ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. loguttara

    loguttara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +39

    555+
    ได้ทั้งสาระ ได้ทั้งความฮา เลยนะครับ
     
  2. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    1111ในฝัน ไม่ใช่รหัสแจ้งเหตุน้ำท่วมหรอกครับ ฝันของคุณวิเศษกว่าที่คุณแปลเยอะเลย
     
  3. Angie_04

    Angie_04 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +431

    แล้วชักโครก อุดยังไงใครรู้ช่วยบอกที
     
  4. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    เอาทราย หรือเศษผ้า...ใส่ถุงพลาสติก (หนาๆ หลายๆชั้น)....แล้วอุดลงไป...ครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2011
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    คณานันท์ ทวีโภค รักในหลวง
    วันนี้สถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพเ<wbr>ข้มข้นขึ้น
    รัฐสั่งปล่อยน้ำลงทางฝั่งตะวันอ<wbr>อก คือทางด้าน สายไหม หนองจอก ลาดกะบังแล้ว โดยการเปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด<wbr>ให้น้ำระบายออก

    ดังนั้นในไม่กี่ชั่วโมงคืนนี้ น้ำจะเพิ่มระดับสูงขึ้น ตั้งแต่0 .5-1.5 เมตร ขึ้นอยู่กับพื้นที่ความสูงต่ำคร<wbr>ับ
    ขอให้เตรียมรับมือมวลน้ำ การหลากของน้ำกันโดยเร็วครับ

    รวมทั้งการเตรียม อาหาร น้ำดื่ม เอาไว้ให้พร้อม การเฝ้าระวัง แผนอพยพในกรณีที่อยู่ไม่ไหว หรือกลัวเป็นอันตรายก็รีบย้ายก่<wbr>อนครับ

    บ้านที่มีคนแก่ คนป่วย คนพิการ รีบเคลื่อนย้ายก่อนน้ำมา จะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนครับ

    และทางฝั่งนนทบุรีเอง ก็เกิดกรณีที่ชาวบ้านไปพังแนวกั<wbr>้นทำให้น้ำไหลบ่าลงมาสู่แม่น้ำเ<wbr>จ้าพระยามากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุผลที่บอกว่า อยากให้ทุกๆคนท่วมเหมือนกันหมด ซึ่งจะทำให้มวลน้ำ ณ จุดดังกล่าวไหลไปท่วมเมืองทองธา<wbr>นี แจ้งวัฒนะ และทำให้ระบบทำน้ำปะปาของคนสามจ<wbr>ังหวัดคือ กรุงเทพ นนทบุรี และสมุทรปราการเสียหายต่อคนอีก 10 ล้านคน

    ต้องขอบอกว่า ภัยพิบัติที่แท้จริงเกิดขึ้นจาก<wbr> จิตใจของมนุษย์ ยิ่งอิจฉา ชั่วร้าย เกลียดชังมากเท่าไร ภัยพิบัติยิ่งเพิ่มและรุนแรง

    หากเพียงทุกคนมีเมตตาต่อกัน ก็เกิดความสามัคคีร่วมใจกัน ภัยพิบัติก็เบาบาง ดับลง และผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ

    ดังนั้นขอยืนยันเรื่องที่เราทั้<wbr>งหลายต้องช่วยกันคุมจิตตน คุมอารมณ์ใจเราให้ผ่องใสรักษาพล<wbr>ังใจ พลังคิดบวกเอาไว้ให้มากๆ ยิ่งมั่นคงในพระรัตนไตรเพียงใด โอกาสปลอดภัยยิ่งมากครับ

     
  6. sumitran21

    sumitran21 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +124
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    การฝึกรับมือและปรับตัว

    [​IMG]

    ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย ทุกวันนี้ท่านพึ่งพาเทคโนโลยีในยุคโลกาภิวัตน์ มากน้อยแค่ไหน?

