ติดตามสถานะการณ์

"เมื่อคลื่นลูกที่สองกำลังบุกเข้าโจมตียุโรป"

หลังจากสถานการณ์ในยุโรปเริ่มดีขึ้น จนหลายประเทศอนุญาตให้เดินทางไปมาหาสู่กัน ภายในทวีปของตัวเองได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีบางเขตที่ยังต้องมีการ Lock down อยู่

ถ้าเราติดตามข่าวจะเห็นได้ว่า ถึงแม้จะมีการจัดการดีแค่ไหนก็ตามเราก็ยังพอที่จะเห็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระยะๆ ยกตัวอย่างเช่นเยอรมันก็มีการพบตัวเลขผู้ติดเชื้อ อยู่เป็นระยะๆ โดยเฉลี่ยอยู่ที่วันละประมาณ 100 - 200 คน จนบางวันก็อาจจะมากกว่านั้นแต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ายอดตัวเลขของหลายๆ ประเทศในยุโรปนั้นมีการเพิ่มขึ้นอย่างพร้อมเพียงกัน ยกตัวอย่างเช่น

เบลเยียมที่พบยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น จนต้องมีการออกมาปิดการดำเนินการในบางส่วนของประเทศ และเปลี่ยนจากพื้นที่สีเขียวกลายเป็นสีแดง

หรือสเปน ที่ตัวเลขกระโดด เพิ่มขึ้นวันละเกือบพันคน จนมีข่าวลือว่าอาจจะต้องมีการ Lock down ในบริเวณ Catalonia อีกครั้ง

จนประเทศอังกฤษนั้นก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงใดๆ จนออกประกาศให้คนที่ไปเที่ยวสเปนกลับมาจะต้องถูกกักตัว 14 วัน อย่างไม่มีข้อยกเว้น และยังส่งผลกระทบ โดยเป็นคำถามไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปอีกว่า

"แต่ละประเทศจะจัดการอย่างไร"

ซึ่งมาตรการที่ออกมาในเบื้องต้นของเยอรมันก็คือ การที่ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงในเวลาที่กลับเข้าเยอรมันไม่ว่าจะเป็นทางอากาศหรือทางบกก็จะต้องทำการตรวจเชื้อเสียก่อน และในวันนี้เยอรมันก็ได้ประกาศแจ้งเตือน แก่นักท่องเที่ยว ว่าให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศสเปน และก็ให้คนที่ทำการจองกับบริษัททัวร์สามารถเลื่อนทริปการเดินทาง ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ซึ่งจะเห็นได้ว่า แต่ละประเทศในยุโรป ถึงแม้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดยังไม่นิ่ง แต่เท่าที่สังเกตุก็พบว่าผู้นำแต่ละประเทศก็ยังไม่อยากที่จะตัดสินใจที่จะปิดทุกอย่าง Lock down เหมือนในช่วงสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา

เพราะปัจจัยนึงก็คือแต่ละประเทศต่างก็บาดเจ็บมาไม่น้อยเลยทีเดียวจากการใช้นโยบาย Lock down จึงทำให้ผู้นำประเทศต่างๆ ถ้าเลือกได้ก็พยายามที่จะปิดเป็นทีละพื้นที่ๆ เพื่อพยายามที่จะกำจัดบริเวณของการแพร่กระจายให้มีผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งคำถามที่เกิดขึ้นก็คือ

"จะเอาอยู่หรือไม่?"

เพราะถ้าเราดูจากตัวเลขของผู้ติดเชื้อแล้วจะพบได้ว่าหลายประเทศนั้นก็มีการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงบางวันอาจจะเพิ่มน้อยแต่ก็มีบางวันที่เพิ่มเยอะเช่นกัน ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากของผู้นำแต่ละประเทศที่จะ

"รักษาสมดุลทางเศรษฐกิจกับโรคระบาด"

ซึ่งส่วนตัวพ่อบ้านมองว่า ถ้ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นอีกครั้งจริงๆ ก็ไม่น่าจะหนักเท่ากับรอบแรก เพราะเนื่องจากในตอนนี้ประชาชนต่างก็เกิดการเรียนรู้แล้วเป็นที่เรียบร้อยว่าการป้องกันตัวเองจากไวรัสนั้นควรทำอย่างไร และนอกจากนั้นสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้ากาก เจลแอลกอฮอล์ จนไปถึงชุดป้องกัน เรียกได้ว่า "มีมากจนล้นตลาดเลยทีเดียว"

และให้ทำใจไว้เลยว่าเรื่องนี้จะไม่จบอย่างแน่นอนคืออย่างน้อยก็คือจนกว่าจะมีวัคซีน ดังนั้นพ่อบ้านจึงขอแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้คือถ้าต้องการที่จะเที่ยวก็ขอให้เที่ยวในประเทศตัวเองหรือประเทศข้างเคียง(ที่ต้องเช็คว่าเป็นประเทศเสี่ยงหรือไม่ด้วยนะครับ) ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในช่วงนี้นะครับ

