ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #Cyclone #Amphan ได้มาถึงเกาะอันดามันและนิโคบาร์แล้ว

    คาดว่าจะมีลมแรงพัดปกคลุมบริเวณชายฝั่งหลายแห่ง
    ฝนตกหนักอาจเกิดขึ้นได้ในChennai, Tirupati , chittoor, nellore

    #Cyclone #Amphan has reached Andaman and Nicobar island intensified into super cyclone.

    Strong winds expected over many coastal areas.
    Heavy rain possible over Chennai, Tirupati, chittoor, nellore.

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุหมุนเขตร้อนระดับโลกและข้อมูลการรบกวน

    # 01B #AMPHAN
    ตั้งแต่ 06:00 UTC 18 พฤษภาคม 2020:
    สถานที่: 13.6 ° N 86.4 ° E
    ลมสูงสุด: 140 kt
    ความดันส่วนกลางขั้นต่ำ: 911 mb

    # 98S # GENESIS004
    ตั้งแต่ 06:00 UTC 18 พฤษภาคม 2020:
    สถานที่: 6.6 ° S 92.3 ° E
    ลมสูงสุด: 15 kt
    ความดันส่วนกลางขั้นต่ำ: 1005 mb

    Global Tropical Cyclone and Disturbance Information

    #01B #AMPHAN
    As of 06:00 UTC May 18, 2020:
    Location: 13.6°N 86.4°E
    Maximum Winds: 140 kt
    Minimum Central Pressure: 911 mb

    #98S #GENESIS004
    As of 06:00 UTC May 18, 2020:
    Location: 6.6°S 92.3°E
    Maximum Winds: 15 kt
    Minimum Central Pressure: 1005 mb

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดระทึก ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น อำพัน ทวีกำลังขณะผ่านอ่าวเบงกอล จ่อถล่มอินเดีย
    ชาวอินเดียสุดหวั่น พายุไซโคลนอำพัน ทวีกำลังแรงขึ้นกลายเป็นซุปเปอร์ไซโคลนแล้ว ขณะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเบงกอล จ่อขึ้นฝั่งรัฐเบงกอล และโอริสสา วันพุธที่ 20 พ.ค. ซ้ำเติมโควิด-19ระบาด
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'บิ๊กป้อม' เร่งแก้ภัยแล้ง รองรับ New Normal บูรณาการแผนจัดสรรน้ำ
    "ประวิตร" เร่งแก้ภัยแล้ง รองรับ New Normal พร้อมกำชับบูรณาการ ขับเคลื่อนแผนจัดสรรน้ำ ครอบคลุมทั้งระบบ เน้นน้ำประปาต้องมีคุณภาพ ประชาชน เอกชนมีส่วนร่วม ย้ำกักเก็บน้ำฤดูฝนหวังช่วยหน้าแล้ง
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "มนัญญา" จ่อแถลงทิศทาง 82 สหกรณ์ออมทรัพย์ เจ้าหนี้ บมจ.การบินไทย
    "มนัญญา" เผยเตรียมแถลงรายละเอียดแผนดูแล 82 สหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหนี้ บมจ.การบินไทย หลังครม.เห็นชอบแผนฟื้นฟู
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
    .
    "ภายหลังที่นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในเรื่องการฟื้นฟูบมจ.การบินไทยแล้วเสร็จ ตนและอธิบดี กสส. จะแถลงรายละเอียดในมาตรการทั้งหมดที่จะนำมาดูแล 82 สหกรณ์ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจกับสหกรณ์ออมทรัพย์และประชาชนที่สนใจในเรื่องบมจ.บินไทยในภาคส่วนที่ดิฉันกำกับดูแล และหลังจากนั้นจะได้มีการนัด 82 สหกรณ์ออมทรัพย์ มาหารือทิศทางการทำงานร่วมกันระหว่างกสส.กับสหกรณ์เจ้าหนี้ในระยะต่อไป" นางสาวมนัญญากล่าว

    สำหรับ 82 สหกรณ์ออมทรัพย์ที่ลงทุนในหุ้นกู้บมจ.การบินไทย มูลค่าการลงทุน 42,229 ล้านบาท คิดเป็น 3.62% ของสินทรัพย์ที่สหกรณ์เหล่านั้นมี 1.17 ล้านล้านบาท มีเพียง 7 แห่งที่ลงทุนต่อสินทรัพย์มากกว่า 10% และพบว่า มีเพียง 15 สหกรณ์หรือ 18% ที่สภาพคล่องน้อยกว่า 10% ที่เหลือคือ 67 สหกรณ์หรือ 82% มีสภาพคล่องมากกว่า 82% อย่างไรก็ตามทั้ง 82 สหกรณ์จะมีกำหนดคืนค่าหุ้นต่างช่วงเวลากันตามอายุสัญญาหุ้นกู้นั้นๆ ระหว่างปี 2563-2577
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากที่โพสต์บอกไปตอนต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ถึงปฏิบัติการ “น้ำมันแลกทอง”!

    อิหร่านส่งเบนซินและอะไหล่บวกช่างซ่อมโรงกลั่นน้ำมันไป / เวเนฯ ส่งทองแท่งมา

    สังคมอุดมปัญญาและอารีเยี่ยงนี้ จีนผู้รักการรื่นรมย์ในสุนทรียะไม่อาจนิ่งดูดายได้ ต้องขอเข้าร่วมวง!!!

    “มิตรภาพมีค่าดั่งทอง” คำกล่าวนี้จริงหรือไม่? จีนไม่อาจรีรอ กระโดดปราดไปพิสูจน์ทันทีเลยจ้า!

    ---

    สำนักข่าวอาร์กัส ชี้ “จี่ไฉ” (济柴) บริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลัง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ “การปิโตรเลียมแห่งประเทศจีน” (อืมม์ เห็นชื่อก็รู้ละนะว่าเทียบได้กับ ปตท. บ้านเรา --- เป็น “รัฐวิสาหกิจ” นั่นเอง) แหย่ขาเข้าไป ‘มีส่วน’ ในปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย!

