ติดตามสถานะการณ์

แม่น้ำยมที่ไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.พิจิตร ความยาว 124 กิโลเมตร ขณะนี้ได้ลดระดับและแห้งขอดตลอดลำน้ำ โดยเฉพาะที่บริเวณ หมู่ที่ 11 บ้านวังปลาทู ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม พื้นที่ตอนบนของแม่น้ำยมในพื้นที่ติดต่อกับ จ.พิษณุโลก แห้งจนเห็นผืนทรายในท้องแม่น้ำยมไม่เหลือน้ำในแม่น้ำ ชาวบ้านสามารถเดินข้ามแม่ได้ วิกฤติแล้งตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบันนาน เกือบ 3 เดือน

โดยนายวิศิษฐ์ ปานแย้ม ชาวบ้านหมู่ที่ 11 ระบุ ส่งผลกระทบกับเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาที่ไม่มีน้ำต้นทุนในการทำการเกษตร ซึ่งอยากให้หน่วยงาน ช่วยแก้ไข อาศัยช่วงน้ำแห้ง ขุดลอกในแม่น้ำยม เป็นบ่อกักเก็บน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง

#ภัยแล้ง #พิจิตร
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

ชี้ 30% จุดเผาไหม้ลุ่มน้ำโขง เกิดในพื้นที่ปลูกข้าวโพด ซ้ำเติมวิกฤติ PM 2.5 ภาคเหนือ
.
ฤดูกาลแห่งวิกฤติหมอกควันภาคเหนือได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยสถานการณ์ล่าสุดที่เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 7-9 มี.ค. 2564 นับเป็นเวลาถึง 3 วัน ที่ดัชนีค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ขึ้นครองแชมป์อันดับ 1 ของโลก!
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ไฟป่า” คือหนึ่งในต้นตอสำคัญที่ทำให้วิกฤติ PM 2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จ.เชียงใหม่ ตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) ถึง 211 จุด ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 139 จุด / เขตพื้นที่ป่าสงวน 67 จุด / เขตป่า สปก. 3 จุด / พื้นที่ชุมชน 2 จุด
.
ขณะที่ข้อมูลอีกด้านที่น่าสนใจ เกี่ยวกับจุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ในอนุภาคลุ่มน้ำโขง ทั้งใน สปป.ลาว เมียนมา และไทย “กรีนพีซ ประเทศไทย” ระบุว่า 30% เกิดขึ้นในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงอุตสาหกรรม เพื่อนำมาทำเป็นอาหารสัตว์เชิงอุตสาหกรรม
.
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของกรีนพีซ ประเทศไทย และศูนย์ภูมิภาค เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (ภาคเหนือ) คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่า ในช่วงปลาย มี.ค. ถึงกลาง เม.ย. ของปี 2562 มีการเพิ่มขึ้นของ ฝุ่น PM 2.5 ที่มีความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งสอดคล้องกับจุดความร้อนที่ พบมากที่สุดในเดือน เม.ย.
.
โดยผลการวิเคราะห์ย้อนหลังปี 2562 บริเวณจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงอุตสาหกรรม และแบบแผนการกระจายตัวข้ามพรมแดนของฝุ่น PM 2.5 พบว่า
.
- ตอนบนของ สปป.ลาว มีจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงอุตสาหกรรมมากที่สุด 11,842 จุด และมีการกระจายตัวของฝุ่น PM 2.5 เป็นสัดส่วนถึง 99.97% อยู่เหนือพื้นที่ปลูกข้าวโพด
.
- ในรัฐฉานของเมียนมา แม้ว่าจะมีจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงอุตสาหกรรม 6,964 จุด แต่การกระจายตัวของฝุ่น PM 2.5 เหนือพื้นที่ปลูกข้าวโพดนั้น มีสัดส่วนน้อยที่สุดที่ 51.68%
.
- ภาคเหนือตอนบนของไทย มีจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเชิงอุตสาหกรรม น้อยที่สุด 3,142 จุด แต่พบการกระจายตัวของฝุ่น PM 2.5 เหนือพื้นที่ปลูกข้าวโพด ถึง 94.68%
.
กรีนพีซ ประเทศไทย ชี้ว่าบริบทการขยายตัวของตลาดข้าวโพดอาหารสัตว์ ประกอบกับการสะสมของจุดความร้อน การเผาที่เชื่อมโยงกับช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต และการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในฤดูถัดไปนั้น ทำให้ช่วงปลาย มี.ค. - กลาง เม.ย. ของทุกปี พื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงทั้งสามประเทศต้องจมอยู่ภายใต้หมอกควันพิษ ที่เป็นวิกฤติร้ายแรงต่อสุขภาพ
.
“จากมาตรการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยที่เคร่งครัดขึ้น อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่บรรษัทของไทย หันไปลงทุนนอกเขตพรมแดนประเทศมากขึ้น เพื่อชดเชยหรือเพิ่มผลผลิตที่อาจขาดหายไป” กรีนพีซ ประเทศไทย ตั้งข้อสังเกต
.
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29
#PM25 #หมอกควันภาคเหนือ #ไฟป่า #พื้นที่ปลูกข้าวโพด

 

กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพียงวันเดียว บราซิลมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงถึง 1,927 ราย รวมเสียชีวิตทั้งหมด 268,370 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 70,764 ราย ทั่วประเทศ มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 11 ล้านราย

ขณะที่ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโรคติดเชื้อ ฟิโอครูซ ในนครริโอ เดอ จาเนโร เผยแพร่รายงานระบุว่า ขณะนี้เตียงผู้ป่วย ICU กว่า 80% ในทุกโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทั่วทั้ง 25 รัฐ จากที่ทั้งหมดมี 27 รัฐ นั้นรับผู้ป่วยจนเต็มทั้งหมดแล้ว และ ใน 15 เมืองใหญ่นั้น เตียง ICU กว่า 90% มีคนไข้แน่นขนัด พร้อมเตือนด้วยว่า ตัวเลขของผู้ป่วยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น อาจทำให้ระบบสาธารณสุขของบราซิล ถึงจุดล่มสลายในไม่ช้านี้

ทั้งนี้ บราซิล ยังถือว่าเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ขณะที่การฉีดวัคซีนก็ทำได้ล่าช้า โดยมีประชากรราว 3.5% เท่านั้น ที่เพิ่งได้รับวัคซีนเข็มแรก

#ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

เกิดเพลิงไหม้บ้านร้างภายในหมู่บ้าน ต.สาริกา อำเภอเมือง จ.นครนายก โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่อาศัยนานกว่า 1ปี ขณะนั้นเจ้าหน้าที่นายหนึ่งเข้าไปทำการเคลียร์พื้นที่พบลูกแมวสีเทาติดอยู่ภายในบ้าน ได้ทำการช่วยออกมาได้ทันก่อนถูกไฟคลอกภายในบ้านหลังดังกล่าวได้อย่างหวุดหวิด

เบื้องต้น คาดว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการติดต่อเจ้าของบ้านให้ทราบ และจะเข้าทำการตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดอีกครั้ง

