ติดตามสถานะการณ์

Severe Weather Europe

หิมะเยอะมากใน linza, จังหวัดทางเหนือ, สเปนเมื่อวาน, วันที่ 29 มกราคม - ขอบคุณ brahin oscameteo สำหรับรายงาน!

 

Severe Weather Europe ได้แชร์โพสต์

พายุหิมะใน บรู๊คลิน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันนี้ 30 มกราคม รายงาน: Curake79 ผ่าน Meteo Reporter Storm

 

Severe Weather Europe

หิมะสด หนา 50 ซม. ทั่ว Bosanski Petrovac (Rašinovac), บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา ใน 48 ชั่วโมง ที่ผ่านมา - ขอบคุณ Armin Gutlić สำหรับรายงาน!

 

Severe World Weather



ระเบิดขั้วโลกและการแช่แข็ง ในแมนฮัตตัน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันนี้ 30 มกราคม รายงานผ่าน Catastrofes Mundiales

 

Severe Weather Europe ได้แชร์โพสต์

ดินถล่มหลังจากฝนตกชุกใน Pomarico, Basilicata, S อิตาลีเมื่อวันที่ 29 มกราคม รายงาน: Carmela Bozza

https://www.facebook.com/groups/1228786473947374/permalink/1228832443942777/

 

Watchers



#ฝุ่นละออง #PM25 #Technology
31/01/19
เครื่องฟอกอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ซึ่งเปิดใช้มานาน 1 ปีแล้ว
ช่วยฟอกอากาศในรัศมี 10 กิโลเมตร
ในวันที่ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน เครื่องนี้สามารถลดฝุ่นละอองได้ถึง 25%
เทียบกับการฉีดละอองน้ำ ลดได้ 5%

รัฐบาลจีนแก้ปัญหาได้ดีมาก
เครดิต : AsinayBnn #Watchers

 

Watchers


#สภาพอากาศโลก
30/01/19
มีหิมะจำนวนมากในยุโรป ใน #ฝรั่งเศส จากนอร์มังดี ถึง ปารีส #Paris ถูกปกคลุมด้วยสีขาว
ภาพหิมะตกในพระราชวังแวร์ซาย
Credit @SpecialToursCOM
#Watchers

 

Watchers

#ฝุ่นละออง #Microdust #PM25
// ระเบิดลูกโป่ง..แทนประทัด ลด PM2.5 ที่จีน //

30/01/19
จีน -เดี๋ยวนี้เมืองจีน เขาหลีกเลี่ยงละอองฝุ่น PM2.5 ไม่จุดประทัดกันแล้ว

คลิปนี้เป็นภาพการใช้ลูกโป่งแทนประทัด เครื่องดอกไม้ไฟยอดนิยมในงานมงคลของชาวจีน โดยจากคลิปวิดีโอผู้จัดทำได้เป่าลูกโป่งสีแดงจำนวนมาก ก่อนร้อยใส่เชือกยาวนับสิบเมตร และดึงลูกโป่งผ่านป้ายตัวอักษรมงคลคู่ (ซวงสี่; 喜喜) เพื่อทำให้เกิดเสียงคล้ายประทัด

สำหรับคลิปดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความชื่นชม โดยระบุว่าถือว่าเป็นการคิดค้นที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่าการจุดประทัดปกติ รวมถึงยังมีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าด้วย

หลายปีที่ผ่านมา การจุดประทัดและดอกไม้ไฟในช่วงเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีน ได้ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศในหลายๆเมืองทั่วประเทศจีน จนทำให้กระทรวงป้องกันสิ่งแวดล้อมของจีนต้องออกประกาศห้าม หรือเข้มงวดกับการจุดประทัด และการจุดดอกไม้ไฟมากขึ้น เพื่อลดปัญหาด้านมลภาวะ.-
Cr: tnamcot news #Watchers
แอดไปเดินห้างมีชุดกงเต๊กขายเป็นแถบๆ น่ารณรงค์ #ตรุษจีนไม่เผา

 

งามไส้!!นางแบบสาวสอนเซ็กซ์พัทยายอมรับปั้นเรื่องเทปลับ'รัสเซีย-ทรัมป์'หลอกพ้นคุกไทย เผยแพร่: 31 ม.ค. 2562 04:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ฟ็อกซ์นิวส์ - นางแบบสาวชาวเบลารุส ซึ่งถูกจับฐานลักลอบเปิดคอร์สสอนเพศสัมพันธ์ในโรงแรมเมืองพัทยาเมื่อต้นปีที่แล้ว และอ้างมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯสมคบคิดกับรัสเซียระหว่างศึกเลือกตั้งปี 2016 สารภาพในวันพุธ(30ม.ค.) ว่าเธอแต่งเรื่องขึ้นมา เพื่อเอาชีวิตรอดตอนที่ถูกคุมขังในไทย

อนาตาเซีย วาชูเควิช ต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังไทยเป็นเวลานานหลายเดือนเมื่อปีที่แล้ว โทษฐานลักลอบเปิดคอร์สสอนเพศสัมพันธ์ในโรงแรมเมืองพัทยา และตกเป็นข่าวพาดหัวครึกโครม หลังเธอออกมาอ้างว่ามีหลักฐานว่ารัสเซียร่วมมือกับทีมหาเสียงของทรัมป์

เธอร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐฯช่วยเธอให้ได้รับอิสรภาพจากการถูกจองจำในไทยและอนุมัติคำขอลี้ภัยเพื่อแลกกับเทปบันทึกเสียงซึ่งเธออ้างว่าเป็นเสียงสนทนาของ โอเลก เดริพาสกา มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เกี่ยวกับการแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งนี้เธออ้างตัวว่าเป็นโสเภณีชั้นสูงและ เดริพาสกา เป็นหนึ่งในลูกค้าของเธอ

หลังถูกเนรเทศออกจากไทยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา วาชูเควิช โดนควบคุมตัวตามข้อกล่าวหาค้าประเวณี ก่อนต่อมาเธอจะได้รับอิสรภาพ หลังคณะสืบสวนตัดสินใจปล่อยตัวโดยไม่จำเป็นต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ระหว่างกระบวนการสืบสวนเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามล่าสุด นางแบบสาวรายนี้ออกมายอมรับแล้วว่าเรื่องราวของเธอนั้นเป็นเพียงการปั้นแต่งขึ้นมา ในความพยายามดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชนและปกป้องชีวิตของเธอระหว่างที่ถูกคุมขังในไทย "ฉันคิดว่ามันช่วยปกป้องชีวิตฉัน ฉันเสียใจกับมันหรือไม่นะเหรอ? ถ้าพวกผู้สื่อข่าวไม่ออกมาในตอนนั้นและเรื่องราวไม่ปรากฏอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ บางทีตอนนี้ฉันอาจตายไปแล้วก็ได้" เธอบอกกับซีเอ็นเอ็น

วาชูเควิช เล่าต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัสเซียได้ขอให้เธอเลิกพูดเกี่ยวกับเดริพาสกาอีกต่อไป "พวกเขาชี้แจงให้ฉันฟังอย่างชัดเจนว่าอะไรที่ฉันควรทำ อะไรที่ฉัควรพูดและอะไรที่ฉันไม่ควรพูด พวกเขาบอกกับฉันว่าอย่าแตะต้อง โอเลก เดริพาสกา อีก"

ระหว่างที่เธอถูกควบคุมตัวระยะเวลาสั้นๆในมอสโก เธอยังให้สัญญากับศาลรัสเซียด้วยว่าจะไม่เผยแพร่บันทึกเสียงเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับ เดริพาสกาและร้องขอให้เขายกโทษให้ "จะไม่มีบันทักเสียงเกี่ยวกับโอเลก เดริพาสกา อีก ฉันไม่ขอพัวพันกับเขาอีก ดังนั้นเขาสบายใจได้ แน่นอน ฉันพอแล้ว"

เดริพาสกา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสหายใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน โดยเขาเคยทำงานร่วมกับ พอล มานาฟอร์ต ประธานทีมหาเสียงของทรัมป์ ผู้ซึ่งถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงภาษีและธนาคารเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ เดริพาสกา ปิดปากเงียบในเรื่องเกี่ยวกับ วาชูเควิช โดยบอกแต่เพียงว่าเขาไม่ได้มีสัมพันธ์สวาทกับเธอ
https://mgronline.com/around/detail/9620000010636

 

เฟดคงดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณชัดใส่ใจความกังวลภาวะเศรษฐกิจ เผยแพร่: 31 ม.ค. 2562 03:34 ปรับปรุง: 31 ม.ค. 2562 05:10 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิมในวันพุธ(30ม.ค.) และระบุด้วยว่าจะ "อดทน" ต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆในอนาคต ในการส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมาว่าธนาคารกลางแห่งนี้ใส่ใจความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ

แม้เฟดคาดหมายว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวและตลาดงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งคือ "ผลลัพธ์ซึ่งเป็นไปได้มากที่สุด" แต่ในถ้อยแถลงก็ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มการเติบโตในอนาคตเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ

"จากสถานการณ์ทางการเงินและเศรษฐกิจโลก และแรงกดดันเงินเฟ้อที่ซึมเซา คณะกรรมาธิการจะอดทนต่อการตัดสินใจต่างๆ ทั้งกรอบเวลาและความจำเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม" คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินเฟด(FOMC) ระบุ

ในถ้อยแถลงแยกกัน ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เฟดยังเผยด้วยว่าเตรียมจะปรับเปลี่ยนระดับลดการถือครองตราสารหนี้ของพวกเขา หลังจากตลาดเริ่มมีความกังวลว่ากระบวนการในปัจจุบันนั้นไม่มีความยืดหยุ่นพอ

ภาษาที่ใช้ในถ้อยแถลงของ FOMC ในครั้งนี้ ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ถึง 2.5% สะท้อนให้เห็นว่าเริ่มมีความรู้สึกมากขึ้นว่าบางทีเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจถึงจุดพีคสุงแล้ว โดยทางคณะกรรมการกำหนดนโยบาย ใช้คำว่า "เศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง" แทน "อัตราการเติบโตแข็งแกร่ง" ที่เป็นจุดสำคัญของถ้อยแถลงก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน ถ้อยแถลงของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ผลสรุปของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดครั้งแรกในปีนี้ เป็นไปตามที่คาดหมายเอาไว้ หลังจากพวกนายธนาคารกลางต่างส่งสัญญาณในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าพวกเขามีความตั้งใจก้าวย่างอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมใดๆ แต่การใช้ภาษารอมชอมผิดปกติถือว่าน่าประหลาดใจไม่น้อย

FOMC ปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่ด้วยเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว ท่ามกลางสงครามการค้ากับจีน กระตุ้นให้พวกเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะใช้เวลาวัดสมรรถภาพทางเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ

ภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนยาวนานถึง 5 สัปดาห์ได้ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีเช่นกัน แม้คาดหมายว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาได้

เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เขย่าขวัญในตลาดซ้ำๆ ผ่านความเห็นที่ถูกตีความว่าเขามองในแง่ดีเกินไปและแย้มถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม

https://mgronline.com/around/detail/9620000010634

 

ผู้นำสโลวาเกียเผยไม่มีหลักฐานว่า “หัวเว่ย” เป็นภัยต่อความมั่นคง เผยแพร่: 30 ม.ค. 2562 22:05 ปรับปรุง: 31 ม.ค. 2562 01:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี ปีเตอร์ เปเยกรินี ของสโลวาเกีย ระบุในวันพุธ (30 ม.ค.) ว่า ประเทศของเขาไม่คิดว่าบริษัทโทรคมนาคมแดนมังกร “หัวเว่ย” เป็นภัยต่อความมั่นคง และจำเป็นจะต้องมีหลักฐานก่อนว่าเทคโนโลยีของบริษัทนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยง ถึงจะดำเนินการตั้งข้อจำกัดใดๆ

หัวเว่ยกำลังถูกหลายประเทศตั้งแง่ในเรื่องความสัมพันธ์ที่มีต่อรัฐบาลจีน รวมถึงถูกกล่าวหาว่า รัฐบาลจีนอาจใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยสำหรับทำการสอดแนม ซึ่งทางหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

