ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. tanaa

    tanaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +14
    คิดว่าน่าสนใจติดตามเหมือนกันนะครับ ตอนนี้คุณ karan20 ได้บอกแล้วว่า ท่านผู้เตือนให้ระวังสึนามิ ที่พังงา วันที่ 29-30 กค นี้
     
  2. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7544 ข่าวสดรายวัน


    เจาะลึกหุ่นยนต์กู้ภัย ตะลุยวิกฤตการณ์'ฟูกูชิมะ'

    ศักดิ์สกุล กุลละวณิชย์


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>"แม้เพียงหุ่นพวกนี้สามารถเข้าไปเก็บข้อมูลสำคัญอะไรก็ตามออกมาได้ซักหนึ่งอย่าง หากต้องเสียหายในที่เกิดเหตุก็ถือว่าเป็นเกียรติที่สุดแล้วสำหรับหุ่นกู้ภัย"

    นี่คือคำพูดของ โรบิน เมอร์ฟี จากสถาบันพัฒนาหุ่นยนต์กู้ภัยเท็กซัส สหรัฐ กล่าวไว้ในช่วงที่นานาประเทศต่างส่งหุ่นยนต์กู้ภัยไปช่วยเหลือญี่ปุ่นยามเมื่อเกิดวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

    สำหรับเทคโนโลยีในเรื่องการพัฒนาหุ่นกู้ภัยนี้มีตั้งแต่ระดับมืออาชีพในฐานะองค์กรของรัฐ ไปจนถึงเอกชนและชมรมในมหาวิทยาลัย

    และในระดับนักศึกษานี้เอง ที่ในระดับสากลมีการจัดการแข่งขันระดับโลกเพื่อกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการยั่งยืน

    จากสนามแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลกที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ที่เพิ่งจบไป ทีมเด็กไทยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ให้ไทยได้แบบ 'เป็นไปตามความคาดหมาย'

    เนื่องมาจากคู่แข่งสำคัญอย่างอิหร่านถึงจะพัฒนาขึ้นมาดี แต่ประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ยังสู้ทีมไทยไม่ได้

    ขณะที่หุ่นยนต์จากประเทศชั้นนำอย่างญี่ปุ่นก็ไม่ได้ส่งทีม เกรดเอมาร่วมแข่งขัน เพราะต้องส่งหุ่นยนต์ทั้งหมดของทีมไปช่วยเหลือวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตน

    ทีมเกรดเอดังกล่าวมีชื่อว่า 'พิลิแกน ยูไนเต็ด' จากมหาวิทยาลัยชิบะ เอ็นจิเนียริง ซึ่งเคยส่งหุ่นร่วมชิงชัยกับตัวแทนจากไทยมาแล้วหลายสนามด้วยกัน

    การส่งหุ่นเพื่อไปรับใช้ชาติในครั้งนี้ช่วยตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับแวดวงการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยว่า หุ่นทั้งหลายเหล่านั้นสามารถใช้งานได้จริง ในสถานการณ์จริง และทำงานได้สำเร็จลุล่วงตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

    ก่อนที่จะถูกทำลายทิ้ง เพราะปนเปื้อนกัมมันตรังสีภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะเรียกว่าเป็นภารกิจ 'กามิกาเซ่' ก็ไม่ผิดนัก

    หุ่นควินซ์ (Quince) แห่งชิบะและโทโฮคุ

    ชื่อ พิลิแกน ยูไนเต็ด เป็นชื่อที่ทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชิบะ และนักศึกษาบางส่วนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีโทโฮคุใช้ในการแข่งขันหุ่นกู้ภัยระดับประเทศ แต่ชื่อที่รู้จักกันดีในประเทศญี่ปุ่นคือชื่อ 'ควินซ์' อันเป็นชื่อของตัวหุ่นยนต์ของทีมด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่อเดือนมีนาคมพ.ศ.2554 จากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศ 'ภาวะฉุกเฉินพลังงานนิวเคลียร์' และอพยพผู้อยู่อาศัยในรัศมี 20 กิโลเมตรออกจากพื้นที่

    เจ้าหน้าที่คณะกรรมการความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นออกมาระบุว่า ทางการกังวลว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่แท่งเชื้อเพลิงในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อาจหลอมละลาย ซึ่งสุดท้ายก็เป็นที่ทราบกันดีว่าแท่งเชื้อเพลิงเหล่านั้นหลอมละลายตั้งแต่สัปดาห์แรกของวิกฤตการณ์

    ขณะนั้นความต้องการข้อมูลภายในตัวอาคารเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน หน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นที่มีเทค โนโลยีหุ่นยนต์ต่างพากันจัดส่งหุ่นยนต์และทีมงานเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรของรัฐ หรือแม้แต่ระดับนักศึกษามหาวิทยาลัย

    นายเออิจิ โคยานางิ อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมควินซ์ จึงเสนอทีมเข้าร่วมทันที

    "ตอนนั้น ภารกิจของหุ่นเราคือเข้าไปตรวจสอบสภาพของน้ำที่ปนเปื้อนซึ่งท่วมอยู่ด้านล่างของอาคารเตาปฏิกรณ์ที่ 1, 2, 3 และ 5 โดยหุ่นควินซ์นอกจากจะตรวจสอบน้ำที่ปนเปื้อนได้แล้ว ยังสามารถตรวจสอบอัตราการปนเปื้อนในอากาศได้ด้วย" นายโคยานางิกล่าว

    เพื่อการนี้ นักศึกษาทุกคนของพิลิแกน ยูไนเต็ด ต้องปรับปรุงโครงสร้างบางส่วนของหุ่นให้เหมาะสมกับงาน โดยปรับปรุง 3 ส่วนหลัก ได้แก่

    1.ปรับปรุงระบบควบคุม เพิ่มแรงส่งสัญญาณให้สามารถควบคุมได้จากระยะที่ไกลมากขึ้น ทีมนักศึกษาใช้วิธีเปลี่ยนไปใช้สายสัญญาณแบบเคเบิล ทำให้ระยะไกลสุดของการบังคับหุ่นอยู่ที่ 700 เมตร

    2.เพิ่มอุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำ และชุดตรวจสอบปริมาณรังสี

    3.เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของตัวถังหุ่นยนต์ เพราะแต่เดิมหุ่นควินซ์ตัวนี้มีน้ำหนัก 27 ก.ก. แต่อุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งเพิ่มเข้าไปจะทำให้มันมีน้ำหนักรวม 50 ก.ก. จึงต้องมีการปรับปรุงสมรรถนะเพิ่มเติม

    ส่วนปัญหาเรื่องสิ่งกีดขวางในตัวอาคารไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับหุ่นยนต์ประเภทนี้ เพราะในสนามแข่งขันระดับโลกนั้นโหดหินกว่ามาก

    "การปรับปรุงหุ่นยนต์ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะนักศึกษาทุกคนช่วยกันประกอบ 'ควินซ์' กันมาตั้งแต่เริ่มแรก มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทีมครับ" โคยานางิ กล่าว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รวมพลังหุ่นกู้ภัยทั่วโลก

    ลำพังแค่หุ่นจากทีมพิลิแกน ยูไนเต็ด คงไม่เพียงพอกับหายนะที่เผชิญ ดังนั้น หุ่นยนต์จากทั่วโลกจึงเดินทางมาร่วมภารกิจดังกล่าวด้วย

    ก่อนหน้าหุ่นยนต์ควินซ์จากชิบะจะมาถึง หุ่นตัวแรกที่เข้าไปในอาคารโรงไฟฟ้าคือหุ่นยนต์ตรวจสอบสภาพการปนเปื้อนรังสีโดยเฉพาะชื่อ 'โมนิโรโบ'

    เจ้าหุ่นโมนิโรโบพัฒนาขึ้นโดยคณะกรรมการความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น อันเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเอง เป็นหุ่นขนาดใหญ่ ติดตั้งกล้องแสดงภาพสามมิติ เครื่องตรวจวัดรังสี เครื่องตรวจจับความร้อน/ความชื้น โมนิโรโบมีระยะควบคุมไกลถึง 1 ก.ม. มีจุดเด่นสำคัญที่มีเกราะหนาป้องกันรังสี

    ต่อมาเป็นระบบฉีดน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ ที่ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งต่อพ่วงเข้าไปในรถดับเพลิงนั้นอยู่ในระดับเดียวกับหุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมคันแรกที่ส่งเข้าไปในโรงไฟฟ้าคือ 'เครื่องฉีดน้ำเรนโบว์ 5' ของสำนักงานดับเพลิงญี่ปุ่น

    แต่ภายหลังมีรายงานเพลิงไหม้เพิ่มขึ้นในเตาปฏิกรณ์อาคารอื่นๆ ทางการออสเตรเลียจึงส่งเครื่องฉีดน้ำพลังสูงมาช่วย เป็นของบริษัท เบ็กเทล มีความสามารถฉีดน้ำได้ถึง 9 พันลิตรต่อนาที แถมฉีดได้ไกลราว 100 เมตร

    สำหรับประเทศที่ส่งหุ่นกู้ภัยมาเยอะที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา เป็นองค์กรชื่อ 'ไอโรบอต คอร์โปเรชั่น' มีสำนักงานตั้งอยู่ที่รัฐแมสซาชูเส็ตตŒ ส่งมาทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 2 ตัว รุ่นเล็กเรียกว่า 驖 แพ็กบอตส์' ส่วนรุ่นใหญ่ชื่อ 鬞 วอร์ริเออร์ส'

    หุ่นแพ็กบอตส์มีรูปร่างคล้ายหุ่นควินซ์ และคล้ายกับหุ่นที่ใช้แข่งขันกันในระดับโลก เพียงแต่แพ็กบอตส์เป็นหุ่นที่ผลิตระดับอุตสาหกรรม ใช้กู้ภัยจริงๆ

    ตามปกติ หุ่นทั้ง สองประเภทของ ไอโรบอตสร้างมาเพื่อใช้ในงานเก็บกู้วัตถุระเบิด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น

    อย่างไรก็ตาม แม้หุ่นจากสหรัฐทั้ง 4 จะทรงประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อจำกัดด้านเครื่องรับส่งสัญญาณ ดังนั้น ภารกิจสำรวจน้ำขังใต้อาคารจึงตกเป็นของหุ่นควินซ์ จากทีมระดับนักศึกษาญี่ปุ่นที่มีระบบส่งสัญญาณดีกว่านั่นเอง

    นอกจากที่กล่าวมา ยังมีหุ่นกู้ภัยสมรรถนะสูงจากกลุ่มบริษัท อินทรา (INTRA) ประเทศฝรั่งเศสส่งมาเป็นหุ่นสำรองอีก 3 ตัว แต่สุดท้ายแล้วไม่ได้ใช้งาน ได้แก่ หุ่นรุ่น อีเรส (ERASE) เป็นหุ่นขนาดใหญ่หนัก 6 ตัน อีรอส (EROS) หุ่นขนาดเล็กใช้สำรวจภายในอาคาร และ อีเรลต์ (ERELT) หุ่นควบคุมระยะไกลหลายกิโลเมตร

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนสำหรับหุ่นยนต์ช่วยงานมนุษย์ในลักษณะกู้ภัยและสำรวจภายในอาคาร ยังไม่นับรวม 'หุ่นบิน' ทั้งหลายที่ถูกส่งมาช่วยเพื่อเก็บข้อมูลรอบตัวอาคารอีกหลายตัว

    แต่ก็น่าจะเพียงพอต่อการเผยให้เห็นต่อคุณประโยชน์ของการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์กู้ภัยได้ไม่มากก็น้อย!





    'NIIT BLUE' ทีมหุ่นกู้ภัยน้องใหม่เลือดซามูไร

    เมื่อทีมที่ดีที่สุดของประเทศอย่างพิลิแกน ยูไนเต็ด ไม่ได้เดินทางมาร่วมแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก 2011 เพราะติดภารกิจเพื่อชาติ

    ดังนั้น ทีมประสบการณ์น้อยกว่าอย่าง นิตบลู (NIIT BLUE) จากมหาวิทยาลัยนีงาตะ จึงเป็นตัวแทนของประเทศมาร่วมแข่งขันแทน

    ทีมนิตบลู มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน ส่งหุ่นยนต์ชื่อ 'บลู-อาร์ 3' (BLUE-R3) ลงสนามพร้อมรูปร่างหน้าตาที่แปลกกว่าหุ่นจากชาติอื่น เพราะดูไปแล้วคล้ายงูมากกว่าหุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยสายพานซึ่งเป็นแบบนิยม

    นายเคนทาโร่ ชิมะโอกะ หนึ่งในสมาชิกของนิตบลู กล่าวว่า ทีมของตนเพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกจึงไม่หวังอะไรมาก มาเป็นตัวแทนเพื่อนๆ ทีมพิลิแกน โดยส่วนตัวรู้จักกับสมาชิกทีมพิลิแกนหลายคน และผิดหวังเหมือนกันที่ไม่ได้แข่งขันพร้อมเพื่อนจากญี่ปุ่น

    "ปีนี้ลงแข่งครั้งแรกครับ เลยทำคะแนนได้ไม่ค่อยดี ด้านหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาก็ไม่สามารถข้ามอุปสรรคของสนามได้ คงต้องกลับไปออกแบบใหม่ ส่วนปีหน้าทีมนิตบลูจะส่งหุ่นเข้าร่วมการแข่งขันอย่างแน่นอน" ชิมะโอกะ กล่าว

    คงต้องจับตาดูกันอีกครั้งว่าทีมน้องใหม่เลือดบูชิโดทีมนี้จะส่งหุ่นรูปทรงแปลกแหวกแนวเพียงใดในการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย 2012!