#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำลูก 'มิน อ่อง หล่าย' คว่ำบาตรธุรกิจหวังกดดันกองทัพเมียนมา พร้อมเตือนอาจมีมาตรการที่แข็งกร้าวขึ้น หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้ถูกจับกุมจากการต่อต้านรัฐประหารจำนวนมาก

วันที่ 11 มีนาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ขึ้นบัญชีดำ นายออง แป โซน (Aung Pyae Sone) และนางขิ่น ธีรี เธต มอญ (Khin Thiri Thet Mon) ลูกชายและลูกสาวพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ซึ่งก่อรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีสิทธิอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ที่อยู่ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันยังห้ามพลเมืองอเมริกันทำธุรกิจกับคนเหล่านี้ด้วย

ขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทางการสหรัฐฯ อาจมีมาตรการลงโทษบุคคลหรือธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมาเพิ่มเติมอีก พร้อมประณามการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 1,700 คน

สำหรับธุรกิจของบุตรชายและบุตรสาวของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ที่ถูกขึ้นบัญชีดำในครั้งนี้ ประกอบด้วยบริษัท A&M Mahar ของนายออง แป โซน ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้บริษัทยาต่างชาติเข้าไปทำตลาดในเมียนมา ผ่านการขออนุญาตจากองค์การอาหารและยาของเมียนมา

ส่วนธุรกิจของขิ่น ธีรี เธต มอญ บุตรสาวของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางธุรกิจ คือธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์

การตัดสินใจขึ้นบัญชีดำธุรกิจที่เชื่อมโยงกับครอบครัวพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ทำให้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์ วอช แสดงความชื่นชม แต่ก็ร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีท่าทีที่แข็งกร้าวมากกว่านี้

ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า แม้ทางการสหรัฐฯ จะออกมาตรการหลายอย่าง เพื่อระงับการเข้าถึงทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมาแล้ว แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ยังไม่มีการคว่ำบาตรบริษัท Myanmar Economic Corporation (MEC) และบริษัท Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) ซึ่งมีข้อมูลว่า เป็นบริษัทของกองทัพเมียนมาโดยตรง และอาจเป็นแหล่งเงินทุนให้กับกองทัพเมียนมาสำหรับใช้ในปฏิบัติการที่อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน

ก่อนหน้านี้ workpointTODAY เคยสรุปเครือข่ายธุรกิจที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ทั้งในแง่ธุรกิจของกองทัพเมียนมา และธุรกิจภายในครอบครัว ติดตามได้ที่คลิปนี้ https://youtu.be/XKB3CZ-eVEQ

ที่มา https://www.reuters.com/.../us-myanmar-politics-usa...

#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

 

SPACE: จีนจับมือรัสเซียวางแผน เตรียมสร้างสถานีอวกาศ ศูนย์วิจัยใน'ดวงจันทร์' โครงการใหญ่ จะเปิดให้ทั่วโลกร่วมใช้
.
องค์การอวกาศสหพันธรัฐรัสเซีย หรือ รอสคอสมอส (Roscosmos) เผยว่าได้ร่วมมือกับองค์กรอวกาศแห่งชาติจีน (China National Space Administration) พัฒนาศูนย์วิจัยบนพื้นผิวดวงจันทร์ และบนรอบวงโคจรของดวงจันทร์ หรือทั้งสองที่
.
องค์กรทั้งสองชี้ว่าศูนย์วิจัยนี้ที่มีชื่อว่า “The International Scientific Lunar Station” จะเปิดไม่ใช่แค่สำหรับในประเทศตัวเองเท่านั้น แต่จะเปิดให้ประเทศอื่นเข้าใช้ด้วย โดยที่นี้จะเป็นเหมือนคอมมูนิตี้บนอวกาศแห่งใหม่ สอดคล้องกับการฉลองครบรอบ 60 ปีของการที่รัสเซียส่งมนุษย์คนแรก Yuri Gagarin ไปนอกโลกพอดี
.
ศูนย์วิจัยดังกล่าวจึงจะครอบคลุมการใช้งานทั้งในด้านการค้นคว้า และเป็นสถานที่ในการศึกษาวิจัยดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน
.
“จีนและรัสเซียจะใช้ประสบการณ์ที่มีในด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ การวิจัย การพัฒนา และการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทางอวกาศ เพื่อร่วมกันพัฒนาแผนการการสร้างสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์นานาชาติบนดวงจันทร์” แถลงการณ์ขององค์การบริหารอวกาศจีนเผย
.
Chen Lan ผู้ชำนาญการและนักวิเคราะห์ด้านโครงการอวกาศจีน ให้สัมภาษณ์กับทาง AFP ว่า “นี่จะเป็นความร่วมมือด้านอวกาศระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ดังนั้นมันจะสำคัญมาก”
.
ที่ผ่านมา จีนและรัสเซียมีการดำเนินการด้านอวกาศมาโดยตลอด สำหรับจีน ถึงจะเป็นน้องใหม่ในวงการการวิจัยนอกโลก เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ยานสำรวจดวงจันทร์ Chang’e 5 ก็นำหินและดินกลับมาจากดวงจันทร์ เพื่อพิสูจน์ศักยภาพในด้านเทคโนโลยีอวกาศของตนเอง
.
ส่วนรัสเซีย เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นผู้บุกเบิกการไปสำรวจนอกโลก รัสเซียเป็นประเทศแรกที่ส่งดาวเทียม Sputnik 1 ไปนอกโลกเมื่อปี 1957 แต่รัสเซียก็มีคู่แข่งอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาถ่วงดุลอำนาจนอกโลกนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัสเซียสูญเสียอำนาจผูกขาดในการพานักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หลังจากการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จของ SpaceX บริษัทเอกชนทางด้านธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ ของสหรัฐอเมริกา
.
และในปี 2024 สหรัฐอเมริกาก็มีแผนที่จะกลับไปที่ดวงจันทร์ด้วยผ่านภารกิจที่มีชื่อว่า Artemis เราจะเห็นมนุษย์เดินบนดวงจันทร์อีกครั้งตั้งแต่มีการไปเยือนมาแล้วครั้งแรกในปี 1972 ซึ่งในภารกิจนี้มี 9 ประเทศร่วมลงนาม แต่ไร้วี่แววของรัสเซียและจีน
.
Source
1. https://www.bbc.com/news/world-asia-china-56342311 (ข่าว)

2. https://edition.cnn.com/.../russia-china-lunar.../index.html (ข่าว)

3. https://www.theguardian.com/.../china-and-russia-unveil... (ข่าว)

4. http://www.cnsa.gov.cn/n6759533/c6811381/content.html (ข่าวจากจีน)

 

