เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เช็คชื่อให้น้องเกดแล้วครับ (ลงเรียนภาคค่ำก็ได้นะ)
    เลือกตามเก็บหน่วยกิตย้อนหลังตามสบายครับ
    ว่างๆทำส่งการบ้านให้คุณครูด้วยเพื่อนๆได้รู้จักคุ้นเคยกัน
    ถึงร่างกายเราไม่แข็งแรง แต่ขอให้มีจิตใจที่แข็งแรงไว้ก่อนนะครับ+
    มีอะไรถามคุณครูเลยครับ คุณครูใจดีมั่กๆ

    (b-glass)
     
  2. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    แม่น้ำปิงและที่มา แม่น้ำปิง เกิดจากดอยเชียงดาว ดอยอินทนนท์ ดอยขุนอัน และเทือกเขาขุนตาล ไหลผ่านอำเภอเชียงดาว แม่แตง อำเภอเมืองเชียงใหม่ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และ รวมกับแม่น้ำวัง
    แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน กลายเป็น แม่น้ำเจ้าพระยา
    แม่น้ำปิง มีเขื่อนที่ สำคัญ กั้นลำน้ำสายนี้ 4 เขื่อน คือ เขื่อนแม่แตง เขื่อนแม่งัด เขื่อนแม่กวง และเขื่อนภูมิพล


    ว้า!แล้วจาหาพลับพลาของน้าเหลยเจอมั๊ยน้อ หรือว่าจะไปสร้างตรงสามเหลี่ยมทองคำดีหล่ะ

    *ร่างทิพย์ที่มีกายสีน้ำเงินมีนามว่าพญาสัทโทนาคราชเจ้า เป็นหัวหน้า หรือประธานหมู่คณะ
    **องค์ถัดไปที่มีสีเขียวนิลคือพญาศีลวุฒินาโค
    ***องค์สีเขียวอ่อนคือพญาหิริวุฒินาโค
    ****องค์สีเหลืองคือพญาโอตตัปปะวุฒินาโค
    *****องค์สีชมพูคือพญาพาหุสัจจะวุฒินาโค
    ******องค์สีแสดคือพญาจาคะวุฒินาโค
    *******องค์สีขาวคือพญาปัญญาเตชะวุฒินาโค มาจากสระอโนดาตใน
    เทือกเขาหิมาลัย

    อัญเชิญท่านมาเยี่ยมน้าเหลยเผื่อท่านจะประทาน นาคน้อย ๆ มาแหวกว่ายน้ำขนาบข้างน้าเหลยสัก 1- 2 ท่าน (น้าเหลยต้องมีถ้ำให้ท่านจำศีลด้วยนะ
    เอหรือว่าจาหั๊ยน้ามีลสร้างถ้ำเป็นรูปปิรามิด)
    (555)

    มีแบบบ้านจากน้ำตกธารทอง มานำฉา-เนอ คับผม

    งานจิตรกรรมพวกนี้เห็นมีป้ายเค้าเขียนว่า Please don't take photo >
    คุณจิตต์ยังถ่ายมาฝากได้ สุดยอดเลย ขอบคุณมากคร๊าบ!


    จาถือว่าเป็นคำชมนะคับ (evil2) ตอยถ่ายไม่เห็นป้ายนี้แต่พอถ่ายภาพเสร็จจึง
    หันไปเห็น แต่เกิดความเสียดายก็เลยไม่ลบทิ้งคับผม
    (เหมือนโดนติหนิเลย แง๊.......:'( ต่อไปจะไม่ถ่ายภาพให้ติดป้ายแบบนี้อีกแล้วคับ)


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00537.JPG
      DSC00537.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      54
    • DSC00484.JPG
      DSC00484.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_1016.JPG
      IMG_1016.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      42
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ถ้ามีเพลงอยากให้เพื่อนๆฟังนะครับ ลองแบบนี้ครับ upload ขึ้นมาก่อน เสร็จแล้วกดปุ่มที่รูปกุณแจซอล (ด้านบน) จะมี [music][music] ขึ้นมาครับ


    [​IMG]

    จากนั้นคลิกขวาที่ไฟล์เพลงนั้น เลือก Properties พอขึ้นมาก็ก็อปปี้ Location:http://palungjit.org/attachments/a.000/ของเพลงมาใส่ไว้ตรงกลางของช่องนี้ ตัวอย่างครับ

    [music][COLOR=redhttp://palungjit.org/attachments/a.000/COLOR][music] ต้องวางให้ชิดติดกันหมดครับ

    เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กดส่งข้อความได้เลย

    อีกแบบ คือลากครอบบนเครื่องเสียงที่มีเพลงอยู่แล้ว คลิกขาวเลือกProperties แล้วเอามาใส่ในช่องว่างนี้ได้เหมือนกันครับ Vdo ก็ทำแบบนี้ครับ แต่เลือกปุ่มข้างล่างนี้แทนครับ ลองดูใหม่นะครับคุณ Axzon

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2007
  4. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    "ขอให้คุณได้อ่านเพื่อเกิดปัญญาญาณ
    จักหลุดพ้นจากทุกข์ที่ทนทรมาน
    จักนานเกินกาลก่อนเก่า
    จักแม้เราไร้ร่าง ร้างกายคนรัก
    วิบัติกรรม ตามขัดขวาง
    ยัง....ยังมิสิ้นกาล
    นาคารักบาดาลมิสิ้นปราณและบุญเอย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  5. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    ใจเราเท่านั้นกำหนดทุกอย่าง ขอต้อนรับกลับห้องวิทย์ และพวกเราจะกลับบ้านพร้อมๆกัน ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่หิวโหย ตลอดรายทางขนมของพี่นักเขียน เสียงเพลงจากเห่ล่าศิลปินหลายค่ายขับกล่อมตลอดรายทาง มีน้ำทิพย์ โชลมกายท่าน ด้วยใจพวกเราทุกคน พลังของทุกดวงจิตวิญญานประสานรวม ยิ่งใหญ่ สู่เทือกเขาหิมาลัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2007
  6. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    จ้ากกกกก!!! ไม่ใช่ผม ผมเอาช่วยคุณ mead ตะหากล่ะ ว้าว++เดี๋ยวนอนไม่หลับกลัวฝันค้างหนะ
     
