ถาม ตอบ มีสาระ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย telwada, 5 ตุลาคม 2007.

แท็ก: แก้ไข
  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ถาม,,,,คือเวลาผมเห็นคนสวยคนหล่อแล้ว ผมจะรู้สึกว่าเขาทำบุญอะไรมานะถึงได้มีรูปงามน่ามองขนาดนี้
    เลยอยากจะทราบว่าเราจะต้องทำบุญแบบไหนหรือมีวิธีอย่างไรไหม ให้เกิดเป็นคนที่มีราศี ดูดีทุกส่วน
    จะทำอะไรก็ดูเท่ห์ไปหมด และก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากๆ ใครพบเห็นหรือได้พูดคุยต่างก็ต้องหลงรักครับ

    ตอบ,,,,,
    จากข้อความข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ผู้เขียนกระทู้ ไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกรรมพันธุ์ ถ้าจะกล่าวให้หนักเข้าไปอีก
    ผู้เขียนกระทู้ สบประมาทบิดามารดาของตัวเขาเอง
    รูปลักษณะภายนอกของสรรพสิ่งที่มีชีวิตนั้น ล้วนย่อมต้องได้รับการถ่ายทอดมาจาก บรรพบุรุษ
    อันได้แก่ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ปู่ทวด ย่าทวด ตาทวด ยายทวด ฯลฯ ไม่เกี่ยวกับการทำบุญ แต่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในด้านภูมิศาสตร์
    สภาพแวดล้อมทางภูมิอากาศ และเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์
    คุณจะทำบุญ ด้วยอะไร จะทำบุญมากเท่าไหร่ ถ้าคุณได้เกิดมาจากบิดามารดาคนเดิม คุณก็มีรูปร่างอย่างเดิม
    ที่เขาบอกว่าคนรูปสวย รูปหล่อ เพราะทำบุญมาแต่ชาติปางก่อน นั่น เขาเอาไว้หลอกหากิน ถ้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
    เขาเอาไว้หลอกคนไม่มีความรู้ เพราะสมัยโบราณ ประชาชนได้รับการศึกษาน้อย หลอกง่าย สมัยนี้
    ถ้าหากจะทำบุญย่อมทำบุญด้วยความเต็มใจที่จะทำ ไม่ใช่ทำเพื่อหวังได้รวยได้หล่อ กลับไปอ่านข้างต้นอีกครั้ง จะได้เข้าใจ
    สุดท้ายถ้ามีคนเถียงหรือมีทิฎฐิเถียงว่า ชาตินี้ทำบุญไว้มากๆ จะได้เกิดมารวย เกิดมารูปสวย เกิดมารูปหล่อ
    ก็ให้นึกถึงหลักความจริงที่ว่า เราเลือกเกิดไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าจะได้เกิดอีกหรือไม่ ถึงเกิดมาก็ไม่รู้ว่า ชาติก่อนนั้นได้เกิดมาหรือไม่ ไร้สาระ
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ผมแบ่งคำตอบโพสที่แล้วของลุง ออกเป็นสองส่วน

    ส่วนที่หนึ่งถามถึงธรรมที่ลุง รู้ เห็น เป็น พูดง่ายๆ ขอให้ลุงแสดงธรรมอันลึกซึ้ง ที่ได้รู้ได้เห็นได้เป็นเอง โดยข้อความง่ายๆในภาษาปัจจุบัน

    ส่วนที่สอง ผมเอาสีข้างเข้าถู แต่ลุงกลับเลือกส่วนนี้มาตอบ
    ซ้ำยังใช้นิสัยของอดีตนายยกท่านหนึ่ง ที่โดนนักข่าวจี้ใจดำเข้าจึงตอกกลับให้ไปถามคุณแม่ที่บ้านดู เสียรังวัดไปเยอะ

    อ้อลุง... ที่บ้านผมยังมี กะปิหวาน อีกอย่างลุงเคยกินไหม

    ผมได้ตามไปอ่านกระทู้ "กิเลสในแง่มุมหนึ่ง" ของลุงแล้ว ธรรมข้อนี้ก็มีแต่เปลือกอีกเช่นกัน ผู้อ่านก็ได้แต่รู้ แบบรู้ไว้ใช่ว่า ไม่อาจนำมาปฏิบัติให้พ้นทุกข์ได้ ผิดวิสัยของผู้ที่รู้ธรรม ที่ต้องการจะแสดงธรรมเพื่อสอนเวนัยสัตว์

    ผมเคยได้ยินเค้าว่า มีพระศรีฯ ท่านหนึ่งกล่าวว่า ธรรมที่ท่านได้ตรัสรู้ได้มาโดยยาก ต้องจดลิขสิทธ์ ผู้ใดเข้ามาศึกษา ต้องเสียเงินค่าลิขสิทธิ์
    ผมคิดว่า เป็นท่านอื่น ไม่ใช่ลุงเด็ดขาด เพราะความคิดเช่นนั้น ผิดวิสัยของพุทธะ

