เมตตาจากหลวงปู่ดู่ วัดสะแก

ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจเรื่องการสวดมนต์นั่งสมาธิมาตั้งแต่จำความได้จนอายุ 41 ปี มาวันหนึ่งมีลูกน้องมาเล่าเรื่องการอุทิศบุญให้ฟังแต่ก็ไม่เชื่อในทันทีจึงได้ลองศึกษาค้นคว้า ซึ่งทำให้แปลกใจว่าทุกคำที่ลูกน้องคนนี้เล่าตรงกับตำราหมด ก็เลยทำให้เชื่อเรื่องนี้ ก็เลยอยากลองปฏฺิบัติแต่ก็คิดว่าบุญบารมีคงยังไม่พอ ก็เลยต้องทำการสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวันก่อนถึงจะมีบารมีพอที่จะปฏิบัติได้ แล้วคาถาอะไรล่ะที่ผมจะสวด ในวันถัดมาก็ได้ยินเรื่องคาถา จักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ โดยบังเอิญซึ่งผมก็เกิดอาการอยากได้คาถานี้มาสวด แต่ไม่รู้จักว่า ใครคือหลวงปู่ดู่
แล้วจะหาคาถาจักรพรรดิ์ได้ที่ไหน เลยทำให้เกิดทุกข์ก็เลยภาวนาว่า ถ้าข้าพเจ้ามีวาสนาจะได้สวดคาถาจักรพรรดิ์ขอให้ข้าพเจ้าได้พบกับคาถาจักรพรรดิ์ด้วยเถิดเพื่อนำมาสวดมนต์ทุกวัน

วันนี้ก็เกิดเรื่องน่าอัศจรรรย์ขึ้้น คือช่วงบ่ายมีลูกน้องอีกคนหนึ่งนำหนังสือประวัติหลวงปู่ดู่พร้อมทั้งคาถาจักรพรรดิ์มาให้ ผมรู้สึกดีใจมากพร้อมทั้งสงสัยว่าลูกน้องมันรู้ได้อย่างไรว่าอยากได้ แต่ก็ไม่ได้ถาม เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จึงทำให้รู้ว่าคาถาจักรพรรดิ์ต้องใช้สวดคู่กับพระผงจักรพรรดิ์ อ้าวก็เลยสงสัยว่าพระผงจักรพรรดิ์เป็นอย่างไรหาได้ที่ไหน
ก็เลยศึกษาก็ทำให้รู้แต่ไม่รู้ว่าจะหาได้ที่ไหน

วันอาทิตย์ไปร้านขายก๋วยเตี๋ยวพบลุงเจ้าของร้าน แกเป็นนักสะสมพระเครื่องก็ถามแก แกบอกว่าแกไม่มีเหมือนกัน และลูงให้ให้หระเครื่องผมมาตรวจสอบพระพุทธคุณของพระเครื่อง ประมาณ5 องค์ และมีพระพุทธคุณทุกองค์ แต่มีอยู่องค์หนึ่งพระพุทธคุณแปลกและแรงมากๆ
ซึ่งลุงได้ยกพระองค์นั้นให้ผม ซึ่งผมแปลกใจมากว่าลุงให้ผมทำไม
ยังไม่ทันถาม ลุงแกก็ตอบว่า องค๋นี้คือพระโคนสมอ ของหลวงปู่ดู่
ใช้แทนกันได้สำหรับสวดมนต์ ผมก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทั้งคาถาจักรพรรดิ์และพระของหลวงปู่ดู่ครบโดยง่ายดายอย่างไม่นึกมาก่อนและไม่ต้องเสียเงินไปซือ้

หลังจากนั้นผมสวดมนต็โดยใช้คาถาจักรพรรดิ์และนั่งสมาธิพร้อมทั้งกำพระโคนสมอทุกวันเป็นเวลาสามเดือนจนได้รู้จักวัดถ้าเมืองนะจากเว็บ
เลยทำการขอหระผงจักรพรรดิจากหลวงตาม้าและได้นำมาแขวนคอและสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวันจนเกือบจะสองปีแล้ว

ผมคิดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้คือเมตตาบารมีของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่มีต่อผมและก็ถึงเวลาของผมแล้วทีค่ผมจะต้องหันมาสวดมนต์และนั่งสมาธิทุกวันและจะปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ดุู่ตลอดไป

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

 

สาธุ

 

สาธุครับ ระลึกนึกถึงหลวงปู่เสมอครับ..กราบ

 

สาธุด้วยครับบุญใหญ่จริงๆ ลูกหลานหลวงปู่

 

เมื่อปีประมาณต้นปี 2546 ผมได้รู้จักชื่อหลวงปู่ดู่ จากหนังสือไตรรัตน์ 1,2,3 แม่ผมได้รับแจกมาจากวัดถ้ำเมืองนะ พอได้อ่านประทับใจมากครับ ใจคิดเลยว่าทำไมคำสอนของหลวงปุ่ดู่ถึงเข้าใจได้ง่ายมาก อ่านไปอ่านมา จนมาถึงเรื่องพระเครื่องของหลวงปู่ เขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องแหวนพระพุทธ เลยนึกอยากได้กับเขาบ้าง ผมเดินไปถามป้าทีอยู่บ้านในซอยเดียวกัน แกเป็นคนอยุธยา แต่บ้านแกไม่ได้มาทางพระเลย และตอนนั้นก็ยังไม่เคยไปวัดสะแกเลย เพราะเพิ่งรู้จักชื่อหลวงปู่ ชื่อวัดสะแก เลยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น

แล้วปาฏิหารย์ก็มีจริง ก่อนกลางปี ผมได้แหวนพระพุทธเนื้อเงินปี 2532 มาอย่างไม่คาดฝัน ผมเจอตกอยู่ที่ทางเดิน ตอนได้มายังไม่รู้เลยว่าเป็นแหวนของวัดสะแก เห็นมี คำว่า วสก อยู่ด้านข้างแหวน อีกข้างหนึ่ง เป็นปี พศ. ผมยังจำได้ว่าด้วยความที่ไม่รู้เรื่องพระเครื่องเลย ผมเอามาให้พี่ที่ทำงานดู แกบอกถ้าผมไม่เอา ก็ให้แกแล้วกัน...555 แหม่ ขอกันเอาดื้อๆเลย

 

สาธุ องค์นี้ก็เมตตาจากหลวงปู่

 

พระเหนือผม

ผมก็กำลังหาพระเหนือพรหมของหลวงปู่อยู่ครับ ว่าจะไปดูที่วัดสะแก
ยิ่งรู้จัดหลวงปู่ยิ่งนับถือครับ

 

มีเรื่องเล่าครับ

มีน้องคนนึง น้องเขามาติดต่อเรื่องวัสดุก่อสร้างที่หน่วยงานผม น้องคนนี้มาที่ทำงานผมได้ 6-7 ปีแล้ว ผมก็เห็นอยู่แต่ไม่ได้สนใจ ไม่เคยได้ทักทายกัน เพราะว่าเขามาติดต่อคนอื่นในหน่วยงาน จนได้มีโอกาสมาพูดคุยกันเมื่อปี 2556 ในจังหวะที่เขาได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่อยู่ต่างประเทศประมาณ 6 เดือน รุ่นพี่เขาแนะนำคำสอนของหลวงปู่ดู่ จนน้องเขาศรัทธาและเริ่มปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ดู่

เรื่องนี้ก็นับว่าแปลกอยู่เหมือนกัน ทั้งที่เคยเจอเห็นหน้ากันมานานหลายปีแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันเลยแม้แค่คำเดียวก็ไม่เคย แต่พอได้มาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่เหมือนกัน เลยได้คบหากันได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันแค่ 3-4 ปี แต่กลับมีความจริงใจกันมากกว่าคนที่ทำงาน ที่ทำงานมาด้วยกันตั้ง 20 ปี