ติดตามสถานะการณ์

UNDERWATER: สถานการณ์ไม่ดี ฟลอริดาพบแมนนาทีตายแล้ว 300 ตัวในปีนี้ เหตุสาหร่ายพิษสะพรั่ง หญ้าทะเลลดฮวบ
.
Save the Manatee Club เผยสภาวะฉุกเฉินพบปีนี้แมนนาทีฟลอริดาตายมากกว่า 300 ตัวแล้ว ในทะเลสาบ Indian River Lagoon
.
Indian River Lagoon เป็นหนึ่งในแหล่งสำคัญของแมนนาทีฟลอริดา โดยผลกระทบทางตรงของมนุษย์ ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีสาหร่ายพิษสะพรั่ง และทำให้หญ้าทะเลหายไป และส่งผลให้แมนนาทีตายมากขึ้น
.
โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2020 เป็นต้นมา แมนนาทีกว่า 300 ได้ตายบริเวณชายฝั่งฟลอริดา โดยการตายนี้เกิดขึ้นขณะที่ทาง U.S. Fish and Wildlife Service (FWS) กำลังมีความพยายามลดสถานะการปกป้องแมนนาที และความพยายามในการอนุรักษ์ก็ลดน้อยลง
.
ทาง Save the Manatee Club เรียกร้องให้หน่วยงาน FWS เร่งปกป้อง และดูแลแมนนาทีที่ป่วยหรือบาดเจ็บ และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหลานี้เกิดขึ้นอีก รวมถึงการดูแลแหล่งน้ำ และหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารของหลากหลายสายพันธุ์
.
แมนนาที (manatee) มีรูปร่างคล้ายพะยูนแต่มีหางกลม เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในน้ำขนาดใหญ่ มีตัวสีเทา มันเป็นญาติที่ใกล้ที่สุดของช้างและไฮแรกซ์ พวกมันเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการกิน และพักผ่อน แมนนาทีเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารเสียส่วนใหญ่ แต่ในบางครั้งก็กินปลาเล็ก ๆ และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร
.
ประชากรแมนนาทีฟลอริดาเคยลดเหลือน้อยเพียงราว 1,250 ตัวในปี 1991 และคาดว่ามีราว 7,500 ตัวในปัจจุบัน แต่ละปีพวกมันตายนับร้อยจากถูกเรือชน หรือโรคภัย การสูญเสียอาหาร แหล่งอาศัย สาหร่ายพิษสะพรั่งก็เป็นภัยคุกคามต่อมันเช่นกัน
.
ที่มา

https://www.capecodtimes.com/.../florida.../6817814002/...

https://www.savethemanatee.org/.../a-state-of.../...

https://inhabitat.com/are-florida-manatees-starving-to.../

https://www.mynews13.com/.../manatee-deaths-on-the-rise...

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

https://m.facebook.com/environman.th/posts/2820413624753733

https://m.facebook.com/.../a.1745027.../3353134091481681/...

https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3353134168148340/?d=n

https://www.facebook.com/.../a.17572.../3441282552666834/...

 

POLLUTION: จีนโกกรีนทำตามเป้า ลดความเข้มข้นคาร์บอน ได้ 18.8% ใน 5 ปีที่ผ่านมา ดันพลังงานหมุนเวียน ลดพึ่งฟอสซิล มุ่งเป้าคาร์บอนศูนย์ในปี 2060
.
จีน หนึ่งในประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจดของโลกประกาศลด “ความเข้มข้นของคาร์บอน” ในอากาศได้ 18.8% ใน 5 ปีที่ผ่านมา
.
รายงานใหม่จากกระทรวงนิเวศวิทยา และสิ่งแวดล้อม (MEE) ของจีนเผยในวันอังคาร แสดงให้เห็นถึงการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของเศรษฐกิจในประเทศ
.
“ความเข้มข้นคาร์บอน” หรือ Carbon Intensity คือดัชนีการเกิดคาร์บอนต่อ GDP หมายถึงปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าทั้งหมดของประเทศต่อหนึ่งหน่วยของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ
.
การลดลงของความเข้มข้นถือว่ามากกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งไว้ว่าจะลดแค่ 18% เพราะแค่ในปี 2020 ปีเดียว ความเข้มข้นคาร์บอนก็ลดลง 1% จากก่อนหน้า
.
ที่ผ่านมา จีนได้พยายามหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน และลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงถ่านหินเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาโดยตลอด ตามที่ประธานาธิบดี Xi Jinping เคยปฏิญาณตนว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนก่อนปี 2030 และมุ่งเป้าทำให้การปล่อยเป็นศูนย์ในปี 2060 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงปารีสเมื่อปี 2015
.
อย่างไรก็ตาม จีนยังต้องพัฒนาประสิทธิภาพของพลังงานหมุนเวียน และลดการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้า เป้าหมายความเข้มข้นคาร์บอนใหม่ก็ควรตั้งไว้ พร้อมกับเป้าอื่น ๆ เพื่อบรรจุลงในแผน 5 ปีข้างหน้า (2021-2025) และเสนอในการประชุมสภาครั้งต่อไปในเดือนนี้
.
Source
1. https://www.reuters.com/.../china-cuts-carbon-intensity... (ข่าว)

2. http://www.eppo.go.th/images/POLICY/PDF/CC_Glossary_2011.pdf (ความเข้มข้นคาร์บอน)
ดูน้อยลง

 

