เมื่อมองไปดูคนรอบข้าง แล้วท้อใจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย KomAon11, 20 มกราคม 2008.

  1. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    ผมมองไปดูเพื่อนตัวเอง ทำไมมีแต่คนมองว่าเราเป็นคนแปลกจังเลยครับ แค่ชอบทางนี้ ทำบุญ โมทนาคนอื่นแบบนี้



    รู้สึกว่า สังคมเมืองไทยทำไม เราได้เป็นแค่คนส่วนน้อย ..
     
  2. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    ^ ^หาเพื่อนในเวปนี้ซิเต็มเลย ชอบทำบุญ......
     
  3. pae-pae

    pae-pae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +281
    เพื่อนผมก็เหมือนกันครับ เวลาเจอกัน มันจะชอบถามว่า ถึงขั้นไหนแล้ว ล่ะ เหาะได้หรือยัง ผมเลยเป็นเซ็งเลย จะไปชักชวน มันทำบุญ ทำทาน ก็ ยังต้องคิดดูก่อนเลยครับ
     
  4. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
    เป็นคนดี รักษาศีล ไม่กินเหล้าเมายา แปลกด้วยหรือ
    อาจเพราะบางคนคิดว่าความดีทำยาก ความชั่วทำง่าย เราก็เลยแปลกจากคนอี่นเขาบ้าง
    ก็ยินดีที่จะเป็นคนแปลกแบบนี้แหละ คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
     
  5. penkonthai

    penkonthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +129
    น่าสงสารเค้าเหล่านั้นต่างหากหละครับ เค้าไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วจะทำอย่างไรให้พ้นทุกข์ เราควรช่วยเค้าให้รู้แย่งเราบ้าง จะได้เห็นทางสว่างมั่งน่ะครับ

    เมื่อพระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบมนุษย์กับดอกบัว ๔ ประเภท คือ

    ๑ อุคฆติตัญญุ คือพวกฉลาดมาก เหมือนบัวที่พ้นน้ำแล้ว
    เพียงได้ฟังหัวข้อธรรมที่ยกขึ้น ก็จะเข้าใจได้โดยง่าย

    ๒ วิปจิตัญญู คือพวกฉลาดพอควร เหมือนดอกบัวที่อยู่เสมอน้ำ
    เพียงฟังคำอธิบายก็เข้าใจได้

    ๓ เยยะ คือพวกฉลาดปานกลาง หรือเวไนยสัตว์
    เหมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ มีโอกาสที่จะโผล่ขึ้นมาในวันต่อๆไป
    เมื่อได้รับการอบรมบ่มสติปัญญาพอควรก็จะเข้าใจธรรมได้

    ๔ ปทปรมะ คือผู้ที่โง่เขลา เหมือนบัวที่อยู่ในโคลนตม
    ยากที่จะสอนให้เข้าใจได้ ไม่มีโอกาสโผล่เหนือน้ำ

    หากเค้าเหล่านั้นอยู่ในประเภทที่ ๔ ก็น่าเวทนายิ่งนัก
     
  6. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    โลกนี้เปรียบเหมือนกับสนามสอบสำหรับผู้เข้ารับการทดสอบหรือผู้ปฏิบัติธรรม มีข้อสอบที่ยากและหินที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการทดสอบที่ผ่านเข้ามาทั้งนั้น ผ่านเข้ามาอยู่เรื่อย จนกว่าจะจบการศึกษา
    อดทนเข้าไว้ครับ ผมท้อหลายหนแล้ว แต่ก็พยายามสู้ครับ
    เราไม่ได้แปลกหรือแตกต่างจากเขาเลยครับ เราเดินตามธรรม แต่คนทั้งหลายเหล่านั้นเขาเดินตามโลก ตามกิเลส เป็นเพียงการมองต่างมุม
    แล้วสักวันเขาเหล่านั้นจะเข้ามายืนตรงจุดที่เรายืน แต่ก็บอกไม่ได้ว่านานแค่ไหน อาจจะเร็วจนน่าจกใจ หรือช้าจนมองไม่เห็นปลายทางเลยก็ได้ครับ
    ยินดีด้วยครับกับการก้าวเข้ามาตรงจุดนี้ จุดยืนนี้ต้องทรงตัวให้ดีๆนะครับ ล้มง่ายถ้ากำลังใจไม่เข้มแข็งพอครับ
     