ท่องไว้ๆ

"เที่ยวอย่างระวัง รักษาระยะห่าง รักษาความสะอาด เพื่อตัวเราเองและคนในครอบครัว"

และ

"เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ จบวิกฤตนี้พ่อบ้านจะเที่ยวให้ทั่วเลย(แอบเก็บกดนิดๆ) "

#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Secondwave

ที่มาของข้อมูล

https://www.bbc.com/news/uk-53562603

https://www.bbc.com/news/uk-53566043

https://www.dw.com/en/coronavirus-latest-mandatory-airport-tests-for-at-risk-german-returnees/a-54325812?fbclid=IwAR2Nq3NoCSE3lVCbC8QQvpNL2NNSHnxDH5VlKjQ1KVEGPjnwggViPyjHAIY

https://www.zeit.de/entdecken/reisen/2020-07/coronavirus-spanien-auswaertiges-amt-risikogebiet-barcelona-katalonien-reisen

https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway/photos/a.1121842004500652/3412210905463739/?type=3&theater

 

Environman

วิศวกรฝรั่งเศสแปลงเยื่อไผ่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆสุดเจ๋ง
งานจักสานกำลังเป็นที่สนใจของใครหลาย ๆ คน ที่ผ่านมา มีการนำภูมิปัญญานี้ไปผลิตกระเป๋า เสื่อ พัด หมวก และอื่น ๆ อีกมากมาย ล่าสุดบริษัทในฝรั่งเศสได้ผุดไอเดียสุดปัง นำเยื่อไผ่มาสานไปประกอบเป็นของใช้ที่เราอาจจะคาดไม่ถึง!
•
บริษัทที่ว่านี้มีชื่อว่า Cobratex เป็นบริษัทที่พัฒนาวัสดุผสมในเชิงวิศวกรรม หรือ วัสดุที่ถูกสร้างขึ้นมาประกอบด้วยของผสมจากวัสดุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป (Composite Materials) โดยวัสดุหลักที่ทางบริษัทสนใจก็คือไม้ไผ่นี่เอง ดังนั้นนวัตกรรมของ Cobratex ก็จะเป็นนวัตกรรมที่สร้างจากการนำเยื่อไผ่มาผสมผสานให้เข้ากับสิ่งของเครื่องใช้
•
ซึ่งเยื่อไผ่จะถูกนำมาผสมกับเรซิน และนำมาประกอบกับวัสดุอื่น ๆ ให้เป็นรูปเป็นร่างต่อไป และสามารถออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ลายไม้ไผ่สุดเก๋ได้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าไม้ไผ่ หมวกกันน็อคไม้ไผ่ สโนว์บอร์ด สเกตบอร์ดไม้ไผ่ หรือแม้กระทั่งของที่เราคาดไม่ถึงว่าไม้ไผ่จะนำไปทำได้อย่างเฝือกและขาเทียมไม้ไผ่
•
ทั้งหมดนี้มาจากความตั้งใจของ Edouard Sherwood วิศวกรชาวฝรั่งเศสที่ได้ผันตัวมาก่อตั้งบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 2013 เขามีเป้าหมายในการนำไม้ไผ่มาใช้เป็นวัสดุผสมอย่างยั่งยืน โดยวัสดุจากไม้ไผ่ของเขาจะเบากว่าวัสดุผสมอย่างไฟเบอร์กลาส 0.7 - 0.9 เท่า แต่มีสมบัติทางกลเท่ากัน มากไปกว่านั้นก็คือจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าและอาจจะมอบดีไซน์ที่บางคนมองว่าเท่กว่าด้วย
•
ส่วนที่มาของไผ่พวกนี้ จะมาจากประเทศในแถบแอฟริกาและละตินอเมริกา
•
ดูจากภาพแล้วนอกจากจะได้เห็นถึงไอเดียเก๋ ๆ แล้วก็ยังเห็นได้ว่าวัสดุจากท้องถิ่นก็สามารถนำไปทำเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิดและเป็นที่สนใจในหมู่ชาวต่างชาติมากเลยทีเดียว
•
ที่มา
https://www.facebook.com/750196975002893/posts/3211520715537161/?d=n
https://www.facebook.com/CobratexSAS/
https://www.boatindustry.com/news/25914/cobratex-bamboo-for-nautical-composites
http://www.nsm.or.th/other-service/2076-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-nsm/4373-composite-materials.html
•
ณิชากร บัวทรัพย์
Environman

 

