มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

ครับผม ขออนุญาตครับ
เดินต่อไป ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง เหนื่อยก็พัก มีกำลังแล้วก้าวเดินต่อไป
ดาราแฟร์ เป็นเพื่อน ร่วมเดินทางด้วยครับ..

 

ครับผม
ลมพายุ ฝนตกหนัก หรืออาจจะมีน้ำท่วม ไฟไหม้ก็อย่าประมาทกัน ครับท่าน

 

ครับผม
จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
มีเท่านี้จริงๆครับ.

 

ครับผม ขออนุญาตครับ
จบลงที่ "กัลยาณจิต-กัลยาณมิตร-กัลยาณธรรม" จริงมั้ยครับท่าน.

 

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ

คืนนี้ต้องหาอะไรไปลอยสักหน่อยแล้ว
ผมคงจะเลือกกระทงที่เป็นอาหารปลาไปในตัว จมไวหน่อย แต่ก็ได้เลี้ยงปลา
คืนนี้ขอให้ท่านทางหลายมีจิตใจแจ่มใสเบิกบานกันถ้วนหน้านะครับ

 

ครับผม ขออนุญาตครับ
ดาราแฟร์ มีแต่ ฝุ่น-กิเลสในจิต ความชั่วในใจ เอาไว้ใส่ในกระทง ลอยกระทงในค่ำคืนนี้ ครับผม
ดาราแฟร์ ไม่ได้มีเจตนาว่า ท่านใดๆ นะครับ เพียงแต่เป็นส่วนตัวของดาราแฟร์ เท่านั้น ที่ทำมาและกราบขอขมากรรม แม่พระทั้ง 5 ธาตุทั้ง 4 เป็นประจำทุกวันและทุกทุกปีครับ.

 

"แกงหม้อปานกลาง"

...ขออนุญาตใช้คำครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ด้วยสำนึกในคุณ บูชาไว้เหนือเศียรเกล้า
...ต่อไปเราจะเริ่มปรุงรสแกงหม้อนี้ให้เข้มข้นขึ้น ด้วยวิธีการฝึกที่จริงจังขึ้นความรู้ของท่านต้องมีการพัฒนาขึ้นตามลำดับ
...เราเป็นห่วงมากก็สุภาพสตรีนี้แหละเพราะยังติดในความสวยความงามอยู่มากแต่หากไม่ติดในรูปแล้วสตรีนี้แหละจะมีความก้าวหน้าเร็วกว่าสุภาพบุรุษ ท่านจิตยิ้มหากมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆก็ลดเครื่องแต่งตัวลงจะเป็นการดี
...ท่านZaของเก่าที่ท่านมีน่าจะเป็นการดูจิต เมื่อท่านทำสมาธิรู้ลมหายใจ ให้ท่านลองกำหนดรู้ไว้ที่ตรงกลางระหว่างเคี้ยวลองดู หากมีอาการปวดหรืออาการเมื่อยให้กำหนดขึ้นไปกลางหน้าผากทรงไว้อย่างนั้นสักพัก แล้วสร้างนิมิตหรือจินตนาการไปว่ามีลูกแก้วอยู่ข้างในระหว่างกลางของศีรษะแล้วกำหนดรู้ทรงไว้ตรงนั้น ตรงนี้แหละเป็นที่ตั้งของสัญญาและปัญญา ทั้งหมดนี้ให้ฝึกตอนเข้านอนทุกวัน ให้ตั้งใจทำจริงแล้วท่านจะพบของจริงโดยไม่สงสัย
...ส่วนท่านอื่นเราคิดว่าคงมีความสามารถอยู่แล้ว สองท่านนี้ยังหาตัวเองไม่เจอ หากทุกคนทำจริงก็จะได้ของจริง...โดยไม่สงสัย
...ต่อไปเราจะแนะนำวิธีปฏิบัติสลับกับเล่าประสบการที่ผ่านมาบ้างเพื่อจะไม่ทำให้น่าเบื่อเกินไปนัก
....เพราะความบังเอิญไม่มีในโลกเราจึงได้มาพบปะกัน เพราะหน้าที่ที่ท่านทั้งหลายมอบให้เราจึงต้องรับผิดชอบหน้าที่ให้ดีสุดกำลัง
...เวลานอนให้จับลมมหายใจหรือไม่ก็ให้จับคำภาวนาใครถนัดอย่างไรก็เลือกเอาอย่างนั้น แต่การจับคำภาวนาจะทำให้การเจริญวิปัสนาไปได้เร็วกว่าจับลมหายใจ และเมื่อชินแล้วจะสงบเป็นสมาธิเร็วขึ้น วิปัสนาญาณก็เกิดได้เร็วขึ้นด้วย
...บทนี้เท่านี้ก่อน มาส่งทุกท่านลอยกระทง เราไม่รู้จะไปไหนเพิ่งกลับมาอยู่บ้านเกิดไม่รู้จักใคร เหล้าก็ไม่ดื่มจึงไม่รู้จะไปคุยเล่นกะใคร