  7. kantatat

    kantatat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +137
    เมื่อประมาณสิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อคูณ ที่วัดบ้านไร่
    ได้เข้าไปถึงข้างในห้องที่ท่านใช้จำวัดเลย ท่านได้สอนผมอย่างหนึ่งที่ยังจำจนทุกวันนี้คือ อย่ากลัวคนไม่ดี ให้กลัวคนดีให้กลัวว่าเราจะทำความดีสู้เขาไม่ได้
    อยากบอกเท่านี้ครับ
     
  8. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    อย่าท้อนะครับ ก็เป็นอย่างนี้แหละ ถ้าคนดีมีมากกว่าคนเลว ป่านนี้สังคมก็คงจะสงบสุขมั่กๆไปแล้ว แต่เผอิญว่า เราเข้ามาอยู่ในยุคที่คนเลวมีมากกว่าคนดี ก็เลยต้องเป็นดั่งสภาพนี้ไงครับ

    ผมมักจะอุทานกับตัวเองเสมอๆว่า

    -----ทำไมกันนะ พวกนั้นถึงไม่เห็นและไม่ได้รู้อย่างที่เรารู้บ้าง.....

    คำตอบมันก็จะมีขึ้นมาในความคิดเองว่า

    -----เพราะคนพวกนั้นทำบุญมาไม่เหมือนกับเรา และเลือกที่จะเดินไม่เหมือนกับเรา

    ไอ่พวกที่ชอบถามได้ว่า "เหาะได้ยัง" พูดประหนึ่งดูถูก และตลกขบขันนั้น ผมมักจะตอบกลับไปว่า "ถ้าเหาะได้ จะเหาะให้เอ็งดูเป็นคนแรกเลย"

    เหอๆ

    ที่ผมบอกก็เพราะว่าจะได้เตือนสติตัวเองไม่ให้ท้อด้วยครับ
     
  9. แจ้งให้ทราบ

    แจ้งให้ทราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +691
    เวลานี้ ศาสนาพุทธในเมืองไทยกำลังป่วยครับ เข้าใกล้จุดวิกฤตเต็มที คงอีกไม่นาน พุทธศาสนาคงเหลือแต่ชื่อให้เรียกขาน ผู้คนไม่เข้าใจแก่นแท้ของพระธรรม

    ถ้าบวชจิต ต้องมีการรวมกลุ่มครับ รวมเป็นเครือเดียวกันไว้ จะได้ช่วยเหลือรักษาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนสืบไป

    น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ จำนวนคนน้อยย่อมพ่ายแก่จำนวนคนมาก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการรวมคนเป็นกลุ่ม เป็นสมาคม เพื่อรักษา สืบทอด ประเพณีและเจตนารมณ์ ของพระพุทธศาสนา

    อนุโมทนาครับ
     
  10. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    888
    ค่าพลัง:
    +1,937

    ไอ้อาการ"ท้อใจ" ก็เป็นอกุศลอย่างนึงที่จิตใจเราแอบปรุงขึ้นมาแล้วเราไม่รู้เท่าทัน
    ในเมื่อเราไม่รู้เท่าทันก็ถูกไอ้อาการท้อใจครอบงำจิตใจ คิดว่าความท้อใจมีตัวมีตนจริงๆ
    จิตก็ไหลไปท้อใจ พอจิตปรุงความคิดเรื่องอื่นขึ้นมาใหม่ อาจจะเป็นกุศลหรืออกุศล
    เราก็หลงไปในกุศลหรืออกุศลที่จิตปรุงมาครอบงำใจเรา

    ความคิดปรุงแต่งเป็นสังขารขันธ์ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าขันธ์ทั้งห้าเป็นทุกข์
    ดังนั้นถ้าเราหลงไปในสังขารขันธ์คือความคิดปรุงแต่งไม่ว่าในทางบุญหรือในทางบาป
    ก็ยังไม่สามารถพ้นจากทุกข์ได้