    ผมกำลังเริ่มเรียนรู้ในชั้น ป ๑ (ยังสอบไม่ผ่านนะ ) ส่วนลุงกล่าวว่า จบชั้น ป๔ แล้วแถมยังได้เกียรติบัตรพระศรีฯ ด้วย
    ผมเป็นรุ่นน้องปลายแถวพบเห็นรุ่นพี่ที่มีกิติศักดิ์เลื่องลือ ก็อดไม่ได้ต้องเข้ามาขอความรู้เพิ่มเติม
    ผมเพียรค้นหามานาน ทุกกระทู้ของลุง ยังไม่เคยพบ เนื้อแท้แห่งธรรม ที่ลุงประกาศว่าได้รู้แล้วเห็นแล้ว ทำเป็นแล้ว แม้แต่แห่งเดียว
    พบแต่เพียงเปลือก ที่ชั้นอนุบาล๒ ก็ยังรู้กันทั่ว
    แต่ตามที่ผมบอก แม้เพียงเปลือกที่ลุงทิ้งไว้ ก็ยังมีความหอมหวานของเนื้อธรรมติดอยู่ นี่คือความแตกต่าง
    ขอให้ลุงแสดงธรรมด้วย

    อ้อ ...ผมได้ใช้ศัพท์ใหม่อีกชุด เดียวลุงจะไม่เข้าใจ
    ชั้นอนุบาล ๑ ผมหมายถึงคนทั่วไปที่เริ่มการฝึกหัดและเรียนรู้
    ชั้นอนุบาล ๒ ผมหมายถึงพวกวิสุทธิจิตร ที่เริ่มเป็นงานบ้างแล้ว
    ชั้น ป๑ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียบเป็น โสดาบัน
    ชั้น ป๒ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียนเป็น สกิทาคามี
    ชั้น ป๓ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียนป็น อานาคามี
    ชั้น ป๔ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียนเป็น อรหันต์ / หรือพุทธะ(แล้วแต่..ตั้งความปรารถนา)

    ทั้งนี้เป็นเพียงการอุปมาอุปมัย โดยใช้ภาษาปัจจุบันเข้าพูดคุยกันเพื่อให้เข้าใจกันงาย
    คำว่า "การตัดต่อพันธุกรรมของกิเลส" ก็เช่นกัน ก็เพื่อความง่านในการสื่อสารกันในปัจจุบันเท่านั้น
    ลุงจะยอรับหรือไม่ก็แล้วแต่ลุง
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    โพสนี้ก็เช่นกัน มีเนื้อธรรมติดมาไม่มากนัก แต่ก็หอมหวานชวนติดตาม
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เข้ามาอ่าน แล้ว ฟันธง ว่า telwada เอาแต่เปลือกธรรมมาพูด แถมยัง บัญญัติ ธรรมใหม่ๆ ขึ้นด้วยตนเองเช่น
    บ้าบอ...องค์ 8 อันนี้ผมไม่เคยพบใน พระไตรปิฎก เลย
    ได้ยินแต่มรรคมีองค์ 8 ทีนี้ การที่ออกมาพูดอะไร ที่นอกเหนือสิ่งที่พระพุทธองค์พูด ก็เป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา

    ผมขอ แสดงความเห็น เพื่อที่ว่า คนทั้งหลายจะได้ไม่งมงาย และไปหลงในธรรม อันแก้ทุกข์อะไรไม่ได้สักอย่างของ telwada

    ผมยินดีจะถกธรรมกับ telwada ด้วยการให้ telwada ตอบมา เนื่องจากกระทู้นี้ถามตอบแบบมีสาระ

    1 ที่กล่าวว่า ทุกข์แบบละเอียด นั้น เห็นได้อย่างไร และจะกำจัดมันได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น
    สักกายทิฎฐิ นี้ทำไมจะต้องเห็น และ มันปรากฎขึ้นอย่างไร และทราบได้อย่างไรว่าสามารถละ สักกายทิฎฐิได้แล้ว
    เมื่อละสักกายทิฎฐิได้แล้วจะได้ผลอย่างไร

    เอาคุณธรรมชั้นต้น เด็ก ป 1นี้แหละ ง่ายดี
     
  5. nopkondee

    nopkondee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +126
    อิอิ
     
  6. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ผมคิดว่าถ้ามีเวลาว่างสักนิด ควรจะไปสนทนาธรรมกับพระจะดีกว่านะครับ
    หรือถ้าต้องการฟังเนื้อธรรมแก่นแท้ของพุทธศาสนา หมุนวิทยุไปที่คลื่นหลวงตามหาบัวครับ หรือเข้าเว็ปไปฟังครับ จะเป็นการดี


    โปรดอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าถ้าข้อความที่โพสนี้ทำให้ท่านไม่พอใจ ข้าพเจ้าเป็นคนปัญญาน้อย จึงใช้ปัญญาคิดได้แบบนี้
     