PLANT: แคคตัสช่วยโลก นักวิจัยชี้กระบองเพชรเป็นอาหารและเชื้อเพลิงได้ ยั่งยืน ใช้น้ำน้อย ทนแดด ทนแล้ง
.
กระบองเพชรเป็นพืชที่ได้รับความนิยมในการปลูกเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งเลี้ยงง่าย มีความน่ารัก และรู้ไหมว่ากระบองเพชรกำลังจะกลายเป็นแหล่งอาหารและพลังงานทางเลือกเพื่อส่ิงแวดล้อมที่ยั่งยืนแล้วนะ
.
จากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ จึงได้มีการคาดการณ์ว่า ระยะเวลาของภัยแล้งนั้นจะยาวนานขึ้น และรุนแรงมากขึ้น อุณภูมิโลกจะสูงขึ้นในขณะที่ปริมาณน้ำบนโลกก็จะลดลง ซึ่งพืชผลจำพวก ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง หรือแอลฟาลฟา (พืชตระกูลถั่วที่มีฝัก เป็นพืช พื้นเมืองของเอเชียตะวันตกและแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก)
ที่จะมีความทนทานต่อความร้อนที่จำกัด และต้องการน้ำจำนวนมาก อาจมีผลิตผลน้อยลง!
.
จากงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นของมหาวิทยาลัย Nevada ในสหรัฐอเมริกา ได้เชื่อกันว่า พืชที่มีความแข็งแรงทนทานต่อความร้อน และไม่ต้องน้ำมาก ในอนาคตสามารถเป็นแหล่งให้พลังงาน และอาหารสำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถที่จะปลูกพืชผลได้ ซึ่งล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยได้ทำการศึกษาทดลองประโยชน์ของกระบองเพชรสายพันธุ์ Opuntia ficus-indica (โอพันเทีย ฟิคัส อินดิคา) มาเป็นเวลา 5 ปี และพบว่ากระบองเพชรพันธุ์นี้สามารถผลิตผลผลิตที่เรียกว่า Cactus Pear หรือ Prickly Pear หรือที่ไทยเรียกว่า “ผลแคคตัส” ได้มากที่สุด ในขณะที่มันใช้น้ำในการผลิตน้อยกว่าที่พืชจากการเกษตรแบบดั้งเดิมต้องการถึง 80%
.
John Cushman ศาสตราจารย์ด้านชีวเคมี ได้กล่าวว่า ในปัจจุบันข้าวโพดและอ้อยเป็นพลังงานทางชีวภาพหลักของโลกเรา แต่พืชเหล่านี้ใช้น้ำมากกว่า cactus pear มากถึง 3-6 เท่า
.
งานวิจัยนี้ได้แสดงถึงผลผลิตของ Cactus Pear ว่ามีประสิทธิภาพในการที่จะเป็นพลังงานชีวภาพที่ใกล้เคียงกับข้าวโพดและอ้อย เพราะมันเป็นพืชอเนกประสงค์ที่มีตลอดทั้งปี และต้องการน้ำในการเจริญเติบโตน้อยกว่า ทนทานต่อความร้อนได้มากกว่า มันจึงได้กลายเป็นพืชที่มีความยืดยุ่นสูง และเหมาะสมกับการปลูกในสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางอากาศมากกว่าด้วย
.
มากไปกว่านี้ ถ้า Cactus Pear ไม่ได้ถูกเก็บเกี่ยวมาทำเป็นพลังงานชีวภาพ มันสามารถทำงานเป็นแหล่งดูดก๊าซคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศและกักเก็บไว้แทน
.
ประมาณ 42% ของพื้นดินทั่วโลกนั้น จัดว่าเป็นพื้นที่แห้งแล้ว หรือพื้นที่กึ่งแห้งแล้ง จึงทำให้หลายพื้นที่เป็นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกต้นกระบองเพชรเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอน โดยเราสามารถเริ่มปลูกกระบองเพชรในพื้นที่ร้างที่ไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นได้ ในปัจจุบัน Cactus Pear ได้ถูกใช้เป็นอาหารทั้งคนและสัตว์ในพื้นที่แห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้งทั่วโลกแล้ว ผลของมันสามารถนำมาทำเป็นแยม เจลลี่ เนื่องจากมีน้ำตาลสูง ส่วนใบสามารถทานได้สด ๆ หรือทำเป็นผักกระป๋อง เพราะใบของพืชนั้นทำมาจากน้ำมากถึง 90%
.
นอกจากนี้ Cushman ยังหวังว่าเราจะสามารถใช้ยีนของผล กระบองเพชรมาพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งานของน้ำในพืชอื่น ๆ โดยนำยีนมาใส่ในพืชชนิดอื่นเพื่อที่จะสร้างความทนทานต่อภัยแล้งได้ดีขึ้น
.
เพื่อวัดหาว่าต้นกระบองเพชรสามารถผลิตผลผลิตได้มากน้อยขนาดไหน Cushman และทีมงานได้ทำงานวิจัยเพิ่มเติมเมื่อปี 2019 โดยหาว่าส่วนไหนของพืชที่สร้างผลผลิตได้มากที่สุด หรือส่วนไหนที่เป็นส่วนช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีที่สุด และอีกทั้งทีมงานได้หาสารกำจัดศัตรูพืชต่าง ๆ ที่สามารถใช้กับพืชโดยอย่างปลอดภัย ไม่มีผลกระทบต่อคนและสัตว์

Source
1. https://www.unr.edu/.../news/2021/cushman-cactus-pear-paper

2. https://www.enn.com/.../67237-study-shows-cactus-pear-as...

เรียบเรียง: buras

 