EXTINCTION: เหลือแต่ชื่อ ออสเตรเลียประกาศ สัตว์อีก 13 สายพันธุ์ในประเทศ ”สูญพันธุ์แล้ว”
.
อย่างไรก็ตาม การหายไปของสัตว์ทั้ง 13 ชนิดไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ และการหายไปของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 13 ชนิดเหล่านี้ก็ยิ่งตอกย้ำว่าออสเตรเลียมีชื่อเสียงเรื่องประชากรสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สูญพันธุ์มากที่สุดด้วย
.
ตอนนี้ตัวเลขของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หายไปก็อยู่ที่ 34 สายพันธุ์แล้ว (รองลงมาจากออสเตรเลีย ประเทศที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมถูกประกาศว่าสูญพันธุ์มากที่สุดคือ ประเทศเฮติ ที่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายสาบสูญไป 9 ชนิด)
.
นักชีววิทยาเผยว่า สัตว์ที่สูญพันธุ์ส่วนใหญ่เคยถูกบันทึกว่าหายตัวไปแล้วในเมื่อ 10-100 ปีก่อน โดยเฉพาะในช่วงปี 1850-1950 มีแค่หนึ่งตัวที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้เหมือนเพื่อน
.
Prof John Woinarski นักชีววิทยาจาก Charles Darwin University ผู้ช่วยบันทึกชื่อเหล่านี้เผยว่า “มันสำคัญที่เราจะตระหนักถึงการสูญเสียนี้ สิ่งนี้เตือนให้เห็นว่าการสูญพันธุ์เป็นหนึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ถ้าเราไม่จัดการกับกลุ่มที่เสี่ยงสูญพันธุ์ การสูญพันธุ์จะเป็นคำตอบสุดท้าย”
.
ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียหรือ IUCN ระบุว่าสายพันธุ์เฉพาะถิ่นของออสเตรเลียประมาณ 100 ชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ Woinarski กล่าวว่าจำนวนของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปจริง ๆ น่าจะมีมากกว่า 10 เท่า เขากล่าวว่า ในเกาะ Christmas Island ของออสเตรเลีย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอย่างน้อย 50 ชนิดก็ไม่ได้ปรากฎตัวมาให้เห็นนานเป็นศตวรรษ และมีแนวโน้มว่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว
.
ถึงกระนั้น รายชื่อสัตว์ที่ทางข้อบัญญัติ Environment Protection and Biodiversity Conservation Act 1999 ได้ประกาศไว้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2021 มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดดังนี้
1. Dessert Bettong
2. Nullarbor Dwarft Bettong
3. Capricorn Rabbit-rat
4. Great Hopping-mouse
5. Liverpool Plains Striped Bandicoot
6. Marl
7. South-eastern Striped Bandicoot
8. Nullarbor Barred Bandicoot
9. Christmas Island Pipistrelle (ตัวนี้ถูกพบครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2009)
10. Long-eared Mouse
11. Blue-grey Mouse
12. Percy Island Flying-fox, Dusky Fruit Bat
.
และสัตว์เลื้อยคลาน 1 ชนิดคือ Christmas Island Forest Skink ที่เป็นสัตว์เลื้อยคลานตัวแรกที่สูญพันธุ์ไปตั้งแต่มีการตั้งถิ่นฐานของคนยุโรป ถูกบันทึกว่าหายไปตั้งแต่ปี 2014
.
WWF เคยออกมาเตือนว่าประชากรสัตว์ลดน้อยลงโดยเฉลี่ยเกือบ 70% ในช่วงเวลาน้อยกว่า 50 ปี เนื่องจากระบบนิเวศที่อยู่อาศัยของสัตว์ล่ม และสัตว์ประสบปัญหาการเอาตัวรอดในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และกิจกรรมของมนุษย์ที่ทำให้สัตว์ถูกคุกคามด้วย
.
อย่างที่ Woinarski เผย การที่มันอยู่ในสถานะเสี่ยงสูญพันธุ์ ไม่ได้แปลว่าในอนาคตจะปลอดภัย หรือสูญพันธุ์จริง ดังนั้นเมื่อเรารู้ว่าอะไรคือสาเหตุของการสูญพันธุ์เราก็ควรจะช่วยสอดส่อง และดูแลสัตว์น้อยใหญ่ เพื่อนร่วมโลกของเราไว้ เพราะทุกตัวล้วนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เราก็คงไม่อยากเห็นระบบนิเวศพังทลาย และต้องมาบอกลาสัตว์อื่น ๆ อีกทุก ๆ ปีหรอก
.
Source
1. http://www.environment.gov.au/node/50977 (รายชื่อสัตว์)

2. http://www.environment.gov.au/cgi-bin/sprat/public/sprat.pl (คลังข้อมูลสัตว์ในออสเตรเลีย)

3. https://www.sciencetimes.com/.../australia-announces-13... (ข่าว)

4. https://www.theguardian.com/.../australia-confirms... (ข่าว)

 

ทีมกู้ภัยอมก๋อยและเจ้าหน้าที่สมาคมสมาพันธ์ช้างไทยใช้เวลา 6 ชั่วโมงเข้าพื้นที่บริเวณดอยโฆ๊ะผะโด๊ะ หรือดอยเปเปอร์ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อช่วยเหลือช้าง 7 เชือกที่กินยาฆ่าหญ้าหรือพาราควอตเข้าไปจนได้รับอันตราย
.
เจ้าหน้าที่สามารถรับช้างแม่ลูกและอีกเชือกออกมาได้ก่อน เมื่อเวลา 09.00 น. โดยพบว่ามีช้างที่กินยาฆ่าหญ้าทั้งหมด 7 เชือก และสามารถนำส่งที่โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย 3 เชือก เมื่อเวลาประมาณตี 1 ครึ่ง

ที่มา : สมาคมสมาพันธ์ช้างไทย

 

นส.พ.ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ นายสัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผย IGreen ว่า ขณะนี้ทีมสัตวแพทย์และอาสาสมัครสามารถช่วยเหลือแม่ช้างและลูกช้างเหยื่อยาฆ่าหญ้าล็อตสุดท้าย ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ออกมาได้แล้ว และกำลังขนย้ายด้วยรถบรรทุกไปยังโรงพยาบาลสัตว์ลำปาง