    สิ่งที่ “มาฮาน แอร์” สายการบินอิหร่านบรรทุกไปยังเวเนฯ นั้น

    … มีวัตถุดิบและอุปกรณ์ “เมดอินไชน่า”

    … มีช่างซ่อม สัญญาติ “ไชน่า”

    และไฟลท์ขากลับ … “ไชโย! มีทอง”

    .

    อาร์กัส แจงว่า “สารเติมแต่ง” ที่ต้องเอาไปเบลนด์กับเบนซินให้ได้สเปคนั้น อิหร่านผลิตไม่พอ ต้องขอให้จีนมาช่วยอีกแรง

    (มีรายงานไฟลท์จากนครเฉิงตู ประเทศจีน มาสู่กรุงเตหะราน ของอิหร่าน แล้วขนถ่าย “ของ” ขึ้นเครื่องที่จะบินไปเมืองปารากวานา ประเทศเวเนฯ

    ส่วนขากลับ แค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็รายงานว่ามีไฟลท์ถึงกรุงเตะหราน … แต่ไม่ได้แจ้งว่าขน “อะไร” ต่อไปเฉิงตูอีกทอดไหม)

    ช่างอิหร่านกับช่างจีนกำลังซ่อมโรงกลั่น “การ์ดอน” เมื่อเสร็จก็จะไปซ่อมโรงกลั่น “อามวย” (หรือออกเสียงสำเนียงแบบชาวสยามว่า “อาม่วย” หรือ “อาหมวย” --- ใครตั้งชื่อให้หนอ?) จากนั้นก็จะไปต่อที่โรงกลั่น “เอล ปาลิโต”

    ---

    ล่าสุด ปลายสัปดาห์ก่อน อิหร่านก็ขนเบนซินลงเรือ 5 ลำ ส่งไปให้เวเนฯ โต้งๆเลย

    อิหร่านโดนอเมริกาคว่ำบาตร / เวเนฯ ก็โดนอเมริกาคว่ำบาตร --- ไม่มีอะไรต้องเสียไปกว่านี้อยู่แล้ว! ไม่ต้อง “ลักลอบ”! ขนมันกลางวันแสกๆ ให้เห็นกันชัดๆ

    ฝูงเรือรบแห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ระเริงคลื่น ว่อนอยู่แถวนั้น สลอนพร้อมหน้า ทั้ง USS Detroit (LCS-7) / USS Lassen (DDG-82) / USS Preble (DDG-88) / USS Farragut … อิหร่านไม่เกรงอกเกรงใจหรือ?

    สื่ออิหร่านโว มีอะไรต้องกลัว อเมริกาไม่กล้าลงมือหรอก เพราะแหยงนิวเคลียร์อิหร่าน!

    บังเอิญจัง ไม่กี่วันก่อน ก็มีข่าวจากจีน … JL-3 ระบบยิงมิสไซล์จากเรือดำน้ำ ติด 1 ใน 10 ผู้เข้าชิงรางวัล “งานประกวดนวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งชาติ” … ร่ายบอกสรรพคุณด้วยว่า ยิงจากชายฝั่งของจีน ถึงประเทศอเมริกาเลยนะนั่น! บอกทำไมน้า?

    ---

    หมายเหตุ

    ไม่มีหลักฐานว่า บนเรือบรรทุกน้ำมัน มีเบนซินจากจีนด้วยหรือไม่!? หากเป็นเบนซินอิหร่าน ก็ไม่อาจระบุต้นตอว่ามันเบลนด์กับสารเติมแต่งจากจีนจริงหรือไม่!?และไม่อาจสาวได้ว่ามีทองไปถึงประเทศจีนหรือไม่?

    มีแต่อิหร่านที่ ‘ออกหน้า’

    .

    “มิตรภาพมีค่าดั่งทอง” ท่านว่าจริงหรือไม่?

    แล้วถ้าไม่มีทองเล่า มิตรภาพจะยังคงมีอยู่ไหม? … ไม่รู้ซี

    รู้แต่ว่า ถ้าไม่มีนิวเคลียร์ อาจไม่มีทางให้ได้ขนทอง

    แล้ว “มิตรภาพมีค่าดั่งเบนซิน” ล่ะจริงไหม? …. อืมม์ แต่ตอนนี้เบนซินถูกนา แค่ลิตรละไม่กี่ตังค์เอง …

    https://www.argusmedia.com/en/news/2103873-china-joins-iran-in-pdv-quest-to-repair-refinery

    https://www.presstv.com/Detail/2020...-to-Venezuela-guaranteed-by-its-missile-power

    https://www.scmp.com/news/china/mil...s-latest-underwater-nuclear-missile-spotlight

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เดือดพยากรณ์! สัญญาณอันตราย! ปีนี้ มี ‘เค้าลาง’ บางประการละม้ายคล้ายปี 2005 ที่มหาวาตภัยเฮอริเคน “แคทรีนา” โจมตีอเมริกาย่อยยับระดับประวัติศาสตร์ สร้างความสูญเสียมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์

    ไม่ทันไรก็มาแล้ว! พายุโซนร้อน “อาเธอร์” คือดอกแรก ประเดิมซัดอเมริกาเป็นลูกปฐมฤกษ์ จ่อเข้าชายฝั่งวันนี้ (วันจันทร์ที่ 18 พ.ค.) ซึ่งไม่น่าจะรุนแรงถึงขึ้นทำให้ “แผ่นดินถล่ม” … แต่ แต่ แต่ มันมาเร็วกว่าปกติ เพราะฤดูกาลเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติก ทั่วไปจะเปิดศักราชวันที่ 1 มิ.ย. --- ก็เท่ากับว่าคลอดก่อนกำหนด 16 วัน! มันบ่งบอกทายทักอะไรหรือไม่?