    ทางที่จะพ้นทุกข์ได้คือการที่จิตใจเราไม่หลงไปในอาการปรุงแต่งต่างๆ ที่สังขารหรือกิเลสสร้างขึ้นมา
    เพราะถ้าเราไม่รู้เท่าทันก็ตกเป็นทาสรับใช้ความคิดที่มันปรุงขึ้นมาหลอกเรา...
    อยู่ร่ำไปตลอดในวัฏสงสาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  11. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    ธรรมดา โลกธรรม 8

    เมื่อเกิดเป็น ปุถุชน อยู่บนโลก
    สุขและโศก ธรรมดา อย่าท้อถอย
    คงมีบ้าง หนามชีวิต ขีดเป็นรอย
    เป็นส่วนน้อย ของชีวิต คิดทำไม
    มีล้มลุก คลุกคลาน ผสานสม
    มีขื่นขม มีหอมหวาน มีหวั่นไหว
    มีการพบ การพรากการ จากไกล
    มีได้มา แล้วเสียไป ไม่จีรัง
    จึงอยากเตือน เพื่อนรัก สักเพียงนิด
    เมื่อพ่ายแพ้ อย่าพึ่งคิด ว่าสิ้นหวัง
    แม้อ่าทิตย์ บางคลา ล้ากำลัง
    ถูกบดบัง แสงบ้าง บางเวลา
    สองมือปาด หยาดนำตา ให้หยุดไหล
    สอนหัวใจ ให้แข็ง ให้แกร่งกล้า
    เมื่อต้องมี ปัญหาร้าย กรายเข้ามา
    จงฟันฝ่า อุปสรรค ด้วยฝีมือ
    ขอให้เพื่อน เข้มแข็ง สู่โลกกว้าง
    ถึงโดดเดี่ยว อ้างว้าง อย่าถอยหนี
    กำลังใจ จากผู้ใด ถึงไม่มี
    ไม่เห็นที่ จะต้องแคร์ แยแสใคร
    เพื่อนจงสร้าง กำลังใจ ให้แก่ตน
    จงอดทน สู้ปัญหา อย่าผลักใส
    ชีวิตคน หวังยืนยาว ต้องก้าวไป
    ทุ่มจิตใจ เพื่อตน ทุกหนทาง
    ใจจงหนัก จงแน่น ดังภูผา
    มองด้วยตา ไปไกลไกล ให้กว้างขวาง
    อย่ายึดติด กับสิ่งใด จนไม่วาง
    อย่าหลงสร้าง ความหวังอัน เลื่อนลอย
    ขอให้เพื่อน เข้มแข็ง อย่าหวั่นไหว
    ด้วยดวงใจ อันแข็งกล้า อย่าท้อถอย
    ถึงลำบาก ยากเพียงใด ให้รอคอย
    เวลาสอย ความสำเร็จ บำเหน็จตน
    (good) (good) (good)
    เจริญ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้
     
  12. Tenpokensin

    Tenpokensin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +1,639
    อย่าท้อใจนะครับ คนเรามีหนทาง มีเป้าหมายไม่เหมือนกันก็ล้วนขึ้นอยู่กับกรรมเป็นตัวกำหนดทั้งสิ้น

    เราควรจะดีใจด้วยซ้ำที่เราได้มาเดินสายธรรม สายโลกุตตระ สายแห่งความบริสุทธิ์

    แต่อารมณ์นี้ก็ย่อมเกิดขึ้นกับทุกคน ผมก็เกิดอยู่หลายครั้ง นึกท้อใจ เสียใจบ้างว่าทำไมเราไม่สามารถเฮฮาได้ในเรื่องที่เค้าเฮฮา ทำไมเราถึงหาเรื่องที่จะพูดคุยกับคนอื่นไม่ได้มาก เพราะไม่เห็นสาระอะไรที่จะพูด เพราะเราศึกษาความจริง ศึกษาธรรมแล้ว

    แต่เมื่อคิดถึงเป้าหมายแล้วผมก็ไม่ลังเล และสงสัยอะไรอีกต่อไป ผมรู้จุดหมายของผมตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ที่ได้เห็น ได้รับรู้มันทำให้ผมไม่สงสัยในเส้นทางของตัวเองอีกต่อไป ถึงแม้จะเคยออกนอกลู่นอกทางเพราะอยากหาความจริงทางโลก แต่ไม่นานก็เบื่อกลับมาทางธรรมอีกครั้งอยู่ดี