คุณหมอ ระบุว่า ช้างแม่ลูกมีอาการซึมและมีรอยไหม้ที่บริเวณปากและลิ้นคาดว่าจะกินยาพาราควอตเพราะมีลักษณะอาการเหมือนกับที่เคยรักษาช้างมาก่อนหน้านี้ จากการซักประวัติทราบว่าช้างโขลงนี้ปกติทำงานอยู่ในปางช้างแม่ว่าง แต่ช่วงโควิดไม่มีงานทำ เจ้าของจึงนำกลับมาเลี้ยงในป่าใกล้หมู่บ้าน

"เจ้าของนำมาเลี้ยงแบบปล่อยไว้ในป่า 2-3 วันไปดูที เท่าที่ทราบช้างเข้าไปในไร่ข้าวโพด และอาจจะไปหยิบแกลอนยาฆ่าหญ้าที่เก็บไว้ในกระต๊อบมาเล่นและคงกินเข้าไป โดยเฉพาะลูกช้างมีอาการซึม และไหม้ที่ลิ้นและปาก"

สำหรับช้างที่ขนย้ายไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย ช้างเพศเมีย 1 ตัว และแม่ลูกช้างอีก 1 คู่ โดยชุดแรกไปถึงโรงพยาบาลสัตว์ลำปาง เมื่อเวลา 08.00 น. เป็นกลุ่มที่มีอาการหนักกว่าชุดแม่ลูกที่กำลังตามไป จากการพิจารณาอาการโดยภาพรวมคาดว่าเป็นการกินพาราควอต เพราะลักษณะอาการเดียวกับที่เคยรักษาที่แม่แจ่ม

อย่างไรก็ตาม กรณีที่แม่แจ่มก่อนนี้เสียชีวิตทั้ง 2 ตัว ตัวแรกเสียชีวิตก่อนทีมสัตวแพทย์ไปถึงและอีกตัวมาเสียชีวิตหลังจากรักษาอาการไป 2 วัน ซึ่งครั้งนั้นพบแกลลอนยาและทราบว่าลูกช้างได้ยกแกลลอนยาใส่ปากกิน

ด้านเจ้าหน้าที่สมาคมสมาพันธ์ช้างไทย เปิดเผย IGreen ว่า ทีมสัตวแพทย์ช่วยเหลือช้างแม่ลูกออกมาจากดอยโฆ๊ะผะโด๊ะ หรือดอยเปเปอร์ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ทั้งหมด 7 เชือก

โดยอีก 2 เชือกอาการไม่รุนแรงจึงไม่นำออกมารักษาอาการ จึงมีช้างที่ขนย้ายออกมารวม 5 เชือก มีแม่ลูกช้าง 2 เชือก เพิ่งได้รับการช่วยเหลือออกมาล่าสุดในช่วงสายของวันที่ 5 มีนาคม เนื่องจากมีช้างตัวผู้คอยขวางไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำช้างออกมาตั้งแต่เมื่อดึกของวันที่ 4 มีนาคม

#ช่วยช้างอมก๋อย #ทีมสัตวแพทย์มช #สมาคมสมาพันธ์ช้างไทย #อาสาสมัครสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่
ภาพประกอบเป็นช้าง 3 เชือกชุดแรกที่นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

 

เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก (ไม่ขอระบุชื่อ) มีเนื้อหาระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการฟื้นฟูปะการังทั่วทั้งประเทศมีจำนวนน้อยและมีข้อจำกัดในการทำงานมาก เมื่อมีเหตุลักลอบหักปะการังก็ไม่สามารถจับคนผิดได้

เนื้อหาระบุว่า โครงการฟื้นฟูปะการังโดยการปลูกเสริม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ความสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัย พื้นที่ที่ปลูก กิ่งพันธุ์ วิธีปลูก ความใส่ใจของแต่ละคนที่ปลูก ปัจจัยคุกคามอื่นๆ การทิ้งสมอ การเหยียบย่ำ มลภาวะต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่

โดยเฉพาะจำนวน 240,000 กิ่ง/ก้อน ต่อปี โครงการใหญ่โต จำนวนกิ่งที่ต้องหาต้องปลูก ถูกบีบบังคับด้วยจำนวน งบประมาณ และเวลาดำเนินการ เลยอดคิดไม่ได้ว่า สิ่งเหล่านี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาซ้ำซากของการพบลักษณะการทำให้ปะการังในธรรมชาติแตกหัก แล้วก็ชี้ชัดไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ

เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเพียงหยิบมือที่ก็ต้องยอมรับว่า คนทำงานด้านปะการังจริงๆ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ต้องดูแลทั้งประเทศนั้น มีน้อยกว่าหยิบมือ ระดับที่ว่ารายชื่อข้าราชการที่ผู้ใหญ่จะโทรหาเมื่อมีเรื่องเกี่ยวข้องนั้นไม่น่าจะเกิน 3 คนเท่าที่แนนนึกได้ ที่เหลือก็ใส่ชื่อให้รับผิดชอบกันไป ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้จักปะการังกันเท่าไหร่ (จริงๆ แล้วมีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานปะการังหลายคนแต่ความรับผิดชอบหลักคืองานด้านอื่น)

จำนวนนักวิชาการมีน้อยไหม อาจจะไม่น้อย แต่ไปอยู่ไหนไม่รู้ แต่ไม่ใช่คนที่ลงมือทำงานแน่นอน เพราะ...หาไม่เจอ หรือกระบวนการสรรหาคนของกรมให้ความสำคัญเน้นไปที่คนทำงานแบบอื่นก็อาจจะเป็นได้ที่คนปฏิบัติงานอย่างเราไม่ทราบได้ ตอนนี้มีแต่คนสั่งงาน ไอเดียบรรเจิด แล้วก็เป็นความคิดที่ดีจริงๆ แต่หันมาหาคนทำงาน คนที่ลงมือทำแล้วได้งาน มีกันอยู่กี่คน