    ตรึงชายแดนสอดส่องคนแปลกหน้า



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    ตรึงแนว-กำลังตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 2 อำเภอ ด้านอำเภอบ้านกรวด และละหานทราย จ.บุรีรัมย์ แม้เหตุการณ์ยังปกติ ฝ่ายปกครอง ชรบ.จับตาสอดส่องคนแปลกหน้าที่จะเข้ามาล้วงข้อมูลความลับด้านความมั่นคงในพื้นที่

    </TD></TR></TBODY></TABLE>บุรีรัมย์ - นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าขณะนี้เหตุการณ์โดยรวมยังเป็นปกติ ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีการเสริมกำลังทหาร แต่ด้านชายแดน 2 อำเภอ มี อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย ก็ยังมีการตรึงกำลังทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยตามปกติอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นทางจังหวัดยังได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน รวมไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้เกิดการตื่นตระหนกมากจนเกินไป และยังให้ร่วมกันสอดส่องดูแลบุคคลแปลกหน้าหรือสายลับ ที่จะลักลอบเข้ามาล‰วงลับข้อมูลทางด้านความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเข้มงวดด้วย หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบ และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

    นายธานี กล่าวอีกว่า หากเกิดเหตุปะทะของกองกำลังทั้งสองฝ่ายขึ้น จะต้องอพยพเคลื่อนย้ายประชาชน เข้าไปยังจุดที่ปลอดภัยได้ทันท่วงที


    ตูบยักษ์

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>มองทีแรกนึกว่าลูกวัว แต่นี่คือ เจ้าจอร์จ สุนัขพันธุ์เกรตเดน ที่ตัวใหญ่ที่สุดในสามโลก

    เจ้าของความสูง 2 เมตร น้ำหนัก 1,149 กิโลกรัม บ้านอยู่แอริโซนา เจ้าของบอกว่า มันน่ารัก เรียบร้อยมาก

    ใครได้มาไว้เฝ้าบ้าน นอกจากโจรขโมยจะไม่กล้าแล้ว บรรดาเพื่อนฝูงในละแวกบ้านยังแอบกลัวด้วยน่ะสิ







    พระอาจารย์ทองเฒ่า ต้นตำรับสำนักเขาอ้อ

    คอลัมน์ อริยะโลกที่6


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"วัดเขาอ้อ" เป็นวัดเก่าแก่โบราณวัดหนึ่ง ที่มีความสำคัญทางด้านศิลปะและโบราณคดี ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

    นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อหลายต่อหลายรูป ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องไสยศาสตร์ วิชาการ เวทมนตร์ และคาถาต่างๆ จึงได้รับการรักษาถ่ายทอดสืบต่อกันมามิได้ขาดสาย จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกสารทิศ

    เชื่อกันว่าศิษย์จากสำนักวัดเขาอ้อที่ได้เล่าเรียนวิชา และผ่านพิธีกรรมต่างๆ ทางไสยศาสตร์ที่กล่าวมาแล้วนั้น ย่อมมีพลังร่างกายที่คงกระพัน

    สำนักวัดเขาอ้อ ตามตำนานกล่าวว่า ภูเขาอ้อเป็นบรรพตแห่งพราหมณ์หรือฤาษีผู้ทรงวิทยาคุณใช้เป็นที่พำนักเพื่อบำเพ็ญพรตและตั้งสำนักถ่ายทอดวิชาความรู้แก่ผู้แสวงหาวิชาเพื่อใช้ในการปกครองและเลี้ยงชีพ ตามตำราพระธรรมศาสตร์ ตำราอาถรรพเวท ตำราพิชัยสงครามและอายุรเวท

    ครั้นต่อมาเมื่ออิทธิพลของพราหมณ์ลดบทบาทลง วิชาของเขาอ้อได้ถูกถ่ายทอดสู่พระภิกษุ

    กล่าวสำหรับอดีตเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อที่พอสืบค้นประ วัติได้บ้าง คือ "พระครูสังฆวิจารย์ฉัตรทันต์บรรพต" (ทองเฒ่า) แต่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อใดนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานชาวบ้านนิยมเรียกท่านว่า "พ่อท่านเขาอ้อ"

    พระอาจารย์ทองเฒ่า ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตำรับสำนัก ตักกสิลาเขาอ้อ ถือเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังทางวิทยาคมไสยศาสตร์ และแพทย์แผนโบราณ จนเป็นที่เคารพนับถือยำเกรงของคนทั่วไป

    กล่าวว่าตรงศีรษะของพระครูสังฆวิจารย์ฉัตรทันต์บรรพต หรือพระอาจารย์ทองเฒ่า มีเส้นผมสีขาวซึ่งไม่สามารถโกนหรือตัดขาดได้

    อัตตโนประวัติ พระครูทองเฒ่า สืบค้นได้จากคำบอกเล่า ของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ยังจะพอจดจำกันได้บ้างว่า พื้นเพของท่านเป็นชาวบ้านสำนัก กอ ต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง บิดานั้นไม่ทราบชื่อ ส่วนมารดาชื่อ นางรอด ตัวของท่าน ทองเฒ่า เป็นพี่คนโต และมีน้อง 2 คน เป็นชายและหญิง ครอบครัวมีอาชีพทำนา

    ในการอุปสมบทจะเป็นเมื่อใด ใครเป็นพระอุปัชฌาย์ ตลอดจนพระกรรมวาจาจารย์และพระอนุสาวนาจารย์ หาทราบไม่ แต่มีเรื่องเล่ากันว่า ก่อนที่ท่านจะบวชได้ล้มป่วยมีอาการหนักมาก จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานบนบานศาลกล่าวว่า หากหายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจะบวชเป็นการถวายแก้บน

    หลังจากนั้นไม่นานอาการป่วยไข้ก็ทุเลาเบาบาง และหายไปในที่สุดอย่างน่าอัศจรรย์

    ซึ่งต่อมาได้อุปสมบทตามที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้ และได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์เอียดเหาะได้ วัดดอนศาลา ซึ่งเป็นศิษย์สายสำนักวัดเขาอ้อ เป็นที่เล่าขานถึงวิชาพุทธาคมของพระอาจารย์เอียดเหาะได้ว่า เหตุที่ท่านมีสมญานามเช่นนั้นสืบเนื่องมาจาก ทุกวันพระ 8 ค่ำ และ 15 ค่ำ พระอาจารย์เอียดเหาะได้ จะเหาะไปบำเพ็ญภาวนาในถ้ำที่วัดเขาอ้อเป็นประจำ

    ชาวบ้านหลายคนได้พบเห็นเป็นประจักษ์ต่อสายตา จึงได้ขนานนามท่านว่า พระอาจารย์เอียดเหาะได้

    กล่าวสำหรับพระครูสังฆวิจารย์ฉัตรทันต์บรรพต (ทองเฒ่า) ได้ชื่อว่ามีตบะบารมีสูงส่งทีเดียว และเป็นผู้ที่เข้มงวดกวดขันกับบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่ง หากพบเห็นว่าทำสิ่งใดไม่ถูกต้องก็จะตำหนิตักเตือน ทั้งนี้ก็ด้วยความปรารถนาดีที่อยากให้ศิษย์ของท่านได้ดีในวิชาความรู้

    ในส่วนของมารดาของพระครูสังฆวิจารณ์ฉัตรทันต์บรรพต (พระอาจารย์ทองเฒ่า) ในช่วงบั้นปลายของชีวิตได้บวชชีที่วัดเขาอ้อ โดยพระอาจารย์ทองเฒ่าปลูกกุฏิให้พำนักอยู่ใกล้ๆ กับกุฏิของท่าน เพื่อสะดวกในการปรนนิบัติตามหน้าที่ของบุตรผู้กตัญญูตราบจนสิ้นอายุขัย

    สมณศักดิ์ราชทินนามพระครูสังฆวิจารณ์ฉัตรทันต์บรรพต เจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือ ได้รับพระราชทานในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ด้วย

    พระอาจารย์ทองเฒ่า ได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อปี พ.ศ. 2470 ขณะอายุได้ 78 ปี

    สิ่งหนึ่งที่เหลือไว้สำหรับให้รำลึกถึง คือ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น นอกเหนือจากพิธีกรรมของสำนักวัดเขาอ้อ คือ พิธีอาบว่านแช่ยา พิธีหุงข้าวเหนียว พิธีป้อนน้ำมันงา

    ซึ่งในสมัยท่านเป็นพิธีกรรมที่เข้มขลังเป็นอย่างยิ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2011
  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    26 ก.ค. 54


    เวลาเหลือน้อย-------อย่าปล่อยเลยไป
    ต้องเตรียมเอาไว้-----มีภัยได้กิน
    อย่าคิดแทงกั๊ก-------กับดักมากจริง
    ชีวิตแดดิ้น-----------จะสิ้นทั้งครัว

    รูเล็ตวิ่งรอบ----***--จะจอดตรงไหน?
    แจ๊คพอตที่ใด?----*--ไม่รู้จริงๆ
    ควรรีบเตรียมการ------อย่ามัวแอบอิง
    ชีวิตถูกทิ้ง----****--จะไม่ทันกาล

    พอรู้คร่าวๆ----***--เที่ยวป่าวประกาศ
    ให้ท่านได้ทราบ------เอาไว้เป็นแนว
    ก่อนภัยจะมา----**--จะได้รีบแจว
    หรือจะกินแห้ว----*--เมื่อไม่ได้ไป



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โมร็อกโก..เครื่องบินซี 130 ตก ตายกว่า 70 คน

    [​IMG]

    เกิดเหตุเครื่องบินขนส่งทางทหาร ซี-130 ของกองทัพอากาศโมร็อกโก พุ่งชนภูเขาในสภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 78 คน มีผู้รอดชีวิต 3 คน นับเป็นอุบัติภัยทางอากาศที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของโมร็อกโกในรอบหลายปี

    สำนักข่าวแห่งชาติ MAP ของโมร็อกโก รายงานว่า จุดที่เครื่องบินตกอยู่ในเขตหนึ่งทางตอนใต้ ใกล้กับเขตความขัดแย้งซาฮาร่าตะวันตก นายคาเล็ค นาซีรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารนิเทศของโมร็อกโก กล่าวว่า กองทัพเชื่อว่ามีผู้เสียชีวิต 78 คน แต่การค้นหายังดำเนินต่อไป เพื่อหาศพทั้งหมดให้ได้

    สำนักข่าว MAP รายงานว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนมีอาการสาหัส และว่าเครื่องบินลำนี้บรรทุกทหาร 60 คน พลเรือน 12 คน และลูกเรือ จำนวน 9 คน รวม 81 คน แถลงการณ์ของกองทัพอากาศโมร็อกโก ระบุว่า ขณะนี้พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 42 ศพ

    สำนักข่าว MAP รายงานว่า เครื่องบินตกเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย จุดที่ตกอยู่ห่างจากเมืองกูเอมีม ทางตอนใต้ของโมร็อกโกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 10 กิโลเมตร เครื่องบินตกขณะเตรียมลงจอดที่ฐานทัพอากาศกูเอลมีม MAP รายงานว่า สาเหตุมาจากสภาพอากาศเลวร้าย

    นายนาซีรี รัฐมนตรีสารนิเทศ เปิดเผยว่า เครื่องบินกำลังเดินทางจากเมืองดักลา ในเขตซาฮาร่าตะวันตก ที่มีกรณีพิพาท เพื่อมุ่งสูงเมืองกีนีตรา ทางภาคเหนือ และกำลังจะแวะพักที่เมืองกูเอลมีม ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงราบัต นครหลวงของโมร็อกโก ไปทางตะวันตกเฉียงใต้กว่า 600 กิโลเมตร และอยู่เหนือเขตซาราตะวันตกพอดี และอยู่ห่างจากชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเพียงไม่กี่สิบกิโลเมตรเท่านั้น

    โมร็อกโก เข้ายึดครองเขตซาฮาราตะวันตกที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ในปี 2522 เขตซาฮาราตะวันตก เป็นอดีตอาณานิคมของสเปน ชาวซาฮาราวี ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของเขตซาฮาราตะวันตก ต้องการจะสถาปนาเขตนี้เป็นรัฐเอกราชของพวกเขา กองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ ที่เรียกย่อๆว่า MINURSO อยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ปี 2534 และสหประชาชาติเรียกร้องให้มีการลงประชามติขึ้นที่นั่น แต่โมร็อกโกเสนอความเป็นอิสระในการปกครองตนเอง ที่มากขึ้นกับประชาชนประมาณครึ่งล้านคน ที่อาศัยอยู่ในที่ราบกลางทะเลทราย ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างเบาบางของเขตซาฮาราตะวันตก

    ลักษณะภูมิประเทศของเขตกูเอลมีม จะเป็นทะเลทรายโอเอซิส และภูเขา ที่มีหุบเขาและเหวลึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า ANTI-ATLAS ซึ่งเป็นการแผ่ขยายของเทือกเขาแอตลาส ที่พาดผ่านโมร็อกโก เขตนี้ยังมีภูมิประเทศเป็นเขตชายฝั่งที่ถูกขนานนามว่า WHITE BEACHES OF GUELMIM ที่มีชายหาดในเขตตันตัน ที่อยู่ข้างเคียง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    อาร์เจนติน่า..พายุถล่มบัวโนสไอเรส

    [​IMG]