    .

    นั่นก็แค่ตงิดๆ แต่ที่ทำให้เสียวสันหลังวาบคือ มีนักพยากรณ์อากาศ “ฟันธง” ว่าปีนี้จะเกิดมหันตภัยเฮอริเคนอาละวาดเทียบเท่า “แคทรีนา”ในครั้งกระโน้นเมื่อ 15 ปีก่อน (งวดนั้น ไม่ใช่แค่แคทรีนาลูกเดียว แต่ระห่ำเดือดคะนองลมถึง 28 ลูก)

    สัญญาณปริศนาที่น่าตระหนก คือ ปีนี้ประหลาดนัก ไม่มีทั้ง เอล นิโญ และ ลา นิญา (ภาษาสเปนแปลว่า “ไอ้หนูน้อย” (ช) กับ “แม่หนูน้อย” (ญ)) --- ไอ้ภาวะ ‘หว่างกลาง’ แบบไม่ฉีก ช ไม่แยก ญ ให้ชัดเช่นนี้ ครั้งหลังสุดที่เจอ … ก็ตอนเกิด “แคทรีนา” นั่นแหละ! จึงเกรงว่าปรากฏการณ์ครานี้จะผ่าไป “จิ้นวาย” กลายเป็นพายุใหญ่ในตำนาน!

    (ยังมีสัญญาพิลึกอีกสองประการ แต่เป็นศัพท์วิชาการของการพยากรณ์อากาศซึ่งระดับสติปัญญาข้าพเจ้าสาวไปไม่ถึง)

    .

    ชวนหวาดผวาที่สุด ก็คือ … ต่อให้เป็น “แคทรีนา” ระดับย่อมๆก็เถอะ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกวาดคนเข้าศูนย์อพยพ … แล้วถามว่ายัดกันอยู่ในนั้น มันจะ “โซเชียล ดิสแทนซิ่ง” ให้เว้นระยะห่างระหว่างกันได้อีท่าไหน

    ไม่อยากจะจินตนาการเลย

    แถมเอาแค่พิษโควิด-19 ตอนนี้ คนก็ตกงานกันเป็นเบือแล้ว ถ้าโดนเฮอริเคน 2020 อีกล่ะก็ ดูไม่จืดเลย

    ได้แต่ภาวนาส่งใจไปช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยเทอญ

    https://www.bloomberg.com/news/arti...of-hyperactive-hurricane-season?sref=mu7Gtsbe

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    May 18 , 2020 สหภาพฯบินไทยคัดค้านกระทรวงคมนาคมเสนอคลังลดสัดส่วนถือหุ้น เพราะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของบริษัท ในสายตาของเจ้าหนี้-นักลงทุน
    .
    จากการที่ สหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจ การบินไทย ได้ติดตาม ความคืบหน้า ในการดำเนินการเพื่อเสนอ แผนฟื้นฟู กิจการบริษัทการบินไทย มาโดยตลอดและ ได้รับทราบ ข้อมูลล่าสุด ของแผนฟื้นฟูที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอ คนร. พิจารณา มี 2 ประเด็น คือ
    .
    1. เสนอให้ บริษัท การบินไทย ใช้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งบรรจุ อยู่ในกฎหมายล้มละลาย โดยผ่านกระบวนการ ศาลล้มละลายกลาง ซึ่งเป็นทางเลือกในการฟื้นฟูบริษัท สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวและเชื่อมั่นว่าข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ในประเด็นนี้จะส่งผลดีกับบริษัท การบินไทยที่จะฟื้นฟูได้จริงและสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่าง มีประสิทธิภาพและผลกำไรดีกว่าเดิม
    .
    2. ประเด็นที่กระทรวงคมนาคม เสนอให้กระทรวงการคลังลดสัดส่วน การถือครองหุ้นโดยกระทรวงการคลัง ลงมา 2% นั้น สภาพฯ ขอแสดงจุดยืนคัดค้านตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม ในประเด็นนี้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
    .
    2.1 บริษัทการบินไทยกำลังเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการโดยกระบวนการทางศาล ดังนั้นการที่กระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนการถือครองหุ้น ของบริษัทในเวลานี้ อาจจะส่งผลให้เจ้าหนี้ยื่นคัดค้านการร้องขอต่อศาล ในการขอฟื้นฟูกิจการโดยอาศัยบทบัญญัติในกฎหมายล้มละลายได้ เนื่องจากการที่บริษัทสามารถออกหุ้นกู้ และหรือขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเจ้าหนี้และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในบริษัทได้ ก็โดยอาศัยสถานะ อาศัยสถานะ ความเป็นรัฐวิสาหกิจของบริษัท ดังนั้น การลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลัง ในช่วงที่บริษัท กำลังจะเข้าแผนฟื้นฟู จึงเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของบริษัท ในสายตาของเจ้าหนี้และนักลงทุน
    .
    2.2 การลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังลงเหลือต่ำกว่า 50% จะ ส่งผลทำให้สภาพ แรงงาน รัฐวิสาหกิจ การบินไทยถูกควบคุมโดย ตามกฎหมาย (พ.ร.บ .แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 )ซึ่งจะส่งผล ทำให้พนักงานของบริษัท ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ในช่วงการ ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูซึ่งในแผนฟื้นฟูฯ จะต้องมีการปรับลด พนักงาน ลด หรือยุบบางตำแหน่งงาน รวมถึง ลดสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการอื่นๆบางประการ ของพนักงาน
    .
    ดังนั้น การลดสัดส่วนหุ้น ของกระทรวงการคลังในช่วงนี้จึงอาจทำให้ถูกมองได้ว่า ไม่มีความจริงใจ ในการสนับสนุน การคุ้มครองแรงงาน ตามวิถีทางของกฎหมาย คุ้มครองแรงงาน และเลือกปฏิบัติ ในแนวทางที่ไม่คำนึงถึงสิทธิของลูกจ้าง สภาพจึงไม่เห็นด้วยในการลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังและจะคัดค้านจนถึงที่สุด
    .
    #ไวรัสโควิด19 #สหภาพ #การบินไทย #misterban