กลับมาที่งานปลูกปะการัง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่แต่ละภูมิภาคกำกับงานที่ละ 2-3 คน ซึ่งแต่ละคนก็เป็นคนเดียวกับที่ต้องศึกษาหญ้าทะเล ขยะทะเล โลกร้อน กุ้ง หอย ปู ปลา อีกมากมาย

240,000 กิ่ง จะให้เฝ้ากำกับดูแลยังไงได้ทั้งหมด ถ้าไม่มีใครรายงาน ร้องเรียน บอกกล่าวเข้ามา เจ้าหน้าที่ก็อาจจะไม่ทราบ และในตอนนี้ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำให้ปะการังแตกหักเสียหาย

...กำลังพูดถึงข้อด้อย ข้อจำกัดของโครงการที่น่าจะดีแต่อาจจะใหญ่เกินตัว ขนาดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการจากหน่วยงานรัฐเองเรายังป้องกันและควบคุมไม่ได้ แล้วเราจะไปเอาผิดกับนักท่องเที่ยวหรือเอกชนได้อย่างไร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะแลและชายฝั่ง ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุหักยอดปะการังเขากวางในแปลงฟื้นฟูบริเวณหมู่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564

ฐานความผิดตามตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ประเภทสัตว์ป่าไม่มีกระดูกสันหลัง มีความผิดตามมาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มีบทกำหนดโทษในมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 12 หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัย ทช. ร่วมกับสำนักงาน ทช.ที่ 3 (เพชรบุรี) ได้จัดทีมดำน้ำสำรวจความเสียหาย และประเมินสถานภาพแปลงปลูกเสริมปะการังเกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ถูกหักยอด ในพื้นที่ประมาณ 15 ไร่ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเกาะทะลุ ในบริเวณแนวปะการังธรรมชาติและพื้นที่การปลูกฟื้นฟูปะการังทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐในหลายปีที่ผ่านมา

ปะการังที่ปลูกไปจำนวนมากมีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวางที่มีการเติบโตเชื่อมเข้าหากันแล้ว จึงไม่สามารถระบุจำนวนกอได้ พบจำนวนโคโลนี (กอ) ปะการังเขากวางที่มีความเสียหายทั้งสิ้น 70 กอ ลักษณะความเสียหาย แบ่งเป็น 1) มากกว่าร้อยละ 60 ของกอ จำนวน 15 กอ 2) ประมาณร้อยละ 20 ของกอ มีจำนวน 15 กอ 3) ประมาณร้อยละ 10 ของกอ มีจำนวน 40 กอ

สำหรับการประเมินสถานภาพในแปลงปลูกเสริมปะการังปี 2564 พบว่าปะการังเขากวางที่นำมาปลูกมีอายุระหว่าง 5 วัน - 2 สัปดาห์ โดยสังเกตจากรอยแผลของปะการัง การสมานของเนื้อเยื่อ และการเติบโตของโครงสร้างหินปูนปลายกิ่ง (axial corallite) โดยที่เยื้อเยื่อของปะการังจะเริ่มสมานประมาณ 1 สัปดาห์ และเริ่มสร้าง axial corallite ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากมีการแตกหัก

 

เกาหลีใต้ : กรุงโซล บ่ายวันที่ 5 มีนาคม หน้าสถานทูตไทยในเขตยงซานกรุงโซลนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์แต่งตัวเป็นลิงขนมะพร้าวมาเททิ้ง ประท้วงการบังคับให้ลิงปีนมะพร้าวเพื่อผลิตภัณฑ์กะทิของไทย และส่งมาขายในเกาหลีใต้
*จากการสำรวจร้านค้าชั้นนำในเกาหลียังขายกระทิไทย

 

นิวซีแลนด์ : แผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 8.1
แผ่นดินไหว Kermadec Islands, New Zealand ขนาด 7.5 ลึก 10 กม. วันที่ 5 มี.ค. 2564 เวลา 02.25 น. ตามเวลาประเทศไทย

00.41 น. ไหวขนาด 7.5

20.15 น. ไหวขนาด 7.3 และไหวติดกันต่อเนื่องหลายครั้ง จนถึงขนาด 7.5 ในเวลา 00.41 น. ตามภาพ

 

อาร์เจนตินา : เมือง loncopue ลูกเห็บตก ลูกเท่าไข่ไก่ สร้างความเสียหายต่อกระจกรถยนต์ บ้านเรือนจำนวนมาก

 

ตุรกี : เฮลิคอปเตอร์ AS532 Cougar ของกองทัพตุรกี ตก ทหารเสียชีวิต 11 นายบาดเจ็บ 2 นาย วานนี้ในช่วงบ่าย เฮลิคอปเตอร์ตกในเชิงเขา หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือบุคคลสำคัญ พลโทออสมานเออร์บาผู้บัญชาการกองพลที่ 8
เฮลิคอปเตอร์ AS532 Cougar ประจำการในกองทัพตุรกีตั้งแต่ปี 1996 ประสบอุบัติเหตุ 3ครั้ง ถูกยิงด้วยจรวด 1ครั้ง รวม 4 มีทหารเสียชีวิต 37 คน

 