ยุโรปกลายเป็นจุดสนใจล่าสุดสำหรับท่าทีที่มีต่อหัวเว่ย หลังจากโปแลนด์จับกุมลูกจ้างของหัวเว่ยรายหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าทำการสอดแนม ส่วนที่เยอรมนีก็กำลังถกเถียงกันอยู่ว่าจะเดินตามรอยเท้าอเมริกาและพันธมิตรหรือไม่ สำหรับการตั้งข้อจำกัดต่อเทคโนโลยีของหัวเว่ยไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่ายโทรคมนาคมเจเนอเรชันใหม่

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังถูกตัดออกจากการประกวดราคา ทำแทกซ์พอร์ทัลให้กับสาธารณรัฐเช็ก เพราะหน่วยงานเฝ้าระวังด้านไซเบอร์ของเช็กได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่หัวเว่ยจะเป็นภัยต่อความมั่นคง

นายกรัฐมนตรี ปีเตอร์ เปเยกรินี ของสโลวาเกีย ถูกถามที่งานแถลงข่าวในวันพุธ ว่า เขามองหัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ หลังจากที่เช็กทำแบบนั้น

“เราไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานความมั่นคงของสโลวาเกียที่จะใช้เป็นหลักฐานได้ว่าบริษัทนี้จะเป็นภัยต่อความมั่นคง” เปเยกรินี บอกนักข่าว

“ถ้าเราอยากจะคุยเรื่องความมั่นคงด้านไซเบอร์ เราควรจะคุยกับทุกบริษัท ไม่ใช่แค่บริษัทเดียว” เขากล่าว

ทั้งนี้ หน่วยงานเฝ้าระวังและหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของสโลวาเกีย ยังไม่มีการออกคำเตือนแบบที่มีในสาธารณรัฐเช็ก และทางนายกรัฐมนตรีก็ระบุด้วยว่า สโลวาเกียต้องใช้เวลาคิดให้ดีก่อนจะทำอะไร

“นักการเมืองควรจะระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือในสงครามการค้าหรือการต่อสู้กัน เราไม่ควรด่วนตัดสินใจ” เปเยกรินี บอกนักข่าว

https://mgronline.com/around/detail/9620000010594

 

ปธน.เวเนฯแฉเป็นเป้าลอบสังหารโดย รบ.โคลอมเบีย, แก๊งมาเฟีย ตามคำสั่งผู้นำสหรัฐฯ เผยแพร่: 30 ม.ค. 2562 23:30 ปรับปรุง: 31 ม.ค. 2562 02:11 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรแห่งเวเนซุเอลา
รัสเซียทูเดย์ - ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา อ้างว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งถึงรัฐบาลโคลอมเบีย และ แก๊งมาเฟียให้ลอบสังหารเขา แต่ยืนยันว่า เขาได้รับการปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตรายดังกล่าวเป็นอย่างดี

“ไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งฆ่าผม เขาบอกให้รัฐบาลโคลอมเบีย และ มาเฟียโคลอมเบียฆ่าผม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผม โดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดี อีวาน ดูเก ของโคลอมเบีย จะต้องรับผิดชอบ” มาดูโรให้สัมภาษณกับสำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ

อย่างไรก็ตาม มาดูโร แสดงความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานความมั่นคงของประเทศ “ผมได้รับการปกป้องโดยชาวเวเนซุเอลามาตลอด เรามีหน่วยข่าวกรองที่ดี”

มาดูโร ยังอ้างอีกว่า จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ขัดขวางทรัมป์จากการติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลเวเนซุเอลา โดยประธานาธิบดีรายนี้ บอกว่า เขาพยายามแล้วหลายครั้งในการเลียบเคียงผู้นำสหรัฐฯ แต่ก็ล้มเหลว

“ช่วงไม่กี่ปีนี้ ผมพยายามในระดับส่วนตัว (เพื่อจัดการเจรจา) แต่ โบลตัน ขัดขวาง โดนัลด์ ทรัมป์ จากการเริ่มพูดคุยกับ นิโคลัส มาดูโร ผมมีข้อมูลว่าเขาถูกห้ามในเรื่องนี้” มาดูโร กล่าว

อนึ่ง ปัจจุบัน มาดูโร และรัฐบาลของเขากำลังถูกท้าทายอำนาจโดย ฮวน กวยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กวยโด ประกาศตนในฐานะรักษาการประธานาธิบดี คำกล่าวอ้างที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งวอชิงตันและพันธมิตรตะวันตกอื่นๆ

https://mgronline.com/around/detail/9620000010617

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 31) พบการรั่วไหลของรังสี ในห้องแล็บพลูโตเนียมของญี่ปุ่น: ห้องปฏิบัติการเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ของรัฐบาลญี่ปุ่น ใกล้เมืองหลวงกรุงโตเกียว ตรวจพบการรั่วไหลของรังสีในแผนกดูแลพลูโตเนียม แต่โชคดีที่ไม่มีคนงานรายใดสัมผัส

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่า สำนักงานพลังงานปรมาณูญี่ปุ่น (เจเออีเอ) แถลงเมื่อวันพุธ ว่า ระบบเตือนภัยรังสีดังขึ้น หลังจากคนงาน 9 คนเปลี่ยนฝาพลาสติก บนถังบรรจุส่วนผสมพลูโตเนียมและยูเรเนียม 2 ถัง และย้ายออกจากห้องปิดผนึก

เจเออีเอ กล่าวว่า กลุ่มคนงาน ซึ่งแต่ละคนสวมชุดและหน้ากากป้องกัน หลบหนีการสัมผัสรังสี ด้วยการวิ่งเข้าไปในอีกห้อง การตรวจสอบพบว่าไม่มีการรั่วไหลนอกโรงงาน ซึ่งยุติการผลิตเชื้อเพลิงในปี พ.ศ. 2544 และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเลิกปฏิบัติการ

เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุของการรั่วไหล แต่เจเออีเอชี้ว่าอาจเกิดจากความเสียหายของฝาพลาสติก

ถุงพลูโตเนียมแตกในระหว่างการตรวจสอบ ที่ห้องปฏิบัติการอีกแห่งหนึ่งของเจเออีเอ เมื่อปี พ.ศ. 2560 ปนเปื้อนคนงาน 5 คน.