  7. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    สุดยอดเลยคุณจิตต์ ขอบคุณมั๊กมาก ละอายใจจังขนาดผมเป็นลูกแม่น้ำปิงยังไม่รู้ประวัติและต้นกำเนิดเลยครับ
    พลับพลาที่เล็งไว้อยู่ก่อนถึงตัวจังหวัดกำแพงเพชรประมาณ 10 กิโลเมตร เพราะเวลาเทศกาลกลับเยี่ยมพ่อกับแม่มักจะไปปล่อยปลาแถวๆนั้นทุกครั้ง และก็ตั้งจิตปรารถนาว่าจะต้องมีบ้านอยู่แถวนั้นให้ได้
    ชอบองค์สีขาวพญาปัญญาเดชะวุฒินาโค ครับก็พยายามไปภูเขาหิมาลัยอยู่ครับ อาจารย์นักเขียนท่านก็เมตตาเอารูปมาฝากหลายรูป แต่ยังไม่มีรูปสระอโนดาต คงต้องไปเองครับ ต้องรบกวนคุณ mead สร้างปิรามิดให้ลูกๆท่านอยู่ แล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2007
  8. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    วันนี้งานยุ่งหัวปูดเลย ฮือๆ งานเยอะดีกว่าไม่มีงานเนอะ แว้บ ไปทำงานก่อน
     
  9. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    คุณTK the Nakaเข้ามาคุยกันเถอะ ทุกคนรออยู่จ้า
     
  10. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ยังรักและคิดถึงทุกๆท่านเสมอ....
    ท่านอาจารย์ ท่านนักเขียน คุณ mead คุณ ชมภูเขา คุณ Chalhoei คุณ leogirlw99 คุณ ขจรวรรณ คุณ จิตต์ปภัสสร และทุกๆท่านที่เคารพรัก
    ข้าพเจ้ายังคอยเฝ้าดูทุกท่านอยู่เสมอ...
    นาคารักบาดาล
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เอาเพขรพญานาคสีสวย..มาฝากคุณนาคาครับ
    ในถ้ำเก่าของคุณนาคาคงมีเยอะมาก (เอามะพร้าวมาขายสวนซะแล้ว)
    ราวๆ 9 ปีที่ก่อน ผมเคยได้รับจากพระธุดงค์ท่านหนึ่งในป่าแถวบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
    หลังจากได้สนทนากันสักพัก มีพี่ท่านหนึ่งก็เอ่ยขอท่านขึ้นมา..
    อยู่ๆท่านก็หยิบออกมาให้จากไหนไม่ทราบครับ (เหมือนคว้ามาจากอากาศทีละเม็ด)
    บอกว่ามาจากถ้ำที่พระเจ้าชัยวรมันบำเพ็ญอยู่ ในถ้ำนั้นมีพญานาคอยู่หลายตน
    ท่านคว้าสีม่วงมาให้เม็ดหนึ่ง เหมือนท่านรู้ว่าผมเกิดวันเสาร์
    คนอื่นๆก็ได้สีตรงวัดเกิดกันหมดทุกคน ทำให้หลายคนทึ่งมากวันนั้น
    ท่านบอกว่ากับพวกเราว่า หลังจากนี้ไปแล้วคงไม่ได้พบกันอีกนาน..
    พวกเราจะขอถ่ายรูปท่านก็ไม่อนุญาติอีก..ผมเลยรู้จักเพชรพญานาคตั้งแต่นั้นล่ะครับ
    ท่านว่าภพภูมิของพญานาคอันงดงามนั้นซ้อนทับภพภูมิของเราอยู่
    ในถ้ำนั้นก็เต็มไปด้วยอัณมณีมีค่ามากมายเต็มไปหมด..
    ถ้ำไหนมีงูใหญ่ๆแสดงว่าถ้ำนั้นเป็นตัวแทนของภพภูมิเค้า
    และท่านก็เล่าให้ฟังอีกยาวหลายเรื่องครับ โดยเฉพาะเรื่องจิตของมนุษย์
    ที่กำหนดให้เราเป็นไปในทิศทางใดๆได้ทุกอย่าง..แต่จิตต้องมีพลังและมีศรัทธาในตนเองครับ
    ท่านก็ย้ำพวกเรามาแบบนี้ เหมือนกับที่พี่นักเขียนบอกย้ำพวกเราบ่อยๆเช่นกันครับ
    คุณนาคา ทำให้เราได้เรียนรู้ไปด้วยครับว่า"เรื่องจริงนั้นยิ่งกว่านิยาย"
    หวังว่าคุณนาคาจะมีกำลังใจฝ่าฟันอุปสรรคจากนิมิตรทุกวันพระที่เข้ามา
    กลับกลายเป็นดีได้ในที่สุดครับ เพื่อนๆเอาใจเอาใจช่วยกันทุกคนครับ
    พี่นักเขียนช่วยหาวิธีแก้ไขให้คุณนาคาด้วยนะครับ คงจะช่วยได้มากทีเดียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2007
  12. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ผมก็เอามาฝากคุณนาคาด้วยเหมือนกันครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] <!-- / attachments --><!-- sig -->

    ____________________________________________________________
    [​IMG]

    [​IMG] <!-- / attachments --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________

    รูปขนาดเล็ก[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    <!-- / attachments --><!-- sig -->
    รูปขนาดเล็ก[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]


    รูปขนาดเล็ก[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]



    ขนาดเล็ก[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    นักเขียนถอดรหัสความฝันเป็นหนังสือได้อย่างไร?


