สารพันปัญหา ตอบโดยคุณ nopphakan

ไปมโนมนึกทึกเดาสญานกระทู้อื่นไป๊
กระทู้แสงแห่งนิพพงนิพพานมะเขือนั่นอะไรนั้นก็ได้
ไปสร้างโรงทานในดอกบัวอะไรคุณต่อไป๊
ถ้าได้พูดอะไรมาเกี่ยวกับผมผิดหมดแระ

ถามจริงๆคุณมีความสามารถพอที่จะรู้
อะไรๆผมได้หรือ ความสามารถคุณถึงหรือ
ที่พูดไม่ได้ดูถูกว่าคุณไม่เก่งนะ
หรือว่าผมเก่ง แต่คุณทำกับผมได้หรือครับ (^_^)
ก็ได้แต่เดาสญานตามจิตปรุงแต่งคุณไปเรื่อย
เหมือนที่ด่าผมโชว์หญิงเพื่อความเท่ห์
ของตัวเองนั้นหละครับ ประมานว่าตตรูหล่อหลาย
เป็นเทพบุตรสุดเวหาละไป๊ที่ได้พูด

สำหรับผมนะ พวกยกตัวเองด่าคนอื่นๆ
แบบมโนมนึกทึกทักสญาน โชว์หญิง
ไม่น่าที่จะมาพูดกับคนอย่างผมเรื่องแมนๆนะ
ตรรกะแบบนี้ชาวโลกเค้าดูออก

ไหนว่าผมแก่ เอารูปคุณปัจจุบันนี้
มาลงให้ชาวเวบเค้าเห็นหน้าจริงหน่อยซิ

ปล.มุขขู่ผมเรื่องกรรมใช้กับผมไม่ได้หรอกนะ
เห็นตัวอย่างพวกที่แช่งๆ หรือพวกที่เคยว่าผมไหม
ปัจจุบันนี้เป็นไง เหมือนที่ผมพูดไหม
คุณว่ามุขกรรมนี้ใช้กับผมได้หรือครับ
วาจาจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่มันอยู่ที่กำลังจิตนะครับ(^_^)
กรรมส่งผลต่อใครได้นั้น
มันอยู่ที่พันธมิตรทางภพภูมิ
ว่าใครมีมากกว่ากันนะครับ
ตรงนี้เป็นบารมีเฉพาะบุคคลครับ

พวกมโนมนึกทึกทักเดาสญานชอบเล่นมุขนี้ประจำ
อ้างศีล อ้างกรรมตลอด แล้วก็สุดท้ายจะคุย
ว่าตนเองดี ตนเองเก่งป่านระดับโลก
เพราะว่า พวกนี้จะคุยว่าเก่งระดับชาติ
คุยประมานว่าตนเป็นระดับนี้สูงๆทั้งนั้น
แล้วมาเกลียดผมตรงที่ผมถามว่า
ที่คุณพูดๆนะ ถามจริงแสดงได้ไหม
ทำให้คนอื่นๆรับรู้เหมือนตนได้ไหม
ที่โม้ว่าเก่งสมาธิมากๆ ถามหน่อยสอนได้ไหม
ส่วนตัวเห็นแต่เค้าโม้ตลอด
สรุปทำไม่ได้ พอผมเบรคก็เล่นมุขแบบนี้แระ
บอกตรงๆ ขำ
ปล.ที่นี่ดาวโลกนะครับ ไม่ใช่โรงอาหาร
บนแดนนิพพานอะไรแบบที่คุณไปตั้งกระทู้
หรือพยายามยัดเยียดให้คนอื่นๆเห็น
และเข้าใจอย่างคุณนะครับ
ดาวโลกนะ ดาวโลก

 

ช่างบ่ฮู้ อิหยังบ้างเลย


ปอลิง แค่ร้องเพลงเฉยๆนะครับ

 

ขอบคุณคุณนพค่ะที่อุตส่าห์อธิบายซะยาว ทำให้ข้าเจ้ามึนงงไปหลังจากอ่านจบ แล้วถามตัวเองว่า ตรูเข้าใจหรือป่าววะ! ต้องอ่านอีกรอบ แล้วเอามาพิจารณาและเข้าใจในหลาย ๆ กรณีที่คุณนพกล่าวมา คุณนพโชคดีจังนะคะที่มีผู้รู้สอน ไม่ว่าจะเป็นการสอนแบบใดก็ตาม เรื่องธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก คุณนพเคยเข้าไปตอบในกระทู้หนึ่งซึ่งข้าเจ้าเคยเขียนความคิดเห็นไป พอได้อ่านที่คุณนพเขียน ข้าเจ้าชอบมาก คุณนพพูดตรงดีค่ะ พอเห็นชื่อคุณนพตอบกระทู้ไหนแล้ว ข้าเจ้าจะต้องตามเข้าไปอ่านทันที ซึ่งบางครั้งก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง เพราะคุณนพตอบในสิ่งที่ยาก ๆ ได้ แล้วยังอธิบายให้เข้าใจอีกด้วย ซึ่งข้าเจ้าไม่เคยคิดเลยว่ามันเป็นการโอ้อวดแต่ประการใด ข้าเจ้าดีใจเสียอีกที่อย่างน้อยได้รู้ว่ามีใครบ้างในเว็ปพลังจิตที่จะสามารถถามได้ หากใครหน้าไหนมาราวีคุณนพ ก็ถือเสียว่า "มารไม่มีบารมีไม่เกิด"
สรุป คนธรรมดาๆ ไม่สามารถไปนิพพานได้ คือพูดตรง ๆ น่ะค่ะ คราวต่อไปข้าเจ้าจะได้ไม่พูดส่งเดช "ขอให้ถึงซึ่งนิพพาน ในอนาคตกาลข้างหน้านี้เทอญ" อีก เพราะฟังแล้วมันขัด ๆ มาตลอดเพราะส่วนตัวแล้ว ไม่เคยเชื่อว่าจะไปถึงได้อยู่แล้ว