Mar 5 , 2021 เกาหลีใต้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 398 ราย ดันยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 91,000 ราย
.
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KCDC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 398 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 91,638 ราย ขณะเดียวกันมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8 ราย ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 1,627 ราย
.
ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในระดับต่ำกว่า 400 รายในรอบ 3 วัน และอยู่ระดับ 300-400 รายมาตั้งแต่กลางเดือนก.พ. ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในระดับสูงกว่า 100 รายต่อเนื่องกันนับแต่วันที่ 8 พ.ย. ปีที่แล้ว เนื่องจากการติดเชื้อแบบกลุ่มในกรุงโซลและจังหวัดคย็องกี รวมถึงการติดเชื้อจากต่างประเทศ
.
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบล่าสุดนั้น มี 129 รายอยู่ในกรุงโซล และ 168 รายอยู่ในจังหวัดคย็องกี โดยผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 17 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศอยู่ที่ 7,146 ราย
.
ส่วนจำนวนผู้ที่รักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 398 ราย ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 82,560 ราย ขณะที่อัตราของผู้ที่หายดีแล้วอยู่ที่ 90.09%
.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกาหลีใต้ได้ตรวจเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 6.78 ล้านราย และพบผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบจำนวน 6,633,666 ราย ขณะที่ 63,707 รายอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ
.
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 26 ก.พ. เกาหลีใต้ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศแล้วประมาณ 225,853 ราย
.
#เกาหลีใต้ #โควิด #Covid #Misterban

 

#ข่าวด่วน ในวันนี้ (5 มีนา) เวลา 04:28 น. ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหวขนาด M 8.1 ทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ใกล้หมู่เกาะ Kermadec

⚠️ประกาศเตือนสึนามิให้ผู้คนที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเหนืออพยพแล้ว

นี่ครั้งที่ 3 แบบติด ๆ กันนะคะ

อันแรก 22:27 น. M7.3
อันที่สองตอนตี 2:41 น. M7.4

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวต่างประเทศ

ภาพ: NHK WORLD /
USGS earthquake

 

คณะที่ปรึกษาเห็นชอบขยายสถานการณ์ฉุกเฉินใน 4 จังหวัดโตเกียวและปริมณฑล (ชิบะ ไซตามะ คานางาวะ) ออกไปถึงวันที่ 21 มีนา นายกเตรียมแถลงคืนนี้

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

 

SPACE: อาสาสมัครชาวจีนจำนวนทั้งหมด 8 คนได้อาศัยอยู่ในแคปซูลที่จำลองการใช้ชีวิตบนดวงจันทร์ครบเป็นเวลา 200 วันแล้ว
.
กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า “Yuegong-1” เป็นกลุ่มที่ทดลองใช้ชีวิตในห้องที่มีพื้นที่ 160 ตารางเมตรที่จะจำลองเป็นสิ่งก่อสร้างบนดวงจันทร์โดยในห้องจะถูกแยกเดี่ยวจากภายนอกที่มีชื่อการทดลองว่า “Lunar lab simulation in Beijing”
.
โดยทั้งอากาศ น้ำ และอาหารจะถูกใช้อยู่เพียงแต่ภายในห้องเท่านั้น พืชที่ปลูกจะสร้างออกซิเจนให้หายใจ และอากาศที่จะถูกหมุนเวียน น้ำที่จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นการจำลองการใช้ชีวิตบนดวงจันทร์ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นจะสามารถช่วยให้มนุษย์อยู่รอดได้ภายในทรัพยากรที่จำกัดหรือไม่
.
และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการทดลองคือ ปัจจัยทางจิตวิทยา ที่ว่าหากมนุษย์อาศัยอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ เป็นเวลานาน ๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และการที่มนุษย์จะต้องทำกิจกรรมซ้ำ ๆ ร่วมกันกับมนุษย์คนเดิม ๆ พวกเขาจะประสบปัญหาอะไรบ้าง
.
ถึงแม้ว่าจีนจะยังไม่มีโครงการสร้างอาณานิคมบนดวงจันทร์ในเวลาอันใกล้นี้ แต่การทดลองเหล่านี้ได้รับความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เพื่อศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ร่วมกัน โดยเป้าหมายการตั้งอาณานิคมที่ใกล้ที่สุดคือของ Elon Musk ในปี 2030 นี้
.
นี่นับเป็นข่าวดีที่เทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถรองรับระบบนิเวศ และชีวิตของมนุษย์ที่ถูกแยกเดี่ยวออกมาได้เป็นระยะเวลานาน แต่ปัญหาจริง ๆ คือ จิตวิทยา ซึ่งหลังจากนี้นักวิทยาศาสตร์ทำการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกต่อไป
.
Source :
1. https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/chinese-volunteers-spend-200-days-on-virtual-moon-base

2. https://futurism.com/chinese-students-trapped-moon-base-simulation-200-days

3. https://www.dailymail.co.uk/science...erated-food-water-oxygen-record-200-days.html

ภาพจาก Reuters และ AFP

เรียบเรียง : Witit

 

ORIGINAL: Microplastic ภัยร้ายใกล้ตัว
.
พลาสติก เราต่างก็ใช้และรู้จักพลาสติกกันเป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็น ถุงใส่ของ ถุงใส่อาหาร กล่องใส่อาหาร แก้วน้ำดื่ม และอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะพลาสติกนั้นแข็งแรงทนทาน ผลิตได้หลากหลายลักษณะ มีราคาถูก ทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น
.
และเพราะความสะดวกสบายนี้เอง เราจึงแทบจะขาดมันไม่ได้ ในทุก ๆ ปีมีการผลิตพลาสติกมากถึง 380 ตันต่อปี และมีทีท่าว่ามันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ ทศวรรษ ซึ่งถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โลกของเราคงเต็มไปด้วยพลาสติกเป็นแน่
.
แต่สิ่งที่น่ากังวลใจสำหรับพลาสติกคือ มันเป็นวัสดุที่ไม่ได้มีอยู่ในธรรมชาติ มันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
และไม่สามารถย่อยสลายไปได้ในระยะเวลาอันสั้น
เหมือนกับของที่มีอยู่ตามธรรมชาติ พลาสติกต้องใช้เวลาในการย่อยสลายประมาณ 450 ปี ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบกับอายุของคนนั้นต้องใช้เวลามากกว่า 7 ชั่วรุ่น ทว่า จนถึงตอนนั้นก็ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าพลาสติกนั้นสามารถย่อยสลายไปได้หรือไม่
.
แต่ที่เรารู้อย่างแน่ชัดคือ พลาสติกนี้ได้แตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เราเรียกว่า “ไมโครพลาสติก”
.
ไมโครพลาสติก หมายถึง ชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง เล็กกว่า 5 มิลลิเมตร มันอาจจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มันก็มีอยู่จริง มันมักเกิดจากการแตกตัวของพลาสติกชิ้นใหญ่ และไม่ได้เจาะจงว่าเป็นพลาสติกประเภทใดประเภทหนึ่ง
.
#ไมโครพลาสติกสามารถแบ่งออกมาได้สองประเภท
1) ไมโครพลาสติก ที่ถูกผลิตให้มีขนาดเล็กมาตั้งแต่ต้น (Primary microplastics) เพื่อการใช้ประโยชน์ เฉพาะด้าน เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ชำระล้าง ยาสีฟัน โฟมล้างหน้าหรือที่เราเรียกว่าเม็ดสครับ หรือ ไมโครบีทส์ ซึ่งไมโครพลาสติกแบบนี้สามารถแพร่ไปสู่สิ่งแวดล้อมได้โดยง่าย