    หนู mindanaric หลานรักมาค้นถุงย่ามที่น้านักเขียนเก็บบันทึกอีกแล้ว ที่จริงอยากจะให้น้องๆ หลานๆ ลูกๆมาช่วยกันค้น เพราะอีกหน่อยน้านักเขียนกลายเป็นคุณทวดไปแล้วจะหลงลืมไม่รู้ว่ามีอะไรเก็บไว้ในถุงย่ามอีกบ้างที่ยังไม่ได้เอาออกมาแจก ของเก่าบางอย่างไร้ประโยชน์ก็ไม่เป็นไรหรอกถ้าลืม กลัวแต่จะหลงทิ้งของมีค่าไว้ ทำให้สูญไปโดยเปล่าประโยชน์

    ก่อนที่จะตอบคำถามคุณหลานว่าน้านักเขียนแปลงข้อมูลความรู้ที่ได้จากความฝันมาเป็นสัญญลักษณ์ ซึ่งเป็นตัวอักษรให้พวกเราอ่านกันได้อย่างไร น้านักเขียนต้องขอเล่าถึงประสบการณ์และทักษะที่สร้างความพร้อมอื่นๆนอกเหนือไปจากการทำสมาธิ ซึ่งตนเองได้นำมาใช้ แม้ว่านัานักเขียนจะเขียนหนังสือให้ท่านอาจารย์อนาลัยจบไป 10 เล่มแล้วก็ตาม กระบวนการทั้งหมดมีเหตุ- มีขั้นตอน-และมีผลลัพธ์มาก่อนที่จะกลายเป็นหนังสือ หากตอบคำถามห้วนๆด้วยบทสรุปและขาดเหตุและขั้นตอนไป คำตอบเหล่านี้คงไม่มีประโยชน์อะไร

    ไม่เคยมีใครถามคำถามนี้กับน้านักเขียนมาก่อนแม้แต่คนเดียว แม้แต่ผู้ที่ร่วมงานเพื่อนำข้อมูลความรู้เหล่านี้มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือที่ออกสู่ท้องตลาดเพื่อที่จะให้ไปถึงมือผู้อ่าน แม้เขาจะยอมรับข้อมูลความรู้ทั้งหมดก็ตาม แต่เขาก็สรุปว่าน้านักเขียนทำหน้าที่เสมือนคนทรง คือเป็นหุ่นยนต์ที่เขียนข้อมูลความรู้เหล่านี้ออกมาโดยที่ตนเองไม่รู้ว่าเขียนอะไร แต่เป้าหมายส่วนตัวของน้านักเขียนคือการนำข้อมูลความรู้ของท่านอาจารย์อนาลัยไปสู่สายตาผู้อ่านที่แสวงหาข้อมูลความรู้ชุดนี้ สาระอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังจึงไม่ใช่สาระหลัก และการเปลี่ยนความเชื่อบุคคลเป็นไปไม่ได้หากเขาไม่ได้ปรารถนาที่จะเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนความเชื่อนั้นๆ แต่ยึดถือว่ามันคือความจริง มาถึงคำถามของคุณหลานในวันนี้ ทำให้น้านักเขียนตระหนักว่า เป็นคำถามที่น่าจะเป็นคำถามแรกที่ไดัรับและได้ตอบด้วยซ้ำไป

    การเขียนเป็นทักษะส่วนตัวที่น้านักเขียนพัฒนาขึ้นมาด้วยใจรัก พื่้นฐานเดิมเป็นสถาปนิก ซึ่งเป็นอาชีพที่ถ่ายทอดจินตนาการไปสู่ภาพวาดด้วยเทคนิคการวาดภาพทางสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นภาพ 2 มิติทอดหนึ่ง เป็นหุ่นจำลองทางสถาปัตยกรรมซึ่งเป็น 3 มิติอีกทอดหนึ่ง และจากนั้นก็เป็นอาคารซึ่งเป็นวัตถุธาตุ 3 มิติที่เป็นของจริงอีกทอดหนึ่ง

    จากนั้นน้านักเขียนได้หันไปเรียนทางด้านเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งเป๋นสาขาวิชาที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลความรู้สาขาต่างๆไปสู่นักเรียน ด้วยการใช้เทคโนโลยีสารพัดรูปแบบเป็นสื่อ ตั้งแต่ตัวหนังสือ ภาพ 2 มิติ 3 มิติ graphic เสียง animation และ VDO หรือที่เรียกกันว่า Multimedia ทั้งสองอาชีพนี้กล่าวได้ว่าเป็นไปด้วยความสนใจในการถ่ายทอดข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่หัวใจก็คือการถ่ายทอดข้อมูลความรู้ อาชีพนี้เป็นการถ่ายทอดข้อมูลตวามรู้จากผู้รู้สาขาวิชาต่างๆไปสู่ผู้เรียน ซึ่งหมายความว่า น้านักเขียนไม่ใช่เจ้าของข้อมูลความรู้นั้นๆ แต่ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตสื่อทีทำให้การถ่ายทอดนั้นๆเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เช่น น้านักเขียนทำอาชีพนี้ให้กับโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแคนซัส โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจ โรคเบาหวาน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โรคมะเร็ง ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลความรู้ที่มาจากแพทย์ทั้งสิ้น

    น้านักเขียนทำหน้าที่แปลงข้อมูลความรู้ซึ่งแพทย์นำมาให้ในรูปแบบของตำราหรือสัญญลักษณ์ที่เป็นตัวอักษรหนังสือภาษาอังกฤษ บวกกับภาษา Latin ซึ่งเป็นศัพท์แสงทางการแพทย์ จากนั้นหน้าที่ของน้านักเขียนคือแปลงข้อมูลเหล่านั้นเป็น Multimedia ได้แก่ ภาพวาด เป็นตัวหนังงสือ เป็นเสียง เป็น animation เป็น VDO และบูรณาการข้อมูลทั้งหมดเป็นรูปแบบของสื่อชนิดต่างๆให้เป็นบทเรียน ที่ช่วยให้แพทนำไปสอนนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการแปลงสาระจากตำราที่เป็นหนังสือและภาพ 2มิติ มาเป็นสื่อ Multimedia เป็นไปได้ด้วยการที่น้านักเขียนจะต้องมีพื้นฐานความรู้และเข้าใจถึงความเป็นไปได้ทางด้านจิตวิทยาของผู้ชม เช่น ทราบว่าผู้ชมจะเรียนรู้สาระจำเพาะหนึ่งๆ ด้วยภาพ 2มิติ 3 มิติ หรือคำพูดหรือเสียงประกอบ เพราะมีความรู้ว่าสื่อแต่ละชนิดมีคุณสมบัติจำเพาะใดที่จะนำเสนอสาระในทิศทางนั้นๆได้ดีที่สุด