    ถ้าหากจะนึกถึงกิจวัตรประจำวันของท่านตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั้งเข้านอน ท่านก็ยังคงต้องพึ่งพาอยู่กับสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา แม้แต่กระทั้งยามท่านนอนหลับใหล ท่านก็ยังต้องพึ่งเครื่องอำนวยความสะดวก ทุกย่างก้าวของมนุษย์ยุคนี้ แทบจะต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อความหย่อนใจ ความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตทุกๆ อย่าง และเทคโนโลยีอันนี้ก็ค่อยกลืนกินรากเหง้าของบรรพบุรุษที่สร้างสมมาให้คนรุ่นหลัง ภูมิปัญญาในการใช้ชีวิตที่อิงกับธรรมชาติ ความเรียบง่าย ความเป็นไปเพื่ออยู่รอดตามอัตภาพ แต่มนุษย์ยุคนี้กลับค่อยๆ ลืมเลือน หันเข้าไปหาความทันสมัย ความโก้หรู ความฟุ่มเฟือย ชอบความสบายจนกลายเป็นความเคยชิน

    แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราจะต้องคืนความสะดวกสบายนั้น กลับคืนให้กับธรรมชาติ แล้วท่านจะทำอย่างไร? อย่างที่ได้พรรณนาไปแล้วว่าอีกไม่เกินสิบปีนี้ เราจะต้องเผชิญหน้ากับผลกรรมที่ทำร่วมกัน ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่จะเป็นสัญญาณเตือนการเริ่มเข้าสู่กลียุค แล้วเราควรจะทำอย่างไรให้เราสามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ในภาวะวิกฤติในตอนนั้นได้?

    สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ:-

    -การทำใจเตรียมพร้อมที่จะรับมือ กับผลกระทบจากภัยพิบัติในอนาคต ซึ่งเป็นการเริ่มปรับสภาพจิตใจให้ยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ให้ประมาทในการใช้ชีวิต และเป็นการเตือนให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ตื่นเต้นไปกับกระแสโลกแตกจนเกินไป ให้ใช้สติปัญญาพิจารณาค่อยคิดค่อยหาทางต่อไป ฝึกทำใจอยู่เนื่องๆ ว่าถ้าเราต้องเผชิญกับเหตุการณ์ในตอนนั้น จะต้องทำอย่างไร คิดในหลักความเป็นจริง ไม่ฟูมฟาย ไม่หดหู่ ไม่ท้อแท้ และไม่ประมาท เรายังมีเวลาเหลือให้คิดและฝึกอีกมากพอดู เราก็ใช้เวลาในวันนี้และวันต่อๆ ฝึกการรับมือ ฝึกการใช้ชีวิตที่พอเพียง อย่างที่พ่อหลวงได้ปลูกรากฐานเอาไว้ให้

    ธรรมชาติเขาส่งบทเรียนมาให้เราเรียนรู้เสมอ หากเราใส่ใจที่จะมองและค้นหา วิธีการเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ใกล้ตัวเราเสมอ ธรรมชาติมักจะคอยหยิบยื่นให้ ถ้าเรารู้จักจังหวะและโอกาสที่จะรับและเรียนรู้ ที่สำคัญที่สุดอย่าประมาท หากท่านไม่ตายในเหตุการณ์ครั้งนั้น แล้วชีวิตที่จะต้องอยู่ต่อล่ะจะเป็นอย่างไร? ถ้าหากท่านผู้มีปัญญาเชื่อว่าบุญกุศลนั้นมีจริง บาปกรรมมีจริง ชาติหน้ามีจริง สิ่งใดที่เราทำแล้วเป็นการเพิ่มบุญกุศลให้กับตัวเองและคนรอบข้างที่เรารัก ก็หมั่นทำ บางทีบุญกุศลนี้อาจจะพาเราไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย พบกัลยาณมิตรที่ดี หรือถ้าหากเราหมดบุญแล้วในชาตินี้ ต้องเสียชีวิตในภัยพิบัติในครั้งนี้ อย่างน้อยบุญกุศลที่เราทำและการทำใจปล่อยวางของเรา ก็จะพาเราไปสู่สุคติภูมิ

    -วางแผนอนาคตภายในสิบปีนี้ ถ้าหากว่าท่านกำลังจะลงทุนทำอะไร ในบริเวณพื้นที่ที่ต้องเสี่ยงกับภัยพิบัติ หรือวางแผนเก็บเงินสำหรับตั้งตัวหรือสำหรับอนาคต เพื่อความสบายตามแบบมนุษย์เมืองหลวง ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายลองเปลี่ยนมุมมองและปรับแผนอนาคตเสียใหม่ อย่างน้อยๆ ถ้าท่านไม่เชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริงและท่านก็จะลงทุนอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นลองทำใจห้าสิบห้าสิบเผื่อใจสำหรับความสูญเสีย ขาดทุนเอาไว้ก็ดีจะได้ไม่เสียใจมาก และก็เผื่อเงินฉุกเฉินไว้สักก้อนหนึ่งเพื่อเป็นทุนสำรอง

