กลั้นลมหายใจ ไม่ใช่ทางตรัสรู้ธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 20 สิงหาคม 2013.

  1. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ถามศิืษย์เก่งกว่าครูได้มั้ย ตอบมาซิ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ ใครเก่งกว่า พระพุทธเจ้าหละ

    ครู ในศาสนาพุทธ มี พระองค์เดียว

    นอกนั้น เขามักเรียกว่า พ่อแม่ครูบาอาจารย์

    เติมคำว่า พ่อแม่ เข้ามาเป็น สิ่งที่ใจหมายๆ
    คำที่เหลือ เป็นแค่การไหลไปตาม คตินิยม
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ปฎิจสมุปบาทไม่มีใครรู้จริงหรอกเดาเอากันทั้งนั้น ถ้าคุณไม่สามรถดับสังขารทั้งหลายได้ไม่มีทางเข้าใจ เพราะวิมุติเท่านั้นที่จะสามรถดับอวิชชาได้ และวิมุติก็เกิดตอนที่รูปนามแยกจากกัน และรูปนามแยกจากกันเพราะสังขารทั้งหลายดับ งงล่ะซิแค่นี้เอาไปคิดเอานะ อธิบายไปก็ไม่รู้หรอกครับ เพราะฌานสี่ก็รู้ไม่ได้ คนล่ะเรื่องกันเพราะอวิชชาดับได้ตรงวิมุมุติไม่ได้ดับตรงฌานสี่
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ยกตัวอย่าง หลวงพ่อพุธ กับ หลวงปู่....จำชื่อไม่ได้
    ( ทราบแต่ ท่านไม่บรรลุธรรม สึกไปก่อน )

    หลวงพ่อพุธ ก็กล่าวเรียก หลวงปู่ท่านนั้นว่า เป็นเหมือนพ่อแม่

    แม้นว่า หลวงปู่ท่านที่สึกไปจะไม่บรรลุธรรม

    หลวงพ่อพุธ ก็ไม่เคยสำคัญตัวว่า เก่งกว่า หลวงปู่ที่สึกไปเลย

    ดังนั้น

    อาศัย อำนาจของปฏิปทาของ พระสุปฏิปันโน ยกว่า ศิษยเก่งกว่าครู ไม่มี !!
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    จะ งง ทำแปะ อะไรหล่าคร้าบท่าน

    พระพุทธองค์ ตรัสบอกไว้เองว่า กำลังของปฐมฌาณ ก็ทำให้
    รูปนาม แยกจากกันได้แล้ว

    พระอรหันต์สุขวิปัสสโก ท่านจึง ภาวนาแยกรูปนามด้วยกำลัง
    ปฐมฌาณ จนสำเร็จอรหันต์ได้

    ฮะเอ่อ ปฐมฌาณ ทำไม แยกรูปนามได้ งง หละซี่ !!!

    ปฐมฌาณ ทำให้ อวิชชา ป้อแป้ๆ แคระแกรน ได้ด้วยนะ งง ไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2013
  6. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    รูปนามแยกจากกันได้ด้วยกำลังสมาธิ สติ(ปัญญา)
    ปัญญานำเห็นตามนามรูป ว่าอะไรเป็นนามอะไรเป็นรูป ตามรู้รูป(เดิม)ก็ดับไป นาม(เดิม)ก็ดับไปจากสัญญา
    สมาธิสติปัญญาหนุนกัน(กำลังฌาน) รู้ชัดว่า นามกับจิตแยกกันเพราะจิตหลุดออกมานอกตัว(ภาษาพูด) บางครั้งรู้สึกจิตลอยอยู่เหนือรูปเห็นรูปกำลังประสบทุกขเวทนา(หายใจไม่ออกหรือแสดงอศุภนิมิต(แสดงสภาวธรรม))แต่จิตมองดูอยู่ด้วยอุเบกขา(ยกเว้นคนสติไม่ถึงตกใจกลัวจิตวิ่งกลับเข้ารูป)
    รูปนามแยกจากกันแล้ว จิตจะดับได้ไม่ได้อยู่ที่การวางจิต(สังขารุเปกขญาณ) จะข้ามโคตรไปได้หรือไม่ได้ก็ต้องภาวนาให้ดี
    เพราะวิมุตติเกิดเมื่อจิตสังขารดับ(หลังกายสังขารดับ)

