เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    ป้าแกก็สไตล์นั้นอยู่แล้วเวลาโทรไปหา แต่แกไม่สามารถสแกนอะไรของเพื่อนเราได้ถูกเลยซักอย่างเดียว ผิดรัวๆ แถมบางอย่างก็แปลกๆพิกลด้วย เพื่อนเราตอนนั้นหลงเชื่อเกือบเสียวัตถุมงคลกับตำราวิชาอาคมหายากไปซะแล้ว เพราะป้าแกจะให้ส่งไปเก็บไว้ที่แก จะได้ไม่เสียของตอนภัยพิบัติมา ดีว่าเราเตือนสติทันเสียก่อนของเลยยังไม่ได้ถูกส่งไป
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ขอเก็บข้อมูลมาไว้ที่กระทู้นี้ค่ะ ถ้าใครติดตามอ่านเตรียตัวให้พร้อม! มันกำลังมา และแจ้งข่าวสารการชำระโลก ถ้าไม่ได้เข้าไปอ่านอีกกระทู้หนึ่งที่ได้นำเรื่องนี้เอาไว้ ก็เลยนำข้อมูลนี้มาให้พิจารณากันค่ะ


    ทุกคำตอบมีในโลกใหม่
    พรุ่งนี้เราก็จะไปจากเว็บนี้แล้วถาวร...

    เราจึงทิ้งของขวัญหรือความจริงสุดท้ายก่อนไป และเพื่อเป็นฐานให้คนยุคใหม่ได้เตรียมใจ เตรียมสติ สำหรับความจริงที่เกินคาดหมาย...

    แท้จริงทุกคนเก่งและฉลาดและเคยเรียนรู้ธรรมต่างๆมาในอดีตกาลแล้ว เราแค่ลืม...

    ดังนั้นเมื่อไปโลกใหม่ เงื่อนไขและสติปัญญาจะกลับมา และเพิ่มขึ้นไปต่อไปไม่สิ้นสุด ง่ายต่อการหลุดพ้น แต่อยู่ที่เจตนาของตนเองว่าต้องการหรือไม่ต้องการ พัฒนาหรือหยุด
    เพราะสุดท้ายคนที่ต้องตัดสินคือตัวเองเพื่อตัวเอง

    ในทุกสภาวะทุกมิติ ล้วนมีเงือนไขการเข้าถึงข้อมูลที่แตกต่างกัน
    อาทิเช่นเทคโนโลยี จะได้รับตามความเหมาะสมกับสภาวะจิตหรือมิติโลกนั้นๆ
    เพราะหากไม่ใช้กฏนี้ ก็จะไม่สามารถรักษาความสงบสุข ซึ่งอาจจะเป็นบ่อเกิดสงครามจักวาล...

    ดังนั้นจึงต้องยกระดับจิตใจและโลกหรือที่อยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับภูมิปัญญาใหม่ และอยู่ร่วมกับพี่น้องในจักวาลได้อย่างสงบ...
    ไม่ระรานหรือเบียดเบียนกัน

    คำถามของคุณนั้น ยากจะอธิบาย เกินความเข้าใจของมนุษย์...
    เราจึงอยากให้คุณศึกษาและรอดูเอง
    แต่จะตอบคราวๆให้เข้าใจ
    โปรดพิจราณาเองเถิด
    และโปรดหยุดส่งกระแสจิตมา มันทำให้เราไม่สงบ
    พลังที่มาจากความตั้งใจจริง ผู้รับสามารถสัมผัสได้ รู้และได้ยินด้วยจิตสื่อจิต
    เพราะเราทุกคนเชื่อมต่อกันเป็นโครงข่าย โดยเส้นที่เชื่อมโยงเราคือแหล่งพลังงาน หรือแม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลาง เหมือนใยแมงมุม
    เราทุกคนคือพี่น้องกัน
    ดังนั้นหากพี่น้องเดือดร้อน เราต้องไปช่วย ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถหลับได้อย่างสงบ แม้จะนิพพานไปแล้วก็ตาม และหากเกิดเหตุร้ายกับดาวเคราะห์หรือสงครามก็จะส่งผลกับทั้งระบบ เพราะเราคือหนึ่ง...