    เกิดเหตุพายุรุนแรงพัดผ่านกรุงบัวโนสไอเรส นครหลวงของอาร์เจนติน่า ทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง และลูกเห็บตกอย่างหนัก ส่งผลให้สายไฟฟ้าขาด ต้นไม้โค่นล้ม และป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ปลิวไปตามลม

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ในเขตปาเลร์โม ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านกาแฟ โรงแรมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังครืนลงมาไม่กี่ชั่วโมงหลังพายุพัดผ่าน พายุเริ่มพัดผ่านกรุงบัวโนสไอเรส เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยความเร็วลมวัดได้ระหว่าง 60 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    หิมะตกที่แอฟริกาใต้ ส่วนอินเดียเกิดน้ำท่วม

    [​IMG]

    เกิดสภาพอากาศเลวร้ายในหลายประเทศ โดยเฉพาะที่อินเดีย เกิดฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วม และ แอฟริกาใต้ เผชิญกับหิมะตกหนัก ทำให้ต้องปิดถนนหลักๆ หลายสาย

    ที่เมืองอีสเทิร์น เคป ของแอฟริกาใต้ ขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง หลังจากเกิดหิมะตกลงมาอย่างหนัก อาคารบ้านเรือน ต้นไม้และถนนหนทาง ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาทึบ ทำให้ต้องปิดการจราจรบนถนนสำคัญหลายสาย เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันก็เตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการขับรถ เนื่องจากถนนลื่น ทั้งนี้มีรายงานเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลายจุด ในพื้นที่ที่เกิดหิมะตกหนัก และคาดกันว่าทั้งเมืองอีสเทิร์น เคป และอีกหลายเมือง จะมีหิมะตกหนักลงมาอีกในช่วงคืนนี้ ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิก็จะลดต่ำลงตามไปด้วย

    ขณะเดียวกัน ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในเขตอัลลาฮาบัด ในจังหวัดอุตระประเทศ รวมไปถึงอีกหลายพื้นที่ของประเทศ โดยระดับน้ำในแม่น้ำคงคา และ ยมุนา ก็เพิ่มสูงขึ้น เอ่อท้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องทยอยอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย จากระดับน้ำในแม่น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ล่าสุดได้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการ เพื่อควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทั้งนี้รายงานประชาชนหลายพันคนที่เผชิญกับน้ำท่วม ได้ทยอยอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    แอฟริกาใต้..หิมะตกหนักผิดปกติ

    [​IMG]

    หิมะที่ตกหนักผิดปกติ ที่ปกคลุมหลายพื้นที่ของแอฟริกาใต้ ทำให้การคมนาคมขนส่งดำเนินไปอย่างเชื่องช้า รถไฟต้องหยุดวิ่งให้บริการ และผู้ขับขี่ยวดยานหลายพันคนต้องติดค้างหลังทางหลวงหลายสายถูกปิด

    ซิซวู เอ็นดโลวู คนขับรถบรรทุกที่ติดอยู่บนถนนในเมืองเดอร์บัน ของมณฑลเคปตะวันออก ร้องทุกข์ว่า ผู้ขับขี่ยวดยานไม่ได้รับข่าวคราวความคืบหน้าใดๆหลังติดอยู่ในการจราจรนานหลายชั่วโมง ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ทุกคนไม่มีอาหาร ไม่มีอะไรทำ สิ่งที่ทำได้ก็คือ การนั่งรอ

    พายุหิมะยังมาพร้อมกับลมแรง ที่ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นกับการเดินเรือทะเล และทำให้การขนส่งทางอากาศล่าช้า กองทัพต้องส่งเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งไปช่วยดึงสมาชิกลูกเรือขึ้นมาจากเรือสินค้าลำหนึ่งที่เกยตื้นอยู่นอกชายฝั่งตะวันออก ปกติแล้ว แอฟริกาใต้จะได้รับหิมะปีละครั้ง หรือ 2 ครั้ง ตามส่วนต่างๆของประเทศ แต่ในปีนี้พายุหิมะพัดถล่มส่วนใหญ่ของซีกตะวันออกของประเทศ ซึ่งตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา เกิดหิมะตกหนักถึง 60 เซนติเมตร ในบางเขต

    เจ้าหน้าที่ขนส่งต้องปิดส่วนต่างๆของทางหลวงสายสำคัญหลายสาย ซึ่งก็รวมถึงเส้นทางที่มีผู้สัญจรไปมาจากระหว่างนครโจฮันเนสเบิร์ก กับเมืองท่าเดอร์บัน สำคัญริมชายฝั่งตะวันออก ทางหลวงสาย N3 ระหว่างนครโจฮันเนสเบิร์ก กับมณฑลควาซูลู เนทัล ถูกปิดจากด่านค่าผ่านทางวิลเก้ ใกล้กับเมืองวิลเลียร์ส ไปจนถึงด่านค่าผ่านทางตูเกล่า ที่เมืองแล็ดซีมิธ คาดว่าหิมะจะตกหนักต่อไปในหลายส่วนของแอฟริกาใต้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    ยูเอ็นวิตกภัยแล้งโซมาเลีย

    [​IMG]

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แสดงความวิตกกังวลถึงสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง ที่โซมาเลียกำลังเผชิญ ซึ่งทำให้เด็กเสียชีวิตวันละ 40-50 คน เนื่องจากขาดสารอาหาร

    นาย Peter Wittig เอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธานของคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาชาติประจำเดือนนี้ ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่นครนิวยอร์คว่า หลังจากที่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ด้านมนุษยชนในโซมาเลียของ หน่วยงานความร่วมมือกิจการมนุษยชน หรือ โอซีเอชเอ. เมื่อวานนี้ ในที่ประชุมคณะมนตรีฯ ได้แสดงความวิตกกังวลถึงผลกระทบของสถานการณ์ภัยแล้ง ในเขต Bakool และ Lower Shabelle ทางตอนใต้ของโซมาเลียเป็นอย่างมาก รวมไปถึงสถานการณ์ขาดแคลนสารอาหารของประชาชนในหลายพื้นที่ของแอฟริกาด้วย

    อย่างไรก็ตามในที่ประชุมรู้สึกยินดีที่นานาชาติต่างระดมให้ความช่วยเหลือ อย่างเช่นการจัดประชุมฉุกเฉินขององค์การอาหารและเกษตรกรรม ที่กรุงโรม ในวันนี้ เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง แต่อีกเรื่องที่ยังคงวิตกกังวล คือเงินกองทุนที่ยังขาดแคลน และได้เรียกร้องให้ประชาคมโลก ส่งความช่วยเหลือและหาทางป้องกันภัยแล้ง เพื่อไม่ให้สถานการณ์ในโซมาเลีย เลวร้ายลงไปอีก

    ทั้งนี้หลายประเทศในแอฟริกาตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นเคนยา,เอธิโอเปีย , โซมาเลีย, เอริเทรีย และซูดานใต้ กำลังเผชิญภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี และมีประชาชนราว 11 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือ และในแต่ละวัน มีพ่อแม่ อุ้มลูกมานั่งรอที่โรงพยาบาล เพื่อให้หมอช่วยชีวิตลูกอยู่ภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ซึ่งรายงานระบุว่า ในแต่ละวัน มีเด็กเสียชีวิตจากขาดแคลนสารอาหารมากถึง 40-50 คนเลยทีเดียว

    ขณะนี้สหประชาชาติ กำลังพยายามอย่างหนักในการระดมทุน 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    ฟิลิปปินส์..พายุโซนร้อนนกกระเต็นพัดถล่มตาย 10 คน

    [​IMG]

    พายุโซนร้อนนกกระเต็นพัดถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 10 รายและสูญหาย 10 คน

    อิทธิพลของพายุโซนร้อนนกกระเต็น (Nockten) ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักที่จังหวัดอัลเบ โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงถึงหน้าอก ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำเรือและรถบรรทุกทหาร เข้าไปช่วยอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย ขณะที่ปศุสัตว์จำนวนมากถูกปล่อยทิ้งให้ติดน้ำท่วม เพราะอพยพหนีไม่ทัน

    ทางการฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตือนภัยในพื้นที่ 30 จังหวัดทางเหนือ และตอนกลางของประเทศ ขณะที่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 10 ราย และสูญหาย 10 คน หลังจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากไฟฟ้าดับ และมีการระงับเที่ยวบินภายในประเทศ เช่นเดียวกับบริการเรือข้ามฟากด้วย

    ขณะนี้พายุนกกระเต็นซึ่งมีความเร็วลม 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะไปถึงจังหวัดเคซอน ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ในช่วงเช้าวันนี้ ทางการเตือนประชาชนให้ระวังน้ำท่วมและดินถล่ม

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.5 KB
      เปิดดู:
      2,160
    • 1311659124.jpg
      1311659124.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.4 KB
      เปิดดู:
      2,137
    • 1311659058.jpg
      1311659058.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.2 KB
      เปิดดู:
      2,126
    • 1311725585.jpg
      1311725585.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.1 KB
      เปิดดู:
      2,113
    • 1311722837.jpg
      1311722837.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.7 KB
      เปิดดู:
      2,124
    • 1311725333.jpg
      1311725333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.8 KB
      เปิดดู:
      2,137
  5. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7545 ข่าวสดรายวัน


    ชี้หนุ่มนอร์เวย์ฆ่าหมู่-วิกลจริต




    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    คุกหรู- สภาพห้องขังภายในเรือนจำฮัลเดน ของนอร์เวย์ ที่ซึ่งนายอันเดอร์ส เบรวิก ถูกคุมขัง เพื่อรอการไต่สวนอีกรอบในวันที่ 22 ส.ค. โดยห้องขังในเรือนจำได้ชื่อว่าหรูหราติดอันดับโลก เพราะมีทั้งทีวีจอแบน ห้องน้ำส่วนตัว และหน้าต่างเปิดรับแสงอาทิตย์ (เดลี่เมล์)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 26 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า นายไกร์ ลิปเพอสตัด ทนายความของอันเดอร์ส เบรวิก วัย 32 ปี ผู้ก่อคดีสังหารหมู่ 76 ศพ ในนอร์เวย์ แถลงว่า ลูกความของตนมีลักษณะวิกลจริต เกลียดชังทุกคนที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตย คิดว่าการก่อการครั้งนี้เริ่มต้นสงครามตามที่ตั้งใจไว้แล้ว และจะดำเนินต่อไปอีก 60 ปี จนสุดท้ายจะได้ชัยชนะ นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีเครือข่ายก่อการในนอร์เวย์ อีก 2 สาขา และมีอีกมากมายในต่างประเทศ แต่ไม่บอกว่าที่ใด

    "เขาคิดว่าเขาคงถูกสังหารหลังจากวางระเบิดในกรุงออสโล และหลังจากยิงกราดเหยื่อบนเกาะ อูโทย่า ทั้งยังคิดไปว่าจะถูกฆ่าระหว่างการดำเนินคดี" ทนายความกล่าว เมื่อนักข่าวถามว่า ผู้ต้องหา แสดงความรู้สึกใดๆ หรือไม่ที่กระทำต่อเหยื่อเยาวชน นายลิปเพอสตัด กล่าวว่า "ไม่เลย"
    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    ไม่รู้สึก-เด็กหญิงนอร์เวย์ถือดอกไม้เตรียมวางลงที่หน้ามหาวิหารในกรุงออสโลเพื่อไว้อาลัย แก่เหยื่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วางระเบิดและกราดยิง 76 ราย ทั้งประเทศตกอยู่ในบรรยากาศเศร้าโศก แต่นายอันเดอร์ส เบรวิก (ภาพเล็ก) กลับให้การว่าไม่รู้สึกใดๆ เมื่อ 26 ก.ค

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ก่อนหน้านี้ นายเบรวิกให้การต่อศาลว่า ลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 22 ก.ค.จริง แต่เพื่อปกป้องนอร์เวย์และยุโรปตะวันตกจากการรุกรานของมุสลิมซึ่งพรรคแรงงานนอร์เวย์ รวมถึงเยาวชนที่สังกัด พรรคต้องรับผิดชอบ โดยตนเองเตรียมใช้ชีวิตระยะยาวในคุกไว้แล้ว

    ด้านนายเยนส์ เบรวิก พ่อของนายเบรวิกที่ปัจจุบันอยู่ในฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกน่าจะจบชีวิตตนเองเสียดีกว่าไปฆ่าผู้อื่น ตนยังคิดไม่ออกว่าอะไรเปลี่ยนให้ลูกกลายเป็นคนชั่วร้ายแบบนี้

    ส่วนชาวนอร์เวย์ยังคงเดินทางไปวางดอกไม้ไว้อาลัยให้เหยื่อที่หน้ามหาวิหารในกรุงออสโล ขณะที่รัฐบาลนอร์เวย์ปกป้องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ หลังถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง นายคนุต สโตร์เบอร์เก็ต รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตำรวจทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว
     
  6. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    อนุโมทนาบุญครับ

    เร่งตั้งมั่นในศีล 5 พรหมวิหาร 4
    ทำบุญถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์
    เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทย ปกปักรักษาประเทศไทยครับ
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,700
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ทุกคน คือ ผู้ปฏิบัติ ****

    มี พรหมวิหาร ๔ เป็นพื้นฐาน
    มี สัจจะ เป็นผู้นำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔
     
