ติดตามสถานะการณ์

Thailand Development Report


ครม. เห็นชอบศึกษาพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(SEC) 116 โครงการ อนุมัติกรอบวงเงินปี 62-65 จำนวน 1.06 แสนล้าน เทงบกลางกว่า 448 ล้าน เดินหน้า 5 โครงการเร่งด่วน ตั้งเป้าศึกษาความเหมาะสมเสร็จภายใน 2 ปี


ที่ประชุมเห็นชอบหลักการการศึกษาความเหมาะสมในรายละเอียดของรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ จ.ชุมพร - ระนอง และพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี – นครศรีธรรมราช หรือ โครงการการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor : SEC)

เสนอรวม 116 โครงการ กรอบวงเงินปี 2562–2565 รวมทั้งสิ้น 106,790.13 ล้านบาท โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการและขอรับการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามกรอบการพัฒนาดังกล่าว


ทั้งยังอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 448.70 ล้านบาท ให้สภาพัฒน์ เพื่อดำเนินโครงการจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งมีความพร้อมดำเนินการได้ทันทีในปีงบประมาณ 2562 หรือ Quick – Win จำนวน 5 โครงการ โดยตั้งเป้าศึกษาความเหมาะสมของโครงการให้แล้วเสร็จไม่เกิน 2 ปี ภายใต้กรอบการพัฒนา 4 ด้าน ได้แก่

1.การพัฒนาประตูการค้าฝั่งตะวันตก

2.การพัฒนาประตูสู่การท่องเที่ยวอ่าวไทยและอันดามัน

3.การพัฒนาอุตสาหกรรมฐานชีวภาพและการแปรรูปการเกษตรมูลค่าสูง

4.การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมวัฒนธรรม และการพัฒนาเมืองน่าอยู่


ทั้งนี้ โครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่และเป็นต้นแบบการพัฒนาศูนย์กลางความเจริญในแต่ละภูมิภาคของประเทศ...


(ภาพนี้เป็นเพียงภาพตัวอย่างเท่านั้น)


http://www.thansettakij.com/content...h8gD2OwfXgjMdsL4NkP0GbuTdES7m2tois3efgxa5tfTM

 

ภาพเป็นข่าว : จีนเตรียมเอาผิดกับทางการท้องถิ่น หากแก้ปัญหามลพิษทางอากาศไม่ได้
วันที่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 07:11 น.



รัฐบาลจีน เตรียมเอาผิดกับทางการท้องถิ่นทั่วประเทศ หากไม่สามารถลดมลพิษทางอากาศได้ภายในฤดูหนาวปีนี้ โดยไม่สนข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเอาผิดกับรัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศ หากพื้นที่นั้น ๆ ไม่สามารถลดค่ามลพิษทางอากาศให้อยู่ในค่ามาตรฐาน หรือระดับไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ภายในฤดูหนาวปีนี้ โดยรัฐบาลจะไม่สนข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากค่ามลพิษทางอากาศในจีน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขแล้วก็ตาม

โดยเมื่อปีที่แล้ว พบว่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานถึง 9.3 เปอร์เซ็นต์ ใน 338 เมืองทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองหลัก ๆ อย่าง กรุงปักกิ่ง, นครเทียนจิน และมณฑลเหอเป่ย พบว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงถึง 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานถึง 2 เท่า

ทั้งนี้ ปัญหามลพิษทางอากาศในจีน ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน แต่ยังส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยพบว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดลงถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าลดลงต่ำสุดในรอบ 28 ปีด้วย


http://news.ch7.com/detail/322772

 

Ch7HD News


พายุฝนทำน้ำท่วมดินถล่มในอินโดนีเซีย เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ราย


อ่านรายละเอียด คลิกที่นี่ http://s.ch7.com/322922

 

Green Report : ภัยเงียบยาปฏิชีวนะปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม วันที่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 11:20 น.