 

อั๊ยยะ.....ผมเป็นคนขี้โม้ ขนาดนั้นเลยหรือครับ...อิอิ

นั่นสินะ ถ้าผมเป็นแค่คนขี้โม้ ทำไมคุณนพต้อง ...เป็นได้ถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ
นี่ข้ามคืนมาแล้ว อารมณ์ยัง..สั่น...อยู่เลยนะ...
ผมคงไม่เก่งเท่าคุณหรอกมังครับ เรื่อง กสิณ..น่ะ
ผมเก่งแต่เรื่องโม้ครับ...อิอิ...ให้เลียนแบบได้นะครับ

ไม่หวง ไม่ไล่ ไม่ไส่อารมณ์ครับ...ผมเก่งแต่โม้ครับ

แล้วทำไมต้อง...เกลียดผม ขนาดนี้ด้วยล่ะ อิอิ
อายุมาก เขาเรียกแก่ครับ...ไม่ไช่เด็กๆ

อะไรเนี่ย พูดอะไรไป เป็นประเด็นหมดเลย

ว่าแต่เก็บกดมานานๆแบบนี้น่าจะยังมีอีกเยอะนะครับ
ระบายออกมาให้หมดเลยครับ...จะได้นอนหลับสบายๆ นะ อิอิ

 

เรื่องกรรมเนี่ย ผมไม่ได้ขู่ใครนะครับ มันเป็นเรื่อง ของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วครับ....ไม่มีใครขู่ใครได้หรอกครับ เรื่องกรรม

ผมขู่คุณเรื่องเดียวเองคือ จะฟ้องครูอาจารย์ทางภพภูมิของคุณ ให้เขามาดูแลคุณหน่อย..ก็แค่นี้...อิอิ

ส่วนที่ว่า ผมด่าคนโชว์หญิง...อะไรกันครับ..หญิงที่ไหน ..มี อิอิ
ดูดีดีสิครับ หญิงที่ไหน

 

"....หวังว่าอนาคตจะมีโอกาสได้พบเจอตัวกันเป็นๆนะครับ"

วันนี้วันดี จึงเข้ามาอัพกทครับ และได้เก็บข้อความของคุณนพมาลงพร้อมกันเลย ก็สะดุ้งๆอยู่ครับ มีคนดูว่าผมจะอยุ่ถึง 80 กว่า แล้วจะอยู่ถึงหรือเปล่านี่

ก็ขอขอบคุณมากครับ เพราะเป็นคำพูดที่ให้เกียรติครับ

 

สร้างกำลังใจเข้าไว้ครับ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่งถึงแน่ครับ
อย่าไปตัดรอนตนเองเช่นนั้นครับ สู้ๆชาตินี้ไม่ได้ ชาติต่อๆไปก็ต้องได้ครับ
หรือไม่ก็ตั้งจิตอธิษฐานไว้ในใจครับ ว่า
ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าได้เกิดมาบนโลกนี้ ขอให้ได้อยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนา
ได้พบกับผู้ชี้ทางสว่างที่ถูกต้องตรงทาง และขอให้ข้าพเจ้ามีศรัทธาในคำสอนนั้นๆ
และมีกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นด้วย เทอญ สาธุ
อะไรทำนองนี้ครับ ขออนุญาตเผือกนะครับท่านทั้งหลาย

 

ขอบคุณค่ะที่แนะนำ ทุกวันนี้คำอธิษฐานของข้าเจ้าก็ค่อนข้างยาวค่ะ และไม่ลืมที่จะขอให้ได้เกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนา และมักจะจบลงด้วย
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ธรรมานัง ปะระมังสุขัง อะนาคะเตกาเล
ขอให้ข้าพเจ้า ได้ถึงซึ่ง พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยผล แห่งการกระทำอันเป็นบุญกุศล ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปและในอนาคตกาล

 

..............
ถึงแน่ๆ แบบนี้หรือเปล่าคะ

 

ขอถามคุณนพนะคับ เรื่องอสูรคับ อยากทราบวิธีสร้างด้วยคับ

 