    เมื่อรับข้อมูลความรู้มาจากความฝันเรียกได้ว่าข้อมูลความรู้ที่ได้รับมาเป็น Multimedia ต่างกันตรงที่ว่าหากเป็นภาพมักเป็นอุปมาอุปมัย หากเป็นเสียงก็ไม่ใช่ภาษาพูดซึ่งเป็นภาษาไทยหรือภาษาใดๆจำเพาะ แต่เป็นภาษาใจ เป็นภาษาที่เกิดจากการรับเอามุมมองของบุคลิกภาพในความฝันอันได้แก่บุคลิกภาพของท่านอาจารย์อนาลัยมา ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆผ่านทัศนคติ-มุมมองและด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของท่าน ซึ่งแตกต่างไปจากทัศนคติ-มุมมองและอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดตามปกติยามตื่นของตนเอง เมื่อบุคลิกภาพของท่านอาจารย์อนาลัยท่านรู้เห็นอะไร น้านักเขียนก็เสมือนมองผ่านดวงตาของท่าน สวมอารมณ์-จินตนาการและความรู้ความเข้าใจของท่าน และข้อมูลความรู้ทั้งหมดจะรับมาในภาวะที่เสมือนว่าอัดแน่น หากเปรียบกับภาวะทางกายภาพยามตื่น อาจเปรียบได้กับการที่แม่กับลูก หรือคนรักมองตากันแว้บเดียว แล้วรับรู้หลายสิ่งหลายอย่างได้ลุ่มลึกโดยไม่ต้องพูดสักคำ แต่หากจะแปลงสิ่งที่ได้รับออกมาเป็นคำพูดจะบรรยายได้ยาวเหยียด เป็นต้น

    การแปลงข้อมูลความรู้ที่รับมาเป็นตัวอักษรให้พวกเราอ่านกันนั้น จุดเริ่มต้นอยู่ที่อารมณ์ คือเมื่อรับก็รับได้ด้วยการมีอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเรียนรู้หรือรับข้อมูลความรู้จากภายในต่อหนึ่ง และเมื่อรับรู้ข้อมูลความรู้หนึ่งๆมาจดบันทึกได้แล้ว ก็เกิดอารมณ์อย่างท่วมท้นอีกอารมณ์หนึ่ง คือ ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะถ่ายทอด ทั้งสองอารมณ์นี้เรียกได้ว่าเป็นไปอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มต้นพร้อมๆกัน ซึ่งน้าน้กเขียนเชื่อว่า หากน้านักเขียนปรารถนารับข้อมูลความรู้แต่เพียงอย่างเดียว ก็คงจะรับได้ในระดับหนึ่ง และประสบการณ์ชีวิตและทักษะทั้งหมดที่สะสมมา คงไม่เป็นไปในทิศทางที่จะทำให้สนับสนุนความปรารถนาดังกล่าวนี้


    คำตอบสั้นๆที่สุดที่จะให้ได้พอสรูปได้ว่า การถอดความจากข้อมูลความรู้ที่ได้รับมาในลักษณะ Multimedia ซึ่งถูกบีบอัดข้อมูลไว้ในความทรงจำเป็น zip file หรือประมวลไว้เป็นความคิดรวบยอด (Concept หรือ Abstract) เมื่อตื่นจากความฝัน zip file หรือ Concept หรือ Abstract นั้นๆจะถูกนำมาขยายกลับออกมาเป็น ภาพ คำพูด เสียง animation และ VDO แต่ก็ไม่สามารถที่จะบันทึกไว้ในรูปลักษณ์ของสื่อทุกชนิดที่ปรากฏได้ แม้ว่าน้านักเขียนจะมีอาชีพผลิตสื่อ Multimedia ก็ตาม เพราะต้องใช้เวลามากมายมหาศาลที่จะสร้างสื่อแต่ละชนิดได้สำเร็จ ดังนั้นการจดบันทึกเป็นภาพ sketch และตัวหนังสือจึงเป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายและเร็วที่สุด ได้จดบันทึกความฝันเป็นภาพ sketch กับตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพราะเป็นทางเดียวที่จะจดได้โดยไม่บิดเบือนด้วยความรู้มากในภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาตัวจนข้อมูลคลาดเคลื่อนไป จากนั้นนำมาประมวลอีกต่อหนึ่งเมื่อลงมือพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งเมื่อเห็นข้อมูลความรู้ในความฝันเป็นภาพหรือปรากฏการณ์อันเป็น VDO ก็ อาศัยทักษะกลับทิศ ที่ทำเป็นอาชีพอยู่แล้ว คือแปลงสภาพข้อมูล Multimedia ให้กลับเป็นคำพูดหรือตัวหน้งสือ

    น้านักเขียนเชื่อว่า ประสบการณ์ชีวิตของเราทุกคนไม่มีสิ่งใดเป็นความบังเอิญ แต่ทุกประสบการณ์เป็นการสั่งสมความรู้และทักษะที่ทำให้เราได้นำไปใช้ในทิศทางจำเพาะอย่างเป็นเอกลักษณ์ที่เราเลือก เพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์อันเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าของเรา

    ความเป็นจริงที่เราจะต้องตระหนักคือ ความเป็นเอกลักษณ์ของเรา ซึ่งท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวย้ำเสมอว่า จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน

    ดังนั้นประสบการณ์และทักษะที่น้านักเขียนเผชิญ ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปในทิศทางจำเพาะ หากหนูมาย์หรือผู้อื่นจะเผชิญกับประสบการณ์ใดๆ มันย่อมมาจากความปรารถนาส่วนบุคคลที่แตกต่างไป กระบวนการ ขั้นตอนและผลลัพธ์ก็ย่อมจะมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงเช่นกัน ซึ่งทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่น้านักเขียนทำ ไม่มีผู้ใดทำได้ แต่หมายความว่า ทุกคนทำได้ในทิศทางที่ตนปรารถนา ด้วยกระบวนการและขั้นตอนอันเป็นเอกลักษณ์ ความรู้และทักษะส่วนบุคคล เป็นสิ่งที่เราทั้งหลายต้องขวนขวายและสร้างสรรค์ด้วยตนเอง ไม่ว่าพวกเราจะได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับผู้ที่มีประสบการณ์ทางจิตวิญญาณในทิศทางใดก็ตามที่แปลกแยกหรือเหนือชั้นไปจากประสบการณ์ของเรา เราควรตระหนักด้วยว่า เราทุกคนจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ สั่งสมประสบการณ์และทักษะ เพราะไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นได้โดยปราศจากความเพียร

