เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๖๔ : มัจจุราชพยากรณ์

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 23 กันยายน 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,739
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    64.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๖๔ : มัจจุราชพยากรณ์

    “พิภพมัจจุราช ใครถึงฆาตดับชีวี สุวรรณสุวานก็ดูบัญชี ใครทำดีส่งไปสวรรค์ ทำชั่ว..นรกนะซิ..ตกกระทะทองแดง โดนหอกแหลมแทงทุกวัน..ทุกวัน..!” นี่เพลงเขาว่านะ อาตมาเปล่าว่า...

    ความจริงแล้วพระยายมราชท่านไม่ได้เอาใครลงนรก ท่านเป็นพรหม มีแต่ความเมตตาคอยช่วยเหลือคนตายทุกคน พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้คนลงนรก เวลาสอบสวนท่านถามละเอียดยิบถึงความดีของเรา ถ้ามีแม้แต่นิดเดียวท่านให้ไปเสวยบุญทันที...

    ตำหนักพระยายมอยู่ในเขตสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา บรรดาคนและสัตว์ที่ตายต่างพยายามมุ่งมาที่นี่ ถ้าบุญบาปไม่มากพอที่จะไปเกิดใหม่ทันที ส่วนใหญ่จะมาที่นี่ทั้งนั้น เพราะเป็นที่เดียวที่จะพยายามป้องกันไม่ให้เขาลงนรก...

    ในตำหนักหรือที่ทำงานประกอบด้วย พระยายมราชเป็นประธานการสอบสวน มีสิริคุตมหาอำมาตย์ (ท่านนายบัญชีใหญ่) เป็นผู้ยืนยันผลการสอบสวน (นายบัญชีมีท่านเดียว สมุดบัญชีเล่มหนามหึมาเป็นทองคำทั้งเล่ม ไม่ใช่บัญชีหนังหมาอย่างเขาว่ากันต่อ ๆ มา...)

    เวลาถาม – ตอบ ถ้าติดขัดท่านนายบัญชีใหญ่จะเปิดสมุดบัญชีทันที เปิดทีไรก็ตรงหน้าที่ต้องการทุกที ตัวหนังสือก็ไม่ต้องจดให้เสียเวลา มันขึ้นของมันเอง คอมพิวเตอร์ที่ว่าแน่ ๆ ยังต้องเสียเวลาป้อนข้อมูล เรียกข้อมูล นี่ไม่ต้องเลย อัตโนมัติทั้งหมด...!

    ถ้าผู้ตายยืนยันความดีแม้เพียงข้อเดียว เทวทูตจะนำไปสุคติภูมิตามกำลังบุญทันที ถ้ากรรมหนักบันดาลให้คิดไม่ออก พูดไม่ได้ ถามเท่าไรก็ไม่ตอบ พระยายมท่านก็ต้องวางอุเบกขา ปล่อยให้นายนิรยบาลนำไปนรกตามกำลังบาปของตน...

    พระยายมราชท่านก็มีวันหยุดงานเหมือนกัน แต่ไม่ใช่มัจจุราชฮอลิเดย์อย่างนิยายเขาเขียน ไอ้นั่นมันเพ้อเจ้อ ท่านมีวันหยุด เช่น มาฆบูชา วิสาขบูชา เข้าพรรษา ออกพรรษา แต่งานท่านไม่ได้หยุด ท่านจะเนรมิตรูปไว้สอบสวนแทน ส่วนตัวเองหนีเที่ยว (แฮ่...เขียนผิด แหม...เอะอะจะจดท่าเดียวปู่ก้อ...!)

    ถ้าถามว่ารูปนิมิตทำงานอย่างไร...? ก็ทำเหมือนกับองค์ท่านอยู่ทุกประการ โธ่...คนตายท่วมหัวท่วมหู ขืนทิ้งงานก็ทับตายไปด้วยเท่านั้น (ท่านไม่ตายหรอก เขียนเพลินไปนิด) ถ้าถามว่าทำได้อย่างไร...? แบบนี้ชกกันดีกว่าว่ะ...!

    ความเป็นทิพย์จ้ะ...ความเป็นทิพย์ซะอย่าง อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าคิดเถียงก็ทดลองตายซะเดี๋ยวนี้ แล้วไปนั่งดูพระยายมท่านทำงานเองแล้วกัน (จะยุให้ท่านจับโยนลงกระทะทำบาร์บีคิวซะให้เข็ด แก่ถามดีนัก...!)