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    May 19 , 2020 “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เผยกบน.ขยายกรอบวงเงินดูแลแอลพีจีเป็น 10,000 ล้านบาท
    .
    นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ว่าที่ประชุมได้ขยายกรอบวงเงินในการดูแลราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) จากเดิมที่กำหนดให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ 7,000 ล้านบาท เป็น 10,000 ล้านบาท เพื่อนำไปลดราคาแอลพีจี ก.ก.ละ 3 บาท หรือ 45 บาทต่อถังขนาด 15 ก.ก.
    .
    ส่วนจะขยายเวลามาตรการหลังจากครบกำหนด 3 เดือน ในวันที่ 23 มิ.ย.หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับมติบอร์ดกบง. ที่จะพิจารณาต่อไป
    .
    นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบคงอัตราการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลดลง 50 สตางค์(สต.)ต่อลิตรทุกประเภท ยกเว้นแก๊สโซฮอล์อี 85 จัดเก็บเพิ่ม 25 สต./ลิตร และบี 20 ลดเพียง 25 สต./ลิตร เพื่อพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ จากเดิมที่จะครบกำหนดเป็นเวลา 2 เดือนวันที่ 22 พ.ค. นี้ โดยให้ขยายเวลามาตรการออกไป ซึ่งปัจจุบันฐานเงินกองทุนน้ำมันฯวันที่ 17 พ.ค. ฐานะกองทุนสุทธิ 35,176 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 41,358 ล้านบาท บัญชีแอลพีจี ติดลบ 6,182 ล้านบาท
    .
    #กบน #พลังงาน #แอลพีจี #อุ้ม #Misterban

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช็อค! ประธาน Fed ธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม โพเวลล์ พูดขึ้นมาว่า
    “จะสั่งซื้อหุ้นแต่ละตัวและกองทุน ETF ที่เกี่ยวกับวัคซีน”

    สนับสนุนสุดๆแล้ว อย่างงี้ คนถือหุ้นพวกนี้อยู่ดีใจด้วยนะคับ ถือยาวๆได้เลย

    ส่วนทองคำ ก็บวก ต่อปายยย

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (18 - 22 พ.ค.)
    1. คำกล่าวของนายเพาเวลล์, ผลการประชุม FOMC
    ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ จะให้คำกล่าวในวันพรุ่งนี้ต่อหน้าคณะกรรมการทางการคลังของวุฒิสภา ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสตีเวน มนูชิน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่เคยได้รับการอนุมัติ
    สัปดาห์ก่อนเพาเวลล์ได้ประเมินว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงระยะยาว และมีความเป็นไปได้ที่จะต้องมีการอนุมัติมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจ
    ในวันพุธนี้เฟดจะเผยแพร่ รายงานการประชุม ประจำเดือนเมษายน ซึ่งในแถลงการณ์เดือนที่แล้วเฟดระบุว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนเกือบถึงระดับศูนย์เช่นนี้จนกว่าสมาชิกเฟดจะ "มั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะผ่านพ้นช่วงเวลาปัจจุบันนี้ไปได้"
    -------------------------------------------------
    2. ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
    ข้อมูลสำคัญที่ตลาดจะจับตาในสหรัฐยังคงเป็นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งการทยอยเปิดเศรษฐกิจในสหรัฐได้สร้างแรงหนุนที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการจะออกมาต่ำกว่า 2.5 ล้านราย อันเป็นตัวบ่งชี้ว่าอัตราการปลดพนักงานออกเริ่มชะลอตัวลงแล้ว
    สัปดาห์นี้ปฏิทินเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรค่อนข้างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขจากตลาดแรงงานสหราชอาณาจักรประจำเดือนมีนาคม ยอดค้าปลีกและอัตราเงินเฟ้อ ทว่าเนื่องจากสหราชอาณาจักรได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม ดังนั้นตอนนี้จึงอาจเร็วเกินไปที่จะเห็นผลกระทบจากการระบาดต่อ ตัวเลขตลาดแรงงาน
    ยอดการค้าปลีก ประจำเดือนเมษายนน่าจะลดลงอย่างน้อย 15% ส่วนราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงก็น่าจะกดดันให้ อัตราเงินเฟ้อ ของเดือนที่แล้วลดลงตามไปด้วย
    -------------------------------------------------
    3. ผลประกอบการของบริษัทการค้าปลีก
    แม้ว่าฤดูกาลประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของสหรัฐใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สำหรับภาคการค้าปลีกนี่คือจุดเริ่มต้น โดยในสัปดาห์นี้จะมีการายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทการค้าปลีกสหรัฐรายใหญ่ ได้แก่ Walmart (NYSE:WMT), Home Depot (NYSE:HD), Lowe's (NYSE:LOW), Target (NYSE:TGT), Kohl's (NYSE:KSS) และ Best Buy (NYSE:BBY)
    หุ้นของ Amazon (NASDAQ:AMZN) เป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้น "สำหรับการกักตัว" ที่ได้รับผลประโยชน์จากการล็อกดาวน์ โดยในปีนี้หุ้นได้ทะยานขึ้นมาแล้วกว่า 28%
    -------------------------------------------------
    4. ราคาน้ำมันจะถล่มลงอีกหรือไม่
    วันหมดอายุของ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ เวสท์เท็กซัสกำลังจะมาถึง และเทรดเดอร์หลายท่านมีความกังวลว่าราคาน้ำมันจะถล่มลงเหมือนเดือนที่แล้วหรือไม่
    สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา (CFTC) ได้เตือนว่านักลงทุนควรเตรียมรับมือกับความผันผวนและราคาที่ติดลบอีกครั้ง ขณะที่การกักเก็บน้ำมันยังคงตึงตัวและภาพรวมของอุปสงค์น้ำมันโลกยังคงได้รับแรงกดดัน
    ทว่าไม่นานมานี้ราคาน้ำมันได้พลิกฟื้นขึ้นท่ามกลางความคาดหวังว่าการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์จะช่วยหนุนอุปสงค์ตลาดพลังงานให้ฟื้นคืนกลับมา รวมทั้งสัญญาณจาก ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่ลดลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม
    ทว่าเทรดเดอร์บางคนก็ปฏิบัติตามคำเตือนของ CFTC โดยปริมาณการซื้อขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนกรกฎาคมซึ่งจะหมดอายุในอีก 1 เดือนข้างหน้าได้แซงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายนไปแล้วเกือบ 50%
    -------------------------------------------------
    5. กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เตรียมลดอัตราดอกเบี้ย
    ธนาคารกลางตุรกีและแอฟริกาใต้ต่างก็เตรียมประชุมนโยบายทางการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ และคาดว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งแม้ว่าสกุลเงินของทั้งสองประเทศจะอ่อนค่าลงอย่างหนักก็ตาม
    นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าแอฟริกาใต้จะลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 4.25% ลงอีก 0.50 จุด
    ส่วน ลิราตุรกี ก็ได้ทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับเลขสองหลักแต่ธนาคารกลางตุรกีก็น่าจะลด อัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืน ลงอีก 0.50- 1.00 จุดเท่ากับ 8.75%

