเพน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 7 กรกฏาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้เดินทางไปยัง กองบิน 7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทำพิธีรับมอบเครื่องบิน กริพเพน 39 ซีดี จำนวน 6 ลำ และเครื่องบินซาร์บ 340 เออีดับเบิลยูบี จำนวน 2 ลำ
    ทั้งนี้ ตามโครงการจัดซื้อเครื่องบิน กริพเพน 39 ซีดี (ระยะที่ 1) เข้าประจำการ ที่กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี โดยการรับมอบเครื่องบินกริพเพนรอบนี้เป็นการรับการส่งมอบรอบที่สองหลังจากก่อนหน้าได้มีการส่งมอบให้กับกองทัพอากาศแล้วในวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีการทำพิธีรับมอบอย่างเป็นทางพร้อมกับนิมนต์พระสงฆ์มาเจิมเพื่อเป็นสิริมงคล
    ทั้งนี้สำหรับการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน เป็นไปตามแผนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ ระยะที่ 1 ระหว่างปี 2551-2555 ได้รับอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีชุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.50 วงเงินงบประมาณ 19,000 ล้านบาท ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่กริพเพน จำนวน 6 ลำ เครื่องบินระบบแจ้งเตือนทางอากาศและเครื่องฝึกบิน 2 ลำ พร้อมอุปกรณ์ การปรับปรุงสถานที่ การฝึกอบรมและทุนการศึกษา และล่าสุดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อนุมัติโครงการจัดซื้อระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 26 ม.ค.53 ในแบบเดียวกันอีกจำนวน 6 ลำ โดยจะมีครบฝูงบิน 12 ลำในราวกลางปี 2556
     
  15. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    วันสองวันที่ผ่านมานี้ ช่วงเช้า....ผมออกจากบ้านจะไปทำงาน....ความรู้สึกเหมือนว่ามีลมเย็นๆคล้ายช่วงเวลาก่อนเข้าฤดูหนาวพัดมา....ใจก็นึกว่าเราอุปทานไปเองรึป่าวนะ...พอดีวันนี้..ได้คุยกับรุ่นน้องที่ทำงาน.....(พักคนละโซนกัน...ผมอยู่มีนบุรี...รุ่นน้องอยู่ตลิ่งชัน) เค้าบอกว่ามีความรู้สึกเหมือนกันเลย....เออ..ก็แปลกดี...ไม่ทราบท่านใดรู้สึกอย่างนี้บ้างครับ...มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าครับ..
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    สำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยรายงานว่า เกิดหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 20 ปี ที่ ทะเลทรายอะทาคามา ทางตอนเหนือของประเทศชิลี ที่ได้ขึ้นชื่อว่าแห้งแล้งที่สุดของโลก
    ซึ่ง ทะเลทรายอะทาคามา มีพื้นที่ประมาณ 105,000 ตารางกิโลเมตร ปริมาณฝนโดยเฉลี่ยต่อปี วัดได้เพียง 1 มิลลิเมตรต่อปี และบางพื้นที่ไม่มีฝนตกเลย นับตั้งแต่ปี 1570-1971 ผลการศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์พบว่า ทางไหลของแม่น้ำบางสายไม่มีน้ำไหลมากว่า 120,000 ปี
    ทั้งนี้เหตุการณ์หิมะตกดังกล่าว หนาถึง 80 เซนติเมตร ทำให้ถนนหลายสายใช้งานไม่ได้ รถยนต์จำนวนมากต้องติดค้างอยู่บนท้องถนน
    Mthai News
     
  17. Soul Collector

    Soul Collector เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    503
    ค่าพลัง:
    +610
    ที่สามพรานก็เป็นเช่นเดียวกันครับคุณปกรณ์ ผมตื่นนอนมารอใส่บาตรพระทุกวัน ก็เริ่มสังเกตความผิดปรกติของอากาศยามเช้าๆได้เหมือนกันครับ รู้สึกว่ามันเย็นๆเหมือนฝนได้ทิ้งช่วงไปแล้ว ทั้งๆที่อาทิตย์หน้าก็จะเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการ ต่างจังหวัดจะถือว่าวันเข้าพรรษาก็คือเริ่มนับหนึ่งสำหรับฤดูฝนอย่างเป็นทางการ แต่นี่แปลกมากฝนหายไปตั้งแต่หลังเลือกตั้งเสร็จแล้ว ตอนนี้อากาศร้อนมาก แดดก็แรงมากเช่นเดียวกัน ดื่มน้ำมากกว่าปรกติเลยครับผม
     
  18. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ขอบคุณครับคุณSoul Collector แปลกดีครับ ไม่ใช่ว่าหลังจากนี้ไม่เท่าไหร่กลายเป็นว่าประเทศไทยมีลมหนาวมาเยือนนะครับ...เห็นข่าวที่คุณวรเดชนำเรื่องทะเลทรายอะทาคามาทางตอนเหนือของประเทศชิลีมีหิมะตก....แสดงว่าปัจจุบันนี้อะไรที่เหนือความคาดหมายอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา....
     
  19. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    เราคงจะอุปทานไปด้วยอีกคน อากาศที่เยอรมันตอนนี้เหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิตเข้าฤดูหนาว แดดออกแค่วันสองวันพอให้รู้ว่าร้อนแล้วหนาวเหมือนเดิม คงจะเป็นเพราะเวลาเคลื่อนตัวเร็วขึ้นก็ได้ ถ้าเวลาเดินเร็วขึ้นจริงๆ เราน่าจะอยู่ซักเดือน11 เดือน12
     
  20. Soul Collector

    Soul Collector เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    503
    ค่าพลัง:
    +610
    ร้อนแบบนี้ไม่ดีกับธารน้ำแข็งที่สองขั้วโลกและการหลับไหลของภูเขาไฟใต้แผ่นดินบนโลกอย่างยิ่งครับ ตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกก็เจอกับ Flash Floods กับแลนสไลด์ซะเป็นส่วนใหญ่
     

แชร์หน้านี้

Loading...