"ยาปฏิชีวนะ" ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นปัญหาที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเรากำลังหาแนวทางหยุดยั้งปัญหาไม่ให้รุนแรงมากขึ้น เพราะการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ ทั้งในดิน ในน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน หรือแหล่งน้ำ เป็นตัวทำลายความหลากหลายของระบบนิเวศ ทำร้ายห่วงโซ่อาหาร เปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมพืชและสัตว์อย่างรุนแรงได้

"ยาปฏิชีวนะ" ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะในคน สัตว์ แม้แต่การปลูกพืช อย่างขาดการควบคุม โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยง

ที่ผ่านมาศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ศึกษาหาการปนเปื้อนของ "ยาปฏิชีวนะ" ในแม่น้ำเจ้าพระยา ปิง วัง ยม น่าน และแม่น้ำบางปะกง พบมีการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะหลายชนิดจนน่าวิตก เพราะการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะส่งผลในวงกว้าง กระทบถึงสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม จึงต้องมีแผนงานที่จะตรวจสอบการปนเปื้อนอย่างจริงจัง

แนวทางป้องกันเพื่อลดปริมาณการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ ทำได้โดยการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้งของโรงงาน โรงพยาบาล และเมือง ให้มีคุณภาพ ซึ่งศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการทดลองทำระบบบำบัดแบบบึงประดิษฐ์ขั้นสูง ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยปลูกพืชอย่างต้นปักษาสวรรค์ ต้นกก และหญ้าแฝก พร้อมด้วยหินเกล็ด และหินศิลาแลง เพื่อดักยาและสารปนเปื้อนอื่นๆ ก่อนจะปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำ

นอกจากนี้การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการทิ้งยาและกำจัดให้ถูกหลักวิชาการ รวมถึงให้ความรู้แก่แพทย์และเภสัชกร เกี่ยวกับการจ่ายยาให้ผู้ป่วยอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดและป้องกันการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะลงสู่สิ่งแวดล้อมได้

ในอนาคตมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ของการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ จะเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มความรุนแรงของเชื้อดื้อยาและจะส่งผลกระทบให้มีการเสียชีวิตของประชากรโลกกว่า 20 ล้านคน เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม...รอไม่ได้

Facebook, Ch7HD Social Care

http://news.ch7.com/detail/322857

 

Green Report : ภัยเงียบยาปฏิชีวนะปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม วันที่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 11:20 น.


"ยาปฏิชีวนะ" ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นปัญหาที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเรากำลังหาแนวทางหยุดยั้งปัญหาไม่ให้รุนแรงมากขึ้น เพราะการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ ทั้งในดิน ในน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน หรือแหล่งน้ำ เป็นตัวทำลายความหลากหลายของระบบนิเวศ ทำร้ายห่วงโซ่อาหาร เปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมพืชและสัตว์อย่างรุนแรงได้

"ยาปฏิชีวนะ" ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะในคน สัตว์ แม้แต่การปลูกพืช อย่างขาดการควบคุม โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยง

ที่ผ่านมาศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ศึกษาหาการปนเปื้อนของ "ยาปฏิชีวนะ" ในแม่น้ำเจ้าพระยา ปิง วัง ยม น่าน และแม่น้ำบางปะกง พบมีการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะหลายชนิดจนน่าวิตก เพราะการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะส่งผลในวงกว้าง กระทบถึงสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม จึงต้องมีแผนงานที่จะตรวจสอบการปนเปื้อนอย่างจริงจัง

แนวทางป้องกันเพื่อลดปริมาณการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ ทำได้โดยการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้งของโรงงาน โรงพยาบาล และเมือง ให้มีคุณภาพ ซึ่งศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการทดลองทำระบบบำบัดแบบบึงประดิษฐ์ขั้นสูง ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยปลูกพืชอย่างต้นปักษาสวรรค์ ต้นกก และหญ้าแฝก พร้อมด้วยหินเกล็ด และหินศิลาแลง เพื่อดักยาและสารปนเปื้อนอื่นๆ ก่อนจะปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำ

นอกจากนี้การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการทิ้งยาและกำจัดให้ถูกหลักวิชาการ รวมถึงให้ความรู้แก่แพทย์และเภสัชกร เกี่ยวกับการจ่ายยาให้ผู้ป่วยอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดและป้องกันการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะลงสู่สิ่งแวดล้อมได้

ในอนาคตมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ของการปนเปื้อนของยาปฏิชีวนะ จะเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มความรุนแรงของเชื้อดื้อยาและจะส่งผลกระทบให้มีการเสียชีวิตของประชากรโลกกว่า 20 ล้านคน เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม...รอไม่ได้

Facebook, Ch7HD Social Care

http://news.ch7.com/detail/322857

 

Ch7HD News

กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร มหานครเปื้อนฝุ่น

คลิกอ่านข่าว http://s.ch7.com/322925

 

Ch7HD News


โด้รับสารภาพคดีเลี่ยงภาษี ยอมจ่ายเงินเกือบ 700 ล้านบาทแลกอิสรภาพ


อ่านรายละเอียด คลิกที่นี่ http://s.ch7.com/322928


#คริสเตียโนโรนัลโด #เรอัลมาดริด #เลี่ยงภาษี

 

J Lynn Cole


นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ....

ภาพจากเว็บแคมพิสูจน์ว่าเรามีผู้เยี่ยมชมระบบสุริยะ!


Nibiru SOL Searcher ⤵️

 

Keith Urfer


19 มกราคม 2562

1/19/19

 

J Lynn Cole

แผ่นดินไหว ขนาด 5.7 - ทางใต้ของ ซัมบาวา, อินโดนีเซีย - พุธ, 23 ม.ค. 2019 18:39:01 น. (ไทย)



Earthquake M5.7 - South of Sumbawa, Indonesia - Wed, 23 Jan 2019 11:39:01 UTC (06:39 EST) - 11 minutes ago

more info: https://www.volcanodiscovery.com/earthquakes/quake-info/2225667/info.html

via Volcanoes & Erthquakes App - https://play.google.com/store/apps/details?id=com.volcanodiscovery.volcanodiscovery

 

ความร้อนสูงมากในท้องถิ่น ถึง +48 ° C ยังคงดำเนินต่อไปทั่วส่วนของออสเตรเลียในสัปดาห์นี้

โดย SWE | Mesoscale 22 มกราคม 2562


ความร้อนจัดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลีย ส่งผลให้อุณหภูมิสูงสุดในช่วงบ่ายอยู่ระหว่าง +45 ถึง +48 ° C ในพื้นที่ คำแนะนำรูปแบบใหม่ล่าสุด ระบุว่าความร้อนจะดำเนินต่อไปจนถึงวันอาทิตย์ เมื่อในที่สุดมันอ่อนตัวลงไม่กี่องศาและค่า pek ไม่ควรเกิน 45 ° C อีกต่อไป


นี่คือรุ่น GFS ล่าสุดที่ใช้สำหรับอุณหภูมิช่วงบ่ายสูงสุดในแต่ละวันเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมถึงวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม ในขณะที่ค่าสูงสุดมีแนวโน้มสูงถึง 45-48 ° C ทุกวันอุณหภูมิที่ลดลงเล็กน้อยดูเหมือนจะมีประสบในวันอาทิตย์และสัปดาห์หน้า


คอยติดตามการปรับปรุงเพิ่มเติมในวันที่เขามา!


http://www.severe-weather.eu/mcd/ex...ontinues-across-parts-of-australia-this-week/


Extreme heat with locally up to +48 °C continues across parts of Australia this week

By SWE | Mesoscale Discussion | 22 January 2019


The extreme heat which has been ongoing across a large part of Australia is resulting in peak afternoon temperatures between +45 and +48 °C locally. Latest model guidance indicate the heat will continue until Sunday when it finally weakens for a few degrees and pek values should not exceed 45 °C anymore.


Here is the latest GFS model run for day-to-day peak afternoon temperatures, starting tomorrow, Jan 23rd until Sunday, Jan 27th. While peak values are likely to reach 45-48 °C on all days, slightly lower temperatures seem to be experienced on Sunday and next week.