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ราคาบ้าน อสังหาที่จีน เริ่มกลับมาราคาขึ้นอีกครั้ง อยู่ที่ +0.5% ในเดือนที่ผ่านมา เมษายน

    ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือน ตุลาคม จนถึง มีนาคม ที่ผ่านมา ราคาขึ้นเพียงแค่ +0.1%

    ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ผลกระทบจากสงครามการค้า และโควิด-19 และตอนนี้เริ่มกลับมาแล้ว ยอดขายฟื้นตัวอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง

    เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดเริ่มกลับมาจากการจำนองได้ง่ายขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จากรัฐบาลเพิ่มสภาพคล่องในตลาดอสังหา เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การประชุมองค์การอนามัยโลกครั้งนี้ จะเป็นการประชุมที่น่าจับตาที่สุด
    .
    1/ ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับการประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก ที่จะมีขึ้น 2 วันคือ จันทร์ที่ 18 และอังคารที่ 19 พ.ค.
    .
    2/ นอกจากการประชุมวาระทั่วไปแล้ว วาระพิเศษคือ ออสเตรเลียเรียกร้องให้มีกระบวนการสอบสวนต้นกำเนิดและการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีประเทศต่างๆรวม 116 ประเทศ จากเดิม 62 ประเทศ สนับสนุนข้อเรียกร้องของออสเตรเลีย
    .
    3/ ประเทศที่ร่วมสนับสนุนข้อเรียกร้องคือ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด 27 ประเทศ และยังมี อินเดีย ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย รัสเซีย เม็กซิโก และอีกหลายๆประเทศในทวีปแอฟริกา
    .
    4/ ข้อเรียกร้องคือ ให้องค์การอนามัยโลกเริ่มกระบวนการขั้นตอนการสอบสวนที่เป็นกลาง ประเมินอย่างเป็นกลาง เปิดกว้าง โปร่งใส เป็นอิสระ และครอบคลุมเกี่ยวกับต้นกำเนิดและการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจจะมีผลหรือไม่มีผลกับจีนโดยตรง
    .
    5/ ข้อเรียกร้องสำคัญคือ การทำงานขององค์การอนามัยโลกต่อเรื่องนี้ต้องปราศจากอิทธิพลทางการเมือง และไม่เอนเอียงไปในทางใดทางหนึ่ง
    .
    6/ ข้อเรียกร้องนี้ จะเข้าสู่การประชุมขององค์การอนามัยโลกวันอังคารที่ 19 พ.ค. ซึ่งจะมีข้อซักถามจีนถึงเหตุของการไม่อนุญาตให้ผู้ตรวจสอบชาวต่างชาติเข้าอู่ฮั่น การระงับการเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับไวรัส และความล้มเหลวในการส่งมอบตัวอย่างไวรัส
    .
    7/ ผู้เชี่ยวชาญฯหลายฝ่ายมองว่า การประชุมขององค์การอนามัยโลกครั้งนี้ จะเป็นการประชุมสุดยอดที่สำคัญที่สุดของปี 2020
    .
    8/ เพราะเมื่อสหรัฐอเมริกากำลังบอบช้ำจากไวรัสโควิด สหรัฐฯไม่ได้มีความเป็นผู้นำใดๆในการเผชิญวิกฤตโลกครั้งนี้ ประเทศต่างๆจะรวมกลุ่มพันธมิตรแบบหลวมๆขึ้นมาในคราวนี้เอง
    .
    อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ:
    .