....สวัสดี.....

 

ครับผม ตรงนี้แหละที่จะเป็น ทางแยก ที่เหล่า พระสงฆ์ พระอริยะสงฆ์ จะทำไม่ได้ เพราะว่า การตัดต้นไม้สักต้น จะอาจจะทำลาย ที่อยู่ของเทวดาต้นไม้ เลยทีเดียว ส่วนที่เป็นกอไม้ใบหญ้าก็อาจจะเป็นที่อยู่ของ อสูรกาย ได้เช่นเดียวกัน หรือ กองดินเพียงกองเดียว อาจทำลายบ้านของผีเปรตไปเลยก็ได้

แต่ท่านก็จะต้องตัดใจทำหน้าที่ ตรงนี้ให้ได้ นี่แหละที่น่านับถือที่สุด

 

ท่านรู้จัก เศรษฐกิจพอเพียง ไหม

หากท่านเข้าใจหลักของมัน ท่านก็จะเข้าใจว่า ถึงมีน้อย แต่ก็พอใจกับสิ่งที่มีน้อยๆนั่น ไม่รู้สึกน้อยใจกับสิ่งที่มีน้อย เรามีน้อย เนื่องจาก เวรกรรมเก่าของเราสร้างบุญมาแค่นี้ จะแสวงหาให้ตายยังไง พอได้มาเยอะเกินกว่าที่เราถือมีได้ เดี๊ยวก็ต้องเสียอย่างอื่น เพื่อแลกมา บางครั้ง ร่างกายของเราก็เจ็บป่วย บางครั้งญาติเสีย โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย

ท่านก็ต้องฝึกยอมรับความจริงให้ได้ว่า เป็นกรรมเวรของท่านเอง ไม่ใช่เพราะคนอื่นมาทำให้ท่านจน แต่เป็นเพราะว่า ท่านไม่ชอบให้ทานในชาติก่อนๆ พอถึงชาตินี้จะทำบูญเยอะก็ยังไม่พออยู่ดี ท่านต้องยอมรับ วิถีแห่งความจริง ให้ได้ แค่นี้ก็บรรลุธรรมได้เหมือนกัน คือการบรรลุธรรมแบบจนๆ นั่นเอง

 

เอ๊ะ อย่างนั้นไม่ใช่ธรรมกายที่ย้ายฐานจากกลางกายมาไว้กลางหัวแทนเหรอครับ

 

สายพระโพธิสัตว์ แนะนำให้ศึกษา จากวิดีโอใน ยูทูป ของพระอาจารย์ 3 ท่านนี้ คือ

1 พระอาจารย์จรัญ ทักขิณาโย วัดหลวงขุนวิน เน้นเรื่องการดูกาย หรือ กายในกาย ใน สติปัฏฐานสี่ นั่นเอง อยู่ในสายของ วัดสังฆทาน
หลวงพ่อสังวาลย์

2พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง ให้เน้นดูเรื่องการเกิดดับของเวทนา หรือ เวทนาในเวทนา นั่นเอง อยู่ในสายของ หลวงปู่ชา หลวงปู่มั่น

3 พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช
สำนักสวนสันติธรรม เน้นเรื่องการดูจิต หรือ จิตในจิต ใน สติปัฏฐานสี่ นั่นเอง อยู่ในสาย หลวงปุ่ดุลย์ หลวงปู่มั่น