    ซึ่งมนุษย์ คือทารกแรกเกิดจำเป็นต้องเรียนรู้บทเรียนต่าง เพื่อยกระดับจิตใจให้สู้ขึ้น เรียนรู้ความทุกข์ เพื่อความเห็นอกเห็นใจ และปล่อยวางทิฐิ และต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่นฐานของความสามัคคี..ต่อยอดสู่การอยู่ร่วมกันกับพี่น้องในจักรวาลนี้ได้

    พี่ๆที่เคยผ่านน้ำร้อนมาก่อน ด้วยวิธีเดียวกัน จึงลงเกิดและมาช่วยในกระบวนการตื่นรู้ และวิวัฒนาการต่าง ซึ่งจะเห็นได้จากอดีตว่ามีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขามาเพื่อเร่งวิวัฒนาการให้มนุษย์ ไม่เช่นนั้น คงไม่มีการพัฒนาหรือความเจริญใดๆ แต่ก็มีทั้งมาดีและมาร้าย...(มันซับซ้อน)...
    กฏของจักรวาล คือห้ามแทรกแทรงกระบวนการตื่นรู้ของผู้อื่น
    ต้องให้พวกเขาเข้าใจ,พัฒนาเเละเรียนรู้เอง
    และหากเข้ามาในโลกต้องได้รับอนุญาติ พร้อมเหตุผล
    เหตุที่คนดำได้รับอนุญาติให้อยู่โลก เพราะพวกเขาอ้างว่าเพื่อทดสอบจิตใจมนุษย์ แต่พวกเขาก็ทำมากเกินกว่าเหตุ จนมนุษย์ยากหลุดพ้น ตัดขาดพระเจ้า ขังทุกคนเอาไว้ในโลก และตั้งตนเป็นพระเจ้าเอง....(ซับซ้อนๆ)....

    ทุกสิ่งอย่างเกิดจากขาวและดำ อยู่ที่เราต้องอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
    แต่การที่ดำก่อกบดและระรานชาวดาวอื่น เพราะความไม่รู้แจ้ง จึงคิดครอบครองจักรวาล ส่วนขาวก็ปกป้องสันติสุขด้วยความยุติธรรม คือทำลายหรือชำระ จึงเกิดสงคราไม่สิ้นสุด...
    (ดั่งโลกนี้ที่ทึกทักเอาเองว่าเป็นของตน เลยทำสงคราม)
    แท้จริงทุกสิ่งอย่างคือของแม่ หากไม่มีพลังงานของแม่ทุกคนตาย และจักรวาลนี่คือสนามเด็กเล่นของลูกๆของเธอทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง

    ดังนั้น แม่จึงต้องปรากฏตัว ทวงสิทธิและบัลลังของเธอคืน เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงระบบใหม่ทั้งหมด...
    เพื่อให้เกิดความสงบสุขทุกคนในจักรวาวอย่างแท้จริง...
    ส่วนวิธีการและรายละเอียด
    โปรดติดตามตอนต่อไปในโลกใหม่...

    ---ตอบพิเศษ---
    โลกเก่ากำลังดับ และโลกใหม่กำลังเกิด

    การยกระดับมนุษย์และโลก คือการทำงานโลกภายใน และต้องทำให้เสร็จก่อน จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพบนโลกมนุษย์

    ดังนั้นโลกใหม่จะถูกสร้างในโลกภายในให้เสร็จก่อน แล้วจึงเกิดการเปลี่ยนในโลกมนุษย์หรือเรียกว่าการคลอดใหม่ของโลกใหม่
    ซึ่งคือโลกเก่าแต่ถูกยกระดับเป็นโลกใหม่ โดยผ่านกระบวนการภายใน

    จิตมนุษย์ในโลกนี้จึงได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นไปพร้อมกับโลก ด้วยคลื่นที่ส่งมาจากจักวาล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน ร้อน หนาว สั้น ปวดหัว ปวดกาย อาการสารพัดในการยกระดับ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถค้นหาในกูเกิล เรียกว่าอาการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์...
    (โปรดระวังข้อมูลปลอมหรือดัดแปลง)

    ตอนนี้โลกใหม่ยกระดับและสร้างเสร็จแล้ว
    กำลังอยู่ในขั้นตอนขนดวงจิตทุกดวงบนโลกไปโลกใหม่ เมื่อขนจิตไปเสร็จ จะเกิดกระบวนชำระล้างโลกทางกายภาพ และมนุษย์เริ่มต้นสร้างโลกใหม่ทางกายภาพ.

    ดังนั้นดวงจิตที่ถูกขนไปโลกใหม่ แม้ตายด้วยภัย ก็จะสามารถกลับเกิดใหม่ในโลกใหม่ เพื่อเรียนรู้นิพพานและยกระดับต่อไป จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสูง ในมิติสูง
    ยิ่งสูงยิ่งว่างยิ่งสว่าง ไร้การเกิดดับ มีชีวิตนิรันด์ และรู้แจ้งและนิพพานอย่างแท้จริง...

    การขนย้านดวงจิต...
    โดยใช้ "เรือ" หรือ สะพาน หรือประตูเชื่อมต่อไปโลกเก่าไปโลกใหม่(ภายใน)...
    ซึ่งทั้งหมดจะยุติในพรุ่งนี้...
    ทุกคนได้รับการช่วยเหลือและยินยอมที่จะเดินหน้าต่อไป เพื่อรับโอกาสใหม่ๆ จึงไม่มีความต้านทานใด คือ จิตของทุกคนนั้นอยากกลับบ้านและอยากนิพพานเป็นฐานอยู่แล้ว จึงยอมรับความช่วยเหลือและเดินข้ามประตูหรือขึ้นเรือไป...

