เรื่องเด่น วิธีเจริญจิตภาวนาตามแนวการสอนของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สติจงมา, 9 พฤษภาคม 2017.

  1. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ หมายถึง "สภาวะธรรม ที่ ไม่มีความเคลื่อนไหว แปรปรวน ไม่มีอาการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย" รวมทั้ง "ทุกข์" ไม่สามารถมีอยู่ในสภาวะนั้นได้

    +++ อาการ "รู้เฉย ๆ" เป็นเบื้องต้นของ "การฝึก" โดยการฝึก "ระลึกเข้าสู่อาการ รู้ เฉย ๆ" ตรงนี้ (สติบริสุทธิ์)

    +++ เมื่อ "รู้จักอาการ รู้เฉย ๆ" ตรงนี้แล้ว ไม่นาน "การระลึกทั้งหมด" จะถูกรู้ไปเองตามธรรมชาติ รวมทั้ง "การกระทำทางจิตทั้งหมด" อีกด้วย

    +++ การฝึกในบริเวณที่ "การระลึก-การทำงานทางจิต ทั้งหมด ถูกรู้" ตรงนี้ จะทำให้เริ่มรู้จัก "กฏเกณท์การทำงานทางจิต - กฏแห่งมโนกรรม - กฏแห่งกรรม" ไปเรื่อย ๆ

    +++ จะเริ่ม "รู้ จนกลายเป็น เห็น โดยไม่มีอาการ ดู" (คือ จาก ญาณ มาเป็น ทัศนะ ที่ไม่ใช่ วิญญาณขันธ์) ตรงนี้คือ "การศึกษาที่จิตมันจะวิวัฒน์ไปด้วยตัวของมันเอง"

    +++ รวมทั้ง "สรรพสิ่งที่ ถูกรู้ ทั้งหมด" ก็จะเข้าใจชัดเจนได้เองว่า "ไม่มีความเป็น ตน อยู่ในนั้น" ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ตน (อนัตตา)

    +++ รวมทั้ง "สรรพสิ่งที่ ถูกรู้ ทั้งหมด" ก็จะเข้าใจชัดเจนได้เองว่า "มันเกิดมาเอง มันดับไปเอง" ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ตน (อนิจจัง)

    +++ รวมทั้ง "สรรพสิ่งที่ ถูกรู้ ทั้งหมด" ก็จะเข้าใจชัดเจนได้เองว่า "มันมีสภาพด้วยตัวของมันเอง" ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ตน (ทุกขัง)


    +++ สภาวะทั้งหมดเหล่านั้น "ไม่ใช่สภาวะที่ รู้ อยู่เฉย ๆ และไม่เกี่ยวข้องกัน" สภาวะทั้งหมดเหล่านั้น เรียกว่า "สังขตะธรรม" รวมทั้ง วิญญาณขันธ์ ด้วย


    +++ ส่วน "สภาวะที่ รู้อยู่เฉย ๆ" นั้นเล่า แท้ที่จริง "มันมีอยู่มาตั้งนานแล้ว" และมันก็ "อยู่กับเรา ตลอดเวลา" รวมทั้ง "ไม่สามารถทำให้มัน เกิด/ดับ ได้เลย"

    +++ ผู้ใดที่ "ยังไม่พ้นจาก วิญญาณขันธ์" ก็จะ "วนเวียนอยู่กับสภาวะ เกิด/ดับ อยู่ตลอดเวลา" และยังไม่สามารถ "สลัด" ตัววิญญาณขันธ์ออกมาให้ "ถูกรู้" ได้

    +++ บุคคลเหล่านั้น "ย่อมอยู่ในอำนาจของ จุติจิต ตลอดเวลา" และย่อม "เกิด/ดับ ไปตาม ชาติ/ภพ ต่าง ๆ อย่างไม่รู้จบ" จนกว่าจะ "สลัด" วิญญาณขันธ์ (ผู้รู้-ตัวดู-อัตตาจิต) ออกไปได้