    สำหรับผู้มีปัญญาที่อยากจะลองเปลี่ยนแผนอนาคต ลองคิดพิจารณาตามนี้อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับตัวท่านและครอบครัว หากท่านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ลองหาพื้นที่สำหรับอาศัยอยู่ในอนาคต พื้นที่นั้นสามารถทำการเกษตรเลี้ยงตัวเองและครอบครัวท่านได้ และเป็นที่ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและโจรผู้ร้าย เพราะในอนาคตการเกษตรจะเฟื่องฟู ใครที่ทำการเกษตรจะไม่อดตาย ท่านที่ไม่เคยมีความรู้ทางการเกษตรอิงธรรมชาติแบบไม่พึ่งพิงสารเคมี ก็เตรียมตัวศึกษาหาข้อมูลและลองเรียนรู้ในเวลาที่มีอยู่นี้ ลองวาดแผนผังการเกษตร ในพื้นที่ของท่านว่าท่านจะทำอะไร กับพื้นที่ที่ท่านมีให้เกิดประโยชน์ทางการเกษตรสูงสุด

    หากตอนนี้ท่านอยากที่จะหาที่อยู่ใหม่ แต่เงินยังไม่พร้อมสักเท่าไร ก็ยังไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้ก็ค่อยๆ เก็บเงินไปก่อนสักสองสามปีก็ยังทัน จากนั้นก็เริ่มเตรียมตัวในด้านอื่นๆเอาไว้ และขอย้ำว่าการวางแผนนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าตื่นเต้น อย่าตื่นตูมจนเกินพอดี ท่านผู้มีปัญญาจงอย่าลืมว่า “ทำแค่พอดี” ไม่บีบบังคับจิตใจตัวเองจนเกินไป ไม่วิตกจริตจนเกินไป และการวางแผนสุดท้ายคือการเตรียมตัวทางจิตวิญญาณ ให้ท่านหันหน้าเข้าพึ่งหลักธรรม คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มาก

    ตั้งมั่นอยู่ในบุญกุศล ปรับเปลี่ยนชีวิตตัวเองเสียใหม่ หันมาฝึกนั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะบ้าง สวดมนต์ไหว้พระ รู้จักให้ทานและรักษาศีล มองโลกในแง่บวก ฝึกปล่อยวางเพื่อเป็นการปรับสมดุลแห่งจิต กายก็จะเบา จิตก็จะเบา จะได้มีสติในการแก้ปัญหาในอนาคต ลองเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ ทำได้มากได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่าปล่อยชีวิตไปวันๆ เสียดายเวลาที่เกิดมาเสียเปล่า เพราะฉะนั้นท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอให้ท่านรู้จักวางแผนอนาคตตัวเอง ทั้งอนาคตทางโลกและอนาคตทางธรรม เอาไว้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

    -ฝึกปรับตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ลดการพึ่งพากับเทคโนโลยีให้น้อยลง เพราะในอนาคตเราจะต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้น้อยลง ต้องพึ่งพาธรรมชาติมากขึ้น ถ้าเราไม่ฝึกปรับตัวในตอนนี้ เมื่อเราต้องไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเลย เราจะลำบากและจะรู้สึกเป็นทุกข์ ไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ทำให้จิตใจหดหู่ ท้อแท้ อะไรก็ติดขัดไปหมด เอาง่ายๆท่านลองคิดว่า ถ้าในหนึ่งวันของท่านเกิดไฟดับน้ำไม่ไหลท่านจะใช้ชีวิตอย่างไร จะรู้สึกหงุดหงิดหรือเปล่า อะไรที่ต้องเสียไปบ้างในหนึ่งวัน ลองคิดพิจารณาดูเอาเถอะ เพราะฉะนั้นให้เราฝึกหัดการใช้ชีวิตที่อิงกับธรรมชาติให้มากขึ้น พยายามพึ่งตัวเองให้มาก สิ่งไหนที่เราทำได้ด้วยตัวเอง ก็ทำให้เกิดความเคยชิน