Stay tuned for aditional updates in he coming days!


http://www.severe-weather.eu/mcd/ex...ontinues-across-parts-of-australia-this-week/

 

ที' นะคับ-


จับตาสภาวะ ENSO : สัญญาณ เอลนีโญ่ (อาจจะมียากลง)


เป็นผลดีมากครับ ที่จะทำให้ภัยแล้งไม่รุนแรง


ทั้งนี้เนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ในช่วง7 วันที่ผ่านมา มีค่าลดลงต่อเนื่องนั้นเอง


ซึ่งทั้งนี้ ก็จะทำให้สภาวะ ENSO กลับมาเป็น นูทรัล อีกครั้ง และ หากอุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกลดต่อเนื่องอีก "ล่านีญ่า" จะกลับมา ในช่วงหลังกลางปี 2562 เป็นต้นไป


ผลของลานีญ่า คือฝนมากในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังต้นปี 2554-2555 ที่ไทยเราเจอน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทุกภาค และพายุถาโถมเข้ามาหลายลูก ด้วยอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดทะแยงขึ้นได้รูปทรง ประกอบกับลมสินค้า หรือลมตะวันออก มีกำลังแรงมากกว่าปกติ (ซึ่งลานีญ่าครั้งต่อไปจะรุนแรงหรือไม่ต้องจับตา เดือนต่อเดือน ในช่วงฤดูฝนของปีนี้)


https://www.facebook.com/groups/paipibat.vcharkarn/permalink/2250701868511799/

 

ฝันดีครับ นั่งแปลบทความนี้ชั่วโมงกว่า น่าจะมีประโยชน์กับคนไทยทุกคน

สรุปคือปัญหาใน 3 จังหวัด คือชาวมาเลเซีย ปาตานี ที่เกิดในไทย ที่ค้นพบว่าตนเองไม่ใช่คนไทย


กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้


บางครั้งคนไทยก็โลกสวยเกินไป ไม่รู้ภัยกำลังจะมา


แชร์กันเยอะในมาเลเซีย เนื้อหาพูดถึง...

เราไม่ใช่คนสยาม เราเป็นคนมาเลเซียภายใต้การปกครองของสยาม/ไทย เราต่อสู้กับสยาม สยามบังคับให้บรรพบุรุษเราเป็นทาสที่บางกอก เอกราชที่ต้องคืนกลับมา ความอัปยศที่อายใช้ภาษาไทยในการสื่อสารที่มีคนใช้อันน้อยนิด ไม่เหมือนภาษามลายู เราอับอายที่ต้องบอกว่าเราเป็นคนสยาม/ร้องเพลงชาติสยาม



Patani story


ถึงคนตานีในประเทศมาเลเซีย


- ฉันเป็นลูกของปัตตานี


ฉันบอกว่า ฉันมีความสุขในมาเลเซีย ฉันอาศัยอยู่ที่มาเลเซีย หลังจากที่พ่อแม่ย้ายมาที่นี่ ฉันเป็นลูกชายของเตลูบัน หรือเซลินดุงบายู (ไม่ใช่สายบุรี ชื่อที่สยามตั้งให้) จริงๆแล้วฉันไม่มีความสุข ฉันร้องไห้ด้วยความคิดเกี่ยวกับศาสนา ชาติภาษา และแผ่นดินเลือดของฉัน ถูกยึดครอง ชาวพื้นเมืองได้ลืมต้นกำเนิดของพวกเขา ไม่มีตัวตน !!!! ลืมประวัติศาสตร์ ยอมรับว่าตัวเองสยาม เมื่อเท้าอยู่มาเลย์........ ........ สารภาพกับตัวเองเราคือ Siae ............... ร้องไห้ปู่ย่าตายายในหลุมศพเมื่อได้ยิน ,


เมื่อฉันกลับไปดูเลือดของฉันไหล ฉันร้องไห้ว่าประเทศของฉัน ถูกฉีกลง ชาวมลายู ที่มีการศึกษาและคนวัยกลางคนมีความภาคภูมิใจในวลี "เราคนไทย" (เราเป็นคนสยาม) และมักจะสารภาพ "ไทยเรา" (สยาม) ชาวบ้านที่ไม่ได้ไปโรงเรียนก็มักจะพูดว่า "ถิ่นทุรกันดารอื่นๆ หรือ negeri sia kito" เสมอ