    ความเชื่อที่ว่าน้านักเขียนเป็นเสมือนหุ่นยนต์ที่รับข้อมูลความรู้มาเขียน โดยที่ตนเองไม่ทราบว่าเขียนอะไร นอกจากจะเป็นมุมมองที่คับแคบแล้ว ยังทำให้ผู้ที่มีความเชื่อเช่นนี้ขาดความเพียร ขาดความใฝ่รู้ที่จะศึกษา เพราะความเชื่อของเขาทำให้คิดว่า ความรู้จะมาสู่ตัวตนของเราได้โดยไม่ต้องใช้ความเพียร ไม่ต้องขวนขวายที่จะศึกษาหาความรู้ แต่จะเป็นไปอย่างเป็นปาฏิหารย์ และปาฏิหารย์ในความเชื่อของเขาก็ไม่ใช่สิงที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า คือธรรมชาติที่ปราศจากการขัดขวาง หากแหตุเป็นสิ่งที่เขาคิดว่าเหนือธรรมชาติ

    น้านักเขียนเชื่อว่า ความเชื่อและความเข้าใจในทิศทางดังกล่าวทำให้ผู้ที่คิดและเชื่อเช่นนั้นมักใช้ชีวิตเพื่อรอคอยให้ปาฏิหารย์เกิดขึ้น โดยปราศจากการแสวงหาความรู้ ซึ่งเป็นการอคอยที่เปล่านประโยชน์ และน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

    หนูมายด์มีีความสนใจใฝ่รู้เกี่ยวกับธรรมชาติของจิตวิญญาณตั้งแต่อายุยังน้อย และตามที่เล่ามาให้พวกเราฟัง หนูมายด์ก็ติดต่อสื่อสารกับหลวงปู่มั่น หรืออาจเรียกได้ว่า บุคลิกภาพที่ปรากฏให้หนูมายด์เห็นเป็นหลวงปู่มั่นมาตั้งแต่หนูมายด์ยังเด็ก การติดต่อสื่อสารเหล่านี้เป็นธรรมชาติสำหรับเราทุกคน

    บทสรุปอีกข้อที่น้้านักเขียนขอมอบให้ไว้ในคำตอบนี้ด้วยคือ
    เจตนา+ความปรารถนาอย่างแรงกล้า + ความมุ่งมั่น ของน้านักเขียน คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้น้านักเขียนแปลงข้อมูลความรู้ที่ได้จากความฝันมาเป็นสัญญลักษณ์เป็นหนังสือชุดนี้ได้สำเร็จค่ะ (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2007
  14. Mila

    Mila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184
    (kiss) คำถามของน้องมายด์เกดก็เคยสงสัยค่ะ
    อาจาร์ยมาตอบ ให้เข้าใจขึ้นแยะเลย

    ตอนนี้ที่นี่ ห้าทุ่มก่าๆแล้วค่ะ
    ไปนอนก่อนนะคะ

    ขอให้ทุกคนฝันดี พรุ่งนี้ตื่นมาสดใส
    Good nightค่ะ
     
  15. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ดวงดาว กับ จิตวิญญาณ


    ในโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ผู้ที่มองดูโลกของเธอจากดาวดวงอื่น จากทางช้างเผือกอื่น จึงสามารถมองเห็นอนาคตของโลกของเธอจากมุมมองของเขา แต่มันก็ไม่ได้พลิกผันโลกแห่งความเป็นจริงของเธอ ตำแหน่งของดาวฤกษ์-ดาวเคราะห์ทั้งหลายในแบบแผนของกาลเวลา จึงไม่อาจเป็นปัจจัยที่นำไประบุต้นเหตุและผลสืบเนื่องในชะตาชีวิตของเธอได้ การเป็นบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นนัยที่กว้างใหญ่กว่าที่จะระบุได้ด้วยตำแหน่งของดาวฤกษ์-ดาวเคราะห์

    อย่างไรก็ตามการใช้โหราศาสตร์ตามธรรมเนียมโบราณ อาจทำให้เธอพบความสัมพันธ์จำเพาะ เพราะเหตุการณ์จำเพาะบางอย่างที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กัน แต่คนจำนวนมากก็ไม่ได้ค้นพบสิ่งที่เป็นตัวแทนของเขาในแผนผังของโหราศาสตร์ เพียงเพราะว่าเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ของเขาแตกต่างไปจาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8265.JPG
      DSCN8265.JPG
      ขนาดไฟล์:
      865.6 KB
      เปิดดู:
      51
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2007
  16. kaewta77

    kaewta77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +627
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>kaewta77, nova_analai </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
    ฮ้า! ดีใจจัง ได้เข้ามาตอนที่พี่นักเขียนอยู่ในห้องด้วย
    ไม่ได้เข้ามาหลายวันครับ หลังจากเอาคอมไปซ่อมอยู่อาทิตย์กว่าๆ
    เข้ามาอีกทีก็พุ่งไปหลายหน้าแล้วอ่านไม่ทันเลย
    แถมยังอดทำการบ้านตั้งหลายชิ้น