  7. phuttham

    phuttham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +165
    ในทางสายกลาง คือ ไม่ซ้ายสุด ไม่ขวาสุด นั้นแหละเป็นธรรมอันดี
    ...ถ้าเรานั้นขาดบางสิ่งบางอย่างก็จะทำให้ชีวิตนี้จะไม่มีคุณค่าอันใดเลย..
    ...สิ่งใดมีคุณมากที่สุด ...สิ่งนั้นอาจจะเป็นโทษมหันต์ที่สุด....
    ขอร่วมอนุโทนาสาธุด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  8. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    กะปิหวาน เป็นของหวานหรืออย่างไร คุณ ไม่รู้ดอกนะว่าอะไรคือ เปลือก อะไรคือกระพี้ และอะไรคือแก่นสาร
    หลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้า ก็บอกแล้วว่าเป็นแม่แบบ เป็นแม่บท แห่งพระไตรปิฎก แล้วคุณว่ามันเป็นเปลือกธรรม ขอถามคุณว่า เปลือกธรรมคืออะไร
    คุณจะให้ข้าพเจ้าอธิบายรายละเอียดหลักธรรม แล้วคุณว่าหลักธรรมของข้าพเจ้าคือเปลือกธรรม แล้วคุณจะให้ข้าพเจ้าอธิบายอะไร อธิบายไปแล้ว แต่สมองสติปัญญาของคุณเป็นอย่างไรข้าพเจ้าไม่รู้ จะอธิบายอีกครั้งว่า
    "คุณจะคิดอย่างไร ก็ถูกต้องตามหลักการหรือหลักธรรมะทั้ง 4 คู่ 8 ข้อทั้งนั้น เพราะหลักธรรมหรือหลักการทั้ง 4 คู่ 8 ข้อนั้น เป็นหัวข้อหลักการหรือหลักธรรม เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ เป็นวิธีการดับทุกข์ และเป็นหนทางในอันที่จะเข้าถึงความดับทุกข์ คุณจะให้ข้าพเจ้าอธิบายอย่างไร
    หลักการหรือหลักธรรมของข้าพเจ้านี้แหละ ที่ยื่นจดลิขสิทธิ์ไว้ แต่ที่จดลิขสิทธิ์ไว้ มีมากกว่านี้ เพราะมันเป็นหลักวิชชา 3 วิชชา 8 ใครอยากได้ต้องซื้อลิขสิทธิ์ แต่เป็นสมัยเมื่อข้าพเจ้ายังทำงานอยู่
    ตอนนี้ไม่ได้ทำงานแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องขายลิขสิทธิ์ จะสอนหรือไม่สอนก็อยู่ที่ข้าพเจ้า ถ้าไม่ยอม ก็ไม่สอน ถ้ายอมเมื่อไหร่ก็สอน
    แต่ความจริง ก็ได้สอนสำหรับศาสนาพุทธไปแล้วบ้าง แต่ก็ติดขัดหลายอย่าง
    แล้วคุณจะพิสูจน์ไหมว่า ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนจนสำเร็จในระดับอริยะบุคคล(สำหรับในทางศาสนาพุทธ) คุณจะพิสูจน์ไหม
    คุณจะกล่าวอย่างไร ก็ไม่มีความหมายดอกนะ เพราะเจตนาของคุณนั้น รู้สึกว่า จะฉลาด แต่ออกจะค่อยเข้าใจความหมายของภาษาไทย อีกทั้งยังมีทิฏฐิ อยากชนะ นี้พิจารณาตามที่คุณเขียนมานะ
    กะปีหวาน ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า กะปีหวานเป็นของหวานหรือไอ้หนู
    อีกประการหนึ่ง การที่คุณเทียบชั้น ว่า
    ชั้นอนุบาล ๑ ผมหมายถึงคนทั่วไปที่เริ่มการฝึกหัดและเรียนรู้
    ชั้นอนุบาล ๒ ผมหมายถึงพวกวิสุทธิจิตร ที่เริ่มเป็นงานบ้างแล้ว
    ชั้น ป๑ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียบเป็น โสดาบัน
    ชั้น ป๒ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียนเป็น สกิทาคามี
    ชั้น ป๓ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียนป็น อานาคามี
    ชั้น ป๔ ผมหมายถึงพวกที่จะเรียนเป็น อรหันต์ / หรือพุทธะ(แล้วแต่..ตั้งความปรารถนา)
    มันเป็นความคิดอันตื้นเขินของคุณ
    คุณคิดว่า อรหันต์ คือพุทธะ แถมยังเทียบเป็นชั้น ป.4 ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณว่า อรหันต์เป็นอย่างไร ต่างจาก คนทั่วไปอย่างไร คุณรู้ไหม คุณอยากพิสูจน์ไหม ตอนนี้ปิดเทอมพอดีเลยนะ
    เห็นว่า เรียน วิศวไฟฟ้า หรือ ข้าพเจ้าว่าอย่างคุณนะ น่าจะเป็นลูกมือฝึกหัดช่างไฟฟ้าตามร้านทั่วๆไปมากกว่า นะ
    ถ้าอยากพิสูจน์ ก็มาได้เลย ตามที่อยู่ที่มีใต้รูปนั่นแหละ ไม่ต้องขยั้นขยอชักแม่น้ำทั้ง 5
     
  9. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณไม่รู้หรือว่า ธรรมะคืออะไร ถ้าคุณถือตามหลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้าทุกอย่างก็คือธรรมะ
     
  10. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    จิตวิทยาของคุณใช้กับข้าพเจ้าไม่ได้ดอกนะ
    คนจะหลุดพ้นจากกิเลสได้ก็ย่อมเกิดจากสมองสติปัญญา คุณไม่มีสติปัญญา มันก็เหมือนไก่เห็นพลอย คุณไม่รู้วิธีการที่จะกับทุกข์ กับกิเลส จากหลักการหรือหลักธรรมของข้าพเจ้า คุณก็ว่าเป็นเปลือกธรรม อะไรคือเปลือกธรรม แล้วแก่นธรรมอยู่ที่ไหน
    แน่นอน หลักการหรือหลักธรรมของข้าพเจ้า ไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎก เพราะพระไตรปิฎกไม่ถูกต้อง ถูก ข้าพเจ้าจึงมาแก้ไข หากไม่แก้ไขก็ตามใจ ข้าพเจ้าสอนให้แล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
    ข้าพเจ้าศึกษา ค้นคว้า และวิจัยมา ด้วยความยากลำบาก ไม่เชื่อก็ตามใจ จะให้อธิบายอะไรละ อยากได้รึ ก็มาหาข้าพเจ้าเจ้าซิ แต่ต้องนำเอา "คณะสงฆ์"มาด้วย จึงจะให้อย่างครบถ้วน จะมาทำเป็นหลอกล่อไม่มีทางดอกคุณ ที่เขียนให้พวกคุณเนี่ย ก็นับว่ามีเมตตาที่สุดแล้ว ถ้าไม่เขียนก็น่าดูละคุณเอ๋ย ไม่อยากบอกเดี๋ยวก็จะหาว่าบ้าอีก
    มองดูตัวคุณเถอะน่า อ่านภาษาไทย แล้วยังไม่สามารถทำความเข้าใจในภาษาไทย มันก็บ้าเท่านั้นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    จิตวิทยาอะไร ตีความไปเองล้วนๆ เลย