  8. Enzo

    Enzo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +60
    อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดครับ เราก็ได้แต่เฝ้ารอ ว่ามันจะแตกเมื่อไร ถ้ามันแตก ก็คือ คราวซวย ของคนทุกคน มันจะแตก ก็เพราะน้ำมือมนุษย์นี่แหละ ไม่ได้แตกเพราะภัยธรรมชาติหรอก ภัยธรรมชาติ มันก็แค่ส่วนนึง มนุษย์เรานี่แหละ ไปเร่งมัน ให้เกิดไวขึ้น และรุนแรงขึ้น ทุกวันนี้ ก็ขอให้ใช้ชีวิตกันอย่างไม่ประมาท ละกันครับ ^^
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภัย อันตราย อุบัติเหตุ
    โดย กาญจนา นาคสกุล

    [​IMG]

    ภัย

    แปลความว่า สิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินเงินทอง ร่างกาย หรือชีวิต คำว่า ภัย มาจากคำภาษาบาลีสันสกฤตว่า ภย แปลว่า ความกลัว ในภาษาไทยใช้หมายถึงสิ่งที่ก่อให้เกิดความทุกข์ยาก ความไม่สบายทั้งทางกายและทางใจ ภัยที่เกิดแก่มนุษย์ มีทั้งที่เป็นภัยธรรมชาติ และภัยที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง ภัยสงคราม ภัยจากการก่อการร้าย การแย่งชิงอำนาจ การรุกรานกัน ล้วนเป็นภัยที่มนุษย์สร้างขึ้น ปัจจุบันสิ่งที่เป็นภัยแก่มนุษย์ขยายความไปถึงสิ่งที่ทำให้มนุษย์ไม่มีความสงบสุขด้วย เช่น ภัยสังคม ภัยเศรษฐกิจ คำที่ใช้เรียกภัยมีอยู่หลายคำ เช่น อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ธรณีพิบัติภัย ทุพภิกขภัย หายนภัย ฉาตกภัย โจรภัย

    อัคคีภัย แปลว่า ภัยจากไฟ ไฟไหม้ เมื่อเกิดอัคคีภัยย่อมทำให้เสียทรัพย์สิน และอาจทำให้เสียชีวิตด้วย

    อุทกภัย แปลว่า ภัยจากน้ำ คือ น้ำท่วม

    วาตภัย แปลว่า ภัยจากลม ภัยจากพายุ พายุหมุน ไต้ฝุ่น

    ธรณีพิบัติภัย แปลว่า ภัยจากแผ่นดินทำลาย ภัยจากแผ่นดินไหว เมื่อแผ่นดินไหวเกิดในทะเล ทำให้คลื่นธรรมดากลายเป็นคลื่นยักษ์ และเกิดจากคลื่นตามมาที่เรียกว่า สึนามิ เป็นภัยจากคลื่นซึ่งอาจเรียกว่า ตรังคภัย (ตะรังคะภัย)

    ทุพภิกขภัย แปลว่า ภัยจากการขาดแคลนอาหาร เกิดข้าวยากหมากแพง

    ฉาตกภัย (ฉา ตะ กะ ภัย) แปลว่า ภัยจากความหิวโหย เพราะข้าวยากหมากแพง เช่นเดียวกับทุพภิกขภัย แต่ฉาตกภัย มุ่งที่ความแห้งแล้งของแผ่นดิน ทำให้เพาะปลูกไม่ได้ แผ่นดินที่แห้งแล้งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ขาดแคลนอาหาร

    หายนภัย (หา ยะ นะ ภัย) แปลว่า ภัยจากความเสื่อม ภัยจากความฉิบหาย เกิดการสูญเสียทรัพย์สิน เสียชีวิต สถานที่ราชการ และบ้านเรือนประชาชนพังพินาศโดยไม่มีสาเหตุเช่น การที่มีผู้สร้างความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง วางระเบิดทำให้ทรัพย์สินเสียหายโดยไม่มีเหตุสมควร เรียกว่า เกิดหายนภัย เป็นหายนภัยของประเทศ

    โจรภัย แปลว่า ภัยจากโจรผู้ร้าย เช่น ภัยจากการปล้นจี้ชิงทรัพย์ หรือทำร้ายให้บาดเจ็บล้มตาย

    อันตราย

    แปลว่า สิ่งที่ขัดขวางมิให้กระทำการได้สำเร็จ เช่น การที่เจ้าหน้ามาร้องขัดขวางไม่ให้นาคได้บวชเป็นภิกษุ เป็นอันตรายแก่พรหมจรรย์ของพระภิกษุ ; ในภาษาไทยใช้หมายถึง เหตุที่อาจทำให้เกิดแก่ความตาย สิ่งที่อาจทำให้บาดเจ็บ เช่น ยาอันตราย อาวุธเป็นอันตราย เมื่อถือของมีคมต้องระวังเพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอันตรายได้ ภัยทั้งหลายเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ร้ายอาจทำอันตรายเราได้

    ภัย กับ อันตราย มีความหมายใกล้กันมาก แต่ ภัย ให้ความหมายที่เป็นนามธรรมมากกว่าอันตราย ภัยทำร้ายมนุษย์ได้ตลอดเวลา มนุษย์จึงกลัวภัย แต่อันตรายอาจจะทำร้ายเฉพาะในจังหวะ ในโอกาสที่เหมาะ ถ้ารู้จักควบคุมสิ่งที่เป็นอันตรายได้ก็จะไม่เป็นอันตราย เช่น ยา อาวุธ ของมีคม สัตว์ร้าย ไม่ได้เป็นภัยต่อมนุษย์ แต่อาจเป็นอันตรายได้ หากไม่รู้วิธีควบคุมหรือวิธีใช้หรือใช้ผิดพลาดไป

    อุบัติเหตุ

    แปลว่า เหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด มักจะหมายถึงเฉพาะเหตุร้ายหรืออันตรายที่เกิดขึ้นในทันที เช่น การที่รถชนกัน รถไฟชนหรือตกราง เรือล่ม เครื่องบินตก อุบัติเหตุอาจเกิดจากการทำงานกับเครื่องจักร การพลัดตกจากที่สูงขณะทำงาน การถูกไฟลวกหรือไฟช็อต เป็นต้น อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นสิ่งที่ป้องกันได้หากไม่ประมาท และปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยอย่างครบถ้วน และถูกต้อง ส่วนอุบัติการณ์ แปลว่า เหตุที่เกิดขึ้น สิ่งที่ปรากฏทั่วไป หมายถึงทั้งเหตุร้ายและเหตุดี เช่น การให้นางแบบเดินแสดงแบบตามถนน เป็นอุบัติการณ์ใหม่ในวงการแฟชั่น สึนามิเป็นอุบัติการณ์ที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินอย่างมากมาย

    [​IMG]

    ที่มา นิยสารสกุลไทย ฉบับที่ 2654 ปีที่ 51 ประจำวัน อังคาร ที่ 23 สิงหาคม 2548
    http://www.sakulthai.com/DSakulcolum...&stauthorid=19

    ขอเชิญอ่านเรื่อง "ฉาตกภัย" ในพระไตรปิฏกได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-708
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "วิกฤตหรือโอกาส"ก็อยู่ที่ตัวเราเองว่ามีมุมมองแบบไหน?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ช่วงนี้มีข่าวคราวมากมายพูดถึงการเกิดวิกฤตการเงิน ว่าเป็นวิกฤตที่รุนแรงมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ฟังดูก็น่ากลัวนะครับ แต่คงไม่สามารถทราบได้ว่าจะรุนแรงขนาดใหน มีอย่างเดียวที่ทำได้คือ

    "การเตรียมตัวให้พร้อมทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"


    มีคนเคยกล่าวถึงลักษณะนิสัยของคน เวลาที่เจอกับวิกฤตเศรษฐกิจว่า เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมาจะมีคนอยู่ 3 ประเภท เปรียบเทียบกับลักษณะนิสัยของสัตว์แต่ละประเภทดังนี้
    1. กระต่าย - เปรียบเทียบตามสุภาษิตไทย "กระต่ายตื่นตูม" หมายถึงคนที่ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ จนไม่สามารถจัดการกับชีวิตตัวเองได้
    2. นกกระจอกเทศ -ลักษณะนกกระจอกเทศเวลาตกใจ เขาจะเอาหัวมุดทราย เปรียบเทียบเหมือนกับคนที่ไม่สนใจอะไรเลย จะเกิดวิกฤตอะไรขึ้นก็ไม่สนใจ
    3. กวาง - กวางที่ออกมาหากินตอนกลางคืน เวลาเจอแสงไฟรถวิ่งผ่านมา เขาก็จะวิ่งเข้าหาแสงไฟจนโดนรถชนตาย เปรียบเทียบคนที่ไม่รอบคอบเช่นพวกนักลงทุน ช่วงเกิดวิกฤตก็ยังลงทุนเพิ่ม ซึ่งอาจทำให้ล้มละลายได้
    สิ่งที่น่าจะต้องทำคือหาข้อมูล นำมาคิดวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียของวิกฤตครั้งนี้ ทุกวิกฤตมีโอกาส หลังฝนตกฟ้าย่อมสดใส อยู่ที่ใครจะมองเห็นในธุรกิจเน็ตเวอร์คเองในตอนนี้ผมว่าน่าจะเป็นโอกาสนะครับ จากโพลของมหาวิทยาลัยหอการค้าบอกว่าคนจะตกงาน 1 ล้านคนพร้อมทั้งนักศึกษาที่จบปีหน้าจะไม่มีตำแหน่งว่างให้ทำด้วย

    Posted by admin

    ที่มา http://www.thaimarketer.com/

    [​IMG]

    หมายเหตุ

    ผมมองว่าวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ น่าจะเป็นโอกาสให้ภาคการเกษตร กลับมาสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล เพราะเมื่อคนตกงานเนื่องจากโรงงานเลิกจ้าง ก็ต้องกลับไปสู่ชนบท กลับไปทำไร่ ทำนา ทำสวน เหมือนเมื่อคราวเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศไทย ในปี พ.ศ.2540 ผลผลิตพืชไร่ทางการเกษตรก็จะเพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เพราะแรงงานของคนหนุ่มสาวเหล่านี้

    ยิ่งถ้าเกิดสงครามใหญ่ระหว่าง กลุ่มประเทศอาหรับกับประเทศอิสราเอล แล้วละก็ พืชพันธุ์ธัญญาหารก็จะยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง(ท้องต้องอิ่มถึงจะมีแรงไปสู้รบกับข้าศึกศัตรู) สินค้าการเกษตรจะมีราคาแพงมากและขาดแคลนกันไปทั่วโลก เพราะต่างประเทศเขามัวแต่รบกัน จนไม่มีเวลามาเพาะปลูกข้าว และพืชไร่ต่างๆ ประเทศไทยจึงต้องกลายเป็น "ครัวของโลก" อย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้

    โอกาสที่ผมพูดถึงนี้ก็หมายถึง การหันมาทำธุรกิจภาคการเกษตรนั่นเอง ซึ่งวงจรของสินค้าการเกษตร ก็มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย นับตั้งแต่เริ่มเพาะปลูก ไปจนถึงการแปรรูปเป็นสินค้าทางการเกษตรในรูปแบบต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านก็ได้พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า

    อาชีพทางการเกษตรนี้จะสร้างความร่ำรวย ให้กับชาวไร่ชาวนาไทยและคนที่ประกอบธุรกิจ ที่เกิ่ยวข้องกับการเกษตรนี้เป็นอย่างมาก ในตอนที่เกิดสงครามใหญ่เกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

    *****************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    Mthai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายชราวัย 66 ปี กลายเป็นมนุษย์แม่เหล็ก หลังจากแพทย์ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจในการผ่าตัดให้เขา
    โดย ชายคนนี้มีชื่อว่า ซีบิน อิวาโนวิก อาศัยอยู่ทางเหนือของเมืองยาโกดิน่า ประเทศเซอร์เบีย เขาค้นพบว่าบริเวณหน้าอกของเขาสามารถดูดติดสิ่งของที่เป็นแม่เหล็กได้ ขณะที่เขานอนคุยโทรศัพท์มือถือ เขาวางมันไว้ตรงหริเวณหน้าอก แต่เมื่อเขาลุกขึ้นยืน ปรากฎว่าโทรศัพท์มือถือก็ยังติดอยู่ตรงหน้าอก
    หลังจากนั้นเขาจึงลองนำสิ่งของที่เป็นโลหะเช่น ช้อน ส้อม มีด มาติดที่ตัวกปรากฎว่ามันสามารถติดอยู่บนตัวของเขาได้
    อย่างไรก็ตาม ความสามารถพิเศษนี้เกิดขึ้น หลังจากเขาเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ หัวใจของเขาหยุดเต้น แพทย์ได้ใช้เครื่องปั๊มหัวใจ กระตุ้นหัวใจของขาด้วยกำลังไฟระดับสูง แต่แพทย์ก็กล่าวว่ายังหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้
    Mthai News


    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>นอร์เวย์อำมหิตขู่ยังมีพวกฆ่าแหลก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพข่าวจาก เดลินิวส์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    มือปืนโหดชาวนอร์เวย์ เตือนยังมีอีก 2 พวก พร้อมฆ่าหมู่คนหนุ่มสาว และวางระเบิดป่วนประเทศ


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า ประชาชนกว่า 100,000 คนออกมาชุมนุมกันในเขตใจกลางกรุงออสโล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความอาลัยและรำลึกถึงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ลอบวาง ระเบิดถล่มสถานที่ราชการและสังหารหมู่ผู้คนบนเกาะอูโทย่า นอกกรุงออสโล

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาขณะที่กำลังมีการประชุมสมาชิกระดับยุวชนของพรรค รัฐบาลแรงงานบนเกาะซึ่งเป็นค่ายพักแรมฤดูร้อน เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ด้วยฝีมือของนายแอนเดอร์ส เบห์ริง เบรวิค วัย 32 ปีชาวนอร์เวย์หัวรุนแรง