    คิดถึงทุกๆคนคับ
     
  17. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
     
  18. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    เมื่อ2-3วันก่อนมีเรื่องกังวลใจในเรื่องงาน เพราะก่อนหน้านั้นนกลืมบอกspecสินค้าที่ลูกค้าต้องการให้กับหัวหน้าทราบ คือลูกค้าต้องการฝาใสที่มีเคทองแต่ตัวอย่างที่ส่งไปให้ดูเป็นเคเงิน ลูกค้าเค้าแจ้งนกแล้วล่ะว่าเปลี่ยนได้ใช่ไหมเราก็ว่าได้ แล้วก็ลืมที่คุยกับลูกค้าไปเลย ตอนส่งstandardให้เซ็นก็ส่งแต่เคเงินให้ ลูกค้าก็คิดว่าของจริงมาเป็นเคทอง ต่างคนต่างเข้าใจว่าทราบความต้องการกันดีอยู่แล้วและไม่ได้มีการconfirmอะไรกันต่อ จนของที่สั่งจากต่างประเทศเข้ามาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ปรากฎว่าลูกค้าบอกว่าไม่ได้เอาแบบนี้ ตอนที่ของมานกก็ไม่ได้อยู่ที่ทำงาน หัวหน้าก็โทรมาถามว่าทำไมเป็นแบบนี้พี่เค้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกค้าต้องการอีกแบบนึง นกก็ยังงงอยู่เลยยังไม่ได้ตอบว่ายังไง พอวางสายไปก็นึกทบทวนความจำว่าเคยคุยอะไรกับลูกค้าไปบ้าง เท่านั้นแหล่ะนึกออกว่าเค้าแจ้งมาแล้ว โธ่ ความผิดเราเต็มๆเลย หยุดเสาร์อาทิตย์ก็คิดว่าจะแก้ปัญหายังไงดีเพราะของก็มาแล้ว หัวหน้าจะว่าอะไรบ้าง จำได้ว่าพี่นักเขียนเคยหาวิธีแก้ปัญหายามเราฝัน ก่อนนอนเลยตั้งจิตขอกับอาจารย์อนาลัยว่า ขอให้นกได้หาวิธีแก้ไขปัญหาและรู้ถึงสิ่งที่ต้องเผชิญต่อไปด้วยเถอะ พอกลางคืนนอนฝันว่าได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าถึงงานที่มีปัญหา หัวหน้าบอกตัวอย่างสินค้าที่ส่งไปก็เป็นแบบนี้และลูกค้าก็เซ็นยอมรับกลับมาไม่ใช่ว่าเราผิด ในใบสั่งซื้อก็ไม่ได้แจ้งspecที่ชัดเจนมา นกไม่ได้โดนหัวหน้าตำหนิเลย พอตื่นขึ้นมาก็ใจชื้นขึ้นคิดว่าทุกอย่างไม่มีอะไรเลวร้ายมาก พอวันนี้ไปทำงานใจก็ตุ้มๆต่อมๆอยู่ว่าจะเจออะไรบ้างแต่ก็ตัดสินใจบอกหัวหน้าไปตามตรงถึงความผิดพลาดของเราว่าเราคุยกับลูกค้าอย่างนี้แต่ลืมแจ้งหัวหน้า พอเจอพี่เค้าตอนเช้าก็เลยถามว่าลูกค้ายอมรับสินค้าไหม ปรากฎว่าลูกค้าไม่ยอมรับและหัวหน้าก็สั่งสินค้าใหม่มาชดเชยแล้ว นกก็บอกว่าผิดที่นกเองแหล่ะ พี่เค้าไม่ได้ว่าอะไรแต่บอกว่าทีหลังทำอะไรต้องมีเอกสารยืนยันให้ดีว่าลูกค้าต้องการอะไรเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างน้อยจะได้ไม่พลาดกันทั้ง2ฝ่าย เพราะตอนส่งสินค้าเซ็นกันก็ไม่มีใครเอะใจกันเลย

    งานนี้ก็เลยถือเป็นบทเรียนว่าทำอะไรต้องรอบคอบกว่านี้ ยังดีที่สินค้านี้ได้กำไรพอสมควร ถึงสั่งมาชดเชยใหม่ก็ไม่ได้ขาดทุน ไม่งั้นนกมีหวังขึ้นเขียงแน่ๆเลย เฮ้อ
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ขอบคุณ หนูลูกเกดผู้นำปีกนางฟ้ามาติดให้แม่หมีนักเขียนนะคะ

    เวลาร่างกายอ่อนแอไม่สบาย มีผลต่อการทำสมาธิอย่างไร

    เมื่อร่างกายอ่อนแอไม่สบาย ร่างกายมักจะมีความพร้อมที่จะละประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ง่ายกว่าปกติ เพราะมันต้องการพักผ่อน

    สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการฝึกสมาธิ หรือไม่คุ้นเคยกับการควบคุมการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะ หากทำสมาธิในช่วงนี้ มักจะตกเข้าภวังค์หลับได้ง่าย หรือหากการจดจ่อเป็นไปได้อย่างที่ไม่เคยเป็นไปมาก่อน จะพบว่าแทนที่หลับอย่างที่ร่างกายต้องการจะหลับ กลับนอนไม่หลับได้ง่ายๆอย่างที่เคย เพราะสติสัมปชัญญะเพิ่งเรียนรู้ที่จะตื่น แม้ร่างกายจะหลับ สติสัมปชัญญะก็อยากจะตื่น ผู้ที่ไม่ยังไม่คุ้นเคยกับภาวะที่ร่างกายหลับและจิตตื่น จึงมักจะรู้สึกว่านอนหลับยากและอ่อนเพลียยิ่งกว่าเดิม

    สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการฝึกสมาธิ ช่วงที่ร่างกายอ่อนแอหรืออ่อนเพลียกลับเป็นช่วงที่ทำให้เปลี่่่่่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่มิติอื่น โลกอื่น หรือเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่นๆได้ง่ายดายกว่าปกติ เพราะร่างกายละประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ง่าย เรียกได้ว่าทำให้จิตตื่นอยู่เดี่ยวเดียว ร่างกายก็หลับไปแล้ว กล่าวได้ว่าผู้ที่ฝึกสมาธิได้ดีแล้วสามารถได้เปรียบหรือพัฒนาทักษะบางอย่างได้จากสถานการณ์ที่ร่างกายอ่อนแอหรืออ่อนเพลียมากกว่าปกติ

    เมื่อเดินทางกลับไปทำธุระทางเมืองไทยตามลำพัง พี่นักเขียนเดินทางไกล บิน + transit หลายทอดรวม 24 ชมจาก Kansas กว่าจะถึงกรุงเทพฯ แล้วไม่ได้นอนเต็มตา 5 วัน 5 คืนติดต่อกัน เนื่องจากว่าได้ pack ของไว้ 300 กว่าลังเตรียมขนย้ายมาอเมริกา แต่กลับไปพบว่า บ้านถูกงัดและลังที่ pack ไว้ถูกเจาะเป็นรูกระจุยกระจาย แต่ขโมยจอมขี้เกียจก็ไม่ได้ยกของไปเลยแม้แต่ลังเดียว นอกจากยกเอาเครื่อง Fax ที่ท้ิงไว้ใช้งานอยู่ไป แล้วเปิดตู้ลิ้นชักทุกบานในบ้านออกหมด ทำให้รู้สึกว่าบ้านถูกบุกรุกอย่างจัง พี่นักเขียนได้แจ้งตำรวจ ตำรวจผู้หวังดีก็บอกว่าในละแวกบ้านมีการปล้นไม่กี่วันก่อนหน้านั้น และเจ้าของบ้านเป็นหญิงสูงอายุอยู่ตามลำพัง โจรมางัดแงะแต่ไม่ได้เอาอะไรไป สองวันให้หลังก็มาเชือดคอเจ้าของบ้านแล้วยกเค้าหมดบ้าน