    +++ ตัว "ผู้รู้-ตัวดู-อัตตาจิต หรือ วิญญาณขันธ์" นั่นแหละ คือ "สังขตะธรรม" ที่ เกิด/ดับ อยู่ตลอดเวลา และตัวมันนั่นเอง คือ "ผู้ไม่รู้ และเกิดมาจาก อวิชชา"


    +++ ส่วน "สภาวะที่ รู้อยู่เฉย ๆ" นี้เรียกว่า "วิชชา" เมื่อ "อยู่กับวิชชา หรือ อยู่กับรู้ (ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล)" ไปเรื่อย ๆ ความรู้-เข้าใจ ของตัว วิญญาณขันธ์ (ผู้ไม่รู้) ก็จะเริ่ม ปริวัติ ไปเอง (จิต ที่มี สติ เป็นพี่เลี้ยง) ตรงนี้จะเป็นอาการของ "วิชชา+จรณะ+สัมปัณโณ" และจะเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ จนถึง "สุขะโต+โลกะวิฑูร" ไปจนจบ

    +++ อาการที่ "รู้จัก สภาวะรู้" นี้หลวงปู่ดูลย์ ใช้ภาษาว่า "ลืมตาตื่นกับจิตหนึ่ง"

    +++ ส่วนอาการที่ "อยู่กับ สภาวะรู้" นี้หลวงปู่ดูลย์ ใช้ภาษาว่า "อยู่กับรู้"

    +++ เมื่ออยู่กับ "สภาวะรู้" จนเข้าใจถึง สภาวะรู้ อย่างแจ่มแจ้ง จึงรู้ว่า "นี่คือ รู้ บริสุทธิ์" หลวงปู่ดูลย์ ใช้ภาษาตรงนี้ว่า "จิต คือ พุทธะ"



    +++ เมื่ออยู่กับ "สภาวะรู้" จนเข้าใจ สภาวะรู้ อย่างแจ่มแจ้ง จึงรู้ว่า "สภาวะรู้ นี้ ไม่สามารถทำให้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย รวมทั้ง ทุกข์ ไม่สามารถมีสภาพอยู่ใน สภาวะนี้ได้"

    +++ รวมถึง "มโนกรรม กฏแห่งกรรม รวมทั้ง วิบากกรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น" ล้วนเป็น "สิ่งถูกรู้ ที่ไม่สามารถเข้ามารวมตัวกับ สภาวะรู้ได้" จึงเข้าใจได้ชัดเจนเองว่า "นี่คือสภาวะที่เรียกว่า พ้นกรรม หมดกรรม หรือ กรรมเข้าไม่ถึง ก็ได้"

    +++ "อสังขตธรรมหมายถึง สภาวะรู้" ที่กล่าวมานี้ นั้นเอง แล...


    +++ หมั่นฝึกจนรู้จัก "อาการของ สติ ที่แท้"

    +++ จากนั้นจึง "ดำรงค์สติมั่น" (ปล่อยให้ รู้เฉย ๆ ไว้อย่างนั้น ไม่สั่นไหวไปกับ สิ่งที่ "ถูกรู้")(อาการอยู่กับรู้-วิชชา)

    +++ จากนั้นอาการ "รู้ธรรมเฉพาะหน้า" (วิชชา+จรณะสัมปัณโณ) จะตามมาเอง

    +++ นี่คือการ "ตามรอยบาทศาสดา" ไม่ใช่การ "วัดรอยบาทศาสดา" แบบสำนัก "ตุ๊ดวจน" นะครับ
     
  2. ชัย วังกาวี ไทยยะ

    ชัย วังกาวี ไทยยะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    นี้คือสมาธิชนิดพิเศษครับ ที่จริงดาบนั้นฟันลงมาเร็วมาก แต่ด้วยสมาธิขณะนั้นเราจะมองเห็นดาบนั้นฟันลงมาแบบช้าๆ เราก็สามารถหลบได้ครับ "มีลักษณาการประหนึ่งบุรุษหนึ่งจดจ้องสายตาอยู่ที่คมดาบ ที่ข้าศึกเงื้อขึ้นสุดแขนพร้อมที่จะฟันลงมา บุรุษผู้นั้นจดจ้องคอยทีว่า ถ้าคมดาบนั้นฟาดฟันลงมา ตนจะหลบหนีประการใดจึงจะพ้นอันตราย เจตจำนงต้องแน่วแน่เห็นปานนี้ จึงจะยังสมาธิให้บังเกิดได้" กราบหลวงปู่ดุลย์ ด้วยเศียรเกล้าครับ 38644111_260960391389756_5637610545591877632_n.jpg
     