    ผมจะบอกด้วยความเมตตานะ ว่า ไอ้การคะนอง หรือหลงผิด อะไรของคุณเนี่ย มันมีแต่จะจมลงไป มันไม่เกิดประโยชน์ หรือ ออกมาแสดงพระธรรมใหม่ๆ ฉบับของตนเองเนี่ย มันก็ไม่เกิดประโยชน์
    แล้วก็เมตตา ให้คนอื่น เนี่ย มันต้องมองเห็นว่าคนอื่นทุกข์ แล้วจึง หาทางดับทุกข์ให้เขา โดยที่เราพ้นทุกข์แล้ว รู้หนทางแก้ไขให้เขา ก็เรียกว่า กรุณา
    อย่าทำอะไรเรื่อยเปื่อยอีก แล้วถ้าอยากจะพ้นทุกข์เนี่ย ผมจะบอก จะสอนให้ ก็จะพ้นทุกข์ได้จริง เห็นธรรมได้จริง จะได้ไม่เรื่อยเปื่อย
    พระไตรปิฎก กว่าที่เขาจะ สังคยนากันออกมาได้ ต้องมีพระอรหันต์ มานั่งประชุมกัน หลายองค์ ทุกคนเห็นพ้อง แต่ธรรมของคุณ นั้น มีแต่คุณคนเดียวที่เห็นพ้องด้วยตัวคนเดียว มันต่างกันมาก แล้วยังมาตู่ว่า พระไตรปิฎกผิด แบบนี้มันคนประเภทไหน
    และเวลา ถ้าจะกล่าวว่า พระไตรปิฎกไม่ถูกต้อง คุณต้องชี้แจงมาว่า ส่วนไหนไม่ถูกต้อง เพราะอะไร ไม่ใช่กล่าวลอยๆ แล้วเอาธรรมตนเองขึ้นมา บอกว่าถูก

    เขาเรียกว่า เด็กพูดรู้ไหม หรือ พวกสิบแปดมงกุฎพูด เพราะว่า ทำอะไรไม่มีเหตุไม่มีผล

    ก็ เปลี่ยนแปลงตัวเองซะ หรือ เลิกพฤติกรรม บ้าๆบอ ๆ หลอกลวงชาวบ้าน หันมาตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมจริงๆ เมื่อไม่รู้ก็ถาม แล้วผมจะตอบให้ จะได้ไม่ทุกข์ไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้

    ทุกวันนี้ทุกข์ยังมีไม่มากพอหรือ จะเอาอีกหรือ หรือว่าจะสลัดมันทิ้ง เลือกเอา
    การออกมา พูดธรรมเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักมีเกณฑ์ มันเป็นบาบเป็นกรรม รู้ไหม

    คนเรา แก่ มีอายุ ก็อย่าให้มันแก่กระโหลกกะลา ให้มันแก่ความรู้ แก่คุณธรรม แก่วิชชา จึงจะมีค่า
    ไม่ใช่วันๆ เรื่อยเปื่อย หาหลักหาเกณฑ์ให้กับชีวิตไม่ได้ ทำตัวไร้สาระไปวันๆ แบบนี้เกิดมาเสียชาติเกิด
    เกิดมาเป็นมนุษย์ นี่สุดแสนจะโชคดี มาเจอพระพุทธศาสนา ถ้าไม่รู้จักศึกษา แล้ว ก็เรียกว่า ซวยที่สุด
    เหมือน คนถุกลอตเตอรี่ รางวัลที่หนึ่ง แล้วเอาไปทิ้ง เพราะคิดว่าเป็นกระดาษแผ่นเดียว ไม่มีค่า

    เอาหละ พูดยืดยาวเลยผม โชคดี เทวาด่า ขนาดเหล่าเทวายังด่า ก็เพราะมันเห็นผิด รู้ไหม
     
  12. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้าพเจ้าว่า คุณไม่ใช่ผู้นับถือศาสนาพุทธดอกนะ เลยไม่รู้ว่า ใครเป็นผู้สังคายนาพระไตรปิฏก แล้วคุณเคยเห็นหรือว่า มีพระอรหันต์มานั่งประชุมกัน พระอรหันต์มีลักษณะเป็นอย่างไร
    ข้าพเจ้าว่า คนอย่างคุณนั้น เป็นประเภท ขยะศาสนา มีแต่จะทำให้ศาสนาแปดเปื้อน รู้ไม่จริง ยังดันแสดงความไม่รู้
    พระไตรปิฎกไม่ถูกต้อง ก็แสดงไปแล้วว่าส่วนไหนไม่ถูกต้อง แล้วคุณอ่านภาษาไทยไม่ออก อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจหรือ ทำไมสมองปัญญามันต่ำเตี้ยถึงขนาดว่า เมื่ออ่านกระทู้ของข้าพเจ้าแล้ว ยังไม่รู้อีกว่า พระไตรปิฎกมันผิดตรงไหน ไปไกลเลยไป๊ ไอ้พวกขยะศาสนา สมองมีแต่ขยะ มีแต่จะทำลายศาสนาโดยความรู้เท่าไม่ถึงกาล พูดได้ไม่อายความโง่ของตัวคุณ ไม่รู้ไม่เห็น แถมยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงเป็นจริงตามที่พูด ยังดันทุรังเขียนมา อวดความโง่อยู่ได้ สวะ ไร้สาระ
     