Source: เดลินิวส์ออนไลน์

- Alarm triggered at onetime nuclear fuel facility in Ibaraki after radioactive substances leaked:
https://www.japantimes.co.jp/news/2...Fo8SOh1hp7Zscj50B2p1fHdHtT6XABI8#.XFJA2y2B3Vo

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 31) Update: เฟดมีมติคงดอกเบี้ยพร้อมระบุว่าจะอดทนต่อการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งต่อไป : ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.25–2.50 ด้วยมติเอกฉันท์ โดยมีมุมมองต่อภาวะทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ดังเดิม พร้อมรับรู้ถึงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจากนักลงทุนในตลาดการเงิน (market–based measure) ที่ปรับลดลง

อย่างไรก็ดี เนื้อหาใน statement มิได้ระบุ forward guidance “further gradual increase” และมิได้กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงระยะสั้นต่อระบบเศรษฐกิจในลักษณะ “roughly balance” อีกต่อไป โดยระบุเพียงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายอย่าง “patient” ภายใต้แรงกดดันเงินเฟ้อที่จำกัด

นอกจากนี้ คณะกรรมการ FOMC เปิดเผย statement เพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายด้าน balance sheet ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกรอบการพิจารณา แนวทางการปรับเปลี่ยน balance sheet normalization โดยระบุว่า คณะกรรมการได้เตรียมความพร้อมหากต้องปรับเปลี่ยนการ normalize balance sheet ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินรูปแบบต่างๆ แต่ยังคงมองว่าการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินนโยบายการเงิน

อนึ่ง นาย Jerome Powell, Federal Reserve Chairman ปราศรัยเชิง dovish สอดคล้องกับเนื้อหาใน statement ในช่วง press conference โดยคณะกรรมการ FOMC พิจารณาเห็นควรให้มีการดำเนินนโยบายในลักษณะ floor system ส่งผลให้ขนาดของ balance sheet ขึ้นอยู่กับอุปสงค์ของทุนสำรองจากสถาบันการเงินและ buffer

Source: BoTSS

*****************
เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ขณะย้ำใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย :

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของเฟดในปีนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในปีที่แล้ว และเป็นครั้งที่ 9 นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติในเดือนธ.ค.2558

แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดในวันนี้ ระบุว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ในส่วนของการปรับลดงบดุลนั้น แถลงการณ์ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะทำการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความจำเป็นดังกล่าว

นอกจากนี้ เฟดคาดหวังว่าวงเงินในงบดุลจะยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่เฟดเสร็จสิ้นการปรับลดงบดุล
แถลงการณ์ระบุว่า "เฟดเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการปรับขนาดและองค์ประกอบในงบดุล ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจในอนาคตทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการใช้เพียงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น"

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Fed Chair Jerome Powell says the case for raising interest rates ‘has weakened’:
https://www.cnbc.com/2019/01/30/fed...t_2yajE3_X5x66NoC48m8CCIexq8S3OuJNFHhRB1TcObw

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 31) ราคาแพงคือปัญหา ยอดขาย Apple ในจีนตกหนัก รายได้ร่วง 27% สูญเงินกว่า 1.5 แสนล้านบาท : ยอดขายของ Apple ในจีนตกหนัก

Apple เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา (ตุลาคม -ธันวาคม 2018) โดยภาพรวมมีรายได้ 84,310 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 5% โดยปัญหาหลักสำคัญ และ Tim Cook ซีอีโอของ Apple ก็ยอมรับคือ ยอดขายของ iPhone มีราคาสูงในหลายประเทศ ทำให้ยอดขายลดลง

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของ Apple และน่าจับตามองคือ ผลประกอบการในประเทศจีนที่ตกหนัก

จากรายงานระบุว่า รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมาของ Apple ในจีนลดลงถึง 27% คิดเป็นเงินที่หายไปกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.57 แสนล้านบาท

ผู้บริโภคชาวจีนในยุคนี้ซื้อมือถือ iPhone น้อยลง เหตุผลสำคัญคือเรื่องของราคาที่สูงขึ้นทุกปี ผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่จึงหันไปซื้อมือถือจากแบรนด์อื่นที่มีราคาถูกกว่าและยังเป็นแบรนด์ในประเทศด้วย เช่น Huawei และ Xiaomi

Neil Mawston นักวิเคราะห์จาก Strategy Analytics บอกว่า “iPhone ของ Apple มีปัญหา(ในด้านยอดขาย)ในเอเชีย”

Bloomberg รายงานว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ผิดหวัง เพราะ Apple ไม่สามารถทำรายได้ได้ดีในจีน ซึ่งจีนถือว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการบริโภคสูง แต่ Apple ก็ทำรายได้ที่น่าผิดหวัง

อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงทำรายได้ได้ดีในสินค้าบางประเภท (ที่ไม่ใช่โทรศัพท์) มีข้อมูลเผิดเผยว่า 2 ใน 3 ของคนจีนที่ซื้อ Mac และ iPad เป็นผู้ซื้อหน้าใหม่ ก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นลูกค้าและสาวกต่อไป

บริษัทสายฮาร์ดแวร์ที่มีรายได้ลดลงในจีนไม่ได้มีแค่ Apple เท่านั้น เพราะด้านของ Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ และ Intel ก็มีรายได้ที่ลดลงเช่นเดียวกันในไตรมาสที่ผ่านมา

โดย Thongchai Cholsiripong
Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/apple-sales-in-china-drop/

- Apple's Sales Drop in China Means $5 Billion in Lost Revenue
https://www.bloomberg.com/news/arti...b3OJZTTMIijGSA5OnohPG92FuycJ1nrr32hcZ4dPuJE80

- "แอปเปิล"เตรียมประกาศปรับลดราคาไอโฟน หลังยอดขายร่วง: https://www.posttoday.com/it/578671