2)ไมโครพลาสติกที่เกิดจากพลาสติกขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า มาโครพลาสติก (Macroplastic) ซึ่งไมโครพลาสติกประเภทนี้ จะเกิดการแตกตัวย่อยสลายของสารเติมแต่งในพลาสติก ทำให้มันเหลือเพียงชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น
.
ประเด็นของเจ้าไมโครพลาสติกเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ เพราะมันจะเข้าไปวนอยู่ในระบบห่วงโซ่อาหาร (Food web) ได้เนื่องจากพลาสติกปนเปื้อนในแหล่งน้ำทั่วไปอาจจะไหลลงไปสู่ทะเล ทำให้สัตว์เกือบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น สัตว์บก สัตว์ปีกและสัตว์น้ำก็มีไมโครพลาสติกอยู่ในร่างกาย และอาจส่งผลต่อผู้ล่าสูงสุดอย่างมนุษย์ก็เป็นได้ เราอาจเสี่ยงเป็นผู้ที่ได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายจำนวนมาก
.
งานวิจัยยังระบุแน่ชัดไม่ได้ว่า ไมโครพลาสติก ทำอันตรายอะไรต่อตัวเราได้บ้าง โดยปกติแล้ว ถ้าคนเราได้รับพลาสติกเข้าสู่ร่างกายแล้ว มันจะถูกขับออกไปกับอุจจาระ แต่ไมโครพลาสติกนี้มีขนาดเล็กมากกว่าพลาสติกทั่วไป มันอาจจะเป็นไปได้ที่มันจะแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด และไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งถ้าสะสมในเส้นเลือด อาจทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันได้
.
แต่จริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องบอก หรืออธิบายว่าการมีพลาสติกอยู่ในร่างกายของเรา นั้นส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง เพราะเราทุกคนน่าจะรู้สึกได้ว่า ไม่ควรมีพลาสติกในร่างกายของเรา หรือแม้กระทั้งร่างกายของสัตว์ชนิดใดทั้งสิ้น
.
การที่เราจะหยุดวัฏจักรของไมโครพลาสติกได้นั้นเราต้องช่วยกัน ลดการใช้หรือนำมันกลับมาใช้ซ้ำ พวกพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ขวดน้ำ แก้วน้ำ ช้อนซ้อมพลาสติกเพียงเท่านี้ เราก็ช่วยกันลด ขยะพลาสติกต่างได้
.
Source:
1. https://www.bpl.co.th/pweb/index.php/academic-professional/academic-articles/318-microplastics.html

2. http://otop.dss.go.th/index.php/en/knowledge/interesting-articles/273-microplastics

3. https://www.greenpeace.org/thailand/story/17717/plastic-3-everyday-food-that-contain-microplastic/

Writer: Pichchakorn
Graphic Designer: Meen

 