    แต่จะมีบางคน...
    บังคับจิตตน ไม่เชื่อไม่ไปไม่รับไม่สนใจ ไม่อยากไป ไม่อยากตามใคร หรือไม่อยากรับความรู้ใหม่ๆ
    นอกจากพึ่งตนเองและตำราหรือสิ่งที่ตนเชื่อและยึดถือ จึงปฎิเสธความช่วยเหลือหรือทุกสิ่งอย่าง
    หรือปฏิเสธไปโลกใหม่ จะนิพพานด้วยตนเองหรือไม่อยากนิพพานยังต้องการเรียนรู้ในแบบเดิม...

    ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ที่ศึกษาธรรม หรือผู้ยังไม่ปรารถนานิพพาน ยืนยันเรียนรู้ในแบบเดิมๆหรือความทุกข์ต่อไป ซึ่งโลกใหม่จะไม่มีบทเรียนแห่งความทุกข์ จะไม่มีการเบียดเบียนกัน แต่เป็นการพัฒนาจิตวิญญาณและสติปัญญาให้สูงขึ้น และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสงบสุข เรียกว่านิพพานจิต หรือนิพพานชั้นหนึ่ง...
    เรียนรู้และต่อยอดนิพพานต่อไป อย่างเบิกบาน...

    เพราะโลกใหม่ไม่ตอบโจทย์ของบุคคลเหล่านี้
    พวกเขาจึงกลายเป็นผู้ติดค้าง...
    ซึ่งพวกเขาต้องสร้างสะพานหรือเรือตัวเอง และหาทางกลับบ้านหรือนิพพานเอง...

    ซึ่งหากบุคคลที่ติดค้าง สามารถกลับได้ด้วยตนเองหรือนิพพานทันทีเลยนั้น เราขอออณุโทธนา ...
    แต่หากภัยมาวันนี้วันพรุ่งนี้ หากภัยมาก่อนบรรลุ พวกเขาจะถูกชำระและไปเริ่มต้นใหม่ กับบุคคลที่ยังไม่ยอมนิพพานต่อไป ในสถานที่ใหม่ที่เหมือนกับโลกนี้หรือนรก แล้วแต่ระบบใหม่จะจัดสรร...

    ส่วนข้อสอบ คือสอบจิตใจและคุณสมบัติผู้นำ เพื่อคัดเลือกผู้นำมนุษย์ในด้านต่างๆ และบันทึกรายชื่อมนุษย์หรือจิตที่ยินยอมไปโลกใหม่ หากพวกเขาไม่ขัดคืนหรือไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถไปได้อัตโนมัติทุกคน (ยกเว้นผู้ติดค้าง ที่เลือกปฏิเสธเอง )

    สำหรับผู้ไปโลกใหม่ในกายภาพหรือในกายมนุษย์ไม่ก็แน่ชัดสภาพเป็นหรือตาย เพราะคนรอดคือคนที่มีความรักความเมตตา ใจเปิดกว้าง ยอมทิ้งทิฐิ หรือความคิดความเชื่อเดิมๆ เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ง่ายต่อการเรียนรู้และเป็นเม็ดพันธ์ดี เพื่อสอนลูกหลานที่เกิดใหม่ต่อไป...
    (ลูกหลานคือคนที่ตายในการชำระหรือมาจากโลกอื่นในสภาวะสูงเหมือนกัน)

    เราบอกคราวๆได้เท่านี้

    สวัสดี


    ปล.หากรู้จักคุณและกตัญญูน้อมน้อมต่อทุกสรรพสิ่ง ย่อมปลอดภัย และแม่ของโลก(เธอมีชีวิตและความรู้สึก โลกคือร่างกายของเธอ เหมือนมนุษย์ที่มีกายเป็นที่บรรจุวิญญาณ)
    หากนอนน้อมเธอ จะย่อมได้รับการปกป้องแล้วช่วยเหลือจากเธอ เพราะเธออยากให้คนที่รักเธออยู่ต่อ
    ซึ่งภัยไม่น่ากลัวอย่างที่คิด 70-90% ที่เหลือรอด 30-10%รอเกิดใหม่ 0.001%(จำนวนยังไม่แน่ชัด)คือผู้ติดข้างไปนรกหรือที่อื่นตามความปรารถนาของพวกเขา เลือกที่จะเดินจากไปเอง...

    ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล...
    ปฏิบัติและทำดีในทุกๆวัน ไม่ต้องกังวลสิ่งใดหรือใคร ทุกคนคือคนยุคใหม่อัตโนมัตแล้ว

    หากผู้ปฏิเสธ โปรดคิดพิจราณาอีกทีก่อนหมดเวลา เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ คุณเรียนรู้มานานมากแล้วหลายชาติ แค่ต้องเอามันกลับคืนมาและต่อเติมอย่างสมบูรณ์ในโลกใหม่ และฝึกจิตพัฒนาจิตบำเบ็ญญาณโดยมีชีวิตที่ยาวขึ้น คุณแค่เปิดใจและเปิดโอกาสให้ตัวเอง

    และผู้ที่ปรารนานิพพานเอง ในวิถีเดิมของตนที่คิดว่าดีแล้ว ขอให้ท่านโชคดี ในทางของตน...

    ลาก่อน
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อ้างอิงข้อความของคุณ 00None00 ค่ะ

    เธอได้โพสไว้ว่า......

    New
    ไม่รู้ว่าจะอยู่อ่านกันไหม ก่อนข้อความจะถูกลบคืนนี้

    เราอยากของคุณทุกคนจริงๆสำหรับทุกอย่างและความห่วงใย...

    >_<เราจะปล่อยพวกเขาไปด้วยรอยยิ้ม>_<
    เราจะไม่ร้องไห้ เพราะเราจะต้องได้พบกันสักวันหนึ่ง ณ.ที่บ้าน เราจะเคารพการตัดสินใจของพวกเขา และขอให้พวกเขาโชคดีมีความสุข...สาธุ...

    ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนทั้งทางโลกและทางธรรมเป็นห่วง เราตัดสินใจแล้ว เราจะเดินหน้าต่อไป เพื่อทุกคน เพื่อฝันของเรา เพื่อบ้านใหม่ของเรา เพื่อความสุขของเรา และเพื่อนิพพานที่แท้จริง สู้ๆ!!

    .......การตัดสินสิ้นสุดคืนนี้......
    ประตูเชื่อมต่อโลกเก่าและใหม่จะถูกปิด เรือขนส่งจิตรอบสุดท้ายออกตัว...
    เรือไม่หันกลับหรือรอใครอีก..
    เดินหน้าเต็มกำลัง
    (Let's go new world!!)

    ผู้ติดค้าง ระบบจัดสรรถลงสู่อบายภูมิอัตโนมัติ...

    ผู้บรรลุทางธรรมด้วยตน แต่ไม่ปรารถนาไปโลกใหม่ หรือผู้สำเร็จกิจ จะถูกจัดสรรพไปยังภพภูมิ ตามสภาวะจิตของผู้นั้น...

    ---หลังจากตีหนึ่ง1---
    คำพิพากษาจะถูกโยนลงมาบนโลก จากนั้นเราจะออกเดินทางขนจิตทุกคนไปโลกใหม่...

    โลกเก่าจะถูกทำลาย โลกใหม่จะมาแทนที่(โลกภายใจ) และเริ่มเห็นผลทางกายภาพ(โลกมนุษย์)
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    หลายคนอาจสงสัยการขนย้ายดวงจิตไปโลกใหม่คืออะไร

    ก็คือแสงสว่างคุณงามความดีภายในจิตใจ ความมีศีลธรรม คุณธรรม ความรักความเมตตา ความเป็นหนึ่งเดียวกันค่ะ

    หากเป็นผู้ไม่มีศีลธรรม ไร้คุณธรรมมโนธรรม ไม่มีปณิธานแห่งนิพพาน มี่แต่ความโง่งมงายและม้กกระทำตนเป็นภัยต่อการปฏิบัติบำเพ็ญความดีงามของผู้อื่นเป็นอาจิณ ซึ่งเป็นแบบอย่างและเงื่อนไขที่ไม่ดีต่อผู้อื่นเสมอนั้น คือจิตวิญญาณผู้ถูกชำระ คือ กระทำตนเหลวไหล ไม่เอาไหน ไม่เอาถ่าน ล้มเหลวสิ้นเชิงในการทำหน้าที่ต่อโลกและต่อตนเอง
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
  6. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ไม่ต้องไปบอกคนอื่นหรอก...คนอื่นเขาถอดกายในได้...ดูแลใจเจ้าของไว้...ไปเร่งฝึกตน_ฝึกใจเจ้าของให้มากๆ...ภาวนาให้มากๆ...จะดีกว่านะเราว่า
     
  7. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เอาโค้งสุดท้าย ส่งการบ้านกัน
    ก็ว่าจะไม่เขียนอะไรแล้ว
    แต่มันก็บังคับให้เขียนอีก

    เราอยู่ในโลกนี้ มีเรือของพุทธะอยู่
    หมายถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ปรากฏอยู่ แม้จะมีคนบางพวกทำให้มันเพี้ยนไป
    แต่ก็มีสายที่ปฏิบัติถูกต้องยังปรากฏอยู่
    เช่นสายหลวงปู่มั่น ทำให้ธรรมแท้ปรากฏขึ้นมาใน
    โลกนี้อีก และได้การยอมรับกันอย่างกว้างขว้าง
    อยู่ในขณะนี้