    ยังไงก็ขอให้คุณคมอ้น กลับมาปฏิบัติเหมือนเดิมนะครับ ผู้ปฎิบัติธรรมทุกคนเอาใจช่วยอยู่ แล้วหากเราเดินทางสายนี้แล้ว สักวันก็คงได้เจอกันข้างบนนะครับ
     
  13. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    1. ผมคิดว่า ผมทำความดีไม่ต้องอายใคร และไม่ต้องอวดใคร
    ใครทำความชั่วสิ มันต้องอายคนอื่น ต้องหลบๆ ซ่อนๆ

    2. ผมบอกกับเพื่อนที่ไม่ค่อยเชื่อว่า
    ไว้เหาะได้เมื่อไหร่ จะเหาะให้แกดูเป็นคนแรก
    และเราก็จะพยายามทำให้ได้ ทำไปตามกำลัง

    3. ท้ออะไรได้ แต่อย่าถอย สู้เว้ยยยยยยยย
     
  14. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ผมมองไปดูเพื่อนตัวเอง ทำไมมีแต่คนมองว่าเราเป็นคนแปลกจังเลยครับ แค่ชอบทางนี้ ทำบุญ โมทนาคนอื่นแบบนี้
    ไม่แปลกหรอกครับ เพราะคุณไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ไปอยู่ในหมู่ของปุถุชน คนหนาไปด้วยกิเลส น่ะ ครับ ไปหาที่ที่มีกัลยาณมิตร ปัญหานี้ก็จะหมดไปเอง



    รู้สึกว่า สังคมเมืองไทยทำไม เราได้เป็นแค่คนส่วนน้อย ..
    ถูกต้อง...ครับ คุณเป็นคนส่วนน้อยของสังคมนี้ เช่นเดียวกับเรานี่งัย

    พระพุทธองค์ท่านตรัสว่า คนมีมากเท่าจำนวน "ขน" ของโค
    แต่ผู้บรรลุมรรคผล นิพพาน มีจำนวนเท่า "เขา" ของโค เท่านั้น

    คุณว่าคุณเป็นคนจำพวกไหน ล่ะ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    888
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ทำดี ไม่ต้องอาย ไม่ต้องเขิน
    แต่ควรละอายใจ ในการทำความชั่วน่ะ

    แต่ยุคสมัยนี้กลับกัน
    เด็กบางคนจะเดินไปพาคุณยายข้ามถนน แต่ไม่กล้า บอกอายเพื่อน อายคนอื่น
     
  16. mahaasia

    mahaasia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,130
    ค่าพลัง:
    +4,971
    ไม่เห็นแปลก ถามลูกพี่สิว่าลูกพี่เป็นพุทธภูมิหรือเปล่าก็ต้องตอบว่าใช่ 100 เปอร์เซ็น แล้วจะไม่แปลกเลยที่พระโพธิสัตว์จะสนใจในธรรม จริงบ้อ
     
  17. นาๆจิตตัง

    นาๆจิตตัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +412
    ท้อใจ...แต่ห้ามท้อแท้.....
    เพราะท้อกับแท้รวมกันแล้วไม่ค่อยดีเลย...
    ตัดท้อออก เหลือแต่ไว้แต่แท้......จะเป็นการดี
    ท้อใจก็เช่นเดียวกัน.....
    ตัดท้อออก...เหลือไว้แต่ใจ...ตัวเดียว...ดวงเดียว.......