เหตุที่เรายกย่องว่า เป็น พระอาจารย์ ก็เพราะว่า ท่านทั้งสามรูปนี้ ใครจับหลักดีๆ หรือ มาในสายเดียวกัน ก็อาจจะฟังธรรมของท่านรู้เรื่อง และ เข้าใจได้ แล้วสามารถบรรลุธรรมได้เลยเหมือนกัน

 

ครับผม
ขอติดตามอ่านด้วยคนครับ.
ลอยกระทงหรือเทศกาลใดๆของงานทางโลก ก็ไม่เคยได้ไปไหน ไม่รู้จักใครเช่นกันครับ
ไม้ตะพดของครูบาอาจารย์ เจ็บลึก เจ็บนาน หลาบและจดจำ เกเร เหลวไหล ไร้สาระไม่ได้ ครับผม.

 

ครูบาอาจารย์ผมก็มาจากสายวัดไตรสิกขาครับ ซึ่งก็เป็นสายหลวงพ่อชาแหละครับ
และผมก็เชื่อพวกท่านมากกว่าสายธรรมกายเสียด้วย

ครูบาที่เมตตาผมมากท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า ธรรมกายลองมาแล้ว ไม่ใช่ ท่านว่า
ทำอย่างที่ครูบาอาจารย์พาทำนีี่แหละ

ผมเชื่อท่านนะ เพราะท่านเมตตาผมไม่แพ้พระอาจารย์ของผมเลย

-----------------------------------------------------------------------
มาวันนี้
พอมาได้ฟังพระอาจารย์ปราโมทย์นี่ก็เข้าใจตามได้เลย ว่าเราพลาดในการฝึกสมาธิอย่างไร
คือเวลาทำสมาธิผมไปเพ่งมากเกินไป หลัง ๆ มานี่คือออกจากวัดมานี่ก็ฝึกหย่อนเกินไป ช่วงนี้ผมจึงฝึก ตามรู้ความคิด คือปล่อยให้หัวมันคิดไป แล้ว เราตามรู้ว่ามันคิดอะไรบ้าง อย่างนี้คือไนีไปคิดนะ แต่เราก็คิดไปเรื่อย ๆ ของเรานั่นแหละครับ ตอนทำอาณา ค่อยมาฝึกตามรู้ว่าหัวหนีไปคิดแล้วอยู่กับลมหายใจคู่กัน (แค่คนบ้าก็ยังคงเป็นแค่คนบ้าน่ะนะครับ จิตตั้งมั่นไม่ได้นานหรอก) พระอาจารย์ปราโมทย์สอนว่านี่คือการดูจิต คือให้รู้ว่าจิตมันหนีไปคิด พอรู้แล้วจิตจะกลับมาตั้งมัั่นของมันเอง
และผมก็ทำ สลับกับการทำอาณาปาณสติ ให้สมาธิมีพลัง
แต่ผมก็ทำได้ไม่ถึงไหน สงสัยยังมีอะไรที่ทำไม่ถูกอยู่
ธรรมะคือธรรมดา อย่าไปบังตับอย่าไปฝืนมัน เราตามดูตามรู้ก็พอ ท่านว่างั้น

ผมก็คงต้องฝึกไปเรื่อย ๆ เอา
ทำไม่ได้ก็ช่างมัน
วาสนาเรามีแค่นี้ ทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น

 

ครับผม ขออนุญาตครับ
วาจาคำกล่าวในโพสต์นี้ เป็นจริงทุกประการ น้อยคนที่จะเข้าใจได้ในเหตุและในกฏนี้ เพราะ ลึกลับซับซ้อนละเอียดอ่อนจริงๆครับผม.
โมทนาสาธุ.สาธุ.สาธุครับ.

