เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 15 พฤษภาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔


     
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ขอโอกาสพระเถรานุเถระ น้องสามเณร ตลอดจนเจริญพรญาติโยมทั้งที่อยู่ที่นี่และที่อยู่ทางบ้าน เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนหายไป ๒ วันตามภารกิจที่อาตมภาพมีอยู่

    เรื่องสำคัญเลยก็คือฟัน...ฟันที่อุดเอาไว้เกิดหลุดขึ้นมา จะไปหาหมอ ก็ปิดร้านหนีเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ มาเป็นเดือน จึงต้องทนเอา ปรากฏว่าหมอเพิ่งจะเปิดร้านได้ไม่กี่วัน ส่งข่าวมาว่าต้องปิดร้านอีกแล้ว ก็เลยต้องรีบไปทำฟันให้เสร็จ

    เรื่องของฟัน ต้องบอกว่าอาตมภาพได้มรดกจากพ่อมาเยอะมาก คือ ได้แทบทุกอย่างนอกจากความสูง โยมพ่ออาตมาสูงแค่ ๑๕๐ กว่าเซนติเมตร อาตมาที่สูง ๑๗๒ เซนติเมตรได้มาจากโยมแม่ ส่วนเรื่องอื่น อย่างเช่นว่าหัวไม่ล้าน ผมไม่หงอก อันนี้มรดกของพ่อ พ่อป่วยหนักและตายตอนอายุ ๗๔ ปี มีผมขาวไม่กี่เส้น แต่ฟันเกือบทั้่งปากหมด ไม่มีเหลือ เพราะว่าสมัยโน้นเรื่องการหาหมอฟันเป็นเรื่องยาก แล้วก็ราคาแพง

    อาตมาเองตอนแรกก็สงสัยว่าตัวเองก็รักษาฟันดี แล้วทำไมถึงผุ ? มารู้ทีหลังว่าฟันผุจากข้างในออกมาข้างนอก เพราะว่าบางทีปวดฟันจนทนไม่ไหว ไปหาหมอเอ็กซเรย์ดู หมอบอกว่าข้างในไม่เหลือแล้ว เหลือแต่เปลือกหน่อยเดียว ดังนั้น..ฟันทุกซี่ ถ้าไม่ได้ใส่ของปลอมไว้ก็ต้องอุด ถือว่าเป็นสมบัติที่พ่อให้มา

    อีกงานหนึ่งที่ไปก็คือ หลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม ตามที่พวกเราเรียกกันด้วยความเคยชิน สมณศักดิ์ของท่านคือพระเทพศาสนาภิบาล รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ได้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเป็นเจ้าคณะภาค ๑๔

    ในเมื่อท่านเลื่อนขึ้นมาเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในฐานะที่คุ้นเคยกัน ก็ต้องไปถวายมุทิตาสักการะ ถามว่าคุ้นเคยกันจำเป็นต้องไปหรือ ? ต้องบอกว่าจำเป็นมาก เพราะว่าถ้าคนที่มาแล้วหน้าตาไม่คุ้น เจ้าของงานก็จะรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ถ้าคุ้นเคยกันนี่รู้สึกใจมาเป็นกอง ประมาณว่าพวกกันมาแล้ว

    เรื่องนี้มีอยู่สมัยหนึ่งที่มีการประชุมกรรมการมหาเถรสมาคมที่พุทธมณฑล ช่วงนั้นคณะสงฆ์ภาค ๑๔ และภาค ๑๕ รวมตัวกัน ต้องบอกว่าเป็นหมื่นรูป ไปเพื่อถวายกำลังใจให้หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้มีการคัดตัวแทน ๑๐ รูป เป็นตัวแทนของพระนับหมื่น เพื่อเข้าไปถวายกำลังใจแก่ท่าน อาตมาได้รับคัดเลือกไปด้วย