    ทุกข์ สุข ก็อยู่ที่ใจเหมือนกัน ดวงจิต ดวงใจในแต่ละดวง สร้างบุญ สร้างกรรมมา
    ไม่เหมือนกัน บ้างได้เกิดมาเป็นมนุษย์ บ้างได้เกิดมาเป็นเทวดา บ้างกลับไม่รู้เหนือรู้ใต้
    อยู่ในภายภพเบื้องล่าง (อบายภูมิ,นรก ฯลฯ) บ้างตกนรกอยู่บนแดนดิน ถิ่นมนุษย์ บ้างก็เป็น
    เทวะ ดา ตกสวรรค์........ฯ คนเหมือนกันแต่ก็แตกต่างกัน ผี คน มนุษย์ หมา แมว กา ไก่ ฯลฯ
    สับเปลี่ยนหมุนเวียนไป วนๆเวียนๆกันอยู่อย่างนั้น บางทีเจอผียังดีกว่าเจอคนเสียอีก.......
    (วุ่นวายน่าดูเหมือนกัน เรื่องคนก็วุ่นพออยู่แล้ว) กำลังใจก็ต้องหมั่นสร้าง หมั่นเติม.........
    (บุญ บารมี) ก็ขอเป็นกำลังจิตกำลังใจให้ เติมเต็มให้กัน...ไม่ว่าจะปราถนาพุทธภูมิหรือสาวกภูมิ
    หนทางคงจะไม่ใกล้ ที่จะฝ่าฟันไปถึงตรงนั้น อุปสรรคที่ต้อง เจอคง มีอยู่มากมาย หนทางคงไม่
    ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบเป็นแน่แท้ (บางเรื่องเล่นจะเอาให้ผู้เขียน ไม่หายใจ ซึ่งก็ยังไม่
    เท่าไร เท่ากับ ล่อ จะซัด จะลวง เอาลงสู่เบื้องล่าง.....สู่ อบาย อันนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน)
    สู้ต่อไป........ต้องสู้ ต้องสู้ ถึงจะชนะ........ (นึกมโนภาพเอานะ ว่าตอนนี้กำลังเปิดฟังเพลงของ
    คุณ เจิน เจิน....ให้ฟัง....อยู่.....อึ่ม ก็ประหยัด ทั้ง หลายอย่าง คล้ายๆ โทรจิต......เลย)
    ก็.............ต้อง สู้ต่อไป..ตราบเท่าลมหายใจของเรายังมีอยู่

    อันความเมตตาปราณี
    ใช่ว่ามีใครบังคับก็หาไม่
    หลั่งมาเองเหมือนฝนชื่นช่ำใจ
    จากฟากฟ้าชลาลัย....สู่แดนดิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2008
  18. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    สาธุกับทุกคำตอบ

    ซาบซึ้งจริงๆ ... เหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ..(พูดจริงๆนะเนี่ย)
     
  19. nice57230

    nice57230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +163
    (f)
    ใครโกรธใครชิงใครชังช่างเขา
    ใจเราร่มเย็นเป็นพอ
    (sing)
     
  20. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    มาลุยกันโว้ย

    เอ้า... ถ้าเซ็งเป็ดนัก มาลุยกันเลย ( ลุยกิเลส )
    อันดับแรก ทำใจ... ยังไง โลกธรรม8 มันเป็นธรรมดา มีสุขมีทูกข์
    มีสรรเริญมีนินทา มี...ตราบใดที่ยังเป็นคนขี้เหม็นอยู่ หนีไม่พ้น
    เขาว่ามา เราก็หยุดคิด ... เสียงคำพูดต่างๆ เข้ามาสัมผัสหู แล้วเข้าสู่ใจ ใช่ไหม คำพูดมันไม่ดี กูไม่ชอบ กูไม่พอใจ ฉุนโว้ย... หงุดหงิด ไปไกลๆ เดี๋ยวเหนี่ยวเลย... หรือ เศร้าซิบ ท้อชิบ ทำไมมันเป็นอย่างนี้
    คำพูดดีๆสรรเสริญเยินยอ ชอบโว้ย เอาอีกๆ... แต่พอมันไม่ได้ดังใจ
    ม่าง.. เซ็ง
    ทุกข์อยู่ที่ไหน สุขอยู่ที่ไหน ....ตอบเซะ มันอยู่ที่ใจ ใจเรามัวยึดไว้ มันจึงได้เป็นทุกข์ เมื่อมันทุกข์แล้วแบกทุกข์ไว้หาพระแสงอาไร วางมันลงดิ วาง... อย่าปล่อยให้มันทำร้ายใจ ... กูวางแล้วโว้ย เอ็งวางยัง
    เช่นดังพระพุทธรูป เสียงอาไรมา สรรเสริญติฉินนินาท พายุลม เสียงนกเสียงกา เสียงอะไรมาก็เฉย
    ส่วนตัวกู ใจกู พอเสียงเข้ามา เข้าถึงใจ กูก็เฉยมันธรรมดา ปล่อยให้มันผ่านไป อย่าเก็บเอามาคิด ถ้าเก็บเอามาคิดให้ทุกข์ มันก็ทุกข์ เฮ้ย...ไม่ใช่มันทุกข์ เอ็งนั่นแหละทุกข์ สมนำหน้า
    ทำให้ใจมันเหมือนสาก พอเป่าลมพ๊วงใส่ มันก็เงียบฉี่....
    ส่วนคนเหล่านั้น ก็ตอบเขาว่า ต่างคนต่างชอบ คนเรามีมากมายหลายประเภท ต่างจิตต่างใจ รัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรี และไม่ไดไปทำให้ใครเดือดร้อน (มีแต่พวกแกนี่แหละทำให้กูเดือดร้อน อันนี้ไม่ต้องออกเสียง เก็บไว้ในใจ กูไมได้ไปขอข้าวเอ็งกินซะหน่อย..)
    ปฎิบัติอย่างไรกับคนเหล่านั้น... พิจารณา สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ให้อภัย แผ่เมตตา พูดดี ทำดี ดำเนินชีวิตเราไปตามปกติ ...(good) (good) (good)
    มา..ลุยต่อ แนะนำซะหน่อย