POLICY: UK เตรียมบังคับใช้ Right to repair อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าต้องซ่อมได้! ต้องมีอะไหล่สำรอง และประหยัดพลังงาน หวังยืดอายุ ลดขยะ ลดมลพิษ ลดค่าใช้จ่าย พร้อมฉลากประหยัดไฟใหม่
.
เวลาซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า ทีวี ทุกคนเคยสังเกตไหมว่าสินค้าชิ้นนี้มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน และภายใต้กฎใหม่ อุปกรณ์เหล่านี้เฉลี่ยแล้ว ถ้านำมาซ่อมจะถูกลงกว่าซื้อใหม่แค่ไหน
.
กฎใหม่ที่ว่าคือกฎ “Right to Repair” เป็นกฎของสหราชอาณาจักรที่จะบังคับใช้หน้าร้อนนี้ ให้ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะซ่อมสินค้าที่มีอยู่ ยืดเวลาการใช้งานของสินค้านั้น ๆ ลดการซื้อและผลิตใหม่ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสหภาพยุโรปที่จะตัดการปล่อยคาร์บอน และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึง เครื่องใช้เหล่านี้ต้องประหยัดพลังงานด้วย
.
ที่ไปที่มาของกฎนี้คือการที่ผู้บริโภคมักบ่นว่าสินค้าที่พวกเขาใช้มีอายุการใช้งานต่ำ และไม่สามารถนำไปซ่อมได้ พวกเขาต้องเสียเงินซื้อใหม่ตลอด
.
กฎนี้จึงเข้ามาเพื่อบังคับให้ผู้ผลิตต้องมีอะไหล่สำรองให้กับผู้บริโภค เมื่อต้องการอุปกรณ์ก็พร้อมเปลี่ยน เรียกได้ว่าเป็นสิทธิทางกฎหมายใหม่สำหรับ “การซ่อมแซม” สนับสนุนให้คนซ่อมมากกว่าซื้อ
.
โดยเป้าหมายของกฎหมายคือ จะขยายอายุการใช้งานของสินค้าเป็น 10 ปี และจะทำให้ผู้บริโภคประหยัดพลังงาน และประหยัดเงินไป 75 ปอนด์ (ประมาณ 3,200 ต่อปี) ตลอดระยะเวลาการใช้งานของมัน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีคุณภาพ ไม่เสียง่าย ไม่กินไฟ
.
ในด้านของสิ่งแวดล้อม ขยะอิเล็กทรอนิกซ์อุปกรณ์เหล่านี้ ถ้าพัง คนมักจะไม่แยกพวกมันออกจากขยะทั่วไป มันมักจะไปจบลงที่หลุมฝังกลบ หรือไม่ก็ถูกนำไปรีไซเคิลพร้อมเหล็ก และขยะพลาสติกอื่น ๆ ซึ่งการกำจัดแบบนี้จะทำให้สารอันตรายที่อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสารหนู แคดเมียม ตะกั่วและปรอทก็จะรั่วไหลสู่สภาพแวดล้อมรอบข้างได้
.
ด้วยสาเหตุทั้งหมดนี้ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงได้รณรงค์ต่อต้านผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ที่ผลิตอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานสั้น เพราะหวังให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าตัวใหม่ของพวกเขาเร็วขึ้น และเรียกร้องให้สินค้าแต่ละชิ้นซ่อมได้
.
ซึ่งกฎหมายใหม่ของสหราชอาณาจักรนี้ก็คาดว่าจะช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกซ์ 1.5 ล้านตันที่ในประเทศจะสร้างขึ้นทุก ๆ ปี และจะลดการปล่อยคาร์บอนไปโดยปริยาย
.
นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรเองก็เริ่มมีการติดฉลากประหยัดพลังงานไว้บนสินค้าเช่นกันให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดคาร์บอนเป็นศูนย์ของ EU ฉลากนี้จะเหมือนให้เกรดสินค้าจาก A ไป G
.
Emilie Carmichael จากกองทุน Energy Saving Trust เผยว่า “การลดความซับซ้อนของวิธีแสดงประสิทธิภาพการใช้พลังงานบนฉลากจะช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นที่จะลดการใช้พลังงาน และค่าใช้จ่าย”
.
กฎระเบียบสิทธิในการซ่อมนี้จะมีผลบังคับใช้ในช่วงฤดูร้อน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่สหราชอาณาจักร และประเทศในสมาชิกสหภาพยุโรปตกลงกันเมื่อสองปีก่อน
.
ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้เคยมีแผนเตรียมติดฉลาก “ซ่อมได้” ให้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จำพวกโทรศัพท์ ตู้เย็น เครื่องตัดหญ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ แล้ว เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าด้วยวิถีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทางรัฐได้สั่งให้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระบุเลเวล 1-10 ว่าสิ่งของของตนซ่อมได้ในเลเวลไหน เพื่อให้ผู้บริโภครู้ว่าสิ่งนี้มีอายุการใช้งานเท่าไหร่ และจะซ่อมได้หรือไม่ เมื่อมันพังลง ลดการซื้อของใหม่มาแทนของเก่า
.
Source
1. https://www.bbc.com/news/business-56340077

2. https://www.theguardian.com/.../tough-new-rules-aim-to...

3. https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3155727807888978/?d=n (ฝรั่งเศส)

 

1 > การค้นพบล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Biology พบว่าสัตว์ทะเลบางชนิดสามารถทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อได้ ผลการศึกษาระบุว่าทากทะเลสายพันธุ์ sacoglossan sea slug (Elysia cf. marginata) สามารถแยกตัวออกจากหัวของพวกมันได้และหัวที่ถูกตัดออกไปจะยังไม่ตายแต่จะค่อยๆ สร้างร่างกายใหม่ขึ้นมา

2 > การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่นักศึกษาปริญญาเอก ซากายะ มิโตะ จากมหาวิทยาลัยสตรีนาระในญี่ปุ่นกำลังบันทึกขั้นตอนการพัฒนาของทากทะเลในห้องทดลอง วันหนึ่งมิโตะสังเกตเห็นหัวทากที่ถูกตัดขาดยังคงเคลื่อนไหวได้แม้จะถูกแยกออกจากหัวใจและอวัยวะสำคัญอื่นๆ

3 > สัตว์หลายชนิดถูกตัวหัวออกแล้วยังสามารถขยับได้ต่อมาอีกระยะหนึ่งแล้วค่อยๆ ตายจริงๆ มิโตะคิดว่าหัวที่ถูกตัดขาดคงจะเหี่ยวแห้งไปในไม่ช้าเหมือนซากศพทั่วไป แต่เธอต้องประหลาดใจเมื่อกลับไปดูหัวทากที่ถูกทิ้งไว้อีกครั้งปรากฎว่านอกจากมันจะไม่ตายแล้ว มันยังงอกร่างใหม่ขึ้นมาได้!

4 > นักวิจัยรายงานว่าหลังจากที่ทากตัดร่างกายออกจากส่วนหัวหรือที่เรียกว่า autotomy (การตัดอวัยวะตัวเองซึ่งสัตว์บางประเภททำได้ เช่น กิ้งก่าจะสลัดหางของมันเวลาเกิดอันตรายขึ้นมา) พวกทากจะใช้เวลาสองสามวันกว่าที่แผลที่ด้านหลังจะปิด หัวจะเคลื่อนที่ได้ตั้งแต่ตอนที่แยกจากลำตัว แต่หัวจะไปรอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับอายุของทากทะเลด้วย

5 > โดยปกติแล้วหัวของทากที่มีอายุมากจะตายภายใน 10 วันในขณะที่หัวของทากที่อายุน้อยกว่าจะเริ่มกินสาหร่ายเพื่อดำรงชีวิตต่อไปในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นและมันจะเริ่มสร้างหัวใจขึ้นมาใหม่ภายในหนึ่งสัปดาห์ สามสัปดาห์หลังจากนั้นการฟื้นฟูร่างกายเต็มตัวก็เสร็จสมบูรณ์

6 > มิโตะบอกกับ Live Science ว่าร่างกายดั้งเดิมของทากก็ยังคงเคลื่อนไหวได้และมีชีวิตอยู่เป็นหลายวันหรืออาจเป็นเดือน เธอบอกว่าเราสามารถเห็นการเต้นของหัวใจภายในร่างเดิมด้วย ในขณะที่ลำตัวที่ส่วนหัวแยกออกไม่สามารถสร้างหัวขึ้นมาใหม่ได้

7 > การที่มันต่อตัวจากหัวขึ้นมาใหม่ได้เป็นเพราะเซลล์ที่มีลักษณะคล้ายเซลล์ต้นกำเนิด (stem-cell) ซึ่งเซลล์นี้มีความสามารถที่จะกลายสภาพเป็นอวัยวะส่วนไหนก็ได้ในร่างกายของทาก

