จิต กับ วิญญาณ คือ ตัวเดียวกันหรือคนละตัว?

รู้ไอ้ที่สมควรรู้ กินไอ้ที่สมควรกิน ทำในสิ่งที่สมควรทำ เป็นในสิ่งที่สมควรเป็น

ในแบบ พอดีๆ ทำเป็นมั้ย

 

อวิชชาแปลว่าความไม่รู้....ไม่รู้อะไรล่ะ..ตอบได้ป๊ะ

ทำไมต้องพูดว่าอวิชชาเกิดขึ้นกับเจตสิกที่ประกอบในจิต...ก็เจตสิกเกิดจากจิต ก็แล้วทำไมไม่พูดว่า อวิชชามีอยู่ในจิต เลยล่ะ.....ว่าแต่..จิตมันมีอวิชชา แปลว่าจิตประกอบด้วยความไม่รู้...จิตไม่รู้อะไร...ตอบได้อีกป๊ะ

หรือทำได้แค่ ทำตัวเหมือนรู้ไปทั่ว...

 

อวิชชาก็แปลว่าไม่รู้ว่าตัวตนที่เห็นอยู่นี้ ที่แท้จริงเป็นอย่างไร จึงหลงยึดเอาไว้แล้วเกิดตัวกระทำ ตัวตนขึ้นมา

เจตสิก เวทนา สัญญา สังขาร ประกอบเนื่่องอยู่กับจิต จิตวิญญาณแท้จริงแล้วแค่นิ่งรู้อย่างเดียว ที่มีการเคลื่อนไหวเกิดเป็นกรรมเกิดเป็นตัวกระทำเพราะอุปาทานของขันธ์ ที่เป็นอารมณ์ก็มาจาก สัญญา สังขาร เวทนา (เจตสิก) ถ้าเรานิ่งอยู่ดูอยู่รู้อยู่ เราจะเห็นได้ว่า สิ่งที่ทำให้ก่อเกิดอารมณ์ต่างๆ ทั้งหลาย ก็จะมาจากสามตัวนี้ คือ สัญญาระลึกรับรู้จำได้ สังขารเข้ามาปรุงแต่งตามสัญญา มีเวทนาอารมณ์ชอบใจ หรือ ไม่ชอบใจ เกี่ยวเนื่องมาสืบมาตามปกติ เพราะความรู้ไม่ทัน เราจึงหลงยึดเอาว่านั้่นเป็นของเรา แต่ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะรู้ตัว นิ่งรู้ดูอยู่ได้ เราก็จะไม่หลงไปกับมันค่ะ

 

แต่ตัวนี้สิ่งที่เราจะไม่หลงไปกับมันได้ ก็คือ ปัญญา ที่เกิดจากเราเคยพิจารณาโยโสมนสิการมันจนเข้าใจจริง ๆ จะต้องมีปัญญาในจิตเข้ามากรั่นกรองด้วยค่ะ

 

คำตอบที่ ตอบมาทั้งหมด ตอบได้เพราะ เห็นตัวจิต(ตัวรู้เอง) หรือเห็นจากนั่งดูอารมณ์.....แล้วยังต้องนั่งนิ่ง เพื่อจะได้ไม่หลงไปกับมัน อยู่มั้ย

 

แล้วยังต้องใช้ปัญญา อยู่ทุกครั้งไปมั้ย ในตอนนี้

 

การเห็นจิตตัวรู้เอง เคยเห็นครั้งเดียว มันจะเป็นลักษณะมีจิตที่มีผู้รู้อยู่ดูอยู่เห็นอยู่ เห็นเงาจิตอีกตัวหนึ่งที่มีการกระทำเกิดขึ้น เข้าใจว่าลักษณะนี้น่าจะเป็นการเห็นจิตค่ะ

แต่ลักษณะปัจจุบันที่เห็นอยู่เป็น การนั่งดูอารมณ์ ถ้ามีสติสัมป่ชัญญะนิ่งอยู่รู้อยู่ก็วางได้ แต่ถ้าไม่มีสติ ตัวตนความเห็นใหญ่กว่าก็ไปรวมเป็นกับมันเลยคะ

ลักษณะแรกที่เห็นก็รู้ครั้งเดียว ถ้าลักษณะที่สองนั้น เป็นการฝึกโยโสเพื่อให้เกิดปัญญาค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะที่สองมากกว่า จิตยังไม่นิ่งพอเนื่องจากจิตไม่มีกำลังของฌานที่เป็นสังขารุเปกขาญาณค่ะ คิดว่า..