Jul 29 , 2020 ยอดจองรถงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 พุ่งกว่า 22,000 คัน ผ่านผู้เข้าชมกว่า 1 ล้านคน แต่ผู้บริโภคบางส่วนยังชะลอการซื้อออกไป เนื่องจากยังไม่มั่นใจกับภาวะเศรษฐกิจ
.
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) " เปิดเผยว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 มียอดผู้เข้าชมงานอยู่ที่ 1,049,046 คน ส่วนตัวเลขยอดจองรวมทุกค่ายอยู่ที่ 22,791 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 18,381 คัน และรถจักรยานยนต์ 4,410 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าที่แต่ละบริษัทฯ ได้คาดการณ์ไว้ แม้ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
.
อย่างไรก็ตามแม้ไทยจะไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ แต่การประกาศมาตรการเฝ้าระวังของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดการชะลอตัว เนื่องมาจากรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ไม่สามารถส่งออกได้
.
เมื่อรวมเข้ากับสภาวะของเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค แม้ค่ายรถยนต์จะพยายามนำเสนอแคมเปญที่ดีภายในงาน แต่ผู้บริโภคก็ยังคงชะลอการตัดสินใจในการซื้อรถออกไป สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภค ในการตัดสินใจใช้เงินในสภาวะเช่นนี้
.
หากดูจากตัวเลขยอดจองที่เกิดขึ้น น่าจะพอบ่งชี้ได้ว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ คือ กลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการซื้อรถจริง เพราะผู้บริโภคมีความเข้าใจและเลือกซื้อรถที่เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเอง ซึ่งจากตัวเลขยอดจองรถภายในงาน ตลาดรถยนต์ในกลุ่มราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค เนื่องจากมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น
.
โดยปริมาณยอดจองรถภายในงาน 22,791 คัน แบ่งเป็น อันดับ 1 โตโยต้า ยอดจองรวม 3,745 คัน อันดับ 2 มาสด้า ยอดจองรวม 2,365 คัน อันดับ 3 ฮอนด้า ยอดจองรวม 2,001 คัน อันดับ 4 ซูซูกิ ยอดจองรวม 1,583 คัน อันดับ 5 อีซูซุ ยอดจองรวม 1,510 คัน อันดับ 6 เอ็มจี ยอดจองรวม 1,399 คัน อันดับ 7 มิตซูบิชิ ยอดจองรวม 1,227 คัน อันดัน 8 นิสสัน ยอดจองรวม 952 คัน อันดับ 9 บีเอ็มดับเบิ้ลยู ยอดจองรวม 888 คัน และอันดับ 10 ฟอร์ด ยอดจองรวม 742 คัน
.
ส่วนรถจักรยานยนต์ แบ่งเป็นอันดับ 1 ฮอนด้า ยอดจองรวม 1,545 คัน อันดับ 2 ยามาฮ่า 1,387 คัน อันดับ 3 คาวาซากิ ยอดจองรวม 446 คัน อันดับ 4 รอยัล เอนฟิลด์ ยอดจองรวม 321 คัน และอันดับ 5 ซูซูกิ 203 คัน
.
#มอเตอร์ไชว์ #รถยนต์ #ยอดจอง #Misterban

 

Jul 29 , 2020 ครม.เห็นชอบต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน 1 เดือน ถึงวันที่ 31 ส.ค.2563
.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. เสนอขยาย พรก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือนถึงวันที่ 31 ส.ค.2563 แต่ข้อกำหนดทั้งหลายต้องสอดคล้องกับมาตรการผ่อนปรน ซึ่งจะทำให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ใกล้เคียงปกติมากขึ้น แต่จะไม่เหมือนข้อกำหนดเมื่อครั้งที่มีการประกาศ พรก.ฉุกเฉินออกมาครั้งแรก
.
#ครม #พรกฉุกเฉิน #1เดือน #Misterban

 