    นายดาบผู้มองโลกแง่ร้ายคู่กันกับโจรแนะนำให้พี่นักเขียนย้ายออกไปนอนโรงแรมหรือบ้านญาติก่อนที่จะถูกเชือดเป็นรายที่สอง แต่พี่นักเขียนไม่เชื่อเขา ปักใจว่าบ้านเราไม่ได้ถูกขโมยขึ้น เพราะสัมผัสได้ว่า ไม่มีอารมณ์ตกค้างในบ้านที่ทำให้รู้สึกได้ว่ามีคนบุกรุก หรือเข้ามาด้วยความไม่คุ้นเคย

    บ้านพี่นักเขียนอยู่ติดถนนซอยและเป็นบ้านเดียวในซอยที่ไม่มีเหล็กดัด และไม่เคยโดนขโมยขึ้นมาก่อนเลย แต่เพื่อนบ้านโดนกันหมดทุกหลังแม้จะมีเหล็กดัดก็ตาม

    แม้จะไม่ยอมย้ายไปนอนที่อื่น แต่ก็หลับสนิทไม่ได้ 5 วัน 5 คืนเพราะกองพิสูจน์หลักฐานส่งตำรวจมาเก็บลายมือทั่วบ้าน ติดต่อกัน 5 วัน 5 คืนกว่าจะกลับกันก็หลัง 2 ยามทุกคืนกว่าจะเก็บลายมือหมดทุกจุด คืนที่ 5 พอล้มตัวลงนอนหัวยังไม่ถึงหมอนจิตวิญญาณก็เปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะออกไปนอกร่าง รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านก่อนหน้าที่เราจะเดินทางกลับไปเมืองไทย เห็นลูกชายคนเก่าแก่ที่บ้านเดินทอดน่องเข้ามาในบ้าน แล้วเอาไขควงเจาะลัง แล้วเปิดตูทุกบาน แล้วก็งัดหน้าต่างจากด้านใน แล้วก็เดินทอดน่องกลับออกไป

    หลังจากเกิดเหตุ ลูกชายคนเก่าแก่ที่บ้านก็มาเสนอตัวจะเฝ้าบ้านให้พี่นักเขียนด้วยสนนราคาที่น่าใจหาย ถ้าหากพี่นักเขียนกลัวว่าจะถูกเชือดก็คงรีบจ้างแล้วแถมโบนัสให้ล่วงหน้า

    จากประสบการณ์ที่พี่นักเขียนเล่ามานี้ พี่นักเขียนพอจะสรุปได้ว่า หากฝึกสมาธิจนสามารถติิดตามรู้เห็นการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อได้ ความอ่อนเพลียผิดปกติของร่างกาย ส่งผลให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าปิดลงได้อย่างฉับพลัน และทำให้ประสาทสัมผัสที่หกทำงานได้อย่างฉับพลัน ทำให้การรู้เห็นเป็นไปได้ง่ายกว่าปกติ และการนอนสมาธิทำให้การนอนหลับเพียงหนึ่งคืน สามารถชดเชยการอดนอนหลายคืนได้อย่างได้ผล


    สมาธิมีผลต่อร่างกายที่อ่อนแออย่างไร และมีวิธีอะไรบ้างที่ช่วยให้ทำสมาธิได้ราบรื่นได้ ในร่างกายที่อ่อนแอคะ
    การนอนทำสมาธิด้วยการนับจากปลายเท้าขึ้นไปสู่กระหม่อมที่พี่นักเขียนได้เคยแนะนำพวกเรามาแล้ว เป็นวิธีการที่ทำให้พลังงาน หรือ จิตวิญญาณ หรือพลังจักรวาล เคลื่อนไหวผ่านร่างกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้ากระชุ่มกระชวย และทำให้การซ่อมแซมร่างกายเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยปราศจากการขัดขวาง

    แม้ว่าในขณะที่เจ็บป่วยหรือร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ หากทำสมาธิด้วยการนอนในท่าที่พี่นักเขียนแนะนำ ซึ่งเรียกว่าท่า โยคะนิทรา คือนอนหงาย ผายมือสองข้างขึ้นหรือคว่ำลงข้างตัว ก็จะทำให้ทำสมาธิได้ง่าย เข้าภวังค์ง่าย หากสติสัมปชัญญะทนทานไม่ได้ที่จะตื่นเพราะร่างกายต้องการพักผ่อนและไม่ต้องการรับรู้ ก็จะทำให้หลับง่ายและหลับสนิท

    เมื่อร่างกายอ่อนแอมากๆ บางครั้งการนอนติดต่อกันหลายวันก็ไม่อาจทำให้ดีขึ้นได้ แต่ถ้าหากนอนสมาธิแล้วหลับต่อไปเลย จะทำให้หายป่วยหรือหายอ่อนเพลียได้รวดเร็วขึ้นค่ะ (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • breast.jpg
      breast.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.8 KB
      เปิดดู:
      41
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    โลกใบใหม่ไร้อิจฉา-ริษยา

    พี่นักเขียนมีความคิดว่าจะชวนพวกเราคุยกันเรื่อง อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของการเป็นบุคคลตัวตน มาหลายวันแล้ว เพราะคิดว่ามันมีความสำคัญมาก เนื่องจากว่ามันเป็นปัจจัยทีทำให้เรารักตนเองและผู้อื่นได้อย่างหมดใจ

    อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ว่านี้ ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวถึงไว้ในหนังสือ อิสระแห่งความปรารถนา (หน้า 33-34) ว่า
    อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์เป็นแก่นแท้ของตัวตนของเธอ แม้วิถีของมันจะกว้างไกล แต่มันก็ไม่ได้กำหนดเหตุการณ์จำเพาะในชีวิตของเธอ หากแต่มันระบายสีประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของเธอ และมันคืออารมณ์และความรู้สึกนึกคิดที่เธอมีต่อตนเอง-อย่างไม่รู้จักหมดสิ้น