    ประชาชนจำนวนมากซึ่งต่างมีสีหน้าเศร้าสลด ต่างพากันวางดอกไม้จนเต็มพื้นที่ในเขตใจกลางเมือง เพื่อแสดงความเศร้าเสียใจ แม้ตัวพ่อของนายเบรวิคผู้ก่อเหตุถึงกับเอ่ยปากว่า อยากให้ลูกชายตัวเองปลิดชีพให้ตายตกตามกันไป ขณะที่นายแยนส์ สโตลเตนเบิร์ก นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ กล่าวยอมรับว่า นอร์เวย์ได้เปลี่ยนอย่างสิ้นเชิงจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น แต่ก็ให้คำมั่นหนักแน่นว่า นอร์เวย์ยังคงเป็นสังคมที่เปิดกว้างเช่นเดิม


    ขณะเดียวกัน นายเบรวิคถูกตำรวจนำตัวไปขึ้นศาลในกรุงออสโล เพื่อขออำนาจศาลในการฝากขังผู้ต้องสงสัยเป็นเวลา 8 สัปดาห์ แม้ตัวเขาจะคาดหวังว่าจะใช้การขึ้นศาลนัดแรกเป็นที่ชี้แจกแจงเหตุผลของการ ก่อเหตุร้าย แต่ศาลก็มีคำสั่งให้การไต่สวนเป็นการภายใน ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน และยังไม่อนุญาตให้ผู้ต้องสงสัยสวมเครื่องแบบมาขึ้นศาลตามที่ต้องการ


    นายคิม เฮเจอร์ ผู้พิพากษากล่าวว่า ในช่วง 4 สัปดาห์แรกของการฝากขังนั้น เขาจะต้องถูกแยกขังเดี่ยว และจากคำให้การของเขาระบุว่า ต้องการทำลายศาสนาหนึ่งให้หมดไปจากยุโรป นอกจากนั้นแล้วเขายังระบุว่า ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดตามแนวคิดของเขาอีกอย่างน้อย 2 กลุ่มที่ยังคงหลบหนีลอยนวลอยู่ในขณะนี้ และพร้อมร่วมมือในการสังหารผู้คน ขณะที่ทนายความของเขาคือนายเจียร์ ลิปปีสตัด กล่าวด้วยว่า ลูกความของตนคาดว่าจะถูกยิงตายขณะเดินทางมาที่ศาล แต่เขาก็พร้อมที่จะติดคุกตลอดชีวิต และมีท่าทีสงบนิ่ง ไม่มีความรู้สึกใดๆต่อการกระทำอันโหดร้ายของเขา


    อย่างไรก็ตาม มีฝูงชนผู้โกรธแค้นตะโกนด่านายเบรวิคด้วยถ้อยคำหยาบคายเช่น ฆาตกรโหด และ คนทรยศ ขณะเดินทางมาถึงศาล ซึ่งการไต่สวนได้ใช้เวลา 40 นาทีก็เสร็จสิ้น ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้น นายออนสไตน์ เมแลนด์ โฆษกตำรวจแถลงว่า ผู้เสียชีวิตที่เกาะอูโทย่า ลดลงมาจาก 86 เหลือ 68 ศพ สาเหตุเป็นเพราะการตรวจนับของตำรวจกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยอาจนับซ้ำ เพราะขณะนั้นมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเป็นสำคัญ ส่วนเหตุระเบิดในกรุงออสโล เพิ่มจาก 7 ศพเป็น 8 ศพ รวมเป็นทั้งหมดในขณะนี้ 76 ศพ


    ส่วนบทลงโทษตามความผิดในข้อหาก่อการร้ายนั้น ระบุไว้ว่าต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 21 ปี แต่อาจมีการพิจารณาโทษเป็นกรณีพิเศษ สำหรับบุคคลผู้ที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม อาจได้รับโทษจำคุก 20 ปี และ ยังสามารถขยายเวลาต่อไปได้อย่างไม่มีกำหนด

    นอกจากนั้นแล้ว นายคริสเตียน ฮัตโล อัยการเปิดเผยด้วยว่า อาจมีการแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มเติม คือข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อปี 2551 กับผู้ต้องสงสัยรายนี้ โดยกำหนดโทษไว้สูงสุดคือ จำคุก 30 ปี แต่ก็ยังไม่ได้มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ดินถล่มในเกาหลีดับร่วม10ศพ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ฝนกระหน่ำ“เกาหลี”ดินถล่มดับ 9 ศพ สูญหาย 2 คน ส่วนแอฟริกาใต้หิมะตกหนักผิดปกติ
    เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และสูญหาย 2 ราย หลังจากมีฝนตกหนักทำให้เกิดดินถล่มในภูมิภาคที่เป็นเทือกเขาเมื่อเช้าวันนี้ โดยเหตุดินถล่มเกิดขึ้นในเขตชุนเชิน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกราว 100 กม. โดยดินถล่มทับโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง และบ้านอีก 3 หลัง ใกล้เขื่อนแม่น้ำโซยัง นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 20 คน แต่สาหัส 4 คน ทางการต้องส่งตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 500 นายเข้าช่วยเหลือกู้ภัย

    ส่วนที่แอฟริกาใต้ มีเหตุการณ์หิมะตกลงมาอย่างหนักผิดปกติ ปกคลุมหลายพื้นที่ของแอฟริกาใต้ ส่งผลให้ระบบการขนส่งเป็นอัมพาต รถไฟต้องหยุดวิ่ง ผู้โดยสารหลายพันคนติดค้าง หลังจากมีการปิดถนนหลวง นายไซวี เอ็นโลวู คนขับรถบรรทุกที่ติดค้างอยู่บนถนนสายดูร์บัน เปิดเผยว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ หลังจากการจราจรติดขัดเป็นเวลาหลายชั่วโมง

    นายเอ็นโลวู กล่าวว่า เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ เพราะไม่มีใครรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งเลวร้ายที่สุดคือ ประชาชนติดค้างอยู่บนถนนโดยไม่มีอาหารมาประทังความหิว นอกจากนี้ พายุหิมะ ซึ่งมาพร้อมกับลมกระโชกแรง ได้ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า และยังทำให้เครื่องบินโดยสารต้องล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามในหลายพื้นที่ของแอฟริกาใต้ โดยปกติจะเผชิญละอองหิมะเพียงปีละหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น แต่จากการที่พายุกระหน่ำพื้นที่ส่วนใหญ่ของฝั่งตะวันออกตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอังคารที่ผ่านมา ในบางพื้นที่สามารถวัดปริมาณหิมะได้สูงถึง 2 ฟุต

    ทางด้าน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแอฟริกาใต้ คาดหมายลักษณะอากาศในวันนี้ว่า ยังมีหิมะตกหนักต่อไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เผยทีจีบินย้อนกลับสุวรรณภูมิ เหตุสภาพอากาศภูเก็ตเลวร้าย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวบินทีจี 201 จากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งหน้าจังหวัดภูเก็ต

    ได้เกิดเหตุฉุกเฉินจากสภาพอากาศที่สนามบินภูเก็ต ทำให้ต้องเดินทางกลับกทม.กระทันหัน โดยเที่ยวบินดังกล่าวเป็นเครื่องโดยสารขนาดใหญ่ มีผู้โดยเต็มลำขนาด 400 ที่นั่ง ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งกำหนดการเดินทางของเที่ยวบินดังกล่าว คือ เวลา 07.30 น. แต่มีการแจ้งว่าเที่ยวบินล่าช้าประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งไม่ได้แจ้งเหตุผลต่อผู้โดยสาร ก่อนออกเดินทางเวลา 08.30 น. และตามกำหนดจะมีระยะเวลาการเดินทางประมาณ 45 นาที

    เมื่อใกล้ถึงสนามบินภูเก็ต พบว่าสภาพอากาศมีเมฆหนา ขณะกำลังลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินภูเก็ต กัปตันประกาศว่ากำลังนำเครื่องลง

    แต่พบว่าสภาพอากาศแย่มาก จึงต้องนำเครื่องขึ้นอีกทันทีและประกาศว่า สภาพอากาศเหนือสนามบินภูเก็ต ไม่ปลอดภัยพอจะนำเครื่องลงจอด และนำเครื่องกลับมาจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิทันที และจอดพักเพื่อเติมน้ำมัน ซึ่งผู้โดยสารชาวไทยส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่เดินทางกลับไปที่ จ.ภูเก็ต อีกครั้งเนื่องจากไม่มั่นใจในสภาพอากาศ ขณะที่ชาวต่างชาติยืนยันที่จะเดินทางตามกำหนดการณ์เดิม และเดินทางถึงสนามบินภูเก็ตอีกครั้งในเวลา 12.00 น.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในสายการบินดังกล่าว นอกจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก

    ยังมีคณะแพทย์ นักวิชาการ จำนวนมากซึ่งจะเดินทางไปประชุม รวมทั้งคณะนักข่าวกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ประมาณ 20 คน ซึ่งกำลังจะเดินทางไปลงพื้นที่ใน จ.ภูเก็ต เพื่อดูงานเรื่องการปลูกถ่ายไตวายเรื้อรัง ให้กับผู้ป่วยในระบบบัตรทอง ที่ศูนย์เปลี่ยนถ่ายไตใน จ.พังงา ซึ่งทั้งหมดตัดสินใจยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากไม่แน่ใจในสภาพอากาศ และล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ทัน


    น.ส.อภิรดี ตรีรัตน์เกื้อกูล ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ กล่าวว่า

    ขณะที่เครื่องกำลังจะลงสังเกตเห็นว่าสภาพอากาศมีเมฆมาก ฝนตกหนัก รู้สึกได้ถึงการสั่นของเครื่อง และได้ยินเสียงเหมือนเครื่องกางล้อออกเหมือนกำลังจะลงจอดแล้ว แต่ก็มีการนำเครื่องขึ้นอย่างกระทันหัน ยอมว่าว่าตกใจ เพราะว่าการนำเครื่องขึ้นลง ถือเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดของการโดยสารเครื่องบิน และสนามบินภูเก็ต ก็เคยเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกในระหว่างนำเครื่องลงมาแล้ว จึงตัดสินใจยกเลิกการเดินทางเพราะไม่สามารถทำงานได้ตามกำหนดการณ์เดิมแล้ว และแม้ว่าการเดินทางทางอากาศจะนับว่าปลอดภัยที่สุดก็ตาม แต่ว่า เวลาอยู่บนอากาศ เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ โดยเฉพาช่วงมรสุมเช่นนี้ แต่คิดว่ากัปตันตัดสินใจถูกแล้วที่ตัดสินใจนำเครื่องขึ้นอย่างปลอดภัย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯเตือนภาคตะวันออก-ภาคใต้และกทม.มีฝนฟ้าคะนอง70-80%ของพื้น </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; WIDTH: 891px; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; webkit-border-horizontal-spacing: 0px; webkit-border-vertical-spacing: 0px" class=contentpaneopen border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; LINE-HEIGHT: 1.1; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 8px; FONT-FAMILY: Tahoma, Georgia, sans; FONT-SIZE: 18px; PADDING-TOP: 0px" class=contentheading width="100%">
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันที่ 27 ก.ค. ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง แต่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ด้านรับลมมรสุมทางด้านตะวันตกของประเทศและภาคตะวันออกยังมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้

    สำหรับ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนด้านตะวันออกสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27-31 ก.ค. 2554

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อัศจรรย์ ชาวไวกิ้งรู้อนาคตล่วงหน้าว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะล่มสลายในปี 2011 !!!