    บางคนไม่มีกำลังฌานอาจแยกไม่ทัน(สมาธิสมังคีทีหลัง)กายจิตดับไปพร้อมๆกัน
    คนมีกำลังฌานเห็นจิตแยกรูปชัดเจน เห็นกายดับก่อน จิตดับตาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  7. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ดูท่านเข้าใจอะไรดีมากกว่าหลายๆท่านในที่นี้แม้แต่การแยกรูปนามบางคนก็คงแต่ได้คิดพิจารณาเอาเท่านั้น ซึ่งมันยังอีกไกลใช่มั้ยครับท่านปุณ
     
  8. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    พี่ ป.ปุณฑ์ว่า ในขั้นแยกรูปนามนี้ จัดเป็นสัมมาทิฏฐิหรือยังครับ
    หรือว่าพอออกจากการภาวนาแล้ว ยังเป็นแค่ความเห็นถูกแบบโลกๆอยู่ ที่ยังต้องเพียรซ้ำๆ จนกำลังปัญญาข้ามไปสู่อริยบุคคลอีกจึงจะจัดว่าเป็นสัมมาทิฏฐิจริงๆ

    ได้แค่สลดสังเวชครับ ยังจมอยู่เลยพี่ป.ปุณฑ์
     
  9. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เรื่องจึงอยู่ที่ว่า การทวนเข้าไปดูความอยากทั้งหลายที่ปรากฏอยู่
    มันมีให้เห็น มันยังไม่หน่ายเหมือนขณะปรากฏรูปนามแยกออกด้วยกำลังสมาธิ
    แม้ขณะเห็นกายแปรสภาพ ก็ยังไม่สามารถข้ามไปได้
    ก็กลับมาสู่ ปกติลืมตามาถึงจะอิ่มในกำลัง ปลอดโปร่ง หากแต่อารมณ์ดังกล่าวค่อยๆดับ
    อ่อนกำลังลง ทีนี้ ความอยากหากมันแรงเกินกำลังปัญญาเข้าไปเห็นว่าอันนั้นน่ะมันยังไม่เที่ยง
    ไม่ควรยึดมั่นหมายมั่น ตรงนี้ล่ะที่อันตราย
    มันจะวางการปฏิบัติในทางอันเยี่ยม ไปคว้าการปฏิบัติเพื่อบรรลุ เพื่อเป็นเหนือปุถุชน
    ซึ่งจริงๆแล้ว ต้องเอาทุกข์นี่เป็นที่พิจารณา
    ไม่ได้เอาคุณความพิเศษใดๆมาพิจารณา
    หากยังมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ ก็ได้แต่หลงมัวเมาในความวิเศษที่ความอยากมีตัวตนสร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง
     
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    วิมุตติคือสภาวะธรรมที่พ้นสมมติไปแล้ว การดับอวิชชาต้องทำวิชชาให้เกิดขึ้นด้วยกำลังของสมาธิ วิชชาจึงเกิดขึ้น เมื่อวิชาเกิดขึ้นอวิชชาจึงดับไป และตัวอวิชชาเองก็ยังมีอาหารอยู่ยังไม่ใช่สภาวะวิมุตติ วิมุตติกับอวิชชาคนละส่วนกัน เอามาดับกันไม่ได้ ปัญหาที่ผมถามไปอีกสามข้อยังตอบไม่ได้ นี่เพิ่มปัญหาอีกข้อหนึ่ง วิมุตติเท่านั้นสามารถดับอวิชชาได้ กลั้นลมหายใจคิดเอาหรือครับ
     
  11. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    เข้าวิปัสสนาญาณแล้ว เป็นสัมมาทิฏฐิ
    ตั้งแต่รู้อะไรเป็นนาม อะไรเป็นรูป (แยกนามรูปได้แล้ว แต่ขั้นเห็นต้องมีกำลังสมาธิ ซึ่งมักจะไปเกิดตอน จะข้ามโคตรอีกที)
    การเข้าใจตรงนี้ จะเข้าสู่การทราบว่านามรูปทำงานกันอย่างไร
    และเข้าสู่การรู้ถึง ความเกิด ตั้งอยู่ และดับไป..
    (เอามาแปะบ่อย ขอบคุณวิกิพิเดีย)