July 29, 2020 ซาโยนาระ! ติดโควิด-19 วันนี้พุ่งกว่า 1,000 คน มากเป็นประวัติการณ์ โตเกียวติดรายวันเกิน 200 คน 2 วันติดกัน
.
กระทรวงสาธารณสุข ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ทั่วประเทศมีจำนวนพุ่งสูงถึง 11,861 ราย ทำสถิติสูงสุดรายวันนับตั้งแต่พบผู้ป่วยโควิด-19 คนแรกในประเทศญี่ปุ่นเป็นต้นมา ในจำนวนผู้ติดโควิด-19 มากกว่า 1,000 คนในวันนี้ โดยกลุ่มเมืองหลักที่มีการติดเชื้อเป็นจำนวนมากได้แก่ กรุงโตเกียวมีจำนวน 250 คน ทำสถิติติดเชื้อวันละกว่า 100 คนขึ้นไปเป็นวันที่ 21 ติดต่อกัน และกลับมามีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 คนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
.
เมืองโอซากามีผู้ติดโรคโควิด-19 ในวันนี้ 221 คน ทำสถิติจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 200 คน/วัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดในญี่ปุ่นเป็นต้นมา ขณะที่เมื่ออังคารที่ผ่านมานั่น มีผู้ติดโรคโควิด-19 ในโอซากาจำนวน 155 คน ส่งผลให้ทางการต้องประกาศใช้มาตรการห้ามประชาชนและภาคธุรกิจจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในเดือนสิงหาคมนี้
.
ขณะที่ภูมิภาคไอจิในวันนี้ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 155 คน ในจำนวนดังกล่าวมี 93 รายที่เมืองนาโกย่า สำหรับผู้ติดโรคโควิด-19 ในวันนี้เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ที่มีผู้ติดโรคโควิด-19 จำนวน 110 คน ยังคงทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดเป็นต้นมา
.
ทั้งนี้ กรุงโตเกียวยังคงเป็นเมืองที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในอัตราที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเดือนกรกฎาคมนั้น กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมกันเพิ่มขึ้นกว่า 5,000 คน นอกจากนี้ จำนวนติดโรคโควิด-19 รายวันมีมากกว่าหลักร้อยคนขึ้นไปถึง 29 วัน และมีสถิติติดรายวันสูงสุดที่ 366 คนเมื่อวันพฤหัสบดีในสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ญี่ปุ่นมีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมที่ 30,961 ราย ขยับขึ้นอยู่อันดับที่ 55 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 998 ราย เพิ่มขึ้น 2 ราย
.
#ญี่ปุ่น #โควิด19 #โตเกียว #โอซากา #misterban

 

Jul 29 , 2020 อิตาลีมีมติขยายสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือไวรัสโควิด-19 ถึง 15 ต.ค.นี้
.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐสภาอิตาลีได้มีมติเป็นเอกฉันท์ 157 - 125 เสียง จากจำนวนสมาชิกสภา 319 เสียง ในการขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือไวรัสโควิด-19 เป็นวันที่ 15 ต.ค. จากเดิมจะครบกำหนดวันที่ 31 ก.ค. ตามคำร้องขอของนายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรี ในการประชุมของรัฐสภาอิตาลี เมื่อคืนที่ผ่านมา
.
โดยผู้นำอิตาลี ระบุว่าไวรัสโควิด-19 ยังคงพัฒนาความรุนแรงและการระบาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่ถูกต้องนักหากอิตาลีต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทันที ซึ่งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะช่วยเพิ่มอำนาจให้กับหน่วยงานของรัฐทั้งในส่วนกลาง และในระดับภูมิภาค ในการสนับสนุนโรงพยาบาลเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงยังเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ในเตรียมความพร้อมให้กับสถานศึกษาก่อนที่จะทำการเปิดภาคเรียนในเดือน ก.ย.นี้
.

ทั้งนี้อิตาลีนับเป็นหนึ่งในประเทศประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในทวีปยุโรปโดยมียอดผู้ติดเชื้อสูงถึง 246,488 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 35,123 ราย
.
#อิตาลี #ไวรัสโควิด #ทวีปยุโรป #misterban

 

Jul 29 , 2020 หยุดยาว 4 วันตราดเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท ผ่าน 3 เกาะท่องเที่ยวหลัก มีผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดกว่า 36,000 คน
.
นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ รักษาการแทนท่องเที่ยวและกีฬา จ.ตราด เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 25-28 ก.ค. 2563 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจ.ตราด ใน 3 เกาะหลักของจังหวัดคือ เกาะช้าง ,เกาะหมาก และเกาะกูด มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 36,500 คน เพิ่มจากช่วงวันหยุด 4 วันช่วงต้นเดือนประมาณ 5% ส่งผลให้มีรายได้เข้า จ.ตราด 328 ล้านบาท โดยร้อยละ 90 เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเกาะช้างจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุด เนื่องจากสะดวก และใกล้ฝั่ง
.
โดยปัจจัยบวกมาจาก รัฐบาลได้กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งค่าห้องพัก ค่าเข้าชม และค่าอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยได้มาก ขณะที่ จ.ตราด มีธรรมชาติสวยงาม ไม่มีการติดเชื้อโควิด 19 ในระยะที่ผ่านมา เป็นเหตุจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลควรจะออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในแต่ละจังหวัด อันจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย
.
จากการตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยวจากผู้ประกอบโรงแรมทั้ง 3 เกาะ พบว่า เกาะกูด มีนักท่องเที่ยวประมาณ 11,000 คน จากจำนวนโรงแรม 66 แห่ง และจำนวนห้อง 1,360 ห้อง
.
เกาะหมาก มีจำนวน 3,500 คนจากจำนวนโรงแรม 43 แห่ง จำนวน 700 ห้อง
.
เกาะช้างมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 22,000 คน จากจำนวนโรงแรม 276 แห่ง มี 7,796 ห้อง
.
#ตราด #ฟื้นตัว #Misterban #ท่องเที่ยว