  13. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    (คำถาม)
    อยากทราบว่าดวงดาวมีผลต่อชะตาชีวิตจริงมั้ยคะ เห็นเพื่อนไปดูหมอดู
    หมอดูบอกดาวเดินผิดปกติ ทำให้มีเคราะห์ร้ายมาก จึงอยากทราบว่าจริงมั้ยคะ

    (คำตอบ)
    คุณควรได้ทำความเข้าใจไว้อย่างหนึ่งว่า เรื่องของดวงดาวกับชะตาชีวิตของแต่ละบุคคลนั้น เป็นเรื่องทางหลักวิชาโหราศาสตร์ หลักวิชาโหราศาสตร์นี้มีมาก่อนพุทธกาลด้วยซ้ำ เรียกว่ามีมาก่อนที่จะมีศาสนาพุทธ และศาสนาอื่นๆยกเว้นศาสนา พราหมณ์ ฮินดู นัยว่า หลักวิชาการทางโหราศาสตร์นี้ เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับ ศาสนาพราหมณ์ เลยทีเดียว
    แต่จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่นั้น ก็ต้องว่ากันตามหลักวิชาขอรับ ถ้าว่ากันตามหลักวิชาการทางโหราศาสตร์ ก็ย่อมต้องเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และถ้าจะกล่าวถึงหลักวิชาทางดาราศาสตร์ ดวงดาวก็ย่อมเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของมนุษย์ในทางอ้อม อันเกี่ยวข้องกับลักษณะภูมิอากาศ อย่างนี้เป็นต้น
    สรุปคุณก็ต้องแยกความสงสัยของคุณว่า ถ้าคุณจะถือเอาตามหลักโหราศาสตร์ ดวงดาวย่อมมีผลต่อดวงชะตาชีวิตของผู้ที่เกิดตามราศีของดวงดาวนั้นๆ อันนี้เป็นเพียงยกตัวอย่างรายละเอียดยังมีอีกมาก
    แต่ถ้าคุณจะถือเอาตามหลัก พุทธศาสน์ ดวงดาวก็ไม่เกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของคุณ คนละอย่างกัน ก็เลือกดูเถอะว่า จะถือตามหลักวิชาสาขาไหน
     
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ตอบมาได้เนอะ ตอบเหมือนไม่ได้ตอบ "ถ้าถือตามหลักโหราศาสตร์ ดวงดาวมีผลต่อชะตาชีวิต ถ้าถือตามหลักพุทธศาสตร์ ดวงดาวไม่เกี่ยวข้องกับชะตาชีวิต" ตอบมาได้ไงเนี่ย เหอๆๆๆ

    คำถามเขาถามว่าดวงดาวมีผลไหม โดยยึดหลักตามความเป็นจริง

    งั้นแบบนี้ผมขอถือตามหลักพุทธศาสตร์ดีกว่า ดวงดาวจะได้ไม่มีผลกับชีวิตผม ส่วนคนที่ถือตามหลักโหราศาสตร์ ก็ระวังหน่อยนะ เกิดดาวมันเคลื่อนผิดจังหวะ ตกหลุมอากาศขึ้นมา คุณอาจจะมีเคราะห์หนักก็ได้

    ดูจากที่ตอบก็เห็นได้ชัดเลยว่า ไม่ได้รู้เรื่องพุทธศาสนาเลย แล้วเที่ยวไปสอนคนอื่น ปล่อยควายมาตัวเบ้อเร้อ ต่อไปพูดอะไรน้อยๆ หน่อยจะดีกว่าไหมครับมามั่วแบบนี้ทำให้คนที่ภูมิธรรมยังไม่แน่นอาจไขว้เขวไปได้ ซึ่งส่งผลร้ายแรงอย่างยิ่ง เป็นอันตรายต่อ มรรค ผล นิพพาน

    ถ้าคุณเทวดาจะโต้แย้งกลับ ขอเหตุผลรองรับด้วย ถ้าหาไม่ได้ เอาแต่ด่าท้อต่อว่ากลับมา ก็แนะนำว่าอย่าดีกว่า เด๋วจะไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้ที่ว่า ถาม ตอบ มีสาระ และจะกลายเป็นการปล่อยควายมาอีกตัว