    ตั้งแต่ “หลวงพ่อ” สอนมโนมยิทธิมา อาตมาเคยไปดูนรกแค่ไม่กี่ครั้งเอง เพราะชาติก่อนเคยตกนรกจนชำนาญ เลยไม่กล้าไปบ่อย กลัวพระยายมท่านหมั่นไส้ ให้นายนิรยบาลจับลงนรกก็เสร็จกันเท่านั้น เพราะหนี้เก่าในชาติหลัง ๆ ยังค้างอยู่บานตะเกียงเลย...!

    มีนรกขุมเดียวที่อาตมาสนใจไปดูคือโลกันตนรก เพราะตำราท่านว่าขุมนี้ลงโทษด้วยความเย็น ด้วยความสงสัยเลยลงไปดู เห็นสัตว์นรกพลัดตกลงในทะเลน้ำกรด ความเย็นจัดของน้ำถึงกับทำให้ร่างสัตว์นรกกรอบเป็นผงทันทีที่สัมผัสน้ำ ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง...

    การจะไปดูนรกต้องลงไปขออนุญาตพระยายม ท่านจะมีไกด์นำทางให้ ถ้าเราไปเองสุ่มสี่สุ่มห้าจะมีอันตราย น้องแสงชัยน้องชายของอาตมา ถอดจิตหล่นโครมไปกลางขุม ไฟนรกดับเกลี้ยง บรรดาสัตว์นรกนับแสนนับล้านล้อมเข้ามาทุกทิศทุกทาง ถ้าสติไม่มั่นคงพอมีหวังตกใจจนเป็นบ้าเอาง่าย ๆ ให้ท่านส่งคนนำทางให้จะดีกว่า...

    เดือนเมษายน ๒๕๓๓ อาตมาประสบอุบัติเหตุ ทำให้กระดูกคอเคลื่อนไปทับประสาท รู้สึกเหมือนกับยืนอยู่บนแผ่นดินที่กำลังไหวโคลงเคลงตลอดเวลา อาเจียนจนน้ำในร่างกายแทบไม่เหลือ เพื่อนพระช่วยกันหอบหิ้วไปโรงพยาบาล...

    ทางโรงพยาบาลพยายามเต็มที่ ช่วยรักษาจนอาการโคลงเคลงหายไป แต่ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหวเสียหมด ถ้าลุกขึ้นจะหมุนไปทางขวาตลอดจนกว่าจะชนข้างฝา หรือยึดจับอะไรได้จึงหยุด คิดจะพลิกตัวร่างกายจะพลิกวูบไปคว่ำหน้าเลย ควบคุมอะไรไม่ได้...!

    อาหารฉันไม่ได้เลย แค่ได้กลิ่นก็อาเจียนแล้ว หกวันไม่มีข้าวตกถึงท้องสักเม็ด น้ำเกลือก็ให้ไม่เข้า แทงเข็มไว้หกชั่วโมงเข้าไปแค่ห้าสิบกว่าซีซี เส้นมันลีบหมดทั้งตัว จนหมอหมดปัญญา เลยหอบหิ้วกันกลับมา ตั้งใจจะมาตายที่วัด...!

    คืนนั้นรู้สึกหิวจนไส้แทบขาด อยากจะฉันอะไรก็ได้ที่เผ็ดมาก ๆ มันอยากแทบขาดใจ ยิ่งกว่าคนแพ้ท้องซะอีก พอสว่างเลยหาไม้เท้าค้ำยันไปร้านค้าของวัด สั่งข้าวผัดกะเพราจานใหญ่ ไม่สนใจว่าท้องจะว่างมานานแค่ไหน ดมกลิ่นดูเห็นไม่อาเจียนก็ฟาดโลด...!

    ฉันเสร็จปุ๊บมันง่วงทันที เลยนอนที่ป้อมยามหน้าร้านค้า พอเอนตัวลงรู้สึกเตียงมันยุบฮวบ หล่นลงตรงหน้าพระยายมราชและท่านนายบัญชีใหญ่พอดี ความรู้สึกแรกที่บอกกับตัวเองคือ “นี่เราคงตายแล้วซินะ...และอาจจะตกนรกด้วย..!”

