เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

We're The One......

โดนไวรัสเล่นงานซะแล้ว เซ็งเลย จัดการแสกนให้หมดไส้หมดพุงก่อน
Have A Good Dayนะคะพี่นักเขียน

 

องค์ความรู้ กับ ความเป็นหนึ่งเดียว

ผู้ที่ตระหนักถึงธรรมชาติความเป็นจริงที่ฉันได้ถ่ายทอดให้
มักรับข้อมูลความรู้เหล่านี้และนำไปปฏิบัติโดยปราศจากข้อข้องใจ
แต่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจมักจะยังข้องใจอยู่และไม่นำไปปฏิบัติ

หากเธอปฏิบัติตามด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เธอจะไม่หยิบยกเพียงสาระอันเป็นประโยชน์เพียงบางสาระ แล้วทิ้งสาระอื่นๆไปเสมือนเศษขยะไว้เบื้องหลัง ในทางตรงกันข้ามเธอจะพบว่าทุกสาระมีความหมายและมีความสำคัญเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งหมด เธอจะใช้มันอย่างหมดจดไม่เหลือเศษ ไม่ว่าเธอจะได้รับมาจากทิศทางใด หรือเรียกว่ารับมาจากศาสนาใด เธอก็จะมองเห็นคุณค่าและความกลมกลืนที่จะนำมันไปใช้ประโยชน์ได้ทุกทิศทางอย่างเป็นอนันต์ และผู้ที่เข้าใจได้ถ่องแท้จะมองไม่เห็นความแบ่งแยกของข้อมูลความรู้ว่า มันมาจากต่างสาย ต่างทิศทาง ต่างศาสนา หากแต่จะพบความเป็นหนึ่งเดียวของความหมายที่แท้จริง และตระหนักได้ว่าต้นกำเนิดของข้อมูลความรู้ทัั้งหมด มาจากต้นกำเนิดอันเป็นหนึ่งเดียว

ความขัดแย้งมักเกิดจากความไม่เข้าใจในความหมายที่แท้จริงของข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงที่ได้รับ จากต่างทิศทาง ต่างศาสนา
หาใช่ความขัดแย้งที่มีอยู่ในตัวข้อมูลความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ในทิศทางต่างๆ หรือศาสนาต่างๆไม่

เธอจะตระหนักได้ไม่ยากว่า สิ่งที่เธอคิดว่าคือความรู้นั้น-ใช่ความรู้ความเข้าใจที่แท้จริง หรือเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลของเธอ ที่ตีความหมายข้อมูลความรู้ และความเป็นจริงทั้งหลายบิดเบือนไป เพราะเมื่อเธอปราศจากความเข้าใจ เธอมักจะมองเห็นแต่ความแตกต่าง ความแตกแยก ความขัดแย้ง ความคิดในแง่ลบเป็นผลมาจากความเชื่อที่ผิดมักทำให้เธอรู้สึกถึงกระแสที่แตกต่างกัน ซึ่งเกิดขึ้นในอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ซึ่งก่อให้เกิดความสะทกสะท้านและความสั่นคลอน เพราะสิ่งที่เธอเข้าใจว่าคือความรู้ที่แท้จริงของเธอ ที่เธอรับมาจากทิศทางต่างๆ ดูเสมือนจะหาความมั่นคงไม่ได้แม้แต่ทิศทางเดียว แทนที่มันจะเป็นพลังอันเป็นหนึ่งเดียวที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกมั่นคง มันกลับกลายเป็นพลังต่างขั้่วที่เสมือนพุ่งไปในทิศตรงกันข้าม บางครั้งพลังขั้วหนึ่งก็รุนแรงกว่าอีกขั้วหนึ่ง สลับกันไป สุดแท้แต่ว่าความเชื่อของเธอจะคล้อยตามทิศทางใดมากกว่ากัน ทำให้เธอรู้สึกถึงการขาดความสมดุลย์ ซึ่งเป็นไปในอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเธอ

ข้อมูลความรู้อันเป็นธรรมชาติความเป็นจริงล้วนมาจากต้นกำเนิดเดียวกันทั้งสิ้น และเป็นพลังที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือเรียกอีกนัยหนึ่งได้ว่า-ครอบคลุมทุกทิศทาง พลังของมันแผ่ขยายออกไปเสมอเหมือนกันหมดทุกทิศทาง มันจึงเป็นความสมดุลย์ ความมั่นคง ที่ไม่อาจถูกลบล้างหรือทำให้สั่นคลอนได้ มันเป็นพลังที่เต็มไปด้วยความรัก ความสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบ

ความเชื่อในทางที่ผิดมักเป็นอุปสรรคที่มาขวางกั้นการเรียนรู้เสมอ

ก้าวต่อไปสำหรับการพัฒนาจิตวิญญาณด้วยการเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้
คือการเตือนใจตนเองเสมอว่า สิ่งทั้งหลายที่เธอเชื่อ อาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงเสมอไป
แม้เธอจะเชื่ออย่างหมดใจก็ตาม มันจะทำให้เธอเรียนรู้ที่จะปลดความเชื่อทั้งหลายที่สรัางขีดจำกัดใหักับชีวิตของเธอทิ้งไป

ชื่อเป็นเพียงสัญญลักษณ์และเป็นสิ่งที่ไม่มีความสำคัญสำหรับฉันเลย แต่เมื่อพวกเธอใช้ชื่อเพื่อบ่งบอกถึงบุคิลกภาพจำเพาะ ฉันก็จะใช้ชื่อว่า โนวา อนาลัย ซึ่งหมายถึง เส้นทางใหม่สู่การเป็นอิสระจากความปรารถนา โนวา อนาลัย บ่งบอกถึงบุคลลิกภาพของฉัน บ่งบอกถึงหมวดความรู้ซึ่งเป็นหนทางสู่การเป็นอิสระจากความปรารถนา

---------------------------------------------------------------------
เมื่อพี่นักเขียนรับเอาบุคลิกภาพของท่านอาจารย์อนาลัยมาแปลงเป็นคำนาม หากแปลงตามความฝันที่จดบันทึกไว้ ท่านก็อาจจะมีชื่อว่า Freedom From Desire หรือ Free Will หรือ Free Spirit หรือ นวอนาลัย ฯลฯ สุดแท้แต่จะเรียกตามความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการที่สัมผัสได้กับองค์ความรู้นั้นๆ และคำนามทั้งหลายก็เป็นไปเพื่อการสื่อความหมายเท่านั้น

ชื่อของพวกเราที่ใช้เป็น username ก็ล้วนแต่ไม่ใช่ชื่อจริงของเราเลย แต่ถึงกระนั้นเมื่อเรารู้จักกัน การสื่อสารก็เกิดเพียงเพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงว่าข้อมูลความรู้ที่นำมา post นั้นมาจากทิศทางใด ไม่ใช่มาจากของใคร
แม้
ข้อมูลความรู้ที่มาจาก username ว่า Mead ก็เป็นข้อมูลความรู้ที่มาจากทิศทางที่คุณ Mead รวบรวมมาจากหลายแหล่งข้อมูลด้วยกัน
ข้อมูลความรู้ที่มาจาก username ว่า ชมภูเขา ก็เป็นข้อมูลความรู้ที่มาจากทิศทางที่คุณ ชมภูเขา รวบรวมมาจากหลายแหล่งข้อมูลด้วยกัน
ข้อมูลความรู้ที่มาจาก username ว่า ขจรวรรณ ก็เป็นข้อมูลความรู้ที่มาจากทิศทางที่คุณ ขจรวรรณ รวบรวมมาจากหลายแหล่งข้อมูลด้วยกัน
ข้อมูลความรู้ที่มาจาก username ว่า zipper ก็เป็นข้อมูลความรู้ที่มาจากทิศทางที่คุณ zip รวบรวมมาจากหลายแหล่งข้อมูลด้วยกัน
เบื้องหลังของข้อมูลความรู้ทั้งหมดภายใต้ username เหล่านี้ หากจะเอ่ยถึงชื่อจริงของแต่ละคน ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นจริงที่ว่า ข้อมูลความรู้ทั้งหมดปราศจากเจ้าของเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย ชื่อจริง หรือ username ล้วนปราศจากความหมายต่อข้อมูลความรู้ ไม่ต่างไปจากกัน

แต่อย่างไรก็ตามการสื่อสารทั้งหมด หรือการถ่ายทอดข้อมูลความรู้ทั้งหมดก็เกิดขึ้นจากใจถึงใจ หรือจากจิตวิญญาณสู่จิตวิญญาณ ไม่ใช่จากชื่อถึงชื่อ ชื่อจึงปราศจากความหมาย ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงยามตื่น ยามฝัน ในโลกทางกายภาพและโลกแห่งจิตวิญญาณ