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มณฑลซานซี เป็นมณฑลแรกในจีน ที่ออกกฎหมาย "ห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ หากใครฝ่าฝืน ปรับ 300-500 หยวน (ราว 1,350 - 2,250 บาท) โดยเริ่มใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

    อ้ายจงได้อ่านความคิดเห็นในโลกโซเชียลจีน Weibo ทำให้ได้เห็นมุมมองของคนจีนรุ่นใหม่ ที่บ่งบอกได้เลยว่า พวกเขาเหล่านี้ จะทำให้จีนน่าอยู่และการถ่มน้ำลายเริ่มน้อยลงจริงๆ โดยความคิดเห็นของคนจีนมีประมาณนี้

    - นี่ปี ค.ศ. 2020 ยังมีคนที่ถ่มน้ำลายตามที่สาธารณะอีกหรอ ยังจัดการไม่ได้หรอ

    - เรื่องแบบนี้จริงๆอยู่ที่คุณภาพของคน ควรมีจิตสำนึก ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายแบบนี้ก็ได้

    - กฎหมายนี้ดีมากๆ เห็นด้วย

    - การถ่มน้ำลายไปเรื่อย ตามที่สาธารณะต่างๆ ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีอารยธรรมเลย

    - อยากให้ทั้งทั่วประเทศจีน บังคับใช้กฎหมายแบบนี้

    - คนที่ยังถ่มน้ำลายตามที่สาธารณะ สมควรโดนจับ

    - นอกจากกฎหมายแล้ว ทุกคนควรมีสำนึกในการเริ่มพฤติกรรมที่ดีจากตัวพวกเราเอง

    - น่าจะเพิ่มบทลงโทษให้กวาดถนนด้วย1เดือน

    - กฎหมายแบบนี้ควรมีมานานแล้ว

    - เป็นกฎหมายที่ดี แต่การตรวจตราและจับคนทำผิดจริงๆอาจจะยาก

    -----

    อ้ายจงอ้างอิงจาก

    - Weibo: 人民日报
    https://m.weibo.cn/2803301701/4505208795963798

    -Weibo: 中国青年报
    https://m.weibo.cn/1726918143/4505487557543366

    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกจะมีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด แต่ต้องรออีกนานหลายปี
    .
    1/ นายแพทย์ ซ่ง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ เป็นหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจฝ่ายบุคลากรการแพทย์ของจีน เพื่อการต่อสู้กับโรคโควิด-19
    .
    2/ คุณหมอซ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการวางแผนยุทธศาสตร์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส เมื่อปี 2546 ถึง 2547
    .
    3/ ล่าสุด คุณหมอซ่งให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ เทปสัมภาษณ์ออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 18 พ.ค.) / ชมได้ที่นี่ครับ

    .
    4/ หมอซ๋งกล่าวในการสัมภาษณ์ว่า สถานการณ์โควิด-19 ในจีนไม่ได้ดีไปกว่าต่างประเทศ เพราะมีความเป็นไปได้เสมอที่จีนจะเผชิญกับไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดระลอกสอง เนื่องจากชาวจีนในประเทศส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
    .
    5/ “โลกจะมีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด แต่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพอาจต้องรออีกนานหลายปี" คุณหมอกล่าว
    .
    6/ ประเด็นนี้น่าสนใจ – หมอซ่งบอกว่า เมืองอู่ฮั่น พื้นที่ที่เป็นกราวด์ซีโร่ ต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองไม่ได้รายงานความจริงทั้งหมด
    .
    7/ ทั้งนี้เพราะ ในช่วงแรกที่โรคเกิดขึ้น สถานการณ์มีความขลุกขลัก ทำให้ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนไปบ้าง
    .
    8/ แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่ คือเริ่มตั้งแต่อู่ฮั่นเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองเมื่อปลายเดือนมกราคม ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องและชัดเจน
    .

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ULTIMA #HORA #URGENTE

    ไซโคลน amphan เป็นหมวดที่ 5 แล้วและกลายเป็นพายุไซโคลนสุดยอด !! ด้วยแรงลม 160 ไมล์ต่อชั่วโมงและแรงดันส่วนกลางที่ 911mb

    นี่เป็นพายุไซโคลนที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 21 ปีที่ผ่านมา

    การแจ้งเตือนสูงสุดในบังคลาเทศและอินเดีย

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่ใช่แค่ ทอล์กออฟเดอะทาวน์
    แต่มันเป็น ทอล์กออฟเดอะเวิล์ด
    .
    1/ วันนี้ ที่ทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯมีแถลงการณ์ถึงเรื่องการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 คำแถลงของทรัมป์กำลังสร้างความงงงวยให้กับคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก
    .
    2/ ทรัมป์บอกว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ NIH เริ่มพัฒนาตัวอย่างวัคซีนครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2020 แล้ว (NIH คือ National Institutes of Health สถาบันสุขภาพแห่งชาติ เป็นหน่วยงานวิจัยในสหรัฐฯ รับผิดชอบในด้านงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับทางด้านการแพทย์)
    .
    3/ “ในวันที่ 11 มกราคม คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราเริ่มพัฒนาวัคซีนแล้ว โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เรากำลังจะเผชิญหน้ากับอะไร" ทรัมป์กล่าว
    .
    4/ คำกล่าวของทรัมป์ ตีความได้ว่า สหรัฐฯเริ่มพัฒนาวัคซีนก่อนพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ และก่อนที่จีนจะเผยพันธุกรรมของไวรัส เสียอีก
    .
    5/ เพราะถ้าเรียงลำดับเหตุการณ์ไทม์ไลน์ สหรัฐฯกับไวรัสโควิด
    -11 มกราคม : สหรัฐฯเริ่มพัฒนาวัคซีน (ตามที่ทรัมป์บอก)
    -12 มกราคม : จีนแบ่งปันข้อมูลลำดับจีโนมของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) กับองค์การอนามัยโลก
    -13 มกราคม : พบผู้ป่วยโควิด-19 คนแรก (Patient 1) ในสหรัฐฯ เป็นหญิงวัย 60 ปี เธอเดินทางไปอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 และกลับมายังสหรัฐฯเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563
    .
    6/ สื่อทั่วโลกรวมถึงผู้ที่ได้รับรู้ข่าวนี้ โดยเฉพาะในโลกโซเชียล วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ จนกลายเป็น ทอล์กออฟเดอะเวิล์ดว่า สหรัฐฯเอาเชื้อมาจากไหน?
    .
    7/ สื่อสหรัฐอย่าง Business Insider เผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา และตั้งคำถามว่า หากพบการระบาดในสหรัฐฯตั้งแต่ธันวาหรือมกรา ทรัมป์ทำอะไรอยู่ หรือมัวแต่จับตาจีนจนลืมดูประเทศตัวเอง
    .
    8/ ขณะที่ Global Times สื่อทางการของจีน นำประเด็นนี้มาขยายความ / Global Times สัมภาษณ์ศาสตราจารย์หลี ไห่ตงแห่งมหาวิทยาลัยกิจการระหว่างประเทศของจีน
    .
    9/ ศาสตราจารย์หลีบอกว่า ทรัมป์พูดเช่นนี้ และถ้าเป็นความจริง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯล้มเหลวในการควบคุมการระบาด
    .
    10/ ประเด็น 'วัคซีน 11 ม.ค.' กำลังสร้างความประหลาดใจและฮือฮาในกลุ่มชาวจีนเป็นอย่างมาก ชาวจีนในโลกโซเชียลตั้งคำถามมากมาย เช่น ไวรัสระบาดในสหรัฐฯก่อนหน้าจีน? แต่รัฐบาลสหรัฐฯไม่สนใจการระบาด?
    .
    11/ ความเห็นของชาวจีนส่วนใหญ่ แทบ 100% ไม่พอใจ เพราะการที่ทรัมป์พูดแบบนี้ แสดงว่ารัฐบาลสหรัฐฯรู้ล่วงหน้า แต่ไม่มีการรับมือการระบาด แต่ทุกวันนี้ ประโคมข่าวโทษว่า ‘เป็นความผิดของจีน’
    .