    เราก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ ใกล้จะบรรลุ ...ฝาโลง
    ทำงานก็ ฝ่ายสินเชื่อและบัตรเครดิต ธนาคาร ไม่บอก...
    เลิกงานแล้วก็ธุรกิจส่วนตัว ขายซิมโทรศัพท์ งกจริงๆ
    บ้านอยู่ถนนโลกีย์ RCA จริงๆ รั้วติดกันเลย ตอนกลัดมันนะช้อบชอบ
    ตอนนี้ปลงอเน็จอนาจใจ เห็นทุกวันสัมผัสทุกวัน จนเบื่อหน่าย
    ร้านขายซิมเพ่อยู่หน้ามหาลัย...นักศึกษาญ.เดี๋ยวนี้ มันกลัวไม่ได้ผัว กลัวไม่มีคนมอง ล่อสั้นเต่อ จะเป็นคุณโสอยู่รอมร่อ ไม่ได้แอ้มพี่หรอกน้อง พี่ปลงแล้ว เดี๋ยวฌานพี่เสื่อม ฌานพี่มีฟามสุขกว่า เอาได้บ่อยกว่า
    เอาได้ทุกที่ทุกเวลา เอาได้นานกว่า กลิ่นดีกว่า ไม่มีเหม็น ไม่ฟ้าเหลือง
    ไม่เปลืองตังค์ ไม่มีเอดส์แดก ไม่ต่องไปแย่งใคร ไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร ไม่ต้องงอนง้อเอาใจใคร สบายโว้ย...
    (deejai) (deejai) (deejai)

    มูลเหตูจูงใจที่เข้าสู่ ธรรมะ
    วัยกลัดมัน ก็เหี้ยตามประสา สารพัด เมา เที่ยว ชกต่อย มั่วยา โลกี ก็มันอยู่ติดบ้านนี่หว่า ... ฟาดไม่เลือก ...
    เกิดไปรักญ.คนหนึ่ง สวย เทพีสงกรานต์ เขาก็รักเรา สัญญากันว่า เรียนจบจะแต่งกัน แต่พ่อแม่เขาจับแต่งงานกับคนที่รวยกว่า...แทบบ้าเลย
    เสเพลอยู่แล้วยิ่งหนักกว่าเดิม
    ก็หา ญ.ใหม่แก้กลุ้ม กลับโดนเขาหลอก ทุกข์อยู่แล้ว ยิ่งทุกข์เข้าไปใหญ่ แล้วมาเจอดอกที่3 ญาติๆฟ้องแย่งชิงมรดก เอาเข้าไป...
    แม่บอก บวชให้แม่หน่อย พักผ่อนจิตใจซะบ้าง เออ ...ลองดู
    บวชแล้วไปเจอหนังสือ พระวิสุทธิมรรค ไอ้เรามันคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ชอบ ถูกใจโจ๋ อภินิหารมากมาย วิธีการฝึกจิตใจมากล้น อ่านแล้วซึ้งจนนำตาไหล เอาหว๋า... ลองฝึกดู ชอบลองของอยู่แล้วนี่