หากเราพิจารณาธรรมชาติความเป็นจริงของข้อมูลความรู้ที่ปรากฏในหนังสือทุกเล่มในโลก ความเป็นเจ้าของ ของนักเขียน ก็ไม่ใช่การเป็นเจ้าของข้อมูลความรู้ เพราะข้อมูลความรู้ทั้งหมดมาจากหลายสาย หลายแขนง เห็นได้จาก Bibliography หรืออ้างอิงท้ายเล่ม ซึ่งอาจอ้างอิงหนังสืออื่นๆอีกหลายสิบหรือหลายร้อยเล่ม และความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริงก็น่าจะอยู่เพียงแค่การจัดหมวดหมู่ข้อมูลความรู้ การใช้สำนวนเพื่อถ่ายทอดข้อมูลความรู้ และการรวบรวมข้อมูลความรู้เหล่านั้นมากกว่า แต่เราก็มักจะมองข้ามความเป็นจริงเหล่านี้ไปบ่อยๆ

เมื่อพี่นักเขียนกล่าวว่าตนเองไม่ใช่เจ้าของข้อมูลความรู้ที่ปรากฏในหนังสือชุดนี้
คนจำนวนไม่น้อยก็มองข้ามธรรมชาติความเป็นจริงข้อเดียวกันกับที่มองข้ามหนังสือเล่มอื่นๆไป
และเมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้หนังสือชุดนี้ไม่มี Bibliography หรืออ้างอิงท้ายเล่มเป็นรายชื่อหนังสืออื่นๆอีก แต่กลับเป็น abstract หรือข้อความย่อจากหนังสือ 10 เล่ม ก็ทำให้ผู้ที่มองข้ามความเป็นจริงของการถ่ายทอดข้อมูลความรู้ เข้าใจไปในทิศทางต่างๆนานาไปอีก เช่นว่า เมื่อไม่ใช่หนังสือแปล เมื่อไม่ใช่หนังสือที่พี่นักเขียนเป็นเจ้าของข้อมูลความรู้ เมื่อไม่มีอ้างอิงหนังสืออื่นๆ นอกจากมีที่มาคือชื่อ โนวา อนาลัย พี่นักเขียนก็คงเป็นเสมือนหุ่นยนต์ที่รับข้อมูลความรู้มาโดยไม่รู้ว่า ข้อมูลความรู้เหล่านี้มาจากไหน

ผู้ที่ยังไม่เข้าใจในคำว่าองค์ความรู้ มักยึดติดกับการเป็นบุคคลตัวตน ยึดติดกับคำว่าผู้รู้ซึ่งเป็นบุคคล
หากตระหนักได้ว่าองค์ความรู้คืออะไร ชื่อทัั้งหมดจากปราศจากความหมาย

องค์ความรู้ไม่ได้มาจากใคร แต่มาจากต้นกำเนิดที่เต็มไปด้วยความรัก อารมณ์รักอันปราศจากเงื่อนไข-จินตนาการอันสร้างสรรค์เป็นอนันต์ และความรู้สึกนึกคิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างหาที่เปรียบมิได้ (rose)

 

เราอ่านหนังสือของอาจารย์โนวา อนาลัยเพื่อจุดประสงค์ใดกันค่ะ
แต่ละคนคงมีจุดประสงค์เหมือนกันหรือต่างกัน

สำหรับนกเริ่มอ่านจากคนที่ไม่รู้ไม่เข้าใจอะไร
แต่หนังสือของอาจารย์ทำให้คนที่ไม่รู้ได้รู้ได้เข้าใจอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น
ซึ่งสิ่งที่ได้รับมาล้วนเป็นสิ่งดีๆที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
เพราะความเป็นคนที่ความรู้น้อยจึงสามารถขจัดความเชื่อเก่าๆและรับความรู้ใหม่ๆได้ง่ายขึ้น
ขอเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว คอยรับน้ำซึ่งเปรียบเสมือนความรู้ของอาจารย์อนาลัย ของพี่นักเขียน ของพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคน เข้ามาเติมเต็มให้แก้วใบนี้มีน้ำใสๆที่ไหลรินเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เหมือนน้ำใจที่มีให้แก่กัน
และจะขอแบ่งปันสิ่งต่างๆที่มีอยู่ให้กับทุกคน ถึงแม้จะมีประโยชน์มากหรือไม่มีอะไรเลยก็ตาม เพราะถ้าได้รับแล้วไม่มีให้ น้ำก็จะล้นออกจากแก้วจนไม่สามารถรับน้ำที่กำลังเทเข้ามาใหม่ได้อีก
ขอขอบคุณทุกคนในความรักช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

 

ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้

พวกเราที่ส่งการบ้านเข้ามามี

คุณเฉลย http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86527&page=92 #1825

ขจรวรรณ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86527&page=92 #1838

น้องนก http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86527&page=93 #1857

คุณ Mead http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86527&page=94 #1867