  3. ชัย วังกาวี ไทยยะ

    ชัย วังกาวี ไทยยะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
     
  4. ชัย วังกาวี ไทยยะ

    ชัย วังกาวี ไทยยะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    ลองเปลี่ยนมาใช้อานาฯ ดูครับผม นั่งให้สบายๆ อย่าเคร่งจนเกินไปลองดูนะครับ
     
  5. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ นี่คือ "สติ (มหาสติปัฏฐาน 4)" ที่เป็น "สมาธิ (สัมโภชฌงค์ 7)"
    +++ ดาบที่ฟันลงมา แต่ละครั้ง จะมีการทำงานของ "ตัวจะ (วาระจิต)" มากมาย

    +++ การมองที่ "ถูกต้อง" จะไม่มองที่ คมดาบ แต่จะ "หยั่งรู้ วาระจิตของ ผู้ฟัน"
    +++ ทั้งหมด ต้องเปลี่ยนเป็น ดังนี้
    ===================================================
    มีลักษณาการประดุจบุรุษหนึ่ง หยั่งรู้ "กาย (สติ) + รู้สึกกาย (โภชฌงค์)" แห่งตน (ไร้จิตส่งออก) ยามใดที่ จิตข้าศึกสั่งการ มันจะ "ส่งออกมาเอง โดยธรรมชาติของ จิตส่งออก (สมุทัย)" บุรุษผู้นั้น "ดำรงค์สติมั่น รู้ ธรรมเฉพาะหน้า" "รู้ในยามที่มี จิตสั่งฟัน ที่ไม่ได้เกิดจาก จิตตน มันย่อมเป็น จิตศัตรู" (เจโตปริยะญาณ)

    ไม่ต้องมี "ความคิดใด ๆ ที่จะต้องหลบหนี (นิวรณ์ 5)" วาระจิตที่ศัตรู (จิตส่งออก) กำหนด "ฟัน" ณ ขณะที่ "วาระจิตของศัตรูเคลื่อน แต่ ดาบศัตรูยังไม่ทันเคลื่อน"

    บุรุษนั้น ย่อมทราบการ "เคลื่อนทั้ง กาย+จิต ของศัตรูอยู่แล้ว" เหตุเพราะ "จิตศัตรูกำหนดไว้ และ ส่งออกมา (จิตส่งออก) รวมทั้้ง ท่าร่าง ของมัน"

    ด้วยโภชฌงค์ 7 ที่บุรุษนั้นครองอยู่ "ท่าร่างของบุรุษนั้น ย่อมเคลื่อนได้เอง โดยไร้เจตนา ไร้ความคาดหมาย ไร้การปรุงแต่ง" ท่าร่างทุกประการของบุรุษนั้น เคลื่อนได้ด้วยความ พอเหมาะ พอดี ภาษาตรงนี้เรียกว่า "จิตเคลื่อนร่าง" ไร้เจตนา ไร้พลังจากกล้ามเนื้อ เป็นการเคลื่อนล้วน ๆ ของจิตที่นำพาร่างเคลื่อนไปด้วย

    เจตจำนง ไม่ต้องปรากฏ ไม่ต้องแน่วแน่ปานนั้น เพียงแค่ "อยู่กับสภาวะให้เป็น" สมาธิ ย่อมบังเกิดขึ้นมาเอง

    และนี่คือ "อยู่กับรู้" ของหลวงปู่ดูลย์ นะครับ
    ===================================================
     

แชร์หน้านี้

Loading...