    -ศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง หัดพึ่งพาการอยู่อย่างพอเพียง สร้างแหล่งอาหารเพื่อเลี้ยงคนในครอบครัว งดการพึ่งพิงโลกภายนอก โดยการปลูกทุกอย่างที่เรากิน กินทุกอย่างที่เราปลูกและลดการใช้สารเคมีในการบำรุงพืชผัก หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่สามารถผลิตเองได้ เพราะในอนาคตสารเคมีเหล่านี้จะส่งผลอย่างมากต่อร่างกายเรา เราต้องหันมาปลูกพืชผักที่ปลอดสารพิษ เพื่อการมีสุขภาพดีของตัวเราเอง ถ้าจะให้พูดถึงระบบการรักษาพยาบาลอนาคต ก็หวังพึ่งได้น้อยลง โรคทั้งหลายจะดื้อยา ถึงมีเงินมากก็ไม่สามารถซื้อชีวิตเราได้ เพราะฉะนั้นสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันไว้ดีก่อนแก้ เมื่อสุขภาพดีแล้วโรคใดๆก็ไม่ต้องไปถามหา ส่วนเมล็ดพันธุ์ต้องมีการจัดเก็บแม่พันธุ์เอาไว้ทุกครั้ง และมั่นใจว่าไม่ใช่พวกพืชที่ตัดต่อพันธุกรรม เพราะพืชเหล่านี้เราสามารถนำมาปลูกได้แค่ครั้งเดียว เพราะส่วนใหญ่เป็นพืชที่ตัดต่อพันธุกรรมให้เป็นหมัน ถ้าเราต้องการจะปลูกอีกก็ต้องไปหาซื้อมาปลูกใหม่

    ปัจจุบันวัฏจักรของระบบเกษตรเราเป็นแบบนี้ เราสร้างความร่ำรวยให้กับระบบนายทุน และในเวลาเดียวกัน เราก็กำลังทำลายการสืบต่อของพืชพันธุ์ไปด้วยในตัว ต่อไปในอนาคตเมล็ดพันธุ์และพืชพรรณธัญญาหารจะหายาก หรือถ้ามีก็จะราคาแพงเพราะโดนกดขี่จากระบบนายทุน ข้าวก็ยากหมากก็แพง เพราะต่างคนก็ต่างเห็นแก่ตัวเอาตัวเองรอด เพราะฉะนั้นเราต้องพึ่งตัวเองทุกอย่าง รู้จักกินรู้จักใช้ทรัพยากร ตอนนี้ท่านผู้มีปัญญาก็ลองมองหาเมล็ดพันธุ์พืชท้องถิ่นเอาไว้ ศึกษาวิธีการปลูกและลองวางแผนเก็บเมล็ดพันธุ์ ที่ท่านต้องการกินต้องการใช้เอาไว้ หากมีพื้นที่ก็ทดลองปลูกและปรับปรุงพันธุ์ไปเรื่อยๆ โดยให้อิงกับธรรมชาติให้มากที่สุด พืชพรรณจะได้สืบต่อชั่วลูกชั่วหลาน

    -ฝึกร่างกายให้พร้อม หมายความว่าหมั่นออกกำลังกายทำร่างกายให้แข็งแรง ฝึกความอดทนต่อสภาพอากาศ ฝึกความอดทนต่อความยากลำบาก เพราะเราต้องหันหน้าไปพึ่งอาชีพเกษตรกรรมเพื่อความอยู่รอด ฉะนั้นร่างกายเราจะต้องปรับตัวให้ทนกับสภาวะแวดล้อมนั้น ถ้าเราฝึกร่างกายให้ทนกับสิ่งเหล่านี้ได้ แล้วร่างกายและจิตใจเราก็จะเคยชิน ไม่ทุกข์ร้อนกับสภาวะที่เปลี่ยนแปลง จากวิถีชีวิตเดิมที่เคยอยู่สุขสบาย จะค่อยๆเกิดการยอมรับและปรับตัวในที่สุด

    -หันกลับไปพึ่งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ เราลองกลับไปศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษเราดูว่า ท่านเหล่านั้นดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ได้พิงพาเทคโนโลยีเลย ท่านใช้ภูมิปัญญาล้วนๆ ในการดำรงชีพอยู่ได้ด้วยความพอเพียง ภูมิปัญญาในอดีตจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งในอนาคตอีกสิบปี เราต้องเข้าไปศึกษาเรียนรู้ว่า บรรพบุรุษของเราได้ถ่ายทอดอะไรไว้ให้กับเราบ้าง ที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ อย่างเช่น การทอผ้าใช้เอง วิธีการหุงข้าวแบบเก่า การทำน้ำตาลอ้อย น้ำตาลมะพร้าวไว้แทนน้ำตาลทรายสีขาวที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ การทำน้ำปลา การโม่แป้งไว้ใช้ทำอาหารทั้งของหวานของคาว วิธีการถนอมอาหาร การหาเชื้อเพลิงให้แสงสว่าง การเผาถ่านไว้ใช้ การทำภาชนะ การสร้างบ้าน การใช้สมุนไพร และอีกหลายอย่างที่ไม่สามารถพรรณนาได้หมด มนุษย์เราจริงๆ แล้วต้องการแค่ปัจจัยสี่นั้นคือ เสื้อผ้า อาหาร ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยสี่