วัตถุประสงค์ที่พี่นักเขียนให้พวกเรานำภาพ ซึ่งบันทึกไว้ต่างช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา หรือพูดง่ายๆว่าต่างเวลา-ต่างสถานที่ มา post เพื่อให้พวกเราลองมาพิจารณาธรรมชาติความเป็นจริงที่ท่านอาจารย์อนาลัยเรียกว่า ตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริง-บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ว่ามีความเป็นไปอย่างไรที่เล็ดรอดสติสัมปชัญญะของเราไป และหากเราติดตามมันได้ทัน มันจะพลิกผันความเป็นไปในการควบคุมชีวิตของเราได้อย่างไร

บางคนอาจจะรู้จักคำว่า Parallel Universe ซึ่งถูกนำมาแปลเป็นภาษาไทยว่า จักรวาลคู่ขนาน คำว่าขนาน มักทำให้เรามองเห็นเส้นตรงอย่างน้อยสองเส้นขึ้นไปที่ไม่มีวันมาตัดกัน ความหมายที่แท้จริงของคำว่า Parallel universe เป็นสิ่งที่น่าศึกษาและทำความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง

Parallel Universe เป็นคำที่อ้างอิงถึง Multiverse หรือ Multi Possible Universe ซึ่งหมายถึงจักรวาลหลายจักรวาล-เป็นอนันต์ ซึ่งล้วนเป็นโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ

ในที่นี้พี่นักเขียนขอนำความคิดของพวกเราพร้อมด้วยคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้ กลับมาพิจารณาตัวตนของเราที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง-บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้

ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า
ทุกขณะจิตที่เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดผุดขึ้นมา มันก่อเกิดเป็นโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ในมิติหนึ่ง โลกหนึ่ง ชาติภพหนึ่ง ตัวตนหนึ่งเสมอ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่ว่าเหล่านี้ ถ้าจะเรียกว่ามันขนานกันก็เพราะมันไม่รู้เห็นกัน มันมีอยู่-เป็นอยุ่-ดำเนินไปในทิศทางของมัน และแต่ละเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ก็มีอดีต-มีปัจจุบัน-มีอนาคต-ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จัก แต่แต่ละเส้นทางก็ไม่ได้เป็นเอกเทศ การกระทำของตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้บนอีกเส้นหนึ่งเสมออย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ในแต่ละเส้น คือบุคคลตัวตนในแต่ละชาติภพ ในแต่ละโลก ในแต่ละมิติ

ท่านอาจารย์อนาลัยได้เปรียบชีวิตในแต่ละชาติภพ หรือการเป็นบุคคลตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริง-บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้แต่ละตัวตน เสมือนไฟประดับที่กะพริบที่อยู่บนสายไฟมากมายหลายดวง

​

เมื่อดวงหนึ่งดับลง มันจะไปสว่างขึ้นที่ดวงอื่น แม้แต่ร่างกายของเราที่ดูเสมือนทึบตันและคงที่ ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่-เดี๋ยวนี้อย่างต่อเนื่อง หากแต่ว่าเราดับลับหายไปจากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่ง และไปสว่างขึ้นบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อีกเส้นหนึ่ง ซึ่งมีความเป็นไปที่คล้องจองกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิด และการจดจ่อของเราเสมอ ความเป็นไปทั้งหมดนี้ฉับพลัน หรือเรียกได้ว่าเป็นไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน เพราะมันเป็นไปเร็วกว่าแสง

แม้ว่าเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เหล่านี้ไม่เคยมาตัดกัน และเราดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่งๆ แต่เราก็เปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่นๆอยู่เสมอๆทุกขณะจิต

การปราศจากความรู้ในภาวะอันเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของตัวตน ทำให้เราเชื่อว่า ความแตกต่างที่ปรากฏของรูปกายตัวตนของเรานั้น เป็นไปตามกาลเวลาและสถานที่ ซึ่งเราจินตนาการหรือมีความเชื่อต่อไปอีกว่า การเป็นบุคคลตัวตนแต่ละตัวตนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยดับลับหายไปจากโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนี้ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันนี้

ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆว่า
เธอจดจ่อกับสิ่งใด-ย่อมได้สิ่งนั้น-ไม่มีกฏเกณฑ์อื่่น

จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้นๆ
พร้อมด้วยร่างกายตัวตนที่คล้องจองกับภาวะนั้น

เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง

อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเรา-เป็นปัจจัยก่อเกิดเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายเป็นอนันต์เหล่านี้ขึ้นมา การจดจ่อด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราของเราในขณะจิตหนึ่งๆ ที่คล้องจองกับเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใด จะนำพาให้จิตวิญญาณของเราให้ไปมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนั้นๆ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ซึ่งดูเสมือนว่าขนานกัน ไม่มีวันมาตัดกันหรือไม่มีวันมาบรรจบกันก็จริง แต่จิตวิญญาณก็ก้าวล่วงไปสู่ทุกเส้นทางได้เสมอทุกขณะจิต-อย่างฉับพลัน โดยที่เราไม่สามารถมองเห็นรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากเราจะศึกษาและรู้จักได้อย่างถ่องแท้ว่า เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่แท้จริงนั้นคืออะไร และหากเรามีสติสัมปชัญญะที่สามารถติดตามการจดจ่อของเราได้ เราจะมองเห็นได้เสมอว่า เราได้ก้าวล่่วงไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใหม่เมื่อใด? อย่างไร? เพราะเหตุใด?

เราเผชิญกับภาวะที่เราพบความเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย เช่น การนั่งรถผ่านไปบนถนนสายที่เราคุ้นเคย แต่เราก็พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน กำลังเกิดขึ้น และเป็นไปราวกับว่ามันได้เป็นไปเป็นเวลาแรมเดือนแล้ว แต่มันคลาดสายตาเราไปได้อย่างไร เพราะเรานั่งรถผ่านแทบจะทุกวัน

ร้านค้าที่คุ้นเคยปิด เลิกกิจการไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ บุคคลที่เราเคยเห็นอยู่เป็นประจำตามร้านอาหาร ตามเส้นทางที่เราคุ้นเคย หายสาบสูญไปอย่างไม่มีร่องรอย คนรู้จักห่างๆ หรือแม้แต่เพื่อนสนิท หายไปจากกิจวัตรตามปกติ ตัวเราเองเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง ย้ายบ้าน ย้ายงาน และสภาพแวดล้อมในวันนั้นๆก็ดูแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง หากเรามองไม่เห็นหรือรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่นๆจากเหตุการณ์เหล่านี้ เราอาจจะเห็นได้เมื่อชีวิตของเราจมอยู่กับความทุกข์กายทุกข์ใจใดๆก็ตาม และเราพลิกผันความรู้สึกของเราได้ในที่สุด ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกันมากๆ เรามักใช้คำว่าเรารู้สึกเสมือนว่า เกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ เรามักจะไม่ได้ตระหนักว่า การเกิดใหม่ ชีวิตใหม่ และการเป็นคนใหม่-เป็นความเป็นจริงเสียยิ่งกว่าคำพูดของเราเสียอีก

ให้พวกเราพิจารณาภาพของพี่น้องห้องวิทย์ฯเหล่านี้ ขอให้มองข้ามอายุของภาพที่ปรากฏในสีสรรหรือคุณภาพของภาพถ่ายไป เพราะตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริงนั้น ทุกรูปกายยังมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมดในปัจจุบันนี้
หากเราพิจารณาดู คุณ Mead คุณเฉลย คุณน้องขจรวรรณ และน้องนก เป็นภาพตัวอย่าง เรามองเห็นคุณสมบัติอะไรที่คล้ายคลึงกันที่ปรากฏในแต่ละรูปกายตัวตนเหล่านั้น ? พี่นักเขียนขอให้เราค้นหาภาพของตนเองมาพิจารณาในลักษณะเดียวกัน เพื่อค้นหาจุดผกผัน ความเปลี่ยนแปลง และคุณสมบัติที่คงที่บางอย่าง เพื่อช่วยให้เราเข้าใจในภาวะธรรมชาติของการเป็นบุคคลตัวตนที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึง หากเราพิจารณาตัวตนของเราในแต่ละภาพ เราพบอะไรที่เราเรียกได้ว่าเป็นคุณภาพที่คงที่อยู่เสมอ ซึ่งทำให้เราเป็นเรา ? ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า คุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราจะต้องค้นให้พบ เพราะมันคือคุณภาพอันเป็นอมตะที่จะปรากฏเป็นบุคลิกภาพของจิตวิญญาณ ที่ไม่มีวันตาย แม้ว่าเราจะปราศจากร่างกายเนื้อหนังแล้วก็ตาม

อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดซึ่งคล้อยตามความเชื่อของเราเป็นปัจจัยก่อเกิดเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ทั้งหลาย เราสร้างโลกและทางเลือกทุกชนิดขึ้นมา และการจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้องจองกับเส้นทางเหล่านั้นก็นำเราไปดำเนินชีวิตบนเส้นทางนั้นๆ พลังอำนาจในการสร้างโลกแห่งความเป็นไปได้ ในการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ชีวิต และในการสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของเรา อยู่ที่พลังอำนาจในการจดจ่อ-ในปัจจุบัน