    อีกนัยหนึ่งกล่าวได้ว่า อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ คือตัวแทนของพลังงานบริสุทธ์ ซึ่งตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของเธออุบัติขึ้นอย่างไม่ซ้ำแบบใคร

    พลังงานบริสุทธิ์มาจากแก่นแท้ของตัวตนรวมของสรรพสิ่งทั้งปวง พลังงานบริสุทธิ์เป็นตัวแทนของต้นกำเนิดแห่งชีวิตที่ไม่มีวันสูญสลาย อันเป็นตัวตนที่อยู่ภายในตัวตนของเธอ พลังอำนาจของตัวตนรวมจดจ่อและสะท้อนผ่านตัวตนของเธอ มาสู่โลกสามมิติในประสบการณ์ชีวิตของเธอ

    ในขณะที่อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์-เป็นของเธอ แต่มันก็แสดงออกในลักษณะที่เป็นของส่วนรวมของจิตวิญญาณทั้งหลายที่มาจดจ่ออยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพร่วมกับเธอ ในนัยนี้กล่าวได้ว่า เธออุบัติขึ้นจากโลก-เช่นเดียวกันกับสัตว์โลกอื่นๆและโครงสร้างตามธรรมชาติทั้งหลายของโลก แม้ว่าเธอจะมีร่างกายเนื้อหนังแปลกแยกไปจากโลกและสัตว์โลก แต่เธอก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติทั้งหมด


    พี่นักเขียนมีความคิดและเชื่อว่า เราทั้งหลายมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งตือไม่มีใครเหมือน ไม่เหมือนใคร ในห้องวิทย์ฯ นอกห้องวิทย์ฯ และในโลกใบนี้ทั้งโลก หรือแม้แต่จักรวาลทั้งจักรวาล เราจะหาใครเหมือนน้อง mindanaric คุณ Mead คุณ Mountain คุณเฉลย คุณน้องขจรวรรณ น้องลูกเกด คุณ zip คุณชมภูเขา คุณแก้วทิพยื? น้องนก leogirl คุณ axon คุณ Falkman คุณแก้วตา คุณ vir คุณนาคา คุณเทวารักษ์ ฯลฯ ย่อมไม่พบ เพราะแต่ละคนล้วนเป็นหนึ่งในจักรวาลด้วยกันทั้งนั้น แต่เราให้ความสำคัญกับการเป็นหนึ่งใจจักรวาลของเรามากน้อยเพียงใด และที่สำคัญไม่น้อยไปกว่านั้น เราให้ความสำคัญกับการเป็นหนึ่งในจักรวาลของผู้อื่นมากน้อยเพียงใด

    ความเป็นเอกลักษณ์นี้ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า เป็นอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกซึ่งเป็นปัจจัยที่เราใช้สรัางสรรค์ทุกสิ่งทุกอย่างในชีิวิตของเรา ตั้งแต่ประสบการณ์ชีวิต สุขภาพร่างกาย สภาพแวดล้อมและผลงานสร้างสรรค์ในโลกทางกายภาพทั้งหมด สภาพแวดล้อมภายในและผลงานสร้างสรรค์ในโลกภายในของภาวะจิตทั้งหมด

    หากเราตระหนักได้ในธรรมชาติความเป็นจริงข้อนี้ เราจะตระหนักได้อีกด้วยว่า เราจะต้องเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์และเป็นตัวเราอย่างดีที่สุด เพราะเราไม่สามารถเป็นเหมือนใครหรือเป็นใครอื่นได้ เช่น เราไม่สามารถจะเป็นนักร้องที่เหมือนคุณเบิร์ด-ธงชัย แล้วหวังว่าเราจะดังระเบิดเหมือนคุณเบิร์ดได้ หากน้องนกอยากเป็นน้กร้อง น้องนกก็เป็นนักร้อง นก leogirl ที่ดังระเบิดในทิศทางจำเพาะที่ไม่มีใครเหมือน (ร้องเสียงสูงส่งหมัดซ้าย ร้องเสียงต่ำส่งหมัดขวา อะไรทำนองเนี้ย ใช่หรือเปล่าไม่ทราบนะคะน้องนก) เช่นเดียวกับที่คุณ Mead ของเราร้องเพลง Elvis แม้แต่ Elvis ก็ต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสมือนไม่เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อนเลยในชีวิตเลย เป็นต้น (ชมผ่านหู Elvis นะคะ)

    เราจะพบเห็นได้ว่า ผู้ที่ประสพความสำเร็จอย่างสูงในชีวิตมักเป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตนเอง มีความศรัทธาเชื่อถือในตนเองในทิศทางที่เป็นธรรมชาติ คือเป็นตัวของตัวเองอย่างดีที่สุด และในขณะเดียวกัน หากเรามีโอกาสได้ฟังความคิดเห็นของเขา เรามักจะพบว่าเขามองเห็นความสำคัญของทุกคนในชีวิตและเชื่อว่า เขาจะไปถึงจุดสูงสุดนั้นไม่ได้โดยปราศจากบุคคลเหล่านั้น

    พี่นักเขียน เขียนถึงสาระนี้ด้วยความปลื้มใจจากใจจริงว่าพวกเราห้องวิทย์ฯ มักแสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์อย่างเปิดเผย เรามีทั้งศิลปิน นักร้อง นักดนตรี กวี comedian นักถ่ายภาพ นักมวย นักกิน :) เราต่างก็กำลังแสวงหาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต ด้วยการศึกษาหาความรู้ และแสดงออกซึ่งการเป็นบุคคลตัวตนของเราอย่างดีที่สุด โลกนี้น่าอยู่เพียงใด หากเราชื่นชมในอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้อื่นได้ไม่น้อยกว่าที่เราชื่นชมคุณสมบัตินี้ในตนเอง เพราะเราจะตระหนักได้ว่าเราต่างก็ไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน การอยากเป็นเขาหรือเขาอยากเป็นเรา เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คำว่าอิจฉาริษยาคงจะถูกลบออกไปพจนานุกรมได้ (rose)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...