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตามดู 2 มติฯ WHO 116 ชาติร่วมร้องสอบสวนต้นเหตุไวรัสฯ? พันธมิตรดึงไต้หวันสังเกตการณ์?

    กลุ่มสื่อทั้งจีนและตะวันตก กำลังติดตามการประชุมประจำปีของสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 73 ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ (18 - 19 พ.ค.) ซึ่งก่อนการระบาดใหญ่คงไม่มีใครคาดคิดว่าการประชุมสองวันสั้น ๆ นี้ กำลังจะเป็นการประชุมสุดยอดทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของปี 2020
    .
    นอกเหนือจากประชุมลงมติในวาระประจำปีทั่วไป ที่น่าสนใจคือจะมีวาระประชุมลงมติพิเศษ 2 เรื่อง ที่น่าจะเป็นข้อขัดแย้งกันโดยตรงกับจีน ได้แก่ 1. การเรียกร้องให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ และ 2. ร่างมติฯ ของประเทศออสเตรเลียซึ่งเรียกร้องให้มีกระบวนการสอบสวนต้นกำเนิดของไวรัส
    .
    ล่าสุดก่อนการประชุมฯ ร่างมติที่ออสเตรเลียเป็นผู้ริเริ่มฯ ได้มีการรวมตัวของประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 116 ประเทศแล้ว ที่สนับสนุนข้อเรียกร้องของออสเตรเลีย ที่ให้มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับต้นกำเนิดของการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส
    .
    รายงานของ WHO ว่าร่างมติของออสเตรเลียนี้จะมีการนำเสนอต่อสมัชชาอนามัยโลกในวันอังคาร (19 พ.ค.) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศสำคัญ ๆ เช่น ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด 27 ประเทศ ยังมี อินเดีย ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย รัสเซีย เม็กซิโก และกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกา
    .
    ข้อเสนอต้องการให้นายแพทย์เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ริเริ่ม "กระบวนการขั้นตอนที่เป็นกลางในการประเมินที่เป็นกลาง เป็นอิสระและครอบคลุม"
    .
    ก่อนหน้านี้ ปักกิ่งขู่ออสเตรเลียหากออสเตรเลียยื่นข้อเรียกร้องเพื่อกล่าวหาทำลายจีน และว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง
    .
    จีนยังกล่าวว่าจะตอบโต้บังคับใช้มาตรการลงโทษในการส่งออกข้าวบาร์เลย์ออสเตรเลียและระงับการส่งออกเนื้อวัว
    .
    #116ประเทศร่วมออสเตรเลียสอบสวนต้นเหตุไวรัส
    อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตามรายงานของ เดลีเทเลกราฟ มีประเทศต่าง ๆ อย่างน้อย 116 ประเทศ จากเดิมมี 62 ประเทศ แต่ล่าสุดมีกลุ่มแอฟริกา เพิ่มเข้ามาร่วมสนับสนุน สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ซึ่งเสนอองค์ประกอบสำคัญในการเรียกร้องให้สอบสวนต้นกำเนิดของไวรัสและข้อขัดแย้งซึ่งอาจจะมีผล หรือไม่มีผลกับจีนโดยตรง
    .
    ประเทศที่ให้การสนับสนุนการสอบสวน มีอาทิ แอลเบเนีย, ออสเตรเลีย,บังคลาเทศ, เบลารุส, ภูฏาน, บราซิล, แคนาดา, ชิลี, จิบูตี, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เอกวาดอร์, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา, กายอานา, ไอซ์แลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, จอร์แดน, คาซัคสถาน , มาเลเซีย, มัลดีฟส์, เม็กซิโก, โมนาโก, มอนเตเนโกร, นิวซีแลนด์, มาซิโดเนียเหนือ, นอร์เวย์, ปารากวัย, เปรู, กาตาร์, สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐมอลโดวา, รัสเซีย, ซานมารีโน, ซาอุดีอาระเบีย, กลุ่มแอฟริกาและประเทศสมาชิก สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก ตูนิเซีย, ตุรกี, ยูเครนและสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์เหนือ
    .
    #ข้อเรียกร้องให้สอบสวนต้นกำเนิดของไวรัส นั้น มี 4 ประการ
    1. ต้องการให้การสอบสวนเปิดกว้างและโปร่งใส
    2. ต้องมีอิสระ ปราศจากอิทธิพลทางการเมืองและสามารถให้คำแนะนำเพื่อช่วยเสริมสร้างการปกป้องจากการระบาดใหญ่ในอนาคต
    3. ต้องการการเตรียมการเพื่อเร่งตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ขององค์การอนามัยโลก
    4. ต้องการรับรองว่าองค์การอนามัยโลกจะ“ไม่เอนเอียงในทางใดทางหนึ่ง” หลังการจัดการขององค์กรถูกมองว่าดำเนินไปอย่างไม่น่าเชื่อและห่วงความเปราะบางทางการเมืองของปักกิ่ง
    .
    การตอบสนองของพรรคคอมมิวนิสต์ต่อการเสนอร่างมติฯ ในวันอังคารนี้ จะรวมถึงข้อซักถามมาที่เหตุของการไม่อนุญาตให้ผู้ตรวจสอบชาวต่างชาติเข้าอู่ฮั่น ระงับเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับไวรัส ความล้มเหลวในการส่งมอบตัวอย่างไวรัส
    .
    #มติดึงไต้หวันกลับเข้าร่วมสมัชชาอนามัยโลกอีกครั้ง (ในฐานะผู้สังเกตการณ์) นั้น มีการเสนอด้วยอ้างผลงานความสำเร็จกับการต่อสู้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับองค์การอนามัยโลก
    .
    ก่อนนี้ไต้หวัน ก็เคยอยู่ในสมัชชาอนามัยโลก ระหว่างปี 2552 ถึง 2559 แต่ถูกแยกออกจากองค์กรไป หลังจาก ไช่ อิง-เหวิน พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ไต้หวัน) ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2559
    .
    ขณะที่ปักกิ่ง ยืนยันชัดเจนว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ใต้อธิปไตยนโยบาย "จีนเดียว" บนเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การคัดค้านของจีนก็มีจุดยืนของตนเพื่อป้องกันอธิปไตย
    .
    ทั้งนี้ ไต้หวัน มีพันธมิตรทางการทูตกับ 13 ประเทศ แต่องค์การอนามัยโลกมีรัฐสมาชิก 194 รัฐ การสนับสนุนมติเข้าร่วมคงจะยังห่างไกลจำนวนเสียงมติฯ ที่เพียงพอ แต่ในมติการเรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นกำเนิดไวรัสฯ ที่ริเริ่มโดยออสเตรเลียนั้น น่าสนใจมากในการประชุม ซึ่งจะมีการเสนอมติในวันอังคารฯ นี้
    .
    ผู้เชี่ยวชาญฯ หลายฝ่ายมองว่า ก่อนการระบาดใหญ่คงไม่มีใครคาดคิดว่าการประชุมสองวันสั้น ๆ นี้ จะเป็น #การประชุมสุดยอดทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของปี2020
    .
    การประชุม 2 วันนี้ จะได้เห็นการตั้งกลุ่มพันธมิตรหลวม ๆ ของประเทศต่าง ๆ หลังจากสหรัฐอเมริกา ไม่ได้มีความเป็นผู้นำใด ๆ ในการเผชิญวิกฤตโลกครั้งนี้