    วิปัสสนาญาณ 16
    ลำดับตั้งแต่ต้น จนถึงจุดหมายคือมรรคผลนิพพาน คือ

    นามรูปปริจเฉทญาณ หมายถึง ญาณกำหนดแยกนามรูป
    นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ หมายถึง ญาณจับปัจจัยแห่งนามรูป
    สัมมสนญาณ หมายถึง ญาณที่เห็นสังขตลักษณะคือความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของนามรูป และเริ่มเห็นไตรลักษณ์ เห็นตรุณอุทยัพพยญาณหรืออุทยัพพยญาณอย่างอ่อน วิปัสสนูปกิเลสจะเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้
    อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณตามเห็นความเกิดและความดับแห่งนามรูป เห็นพลวอุทยัพพยญาณหรืออุทยัพพยญาณอย่างแก่ จัดว่าจิตเริ่มเข้าสู่วิปัสสนาญาณที่แท้จริง (ระหว่างเกิดถึงดับ เห็นเป็นดุจกระแสน้ำที่ไหล)
    ภังคานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณตามเห็นจำเพาะความดับเด่นขึ้นมาอย่างเดียว
    ภยตูปัฏฐานญาณ หมายถึง ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว ไม่แน่นอน ดุจกลัวต่อมรณะที่จะเกิด
    อาทีนวานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณคำนึงเห็นโทษภัยของสิ่งทั้งปวง ผันผวนแปรปรวน พึ่งพิงมิได้
    นิพพิทานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณคำนึงเห็นด้วยความเบื่อหน่าย
    มุจจิตุกัมยตาญาณ หมายถึง ญาณหยั่งรู้อันใคร่จะพ้นไปเสีย
    ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อจะหาทางหนี
    สังขารุเบกขาญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางวางเฉยต่อสังขาร
    สัจจานุโลมิกญาณ หมายถึง ญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยั่งรู้อริยสัจ สามารถเห็นไตรลักษณ์ด้วยภาวนามยปัญญาได้(พิจารณาวิปัสสนาญาณทั้ง๘ที่ผ่านมา ว่าเป็นทุกข์ เมื่อเห็นทุกข์ก็เห็น สมุทัย นิโรธ มรรค โดยแต่ละญาณเป็นเหตุเกิดมรรค ทั้ง๘ ตามลำดับ )
    โคตรภูญาณ หมายถึง ญาณครอบโคตร คือ หัวต่อที่ข้ามพ้นภาวะปุถุชน (ถ้าเป็นอริยบุคคลแล้ว จะเรียกว่าวิทานะญาณ)เห็นความทุกข์จนไม่กลัวต่อความว่าง ดุจบุคคลกล้าโดดจากหน้าผาสู่ความว่างเพราะรังเกียจในหน้าผานั้นอย่างสุดจิตสุดใจ
    มัคคญาณ หมายถึง ญาณในอริยมรรค
    ผลญาณ หมายถึง ญาณอริยผล
    ปัจจเวกขณญาณ หมายถึง ญาณที่พิจารณาทบทวน (ว่ากิเลสใดดับไป กิเลสยังเหลืออยู่ กิจที่ต้องทำยังมีอยู่หรือไม่ พิจารณาสัจจานุโลมมิกญาณอีก)

    ญาณ - วิกิพีเดีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  12. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    สงสัยยังทุกข์ไม่หนำใจ (แอบแซว)

    อนุโมทนาครับ ทำได้ขนาดนี้ก็ดีมากแล้วครับ
     
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    จำเขามาหรือเกิดขึ้นกับตัวเองครับ
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    จะจำเขามาหรือเกิดขึ้นเองไม่ใช่ของสำคัญ ความสำคัญอยู่ที่เรียนมาถูกหรือไม่ ปฏิบัติถูกหรือไม่ครับ
     
  15. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ๑. บรรลุธรรมโดยไม่ได้ฌาน
    ๒. ระงับกายสังขารด้วยการกลั้นลมหายใจ
    ๓. เอาวิญญาณไปรู้สภาวะนิพพาน
    ๔. นิพพานดับหมดเหลือแค่ตัววิญญาน
    ๕. วิมุตติเท่านั้นสามารถดับอวิชชาได้