    [​IMG]

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'โอบามา'เร่งให้สรุปเพิ่มเพดานหนี้ เตือนเศรษฐกิโลกล่มสลาย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>27 กรกฎาคม 2554 00:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ออกมาปราศรัยในช่วงไพรม์ไทม์แบบเร่งด่วนเมื่อคืนวันจันทร์ (25) เรียกร้องบรรดาผู้นำในรัฐสภาโดยเฉพาะจากพรรครีพับลิกัน ร่วมกันผ่าทางตันและหาทางประนีประนอมกับรัฐบาลเดโมแครตของเขา ในการปรับขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ให้ลุล่วงโดยเร็ว ภายในเส้นตายวันที่ 2 สิงหาคมที่กำลังงวดเข้ามาทุกขณะ มิเช่นนั้นสหรัฐฯก็อาจจะตกอยู่ในภาวะผิดนัดชำระหนี้ (default)

    และจะส่งผลกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรงไม่เพียงเฉพาะสหรัฐฯ แต่ต่อตลาดการเงิน ตลอดจนระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวมด้วย


    โอบามา กล่าวปราศัยจากนทำเนียบขาว เมื่อค่ำวันจันทร์ซึ่งมีการแพร่ภาพสัญญาณสดไปทั่วประเทศ โดยเขาเตือนว่า หากสหรัฐฯ ไม่สามารถผ่านกฎหมายขยายเพดานการก่อหนี้ได้ทันท่วงที จะทำให้ประเทศชาติต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส พร้อมกับย้ำเตือนว่า ภาวะการผิดนัดชำระหนี้ หรือ “default” จะส่งผลให้ภาระของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุที่ต้นทุนการกู้ยืม (ดอกเบี้ย) ทั้งจากบัตรเครดิต, สินเชื่อเงินกู้ ตลอดจนสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ถูกดันให้สูงขึ้น​

    “นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้ระยะยาวของประเทศเราซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ AAA จะถูกปรับลดอันดับลง และนั่นจะทำให้นักลงทุนทั่วโลกเคลือบแคลงสงสัยว่า สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่น่าลงทุนอยู่อีกหรือไม่” โอบามากล่าว หลังจากก่อนหน้านี้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ของโลก ออกมาเตือนว่า พวกเขาจะพิจารณาหั่นเครดิตตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ลง หากรัฐสภาไม่สามารถเห็นพ้องต้องกันและผ่านกฎหมายขั้นตอนการลดขาดดุลงบประมาณลงให้ได้ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้​

    อย่างไรก็ตาม โอบามากล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า สุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้แน่นอน​

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    จารึกบนโล่ไม้ไวกิ้ง กลียุค กำลังมา!คนทั่วโลกแย่งชิง น้ำ,อาหาร

    [​IMG]

    พบจารึกบนโล่ไม้โบราณ อายุกว่า 1,500 ปี ของชาวไวกิ้ง ระบุประเทศมหาอำนาจของโลก จะพลิกคว่ำล้มละลาย จากวิกฤติการณ์ทางการเงิน ผู้คนต่างพากันบุกปล้นชิงอาหารและทรัพย์สิน เพื่อความอยู่รอด เกิดเหตุจราจลที่เมือง ใหญ่ทั่วโลก

    เหตุการณ์ดังกล่าวนี้จารึกบนโล่ไม้ กำหนดไว้ในปี ค.ศ. 2011 หรือปีนี้เอง

    การขุดค้นแหล่งโบราณคดี ที่ประสาทโบราณเก่าแก่แห่งหนึ่งบริเวณชานกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ค ซึ่งเมื่อพันปีก่อน ดินแดนแถบนี้เป็นที่อยู่ชนเผ่าไวกิ้ง นักรบผมขาวผิวขาว ตาสีฟ้า และชอบสวมหมวกมีเขาบนหัว 2 เขา คล้ายเขาวัวกระทิง

    ภายในประสาทเก่าแก่ นักโบราณคดีที่มีศาสตราจารย์อูลไรด์สเตนสการ์ด ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวิจัยชนเผ่าไวกิ้ง ได้พบโล่ทำจากไม้เนื้อแข็ง กว่าง 32 นิ้ว บนแผ่นโล่ไม้นี่เองมีอักษรจารึก เป็นภาษารูน เป็นภาษาของชาวสแกนดิเนเวีย ใช้กันเมื่อหลายพันปีก่อน ผู้จารึกข้อความเอาไว้เป็นชาวนอร์ส หรือชาวนอร์เวย์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกหลานโดยสายเลือดของชาวไวกิ้ง

    ในอดีตชาวนอร์ส หรือนักรบไวกิ้งนี่เอง กรีฑาทัพบุกโจมตีคนผิวขาวทั้งที่เกาะ อังกฤษ และในทวีปยุโรปในยุคกลางหรือ 500 ปีที่ผ่านมา ชาวไวกิ้งคือชนเผ่ามหาอำนาจแห่งสแกนดิเนเลียน

    นักโบราณคดีได้ ถอดความ จารึกบนโล่ไม้ได้ความว่า...เป็นคำพยากรณ์ เมื่อ 1,500 ปีก่อน ถึงโลกในปัจจุบัน

    “ระบบการเงินการคลังของโลก จะแห้งเหือดหายไปทีละนิด ซื้อขายโดยใช้ธนบัตร จะหมดคุณค่าลงในฉับพลันทันที ธนบัตรมีค่าเท่ากับกระดาษแผ่นเดียว คนไม่มีงานทำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับภาวะขาดแคลนอาหารลุกลามไปทั่วโลก เมื่อน้ำจืดหาได้ยากและเกิดการแย่งชิงกันขึ้น”

    “จากคำพยากรณ์ระบุว่าระบบ ธนาคารในประเทศมหาอำนาจจะล้มคลืนลงมาก่อน จากนั้นกลายเป็นสถาบัน การเงินอื่นล้มตามเหมือนทฤษฎีโดมิโน่”

    “เงินหายไปจากตลาดเงิน เงินเป็นสิ่งหาได้ยาก แต่เมื่อได้มาแล้วมีคุณค่าน้อยนิด เช่นเดียวกันราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้า อาหารแพงขึ้นหลายเท่าตัว”

    “พยากรณ์บนโล่ไม้บอกอีกว่า ผู้คนออกจากบ้านที่อยู่อาศัยเพราะไม่มีอาหาร น้ำและเครื่องสาธารณูปโภค มาชุมนุมตามท้องถนน แล้วก่อการจราจล เผาบ้านเผาเมือง ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เพื่อเอาชีวิตรอด จากวิกฤติการณ์ ” ศาสตราจารย์อูลไรด์กล่าว

    “ทรัพย์สินที่ชาวบ้านนำไปจำนำ จำนองเพื่อแลกเป็นเงินเพื่อใช้ซื้อข้าวของเลี้ยงชีวิต จะถูกยึดถูกริบ เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาไถ่คืนไปได้” และในที่สุดชาวเมืองพากันบุกเข้าปล้นแหล่งอาหารอย่างไม่มีทางเลือกเป็นอื่นไปได้”

    “วิกฤติการณ์เช่นนี้เหมือนกับ นักรบไวกิ้งได้กระทำมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน โดยการปล้นจี้ ตีชิงอาหาร และทรัพย์สินจากคนรวย มาแบ่งให้คนจนได้ประทังชีวิตรอดในยามเกิดวิกฤติการณ์ไปได้”

    “อีกฝ่ายยกพวกปล้นชิงอีกฝ่าย ตั้งกองกำลังป้องกันตัวเอง การฆ่าฟันเกิดขึ้น จากเมืองใหญ่ แพร่ไปยังเมืองเล็ก เลือดจะไหลรินท่วมถนนเป็นท้องธาร” ศาสตราจารย์ อูลไรด์กล่าว

    “จารึกบนโล่ไม้ระบุไว้ว่า ปลายปี 2011 จะเกิดสงครามแย่งชิงอาหารและน้ำดื่มกันขึ้น เป็นสงครามใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคน และจบลงด้วยการพังพินาศของระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบ”

    “แต่ไม่นานระบบเศรษฐกิจใหม่ ระบอบการเมืองใหม่จะอุบัติขึ้นมา ซึ่งระบบ ใหม่นี้สามารถจัดระเบียบทำให้ผู้คน แต่ละชนชาติอยู่ร่วมโลกกันด้วยสันติสุข ไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นก็เกิดสงครามขึ้นอีก เพราะความโลภ ความไม่พอเพียงซึ่งเป็นธาตุแท้ดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคน”

    “และสิ่งแน่นอนที่สุดเมื่อเกิดการ ฆ่าฟันเพื่อแย่งอาหาร แย่งน้ำกัน ถึงเวลานั้น กติกาของสังคม กฎหมาย และความศรัทธา จะพังทะลายลง ผู้คนสวมหัวใจสัตว์เดรัจฉาน จับอาวุธ ฆ่าฟันกันอย่างกระหายเลือด โดยไม่เลือกพี่เลือกน้อง ชนเผ่าและสายเลือดเดียวกันหรือไม่?

    “ในกลียุค ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ผู้คนใช้อาวุธทำลายล้างกันอย่างเชี่ยวชาญ ตรงข้ามกับระดับจิตใจ ตกต่ำลงถึงขีดสุด” นักโบราณคดีชาวเดนมาร์กกล่าว

    “สิ่งที่ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จะได้เห็นกันอีกครั้ง คนจะอยู่ร่วมกันอย่างไม่ละอายต่อบาป เพื่อให้ได้ปัจจัย 4 มาเป็นของตัวเอง สามารถฆ่าได้แม้เป็นผู้มีพระคุณเคยช่วยชีวิตตนเองมาก่อน”

    “คุณค่าของคนและชีวิตของคน ลดค่าเท่ากับศูนย์เพราะคนเราจะหันมาบูชาเงินเป็นพระเจ้า”

    ศาสตราจารย์ อูลไรด์ ตั้งข้อสังเกตอีกว่า การพังพินาศระบอบเศรษฐกิจทั่วโลก อาจเป็นลางร้าย บอกล่วงหน้าว่าโลกกำลัง มาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง เป็นการเปลี่ยนแปลงจากยุคแสวงหาสัจธรรม ในยุคที่ 3 มาเป็นกลียุคในยุคที่ 4

    เหลือเวลาอีกไม่ถึงปี กลียุค จะเกิดขึ้นบนโลกหรือไม่? ก็ขอใช้คำเดิม ๆ ...ถ้าไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่

    ที่มา..."นิตยสารแปลกทะลุโลก" กับ "นกรู้ดอทคอม"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 02barack-obama1.jpg
      02barack-obama1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.9 KB
      เปิดดู:
      2,226
    • r_15994.JPG
      r_15994.JPG
      ขนาดไฟล์:
      70.2 KB
      เปิดดู:
      2,961
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  13. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    นี่ก็ปาเข้าไปปลายเดือนเจ็ดแล้ว ดวงเมือง บางเรื่องดีเลย์ บางเรื่องมาก่อนคำทำนาย ลองมาเช็คกัน


    โสรัจจะ นวลอยู่...คำทำนายปี 2554 กระต่ายไฟ


    วันที่: 12 มกราคม 2554 / 02:56




    มกราคม
    คนจำนวนมากต้อง ตายลงอย่างกะทันหัน จากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่จะแพร่ขยายพันธุ์ทางอากาศ

    บ้านเมืองจะมีการปฏิรูปใหญ่ นักวิชาการจะมีบทบาทเข้ามาบริหารบ้านเมือง ปัญหาอันยุ่งยากซับซ้อนของบ้านเมือง ต่อให้เทวดาหน้าไหนมาแก้ไข ก็เห็นจะแก้ให้คืนดีได้ยาก เว้นแต่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ต่าง ๆ ไปตามกาลเทศะเท่านั้น

    การเมืองของไทย อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจมีผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง จะเกิดการผ่าตัดปฏิรูปหรือปฏิวัติตัวเองเป็นการใหญ่ แบบพลิกแผ่นดินขึ้นในเมืองไทย เป็นระยะที่นายกรัฐมนตรีจักเป็นอันตราย คนสำคัญจะล่วงลับไป

    กรุงเทพฯ จะถูกก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ ผู้คนล้มตาย สถานทูตและตึกรามบ้านช่องถูกทำลาย มีการตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนต์

    จะมีเครื่องบินภายในประเทศตก จะสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศไปในระยะนี้ เป็นนิมิตร้าย ย่อมจะวุ่นวายไปทั่ว

    สถานการณ์ทางใต้ของประเทศไทย เพิ่มความร้อนแรงและน่ากลัวขึ้น เกิดระเบิดพลีชีพหลายจุด มีคนตายนับร้อย

    ศัตรูภายนอกจะแสดงบทบาทระราน ยั่วยวนโทสะมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์อันยุ่งเหยิงภายในเป็นเหตุ

    บุคคลในเครื่องแบบจะมีบทบาทคึกคักขึ้น เพราะ ความเห็นแก่ตนของเหล่าอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย เป็นเหตุให้เหล่าปัญญาชน ตระหนักถึงภัยอันใหญ่หลวงของประเทศชาติ

    ซึ่งถ้ายังขืนปล่อยให้สังคมดำเนินไปเช่นนี้ เหล่าคนยากจนหรือผู้ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ซึ่งล้วนมีรายได้น้อยไม่สมดุลกับรายจ่าย ก็จะลุกฮือขึ้นมาจับอาวุธต่อต้าน อาจละเมิดกฎหมาย เกิดจลาจล ประทุษร้าย ก่อความไม่สงบ เกิดการปล้นฆ่าล้างผลาญ

    คนรวยมาเดินตามท้องถนนไม่ได้ อาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ต้องหลบซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้าน ประกาศกฎอัยการศึก มีผู้คนต้องล้มตาย

    เกิดเป็นสงครามกลางเมืองแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย แผ่นดินเดือด เลือดไหลริน ผู้นำต้องหนีลี้ภัยออกนอกประเทศเหตุการณ์ถึงจะสงบลงได้

    เศรษฐกิจของประเทศ เริ่มตกต่ำอีก คนงานถูกปลดออกจากงานเป็นจำนวนมาก ข้าวยากหมากแพง หุ้นตกอย่างวินาศสันตะโร สถาบันทางการเงินและธนาคารล้ม


    เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทย เกิดขึ้นทางภาคเหนือ มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมหาศาล และจะมีอุบัติเหตุทางทะเลและทางเครื่องบิน มากกว่าในระยะใด มีการตายหมู่เป็นร้อย


    กุมภาพันธ์
    ทางภาคใต้ถูกก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ ชาวต่างชาติเสียชีวิตมากมายจากผู้ก่อการร้าย
    เกิดโรคระบาดร้ายแรงทั่วประเทศ คนนับพันล้มป่วยและล้มตาย​

    มีเรื่องกระทบกระทั่งกับเขมร ที่เป็นหอกข้างแคร่ที่แสนขมขื่น


    มีนาคม
    ทางใต้ถูกก่อวินาศกรรมสุดโหดเหี้ยม ต้นเดือน มีอัคคีภัยร้ายแรงทั่วทุกภาคของประเทศ เกิดรถไฟชนกันและตกราง คนตายนับร้อยและบาดเจ็บจำนวนมาก​

    อุบัติเหตุใหญ่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเดือน มีการตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนต์ และทางเรือ เกิดแผ่นดินไหวสุดหฤโหด เท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ตึกระฟ้าในกรุงเทพฯ พังทลายเป็นทิวแถว ฝังคนทั้งเป็นนับร้อยนับพัน เหมือนมดปลวก