    ได้เรื่องเลย...ฝึกดูลมหายใจ ภาวนาพุทโธ แรกๆก็คิดไป108- 1009
    กว่าจะดึงเข้ามามั่นที่ลมและภาวนาได้ก็เล่นเอาเครียด พอมั่นดีแล้วก็รู้สึกสบาย โล่ง ลมหายใจหอมหวน กลิ่นคล้ายๆดอกมะลิ พออีกสักพัก
    นิ่งแล้วรู้สึกตึงๆ แล้ววูบ...ดิ่งลงมาจากที่สูง เสียววาบเลย จึงออกจากการฝึก มาดูหนังสือ อ้อ..เข้าทางแล้วเว้ย ลุย...

    วันต่อมา พอสงบนิ่งแล้วก็รู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก ขนลุก จนนำตาไหลพราก แล้วก็ค่อยสงบไป นิ่งอยู่เฉยๆเหมือนอยู่ในโลกนี้คนเดียว
    ท่ามกลางความมืด แต่ตรงหน้าสว่างเหมือนกับเราขับรถไปตอนกลางคืน แล้วเหมือนแสงของไฟสาดไป

    วันต่อมา พอจิตสงบ ขนลุก นำตาไหล แล้วสงบนิ่งอยู่ อีกซักพักรู้สึกเสียงดังเหมือนเสียงฮ. ใจเราก็เต้นแรงเหมือนตีกลองเพล ตึงๆๆๆๆ
    เฮ้ยๆตัวเริ่มลอย ลอยขึ้นไปติดหลังคา เอ๊าออกไม่ได้ อะไรกันวะ จิตก็หลุดจากสมาธิ ดีเว้ยลุยต่อ

    พอจิตสงบตัวรูสึกตัวขยายใหญ่เต็มห้องไปไหนไม่ได้อีก ก็เลยนิ่งอยู่เฉยๆ สบายๆ มีแสงวูบเข้ามาด้านหน้า เห็นเป็นผู้หญิงวัยรุ่นแฮะ
    ใส่ชุดขาวเหมือนพวกบวชชีพราหม นั่งพับเพียบอยู่ ไอ้เรารู้สึกกลัว
    นึกว่าเป็นผี ก็เลยท่องคาถาเมตตัญจะ..ไม่ไปเว้ย ไอ้เราก็กลัว ดันนั่งพนมมือแต้เลย เอาแผ่เมตตา.. ไมไปอีก ก้อเลยนึกได้ว่า อ้อเขามาขอบูญ ก็เลยขออุทิศบุญให้ หายแว๊บไปเลย เออ ก็เลยรู้ว่ามาขอบุญ
    คงเป็นเทวดาญ. มิน่าถึงไม่กลัวคาถา เราซะดันกลัว
    ต่อ เข้าสมาธิใหม่ สงบไปซักพักนึง รู้สึกเหมือนมีใครมาลากอะไรยาวๆแกรกๆข้างหน้า จิตเรามันบอกตัวเองว่างู ก็เลยสงสัยลืมตาขึ้นดู งู
    จริงๆ ไม่ได้ตาฝาด แลบลิ้นแผลบๆอยู่ข้างหน้า ตัวเบ้อเร่อ ห่างหัวเข่าแค่ประมาณไม้บันทัดเดียว พอดีมีมุ้งกลดคั่นอยู่ ไม่งั้นมันคงเข้ามางาบแล้ว
    กลัวซีบเป๋ง เหงื่อแตกพลัก ใจสั่น จะลุกก็ลุกไม่ได้ จะขยับก็ขยับไม่ได้
    จะท่องคาถาอะไร ก็สับสนไปหมด ขนาดท่อง นะโมตัสสะ ยังเอาท่อนท้ายมาไว้กลาง ท่อนกลางไปไว้ไหน จำไม่ได้ กลัวอยู่นั่นแหละ นานกับความกลัว งูมันก็จ้องอยู่นั่นหละ ตายแน่กู ....
    วันหลังค่อยมาต่อ

    น้องๆมาลุยปฏิบัติกับพี่ มีสิ่งดีๆรอคอยอยู่
    (deejai) (deejai) (deejai)
     

แชร์หน้านี้

Loading...