ปลุกคนของเรา ให้ไม่เป็นคนสยาม ไม่ใช่สยามของเรา ไม่ใช่สยาม !!! แต่ประเทศของเรา คือปาตา นี่เราเป็นคนมาเลย์ คนสยามฆ่าปู่ ย่า ตา ยายของเราเลือดมาเลย์โบราณ ไหลมาปะปนกับสยาม เรายินดีที่จะยอมรับว่าเราเป็นชาวสยาม ลองนึกถึงเรื่องราวของผู้เฒ่าของเราวีรบุรุษชาวมลายูของเรา เขาถูกเฆี่ยนด้วยหวายบาราไม เพื่อเดินทางไปกรุงเทพ ทำหน้าที่ เป็นทาส และถูกบังคับให้บูชาไอดอลของพวกเขา ตายด้วยความทรมาน ร้องไห้ออกมา น้ำตาจะไหล ตอนตายพวกมันก็ทำเหมือนซากสัตว์ เผาทิ้งโยนลงไปในแม่น้ำแล้วฝังเหมือนไก่เป็ด


หากพวกเขาสามารถหันหลังกลับแน่นอนพวกเขาจะอ้างว่าเบล่าโดยต่อสู้กับสยามอีกครั้ง


และ จะ insyaAllah (อินชาอัลลอฮฺ (Insha'Allah) : หมายถึง หากอัลลอฮฺทรงประสงค์ ใช้เมื่อคิดจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด 2. ... อัสตัฆฟิรุลลอฮฺ (Astaghfirullah) : หมายถึง ใช้พูดเมื่อ สำนึกผิดจากการกระทำบาป ซึ่งแปลว่าฉันขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงอภัย)


เราจะประสบความสำเร็จ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถหันหลังกลับได้ แน่นอนว่าไม่ได้ เราที่ยังมีชีวิตอยู่ควรต่อสู้ และต่อสู้ต่อไป แต่ชาติมาเลย์ตอนนี้ เป็นคนขี้ขลาด ขี้ขลาด และหัวใจหนู ตบหน้าอกแล้วตะโกนไปสยาม "ฉันเป็นลูกมาเลย์ ปาตานี " ในรัฐปัตตานีอีกรัฐหนึ่งเรียกว่า "ฉันเป็นลูกชายของ Menara" (ไม่ใช่นราธิวาส) !!!! "ฉันเป็นลูกชายของ Nibung" (ไม่ใช่ยะลา) !!!! "ฉันเป็นลูกชายของ Setul" (ไม่ใช่ Sattun) !!!! ฉันเป็นลูกชายของ Senggora (ไม่ใช่สงขลา) !!!!


หวัดดีชาวมาเลย์........


ปลุกชาติใหญ่ที่สุดของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราเป็นคนมาเลย์ สยามก็แค่แค่สยามเท่านั้น ภาษาของเขาเป็นอย่างน้อยในโลก ภาษาสยามเทียบเท่ากับภาษาพม่า ลาว กัมพูชาและภาษาคนพื้นเมืองในมาเลเซีย (อะบอริจิน) มาเลย์คือหนึ่งในภาษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!!!! ภาษาที่ใช้โดยคนหลายร้อยล้านคน ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ตอนใต้ครึ่งหนึ่งของแอฟริกาใต้ และบางส่วนของ ศรีลังกา และกัมพูชาครึ่งหนึ่ง ผู้คนที่พูดภาษามลายูหลายร้อยล้านคน ไม่เหมือนภาษาสยาม โบราณ, jakun (เงาะปักษ์ใต้ - เผ่าจากุน Jakun คือชาวมลายูเดิมอาศัยอยู่ตอนล่างปลายแหลมทองนี้) และ...