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 30) หัวเว่ย'ตัวประกัน สงครามการค้าภาค 2 : คืนนี้ตามเวลาประเทศไทย (30 ม.ค.) การเจรจาการค้าระหว่างตัวแทนสหรัฐกับจีนระยะเวลา 2 วัน ก็จะเริ่มขึ้นในกรุงวอชิงตัน เป็นการเจรจาขยายผลจากที่ตัวแทนสหรัฐไปเจรจา ที่กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงต้นเดือน ทั่วโลก กำลังจับตามองว่าทั้งสองฝ่ายจะต่อ ยอดการสงบศึกการค้า 90 วัน ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ได้หรือไม่

ทีมเยือนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ และหวัง เจ้าเหวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่วนทีมเหย้านำโดย โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง, วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์, ลาร์รี คัดโลว์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ และปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้า ซึ่งเขาคนนี้ได้ชื่อว่าเป็น สายแข็ง เดือนก่อนตอนที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ต้องเจอกับสัปดาห์ที่เลวร้าย ที่สุดในรอบ 10 ปี นาวาร์โรถึงกับออกปาก "จีนกำลังขโมยอนาคตของเรา" เมื่อเขาได้ร่วมคณะเจรจาด้วยจึงน่าจับตาว่าจะใช้ไม้แข็ง ต่อไปอีกหรือไม่

โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า การเจรจาต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในจีน ที่ส่งผลต่อการค้าระหว่างสองประเทศ รวมถึงเจรจากันเรื่องคำมั่นสัญญาของจีนที่ว่าจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐปริมาณมหาศาล

เมื่อวันจันทร์ (28 ม.ค.) ตัวแทนจีนเพิ่งเข้าพบองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องสหรัฐเก็บภาษีสินค้าจีน ตัวแทนจีนชี้ว่า ภาษีของสหรัฐ ขัดกับนโยบายดับเบิลยูทีโออย่างร้ายแรง แต่ตัวแทนสหรัฐที่ร่วมประชุมด้วยก็สวนกลับว่า คำพูดของจีนไม่มีมูล จีนต่างหากที่เป็นฝ่ายละเมิดระบบดับเบิลยูทีโอ

นอกจากนี้ การเจรจาระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ดำเนินคดีอาญากับหัวเว่ย และเมิ่ง หว่านโจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) ธิดาของเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท ในข้อหาฉ้อโกงธนาคารและฉ้อโกงเงิน ผ่านระบบธนาคาร ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และขโมยเทคโนโลยีจาก ที-โมบาย บริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมของสหรัฐ

แมททิว วิทเทกเกอร์ รักษาการรัฐมนตรียุติธรรมยืนยันว่า กระทรวงยุติธรรมจะขอให้แคนาดาส่งตัวเมิ่ง หว่านโจวให้สหรัฐ โดยต้องส่งเรื่องภายในวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งเป็น วันที่สหรัฐกับจีนเริ่มเจรจาการค้ากันพอดี

ด้านหัวเว่ยแถลงว่า ผิดหวังที่บริษัทถูกตั้งข้อหา "หัวเว่ยขอยืนยันว่า บริษัท บริษัทลูก หรือบริษัทในเครือไม่ได้ละเมิดกฎหมายสหรัฐตามที่ระบุไว้ในข้อกล่าวหา และไม่ทราบเรื่องการกระทำผิดของนางเมิ่ง หว่านโจว"

กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงตอบโต้ว่า บางครั้งสหรัฐก็ใช้อำนาจรัฐทำลายความน่าเชื่อถือและเล่นงาน บริษัทจีน เพื่อขัดขวางการดำเนินการอย่างถูกต้องชอบธรรมของบริษัทเหล่านั้น

"การกระทำเช่นนี้มีแรงจูงใจและบิดเบือนเพื่อหวังผลทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง"

ขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐยืนยัน ว่า การดำเนินคดีหัวเว่ยเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

จากสถานการณ์แวดล้อมดูๆ แล้วทั้งสองฝ่ายน่าจะตกลงกันได้ยาก มนูชิน ขุนคลังสหรัฐ หนึ่งในทีมเจรจาแถลงที่ทำเนียบขาวว่า ทั้งสองฝ่ายพยายามแก้ไขปัญหาอันซับซ้อน รวมถึงวิธีพิสูจน์ว่าจีนปฏิรูปจริงตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งทางการจีนตระหนักดีถึงความจำเป็นที่ต้องมีกลไกตรวจพิสูจน์เช่นนั้น

"เราต้องการสร้างหลักประกันว่า ถ้าตกลงกันได้แล้ว ข้อตกลงนั้นต้องนำไปใช้จริง รายละเอียดเรื่องพวกนี้ซับซ้อน จำเป็นต้องไปคุยกัน แต่ประเด็นสำคัญ 3 เรื่องหนีไม่พ้นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ต้องไม่บังคับให้บริษัทร่วมทุน และต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ตกลงกัน" ขุนคลังสหรัฐ 1 ในตัวแทนเจรจาเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ พร้อมเสริมว่า ที่ผ่านมาการเจรจาคืบหน้าไปมาก

หลังจากคุยกันที่วอชิงตัน 2 วันนี้แล้วก็จะมีเวลาอีก 30 วัน สำหรับการเจรจา ครั้งต่อไปเพื่อให้บรรลุข้อตกลงกันทันเส้นตาย 2 มี.ค. ที่สหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่ม

เอสวาร์ ประสาท อาจารย์ด้านการค้าจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ และอดีตหัวหน้าแผนกจีน กองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายต่างมีเรื่องต้องกังวล จีน ห่วงเรื่องเศรษฐกิจของตนซบเซา และทรัมป์เองก็ต้องการชัยชนะในแง่การเมือง จึงเป็นไปได้ว่าทั้งสองฝ่ายอาจทำข้อตกลงบางส่วนเป็นการชั่วคราวกันก่อน

"จุดยืนการเจรจาสองฝ่ายแตกต่างกันมาก การจะทำข้อตกลงแบบครอบคลุมยืนยาวไม่น่าจะเป็นไปได้"