 

ใช่ค่ะ ต้องใช้ปัญญาทุกครั้ง เนื่องจากว่า จิตต้องมีปัญญาเพื่อหลุดพ้นจริง ๆ หรือไม่ก็อะไรสักอย่าง....ค่ะ

 

อวิชชาคือ ตัวตนอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับเจตสิกที่ประกอบในจิต

เอามาจากไหน เห็นมาจากไหน รู้มาจากไหน...ตำราใด หรือ รู้เองจากดูอารมณ์

 

ทำได้แค่นี้ ทำไมกล้าบอกว่า อวิชชาคืออุปทานขันธุ์. แล้วในอุปทานขันธุ์ มันมีเจตสิกเกิดขึ้นตอนไหนเวลาใด....การดูความคิด มันเป็นการดูอุปทานขันธุ์ใหม่ที่เกิดใหม่....แล้วอุปทานขันธุ์เก่าที่ทำให้เกิดจิตขึ้นมา เคยดูหรือยัง

 

ยังต่องใช้ปัญญาทุกครั้ง แปลว่ายังไม่จบกิจ ยังรู้ไม่ถึงที่สุด เอามาเป็นที่สุดไม่ได้
มิน่า การแสดงความคิดเห็น จึง ไปเรื่อยๆ ไม่มีข้อสรุป

 

ความรู้ได้มาจากการอ่านจากคำสอน จากครูบาอาจารย์ที่ลงในเว็บ และจากพระไตรปิฏกบ้าง แล้วนำมาพิจารณาจนเกิดความเข้าใจว่าลักษณะนั้นเป็นอย่างไรคือ เมื่อรู้ความเป็นไปในลักษณะต่าง ๆ จากที่เราได้อ่าน ได้พิจารณาจนเข้าใจ เมื่อเราฝึกฝนสติสัมปชัญญะ มีอะไรเกิดขึ้นภายในกายใจของเรา จากปัญญาเริ่มแรกทั้งสองนั้น ก็จะมีคำตอบผุดมาให้เราได้รู้ค่ะ หรือ ไม่ก็เคยสั่งสมความรู้การฝึกตนมาจากอดีตชาติ แล้วมาต่อยอดก็ไม่รู้ค่ะ แต่คิดว่าแนวทางคงไม่พ้นในสองลักษณะนี้แน่เลย

 

อุปาทานเป็นตัวยึดที่ก่อภพ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ค่ะ การออกจากทุกข์ต้องมีอุบายสลัดออกจากเวทนา เพราะเวทนาคือคุณสมบัติอัตตาของเรา อ่านจากพระไตรปิฏกที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจน ในเล่มของมหาจุฬา (45 เล่ม) เป็นพระสูตรที่สอง มหานิทานสูตร ในมหาวรรคค่ะ พระสูตรนี้เป็นพระสูตรที่สุดยอดมากค่ะ

 

รู้เห็นมาจากไหน เข้าใจมาจากไหนว่า จิตวิญญาณแท้จริงแล้วนิ่งรู้อย่างเดียว...ถ้านิ่งรู้อยู่อย่างเดียว แล้ว เจตสิก เวทนา สัญญา สังขาร ที่บอกว่ามันประกอบอยู่ในจิต มันนิ่งรู้อยู่อย่างเดียว จริงเหรอ...

แล้วที่มันเคลื่อนไหวเกิดแต่กรรมเกิดแต่อุปทาน ของขันธุ์ อุปทาน เคลื่อนไหวรับรู้นี้ คือ นิ่งเหรอ....

แล้วจิตวิญญาณ ไม่ได้เป็นขันธุ์เหรอ ถึงนิ่งรู้อยู่อย่างเดียวได้

 

แล้วที่ยังกลับมาเกิดได้อีกนี่...คิดว่าชาติที่แล้วของตน สะสมความรู้มาถูกต้องแล้วเหรอ

 

อ่านมาก็ไม่ผิด....ว่า อุปทานเกิดต่อจาก เวทนา...แล้วทำไม ไม่ไปค้นหา ที่เกิดของเวทนาล่ะอีกล่ะ ว่าเวทนาเกิดจากอะไร

 

เวทนา..คืออะไร ตอบหน่อย

 

พระพุทธองค์ตรัสไว้ค่ะ... ในนิพพานสูตร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่บุคคลเห็นได้ยากชื่อนิพพาน ไม่มีตัณหา นิพพานนั้นเป็นธรรมจริงแท้ ไม่เห็นได้โดยง่ายเลย ตัณหาอันบุคคลแทงตลอดแล้ว กิเลสเครื่องกังวลย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้รู้ ผู้เห็นอยู่ ฯ

 

ไม่ไช่คำตอบที่ถาม เอามาตอบทำไม

 

เวทนาเกิดจากผัสสะค่ะ