    ได้เรียนถวายพระผู้ใหญ่ที่ท่านคัดเลือกตัวว่า "ผมเด็กเกินไป หาคนอื่นดีกว่าครับ" ท่านบอกว่า "ไม่ได้..ไม่เหมาะ ต้องเป็นคนที่หลวงพ่อรู้จักมักคุ้น"

    ตอนนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม แต่พอหลังจากที่ตนเองผ่านการจัดงานจัดการฉลองตำแหน่งบ้าง อะไรบ้าง มาหลายวาระ ก็เพิ่งจะทราบว่า ถ้าเป็นคนที่เรารู้จักมักคุ้น จะรู้สึกดีว่าพรรคกันพวกมา คนรู้จักกันมา เป็นต้น
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ส่วนอีกงานหนึ่งที่สำคัญมาก แต่ทำแบบเงียบ ๆ แล้วคนไม่ค่อยรู้ ก็คือไปติดตามการสร้างวัตถุมงคล ต้องการจะให้เสร็จทันเข้าพิธีปลุกเสกเหรียญสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินชนวนมหาสะท้อน ต้องบอกว่าเป็นการตีกิน ก็คือถ้าเอามาเข้าพิธีมหาสะท้อนได้ ก็จะเป็นมหาสะท้อนไปด้วย

    เนื่องจากว่าเรื่องแบบนี้ ต้องมีการขออนุญาตอย่างเป็นทางการ ในเมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็อยู่ที่เราว่าจะมีความฉลาดสักเท่าไร ในการที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ให้สมกับที่ได้รับอนุญาตนั้น ซึ่งในงานปลุกเสกก็จะมีเหรียญสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อนเนื้อเงินชนวนที่ทุกท่านจองไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว ซึ่งความจริงก็ใช้งานได้แล้ว แต่ว่าเพื่อความมั่นใจของญาติโยมส่วนหนึ่ง จึงได้จัดพิธีปลุกเสกอย่างเป็นทางการ

    วัตถุมงคลชุดต่อไปคือหลวงพ่อสุคโต ที่ตอนแรกตั้งใจสร้างเพื่อเอาไว้ให้ติดรถ เอาไว้คุ้มครองเวลาเดินทาง แต่คราวนี้ญาติโยมจองเหรียญสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินชนวนมหาสะท้อน แล้วยังมีท่านที่ไม่ได้อีกจำนวนมาก จึงกราบเรียบหลวงพ่อวัดท่าซุงท่าน ท่านก็ให้เจาะฐานหลวงพ่อสุคโต บรรจุเม็ดเงินชนวนลงไปอย่างน้อย ๑ บาท จะได้ทำเป็นมหาสะท้อนด้วย

    อาตมาเองก็เลยขอเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ของโลกไม่ดีเลย ดังนั้น..หลวงพ่อสุคโตนี้ขอว่า ถ้าติดบ้าน ขอให้ปลอดภัยทั้งบ้าน ถ้าติดรถ ขอให้ปลอดภัยทั้งคันรถ พูดง่าย ๆ ก็คือบ้านจะพัง รถจะพังก็ไม่เป็นไร แต่คนต้องปลอดภัย


    วัตถุมงคลอีกชิ้นหนึ่งก็คือ มีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์ ซึ่งตรงนี้ขอบารมีท่านปู่ท้าวสหัมบดีพรหมทำขึ้นมา มีดลูกพราหมณ์ชุดแรกคือมีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญ กับมีดลูกพราหมณ์ชุดหลัง คือมีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์ ตั้งใจทำเป็นมีดหมอสำหรับใช้งานจริง ๆ เนื่องจากว่าตั้งแต่เล่นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังมาหลายสิบปี ได้รับมีดหมอรุ่นเก่า ๆ มาหลายร้อยเล่ม ส่วนมากแล้วเป็นมีดหมอใช้งานจริง ๆ บางเล่มลับมาคมกริบเลย แต่คราวนี้พอรุ่นหลัง ๆ แล้ว เรามักจะไม่ค่อยกล้าใช้งาน เพราะว่ามีดหมอมีอักขระ บางแห่งก็เป็นรูปพระเลย ก็ไม่กล้าใช้งานจริงกัน