8 > แต่คำถามสำคัญที่ยังไม่ได้รับคำตอบ "ทำไมพวกมันถึงตัดหัวตัวเอง?" บางทีพวกมันอาจต้องทิ้งร่างใหม่เพราะร่างเดิมถูกปรสิตรุกราน (เช่น ทากบนพื้นดินบางชนิดถูกปรสิตเข้าควบคุมได้) หรือาจเป็นกระบวนการในการทำให้ร่างเป็นอ่อนเยาว์ลง นักวิจัยจึงวางแผนที่จะศึกษาทากชนิดนี้ต่อไปเพื่อค้นหาคำตอบ

Harry Baker. (Mar 9, 2021). "This sea slug can chop off its head and grow an entire new body, twice". Live Science
Rachell Funnel. (Mar 9, 2021). These Self-Decapitating Sea Slugs Can Regrow An Entire Body On Their Old Head. iflscience
เครดิตภาพ : Sakaya Mitoh

 

อนามัยโลกเตือนไวรัส #โควิด กลายพันธุ์ 3 ชนิดกำลังแพร่ระบาดทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ทั้ง ๆ ที่ทั่วโลกปิดล็อกจำกัดการเดินทาง

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยรายงานล่าสุดสถานการณ์โควิด 9 มี.ค. ระบุว่าพบไวรัสกลายพันธุ์ 3 ชนิด คือ

1. ไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษ ขณะนี้แพร่ระบาดใน 111 ประเทศ เพิ่มขึ้น 5 ประเทศจากสัปดาห์ที่แล้ว
2. ไวรัสกลายพันธุ์จากบราซิล ขณะนี้พบระบาดใน 32 ประเทศ เพิ่มขึ้น 3 ประเทศจากสัปดาห์ที่แล้ว
3. ไวรัสกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ ขณะนี้พบระบาดใน 58 ประเทศ เพิ่มขึ้น 3 ประเทศจากสัปดาห์ที่แล้ว
.
ไวรัสโควิดกลายพันธุ์กำลังเป็น “สมรภูมิใหม่” สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาด เพราะติดต่อกันง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้มีอันตรายถึงชีวิตก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ วัคซีนที่กำลังระดมฉีดกันในหลายประเทศนั้นตอบรับต่อไวรัสกลายพันธุ์มากน้อยแค่ไหนยังไม่แน่ชัด
.
องค์การอนามัยโลก ระบุว่าวัคซีนของไฟเซอร์ โมเดิร์นนา และ แอสตราเซเนกา ยังคงมีผลป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไวรัสจะมีกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา และไม่แน่ว่าวัคซีนจะยังคงรองรับการกลายพันธุ์ในระยะต่อไปได้หรือไม่

โควิดกลายพันธุ์อังกฤษ ร้ายแรงกว่าตัวอื่นหลายเท่า
.
ผลวิจัยล่าสุดพบว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลก มีอัตราการเสียชีวิต “สูงอย่างมีนัยสำคัญ” และยังแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมเป็นอย่างมากราว 40% ถึง 70% เพราะเชื้อกลายพันธุ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงในรหัสพันธุกรรมถึง 23 จุด ถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง
.
ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่ในวารสารการแพทย์บริติช พบว่า การติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ใหม่สหราชอาณาจักร ทำให้เสียชีวิต 227 ราย ในกลุ่มตัวอย่างคนไข้โควิด 54,906 คน ขณะที่คนไข้ผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์อื่นๆ พบเสียชีวิต 141 คน ในกลุ่มตัวอย่างจำนวนเท่ากัน

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษที่เรียกว่า B.1.1.7 มีอัตราการตายสูง แพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว "เป็นภัยคุกคามที่ควรใส่ใจอย่างจริงจัง”.

 

อุณหภูมิ (Temperature)
ปริมาณพื้นฐานทางฟิสิกส์ที่เข้าใจโคตรยาก

เทอร์โมไดนามิกส์ (Thermodynamics)เป็นวิชาที่ศึกษาธรรมชาติของความร้อนในแง่มุมต่างๆ หลายคนฟังแล้วอาจรู้สึกว่าวิชานี้ไม่น่าจะยากเย็นอะไร เพราะ ความร้อนเป็นสิ่งที่เรารับรู้ผ่านทางประสาทสัมผัสและกระบวนการต่างๆในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ตั้งแต่ การแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ จนถึงแก้วกาแฟที่ถูกต้มจนร้อน
.
แต่นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ กลับปวดหัวอย่างมากเมื่อเรียนวิชานี้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะหากพิจารณาให้ดีจะพบว่าการทำความเข้าใจวิชานี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจธรรมชาติของแก๊ส รวมทั้งมีความรู้ทางกลศาสตร์พื้นฐานมาพอสมควร อีกทั้งตัวแปรต่างๆยังนึกภาพและจับต้องได้ยาก เพราะเอาแค่คำถามพื้นฐานที่ว่า 'อุณหภูมิคืออะไร' ก็อาจจะทำให้หลายคนมึนแล้ว
...........................
อุณหภูมิ (Temperature) เป็นคำที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน
- เราวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อระบุอาการไข้
- เราวัดอุณหภูมิในเตาอบขนมเพื่อให้ขนมออกมาน่ากิน
-เราสั่งการเครื่องปรับอากาศให้ปรับอุณหภูมิห้องตามที่เราต้องการ
.
หนังสือฟิสิกส์จำนวนมากจึงมักจะเริ่มต้นจากการนิยามว่า ' อุณหภูมิ คือ ปริมาณที่เทอร์โมมิเตอร์วัดค่าได้ '
แม้ว่าการนิยามแบบนี้จะฟังดูกวนๆและไม่ได้อธิบายธรรมชาติของอุณหภูมิอย่าง แต่จริงๆแล้วมันก็เป็นนิยามที่ใช้การได้ดี เพราะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิในชีวิตของเราล้วนใช้การอ่านค่าจากเทอร์โมมิเตอร์
นิยามแบบนี้จึงถูกเรียกว่า นิยามเชิงปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม การพยายามประดิษฐ์เทอร์โมมิเตอร์ให้มีความแม่นยำและเที่ยงตรงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
.
ลองนึกถึงมวลหรือความยาวนะครับ การทำให้เกิดมาตรฐานทำได้ด้วยการกำหนดความยาวมาตรฐานหรือน้ำหนักมาตรฐานขึ้นมาสักค่าหนึ่ง จากนั้นปริมาณอื่น ๆ ก็จะถูกวัดโดยการเปรียบเทียบตามมา เช่น กำหนดไม้แท่งหนึ่งเป็นมาตรฐานว่ายาว 1 เมตร จากนั้นเราก็นำสิ่งที่เราต้องการรู้ความยาวมาวัดเทียบกับไม้มาตรฐานนั้นว่ายาวเป็นกี่เท่า
.
แต่การสร้างมาตรฐานของอุณหภูมินั้นไม่ง่าย การตักน้ำมาใส่ขันแล้วกำหนดเป็นอุณหภูมิมาตรฐานนั้นมีปัญหาเพราะหากเราไม่รู้ชัดว่าอะไรเป็นปัจจัยให้อุณหภูมิน้ำในขันเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ใช้เป็นมาตรฐานไม่ได้ และที่สำคัญคือ เราไม่รู้แน่ชัดว่า "ร้อนกว่าน้ำในขันนี้ 3 เท่า" เป็นอย่างไรกันแน่
.................................
ธรรมชาติประการหนึ่งของอุณหภูมิ อาจกล่าวได้ว่าเป็นนิยามที่อยู่เบื้องหลังนิยามเชิงปฏิบัติการ คือ แนวโน้มที่วัตถุจะถ่ายเทพลังงานสู่ภายนอกได้เอง กล่าวคือ ถ้านำวัตถุสองอย่างมาสัมผัสกัน วัตถุที่มีอุณหภูมิสูงจะมีแนวโน้มถ่ายเทพลังงานมาสู่วัตถุที่มีอุณหภูมิต่ำ และถ้าสัมผัสกันด้วยระยะเวลาที่นานพอ ท้ายที่สุดแล้ววัตถุทั้งสองจะมีอุณหภูมิเท่ากัน
ข้อเท็จจริงนี้ทำให้เราใช้งานเทอร์โมมิเตอร์ได้
.
เมื่อเรานำเทอร์โมมิเตอร์จุ่มลงไปในน้ำร้อน พลังงานจากน้ำร้อนจะถ่ายเทสู่เทอร์โมมิเตอร์ ทำให้สารภายในเทอร์โมมิเตอร์ขยายตัว จนกระทั่งทั้งสองมีอุณหภูมิเท่ากัน เราก็อ่านค่าที่ได้จากเทอร์โมมิเตอร์นั่นเอง