นักวิจัย สวทช. สังเคราะห์สารตั้งต้น ยา ‘ฟาวิพิราเวียร์’ สำเร็จ ทดแทนวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ใช้เป็นยาต้านโรค COVID-19 ‘อภ.’ เตรียมศึกษาความเป็นไปได้กับ ปตท. สร้างโรงงานสังเคราะห์วัตถุดิบยา
.
(3 มีนาคม 2564) ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 กระทรวงการอุมดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.): ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานการแถลงข่าว ความร่วมมือเพื่อสร้างความสามารถในการพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API: Active Pharmaceutical Ingredients) ของประเทศ: ยาต้านไวรัส “Favipiravir” โดยมี ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) พร้อมด้วยผู้บริหารและและนักวิจัยจากทั้ง 2 หน่วยงานร่วมแถลงข่าว
.
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า วันนี้ผมยินดีและมีความสุขมากที่ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือในการพัฒนาวัตถุดิบสารออกฤทธิ์ทางยา หรือ API (Active Pharmaceutical Ingredients) สำหรับใช้เป็นสารตั้งต้นในการการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เพื่อใช้ต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SAR-CoV-2) ซึ่งเป็นงานส่วนหนึ่งภายใต้แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) พ.ศ. 2564-2569 ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศให้ BCG เป็นวาระแห่งชาติ และเป็นต้นแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในวาระที่นำเสนอในการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน “การพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบด้วย 4 สาขายุทธศาสตร์ คือ เกษตรและอาหาร สุขภาพและการแพทย์ พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ และการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยอาศัยจุดแข็งของประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยก็เป็นที่ประจักษ์ของชาวโลกอย่างมากว่าเรามีการแพทย์และสาธารณสุขที่ก้าวหน้าประเทศหนึ่งในเอเชียและระดับโลก
.
ที่สำคัญขณะนี้ประเทศไทยก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน 2 ชนิด จาก 7 ชนิด และวัคซีนอีก 5 ชนิด กำลังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา ซึ่งการพัฒนาวัคซีนเพื่อคนไทยไม่เท่าไหร่ แต่การผลิตวัคซีนโดยคนไทยต่างหากที่เป็นเป้าหมายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุข
.
นอกจากนี้ เรายังประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัตถุดิบสารออกฤทธิ์ทางยา หรือ API ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ประเทศไทยจะสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมวัคซีน ยา รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยรับมือต่อวิกฤติโรคระบาดในอนาคต ทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการนำเข้า ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง เพราะเราไม่ได้มีแค่วิทยาการความรู้ แต่เรายังสามารถผลิตเพื่อการส่งขายได้อีกด้วย
.
อย่างไรก็ดีขณะนี้ สวทช. ได้เตรียมผลักดันเชื่อมโยงงานวิจัยไปสู่ระดับอุตสาหกรรม โดยนำเรื่องการพัฒนาสังเคราะห์สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม สำหรับยา Favipiravir ต้านโรค COVID-19 บรรจุในโครงการ BCG กลุ่มสาขายาและวัคซีน แล้ว และเป็นกรอบการทำงานของงบประมาณปี 2565 สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
.
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. แถลงว่า สวทช. คือหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่ง สวทช. มีองค์ความรู้ บุคลากร ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีทางด้านเคมีสังเคราะห์ที่จะช่วยหนุนเสริมองค์การเภสัชกรรมในการผลิตสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม ได้เองภายในประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรมยาแบบครบวงจร และส่งเสริมงานด้านสาธารณสุขของประเทศ
.
“เป็นที่ทราบกันดีว่าอุตสาหกรรมการผลิตยาของประเทศไทยยังคงอยู่ระดับปลายน้ำ ต้องนำเข้าสาร API ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยารักษาโรคต่างๆ จากต่างประเทศมากถึง 95% ดังนั้นหากเราสามารถสังเคราะห์ API ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาตำรับยาได้สำเร็จ จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมของไทยให้ผลิตยาได้ครบวงจรด้วยตนเองตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้า สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพและการแพทย์ให้กับประชาชนได้

ดังจะเห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 โรคอุบัติใหม่ที่ยังไม่มียารักษา ทำให้มีความพยายามนำยาหรือสารออกฤทธิ์ต่างๆ มาทดลองรักษาโรคปอดอักเสบจากไวรัส SARS-CoV-2 กระทั่งพบยาที่มีประสิทธิผลดีในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ฟาวิพิราเวียร์”
.
ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวต่อว่า ด้วยโรค COVID-19 มีการระบาดใหญ่ทั่วโลก ทำให้ยาฟาวิพิราเวียร์เป็นที่ต้องการอย่างมาก ประเทศผู้ผลิตต้องเก็บไว้รักษาประชากรของตนเอง ทำให้ยาขาดตลาด การสั่งซื้อทำได้ยากและมีจำนวนจำกัด จึงอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาของผู้ป่วยในประเทศที่ไม่สามารถผลิตยาเองได้ ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้ สวทช. ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เดินหน้าวิจัยพัฒนากระบวนการผลิต API ด้วยตนเองในระดับห้องปฏิบัติการกระทั่งประสบความสำเร็จ ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาสูตรตำรับยาที่ทางองค์เภสัชกรรมดำเนินการอยู่ เพื่อใช้ในการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับต้านโรค COVID-19
.
“อย่างไรก็ดี ในกระบวนการสังเคราะห์ API นั้น แม้ทีมวิจัยจะเลือกแนวทางการผลิตที่ดีที่สุดจากหลายแนวทางการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ยังเป็นวิธีที่ต้องใช้สารตั้งต้นที่มีราคาแพง ทำให้ทีมวิจัยเร่งศึกษาวิจัยต่อยอด พัฒนากระบวนการสังเคราะห์จากเดิม 6 ขั้นตอน เป็น 9 ขั้นตอน ถึงแม้จะมีขั้นตอนที่มากขึ้นแต่เป็นวิธีที่สามารถใช้วัตถุดิบราคาถูก หาได้ง่าย และพึ่งพาตนเองได้ โดย API ที่นักวิจัย ไบโอเทค สวทช. สังเคราะห์ได้มีคุณภาพดี มีมาตรฐานทัดเทียมระดับสากล สามารถใช้เป็นสารตั้งต้นทดแทน API ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับในขั้นต่อไป องค์การเภสัชกรรมจะขยายการผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรม (Pilot Scale) ร่วมกับทีมนักวิจัย ไบโอเทค สวทช. และจะมีการต่อยอดขยายผลไปสู่อุตสาหกรรม API โดยมี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายผลสู่ขั้นตอนการผลิตในเชิงพาณิชย์ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับอุตสาหกรรมยา สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ตั้งเป้าสร้างศักยภาพการผลิตยาในประเทศ”
.
ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 องค์การเภสัชกรรม องค์กรหลักด้านยาของประเทศ ได้มีการวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนสำหรับใช้ในโรค COVID-19 ในส่วนของวัตถุดิบยาฟาวิฟิราเวียร์ องค์การฯ ได้ร่วมมือกับ สวทช. ดำเนินการวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์วัตถุดิบ Favipiravir ซึ่งขณะนี้ สวทช. ได้ดำเนินการในระดับห้องปฏิบัติการเสร็จแล้ว ได้กระบวนการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นตัวใหม่ที่มีราคาถูกกว่าสารตั้งต้นที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบันขณะนี้องค์การฯ อยู่ในระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตรต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา
.
ขณะเดียวกัน สวทช. พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับองค์การฯ เพื่อองค์การฯ จะได้พัฒนาต่อยอดกระบวนการสังเคราะห์ไปสู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมต่อไป ทั้งนี้องค์การฯ สวทช. และ ปตท. จะมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงงานสังเคราะห์วัตถุดิบยา Favipiravir และวัตถุดิบยาจำเป็นอื่นๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาวัตถุดิบยาที่มีความจำเป็นต่อระบบสาธารณสุข และมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ สร้างความมั่นคงทางยาให้กับประเทศไทย
.
นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่โครงการ BCG ได้บรรจุแผนการสร้างโรงงานสังเคราะห์วัตถุดิบลงในแผนสาขาด้านยาและวัคซีน เพื่อสามารถให้การสนับสนุนต่อไป