 

Jul 29 , 2020 ครึ่งปีแรกการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันของไทยลดลง 13.8% จากผลกระทบของโควิด 19 โดยน้ำมันเครื่องบินลดลงมากที่สุดถึง 49.5%
.
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันครึ่งแรกของปี 2563 หรือ ม.ค. – มิ.ย.2563 ลดลง 13.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มเบนซิน ลดลง 7.6% กลุ่มดีเซลลดลง 4.9%
.
น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 49.5% // น้ำมันเตา ลดลง 21.9% น้ำมันก๊าด ลดลง 16.8% // LPG ลดลง 16% และ NGV ลดลง 28.4% จากการที่ภาครัฐได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดลงอย่างต่อเนื่อง
.
แต่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 63 ภาครัฐได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ ระยะที่ 4 จึงทำให้ภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นปริมาณที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
.
โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 29.7 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 7.6% // กลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้ เฉลี่ยอยู่ที่ 28.9 ล้านลิตร/วัน ลดลง 7.2% และกลุ่มดีเซล เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 4.9%
.
ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9.9 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 49.5% เนื่องจากยังคงอยู่ในช่วงมาตรการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.2563 จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
..
#พลังงาน #น้ำมันเชื้อเพลิง #ไวรัสโควิด19 #อากาศยาน #Misterban

 

Jul 29 , 2020 ดัชนี MPI เดือนมิ.ย. เติบโตร้อยละ 4.18 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการคลายล็อกของรัฐบาล รวมถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว
.
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนมิ.ย. 2563 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 4.18 โดยขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย.ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ร้อยละ 55.21 จากเดิมที่ร้อยละ 52.34 สะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม
.480p lo
ทั้งนี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. 2563 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.66 จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและด้านการขนส่งทั่วโลกหยุดชะงักลง เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว
.
ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ 2 ปีนี้ หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.97 ตามพฤติกรรมการบริโภคในยุค New Normal ส่งผลต่อความต้องการสินค้าคงทนลดลง ประชาชนชะลอการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง ทำให้อุตสาหกรรมหลักหดตัวลงและส่งผลลบต่อดัชนี MPI เดือนมิถุนายน 2563 ได้แก่ การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน
.
ส่วนความต้องการในสินค้าจำพวกอุปโภคและบริโภคกลับขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวดีในเดือนมิถุนายน ได้แก่อาหารสัตว์สำเร็จรูป ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.78 จากผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารปลาเป็นหลัก เนื่องจากความต้องการอาหารสัตว์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
.
ด้านอาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 30.46 โดยเฉพาะปลาทูน่ากระป๋อง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้เกิดความต้องการอาหารที่เก็บไว้ได้นานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ส่วนผลิตภัณฑ์นม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.74
.
โดยเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมหลักมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร (หักน้ำตาล) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.30 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.25
.
ในขณะที่อุตสาหกรรมหลักอื่น ๆ ได้เริ่มกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้ง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ร้อยละ 28.00 โดยตลาดในประเทศขยายตัวร้อยละ 43.50 และตลาดส่งออกขยายตัวร้อยละ 67.40 เนื่องจากในช่วงเดือนมิถุนายนผู้ประกอบการเริ่มกลับมาเปิดสายการผลิต ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมา เช่น“เราเที่ยวด้วยกัน” มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 6 ที่อนุญาตให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับต่างชาติ ซึ่งจจะทำให้ภาคการผลิตจะกลับมาเต็มกำลังอีกครั้ง
.
#MPI #ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม #Misterban #ไวรัสโควิด19

 

July 29, 2020 เห็นกันชัดๆ ทำไมทุนใหญ่ๆถึงแห่ไปตั้งโรงงานที่เวียดนาม แรงงานไทยได้กี่บาทใน 1 ชั่วโมง!