    ท่านผู้มีปัญญาลองพิจารณา และหาเตรียมตัวศึกษาเอาไว้ก็ไม่เสียหลาย จากที่ได้พรรณนามาทั้งหมดนี้ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย การฝึกรับมือและปรับตัวในอนาคตเป็นสิ่งจำเป็น ที่เราต้องศึกษาเรียนรู้และลงมือปฏิบัติกันตั้งแต่วันนี้ เมื่อถึงเวลาที่เราต้องเผชิญหน้ากับมันแล้ว เราจะได้มีอาวุธต่อสู้กับความยากลำบากและอุปสรรคในอนาคตได้ สิ่งสำคัญ อย่าประมาท อย่าขาดสติในการใช้ชีวิต และหันมาพึ่งพาตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้พอประมาณและเกิดสมดุลในตัวเอง

    ที่มา http://kaewariyah.com/index.php?option=com_content&view=article&id=138:04&catid=50:2563&Itemid=64
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 16-5.jpg
      16-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.8 KB
      เปิดดู:
      1,133
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2011
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    คณานันท์ ทวีโภค รักในหลวง
    สำหรับข่าวดีวันนี้ เจ้าหน้าที่จากศาลากลางจังหวัดน<wbr>ครสวรรค์ส่งข่าวมาว่า น้ำในตัวเมืองนครสวรรค์เริ่มลดล<wbr>ง และสิ่งสำคัญคือ บรรยากาศความรู้สึกของประชาชน ผ่อนคลาย โล่งใจขึ้นมาก ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางท<wbr>ี่ดีขึ้น

    พรุ่งนี้จะเดินทางไปพ่นน้ำจุลิน<wbr>ทรีย์ เพื่อ ลดน้ำเสีย
    เลยได้มีโอกาสปรึกษาเรื่องการเย<wbr>ียวยา ประชาชนหลังน้ำลด
    ว่า น่าห่วงเรื่องการสร้างงานสร้างอ<wbr>าชีพรองรับให้ประชาชนโดยเร็ว
    การใช้โอกาสใช้ตะกอนน้ำที่ท่วมม<wbr>าเสริม จุลินทรีย์ให้เป็นปุ๋ย งดใช้เคมีเพื่อลดต้นทุนชาวบ้านเ<wbr>ป็นเกษตรปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง
    เร่งปลูกพืชกินได้โตเร็ว เพาะเห็ด เพื่อสร้างแหล่งอาหาร
    การอบรมอาชีพ
    การสอนการประยุกต์นำข้าวของที่เ<wbr>สียหาย ขยะ มาดัดแปลงเป็นข้าวของเครื่องใช้
    การสร้างอาชีพ โดยรีไซเคิ้ลขยะที่ล้นเมืองตอนน<wbr>ี้ให้เป็นเงิน

    หากเริ่มต้นช้า ประชาชนยิ่งเครียด และหากคนเรา อด ลำบากนานๆอาจทำให้เกิดโจร ขโมยเพิ่มมากขึ้น
    หากคนเราเครียดท้อแท้ สิ้นหวัง จะทำให้คิดสั้น และหมดพลังที่จะเริ่มชีวิตใหม่

    หากเราพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้<wbr>เร็วเท่าไร สร้างกำลังใจ สร้างความหวัง ความสำเร็จได้เกิดผลมากเท่าไร

    เรายิ่งพลิกฟื้นชีวิต พลิกฟื้นจิตใจ พลิกผืนแผ่นดินจากภัยพิบัติสู่ค<wbr>วามอุดมสมบูรณ์ได้รวดเร็วมากขึ้<wbr>นเพียงนั้น

    ก็ขอให้ทีมงานทำให้สำเร็จในทุกๆ<wbr>พื้นที่ครับ

    หากคิดดี คิดบวกได้ คุณก็จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโม<wbr>งค์ได้เสมอ
     
  9. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    กัดดาฟีี่ตายแล้วครับ รอรับการแก้แค้น การระเบิดทั่วทุกมุมโลก สงคราม....
    แทบจะไม่มีข่าวดีเลย
     
  10. bebe9

    bebe9 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2011
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +31

    เหมือนสิ่งต่างๆ เหตุการณ์ต่างๆ ตามคำทำนายกำลังทยอยเกิดขึ้น.....
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** จะเอาอะไรกับชีวิตนี้ ****

    จะรักษาชีวิตคน หรือ จะรักษาของ !!!
    ตัดสินใจผิดพลาด ของก็เสีย ชีวิตก็เสีย !!!!