    หมายเหตุ: ดีกรีโทสะของคุณตอนนี้พุ้งไปถึงระดับไหนแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2007
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    "ข้าพเจ้าว่า คุณไม่ใช่ผู้นับถือศาสนาพุทธดอกนะ เลยไม่รู้ว่า ใครเป็นผู้สังคายนาพระไตรปิฏก แล้วคุณเคยเห็นหรือว่า มีพระอรหันต์มานั่งประชุมกัน พระอรหันต์มีลักษณะเป็นอย่างไร"
    ตอบ เออท่าจะจริงนะ ว่าผมไม่เห็นว่าพระอรหันต์นั่งประชุมกัน แต่การที่เราสรุปและเราเชื่ออะไรได้ มันมีอยู่สองทาง ทางหนึ่ง เชื่อเพราะเห็นทั้งหมดแล้ว ว่าจริง ทุกขั้นทุกตอน
    อีกทางหนึ่ง ยกตัวอย่างอย่างง่ายที่สุด ศึกษาไปเรื่อยๆ จนถึงยากระดับหนึ่ง พบว่าจริงตลอด คุณธรรมที่เดินมาถึงตรงนี้ จะบอกเราเองว่า ต่อไปเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จริง

    อีกประเด็นคือ การที่เราพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ หรือไม่ ก็คือ เราต้องปฏิบัตธรรมให้มีคุณธรรมสูงก่อน เราจึงจะรู้ได้ว่า แม้ว่าเราคุณธรรมสูงระดับนี้แล้ว ท่านผู้นั้นสูงกว่าเราอีก ท่านรู้ท่านเห็นเราหมด ท่านผู้นั้นบอกมาเราเชื่อได้ แบบนี้เราก็สามารถสรุปได้

    ก็ขี้เกียจอธิบายมากกว่านี้ เพราะว่าคนมันแถก เล่นถามปัญหา ไก่กับไข่ ไอ้ที่ถามไปว่า ตนเองสรุปด้วยตัวคนเดียวไม่ถูกใช่ไหม มันไม่ตอบ มันย้อนกลับมาถามอีกเรื่องแถไป

    เอาหละเริ่มเรื่อง
    พระไตรปิฎกไม่ถูกต้อง ก็แสดงไปแล้วว่าส่วนไหนไม่ถูกต้อง แล้วคุณอ่านภาษาไทยไม่ออก อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจหรือ ทำไมสมองปัญญามันต่ำเตี้ยถึงขนาดว่า เมื่ออ่านกระทู้ของข้าพเจ้าแล้ว ยังไม่รู้อีกว่า พระไตรปิฎกมันผิดตรงไหน ไปไกลเลยไป๊ ไอ้พวกขยะศาสนา สมองมีแต่ขยะ มีแต่จะทำลายศาสนาโดยความรู้เท่าไม่ถึงกาล

    ตอบ ก็ไอ้คนเขียนมันเขียนปัญญาอ่อนแล้วจะอ่านเข้าใจไหมเนี่ย ที่บอกว่าทำลายพระพุทธศาสนา แล้วคนที่มันบอกว่าพระไตรปิฎกผิดนี่มันเชิดชูพระศาสนาเหรอ

    ไม่รู้จะเถียงอะไรแล้ว คนปัญญาอ่อน นะ
    ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วนะว่า พอโดนด่าไปหน่อย แต๋วแตก จะตอบก็ไม่ยอมตอบตรงๆ เลี่ยงไปเรื่อย
    ไม่ได้ถามอะไรยากเลย
     
  16. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ข้อความด้านบนนั้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่เขียน เป็นผู้ที่มีแต่ความเขลา เบาปัญญา แล้วยังอวดฉลาดอีกต่างหาก
    เขียนมากก็จะหาว่ามีโทสะ เอาแค่นั้นแหละนะ แล้วหัดใช้สมองอันน้อยนิด คิดให้ดีนะ ก่อนที่โต้แย้ง ผู้ที่เขาเข้ามาอ่าน คงหัวเราะในความโง่ของคุณนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
     
  17. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    สมาชิก ขันธ์ เขียนว่า
    อีกประเด็นคือ การที่เราพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ หรือไม่ ก็คือ เราต้องปฏิบัตธรรมให้มีคุณธรรมสูงก่อน เราจึงจะรู้ได้ว่า แม้ว่าเราคุณธรรมสูงระดับนี้แล้ว ท่านผู้นั้นสูงกว่าเราอีก ท่านรู้ท่านเห็นเราหมด ท่านผู้นั้นบอกมาเราเชื่อได้ แบบนี้เราก็สามารถสรุปได้

    ตอบ... แนะ ไม่รู้ว่าอรหันต์เป็นอย่างไร ยังมีหน้ากล่าวว่าปฏิบัติธรรมให้มีธรรมสูง คุณปฏิบัติได้หรือ ถ้าใครบรรลุอรหันต์ เอาแต่บรรลุ บุคคลทั่วไปก็สามารถรู้ได้แล้ว เพราะระดับอรหันต์ ย่อมต้องมีปรากฎการทางสรีระร่างกาย ให้เห็น อย่างชัดเจน


    พระไตรปิฎกไม่ถูกต้อง ก็แสดงไปแล้วว่าส่วนไหนไม่ถูกต้อง แล้วคุณอ่านภาษาไทยไม่ออก อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจหรือ ทำไมสมองปัญญามันต่ำเตี้ยถึงขนาดว่า เมื่ออ่านกระทู้ของข้าพเจ้าแล้ว ยังไม่รู้อีกว่า พระไตรปิฎกมันผิดตรงไหน ไปไกลเลยไป๊ ไอ้พวกขยะศาสนา สมองมีแต่ขยะ มีแต่จะทำลายศาสนาโดยความรู้เท่าไม่ถึงกาล