#ค่าแรง #แรงงาน #เวียดนาม #ไทย #misterban

 

Jul 29 , 2020 ครม.อนุมัติ ‘เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ เป็นผู้ว่าธปท.คนใหม่
.
คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้ง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. คนใหม่แล้ว ตามที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอชื่อเข้ามาให้พิจารณาในการประชุม ครม.วันนี้
.
ทำให้นายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. คนที่ 21 ต่อจาก นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบันที่จะครบวาระในสิ้นเดือนกันยายนนี้
.
สำหรับประวัติของนายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ชุดปัจจุบัน
.
จบการศึกษาจาก Ph.D. (Economics), Yale University สหรัฐอเมริกา M.Phil. (Economics), Yale University สหรัฐอเมริกา B.A. (Highest Honors) (Economics), Swarthmore College สหรัฐอเมริกา
.
โดยในช่วงปี 2529 – 2531 ทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นที่ปรึกษาธุรกิจเชิงกลยุทธ์ใน Mckinsey (แมคคินเซย์) และ ช่วงปี 2535 – 2541 เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ธนาคารโลก (World Bank) ก่อนถูกดึงมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการร่วม สถาบันวิจัยนโยบายการคลัง (สวค.) หน่วยงาน “Think Thak” มันสมองของกระทรวงการคลัง ช่วงปี 2541 – 2543 ช่วงที่ประเทศไทยต้องกู้เงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF

ซึ่งผู้อำนวยการร่วม สวค. ในขณะนั้นก็คือ ‘วิรไท สันติประภพ’ ผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบันที่กำลังจะครบวาระดำรงตำแหน่งในสิ้นเดือน กันยายนนี้
.
โดยกลับไปทำงานที่ธนาคารโลกอีกครั้ง ช่วงปี 2544 – 2547 ก่อนจะกลับมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2548 – 2550
.
จากนั้นช่วงปี 2550 – 2551 ก็ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS และขยับขึ้นเป็นกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM ช่วงปี 2551 – 2552 ตลอดจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ของธนาคารไทยพาณิชย์ ช่วงปี 2552 – 2554
.
หลังจากออกจากธนาคารไทยพาณิชย์ ก็ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิแอดไวเซอร์ จำกัด ช่วงปี 2554 – ม.ค. 2561 ระหว่างนั้นก็นั่งเป็นกรรมการ ธนาคารทหารไทยอยู่ 2 ปี คือในปี 2554 – 2555
.
โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ซึ่งได้รับแต่งตั้งมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2557
.
#ผู้ว่า #ธปท #คนใหม่ #Misterban

 

July 29, 2020 โมเดอร์นาอิงค์เผยผลทดสอบวัคซีน MRNA-1273 สามารถป้องกันลิงจากไวรัสโควิด 19 ได้ พร้อมเริ่มทดลองกับมนุษย์จำนวน 30,000 คน คาดได้ข้อสรุป พ.ย.-ธ.ค.ปีนี้
.
วารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์ ได้เผยผลการทดลองของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ของสหรัฐ ได้ทดลองเเล้วพบว่า วัคซีน MRNA-1273 ของโมเดอร์นา สามารถป้องกันลิง 16 ตัวจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งเเต่ละตัวจะได้รับการฉีดวัคซีน 2 ครั้งในระดับโดสที่แตกต่างกัน เเละจากผลการทดลองพบว่า วัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ และลิงไม่ได้แสดงสัญญาณใดของการก่อโรคโควิด-19.
.
ซึ่งจากผลการทดลองพบว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 ในโพรงจมูกของลิงทั้งหมดที่ได้รับการฉีดวัคซีนในปริมาณโดสที่สูง และยังไม่พบไวรัสในของเหลวในปอดของลิง 7 ใน 8 ตัวที่ได้รับวัคซีนในระดับโดสที่แตกต่างกัน 2 กลุ่ม หลังจากที่ปล่อยให้ลิงเหล่านั้นได้สัมผัสกับไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่
.
โดยคาดว่าหากได้นำวัคซีนไปทดลองกับมนุษย์ก็จะบ่งชี้ว่า วัคซีนของโมเดอร์นาอาจจะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในคนได้ เเละโมเดอร์นายังได้ดำเนินการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กับมนุษย์จำนวน 30,000 คน โดยทำการทดลองเฟส 3 ซึ่งจะตัดสินเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนนั้น จะเริ่มเปิดเผยข้อมูลได้ในเดือนพ.ย.หรือธ.ค.นี้ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐจะมอบเงิน 955 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือในการพัฒนาวัคซีนโควิด19
.
#ไวรัสโควิด19 #สหรัฐ #Misterban

 

July 28, 2020 ทั้งเลื่อน ทั้งไปออนไลน์ งานซีอีเอส โชว์สินค้าไอทีใหญ่สุดในสหรัฐจัดออนไลน์ปีนี้

สมาคมผู้บริโภคสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แห่งสหรัฐอเมริกา หรือ CTA ซึ่งเป็นเจ้าของการจัดงานซีอีเอส หรือ CES งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และเป็นที่โด่งดังทั่วโลก ประกาศจัดงานในปีหน้า 2564 บนระบบออนไลน์แทนการจัดแสดงที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา และยืนยันจะกลับมาจัดงานแสดงสินค้าที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดาเหมือนเดิมในปี 2565

องค์กร CTA ให้เหตุผลว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐและทั่วโลกที่ยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการจัดแสดงที่เมืองลาสเวกัส ทำให้ผู้จัดงานจึงมีความจำเป็นต้องปรับรูปแบบการจัดงานไปเป็นออนไลน์ งานซีอีเอสได้รับการสนับสนุนจากบรรดายักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น ไมโครซอฟท์ อเมซอน กูเกิ้ล ซัมซุง โซนี รวมถึงค่ายรถยนต์ชั้นนำระดับโลก เป็นต้น

ทั้งนี้ งานซีอีเอสเริ่มต้นจัดเป็นครั้งแรกในปี 1964 หรือเมื่อ 53 ปีที่ผ่านมา โดยจัดขึ้นที่เมืองนิวยอร์กเป็นที่แรก ก่อนที่จะโยกย้ายมาจัดที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สำหรับในปี 2020 มีผู้เข้าชมงานทั้งจากสหรัฐอเมริกา และจากต่างประเทศทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 171,286 คน

#งานซีอีเอส #ces2021 #misterban

 

July 29, 2020 ทุบหุ้นสหรัฐทั้งวัน ดาวโจนส์ดิ่งเหวกว่า 200 จุด ราคาน้ำมันปิดลงกว่า 1% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดเกือบหลุด 41 ดอลลาร์ ราคาทองคำล่วงหน้าปิดเฉียด 1,950 ดอลล์

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 26,379 จุด -205 จุด หรือ -0.77% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,218 จุด -20 จุด หรือ -0.65% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,402 จุด -134 จุด หรือ -1.27% สาเหตุจากนักลงทุนรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน แบงก์ชาติสหรัฐในคืนนี้ และรัฐสภาสหรัฐกำลังพิจารณากฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทชั้นนำที่ออกมาผิดหวัง

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 41.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.35% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 43.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.19 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -0.44% สาเหตุจากความคาดหวังในการพิจารณากฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ และภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,949 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +18 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.93% ส่งผลให้ราคาทองคำโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง สาเหตุจากความตึงเครียดการเมืองระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีมากขึ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐผันผวนต่อเนื่อง การรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน แบงก์ชาติสหรัฐในคืนนี้

#ลงทุน #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

 

July 29, 2020 ทองคำโลกในเอเชียเช้านี้วิ่งต่อแตะ 1,954-1,957 ดอลลาร์ หลังพุ่งทะลุสถิติใหม่ 1,980.57 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายทองคำโลกในเอเชียที่สิงคโปร์ รายงานว่า วันนี้ 27 กรกฎาคม เมื่อเวลา 8.49 น.(ตามเวลาสิงคโปร์) ราคาทองคำล่วงหน้าเคลื่อนไหวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 1,954.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.5% เทียบจากราคาปิดที่ตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมาที่ระดับ 1,949 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สอดรับกับราคาทองคำโลกส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ที่ตลาดสิงคโปร์ ทะยานขึ้นแตะที่ระดับ 1,957.84 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,980.57 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลราคาทองคำตลาดโลก ทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งนับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากเดิมที่เคยทำไว้ที่ 1,921.17 ในเดือนกันยายน ปี 2011

ด้านราคาทองคำในไทยเปิดตลาดคึกคักทันที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศเมื่อเวลา 9.26 น. เปิดตลาดครั้งที่ 1 ปรับราคาขึ้นบาทละ 250 บาท ราคาทองคำแท่งซื้อที่ 28,950 บาท ราคาขายที่ 29,050 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณซื้ออยู่ที่ 28,425.00 บาท ราคาขายอยู่ที่ 29,550 บาท ทำสถิติราคาทองคำในไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในเอเชียกลับมาร่วงอ่อนค่าลงทำสถิติต่ำสุดในรอบหลายปีครั้งใหม่ การคาดการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ ในวันที่ 28-29 นี้ ที่มีแนวโน้มจะตรึงดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง ขณะที่ SPDR กองทุนลงทุนทองคำที่ทีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ 28 กรกฎาคม ได้เพิ่มการลงทุนทองคำขึ้นเป็น 1,243.12 ตัน หรือ +0.7% จากเมื่อวันจันทร์ที่เพิ่มการลงทุนทองคำ 1,234.65 ตัน หรือ +0.5% ส่งผลให้รวมทั้ง 2 วันที่ผ่านมา กองทุน SPDR เพิ่มการลงทุนทองคำรวม 1.2% หรือมากกว่า 12 คัน

#ทองคำ #ราคาทอง #gold #misterban

 