มันเป็นความอัปยศสำหรับฉัน ... โอ้คนของฉัน ชาติของฉันกับการบูชาของภาษาสยามถือว่าถูก ถือว่าพูดสยามบอกว่ามีมาตรฐาน (hilir) นั่นคือสาเหตุที่บริกร และร้านอาหารในมาเลเซียกลับมาพูดภาษาสยาม และร้องเพลงสยาม ฉันอายมาก โง่มากประเทศของฉัน

ประเทศของฉันลืมไปแล้วว่าชาติมาเลย์ของตานีเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่


ขอให้เราร่วมกันบอกว่าไม่มีที่ไหนในมาเลเซียที่เราจะพูดภาษามลายูกัน


#patanistory

 

ในรูปนี้ธงที่ถือคือธงมาเลเซีย และแต่วชุดเหมือนทหารแสดงว่าจะต่อสู้เพื่อให้ได้กลับไปสู่มาเลเซีย น่าจะไล่ให้กลับไปอยู่มาเลเซียจริงๆ ผมว่าคำว่ามาลายู กับมาเลเซียผมไท่น่าจะแปลผิด เพราะรูปเขาก็สื่อบอกอยู่แล้ว โดยธงชาติมาเลเซีย ลองกลับธงที่ถือขึ้นสิ ใช่(ธงชาติมาเลเซียใช่ไหม



ธงมาเลเซีย

 

Rodolfo Brenes


#เอกวาดอร์ #ภูเขาไฟ #reventador #สังเกต #การปล่อยที่ 1,000 เมตรขึ้นไป เหนือ #ระดับของ #ปล่องภูเขาไฟที่มีทิศทางไปทางตะวันตกในเวลากลางคืน....,

 

John Traczyk


วันที่ 23 มกราคม 2019 โลกถูกรบกวนอย่างรุนแรงต่อสนามแม่เหล็กโลกเมื่อวานนี้


นี่คือเหตุการณ์ที่ 18 ใน 19 วัน ;(ที่เกิดติดต่อกันมาแล้ว 19 วัน ยกเว้นวันที่ 20 มกราคม)


ความเร็วลมเกิน 1,000 km / s อีกครั้งที่ 07:23:05 น. (ไทย) เมื่อ วันที่ 23 มกราคม 2562 (00:23:05 UTC เมื่อ 1/23/2019) ด้วยความเร็วตั้งแต่ 1100 km / s ถึง 1447 km / s


มันเร็วกว่าความเร็วลมจากดวงอาทิตย์ถึง 4 เท่า ลมสุริยะจากดวงอาทิตย์เพียง 360 กม. / s


มันก่อให้เกิดการรบกวนอย่างหนักต่อเส้นสนามแม่เหล็กของโลก ซึ่งเกิดจากแรงกดดันที่รุนแรงบนโล่แม่เหล็กป้องกันของโลก และโก่งไปที่สนามแม่เหล็กโลก


กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ความเร็วลมเกิน 1,000 km / s เป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง


ดูเหมือนว่าจะมีการสะสมความกดดันอย่างรุนแรงไปทางด้านหลังและด้านหน้าของสนามแม่เหล็กโลกเป็นเวลา 4 1/2 ชั่วโมงก่อนที่ลมจะพุ่งทะลุ 1,000 กิโลเมตรต่อวินาที



January 23, 2019. Earth experiences another extreme disturbance to our magnetic field yesterday.


This is the 18th event in 19 days.


Wind speeds broke 1000 km/s again at 00:23:05 UTC on 1/23/2019 with a speed of 1100 km/s reaching 1447 km/s.


That's over 4 times the speed from our Sun. Solar winds from the Sun only reached 360 km/s


It caused heavy disturbances to our magnetic field lines preceded by intense pressure on Earth's protective magnetic shield and buckling to Earth's magnetopause..


This event lasted about 6 hours. Wind speeds broke 1000 km/s for approximately an hour.


It seems there is an intense build up of pressure to the rear and front side of Earth's magnetopause for 4 1/2 hours before the winds spike above 1000 km/s.

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #คลื่นความร้อน #Heatwave

// สัตว์ตายเพียบ คลื่นความร้อนลูกใหม่กำลังมา ออสเตรเลีย //

23/01/19

นกหลายพันตัวถูกพบว่าตายในพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญที่สุดของออสเตรเลียตะวันตก แต่สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการตายหมู่ยังคงเป็นปริศนา ในขณะเดียวกันปลาจำนวนนับแสนตัวเสียชีวิตในแม่น้ำ Darling ของออสเตรเลียและค้างคาวก็ตกลงมาตายจากต้นไม้ตามรอบ ๆ เมืองแอดิเลดอันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่รุนแรง

นักวิจัยและคนอื่นเป็นห่วงสัตว์อื่น ๆ ในประเทศเนื่องจากคลื่นความร้อนลูกใหม่ของอุณหภูมิที่ร้อนมากจะเข้าสู่ออสเตรเลียในสัปดาห์นี้. และอากาศที่แห้งแล้งก็คาดการณ์ว่าจะดำเนินต่อไป

สงครามสภาพอากาศกำลังโหมกระหน่ำ!