อ้างอิง
https://www.blockdit.com/posts/6047480ef8417c0c0856c2ed

 

#รำลึก วันนี้ครบรอบ 10 ปีการเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่และคลื่นยักษ์สึนามิทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่น

เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 22,192 รายจนถึงตอนนี้ยังมีผู้คนมากกว่า 40,000 คนที่ต้องอพยพไปจากบ้านเกิดเมืองนอน

ทุกท่านสามารถร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูด้วยได้ เพียงแค่กด link ของ Yahoo! Japan ด้านล่าง และ search คำว่า “3.11” (สามจุดหนึ่งหนึ่ง)

https://fukko.yahoo.co.jp/

1 การค้นหา / 1 ท่าน = เงินบริจาค 10 เยน จาก Yahoo! Japan

【3.11 検索は応援になる】

#東日本大震災から10年

きょう3月11日にYahoo! JAPANで「3.11」と検索された方お一人につき10円を、Yahoo! JAPANから復興支援のために寄付します

https://fukko.yahoo.co.jp/

みなさまのご協力をお待ちしております。

#検索は応援になる

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #รำลึก311

 

มีรายงานเพิ่งลงตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Network Open เมื่อวันที่ 5 มีนาคมปีนี้ แสดงให้เห็นถึงอัตราตายจากโรคโควิด-19 ของคนอเมริกันที่ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงวันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 แตกต่างกันขึ้นกับอายุ ยิ่งอายุมากอัตราตายยิ่งสูง

คนอายุ 18-29 ปี เสียชีวิต 1.4%
คนอายุ 30-39 ปี เสียชีวิต 2.7%
คนอายุ 40-49 ปี เสียชีวิต 5.2%
คนอายุ 50-59 ปี เสียชีวิต 8.8%
คนอายุ 60-69 ปี เสียชีวิต 14.7%
คนอายุ 70-79 ปี เสียชีวิต 21.1%
คนอายุ 80 ปีขึ้นไป เสียชีวิต 26.6%

การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนอายุมากจึงมีความสำคัญ เพราะจะสามารถลดจำนวนคนเข้านอนรักษาในโรงพยาบาล ในห้องไอซียู และการเสียชีวิตได้มาก วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ได้ทำการทดสอบในคนอายุมาก อย่างเช่นวัคซีนบริษัทซิโนแวคทดสอบในคนอายุ 18-59 ปี วัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาทดสอบในคนอายุไม่เกิน 65 ปี การไม่ทดสอบในคนสูงอายุ ไม่ได้หมายความว่านำวัคซีนนี้ ไปฉีดคนสูงอายุไม่ได้ จริงๆแล้ววัคซีนบริษัทไหนก็สามารถฉีดคนสูงอายุได้ทุกคน คนอายุมากเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19

 

ถึงแม้ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” จะพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯไปแล้วก็ตาม แต่ความยิ่งใหญ่ของเขาก็ยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจประชาชนชาวจีนจำนวนไม่น้อย
.
ล่าสุดได้มีพ่อค้าชาวจีนหัวใส ใช้ร้านค้าบนเว็บไซต์ Taobao (อยู่ในเครือ Alibaba Group) ทำการเสนอขายสินค้า “รูปปั้นหลวงพ่อทรัมป์” ในลักษณะที่กำลังนั่งขัดสมาธิพร้อมกับห่มจีวรเหมือนหลวงพ่อจีนในวัดเส้าหลิน ซึ่งในเว็บ Taobao ได้ระบุเป็นโฆษณาสั้นๆเกี่ยวกับรูปปั้นดังกล่าวว่า “ทรัมป์ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน”
.
รูปปั้นดังกล่าวทำจากเครื่องเคลือบสีขาวซึ่งถูกผลิตโดยร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี๊ยน ประเทศจีน โดยผู้ผลิตให้แนวเกี่ยวกับเรื่อง “หลวงพ่อทรัมป์” ว่ามันทำให้เขานึกถึงสโลแกนของทรัมป์ที่กล่าวว่า “Make America Great Again” ซึ่งหมายถึง “การทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
.
แต่เมื่อกลายเป็น “หลวงพ่อทรัมป์” ก็จะให้ความหมายประมาณว่า “Make Your Company Great Again” หรือ “การทำให้บริษัทของคุณกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” นั่นเอง
.
โดยเบื้องต้นสินค้ามีราคาตั้งแต่ 999 หยวน ไปจนถึง 3,999 หยวน (ประมาณ 4,700 บาท - 18,800 บาท) ตามขนาดของสินค้า
.
นอกเหนือจากรูปปั้นแล้ว เว็บไซต์ดังกล่าวยังขายสินค้าอื่นๆเกี่ยวกับทรัมป์อีกมากมาย เช่น กระดาษชำระก้นที่มีลวดลายเป็นใบหน้าของทรัมป์ หรือเสื้อยืดลวดลายการ์ตูนทรัมป์ เป็นต้น
.
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like เพจและตั้งค่า See First เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
.
Source : t.ly/ex5w
.
#ThailandState #ThailandStateUpdate

 