 

วันนี้มีผู้คนจำนวนมาก
พบเห็นแสงสีแดงปรากฏบนท้องฟ้า
ในนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์และเปอร์โตริโก

ขณะนี้พวกเขา
กำลังตรวจสอบที่มาของแสงนี้ว่า
เป็นแสงอะไร คือ อะไร

CR: AlertaCambio
ผ่าน Weather Bulletin

 

04.03.21

รมต.สธ Bent Høie กล่าวว่า สัปดาห์หน้า จะมีการประกาศ มาตรการระดับชาติฉบับใหม่ เนื่องจากขณะนี้ ประเทศนอร์เวย์ มีผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก

1.ผช.ผอ FHI Espen Rostrup Nakstad กล่าวว่า จากการคำณวนของ สถาบัน FHI หากสถานกาณ์ยังดำเนินไปเช่นนี้ เมื่อถึงวันที่ 17.05 เราจะมี ผู้ติดเชื้อในนอร์เวย์ มากกว่าที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน 50 เท่า ผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 50 เท่า และ อาจเสียชีวิตมากกว่า 50 เท่า ณ เวลาปัจจุบัน

2.ขณะนี้ ประเทศนอร์เวย์ มี R-number อยูที่ 1.3 ตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่างมาก กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศนอร์เวย์ ณ วันนี้ มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 111 ราย มากกว่า วันเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 6 ราย

3.รมต.สธ กล่าวว่า การนำมาตรการระดับชาติฉบับใหม่มาใช้ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด และเพื่อควบคุม R-number ให้ต่ำกว่า 1 และ ต้องควบคุมการติดเชื้อ ให้ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึง เมษายน เพื่อให้ชีวิตประจำวันของทุกคนได้ผ่อนคลาย และ เป็นปรกติมากขึ้นใน เดือนพฤษภาคม

4.รมต.สธ ย้ำว่า นี่เป็นเรื่องสำคัญมากที่ นอร์เวย์ จะต้องผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในช่วง 2 เดือนนี้ไปให้ได้โดยไม่ต้องจบลงในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ระบบสาธารณสุขล่มสลาย และ มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

5.มาตรการใหม่ที่ประกาศในขณะนี้ อาจไม่เหมือนกับ มาตรการ ที่นำมาใช้เมื่อ เดือนมีนาคมปีที่แล้ว แต่จะมีการพิจารณาว่าจะสามารถนำมาตรการมาใช้ในระดับ ภูมิภาคและระดับท้องถิ่น ได้หรือไม่ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองออสโล / Kristiansand และ อีกหลายเมืองได้นำมาตรการเข้มงวดมาใช้ในเขตเมืองเพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ แต่ถ้ามาตรการระดับท้องถิ่นไม่ได้ผล ขั้นต่อไปก็จะมีมาตรการระดับภูมิภาค และ ระดับประเทศตามมา

6.รัฐบาล ได้ตั้งความหวังว่า มาตรการระดับชาติครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะนำมาใช้ หากสามารถควบคุมการระบาดได้จนกว่าจะถึงเวลาที่ นอร์เวย์ จะได้รับวัคซีนเพิ่มเต้มภายในเดือนพฤษภาคม

เพิ่มเติม : รอติดตามชมกันต่อไปค่ะว่า มาตรการระดับชาติที่ว่าจะมีเนื้อหาอย่างไรบ้าง

..............................

อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/norgeutrykk

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Pedja Kalajdzic : Journalist
Joakim Reigstad : Journalist
Ola Mjaaland : Journalist
Tom Nilssen : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/norge/hoie-varsler-nye-nasjonale-tiltak-1.15402088

 

04.03.21

รัฐบาล ประกาศมาตรการระดับภูมิภาค สำหรับ 6 เทศบาล ได้แก่ Færder, Holmestrand, Horten, Larvik, Sandefjord และ Tønsberg ใน Vestfold og Telemark เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษเป็นจำนวนมาก

✅มาตรการ 6 เทศบาล มีผลตั้งแต่ 00.00 น. วันที่ 05 - 16.03.21

1. Tiltaksnivå A : Særlig høyt tiltaksnivå - มาตรการเข้มงวดระดับสูงเป็นพิเศษ

◧เทศบาลที่ถูกจัดให้อยู่ใน Tiltaksnivå A คือ :

1.Færder / 2.Tønsberg

2.Tiltaksnivå B : Høyt tiltaksnivå - มาตรการเข้มงวดระดับสูงสุด

◧เทศบาลที่ถูกจัดให้อยู่ใน Tiltaksnivå B คือ :

1.Holmestrand / 2.Horten / 3. Larvik / 4.Sandefjord

⭕แต่ละ เทศบาล จะต้องทำการประเมินอย่างต่อเนื่องถึงความจำเป็นสำหรับมาตรการในพื้นที่นอกเหนือจาก ระดับต่างๆนี้

⭕สามารถอ่านรายละเอียดว่า สถานที่ใดปิด/เปิดบริการอยู่บ้างได้จากเวปไซต์คอมมูลต่างๆค่ะ

..............................

อ่านรวมข่าว & มาตรการโคโรนา ของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/norgeutrykk

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

รายชื่อเทศบาล 6 เขต ใน Vestfold og Telemark
https://www.regjeringen.no/no/aktue...eks-kommuner-i-vestfold-og-telemark/id2837077