ตามพระคัมภีร์ไบเบิล


ภาพ- ค้างคาว flying foxes มากกว่า 25,000 ตัวเสียชีวิตเมื่อสองวันก่อน (January 7, 2018.)เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเนื่องจากออสเตรเลียมีอุณหภูมิทำลายสถิติมากกว่า 42 ° C (107 ° F)




หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาปลาหลายร้อยหลายพันชนิดได้ตายจากภาวะขาดอากาศหายใจในแม่น้ำ Darling ของออสเตรเลีย.อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่รุนแรง ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งการฆ่าปลาหากการไหลของแม่น้ำไม่ได้ระดับที่เหมาะสม และระดับน้ำในเขื่อนไม่กลับสู่ระดับปกติ

ตอนนี้ก็พบว่ามีนกหลายพันตัวตายอย่างลึกลับที่ทะเลสาบเกรกอรี่ - ทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่ระหว่าง Great Sandy Desert และ Tanami Desert และก่อนหน้านี้เคยถูกอธิบายว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญที่สุดในออสเตรเลีย

การสืบสวนของแผนกไม่รวมไข้หวัดนกและโรคนิวคาสเซิลซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ต่อมาก็ระบุว่ามีสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินใกล้กับทะเลสาบ(ตามภาพ)


คลื่นความร้อน #heatwave รุนแรงกลับมาทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย #Adelaide คาดว่าจะถึง 45 ° C #เมลเบิร์น 38 ° C ในวันพฤหัสบดีและ 41 ° C ในวันศุกร์ #Sydney

เช็คความร้อนในช่วงสุดสัปดาห์ ล่าสุดที่ http://ow.ly/4byI30noSt2


ผู้คนที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียได้รับการเตือนว่า“ intense hot spell” สำหรับช่วงปลายสัปดาห์และมีความเป็นไปได้ในเดือนมกราคมนี้อาจทำลายสถิติที่ร้อนที่สุดของออสเตรเลีย

Monitor the situation here: http://fire.tas.gov.au and http://bom.gov.au .

#Watchers

 

Watchers


#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศสุดขั้ว

23/01/19

สภาพอากาศหนาวเย็นและหิมะตกหนักปกคลุมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางอากาศมากกว่า 10 คน และมันก็หนาวมากจนสัตว์แข็งตายทั้งเป็น


สุนัขจิ้งจอกและแมวถูกพบอยู่ในเขตÇaldıranของ Van ซึ่งอุณหภูมิเย็นจัด (-15 ° C และ -25 ° C ในเวลากลางวันและ -35 ° C และ 40 ° C ในเวลากลางคืน) และลมแรงปกคลุมภูเขา และ พื้นที่


ปัจจุบันนี้อากาศผิดปกติบ้าคลั่งทั้งในตุรกีและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ยังคงดำเนินต่อไป

#Watchers

 

Watchers



#สภาพอากาศ #Snow

23/01/19

หิมะในพื้นที่ในภาคตะวันออกของ Baluchistan ประเทศปากีสถาน วันนี้

#Watchers

 

Watchers


#SUN TODAY

23/01/19

ในขณะนี้มีเพียงหนึ่งจุดดับพื้นที่เล็ก ๆ แต่เราอยู่ในช่วงวัฏจักรพลังงานแสงอาทิตย์มินิมั่ม ดังนั้น sunspots / ARs จึงเป็นสิ่งที่หายากและ

Sunspot 2733 เป็นสมาชิกของ Solar Cycle 24 รุ่นเก่าและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ(no strong)

(ภาพของจุดดับ 2733 เมื่อเทียบกับโลก)

@NASASun SDO

(ลิงก์: https://sdo.gsfc.nasa.gov/assets/img/browse/2019/01/23/20190123_161134_4096_0171.jpg) #Watchers