    แล้วอยู่ๆ ไม่รู้เขาเป็นใครให้โดดขึ้นเรือเขา
    (คำสอนของเขา แล้วอ้างว่าจะพาไปแดนนิพพาน)
    มาในรูปแบบแม่ผู้ใจดี มาเสนอโลกใหม่ให้
    โดยการทำลายโลกเก่าไปก่อน
    นั้นหมายถึงทำลายคำสอนของพุทธะไปด้วย

    แล้วจะสอนทางไปนิพพานให้
    ทั้งที่เจ้าของเองยังไปไม่ถูกเลย
    ยังหลงอยู่ในแดนสมมุติแต่ดันเข้าใจ
    ว่าตัวเองอยู่แดนนิพพาน
    แล้วอยู่อย่างอ้างว้างเดียวดาย

    ในทางกลับกัน ลูกคนไหนบ้างจะช่วยแม่!!
    ออกจากหลุมพรางที่ติดอยู่

    แม่นั้นหวังดีอยากพาลูกกลับบ้าน
    แต่ลูกเห็นภัยในบ้านที่แม่อยู่

    จึงอยากพาแม่กลับบ้านที่แท้จริง
    บ้านที่ไม่ต้องโดดเดี่ยวเพียงลำพัง


    ฝั่งสมมุติ คือโลกธาตุอันกว้างใหญ่ ไม่มีขอบเขต
    เป็นที่อยู่ของดวงจิตที่มีอาสวะกิเลสห่อหุ้ม
    พาให้เกิดทั้งที่หยาบและละเอียด

    ฝั่งวิมุตติ คือ แดนเกษม เป็นที่อยู่ของดวงจิตที่
    หมดอาสวะกิเลสแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2018
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เข้าใจค่ะ งั้นจิตยิ้มขอชี้แจงเพิ่มเติมจากท่าน 00None00 ค่ะ

    แม่...ตามความหมายของท่านวันนั้นคือ ผู้สร้าง/แดนสุญญตา / สภาวะนิพพาน / หรือองค์ธรรมิกราชา ราชาแห่งธรรม ที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าธรรมทั้งปวง หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือศูนย์ธรรมโลกุตระ จุดกำเนิดเริ่มต้นของสรรพสิ่งทั้งปวงค่ะ

    เรือ.... ในที่นี้หมายถึง แสงสว่างภายในจิตใจ คุณงามความดีทั้งหลาย ที่เปรียบดั่งเป็นเรือภาชนะรองรับก้าวไปสู่โลกใหม่ มิติใหม่ ที่ถูกปรับระดับมิติให้สูงขึ้นจากเดิม จากมิติที่ 3 เป็นมิติที่ 5 อย่างนี้นะค่ะ

    โลกใหม่ กับโลกเก่า....

    โลกเก่า คือโลกยุคพลังงานเก่า ที่อยู่ในระดับมิติที่ 3 เป็นระดับมิติที่ต่ำที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถเปิดดวงตาที่สามเพื่อเรียนรู้แจ้งในสัจธรรม และทำให้หลุดพ้นได้ยากค่ะ

    โลกใหม่ คือ โลกยุคใหม่ ฟ้าใหม่ ก็เป็นเป็นโลกใบเดิม ที่มีฟ้าใหม่ ยุคใหม่ ในจักรวาลเดิม แต่ถูกยกระดับมิติให้สูงขึ้นกว่าเดิมด้วยพลังอำนาจแม่เหล็กโลกที่โครงข่ายสนามแม่เหล็กยกตัวสูงขึ้น เป็นผลให้มนุษย์ยุคนี้มีสติปัญญาหลุดพ้นกันได้ง่าย มิติจะถูกเปิดออกให้เข้าถึงสัจธรรมความจริงกันได้ง่ายกว่าเดิมค่ะ
    ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แบบที่ท่านกล่าวออกมาไม่เป็นไปอย่างที่ท่านเข้าใจค่ะ

    เพียงแต่เป็นการสื่อถึงให้เข้าใจว่า .... ผู้สร้างที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง เราทุกสิ่งล้วนมาจากจุดเดียวกัน คือดินแดนสุญญตานั่นเอง นี่เป็นการบอกกล่าวจากจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง หรือองค์ธรรมิกราชาว่า ปรารถนาให้ทุกดวงจิตธรรมญาณหลุดพ้นเข้าสู่ดินแดนอันเกษมสุญญตาดังเดิม การหลงเวียนว่ายในวัฏฏะมาเนิ่นนานแล้ว ยังไม่สามารถหาทางกลับนิพพานได้ การจากปรับยกระดับมิติเข้าสู่ระดับที่ 5 แสงธรรมโลกุตระจึงส่องลงมายังโลกอีกคราในยุคพลังงานโลกยุคใหม่นี้ เพื่อช่วยทุกกระแสดวงจิตธรรมญาณหลุดพ้น คืนสู่สภาวะเดิมค่ะ จิตยิ้มเข้าใจโดยนัยยะประมาณนี้ค่ะ
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    โค้งสุดท้าย
    อันนี้เล่นๆนะครับอย่าคิดมาก