ประสาทมองว่า จีนไม่น่าจะอ่อนข้อให้มากในเรื่องนโยบายอุตสาหกรรมและการสนับสนุนจากภาครัฐ แต่อาจรับปากว่าจะปรับปรุงเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สิน ทางปัญญาและการบังคับใช้ให้ดีขึ้น แต่คงต้องทำงานหนักมากเพื่อชักจูงให้ตัวแทนสหรัฐเชื่อว่า เรื่องทั้งหมดนี้สามารถตรวจพิสูจน์ได้

บางครั้งสหรัฐก็ใช้อำนาจรัฐทำลายความน่าเชื่อถือและเล่นงานบริษัทจีน เพื่อขัดขวางการดำเนินการอย่างถูกต้องชอบธรรมของบริษัทเหล่านั้น

Source: กรุงเทพธุรกิจ

เพิ่มเติม
- Huawei ‘distrust’ and ‘irrational’ US trade war slammed by leading Chinese academic
https://www.scmp.com/economy/china-...9YAGRvxHRFHC1MDX8iREKO6dkEg-Lw5AmSQmMAZvKRJ2U

- U.S.-China Trade War Timeline: What's Happened and What's Next
https://www.bloomberg.com/news/arti...PzyfM8YZGBCvOaU5ajawfRR5r_LZe2_M3tJ_o_vBBjRIU

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 30) วิกฤตเวเนซุเอลา : 7 ตารางความทุกข์ยากของประเทศภายใต้การนำของ 2 ประธานาธิบดี - การสั่งคว่ำบาตร PDVSA บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลาเป็นมาตรการล่าสุดของสหรัฐฯ ที่พยายามกดดันให้ ปธน.นิโกลัส มาดูโร ยอมเปิดทางให้นายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านขึ้นเป็นผู้นำประเทศแทน

นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ สหรัฐฯ ระบุว่า ปธน.มาดูโร และพันธมิตรของเขาไม่สามารถ "ปล้นทรัพย์สินของชาวเวเนซุเอลาได้อีกต่อไป" และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ บอกว่า รัฐบาลของ ปธน.มาดูโร จะไม่ได้รับผลกำไรจากการซื้อขายน้ำมันจากเวเนซุเอลาอีกต่อไป แต่บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรได้หากยอมรับนายกุยโดในฐานะประธานาธิบดี

สหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้าน้ำมันหลักของเวเนซุเอลา โดยคิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ของยอดส่งออกน้ำมันทั้งหมดของเวเนซุเอลา

ในเวลาต่อมา ปธน. มาดูโร บอกว่าเขาได้บอกบริษัท PDVSA ให้เตรียม "ปฏิบัติการทั้งเชิงการเมืองและกฎหมายต่อศาลสหรัฐฯ และนานาชาติ" ที่จะปกป้อง Citgo ซึ่งเป็นสาขาบริษัทของ PDVSA ในสหรัฐฯ

ด้านนายกุยโดระบุว่าเขาได้ออกคำสั่งให้สภานิติบัญญัติแต่งตั้งประธาน PDVSA และ Citgo คนใหม่ซึ่งเป็นความพยายามที่จะเข้าควบคุมสินทรัพย์ของประเทศ

ท่ามกลางวิกฤตทางการเมือง ความไม่พอใจก็ทวีคูณด้วยภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง ไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง และการขาดแคลนอาหารและยา มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตราว 26 รายแล้วจากการประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสหประชาชาติได้เตือนว่าอาจนำไปสู่ความรุนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้

นี่คือ 7 ตารางที่จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเวเนซุเอลาได้ดีขึ้น

1. ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง

ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวเนซุเอลาคือภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรงจนคุมไม่ได้ งานวิจัยที่ทำขึ้นโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นถึง 1,300,000% ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือน พ.ย. 2018

จนถึงสิ้นปีที่แล้ว ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 2 เท่าโดยเฉลี่ยทุก ๆ 19 วัน ทำให้เป็นเรื่องยากที่ชาวเวเนซุเอลาจะซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นได้ อาทิ อาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดร่างกาย

ในตอนนี้ ต้องใช้เงินโบลิวาร์จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กว่าจะสามารถแลกเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้

2. GDP ลดต่ำลง

เวเนซุเอลาเคยเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในละตินอเมริกา ซึ่งเป็นผลมาจากแหล่งน้ำมันที่มีมูลค่าที่สุดในโลก แต่ภายใต้การบริหารประเทศของ อดีต ปธน. ฮูโก ชาเวซ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2013 และ ปธน. มาดูโร ทั้งคอร์รัปชั่น, การบริหารจัดการที่ผิดพลาด, และหนี้สูง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังลง

ปธน. ชาเวซ ถือโอกาสช่วงที่การค้าขายน้ำมันมั่งคั่งในช่วงปี 2000 ในการกู้ยืมเงินมหาศาลและยอดเงินใช้จ่ายของรัฐบาลก็พุ่งสูงขึ้น และจากนั้นในสมัยแรกของมาดูโรในฐานะประธานาธิบดี เศรษฐกิจเวเนซุเอลาก็ล่วงดิ่งลง

หลายฝ่ายโทษ ปธน.มาดูโร และรัฐบาลสังคมนิยมของเขาที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศแย่ลง ส่วน ปธน.มาดูโร ก็โทษ "พวกจักรวรรดินิยม" อย่างสหรัฐฯ และยุโรป ที่ทำ "สงครามเศรษฐกิจ" กับเวเนซุเอลา และดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อสมาชิกในรัฐบาลของเขาหลายคน

ราคาน้ำมันที่ตกต่ำลงในปี 2016 ยิ่งทำให้วิกฤตของประเทศที่พึ่งน้ำมันเป็นหลักยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

3.ขาดแคลนอาหาร

ชาวเวเนซุเอลากำลังหิวโหย แบบสำรวจสภาพความเป็นอยู่ Encovi จากปี 2017 พบว่า 8 ใน 10 บอกว่าพวกเขารับประทานอาหารน้อยลง เพราะว่าที่บ้านมีอาหารไม่เพียงพอ