    ....................................................
    (ภาพจากแฟ้มฯ - การประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 72)
    ข่าว -
    1. Chinese city faces lockdown again as 116 nations back Australia’s push for a COVID-19 inquiry (www.dailytelegraph.com.au)
    2. สรุปบทเรียน 10 ปัจจัยความสำเร็จ "ไต้หวัน" สู้ภัยโควิด-19 แบบไม่ล็อกดาวน์ (https://mgronline.com/)
    3. Australia has dug itself into a hole in its relationship with China. It’s time to find a way out (https://theconversation.com/)
    4. Taiwan island will fall flat as US puppet: Global Times editorial (https://www.globaltimes.cn/)

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชมมาตรการสกัด #โควิด โสมแดง อ้างว่าไม่มีผู้ติดเชื้อแม้แต่คนเดียว
    สื่อ #เกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิมจ็องอึน ผู้นำสูงสุดได้สั่งให้ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการระบาดของโควิดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น โดยการปิดประเทศห้ามการเข้า-ออก พร้อมระบุว่า “หายนะภัยครั้งใหญ่ที่ไม่แบ่งพรมแดนกำลังคุกคามมนุษยชาติ”
    .
    มหาวิทยาลัยในกรุงเปียงยาง ได้ใช้ “มาตรการใหม่เพื่อสกัดโรค” ตั้งแต่ช่วงโควิดเริ่มระบาด ก่อนเริ่มเรียนทุกวันจะต้องผ่านมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด เช่น วัดอุณหภูมิร่างกาย ฆ่าเชื้อมือ พ่นยาฆ่าเชื้อห้องเรียนและโต๊ะเรียน อาจารย์และนักศึกษาสวมหน้ากากตลอดเวลา ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคคระบาดกับนักศึกษา
    ถึงแม้จะมีข่าวลือเรื่องสุขภาพของนายคิมจ็องอึน ที่หายตัวจากสาธารณะไปหลายสัปดาห์ แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง และยังส่งจดหมายไปชื่นชมมาตรการสกัดกั้นโควิดของจีน ที่เกาหลีเหนือใช้เป็นแบบอย่างในการป้องกันไวรัสมรณะโควิด.



     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สายการบินแห่งชาติ Indonesia เตรียมปลดคน
    .
    Garuda Airline สายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซียเตรียมปลดคนหลังจากไม่สามารถทำการบินได้มาเป็นเวลาต่อเนื่อง 3 เดือน จากการระบาดของโรคโควิด 19
    ปัจจุบันสายการบินทั่วโลกกำลังปรับตัวเนื่องจากโควิด 19 ได้ทำให้อุตสาหกรรมการบินล่มสลาย แทบทุกสายการบินมีแผนปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุน และมองว่าการบินในอนาคตจะมีปริมาณของผู้โดยสารลดลง

     

แชร์หน้านี้

Loading...