ณ วันนี้ หากเรากำลังเป็นทุกข์ เมื่อเราตระหนักว่าเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มีมากมายหลากหลายเป็นอนันต์ ทางเลือกและการสร้างสรรค์ทั้งหมดอยู่ที่เรา เราจึงควรจะตระหนักว่า เราสามารถเริ่มต้นสร้างเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ด้วยจินตนาการอันสร้างสรรค?์ เลือกชีวิตที่เราปรารถนา หากเราเปลี่ยนความเชื่อที่ฝังรากลึกว่า ชีวิตของเราเป็นไปด้วยการตกเป็นเหยื่อของโชคร้าย และพลังอำนาจที่เรามองไม่เห็น และตระหนักได้ว่า พลังอำนาจทั้งหมดอยู่ที่เรา การเปลี่ยนความเชื่อดังกล่าวนี้ จะทำให้เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดที่มีพลัง ซึ่งทำให้เราสามารถเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ ไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใหม่ได้เสมอ

การเปลี่ยนความเชื่อในแง่ลบไปเป็นแง่บวก และการตั้งอยู่ในอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดในแง่บวก จะทำให้เรารู้สึกได้ถึงความหวัง ซึ่งคืออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่เราเรียกมันว่า ตัวตนในอนาคต ผู้พ้นจากควาวมทุกข์แล้ว และกำลังให้กำลังใจเราเสมอ

จินตนาการคือจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหลาย
พลังอำนาจให้การทำให้ชีวิตของเราไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่ได้ตาม Ambition ได้อย่าง Absolute จึงเป็นทางเลือกของเรา ด้วยการจดจ่อในสิ่งที่พึงปรารถนา ด้วยความเชื่อมั่นว่า จิตวิญญาณของเรามีพลังอำนาจที่จะมีได้-ทำได้-เป็นได้ สมความปรารถนา(rose)

(rose)ณ วันนี้ เราคือบุคคลตัวตนใด บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใด ชาติภพใด โลกใด มิติใด (rose)

 

เมื่อคืนฝันดี รู้สึกเหมือนจะมีข่าวดี
ฝันว่าได้สร้างงานแกะสลักนูนต่ำขึ้นมาบนหินทรายสีดำขนาดใหญ่โตสูงเท่าตึกสองขั้น เป็นรูปบุคคลท่านนึงปรากฎมีขนาดใหญ่มาก ข้างๆมีฝูงสัตว์คล้ายแพะหลายตัว รายละเอียดชิ้นงานงดงาม จนแทบไม่น่าเชื่อว่าเราแกะขึ้นมาเอง งดงามมหัศจรรย์และน่าทึ่งมากครับ งานชิ้นนี้ถูกนำไปแสดงในห้องโถงสีครีมหรูหรา แล้วมีคนมาตัดริบบิ้นเปิดงาน มีผู้คนจำนวนมากปรบมือด้วย จริงๆแล้วมีเรื่องราวอีกแต่จำได้เลือนๆ..ถ้าจำได้ละเอียดกว่านี้คงดีครับ

 

พี่นักเขียนขอร่วมวงกับคุณน้องชมภูเขาค่ะ พวกเรามาสำรวจจิตที่ลุ่มลึกของตัวเรากัน แล้วลองนำมา Display เป็นภาพ ภาพเคลื่อนไหว ร้อยแก้ว ร้อยกรอง เสียงเพลง หรือสื่อใดๆก็ได้ตามความถนัดกันนะคะ

มีการบ้านอีกแล้ว คราวนี้นัองชมภูเขาตรวจการบ้านพวกเราทุกคนเลยนะคะ เอ โหดหรือเปล่าคะคุณครู อยากได้ A กับ A น่ะค่ะ (rose)

 

วันนี้เราจะไปแจกเลข...อิอิ

 