    ห้าอย่างนี้ไม่มีในตำรา นักปฏิบัติที่เริ่มศีกษาเริ่มปฏิบัติ
    ร้อยทั้งร้อย เขาก็ต้องเริ่มจากฌานทั้งนั้น
    คุณกลับปฏิเสธฌาน ถึงจะแก้ว่าได้ทีหลังก็ตาม
    นักปฏิบัติย่อมทราบได้สิ่งไหนเป็นธรรมและสิ่งไหนเป็นอธรรม
    ลองปล่อยใจว่างๆ พิจารณาสิ่งที่เรียนมา ที่โพสต์มา
    ว่าเข้ากันได้กับที่ครูบาอาจารย์สอนหรือยัง เป็นอธรรมหรือเป็นธรรม
    สิ่งใดเป็นอธรรมก็ควรวางเสีย ทำธรรมให้เกิดขึ้น
    แต่ถ้ายังเถียงเขาไปหมด อวดรู้ว่าตนเก่งกว่าอาจารย์
    ทั้งที่สิ่งที่ตนรู้มาผิด ไม่มีในตำรา คำของตนเองก็ขัดกัน
    ลูกศิษย์เก่งกว่าอาจารย์มีเยอะ แต่อย่าอกตัญญูต่อครูบาอาจารย์
    ถ้าอกตัญญูต่อพ่อแม่ครูอาจารย์แล้วมีแต่จม ใครก็ช่วยไม่ได้ครับ
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้ " จิตจำนน "

    จิตจำนน นี่ของดี เนาะ

    แต่ คนที่ให้ พร คำว่า "จิตจำนน" มา กลับ ฉับฉล ซะนี่

    ปล. คำของพระพุทธองค์จะให้คำว่า " อยู่ฝากทางโน้น " !!!
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ใครเหรอครับอกตัญญูกับอาจารย์ อุรุเวลา
     
  18. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ช่วงนี้มันไม่ค่อยเห็นทุกข์มากเหมือนเมื่อก่อนครับ
    มันเลย เอื่อยๆ เรื่อยๆซะ พอมันสบาย มันก็ขี้เกียจเห็นๆ
    ความเพียรเลยหย่อนไปมาก
    อาศัยจังหวะเลี้ยงลูกน่ะครับ ช่วยภาวนาได้เยอะทีเดียว
     
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    นั่นสิครับพี่ ป.ปุณฑ์ ยังไปไม่ถึงไหนเลย
    แค่พอจ่อที่รูปนามก็หล่นปุ๊กมานี่เลย
    นึกไปก็ตลกดี สมัยเพ่งสมาธิมากๆ มันกล้าไปหมด
    แจ่มได้ทุกที
    พอกำลังตก มันสลด เห็นแต่ความหน่าย มันไม่เที่ยงไปซะ
    จนบางขณะมันหดหู่ไปจนคลายออกจากฐานได้บ่อยๆ
    ผมว่า อาการเฉยนี่ น่ากลัวกว่า เห็นทุกข์ ซะอีก
    มาจะพาไปไหนก็ไม่รู้ เอาเฉย สบายท่าเดียว
    พอสำรวจตนได้ แม้ทุกข์ปรากฏบางเบาก้ต้องเอามาภาวนา
    พอสุขเข้าก็จับมาภาวนา
    ทีนี้พอตอนเฉยนี่สิ ยังมึนได้อยู่
    รอพี่หนีตีแตกสักหน่อย
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อ้าว ก็เห็นแล้วนี่

    ของมันมี 3 สุข ทุกข์ กับ อทุกขมสุข

    ทั้งหมด เขาเรียก เวทนา

    สุข ทุกข์ เห็นได้ ของเด็กๆ

    อทุกขมสุข เป็นตัวทุกข์ เป็นเวทนา ก็ พินาไป จิฮับ

    แล้วอะไรหละ หมุน .....

    เขาไม่ได้เอา สุข ทุกข์ อทุกขมำสุข หมุน

    เขาดู " สิกขา " มันหมุน

    สิกขาหมุน เขาเรียก จิตร่าเริงในธรรม แต่ สงบ

    ทีนี้ เขาไม่ได้ภาวนาเพื่อ เอาสิกขา ..... แต่เขาให้ ดูความเจริญ กับ เสื่อม
    ใน สิกขา เข้ามาอีกที

    .....อย่าถามนะ จะไปฝากไหนหละนั่น ฮิววววววส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...