    สมาชิก ขันธ์ เขียนว่า
    ก็ไอ้คนเขียนมันเขียนปัญญาอ่อนแล้วจะอ่านเข้าใจไหมเนี่ย ที่บอกว่าทำลายพระพุทธศาสนา แล้วคนที่มันบอกว่าพระไตรปิฎกผิดนี่มันเชิดชูพระศาสนาเหรอ

    ตอบ... โธ่เอ๋ย ที่แท้ก็เป็นไอ้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เถียงคำไม่ตกฟาก ก็เอ็งไม่รู้เรอะว่าข้าพเจ้าเขียนหลักธรรมะ หรือหลักการว่าอย่างไร
    ก็ตัวนั้นแหละที่ในพระไตรปิฏกมันผิด โธ่,...เอ๊ย โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก สมองของเอ็งนะมันมีแต่ขยะข้าพเจ้าบอกเอ็งแล้ว
    ถ้าหลักการหรือหลักธรรมะ เป็นหลักความจริงที่ไม่มีผู้ใด ไม่ว่าจะอยู่ศาสนาใด ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด หนีไม่พ้นหลักการหรือหลักธรรมะนั้นๆ นั่นแหละ ถูกต้อง
    คุณเอ็ง ก็ลองกลับไปอ่านหลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้าซิว่า เอ็งหนีพ้นไหม เป็นจริงอย่างที่ข้าพเจ้าบอกคุณเอ็งไว้ไหม เอ็งจะเป็นใครเชื้อชาติใด เอ็งหนีไม่พ้น แต่หลักการหรือหลักธรรมะที่เอ็งว่ามันเป็นเปลือกนั่นแหละ เอ็งลองตอบมาซิว่า เอ็งหนีพ้นหรือไม่ และหลักการนี้เป็นเพียงหลักการทางศาสนาพุทธ ยังมีหลักการทางศาสนาอิสลาม หลักการทางศาสนาคริสต์ หลักการทางศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ฯ ที่ก็เป็นหลักความจริงเหมือนกัน
    เอ็งเข้าใจหรือยังละ
    ปัญญานิ่ม แต่ก็เก่งในการเถียงนะเอ็ง
     
  18. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    สมาชิก ข้นธ์ เขียนว่า
    ไม่รู้จะเถียงอะไรแล้ว คนปัญญาอ่อน นะ
    ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วนะว่า พอโดนด่าไปหน่อย แต๋วแตก จะตอบก็ไม่ยอมตอบตรงๆ เลี่ยงไปเรื่อย
    ไม่ได้ถามอะไรยากเลย

    ตอบ.. เขาเรียกว่าอยากได้ของคนอื่นแต่โง่ อ่านหนังสือภาษาไทยแท้ๆ ยังไม่เข้าใจความหมายของภาษา แต่กลับบอกว่า หลีกเลี่ยง ไม่ตอบตรงๆ ไอ้คนสมองมีแต่ขยะ ไม่มีหัวคิด อ่านซะจะได้ฉลาดขึ้น


    (ถาม) ข้าพเจ้าเกิดข้อสงสัย (ซึ่งอาจนอกเรื่องธรรมะ)
    การดำรงชีวิตประจำวัน มีกิจกรรม ทำวนเวียนซ้ำๆ ทุกวัน ถือเป็นสุขหรือทุกข์ ควรเปลี่ยนแปลงอย่างไร

    การทำกิจวัตรประจำวัน ซ้ำๆ ทุกวัน เช่น ตื่น 7:00 น รีดผ้า อาบน้ำ แปรงฟัน ซื้อข้าว เก็บรอไว้กินข้าวเที่ยง ทำงานด้วยความวุ่นวาย ช่วงเช้า ดื่มกาแฟ กินข้าวเที่ยง ทำงานด้วยความวุ่นวายช่วงบ่ายถึงเย็น ดื่มกาแฟ ถึงตอนเย็น ทำงานไปบ้าง เล่นอินเตอร์เน็ตโดยเฝ้ารอคอย ถาม-ตอบกระทู้ ทำงานสลับ ถาม-ตอบ กระทู้ จนถึง 22:00 น กลับบ้าน อาบน้ำ นอน

    รุ่งเช้า ทำดังเดิม (ซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจว่า ยังมีคนแบบนี้ อีกมาก ที่ตื่นขึ้นมา ทำงานด้วยความเหนื่อยยาก กินข้าว ผ่อนคลายกับบางกิจกรรม แล้วก็นอนหลับ วนเวียนซ้ำซากแบบนี้ทุกวัน)

    เช่นนี้ ถือเป็นความทุกข์ หรือไม่ ถ้าชีวิตมันน่าเบื่อหน่าย ควรเปลี่ยนชีวิตอย่างไร จึงจะรู้สึกแจ่มใส แต่ไม่ทำผิดศีล ผิดธรรม

    คำตอบ,,,,,,,,,
    สิ่งที่คุณสงสัยนั้น เป็นเรื่องของธรรมะ ไม่ใช่เรื่องนอกธรรมะ ความจริงแล้วคุณได้อ่านกระทู้ที่ข้าพเจ้าเขียนและได้ตอบโต้กับข้าพเจ้าไปแล้วน่าจะมีความรู้ความเข้าใจในศาสนาเพิ่มขึ้น ถ้ารู้หลักการหรือหลักธรรมะที่ข้าพเจ้าได้เขียนไปและได้นำไปคิดพิจารณา ประกอบกับการอ่านกระทู้เรื่อง"กิเลสในแง่มุมหนึ่ง" ถ้าคุณไม่เอ๋อจนเกินไป น่าจะมีความเข้าใจเกิดขึ้นบ้าง
    ข้าพเจ้าบอกแล้วว่า ไม่มีผู้ใด หรือใครในโลกนี้ หลีกหนี หรือหลบหลีก หลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้าไปได้ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะใช้ศัพท์ภาษาเช่นใด