    ความกลัวตกนรกจับใจ เห็นท่านนายบัญชีเปิดสมุดดูปั๊บบอกทันทีว่า “อีกหกวันหาย...” อาตมากราบลาเปิดแน่บ โธ่...อยู่ ๆ ไปนั่งแหมะยังกับรอคำตัดสิน ไม่ขวัญหนีดีฝ่อก็เกินไปล่ะ...อาตมาบอกตรง ๆ ว่ากลัวนรก ขนาดให้ไปเที่ยวเฉย ๆ ยังไม่อยากไปเลย...!

    บรรดาญาติโยมทั้งหลาย พอทราบว่าอาตมาป่วยก็มาเยี่ยมกันใหญ่ แม่เบ็ญ (อาจารย์เบ็ญจา วิบูลย์พันธุ์) เอารถมารับไปบ้านที่อู่ทอง อาตมาทราบดีว่าเป็นโรคจากกรรมเก่า หมอปัจจุบันรักษาไม่หายหรอก แต่ก็ไม่อยากขัดใจแม่ ไปก็ไป...

    ได้น้าเล็ก (อาจารย์จารุวรรณ ศรีแสงจันทร์) จุ๋ม (เบญจรัตน์) จุ๊บ (เบญจพร) ช่วยกันดูแล ไม่มีใครทราบว่าอาตมาป่วยขนาดไหน เพราะหน้าทะเล้นเป็นปกติ จิตใจมันสบาย เพราะทราบว่าเป็นกฎของกรรม และอีกหกวันจะหาย...

    อยู่บ้านแม่เบ็ญห้าวัน ถูกจับเอ็กซเรย์ซะหัวแทบผุ แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ ได้แต่กินยาปรับความดันในช่องหู กินซะหูอื้อตาลาย ระยะแค่เมตรสองเมตรเห็นคนเป็นเงาราง ๆ จำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ต้องใช้จำเสียงเอา บอกว่าป่วยไม่มีใครเชื่อ เพราะว่าหน้าเป็นตลอดกาล...

    วันที่หกตอนเช้า แม่เบ็ญไปส่งที่กรุงเทพฯ ไปกราบหลวงปู่มหาอำพัน เพราะนิมิตเห็นท่านบอกว่าจะให้ไม้เท้า เลยรีบไปรับด้วยความงก ถือไม้เท้าเป็นหลวงตาแก่ไปเลย หลวงปู่หัวเราะชอบใจบอกว่า “คราวก่อนคุณพยาบาลผม คราวนี้ผมขอดูแลคุณบ้างนะ...”

    ตอนเพลญาติโยมทางกรุงเทพฯ แห่กันมาเยี่ยม พี่บี (พัลลภา เอี่ยมเพชราพงศ์) มีพ่อบุญธรรมเป็นหมอจับเส้น ลากอาตมาไปให้พ่อเขาช่วย หมอเอามือแตะต้นคอปุ๊บก็บอกว่า “กระดูกเคลื่อนสองข้อแน่ะ ไม่เป็นไร จะจัดการให้ เดี๋ยวก็หาย...”

    แกจับบิดซ้ายขวาสองกร๊อบเข้าที่ หายทันที ขามาค้ำไม้เท้ามา ขากลับเดินตัวปลิวเลย กลายเป็นปกติทุกอย่าง เหมือนไม่เคยป่วยมาก่อน คำพยากรณ์ว่า “อีกหกวันหาย” ดังก้องอยู่ในหู หกวันจริง ๆ ด้วย ของท่านไม่เคยพลาดเลย...

    ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ร่างกายนี้เป็นรังของโรค มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปกติ เอวํ ธมฺโม มีธรรมดาเป็นเช่นนี้ เอวํ ภาวี สภาพของมันต้องเป็นอย่างนี้ เอวํ อนตีโต ไม่อาจจะล่วงพ้นไปได้ สภาพร่างกายที่มีแต่ทุกข์โทษเวรภัยเช่นนี้ อย่ามีมันอีกเลย ขอให้ตั้งใจว่า ตายเมื่อไรเราจะไปพระนิพพาน จะได้ไม่ต้องอกสั่นขวัญหายกับนรกแบบเดียวกับอาตมาได้พบมาแล้ว...สวัสดี

    ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...