การบ้าน 21 วันผมครบกำหนดวันนี้ครับ
ตาสวย
รถใหม่
บ้านหรู
ผมใช้เวลาทำการบ้าน วันละ 10-15 นาที ช่วงพักกลางวัน ถ้าวันไหนมีลูกค้ามาก็ไปทำกลางคืนแทน แต่ไม่ค่อยได้จดจ่อเหมือนพักกลางวัน เพราะกลางคืนง่วงนอน
เรื่องสายตา ตอนนี้ผมไม่ใส่แว่นแล้วครับ สายตาดีขึ้นเกือบ 80% จากที่เคยใส่แว่นสายตายาว 200 และช่วงแรกๆ มองหนังสือไม่เห็นเลย
เรื่องรถใหม่กับเบ้านหรู ช่วงที่จดจ่อทำอารมณ์ มักจะฝัน ถึงพ่อกับแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด บางวันฝันว่ารถเก่าที่ใข้อยู่จมน้ำหน้าบ้านที่ใสสะอาดมากๆ ส่วนบ้านก็ฝันว่าบ้านใหม่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก พอขึ้นไปบนบ้านเห็นห้องๆหนึ่งความรู้สึกในฝันตบแต่งได้สวยและหรูมากๆ แต่มีคนอยู่แล้ว
ก็ลองถอดรหัสดู เรื่องรถเก่าที่จมอยู่ในน้ำที่ใสสะอาดก็หมายถึงรถเก่ายังใช้ดีอยู่ จะเปลี่ยนทำไม
ส่วนบ้าน ตอนนี้พ่อกับแม่ยกที่ดินแปลงที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกให้ และก็กำลังรื้อบ้านเก่าที่อยู่กันสร้างเป็นตึกใหม่ ตามความฝันมีคนอยู่แล้วแสดงว่าเป็นมรดก
รถกับบ้านนี่ไม่ตรงกับจินตนาการที่กำหนดไว้ รถอยากได้ S280 ราคา 7 ล้าน กับคฤหาสน์ ราคา 20 ล้านที่เกิดจากแรงกายตัวเองที่ไม่ใช่มรดก ก็จะมุ่งมั่นต่อไปจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ เราสามารถเปลี่ยนอนาคตได้จากปัจจุบัน
จิตวิญญาณจดจ่อ อยู่กับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่ เป็นอยู่ดำเนินไปเป็นภาวะนั้นๆ

 

องค์ความรู้ไม่ได้มาจากใคร แต่มาจากต้นกำเนิดที่เต็มไปด้วยความรัก อารมณ์รักอันปราศจากเงื่อนไข-จินตนาการอันสร้างสรรค์เป็นอนันต์ และความรู้สึกนึกคิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างหาที่เปรียบมิได้ (rose)

เห็นด้วยครับที่มาขององค์ความรู้นี้ ลึกล้ำเกินที่เราจะใช้คำเรียกหาจริงๆ..
ขนาดข้อมูลในความฝันเอง หลายครั้งที่รู้สึกว่าเราสามารถทำอะไรได้มากกว่าความเป็นจริงอย่างน่าอัศจรรย์ เช่นแต่งกลอนก็ไพเราะลึกล้ำ ทำงานศิลปะสุดอลังการ ความคิดที่เป็นองค์ความรู้อันซับซ้อน เลือกหยิบมาใช้ได้มากมายหลายเรื่อง ความรู้จากจิตวิญญาณนี้เกินกว่าคำพูดจะบรรยายได้หมดครับ

 

เมื่อคืนฝันกำลังเดินเข้าบ้าน ผ่านบ้านๆหนึ่งกำลังเลี้ยงฉลองกันมีดนตรีมีพระด้วย ก็มีหลวงพี่ท่านหนึ่งตะโกนทักทายผมกลางงาน ผมไม่รู้จักท่านหรอกก็เออออ สักพักหลวงอา(น้องชายพ่อผมบวชเป็นพระนานแล้ว)เดินออกมาให้เห็นหน้า แล้วเดินเข้าไป พอผมเดินขึ้นบ้าน ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนดังมากจากบ้านที่มีงานเลี้ยง สักพักก็มีผู้ชายชกต่อยกัน แล้วก็มีคนห้าม ผมก็เดินขึ้นบ้านต่อ เห็นพระเครื่อง ที่เป็นเหล็กไหล วางไว้ที่บันไดผมก็ก้มลงหยิบขึ้นมาและสักพักก็มีเสีบงทะเลาะกันอีกคราวนี้มีผู้ชายถูกรุมอยู่คนเดียวส่วนใหญ่คนที่รุมก็เป็นนักดนตรี ก็ยืนมองเค้าอารมณ์ตอนนั้นก็สงสารคนที่ถูกรุม ก็ตื่นพอดี
ก็ไม่รู้จะถอดรหัสยังไงปกติไม่ค่อยฝันเรื่องตีรันฟันแทง สงสัยติดเชื้อน้องนกฮะ ความจริงก่อนที่จะฝันเรื่องข้างบนก็ฝันว่าถือมีดคล้ายซามูไร ยาวมาก จนคนหนีกระเจิง อะไรจะโหดขนาดนั้น

 

กำลังรอฟังพี่เฉลยอยู่พอดี
เรื่องสายตานี่ได้ผลเร็วเกินคาดนะครับ แค่ 21 วันเท่านั้นเอง..
พี่เฉลยทำให้เซลล์หลายล้านเซลล์ของระบบสายตา จดจ่อไปในทิศทางเดียวกันได้หมด..อีกหน่อยก็เลิกใส่แว่นแล้วสิครับ..ผมเลยพลอยได้อานิสงค์ไปด้วย ตอนนี้ลองถอดแว่นก็อ่านได้เหมือนกัน ชัดขึ้นมาก..ไม่เป็นตัวซ้อนๆเท่าไหร่แล้ว สงสัยจดจ่อเทคนิค 21 วันของพี่เฉลยไปด้วยครับ
เรื่องรถเรื่องบ้านต้องบอกว่า รักแล้วรอหน่อย ครับ..