    และในเรื่องของ "กิเลสในแง่มุมหนึ่ง" ก็เป็นเพียงการขจัดอาสวะแห่งกิเลสให้สิ้นในแง่ของมนุษย์ปุถุชนคนทั่วไป
    ยังมีการขจัดอาสวะแห่งกิเลสให้สิ้น ในแง่ของพระอริยะบุคคล หรือระดับอริยะบุคคล อีกซึ่งข้าพเจ้าไม่กล่าวถึงเพราะ ต้องถูกลบอย่างแน่นอน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลักวิชาการในสาขาวิชาต่างๆอย่างมากมาย

    "การดำรงชีวิตประจำวัน มีกิจกรรม ทำวนเวียนซ้ำๆ ทุกวัน ถือเป็นสุขหรือทุกข์ " นี้เป็นข้อสงสัยของคุณ เพราะคุณขึ้สงสัย ดีนะที่() ไม่เต็มสมอง ยังพออ่านอะไรได้เข้าใจบ้าง แม้จะเป็นเพียง 30ส่วน ใน100ส่วน
    ข้อสงสัยของคุณ ถ้าคุณใช้หลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้าเข้าครอบคลุม คุณก็จะร้องอ๋อ......อย่างเกิดปิติ
    เพียงแค่คุณต้องรู้ความหมายของภาษาที่เขียน ว่าแต่ละคำ แต่ละประโยคหมายถึงอะไร เช่น "การครองเรือน หรือบทบาท หมายถึงอะไร" ข้าพเจ้าเคยบอกไปแล้วว่า "สรรพสิ่ง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ล้วนหนีไม่พ้นหลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้า
    ในชั้นแรกนี้ คุณลองคิดพิจารณาด้วยตัวเอง โดยใช้หลักการหรือหลักธรรมะทั้ง 4 คู่ 8 ข้อ มาเป็นแม่บท เพราะหลักการหรือหลักธรรมะทั้ง 4 คู่ 8 ข้อนั้น เป็นแม่บทแห่งพระไตรปิฏก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2007
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เออ เทวาด่า นี่ถ้าคุณไม่อวดตัว เหนือพระไตรปิฎกผมจะไม่ตอแยกับคุณเลย

    อ้างอิง
    สมาชิก ข้นธ์ เขียนว่า
    ไม่รู้จะเถียงอะไรแล้ว คนปัญญาอ่อน นะ
    ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วนะว่า พอโดนด่าไปหน่อย แต๋วแตก จะตอบก็ไม่ยอมตอบตรงๆ เลี่ยงไปเรื่อย
    ไม่ได้ถามอะไรยากเลย

    ตอบ.. เขาเรียกว่าอยากได้ของคนอื่นแต่โง่ อ่านหนังสือภาษาไทยแท้ๆ ยังไม่เข้าใจความหมายของภาษา แต่กลับบอกว่า หลีกเลี่ยง ไม่ตอบตรงๆ ไอ้คนสมองมีแต่ขยะ ไม่มีหัวคิด อ่านซะจะได้ฉลาดขึ้น


    ตอบ แบบนี้เขาเรียกว่า ไม่ได้ตอบ แต่ด่ากลับมา แล้วก็ด่าเป็นอยู่แค่คำสองคำ คือ ไม่มีหัวคิด หรือ สมองมีแต่ขยะ

    ผมขอให้คุณ ชี้แจงทีละข้อสิ
    อย่าเลี่ยง
    1 พระไตรปิฎกส่วนที่ว่าผิดนั้น ตรงไหน ยกมาเลยตรงนี้ ที่ผ่านมาไม่ต้องสนใจเริ่มใหม่ ยกขึ้นมาตอบใหม่เลย
    2 เมื่อคุณคิดว่า ผิด ก็ชี้แจงมาว่า ส่วนที่ถูกคืออะไรตามความหมายของคุณ

    เอาสองข้อนี้ก่อน
    อย่าพูดว่า หลักธรรม 4 คู่แปดข้อเป็นแม่บทแห่งพระไตรปิฎก เพราะแม่บทแห่งพระไตรปิฎกแท้จริงมาจาก ใจเท่านั้น ไม่มีหลักอะไรมากไปกว่า ใจ

    คนชั่วนี่มันก็ทำอะไรไปได้เรื่อย เถียงก็เถียงข้างๆคู ถ้าเป็นปราชญ์ ก็ให้ยกข้อแย้งขึ้นมาทีละข้อที่ถามไป
    และเวลาจะสอนธรรมใคร ถ้ามีเมตตา ต้องตั้งจิตว่า สอนไปนั้น คนเขาเอาไปใช้ได้จริงหรือไม่ ไม่ใช่พูดจาเรื่อยเปื่อย สักแต่ว่าพูดในสิ่งที่ตนคิด
     
  20. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    พระไตรปิฎกมีผิดด้วยเหรอ คุณเทวดา เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า
    อยู่มา 2500 กว่าปีไม่เห็นมีใครบอกว่าผิดเลย
    ช่วยชี้แจงให้กระจ่างด้วยสิ
    บาปหนักหนานะคุณ
     

แชร์หน้านี้

Loading...