6 ใน 10 บอกว่าต้องเข้านอนอย่างหิวโหยเพราะไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหาร

และนี่ก็ทำให้สุขภาพของผู้คนพลอยแย่ไปด้วย คนส่วนใหญ่ (64.3%) บอกว่า พวกเขาน้ำหนักลดลงในปี 2017 โดยเฉลี่ย 11.4 กก. และเป็นคนยากจนที่น้ำหนักลดลงมากที่สุด

ผลสำรวจอื่น ๆ

- อาหารพื้นถิ่นต่าง ๆ มีขนาดและคุณภาพลดลง
- คน 9 ใน 10 ไม่สามารถซื้ออาหารประจำวันได้
- คน 8.2 ล้านคนทานอาหารวันละ 2 มื้อหรือน้อยกว่านั้น
- อาหารที่คนรับประทานไม่มีธาตุเหล็ก วิตามิน และสารอาหารต่าง ๆ

นี่เป็นผลให้ชาวเวเนซุเอลาหันไปกินผักและอาหารประเภทอื่น ๆ ที่เคยถูกมองว่าเป็นของคนจน

4. ไม่มียารักษาโรคเพียงพอ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อมาลาเรียในเวเนซุเอลาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับชาติอื่น ๆ ในละตินอเมริกา จากที่เคยเป็นประเทศแรกที่กำจัดโรคนี้สำเร็จเมื่อปี 1961 ตอนนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 10 ใน 24 รัฐ

Icaso องค์กรไม่หวังกำไรจากแคนาดาระบุว่า เอกสารรัฐบาลที่หลุดรอดออกมาระบุว่า เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ที่กำจัดได้ยากที่ชื่อ "plasmodium vivax" ด้วย

ศูนย์วิจัยสังเกตการณ์สุขอนามัยเวเนซุเอลา (Venezuelan Health Observatory) รายงานถึงการขาดแคลนยาต้านเชื้อมาลาเรียทุกสายพันธุ์อย่างกว้างขวาง


7. นานาชาติแบ่งฝ่ายสนับสนุน

สหรัฐฯ และประเทศละตินอเมริกามากกว่า 12 ประเทศ รวมถึงแคนาดา สนับสนุนนายกุยโดให้เป็นรักษาการประธานาธิบดีแทน ปธน. มาดูโร

เมื่อวันเสาร์ สเปน, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร บอกว่าพวกเขาจะสนับสนุนนายกุยโด หากไม่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 8 วัน

อย่างไรก็ตาม รัสเซียประณามต่างชาติที่ให้การสนับสนุนนายกุยโด โดยบอกว่าเป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติ และเป็นการปูทางไปสู่การนองเลือด จีน, เม็กซิโก, และตุรกี ก็สนับสนุน ปธน. มาดูโร เช่นกัน

Source: BBC Thai
https://www.bbc.com/thai/international-47048389

เพิ่มเติม
- The US-Russia battle for influence over Venezuela is reminding people of Syria: https://www.cnbc.com/2019/01/30/us-...oVfG2Q8GnqzdVjEsatTBSlZYcZOb4zNTcrBRhlHkkSOMs

- ผู้นำเวเนซุเอลาพร้อมเจรจาฝ่ายค้าน หวังยุติวิกฤตการเมือง : https://www.ryt9.com/s/iq37/2947558

- What next for Venezuela? Everything you need to know about the country with two presidents :
https://www.cnbc.com/2019/01/30/ven...QGFSs77uWpTLXnHD6CtmqYenwE6XtwL55sjkHtOQ3xWLE

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 30) ธปท.เดินหน้า'อินทนนท์'เฟส2ใช้'DLT'ลดข้อผิดพลาดโอนเงิน : ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ริเริ่ม "โครงการอินทนนท์" ขึ้นมาเมื่อปีที่ผ่านมา ท่ามกลาง กระแสร้อนแรงของ "เงินดิจิทัล" ใน ตลาดการเงินการลงทุน ทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญที่ภาคการเงินไทยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อยกศักยภาพการทำงานในด้านต่างๆ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่จะเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ในเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนภาคการเงินไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล

โดยโครงการอินทนนท์ เป็นโครงการ ทดสอบระบบต้นแบบการโอนเงินระหว่างสถาบันการเงินซึ่งใช้"สกุลเงินดิจิทัลจำลอง" ที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา ความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยี การประมวลผลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน ด้านระบบการชำระเงินของประเทศ และมุ่งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาเทคโนโลยี ร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารกลางหลายประเทศได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้แล้วอาทิ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลาง ฮ่องกง และธนาคารกลางสิงคโปร์ เป็นต้น แต่ทั้งหมดยังอยู่ในช่วงการทดสอบ หรือ Proof of concept ใช้ในวงจำกัด ยังไม่ได้เปิดใช้เป็นการทั่วไป

ทั้งนี้โครงการอินทนนท์แบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยโครงการอินทนนท์ ระยะที่ 1 เริ่มจากเดือนส.ค.2561-ม.ค.2562 เป็นการออกแบบ พัฒนา และทดสอบ การนำเทคโนโลยี DLT มาใช้กับ "การโอนเงิน ระหว่างสถาบันการเงิน" และ "การบริหาร สภาพคล่อง" ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ธปท. กับบริษัท R3 ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาแพลตฟอร์ม DLT ชื่อ Corda ที่มีประสบการณ์การให้ คำปรึกษาและดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกับโครงการอินทนนท์แก่ธนาคารกลางชั้นนำในหลายประเทศ

นอกจากนี้ ธปท.ยังทดสอบนำเทคโนโลยี DLT มาใช้กับการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลแบบไร้ใบตราสาร (scripless) ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลา การทำธุรกรรมและการตรวจสอบข้อมูลให้สั้นลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยมีธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการอีก 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารฮ่องกงและ เซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด

ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง ประเทศไทย "วิรไท สันติประภพ" อธิบายถึง โครงการนี้ว่า เป็นการวางระบบการโอนเงิน และการชำระเงินระหว่างธนาคาร โดยอาศัยเหรียญดิจิทัล หรือ Token ที่ออกโดย ธนาคารกลาง ซึ่งจะมีประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการโอนเงินระหว่างกัน