บราซิลระเบิดเวลาลูกใหม่ของการระบาด Covid 19
โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
Published 11/03/21
บราซิลประเทศที่มีการระบาดหนักของ Covid 19 มีการระบาดเป็นอันดับสามของโลก มีคนตายเพราะ Covid 19 ไปแล้วกว่า 266,000 คน
ทำไมโลกต้องรีบมาให้ความสนใจกับการระบาดของ Covid 19 ในบราซิลเป็นพิเศษ ในขณะที่มีการฉีดวัคซีนในประเทศที่มีการระบาดหนักอย่างอเมริกาและอังกฤษ ตัวเลขคนติดเชื้อ Covid 19 ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องในอเมริกาฉีดวัคซีนไปแล้ว 30% ของประชากร แต่บราซิลซึ่งมีการระบาดหนักและรุนแรงฉีดวัคซีนไปได้แค่ 3 % และยังคงมีปัญหาในการจัดหาวัคซีนเหมือนประเทศที่ไม่ร่ำรวยอื่นๆ
สิ่งที่น่าวิตกกังวลสำหรับชาวโลก ไวรัสที่ระบาดในบราซิลได้เพิ่มอัตราส่วนของไวรัสกลายพันธุ์ P1 ในหลายๆรัฐและระบาดหนักไปถึงเพื่อนบ้านเปรู
ไวรัสกลายพันธุ์ P1 ของบราซิลเริ่มระบาดในเมือง Manaus เมืองในลุ่มน้ำ Amazon ซึ่งเคยมีการระบาดหนักในระลอกแรก คนเสียชีวิตไป หนึ่งในสามของประชากร และการระบาดก็สงบลงจนคิดกันว่าเมือง Manaus มีภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว
แต่ก็เกิดการระบาดระลอกใหม่จากไวรัสกลายพันธุ์ P1 ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสามารถแพร่กระจายสู่คนที่เคยติดเชื้อแล้ว 25% ถึง 61% ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง และสิ่งที่สร้างความกังวลมากขึ้นก็คือ P1 ของบราซิลก็มีแนวโน้มไม่ตอบสนองต่อวัคซีนเช่นเดียวกันกับสายพันธุ์ V2 ของ South Africa
ไวรัสสายพันธุ์ P1 ของบราซิล ก็มีความสามารถในการแพร่กระจายได้เร็วและง่ายขึ้นเช่นเดียวกันกับไวรัส B1.1.7 ไวรัสกลายพันธุ์อังกฤษ และ V2 ของ South Africa โดยจะแพร่กระจายได้เร็วขึ้น 1.4ถึง 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่ระบาดในระลอกแรก และพบว่าคงเนื่องจากผู้ติดเชื้อมีจำนวนไวรัส virus load มากขึ้นจึงทำให้แพร่กระจายได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่น่ากังวลก็คือไวรัสกลายพันธุ์ P1 พบในคนหนุ่มคนสาวมากขึ้น และทำให้คนติดเชื้อในวัย 30-40ปีป่วยหนักและเสียชีวิตมากขึ้น ทั้งๆที่คนหนุ่มสาวกลุ่มนี้ไม่มีโรคประจำตัว ไวรัสที่ระบาดในระลอกแรกจะระบาดและทำให้คนสูงอายุป่วยหนักและเสียชีวิตจำนวนมาก การเสียชีวิตยังไม่ปืนที่แน่ชัดว่าเป็นเพราะการกลายพันธ์ของไวรัสหรือเป็นเพราะระบบสาธารณสุขที่ล่มสลาย
ในเมือง Araraquanra ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนมาก 80%เป็น P1 พบว่าจำนวนคนเสียชีวิตเพราะ Covid ใน2 เดือนแรกของ 2021 มากกว่าที่เสียชีวิตในปี 2020 ทั้งปี
ในเมือง Bauru เหมือนเมืองอื่นๆ เตียง ICU เต็ม 100 % คนไข้ Covid 19 ซึ่งเคยเป็นคนสูงอายุ พบว่าเปลี่ยนเป็นคนไข้ในวัย 20-40ปี และป่วยหนัก และพบว่าคนไข้มีอาการเร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิม คือจะมีอาการ 4-10 วันหลังจากรับเชื้อ
ทำไมสถานการณ์การระบาดของ Covid 19 ในบราซิลจึงน่ากังวลอย่างยิ่ง บราซิลซึ่งมีระบบสาธารณาสุขที่ย่ำแย่อยู่แล้ว เมื่อเกิดการระบาดหนัก มีคนป่วยหนักจำนวนมากโดยเฉพาะสายพันธุ์ P1 ทำให้ระบบสาธารณสุขในหลายๆรัฐในบราซิลล่มสลาย เตียง ICU ไม่พอ ใน 15 รัฐเตียง ICU ใช้ไปมากกว่า 90% แม้แต่ ออกซิเจนยังขาดแคลน คนไข้ใส่เครื่องหายใจบางแห่งต้องถูกจับมัดกับเตียงเพราะขาดแคลนยาระงับประสาท
ความวิตกก็คือไวรัสกลายพันธุ์ P1 ที่มีคนติดเชื้อจำนวนมากในบราซิลและเปรูจะแพร่กระจายไปสู่ส่วนอื่นๆของโลกที่ทำท่าจะควบคุมได้จากการฉีดวัคซีน และถ้าระบาดไปยังส่วนอื่นๆของโลกก็จะทำให้สถานการณ์การระบาดของ Covid 19ยืดเยื้อไปอีก เศรษฐกิจประเทศต่างๆก็จะเสียหายต่อเนื่องไม่ฟื้นตัว แม้ว่าบริษัทผลิตวัคซีนหลายแห่งจะกำลังพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสกลายพันธุ์แต่ก็ต้องใช้เวลา
ถึงแม้ผลการทดสอบของ University of Texas พบว่าวัคซีน Pfier ยังคงได้ผลกับไวรัส P1 แต่วัคซีน Pfier ไม่มีให้ใช้ในบราซิล
เมื่อการควบคุมการระบาดที่บราซิลไม่สามารถควบคุมได้ บราซิลก็จะเป็นแหล่งที่ไวรัส Covid 19 กลายพันธุ์สะสมอยู่และพร้อมที่กระจายระบาดต่อไปทั่วโลก และจะเป็นปัญหาต่อประเทศต่างๆแม้แต่ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว เพราะไวรัส P1 มีแนวโน้มที่จะไม่ตอบสนองต่อวัคซีน และบราซิลก็จะกลายเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับไวรัสจะทำการกลายพันธุ์ต่อเนื่องไปอีกเป็น natural laboratory ก่อปัญหาเป็นวงจรที่ไม่ยอมจบ
Dr. Nicolelis จาก Duke University บอกว่าถ้าปล่อยให้บราซิลอยู่ในสภาวะเช่นนี้ จะเป็นการเปิดประตูให้บราซิลเป็นแหล่งเพราะไวรัส Covid 19 กลายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่พร้อมจะระบาดไปทั่วโลก
ดังนั้นปัญหาของบราซิลคือปัญหาของโลก ประเทศร่ำรวยที่ฉีดวัคซีนแล้วก็อย่าหวังว่าจะอยู่อย่างสุขสงบได้
โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
โรงพยาบาลกรุงเทพ
เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร

