    ถ้าขาดสัจจะ ก็ไม่มีทางพ้นทุกข์
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** อริยะ สัตว์ ประเสริฐ ****

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ant06zf6.jpg
      ant06zf6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.7 KB
      เปิดดู:
      1,384
    • 4_1304478969.jpg
      4_1304478969.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.8 KB
      เปิดดู:
      1,347
    • Home-65.jpg
      Home-65.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.4 KB
      เปิดดู:
      3,091
  13. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    ทำไมรู้สึกว่า ยังมีมวลน้ำมาอีกอันหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตามเหตุการณ์น่าจะหมดแล้วเพราะหมดฝนแล้ว

    น้ำมวลนี้ยังไม่ทันหมด กำลังจะหมดขนของไม่ทันเสร็จน่าจะมาอีกแน่ หนักกว่านี้เยอะ
     
  14. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    ไว้ถ้ามีบุญวาสนาได้เป็นรัฐบาล จะชวนคุณหนุมาน มาบริหารประเทศด้วยกัน ดีหรือเปล่า หรือชอบอยู่เบื้องหลัง....
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** สงครามต่างสี ****

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เราถือ สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 259763.jpg
      259763.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.5 KB
      เปิดดู:
      2,504
    • 259764.jpg
      259764.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.4 KB
      เปิดดู:
      2,540
    • 259766.jpg
      259766.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.8 KB
      เปิดดู:
      2,487
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ประกาศ ****

    ณ วันนี้
    ทางรอดเป็นเรื่องบุคคล
    ไม่มีสัจจะ ไม่มีปฏิหาริย์
    ผู้มีสัจจะ ผู้ทำได้ มีผลตอบแทน...แน่นอน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,703
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ผู้นำ ****

    ผู้ที่จะนำคนอื่นได้ ต้องนำตนเองได้ก่อน
    ถ้าผู้นำไม่มีสัจจะ ผู้ตามก็จะไม่มีสัจจะไปด้วย
    ความทุกข์ย่อมเกิดขึ้น เพราะไม่มีเครื่องป้องกันตนให้พ้นกรรม

    ถ้าผู้นำสูบบุหรี่ จะไปสอนให้คนอื่นเลิกสูบบุหรี่ ได้อย่างไร !!!
    ถ้าผู้นำยังเสพสุรา จะไปสอนให้คนอื่นเลิกสุรา ได้อย่างไร !!!!

    ผู้นำทุกระดับ จึงต้องเริ่มนำตนเองให้ได้ก่อน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +892
    น้ำที่เขื่อนตอนเหนือ ปล่อยลงมาอีกรอบนึงแล้ว อีก ๔ วันถึงนครสวรรค์ และมาถึง กทม.ปลายเดือน

    น้ำที่ผ่านนครสวรรค์ ประมาณ ๕,๐๐๐ ลบม./วิ มาถึงอยุทธยา ๓,๕๐๐ โดยประมาณ เป็นแบบนี้มาตลอด

    แล้วที่เหลือไปไหน อีก ๑,๕๐๐ ก็ลงทุ้ง เป็นแบบนี้มานานก่อนท่วมนครสวรรค์แล้ว

    และตอนนี้น้ำเหล่านี้ ที่ไม่ได้ลงเจ้าพระยา ก็กวาดเอานิคมอุตฯต่างๆ จมมาตามลำดับ

    รวมทั้ง อาจเป็น กทม.ชั้นในด้วย อย่าประมาท และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เวลาช่วงนี้มีค่ามาก หากท่านใดมีบ้านมีญาติพี่น้องในจังหวัดและพื้นที่ที่ปลอดภัย อพยพได้ก็อพยพไปก่อนครับไม่เช่นนั้นจะไม่ทันกาล

    สถานการณ์รุนแรงกว่าที่ทุกๆคนคาดกันเอาไว้นะครับ

    นี่เป็นเพียง การกวาดล้างแบบเบาะๆยกแรกเท่านั้น

    สิ่งที่เป็นของจริงกำลังติดตามมาเป็นลำดับ ต่อเนื่องไปอีก 2-3ปี ก่อนจะคลี่คลายไปสู่ความสุขสงบร่มเย็น