    จะเกิดการผ่าตัดปฏิรูป หรือปฏิวัติตัวเองเป็นการใหญ่ แบบพลิกแผ่นดินขึ้นในเมืองไทย เป็นระยะที่นายกรัฐมนตรีจักเป็นอันตราย คนสำคัญจะล่วงลับไป



    หุ้นจะตกรุนแรง ธนาคารอาจปิดตัวลง ประสบภาวะเงินฝืด กำลังซื้อลดลง บรรดาบริษัทห้างร้านเอกชน หรือโรงงานผลิตสินค้าจำหน่ายภายในประเทศ จะประสบปัญหาทางการตลาด จำเป็นต้องลดจำนวนคนงานลง อันเนื่องมาจากการลดผลผลิต โรงงานส่วนใหญ่จะต้องปิดตัวลง

    ราวกลางเดือน มีไฟไหม้ใหญ่หลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่และชลบุรี

    เกิดภัยพิบัติทางทะเล ครั้งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศ มีคลื่นยักษ์เป็นกำแพงสูงเสียดฟ้า อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว ในหมู่เกาะสุมาตรา พัดเข้าถล่มหมู่เกาะและชายฝั่งด้านอันดามัน กวาดผู้คนและทรัพย์สินบ้านเรือนที่ติดทะเล ลงสู่ทะเลไปเกือบหมดสิ้น ทำให้เกาะบางเกาะจมหายไปในทะเล


    จะมีสัญญาณบางอย่าง บ่งบอกว่าผู้ใหญ่ในแผ่นดินของเรา จักเป็นอันตราย เกิดจลาจลเผาผลาญอาคารสถานที่ราชการและบ้านเรือนวอดวายไป

    ปลายเดือน บุคคลที่กุมอำนาจ น่าจะตระหนักถึงอันตรายภายในและภายนอก ที่ค่อนข้าง รุนแรงมาก เราจะเริ่มขัดแย้งกับประเทศมหาอำนาจแดนไกล (สหรัฐฯ) เพราะสืบเนื่องมาจากข้อตกลงทางเศรษฐกิจ ที่ตกลงกันไม่ประสบผลสำเร็จ

    เมษายน
    ปัญหาพม่าและเขมร จะนำความเดือดร้อนอย่างมาก เหตุการณ์น่าเป็นห่วง

    เศรษฐกิจของประเทศเริ่มตกต่ำอีกถึงขั้นล้มละลายทางเศรษฐกิจ คนงานถูกปลดออกจากงานเป็นจำนวนมาก ข้าวยากหมากแพง หุ้นตกอย่างวินาศสันตะโร


    เกิดการปฏิวัติรัฐประหารครั้งใหญ่ เลือดนองไปทั่วแผ่นดิน ในกรุงเทพฯ จะถูกก่อวินาศกรรมเสียหาย มีการตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนต์ จะมีเครื่องบินภายในประเทศตก




    ทางใต้ร้อนเป็นไฟ ถูกก่อวินาศกรรมอย่างรุนแรง


    กลางเดือน บุคคลสำคัญระดับสูง จะเจ็บป่วยหนักและเสียชีวิต

    รัฐบาลจะเผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างหนัก เศรษฐกิจของบ้านเมืองตกต่ำ อย่างสุดปัญญา

    เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกาะสุมาตรา และมีผลกระทบถึงไทยอย่างรุนแรง

    พฤษภาคม
    บุคคลสำคัญของแผ่นดิน จักเจ็บไข้ได้ป่วย และอาการจะรุนแรงอย่างคาดไม่ถึงด้วย อาจสูญเสียชีวิต

    ทางภาคใต้เกิดจลาจลใหญ่ มีการสูญเสียชีวิตผู้คนมากมาย องค์กรระหว่างประเทศ ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง และอาจต้องประกาศสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน

    ไข้หวัดนกระบาดหนักขึ้นมาอีก ทำให้ผู้คนล้มตาย จะติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้

    เศรษฐกิจของบ้านเมือง ตกต่ำอย่างสุด ๆ ค่าเงินบาทถดถอย หุ้นจะตกอย่างรุนแรง ธนาคารใหญ่ประสบภาวะเงินฝืดเคือง กำลังซื้อลดลง บริษัทห้างร้านหรือโรงงานผลิตสินค้าประสบปัญหาทางการตลาด เกิดปัญหาการส่งออก จำเป็นต้องลดจำนวนคนงาน โรงงานทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลงมากมาย ปัญหาคนว่างงานมีไปทั่ว


    ปลายเดือน ประเทศไทยถูกเหล่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ภาคใต้ ทำการเผาโรงเรียนหลายแห่ง ผู้นำประเทศถูกลอบทำร้าย


    ส่วนด้านชายแดน จะมีการขัดแย้งกับเพื่อนบ้านเขมรและพม่ารุนแรง


    มิถุนายน
    ดารานักแสดง อาจประสบอุบัติเหตุหรือล่วงลับไปหลายคน

    เลยกลางเดือนไปแล้ว บุคคลสำคัญจะเดินทางออกนอกประเทศ หรือมิฉะนั้น ก็อาจจะเจ็บป่วย

    การเมืองไทย อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจมีผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง


    มีการลอบวางระเบิดชนิดร้ายแรง กว่าที่เคยมีมา ใน 3 จังหวัดภาคใต้


    เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ คนล้มตายเป็นพัน

    กรกฎาคม
    เกิดวินาศกรรมทั่วทุกภาคของประเทศ จะเกิดอุบัติเหตุหมู่ ไฟป่าเผาผลาญเป็นจำนวนมาก ไฟลุกโชติช่วงไปทุกหนแห่ง

    ในวงการการเมือง บุคคลในเครื่องแบบ จะมีปัญหาขัดแย้งกันรุนแรง ผู้มัวเมาอำนาจ จะแสดงอำนาจโดยไม่เป็นธรรม

    ผู้ก่อการร้ายทางภาคใต้ จะกำเริบเสิบสานเป็นการใหญ่ ปัญหาชายแดนทางใต้ จะก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง ประเทศใกล้เคียง จะสนับสนุนให้มีการก่อการกำเริบมากขึ้น


    กลางเดือน กรุงเทพฯ ตึกรามบ้านช่องที่อยู่อาศัย อาจถล่มทลายจากแผ่นดินทรุดตัวหลายแห่ง


    ปลายเดือนพายุโซนร้อน ผ่านตอนใต้ของประเทศอย่างรุนแรง ชาวใต้ต้องอพยพด่วน ชายทะเลฝั่งตะวันออก ถูกพายุกวาดลงทะเลไปเป็นจำนวนมาก หลายจังหวัดทางภาคใต้โดนวาตภัยร้ายแรง ทางรถไฟสายใต้ขาด รถเดินไม่ได้ โทรศัพท์เสีย

    พายุไซโคลนลูกใหญ่ จะพุ่งเข้าไทยอย่างร้ายแรงกว่าครั้งใด ๆ ที่ผ่านมา โหมเข้าภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย

    สิงหาคม
    เขมรบุกสยามประเทศ ส่งกำลังทหารเข้าโจมตี ทหารไทยเสียชีวิตจำนวนมาก ถึงคราวแล้วที่ประเทศไทย จะเข้าสู่สงคราม ที่เราไม่เคยมีมาเลย กับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง

    ถ้าประเทศไทยยังเฉยเมย ไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที เสมือนดูหมิ่นสยามประเทศมาโดยตลอด

    จะเกิดการรบนองเลือด ถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมากมาย ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน แต่ก็อาจจะต้องประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน


    กลางเดือน ถูกเหล่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ภาคใต้ ทำการเผาโรงเรียนหลายแห่ง ผู้นำประเทศถูกลอบทำร้าย

    รัฐบาลประกาศขึ้นภาษีทุกประเภท เงินบาทลอยตัวสูงสุดในประวัติการณ์ ผู้คนเดือดร้อน ฆ่าตัวตายกันเป็นแถว


    พายุโซนร้อน ผ่านตอนใต้ของประเทศอย่างรุนแรง มีผู้คนเสียชีวิตมากมาย จนต้องมีการอพยพผู้คน ไปอยู่ยังดินแดนแห่งใหม่ที่ปลอดภัย


    เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ในประเทศไทย เกิดขึ้นทางภาคเหนือ มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมหาศาล

    และจะมีอุบัติภัยทางทะเล และทางเครื่องบินมากกว่าในระยะใด มีการตายหมู่เป็นร้อย


    กันยายน
    ทางใต้ขอแบ่งแยก เพื่อปกครองตนเอง​

    ดีเปรสชั่น ผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่า เริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสาน ลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ

    เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด

    มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาล เป็นเวลายาวนาน

    ภัยธรรมชาติยังคุกคามต่อไปอีก ทั้งภาคเหนือ อีสาน และทางภาคใต้ โดยเฉพาะทางภาคใต้ จะโดนอย่างหนัก ถือได้ว่าเป็นวาตภัยครั้งร้ายแรงที่สุด ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

    บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และผู้คนที่อาศัยอยู่ติดทะเล จะถูกพายุร้าย หอบตกทะเลแทบไม่เหลือหลอ แม้แต่รายเดียว เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

    ปัญหาของประเทศมีมาก ผู้เป็นใหญ่ บุคคลสำคัญ จักล้มเจ็บอย่างกระทันหัน

    ตุลาคม
    เกิดปัญหาทางภาคใต้ ทำให้ทั่วโลกตกตะลึง เกิดการจลาจลนองเลือด

    บุคคลในเครื่องแบบจะมีบาทบาททันที เกิดการจลาจล รัฐประหารครั้งใหญ่ เกิดการนองเลือด ผู้คนล้มตายเป็นเบือ

    พฤศจิกายน
    เป็นเดือนสุดโหด สุดวิปริตที่แท้จริง สำหรับคนไทย เพราะจะเกิดภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย น้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ตำบลและอำเภอ
    เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี (หนักกว่าพายุเกย์) คนตายนับพัน

    หุ้นตกอย่างรุนแรง การเมืองของไทย เต็มไปด้วยความผันผวน เผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างหนัก ข้าวยากหมากแพง

    มีการประท้วงลุกลาม กลายเป็นการชุมนุมใหญ่ จากบุคคลทุกสาขา เกิดการจลาจล มีการเผาผลาญทำลายสถานที่สำคัญ รัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ต้องเสียเลือดเสียเนื้ออีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ ดูจะรุนแรง กว่าเมื่อครั้ง 14 ตุลาคม 2516


    วิกฤตทางภาคใต้ ได้ลุกลามเข้ามาถึงกรุงเทพฯ มีผู้คนเสียชีวิต

    ธันวาคม
    "เขื่อน ยักษ์แตก" น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน อำเภอ หลายจังหวัด พื้นที่ไร่นา สัตว์เลี้ยง สิ่งก่อสร้าง ผู้คนที่อพยพหนีไม่ทัน ล้มตายมหาศาลอย่างอเน็จอนาถ สร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ น้ำอาจลงมาถึงกรุงเทพฯ

    เราต้องขอความช่วยเหลือจากองค์การต่าง ๆ จากต่างประเทศโดยด่วน


    เกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" และปริมณฑล เป็นอาเพศที่ทำให้คนตกตะลึงไปทั่วโลก

    มีการลอบวางเพลิง วางระเบิด การเมืองระส่ำระสาย และภัยรอบข้างทำให้ดูเหมือนเกิดความคับขัน


    ทางใต้วิกฤตสุด หาทางแก้ไขไม่ได้


    เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างหนัก สงครามอาจยืดเยื้อต่อไป จนกลายเป็นสงครามโลกครั้งใหญ่ที่สุด ที่เคยมีมา


    ปลายเดือน เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าถล่มชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย กวาดผู้คนและทรัพย์สิน สิ่งก่อสร้างลงสู่ทะเล จนเกือบหมดสิ้น โดยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จะเกิดขึ้น


    เรื่องที่ดีเลย์ จะๆ คือเครื่องบินตก แต่ก็ไม่ได้เกิดถี่อย่างคำทำนาย


    24 ก.ค. 54 15:23 น.