รวมถึงช่วยธนาคารพาณิชย์ในการบริหารสภาพคล่อง โดยไม่ต้องดำรง สภาพคล่องส่วนเกินเอาไว้จำนวนมาก เหมือนกับการใช้ระบบชำระดุล Real Time Gross Settlement (RTGS) ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบชำระดุลที่ใช้ ธปท. เป็นตัวกลาง ซึ่งถือเป็นระบบรวมศูนย์ที่มีเวลาเปิดปิด แต่หากเป็นเทคโนโลยี DLT จะทำให้การชำระดุลทำได้ตลอด24 ชั่วโมง และทำได้ตลอด 7 วัน

อีกทั้งหากโครงการประสบความสำเร็จ ในอนาคตยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ การชำระเงินระหว่างประเทศผ่านโทเคน หรือเงินดิจิทัลที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศ ออกมา ทำให้การชำระเงินระหว่างประเทศ ทำได้ง่าย สะดวก ในต้นทุนที่ถูกลง

หลังจากดำเนินโครงการในระยะแรกไป ธปท.ได้เผยแพร่ผลการทดสอบโครงการอินทนนท์ระยะที่ 1 โดยพบว่า เทคโนโลยี DLT มีศักยภาพในการเพิ่มขีด ความสามารถและประสิทธิภาพของระบบการชำระเงิน ทั้งการลดต้นทุน การบริหารจัดการสภาพคล่อง การขยาย เวลาการโอนเงิน และการชำระดุล ระหว่างสถาบันการเงินนอกเวลาทำการ

อย่างไรก็ดี การนำระบบต้นแบบดังกล่าวมาใช้จริงอาจต้องใช้เวลา อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากจำเป็นต้อง ทดสอบขีดความสามารถและศึกษาผลกระทบด้านต่างๆ เพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อาทิ ความสามารถในการรองรับปริมาณธุรกรรมที่มีจำนวนมาก ความปลอดภัย ด้านข้อมูล และความเสถียรของ ระบบโดยรวม ทั้งนี้ผลการทดสอบ โครงการฯ ระยะที่ 1 เป็นข้อมูล พื้นฐานที่เป็นประโยชน์สำหรับ การออกแบบ และพัฒนาระบบ การชำระเงินในระยะต่อไป

สำหรับระยะต่อไป ธปท.จะเริ่ม ทำโครงการอินทนนท์ระยะที่ 2 โดยโครงการฯ ระยะที่ 2 จะเริ่มในเดือนก.พ.2562 และแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 โดยขอบเขตโครงการอินทนนท์ ระยะที่ 2 นั้น ธปท. บริษัท R3 และธนาคารพาณิชย์ทั้ง 8 แห่ง จะยังคงร่วมกันทดสอบการนำเทคโนโลยี DLT มาใช้โดยต่อยอดใน 2 ด้านหลัก คือ 1.ธุรกรรมซื้อขายและ ซื้อคืนระหว่าง สถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับ ตราสารหนี้ธปท. (Interbank Trading and Repurchase Transaction) เพื่อลดระยะเวลาการส่งมอบและ การชำระราคา และ 2.การกำกับดูแลและตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินสำหรับลูกค้า(Regulatory Compliance and Data Reconciliation) เพื่อช่วยลดภาระการตรวจสอบ และข้อผิดพลาดในการโอนเงิน ของลูกค้า

Source: กรุงเทพธุรกิจ

ข่าว ธปท. https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/News2562/n562t.pdf

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 30) แบงก์กรุงเทพขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 4 เดือนสูงสุด 1.625% : แบงก์กรุงเทพนำเสนอดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะเวลา 9 เดือน อัตรา 1.625% ระยะเวลา 7 เดือน อัตรา 1.375% และระยะเวลา 4 เดือน อัตรา 1.250% เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้ฝากเงินรายย่อย

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้พิจารณาอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเพื่อนำเสนอให้กับผู้ฝากเงินรายย่อย ระยะเวลาการฝาก 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.250% ต่อปี ระยะเวลาการฝาก 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.375% ต่อปี และระยะเวลาการฝาก 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.625% ต่อปี โดยสามารถนำฝากได้ตั้งแต่วันนี้

‘การนำเสนออัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาดังกล่าว นับเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับเงินฝากประจำระยะเวลาปกติ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้ฝากเงินรายย่อย ตามนโยบายของภาครัฐ อีกทั้งสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเป็นไปตามเป้าหมาย’

Source: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9620000010536

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 30) คลังออกประกาศคุมสินเชื่อจำนำทะเบียนแล้ว มีผล 31 ม.ค.2562 เป็นต้นไป : คลังออกประกาศคุมสินเชื่อจำนำทะเบียนแล้ว มีผล 31 ม.ค.2562 เป็นต้นไป ผู้ประกอบธุรกิจในปัจจุบันที่ยังไม่มีไลเซ่นส์พีโลน ต้องยื่นขอใบอนุญาตใน 60 วัน

วันนี้ (30 ม.ค.2562) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) (ฉบับที่ 3) ซึ่งเป็นการที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้ามากำกับสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (จำนำทะเบียน) โดยให้อยู่ภายใต้ใบอนุญาต สินเชื่อส่วนบุคคล (พีโลน) ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.2562 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ประกาศดังกล่าว มีบทเฉพาะกาล กำหนดให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อที่่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตตามประกาศนี้ (ทำธุรกิจจำนำทะเบียนรถอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีไลเซ่นส์พีโลน) ต้องมายื่นคำขอรับอนุญาตภายใน 60 วัน ต่อ ธปท.

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/finance/news-284227

เพิ่มเติม
1. ราชกิจจาฯ : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/D...4ldau_vVH0SLONhmXwiyadO7wjU1r0iFzHrjfyN1FZz84

2. เอกสาร ธปท. https://www.bot.or.th/Thai/Consumer...OLKgve_CLJZetp87zPmgN6IZm0BGKNUX9PZRqEaZnbObo