    อย่าไปคิดว่าเราต่อสู้กับภัยพิบัติ แต่เรากำลังต่อสู้กับจิตใจของเราที่จะรักษามโนธรรม ความดีงามแสงสว่างแห่งจิตใจของเราเอาไว้ให้ได้ในยามกลียุค

    เมตตา เข้มแข็ง มั่นคงในพระรัตนไตร
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    การเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น เท่ากับได้เอื้อเฟื้อตัวเราเอง

    เมื่อพลังแห่งความรักและเมตตา แผ่ออกไปจากร่างใด แม้ร่างนั้นจะเล็กและเปราะบางเพียงใดก็ตาม มันจะก่อให้เกิดความแกร่งที่แผ่ซ่านออกไปปกป้องมวลมนุษย์ รวดเร็วกว่าสายน้ำที่เชี่ยวกราก

    ไม่ว่าสถานการณ์น้ำท่วมและสถานการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวพันจะเลวร้ายเพียงใดก็ตาม หากเราไม่เพียงแต่ช่วยตนเองให้รอดพ้น. แต่เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ที่อ่อนแอกว่า เราจะได้รับพรอันประเสริฐ ที่ทำเราเกิดความรู้สึกเข้มแข็ง อดทน และรู้ชึ้งถึงสัมพันภาพอันลุ่มลึกของมวลมนุษย์ ที่มีความรักและเมตตาเป็นแก่นแท้ตามธรรมชาติของจิตวิญญาณ

    การเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นในยามยากและยามคับขัน จะทำให้เรามีสติพร้อม เราจะไม่ตกอยู่ในอาการเอาตัวรอดโดย-ไม่คิดชีวิต ในทางตรงกันข้าม มันจะทำให้เราสามารถเอาตนเองและผู้อื่นให้รอดพ้นได้ด้วย-การคิดชีวิตอย่างสุขุม-และตระหนักในคุณค่าของทุกชีวิต-อย่างเสมอภาค และเอาตนเองและผู้อื่นรอดพ้น ได้ด้วยพลังแห่งความรักและเมตตา ที่หลอมรวมจิตวิญญาณทั้งหลาย ให้เกิดความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    ความเข้มแข็งและอดทนที่เกิดจากการเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นในยามคับขัน จะทำให้เราค้นพบความแกร่ง และศรัทธาในตนเองและมวลมนุษย์ และปกป้องคุ้มครองซึ่งกันและกันให้พ้นภัยทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รอดพ้นจากภัยซ้ำสองที่คนจำนวนมากเกรงกลัวยิ่งไปกว่าภัยธรรมชาติ อันได้แก่ภัยจากมนุษย์ผู้เห็นแก่ตนเองเพียงถ่ายเดียว

    ขอให้ทุกท่าน ตั้งจิตมั่นเพื่อรับมือกับสถานการณ์และภัยพิบัติ ด้วยการเอาความรักและเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์เป็นที่ตั้ง และฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายไปได้ด้วยความเป็นหนึ่งเดียว

    ขอความกรุณาส่งข้อความนี้ต่อให้แก่ทุกท่าน-ที่ท่านสามารถจะส่งต่อให้ได้

    ด้วยความรักและปรารถนาดี
    พี่นักเขียน (โนวา อนาลัย)

    เรื่องราวดีๆของคนญี่ปุ่นยามภาวะฉุกเฉิน

    เรื่องที่ดีสะท้อนมุมกลับมาบ้านเราทำให้ได้คิดอะไรหลายๆอย่าง...

    เรื่องที่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้เห็นเด็กน้อยพูดกับพนักงานรถไฟ “ ขอบคุณค่ะ/ครับ ที่เมื่อวานพยายามอย่างสุดชิวิตทำให้รถไฟเดินรถได้อีกครั้ง ” พนักงานรถไฟร้องไห้ ส่วนข้าพเจ้าร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว (คืนวันที่เกิดแผ่นินไหว รถไฟซึ่งเป็นการคมนาคมหลักของชาวญี่ปุ่นหยุดวิ่ง กว่าจะวิ่งได้ก็หลังเที่ยงคืนไปแล้ว)

    เรื่องที่สอง ที่ดิสนีย์แลนด์ คนติดกลับบ้านไม่ได้จำนวนมาก และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเที่ยว ก็ได้มีนร.ม.ปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอามาจำนวนมาก มากเกินพอ แว่บแรกที่ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีคือ อะไรวะ เอาไปซะเยอะ ! แต่วินาทีต่อมากลายเป็นความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะ เด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เด็กๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้เพราะต้องอยู่ดูแลลูกๆ