สร้างใหม่ทำไม่เปนคับ
แต่คนจะไปเป็นได้พอทราบได้บ้าง
แต่ถ้าให้มีกะแสภูมิสูงกว่านี้ในวัถตุพอแนะได้
ปล.โอมมณีปัทเมฮุมปกติ สูงกว่าอสูรกายนะคับ
แค่ไม่ดึงอดีตและตัดพวกการได้อะไรมาแบบพิเศษ
แบบทางลัดออกให้หมดครับ

 

๕๕๕ ประกันได้ว่าฝ่าย ญ ลาโลกไปก่อน

 

ไม่หลับไม่นอนเลยนะครับแหม
เอ รึตื่นแล้วหว่า
งิงิ

 

พึ่งมาถึง อิอิ

 

..............
555ท่าน อ ดูจากอะไรคะ

 

ใช้ความสามารถพิเศษระดับพื้นๆ
แต่ว่าห้ามลอกเลียนแบบนะครับ
ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับบารมีส่วนตน
ที่ได้สร้างสะสมมาครับ
คนไม่เคยมีจะไม่เข้าใจหรอกครับ
เค้าเรียกอย่างเป็นทางการว่า
"อนาคะตังสะเดาอัตตาสญาน"
แปลเป็นไทยว่า.
" พูดอะไรก็ได้ทางอนาคตที่เข้าข้างตัวเองไว้ก่อน"
ไม่เท่ห์จริง ไม่แน่จริงไม่กล้าพูดนะเนี่ย ๕๕๕
ถึงบอกว่าห้ามลอกเลียนแบบ ๕๕๕๕๕๕
มีเป่า กล้าทำไหม ๕๕๕

 

5555

 

ตรงนี้ บทสวดตรงนี้ สวดมากๆ อยู่ยากคับลองฟังๆดูธรรมไหลเข้าตลอด เหมาะสำหรับพวกอยากนิพพานมากกว่า รู้สึกแบบโพธิสัตย์มาเต็ม เหอๆ

 

ขออนุญาตถามท่านนพ อ้างอิงถึงสิ่งที่ท่านเคยคุยกับ คุณjohh เมื่อวันที่16 ธันวาคม 2559 ผมมีความสงสัยใคร่ขอคำชี้แนะดังนี้...


1. แนวทางสร้างสติ "ให้ต่อเนื่อง" เพื่อนำไปใช้ สังเกตุอาการของความคิด (ขันธ์5) และตัวจิต ที่กำลังจะวิ่งเข้าไปรวม... เมื่อสติไปเห็นเข้า จิตจะดีดออก เรียกว่า แยกรูปแยกนาม (สัมมาทิฎฐิ จะเปิดทางให้ เพื่อเดินปัญญา กำหนดรู้ไตรลักษณ์ของรูปนาม ต่อไป)...

1.1 ถามว่า ตรงนี้อาการกายเบาเหมือนเหาะได้ จิตเบามาก อันนี้เปนเพราะจิตได้กำลังของฌาณ ด้วยใช่มั้ยครับ

1.2 จิตจะเหมือนกระจุกตัว และรู้อยู่ท่ามกลางหน้าอก.. สภาวะนี้นอกจากแยกด้วยสติที่สร้างขึ้นมาสังเกตุ เราสามารถแยกจิต โดยใช้กำลังของสมถะในขณะนั่งบริกรรมสมาธิ ให้ถึงฌาณใดฌาณนึง ได้มั้ยครับ.. เคยได้ยินว่า ต้องเป็นฌาณ4 เท่านั้น ?

1.3 หลังจากแยกรูปแยกนามแล้ว การตามรู้ขันธ์5 ให้ได้ทุกเรื่อง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ลงสู่ความว่างคืออนัตตา.. อันนี้ เราไม่ใช้ความคิดอะไรเลย เราเปนผู้ดูล้วนๆ ถูกมั้ยครับ ?

1.4 การตามดูจนเบื่อหน่ายสุดๆ จนจิตวางอุเบกขา เพราะหนีไปไหนไม่ได้.. อันนี้เปนอุเบกขาในวิปัสสนาญาณแล้วรึยังครับ ? ถ้าใช่ มรรคจิตชุดแรก จะเปนการตัดสินลงสู่ โสดาปฏิผล ใช่มั้ยครับ ?

ขอรบกวนท่านด้วยนะครับ

 

ปัจจุบัน ผมกะลังหันมาเริ่มเน้นสมถะบ้างครับ..
เพราะในชีวิตประจำวัน กำลังสติของผมอ่อน และไม่ค่อยต่อเนื่องในรู้กายรู้ความคิด.. พูดง่ายๆว่า ขอกลับมาเริ่มล้างไพ่ เพื่อเจริญสติแยกรูปแยกนามใหม่ หลังจากที่เคยแยกแล้ว มันรวมกลับไปเหมือนเดิม เพราะไม่ขยันและเพิ่มกำลังความเพียร

ท่านนพว่า กำลังสมถะในรูปแบบ (การบริกรรมพุทโธ) มีส่วนหนุนการเจริญสติให้ต่อเนื่องเพียงใดครับ.. มีทั้งทางตรงและทางอ้อม ?

ขออนุโมทนากับท่าน ในคำชี้แนะและเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