(bb-flower

 

มาแล้วครับ..ขอรายงานตัวกับพี่นักเขียนและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
ในห้องวิทย์ฯ ทุกคน...ตัวตนเดิมๆ ไม่ได้หลีกลี้หนีหายไปไหน
ยังคงเกาะติดห้องวิทย์อยู่เสมอ

หลังจากได้อ่านข้อความหลังสุดที่พี่นักเขียน นำมาให้ได้อ่าน
ความรู้สึกดีๆ ได้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง
เราจะกลัวไปทำไม ไม่เห็นมีอะไรจะน่ากลัว จริงไหมครับ

เกือบลืมไปครับ ขอกล่าวต้อนรับผู้มาใหม่ ณ ห้องวิทย์ แห่งนี้

คุณ Little Raccoon<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_732460", true); </SCRIPT> คุณJINTAWADEE<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_732616", true); </SCRIPT>

 

แหม พี่ก็ ไม่ใช่โรคติตต่อซะหน่อย 555 ก็อยู่ๆนึกจะฝันก็ฝันขึ้นมาเองอ่ะเนอะ

 

เย้ๆ พี่MOUNTAINมาล่ะ นึกว่าโดนมายด์จับกินตับไปซะอีก 55 ล้อเล่น
เห็นยุ่งๆอยู่เนอะ ช่วงนี้ใกล้จะถึงวันงานแล้วด้วย เมื่อวานลงรถเมล์กะโอนตังค์ หือ ATMงดบริการชั่วคราวอีก เด๋วบัดทุบตู้ทิ้งเลยนี่คนจะโอนตังค์
เย็นนี้เลิกงานเอาใหม่แต่เปลี่ยนตู้ดีกว่า จะได้ไม่เสียรมณ์แบบเมื่อวาน (555)

 

เดี๋ยววันนี้จะส่งการบ้านให้พี่นักเขียน นะครับ
ขออภัยที่ล่าช้าไปนิด เพราะต้องไปขุดกรุอีกแล้ว
ขุดแล้ว ก็ต้องนำมาเจียไนย อีก ขั้นตอนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

 

เที่ยงแล้วจ้า มีของอร่อยๆมาฝาก มีเมนูเจเผื่อพี่เฉลยด้วย แต่ละอย่างน่ากิ้นน่ากิน

 

โห!! ทุบตู้เลยเหรอ น้องนกเรา
สมกับเป็นนักมวยหมัดหนักจริงๆแฮะ
ถ้าพบกัน (14 ตค.) ต้องซ้อมหลบหมัดไว้หน่อย ได้ไม่เจ็บตัว หึหึ

 

อ่ะนะ พี่meadก็ ใครจะไปใจร้ายขนาดทุบตู้ATMได้ลง นกออกจะตัวเล็กๆบอบบางกว่าตู้หลายเท่านัก หึหึหึ (evil2) ตัวเล็กกว่ายักษ์วัดแจ้งนิเดียวเอง 555

 

ส่งการบ้านครับ

ภาพนี้ถ่ายตอนอยู่ ประถม 7 นั่งอยู่ในหอประชุมธรรมศาสตร์
เตรียมขึ้นรับโล่ห์รางวัลความประพฤติดีครับ ตอนนั้นก็ยัง งง
ว่าได้รับคัดเลือกมาได้ไงก็ไม่รู้ สงสัยเป็นเพราะเรียกง่าย ใช้คล่อง
ครูประจำชั้น คุณครูเฉลียว (ไม่ใช่เฉลย นะครับ) ชอบใช้ให้ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง ห่อละ ห้าสลึง แล้วก็ยังได้เป็นหัวหน้าห้อง มาตั้งแต่ชั้นป.1 ถึง ป.7 เข้ามัธยม ก็ยังถูกยัดเยียดให้เป็นหัวหน้าห้องอีก
เลยมีการประท้วง ขอยุติบทบาทหัวหน้าห้อง ตอนอยู่มัธยม 2 ได้สมใจเพียงปีเดียวครับ
(555)

 

มัธยมปีที่ 2 ผอมกระหร่อง เหมือนเดิมครับ