    ผมว่าพวกที่ทำตัวเก่งกว่าพระพุทธเจ้ามีเยอะ

    ไม่ได้ว่าท่านจิตไม่ยิ้มนะคับ. อิอิ
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    จิตยิ้มเข้าใจว่าผู้มีบุญบารมีหลายท่าน ในหลังยุคกึ่งพุทธกาลนี้สามารถรับสื่อสารติดต่อกับจักรวาลได้ ด้วยความเมตตาของหลายท่านจึงนำมาบอกกล่าวกันค่ะ
     
  11. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ท่านก็เขียนของท่านไปแหละครับ
    ก็ท่านมาจากสำนักจิตจักรวาลนี้ครับ
    เขียนไปเถอะ ส่งการบ้านกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2018
  12. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    พูดให้น้อย..พูดแต่สิ่งที่ควรพูดจริงๆ...ใช้ความคิดพิจารณาให้มากๆก่อนโพสต์...จะได้ไม่เป็นโทษแก่ตัวเอง...จำไว้ให้ดี
     
  13. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ผมว่าญาณบางอย่างทำให้เจ้าของเพี้ยนก็มีครับ
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    กำเนิดโลกธาตุ มาจากไหน
    ผมไม่ทราบครับ
    ขนาดพระพุทธเจ้าท่านบอกไว้
    เบื้องต้นไม่ปรากฏ
    เบื้องปลายไม่ปรากฏ

    ขนาดพระโพธิญาณยังหาจุดกำเนิดไม่ได้เลยครับ

    ผมไม่รู้ว่า ท่านจิตยิ้ม เอามาจากไหน?
    ที่ว่าจุดกำเนิดเดียวกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2018
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    จิตยิ้มก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ

    แต่..แต่มีคำกล่าวที่ว่า.ธรรมะของพระพุทธเจ้าคือ อณู

    ได้ค้นหาคำตรัสสอนและพระสูตรมาให้ค่ะ ตาม link ข้างล่าง

    เรื่องน่าทึ่งของพระพุทธเจ้า...

    ก่อนที่วิทยาศาสตร์ จะค้นพบว่า อะตอมเป็นสิ่งที่เล็กที่สุดในโลก เชื่อหรือไม่ว่า พระพุทธเจ้าทรงเคย อธิบายเรื่องของปรมาณูไว้ โดยได้กล่าวไว้ว่า

    https://kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=13005

    และด้านล่างนี้คือ พระสูตรที่ทรงตรัสไว้ค่ะ

    https://www.dhammahome.com/webboard/topic/7291

    และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (หมายถึง คุณสมบัติแก่นแท้ของผู้สร้าง คือสัจธรรมคำสอนทั้งหลายทั้งปวงในพระโอวาททั้งหมดนั้น ซึ่งพระศาสดาแต่ละพระองค์ทรงนำมากล่าวถ่ายทอดเพื่อการสื่อสอนมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมานั่นเอง)

    คำว่า "ผู้สร้าง"

    เป็นสรรพสิ่งที่เล็กละเอียดที่สุด
    เป็นสรรพสิ่งที่ลึกเร้นเป็นที่สุด
    เป็นสรรพสิ่งที่อยู่ห่างไกลเป็นที่สุด


    การที่มองไม่เห็นตัวตนนั้น มันก็ไม่ต่างไปจากการที่มองไม่เห็นตัวตนของอิเล็คตรอนนั่นเอง

    กล่าวคือ "การมองไม่เห็นสรรพสิ่งใด มิได้หมายความว่าสรรพสิ่งนั้จะไม่มีจริงหรือไม่มีสิ่งนั้นเสมอไป"

    หากมนุษย์ยึดติดกับคำที่ว่า....

    "สิ่งใดที่ไม่เห็นหรือรับรู้ตัวตนของมันไม่ได้ แสดงว่าสิ่งนั้นต้องไม่มี"

    ให้เลิกยึดติดกับความมีตัวตนรูปลักษณ์ของสรรพสิ่งทั้งหลาย และให้เลิกหลงงมงายในการเชื่อตาหูจมูกลิ้นกายสัมผัสของมนุษย์ในทุกเรื่องราวกันเสียที

    อย่ายึดติดตัวตนรูปลักษณ์ใด ๆ เพราะมันคือ "มายา" เหตุที่กล่าวว่ามายาเพราะมันเป็น "เงา" หรือเปลือกนอกของแก่นแท้ที่แสดงให้เห็นว่า มันมีตัวตนแก่นแท้อยู่จริง ๆ ถ้าไม่มีตัวตนแก่นแท้นั้นอยู่จริง ๆ แล้ว มันจะปรากฎเงาหรือมายาของแก่นแท้นั้นให้สัมผัสรู้เห็นไม่ได้