 

_ตอบท่านZa_
...เราเรียนรู้หลายสาย แรกเริ่มเดิมทีและของเก่าที่มีคือวิชชาธรรมกาย แต่เราก็มาฝึกตามแบบแผนสายพระป่าครูบาอาจารย์มั่นเพิ่มเติม ในชาตินี้วิชชาธรรมกายเราได้เพียงการเข้าสู่ฐานที่7หรือเข้าถึงจิตหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือฝึกตามแบบพระกัมมัฏฐานสายวัดป่าทั้งหมด แต่เมื่อใดที่จิตถูกอาจารย์ควบคุมของเก่าที่มีจะแสดงออกมาหมด เอาเป็นว่าถ้าเราถูกอาจารย์ควบคุมจิตเมื่อไรแล้ว เราทำได้หมดทุกอย่าง แม้กระทั่งสามารถรู้ด้วยว่าจักรวาลนี้ ไตรโลกธาตุนี้เราท่องเที่ยวมานานมาก(อันนี้เพียงเล่าสู่กันฟัง ไม่ได้ยกตนหรืออวดตนแต่อย่างใดหากพวกท่านให้เราหยุดแนะนำเราก็จะหยุด)
...ส่วนทุกวันนี้เราก็แนะนำพวกท่านทุกคนตามที่เราได้เรียนรู้ในชาตินี้
...เรื่องผลกรรมอดีตชาตินั้นเราเข้าใจดี เราเข้าใจยอมรับทุกอย่างเพียงแต่บางครั้งก็รู้สึกสงสารแม่กับพ่อ ส่วนตัวเราไม่ได้ยึดกับสมบัติใดๆอยู่แล้ว
...ที่ตั้งใจไว้และบอกกับพ่อแม่ไว้นานแล้วคือ เมื่อท่านทั้งสองไม่อยู่ในโลกนี้แล้วสมบัติที่ท่านมีเราไม่ขอรับ หากใครจะเอาก็ช่วยพาเราไปบวช นี้แหละความตั้งใจเราตั้งแต่เด็ก
....เราไม่ได้เกิดมาเอาสมบัติทางโลกเราไม่ได้เกิดมาสะสมทรัพย์ทางโลก แต่เราเกิดมาสะสม"อริยทรัพย์" เราคิดอย่างนี้ตั้งแต่บวชแล้ว และเราก็จะไม่ทิ้งทางนี้ ไม่ว่ากรณีใดๆ

....เรารู้เรา "จงสงบเถิดนี่แหละเรา"....

 

...ท่านดาราแฟร์สามารถแนะนำพวกท่านได้ เพราะเราคิดว่าท่านดาราแฟร์ถึงแล้วหมายถึง จบกิจศาสนาแล้ว ส่วนเรายังต้องฝึกต่อและค้นหาของเก่าที่ติดมา ที่ถูกซ่อนไว้ในจิตตนเอง
...เมื่อวันที่ครูบาอาจารย์ปล่อยเราให้กลับมาเป็นปกติ เราได้นิมิตเห็นราหูอมพระอาทิตย์เข้าเก็บไว้ในปาก เราแก้ว่าพระอาทิตย์นั้นคงเป็นปัญญาของเรา..นี่จึงทำให้เราฝึกตนเองมากขึ้นอีก

....เรายังเดินต่อไป.....

 

ครับผม ขออนุญาตครับ
ดาราแฟร์ ถึงแล้วก็จริง แต่ยังไม่จบกิจครับผม
ท่านเองก็ถึงแล้ว แต่ยังไม่จบกิจ เช่นกัน
ยังต้องก้าวเดินด้วยกันต่อไปครับผม.เพื่อทบทวนด้วยกัน โอบอุ้มทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ด้วยกัน เมื่อจบกิจที่สมบูรณ์พร้อม จึงกลับพร้อมกันครับผม

 

ครับผม
- ปฎิมรรค 4
- ปฎิผล 4
- อริยมรรค 4
- อริยผล 4
ครบ 16 องค์
จบกิจในพระพุทธศาสนาครับผม.ทำให้ได้ ทำให้ผ่านครับ

 

ครับผม
มรรคมีองค์ 8
- ปฎิมรรค 4
- อริยมรรค 4
รวม 8 ครบ
เก็บผล ครบ 8 จบครับ.

 

ครับ มาถูกทางแล้ว ที่เหลือก็แค่ ลงมือกระทำ อย่างเดียว
ไม่แน่ว่า บรรลุธรรม ครั้งเดียวอาจจะถึง พระอนาคามี เลยก็ได้ เพราะว่า การฝึกจิตในจิต เป็นการฝึกของ พระอนาคามี นั่นเอง ขออนุโมทนาล่วงหน้า