    เรื่องที่สาม ในซุปเปอร์มาร์ทแห่งหนึ่ง ของตกระเกะระกะเพราะแรงแผ่นดินไหว แต่คนซื้อก็เดินไปช่วยกันเก็บของ แล้วก็หยิบส่วนที่ตนอยากซื้อไปต่อคิวจ่ายเงิน ในรถไฟที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการ และคนที่ตกค้างจำนวนมากกำลังเดินทางกลับ ก็ได้เห็นคนแก่คนหนึ่งลุกให้สตรีมีครรภ์นั่ง คนญี่ปุ่นแม้ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ ก็ยังมีน้ำใจ มีระเบียบ

    เรื่องที่สี่ ในคืนแรกที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟไม่วิ่ง ทำให้คนจำนวนมากต้องเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถไฟ ขณะที่ข้าพเจ้าต้องเดินกลับจากมหาวิทยาลัยมายังที่พัก ร้านรวงก็ปิดหมดแล้ว ข้าพเจ้าได้ผ่านร้านขนมปังร้านหนึ่งซึ่งปิดไปแล้ว แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้เอาขนมปังมาแจกฟรีแก่คนที่กำลังเดินกลับบ้าน ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ น้ำใจที่มีให้กันทำให้หัวใจข้าพเจ้าอบอุ่น ตื้นตัน

    เรื่องที่ห้า ในขณะที่รอรถไฟให้กลับมาวิ่งได้ ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่ในอาคารสถานีอย่างเหน็บหนาว โฮมเลสก็ได้แบ่งปันแผ่นกล่องกระดาษให้ โฮมเลสที่ข้าพเจ้ามองด้วยหางตาทุกวันที่มาใช้สถานี คืนนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

    เรื่องที่หก (เรื่องราวคืนรถไฟไม่วิ่งเยอะหน่อยนะครับ) ด้วยระยะเวลาสี่ชั่วโมงที่ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ก็ได้ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่ง ตาก็ไปสะดุดกับแผ่นกระดาษที่เขียนว่า “ เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ ” หญิงสาวท่านหนึ่งได้เปิดบ้านตัวเองให้แก่คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้ใช้ วินาทีที่ได้เห็นแผ่นกระดาษนั้น น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง น้ำใจคนญี่ปุ่น

    เรื่องที่เจ็ด แม้ว่าไฟดับ ก็ยังมีคนที่สู้ทำงานให้ไฟกลับมาติด น้ำไม่ไหลก็ยังมีคนไม่ยอมแพ้ทำให้น้ำกลับมาไหล เกิดปัญหากับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีคนที่พร้อมจะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้กลับมาสู่สภาพปกติด้วยตัวมันเอง ขณะที่พวกเราอยู่ในบ้านอันอบอุ่นแล้วก็พร่ำบ่นว่าเมื่อไรไฟมันจะติด น้ำจะไหลน้า ก็มีคนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บกำลังพยายามสู้อยู่

    เรื่องที่แปด ในจังหวัดจิบะ คนลุงคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรน้า เด็กหนุ่มม.ปลายก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน (ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคต!!!)

    เรื่องที่เก้า ขณะที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ หลังจากที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านมากว่า 42 ชั่วโมง คุณลุงก็ได้กล่าวว่า “ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ เคยมีประสบการณ์สึนามิที่ชิลีมาแล้ว ต่อจากนี้ไปพวกเรามาช่วยื้นฟูบ้านเมืองกันนะ ” แกกล่าวด้วยรอยยิ้ม (สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคือ ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรต่างหาก)

    ต้องขอขอบพระคุณเจ้าของบทความที่เอาภาพรวมดีๆ มาเล่าให้ฟังซึ่งตอนนี้ประเทศไทยก็ประสบปัญหาไม่แพ้ชาติอื่นๆเรื่องสภาพแวดล้อมดังนั้นจึงอยากให้ชาวไทยทุกคนได้ตระหนักถึงการช่วยเหลือ แบ่งปันน้ำใจซึ่งกันและกันให้มากๆ เพราะได้ขึ้นชื่อว่าสยามเมืองยิ้มแล้ว อย่าให้ชาวโลกเขามองเมืองไทยที่ไม่ดีเลย ร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันนะครับ

    ที่มา Dhamma Meditation Peace Buddha กฎแห่งกรรม การนั่งสมาธิ สันติภาพ พระพุทธเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...