    ตัวตนแก่นแท้ทุกรูปธรรมอันเป็นสรรพสิ่งที่ผู้กำหนดสร้างขึ้นไว้ในเอกภพ มันเป็นอนุภาคที่มีมวลหรือรูปธรรมที่เล็กละเอียดมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

    จากเหตุที่อนุภาคขนาดเล็ก ๆ มีการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องนี่เอง มันจึงก่อให้เกิดพลังอำนาจใหม่ หรือ พลังงานใหม่ขึ้นมา พลังงานใหม่นี้เป็นพลังงานด้านบวกหรือ "ความรัก" นั่นเอง

    มนุษย์ก็รู้กันอยู่แล้วมิใช่หรือว่า "ความรัก"เป็นอำนาจที่มีไว้ดึงดูดเหนี่ยวรั้งสรรพสิ่งอื่นที่อยู่ใกล้ตัวให้มารวมตัวเป็นพวกเดียวกันหรือเกาะเกี่ยวเหนี่ยวรั้งให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

    ถ้าอนุภาคเล็ก ๆ เหล่านี้มันสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ตามที่ผู้กำหนดสร้างให้มันเป็นเช่นนั้นแล้ว อำนาจด้านบวกที่จะใช้เกาะเกี่ยวรั้งอนุภาคของกันและกันไว้อย่างยาวนานมั่นคงมันก็จะดำรงเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป

    ถ้าอำนาจดึงดูดเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันมันยังคงมีอยู่ การดำรงตัวตนรูปลักษณ์ที่มีมวลหยาบ ๆ อันเกิดจากอนุภาคเล็ก ๆ น้อย ๆ จำนวนมากมายที่มาเกาะเกี่ยวเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นก็จะดำรงอยู่ว่ามีจริงตลอดไป

    แต่..ถ้าหยุดสั่นสะเทือนเมื่อใดอำนาจด้านบวกก็จะหมดไป การเกาะยึดติดกันก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ละอนุภาคจะแยกย้ายเป็นอิสระต่อกันไปในทันที สิ่งที่เคยและเห็นเป็นตัวตนมายาแต่เดิมก็จะสูญสลายหายไปด้วย

    มนุษย์จะสังเกตุได้ว่า ความมีตัวตนของสรรพสิ่งใด ๆ เพียงแต่ตาเปล่ามิอาจสัมผัสรู้ดูเห็นได้ว่ามันมีตัวตนแก่นแท้ดำรงอยู่จริง ที่สามารถพบเห็นได้กลาดเกลื่อนมี 2 ลักษณะ คือ

    1.เงาหรือมายาของแก่นแท้ที่ตั้งอยู่หรือดำรงอยู่อย่างยาวนาน เรียกสรรพสิ่งนั้นว่า "วัตถุหรือตัวตน"

    2.เงาหรือมายาของแก่นแท้ที่เกิดได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามหรือชั่วขณะ เช่น สายฟ้าแลบ จะเรียกเงาหรือมายานั้นว่า "ปรา กฎการณ์"

    ในการค้นหาผู้สร้างหรือจุดกำเนิดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง จะค้นพบตัวตนแท้จริงของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ หรือองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่ของเอกภพได้อย่างสง่างาม โดยการมองเห็นได้ด้วยปัญญาญาณ มิใช่ด้วยตาเนื้อ

    มนุษย์ยุคพลังงานเก่านำความสับสนต่อสิ่งที่แสดงออกของจุดเริ่มต้น/ผู้สร้าง แบ่งได้ 2 ลักษณะ

    1.ไม่เชื่อเรื่องจิตวิญญาณของตนว่ามีอยู่จริง
    2.เชื่อเรื่องจิตวิญญาณของตนว่ามีอยู่จริง


    การได้รับโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์นั้น หมายถึง การได้รับโอกาสมาสู่การเป็นคน สองมิติ นั่นเอง

    แต่มนุษย์กลับมากระทำตนเป็นคนมิติเดียว บ้าคลั่งกับโลกมิติแห่งมายาหรือมิติทางกายภาพด้านเดียว ศาสตร์ความรู้ทางโลกของมนุษย์ล้วนเป็นมวลมายาซึ่งเป็นขยะอันเกิดจากกิเลสตัณหาทั้งสิ้น

    สนามพลังงานเอกภพนี้จะเต็มไปด้วยสรรพสิ่งที่เป็นแก่นแท้ หรือรูปธรรมทางพลังงานอันเกิดจากการผสมผสานของคลื่นความถี่หลาย ๆ ความถี่ที่สมดุลกันเป็นรูปธรรมเดียว กับรูปธรรมทางพลังงานอิสระหรือคลื่นความถี่ทางพลังงานที่ยังไม่สมดุล และสรรพสิ่งที่เป็นวัตถุมวลหยาบ ๆ ซึ่งมีรูปลักษณ์ตัวตนแตกต่างกันและมีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกันอีกมากมายนับไม่ถ้วน