    อุบัติเหตุรถยนต์ ก็มีเรื่องรถตู้ ตกโทลเวย์

    ส่วนเรื่องที่เกิดหลังคำทำนายคือ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>แถลงการณ์สำนักพระราชวัง “เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ” สิ้นพระชนม์ </TD></TR><TR><TD vAlign=top>สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 16.37 น. วันที่ 27 กรกฎาคม 2554 รวมพระชันษา 85 ปี มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป พร้อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพ หน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 13.00 - 16.00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>








    หลายเรื่อง ตั้งแต่เดือนมกราถึงกรกฏา ก็ชักลืมๆ ไปแล้ว ว่าอะไรเกิดขึ้นมั่ง อย่างไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ตกลงเป็นไข้หวัด หรือโรคอื่นที่ระบาด และระบาดช่วงไหน แต่รู้สึกจะไม่ใช่มกรา

    คือ เขาก็ทำนายตรงในบางเรื่อง แต่ความรุนแรงที่เขาทำนาย จะมากกว่าที่เกิดจริง


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  14. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ สิ้นพระชนม์

    [​IMG]

    สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ได้เสด็จประทับรักษาพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต ณ ตึก 84 ปี ชั้น 5 ด้านตะวันออก โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2554
    แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ พระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ และสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 16 นาฬิกา 37 นาที วันที่ 27 กรกฎาคม 2554 รวมพระชันษา 85 ปี
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐาน พระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป
    อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 13 นาฬิกา ถึงเวลา 16 นาฬิกา วันพฤหัสบดี ที่ 28 กรกฎาคม 2554
    สำนักพระราชวัง
    27 กรกฎาคม พุทธศักราช 2554​


     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    (ภาพน้ำท่วมปี 2553)
    รายงานข่าวแจ้งว่า นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา ออกมาเตือน ให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มภาคกลางหรือในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้เตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วม เพราะชัดเจนว่า มีฝนตกชุกต่อเนื่องในเขตภาคเหนือจำนวนมาก และระยะเวลาช่วงฝนตกหนักยังเหลืออีก 3-4 เดือน คือจากช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 54
    ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลว่าในปี 53 พื้นที่ใดที่ถูกน้ำท่วมและเคยท่วมอยู่ในระดับความสูงเท่าใดก็ขอให้ประชาชนได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือน้ำท่วมในปลายฤดูฝนของปี 2554 นี้ เทียบเท่าระดับความเสียหายสูงสุดของปี 2553 โดยคาดว่าหากฝนทางภาคเหนือยังตกชุกเช่นนี้ น้ำอาจเริ่มท่วมหนักในช่วงเดือนปลายเดือน ส.ค.หรือต้น ต.ค.นี้เช่นกัน
    นายไมตรีกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือหลาก ล่าสุดพบว่าระดับน้ำเหนือหลากในแม่น้ำปิง วัง ยม นั้นยังไม่สูงมากนัก แต่ที่น่าห่วงที่สุดคือ แม่น้ำน่าน เพราะมีฝนตกชุกในต้นลุ่มน้ำน่าน จนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยออกมากำหนดแนวทางว่าจะเร่งปล่อยน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพราะน้ำในเขื่อนที่ปัจจุบันกักเก็บไว้เหนือเขื่อนมีปริมาณสูงถึง 7,302 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ76.78 % ซึ่งยังแหลือพื้นที่รับน้ำอีก 2,208 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23.22% ก็จะเต็มความจุของเขื่อน แต่ในทางปฏิบัติพบว่าจะมีการเก็บสำรองน้ำไว้ที่ไม่เกิน 80%ของความจุของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ซึ่งหมายความว่าเหลือปริมาณอีกไม่มากนัก
    สำหรับในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประสานจาก นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด หน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น ชลประทานจังหวัด , เกษตรจังหวัดรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. , เทศบาล , อบต. , กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนไปถึงประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านอาศัยริมน้ำ เกษตรกรที่ทำการเกษตรนอกเขตชลประทาน หรือทำการเกษตรริมน้ำให้ระมัดระวังและเตรียมความพร้อมรับมือหากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะล้นตลิ่งได้ และเชื่อว่า อ.บางบาลจะเป็นอำเภอแรกของจังหวัดที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำเหนือหลากในฤดูฝนนี้
    Mthai News

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุเตือนฝนตกหนักคลื่นสูงลมแรง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศทั่วประเทศไทยมีฝนตกกระจายทั่วไป เตือนระวังฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมทะเลอันดามัน-อ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ชาวประมงระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

    ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศลักษณะอากาศทั่วไปของประเทศไทย เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.) จนถึง 06.00น. วันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนด้านตะวันออก มีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 28-31 ก.ค. 2554 อนึ่ง พายุโซนร้อน นกเตน (Nock Ten) บริเวณเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนตัวไปบริเวณเกาะไหหลำ ของประเทศจีน ในช่วงวันที่ 29-30 ก.ค.นี้
    สำหรับพยากรณ์อากาศทั่วประเทศไทยมีดังต่อไปนี้

    ภาคเหนือ

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    บริเวณจังหวัดสุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ฝนกระหน่ำดินถล่ม เกาหลีดับ 22 กรุงโซลจมบาดาล </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เอพีรายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ว่า จากสภาพอากาศฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือของเกาหลีใต้

    ทำให้เกิดเหตุดินถล่มในหลายพื้นที่ รวมถึงที่กรุงโซล พบผู้เสียชีวิตเบื้องต้นแล้ว 22 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาที่เข้าไปช่วยทำงานอาสาสมัครและพักอยู่ในกระท่อมของรีสอร์ตที่เมืองชุนชอน 12 ราย ถูกดินโคลนไหลถล่มทับในช่วงเช้าวันนี้ เสียชีวิตทันที 8 ราย ส่วนสภาพในกรุงโซล น้ำท่วมไหลท้องถนนขณะที่มีรถติดค้างอยู่จำนวนมาก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>นายกฯนอร์เวย์ตั้งกรรมการสอบเหตุระเบิด/สังหารหมู่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายกรัฐมนตรีเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก ของนอร์เวย์ประกาศเมื่อวานนี้ตั้งคณะกรรมการ 22 กรกฎาคมเพื่อสอบสวนและวิเคราะห์เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดสำนักงานรัฐบาลในกรุงออสโลและการไล่ยิงในค่ายเยาวชนฤดูร้อนบนเกาะอูโทย่า ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์

    โดยจะศึกษาอย่างรอบด้านเกี่ยวกับการปฏิบัติงานทั้งในจุดแข็งและจุดด้อยเพื่อเรียนรู้บทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้น

    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่าจะมีการจัดพิธีรำลึกทั่วประเทศเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต แต่จะกำหนดวันในภายหลัง พร้อมทั้งประกาศว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายงานศพของผู้เคราะห์ร้ายและจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวผู้เคราะหร้ายด้วย ขณะที่ประชาชนยังคงทยอยไปวางดอกไม้และจุดเทียนไว้อาลัยที่หน้ามหาวิหาร ดอมเคิร์ค ในกรุงออสโล และนายสโตลเตนเบิร์ก ยังบอกด้วยว่ารัฐบาลยังยึดมั่นที่จะสร้างสังคมนอร์เวย์ที่เปิดกว้าง อดทนอดกลั้น และเคารพเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของทุกคน รวมถึงคนที่มีแนวคิดสุดโต่งอย่างแอนเดอร์ส เบห์ริ่ง เบรวิก มือสังหารที่ก่อคดีสะเทือนขวัญ
    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    ผลสำรวจพบว่า ชาวนอร์เวย์มากถึง 94% พอใจกับการทำงานของสโตลเตนเบิร์กในการรับมือกับเหตุการณ์รุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดหลังยุคสงคราม และนักวิเคราะห์ต่างชื่นชมความเป็นผู้นำของเขา แต่เสียงวิจารณ์กลับตกอยู่กับตำรวจโดยเฉพาะประเด็นความล่าช้าในการระงับเหตุไล่ยิงค่ายเยาวชนฤดูร้อนบนเกาะอูโทย่า ที่ใช้เวลาเดินทางถึง 90 นาทีกว่าจะไปถึงจุดเกิดเหตุ ที่อยู่ห่างจากกรุงออสโล 40 กม.โดยขับรถไปแล้วนั่งเรือต่อไปยังเกาะ
    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    แต่นางซิสเซ่ล แฮมเมอร์ ผู้บัญชาการตำรวจ แถลงชี้แจงว่า ตำรวจไม่มีหนทางอื่นที่จะไปถึงเกาะได้เร็วกว่านี้แล้ว รวมทั้งตอบโต้ข่าวที่ว่าตำรวจไม่สนใจโทรศัพท์ที่แจ้งเหตุฉุกเฉินจากเกาะอูโทย่าเพราะมัววุ่นอยู่กับเหตุระเบิดในออสโล โดยบอกว่ามีสายโทรศัพท์เข้ามาเยอะมาก แต่เจ้าหน้าที่ต้องเลือกจัดการกับสถานการณ์เบื้องหน้าเป็นอันดับแรกมากกว่าการรับสายโทรศัพท์




    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. Rasbora

    Rasbora เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +779
    หมอดูโรคจิต ถ้าเป็นอย่างคำทำนายประเทศไทยไม่เหลือในแผนที่โลกแล้ว นี่ก็ย่างเข้าปลายเดือนที่เจ็ดแล้ว ออกมารับผิดชอบอะไรบ้างกับสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นตามคำทำนายของตนเอง รู้สึกแย่มากๆสำหรับหมอดูคนนี้ ทายบ้าๆบอๆได้ทุกปีแต่ก็ยังมีมนุษย์จิตตกไปเสียเงินให้กับหนังสือคำทำนายเพี้ยนๆ......เฮ้อ "ประเทศไทย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กรกฎาคม 2011
  17. ยังเลวอยู่มาก

    ยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +492
  18. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293

    นานาจิตตัง

    บางครั้งคนเราก็หาวิธีทำเงินใส่กระเป๋า บ้าง

    แต่ถ้าคำนายมันไม่จริง เขาก็ยังได้เงินจากการขายหนังสือ หรือ ออก TV

    แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เขาก็จะดัง ก้องโลก

    ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร คนที่ทุกข์ ที่สุด ก็คือ ตัวเราเอง....

    ปล่อยวางดีที่สุดเลย... เฮ้ออ.... [​IMG]
     
  19. CASIO12

    CASIO12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,133
    เลิกเอาข้อความเจ้าหมอดูคนนี้มาโพสท์ซะที
    เท่ากับไป โปรโมท มาน
    มาน ทำนายแบบนี้ทุกๆ ปี เลย
    แล้วมาน ไม่เคยมาขอโทษประชาชน เลย
    พอปีใหม่ มานก็มาอีกแหละ
    แต่คนที่ติดตามมาน ก็เชื่ออยู่ได้ เอามาโพสก์เรื่อยๆ เลย ลองดูกระทู้เก่าๆซิ
    มาน ขายความกลัวอะ
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มาฟัง"หมอนิด"ระบายความในใจกันบ้าง...

    [​IMG]

    รอเพียงวันเวลา

    ผมรู้สึกสบายใจและจิตใจปลอดโปร่งมากที่ได้เว้นการเขียนและการทำนายการเมืองไประยะหนึ่งไม่ต้องมาเครียดกับเรื่องการเมืองเหมือนที่ผ่านๆมา ผมปล่อยวางบ้างก็ดีกับตัวเองมีเวลาไปไหว้พระมากขึ้นและที่สำคัญคือไม่ต้องให้ใครมาด่า เพราะเขียนไปทางไหนผมก็ถูกด่าทั้งขึ้นทั้งล่อง คนเราถ้าไม่ยอมรับความจริงและไม่มองการกระทำของตัวเอง ผมก็คงต้องปล่อยวางจากคนเหล่านี้ ผมถือว่าคนจำพวกนี้ไม่มีกระจกส่องดูตัวเอง คงมีแต่กะลาใส่น้ำแทนกระจก คงเป็นเวรกรรมของประเทศที่มีบุคคลเหล่านี้อยู่จำนวนมากและมีอยู่ทุกสาขาอาชีพ

    ผมยังมองว่า “ประเทศชาติล่มจมก็เกิดจากผู้มีอำนาจ” ไม่นานเกินรอก็จะได้เห็น “ความหายนะ” ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีกรุงรัตนโกสินทร์ ถึงวันนั้นคงต้องกักตุนเสบียงอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงกันขนานใหญ่ “รอเพียงวันเวลา” เท่านั้นแต่ไม่นานเกินรอ คำทำนายต่างๆผมได้เขียนไว้นานแล้ว ผมจะไม่เขียนเพิ่มเติมอะไรมากนัก เดี๋ยวคนอ่านจะกลั้นขี้กลั้นเยี่ยวไม่อยู่
    <O:p</O:p
    ตำแหน่ง ผบ.ทบ อาการน่าเป็นห่วงเพราะดวงของท่านไม่ดี ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับท่านบ้าง (รู้แต่ไม่บอก) คงจะได้รู้ได้เห็นกันในไม่ช้านี้ ต้องบอกว่า “หนักและเครียด” สุดๆครับท่าน ผมเห็นโหราจารย์หลายท่านออกมาทำนายเรื่องต่างๆหลายเรื่อง แต่ส่วนมากผมทำนายไว้ตั้งแต่ปีมะโว้แล้วทั้งนั้น ผมทึ่งที่เห็นบรรดาโหราจารย์หลายท่านมีความสามารถเป็นอย่างยิ่งที่นำเรื่อง “ฮ” ตกที่แก่งกระจาน 3 ลำและมีทหารตาย 16 คนนักช่าวช่อง 5 ตาย 1 คน รวมเป็น 17 ศพ นำมาคำนวณดวงดาวกันให้ปวดหัวไปหมดว่าเพราะดาวดวงนั้นทำองศากับดาวดวงนี้ เอากันเข้าไปเก่งเรื่องเกิดขึ้นมาแล้วจึงมาทำนายกันยกใหญ่
    <O:p</O:p
    ผมจะรอกฎหมาย “วิสามัญ” หมอดูเทียม ออกมาใช้บังคับจริงๆเสียทีผมจะได้สบายกว่านี้ ผมไม่ได้โกรธเป็นการส่วนตัวกับหมอดูหรือโหราจารย์คนไหนแต่ผมทนไม่ได้กับพฤติกรรมของอาจารย์บางคน ที่ชอบเอาเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วจึงทำนายทีหลัง ผมคงหาเรื่องอีกแล้วเพิ่มศัตรูเข้ามาอีกด้วยความหมั่นไส้หมอดูบางคน
    <O:p</O:p
    ด้วยความเคารพ<O:p</O:p
    หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)<O:p</O:p
    28 ก.ค 54

    ที่มา www.mornid.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...