ตามข่าวกับหมอยงค์

 

พนักงานโรงงาน บริษัท บริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ไทย โกลบอล จำกัด ให้บริการรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า ชุดชั้นในสตรี ตั้งอยู่ภายในซอย 7 นิคมอุตสาหกรรมบางพลี จ.สมุทรปราการ ทุกแผนกจำนวน 1,300 คน เพิ่งทราบว่าทุกคนต้องตกงานแบบสายฟ้าแลบ หลังจากทางโรงงานได้ปิดประกาศว่าจะปิดตัวโรงงานตั้งแต่วันนี้ 11 มี.ค. 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2562 และภาวะเศรษฐกิจโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบกับทางบริษัทโดยตรง เพราะลูกค้าสั่งระงับการผลิต เพราะไม่สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องทางธุรกิจ

โดยตัวแทนของพนักงานกล่าวว่า ทางโรงงานไม่มีการแจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้าว่าจะมีการเลิกจ้าง เพิ่งจะมาทราบเมื่อทางโรงงานปิดประกาศเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน และมีพนักงานอีกจำนวนมากที่เพิ่งมาทราบขณะที่มาทำงานเมื่อเช้านี้ ซึ่งพนักงานทุกคน ทุกแผนก ก็เข้าใจในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่ทางโรงงานกลับไม่มีตัวแทนเข้ามาเจรจา เรื่องการเยียวยาตามกฎหมาย ทำให้พนักงานทุกคนต้องมารวมตัวเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

#ตกงาน #พิษโควิด #ปิดโรงงาน #สมุทรปราการ
#ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว สร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ!!! สำนักข่าว Reuters รายงานว่า หลายบริษัทในประเทศญี่ปุ่นได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ต่อสู้กับปัญหาขยะอาหารเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจในระยะยาว

** ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีค่าใช้จ่ายสำหรับการกำจัดขยะอาหารที่มีจำนวนมากกว่า 6 ล้านตันอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านล้านเยน (5.7 แสนล้านบาท) ต่อปี ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อผลักดันให้ บริษัทต่าง ๆ ได้หาแนวทางแก้ไข หวังลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2573

เครือข่ายร้านสะดวกซื้อ Lawson Inc ได้เริ่มใช้ AI จาก บริษัท DataRobot ในสหรัฐอเมริกา ช่วยประเมินว่า มีสินค้าบนชั้นวางมากน้อยเพียงใดตั้งแต่โอนิกิริไปจนถึงแซนด์วิชต่างๆ เพื่อให้สมดุลกับยอดซื้อของผู้บริโภค โดย Lawson ตั้งเป้าที่จะลดของสดค้างสต็อกลง 30% และลดขยะอาหารลงให้ครึ่งหนึ่ง (เทียบกับปี 2561) ของร้านค้าสาขาทั้งหมดภายในปี 2573 เนื่องจากการกำจัดเศษอาหารถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มากที่สุดสำหรับเจ้าของแฟรนไชส์ รองจากต้นทุนแรงงาน ขณะที่ผู้ผลิตเครื่องดื่ม Suntory Beverage & Food Ltd กำลังทดลองใช้ AI จากบริษัท Fujitsu Ltd ตรวจสอบและประเมินว่า สินค้า เช่น ชาอู่หลงขวดและน้ำแร่ได้รับความเสียหายในการขนส่งหรือไม่ โดยมีเป้าหมายที่จะลดการคืนสินค้าลง 30-50%.
---------------------------------------
อ่านต่อ : https://www.smartsme.co.th/content/243788...

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว เด็กไทยไอเดียเจ๋ง!!! รู้หรือไม่?? ... กากกาแฟที่เหลือจากการทำเครื่องดื่มสามารถนำกลับมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมและช่วยทำให้สภาพแวดล้อมดีขึ้นกว่าเดิมได้ โดยไอเดียสุดบรรเจิดนี้มาจาก พิชญา แซ่ตัน นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการ คณะสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา สถาบัน AIT ที่นำกากกาแฟจากคอฟฟี่ช็อปมาผสมกับดินลูกรัง, ดินเบนโทไนท์ และซีโอไลท์ จนออกมาเป็นนวัตกรรมที่ช่วยบำบัดน้ำเสีย ปลูกต้นไม้ และลดขยะ

โดยพิชญาได้เล่าถึงที่มาของไอเดียนี้ว่า เกิดจากการเริ่มต้นการคิดพัฒนาระบบน้ำเสียธรรมชาติให้เป็นพื้นที่ปลูกไม้แนวตั้งแบบติดผนัง หรือกำแพงที่สามารถบำบัดน้ำเสีย ซึ่งต้องใช้ดินที่มีน้ำหนักเบา โดยตนเห็นว่ากากกาแฟเป็นขยะที่เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ จากธุรกิจคาเฟ่ที่กำลังเป็นที่นิยม จึงขอกากกาแฟซึ่งเป็นขยะออร์แกนิคที่มีประโยชน์มาจากร้านอินทนิลในสถาบัน AIT “ทดลองร่วม 6 เดือน โดยนำเม็ดดินเผา Novel media มาเป็นวัสดุปลูกต้นไม้ในกระถาง 5 ชั้นติดกับผนัง พร้อมติดตั้งถังสำหรับใส่น้ำเสีย และต่อสายให้น้ำไหลผ่านจากกระถางชั้นบนสุดชั้นล่างสุด ซึ่งน้ำแต่ละหยดใช้ในการไหล 36 ชั่วโมง น้ำจะค่อยๆ ผ่านดินเผาแต่ละกระถางที่ดักจับของเสีย” ผลการทดลองนี้พบว่า น้ำเสียที่ไหลผ่านดินเผาช่วยลดของเสียในน้ำได้อย่างชัดเจน และได้ค่าที่ผ่านมาตรฐาน ขณะที่รากต้นไม้สามารถเติบโตได้ดีในดินเผา Novel media.
------------------------------------
อ่านต่อ : https://www.smartsme.co.th/content/243766...

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว สิงคโปร์เร่งศักยภาพรองรับการแข่งขันในอนาคต!! งานวิจัยที่มีชื่อว่า Unlocking APAC’s Digital Potential : Changing Digital Skill Needs and Policy Approaches ซึ่งจัดทำโดย AlphaBeta บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า สิงคโปร์ต้องการคนทำงานด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านคนภายในปี 2568 หรือในอีก 5 ปีนับจากนี้ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ

ทักษะที่แรงงานสิงคโปร์ต้องมีเพื่อแข่งขันในเศรษฐกิจแห่งโลกอนาคต ได้แก่ การออกแบบสถาปัตยกรรมระบบคลาวด์ ความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์ ฝ่ายสนับสนุนการทำงานของซอฟต์แวร์ การพัฒนาเว็บ-ซอฟต์แวร์-เกม และ การสร้างแบบจำลองข้อมูลขนาดใหญ่และวิเคราะห์ Big Data.
-----------------------------------------
อ่านต่อ : https://brandinside.asia/singapore-digital-skill-to.../...