    และ...จิตจักรวาลดวงเล็กผู้เป็นแก่นแท้อันสูงส่งภาคแรกของดวงจิตธรรมญาณของมนุษย์แต่ละคน หรือจิตวิญญาณในความเป็นแก่นแท้ของมนุษย์ ล้วนกำเนิดมาจากผู้สร้าง คือ จุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งในดินแดนสุญญตา ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นมหาสุญญตา หมายความว่ามีอนุภาคคลื่นความถี่ที่เล็กละเอียดที่สุดในระดับที่แม้มีก็เหมือนไม่มี มีคลื่นความถี่การสั่นสะเทือนภายในรูปธรรมสูงสุด คือสั่นสะเทือนจนเหมือนไม่สั่นสะเทือน และมีอัตราการเหวี่ยงหมุนรอบตนเองสูงสุดสุด คือ หมุนก็เหมือนไม่หมุนแล้ว เป็นยิ่งกว่าความมีที่เหมือนไม่มีด้วยซ้ำ ก็คือ "แก่นแห่งความว่าง" ที่มิใช่ความว่างเปล่า ดำรงสภาวะนี้อยู่ในแดนสุญญตา ที่ทุกจิตวิญญาณล้วนกำเนิดมาจากสิ่งนี้นะคะ
     
  16. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ไม่บอกก็ไม่เป็นไรครับ

    ขอเดาเอาแล้วกัน
    (ความจริงก็ไม่ได้เดานะครับ)

    ก็ได้ความรู้มาจากแม่ในแดนธรรม
    หรือองค์ธรรมญาณนั้นแหละครับ

    พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาในโลกนี้
    ก็ใช้โพธิญาณส่องดูพวกนี้แหละ
    แล้วปล่อยไป
    องค์ใหม่มาแล้วส่องดูแล้วปล่อยไป

    เพราะอะไร?
    ก็เพราะพวกเขาเข้าใจว่าอยู่แดนโลกุตระ(นิพพาน)
    ธรรมที่มีอยู่ในตนก็เข้าใจว่าเป็นธรรมชั้นโลกุตระธรรม
    และเป็นใหญ่ในโลกธาตุ

    เพราะความเขัาใจแบบนี้
    พระพุทธเจ้าไม่ไปยุ่งด้วยเลยปล่อยไป

    ยิ่งทำให้เข้าใจผิดเรื่อยไป

    จนมาถึงยุคนี้จึงเล่นกัน
    ส่งตัวแทนมาเกิดในโลกนี้

    ชึ้นชื่อว่าเกิดก็ย่อมมีเชื้อเกิด
    ฝังอยู่ในจิต
    เรียกว่าถ้าอยู่แดนโลกุตระจริง
    แล้วทำไมยังเกิดได้อยู่?

    เพราะคำสอนพระพุทธเจ้า
    สอนพาสัตว์ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
    เรียกว่าข้ามฝั่ง

    ถ้ายังเกิดได้อยู่อย่างท่านจิตยิ้ม
    มาเกิดในโลกนี้อะไรพามาเกิด
    พิจารณาสิ
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    แสดงว่าท่านกล่องไม้ขีดไฟมีความเห็นว่าสิ่งที่จิตยิ้มนำมาลงนั้นยังไม่ใช่สภาวะนิพพานที่แท้จริงใช่ไหมคะ? เป็นเพียงจิตจักรวาล ที่เป็นใหญ่ในโลกธาตุ และเข้าใจว่าสภาวะที่ตนเองได้คือสภาวะนิพพาน และเข้าใจว่าเป็นธรรมชั้นโลกุตระ อ่านแล้วแปลความหมายของท่านเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า

    ท่านกล่องคิดว่าสภาวะที่จิตยิ้มนำมาลงนี้เป็นเพียงแค่... แค่อะไรดีล่ะ คือสภาวะนั้นที่ยังไม่ใช่นิพพานอย่างแท้จริง เป็นเพียงนิพพานรอบนอก และจิตจักรวาลนี้ยังลงมาเกิดได้อีก สภาวะนิพพานที่แท้จริง มีอีกสภาวะหนึ่งที่ยิ่งไปกว่าลึกลงไปอีก อย่างนี้หรือเปล่าคะ

    ถามก่อนว่าจิตยิ้มเข้าใจถูกหรือเปล่า
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207
    และสภาวะนิพพานนั้นเป็นแบบไหน ถ้าไม่ใช่สภาวะเช่นนี้นะค่ะ
     
  19. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เข้าใจถูกแล้วครับ
     
  20. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เอาเป็นว่าท่านไปทำลายเชื้อเกิดให้ได้ก่อนครับ
    แล้วจะสัมผัสสะภาวะนิพพานที่แท้จริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...