Jul 29, 2020 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,298 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม
.
โดยขณะนี้มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 129 ราย รักษาหายแล้ว 3,111 ราย เสียชีวิต 58 ราย
.
โดยผู้ติดเชื้อใหม่ทั้ง 1 ราย เดินกลับจากต่างประเทศ เข้าพักอยู่ในพื้นที่ State Quarantine
.
ซึ่งเป็นทหารที่กลับจากฝึกที่ฐานทัพฮาวาย ผลพบเชื้อวันที่ 27 ก.ค. 2563
.
#โควิด19 #Covid19 #Misterban

 

July 28, 2020 รอกันไหวมั้ย? ธุรกิจการบินโลกดิ่งเหวกว่าคาด ฟื้นตัวนานขึ้นอีก 4 ปี

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA เปิดเผยว่า ธุรกิจสายการบินทั่วโลกล้วนปรับลดการคาดการณ์ภาวะฟื้นตัวของธุรกิจออกไปจากระยะเวลาเดิมที่ประเมินไว้ ส่งผลให้ภาวะการฟื้นตัวของสายการบินทั่วโลกต้องใช้เวลายาวนานขึ้นจากเดิมเป็นอีก 4 ปี หรือภายในปี 2024 จึงจะได้เห็นภาวะธุรกิจการบินทั่วโลกกลับมาสู่สภาพก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19

IATA เปิดเผยต่อไปว่า สถานการณ์ที่ย่ำแย่กว่าที่คาดนั้น ทำให้ต้องปรับลดเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารเดินทางทั่วโลกปีนี้ลงจากเดิมที่ -46% เมื่อเดือนเมษายน มาเป็น -55% โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะได้เห็นการฟื้นตัวที่ล่าช้าออกไปมากกว่าที่ตั้งเป้าหมาย ปัจจัยสำคัญ คือการควบคุมและป้องกันสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา และในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้คิดเป็น 40% ของการเดินทางและท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ การฟื้นตัวของตลาดเดินทางเพื่อธุรกิจของกลุ่มองค์กรและเอกชนที่ยังคงอ่อนแอต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ตัวเลขของผู้โดยสารที่เดินทางโดยสายการบินทั่วโลกในเดือนพฤษภาคมดำดิ่งหนักถึง -91% ถัดจากนั้นมาในเดือนมิถุนายน ตัวเลขดังกล่าวยังคงทรุดหนักมากถึง -86.5%

#สายการบิน #เครื่องบิน #misterban

 

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วคุยกับน้องคนหนึ่งเขาบอกว่าพี่ชายแฟนเป็นสจ๊วต เมื่อก่อนได้เดือนละ เกือบแสน หรือ 6-7 หมื่น จำไม่แม่น แต่ตอนนี้ เดือนละหมื่นกว่าบาท ตอนนี้อยู้ได้ด้วยเงินเก็บเดิม

 

วันนี้คุยกับเจ้าของวิสาหกิจชุมชน บอกว่าตอนนีัแย่มาก ไม่มีลูกค้าซื้อของเลย เอาของไปฝากขายในตลาดออนไลน์ ก็ขายไม่ค่อยได้ ตอนนี้ข้อมูลอะไร เขาบอกว่าอยากถามอะไรก็ถามมาเขาไม่กลัวจะไปถึงสรรพากรหรอก เพราะตอนนี้แทบไม่มีรายได้เลย. เขาก็บอกว่าตอนนี้ต้องประหยัด กัน มากๆ

 

เวียดนาม : สถานการณ์โควิด เมืองใหญ่เริ่มตรวจพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม
#ดักลัก พบนักเรียน 2 คนตรวจ + ไวรัสโควิด
ทั้งสองคนพึ่งกลับจากท่องเที่ยวในดานัง
#ฮานอย พบชายวัย 23 ไข้สูงเขาทำงานร้านพิชช่า ในฮานอย ชายคนนี้พึ่งกลับจากดานังเขาไปทริปดานังกับเพื่อน 29 คน เจ้าหน้าที่กำลังปิดร้าน และตามกักคนในบ้าน
#โฮจีมินส์ พบผู้ต้องสงสัย 2รายเข้ารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาล มาจากดานังและพักโรงแรมติดโรงพยาบาล ล่าสุดทางโรงพยาบาล และโรงแรมปิดฆ่าเชื้อ
#ดานังยอดสะสมติดเชื้อใหม่ 30 คน ตั้งแต่ 25 ก.ค.
** หลายเมืองกำลังจับตาเพราะมีการเคลื่อนย้าย เดินทางนักท่องเที่ยวออกจากดานังจำนวนมาก กระจายไปหลายเมือง
** อัพเดท 12.00 น. 29 ก.ค.