    เมื่อมีโอกาสทำมีดหมอทั้งสองรุ่น จึงตั้งใจให้ใช้งานจริง ดังนั้น..ตัวใบมีดจะตอกโค้ดเอาไว้อย่างเดียว ไม่ลงอักขระเลขยันต์อะไรทั้งนั้น แล้วที่ตั้งใจเอามาเข้าพิธีมหาสะท้อน ก็เพื่อให้มีดหมอได้เป็นมีดหมอจริง ๆ

    มีดหมอรุ่นอื่น ๆ อาจจะติดตัวเป็นมหาอำนาจ ป้องกันภัย รักษาโรค ขับไล่ภูติผีปิศาจ แต่มีดหมอรุ่นนี้ ถ้าเป็นมหาสะท้อน เหมาะที่จะสู้กับไสยศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง แล้วตั้งแต่ทำมาก็ไม่ได้มีการขอมีดหมอเกี่ยวกับเรื่องของมหาสะท้อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่คราวนี้เนื่องจากว่ามีดหมอเป็นเหล็กลาย ๓๑๕ ชั้นตีขึ้นมา ก็ทำค่อนข้างยากและราคาสูง จึงทำได้ไม่กี่เล่ม ก็จะมีมีดหมอพรหมพิทักษ์ที่ด้ามเป็นเศียรพรหม ๔ หน้าอยู่แค่ ๓๐๐ เล่ม

    และอาตมายังอมมีดลูกพราหมณ์จันทร์เพ็ญเอาไว้อีก ๓๒ เล่ม จะเอามาเข้าพิธีพร้อมกัน แต่ว่าก็คงต้องตอกโค้ดเพิ่มขึ้น เพื่อให้แยกออกว่านี่คือ ๓๒ เล่มสุดท้าย ถึงเวลาก็จะออกให้ญาติโยมทั้งหลายได้บูชากัน แต่ขอเตือนว่าราคาแพง ถ้าไม่จำเป็นก็เก็บเงินไว้ซื้อข้าวกินช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อาละวาดดีกว่า
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เรื่องของวัตถุมงคลนั้น มีนักวิชาการ ตลอดจนกระทั่งเพื่อนพระสังฆาธิการหลายรูปตำหนิว่า สร้างขึ้นมาแล้วทำให้คนยึดติด อาตมาเองก็อยากจะบอกว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเข้าใจผิด เพราะว่าถ้าหากว่าท่านไม่ยึด ท่านก็ไม่มีอะไรจะให้ปล่อย เหมือนอย่างกับเด็กหัดเดิน ก็ต้องยึดต้องเกาะสิ่งของต่าง ๆ เพื่อความมั่นคงก่อน เมื่อเดินคล่องตัวแล้ว ก็จะทิ้งสิ่งที่ตนเองเกาะไปเองโดยอัตโนมัติ หลักธรรมประการเดียวบางทีก็หนักเกินไป จนญาติโยมทั้งหลายเข้าไม่ถึง

    โบราณาจารย์เมื่อสร้างเครื่องรางของขลังขึ้นมา มอบให้ลูกศิษย์ไปใช้ เพื่อให้เราระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะมีการภาวนาคาถากำกับ เท่ากับเราระลึกใน พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ และมีการภาวนาเป็นปกติ เท่ากับว่าพวกเราปฏิบัติกรรมฐานใหญ่ไปโดยไม่รู้ตัว


    แต่บรรดานักวิชาการส่วนใหญ่แล้ว ปัญญาไม่ถึงคนโบราณ แล้วยังดูถูกว่าคนโบราณโง่อีกต่างหาก..! จึงมุ่งที่จะไขว่คว้าแต่หลักธรรมบริสุทธิ์ ซึ่งอาตมาเคยเปรียบว่า เหมือนอย่างกับเด็กเพิ่งจะเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ แต่ท่านทั้งหลายพยามยามยัดเยียดว่า ปริญญาเอกดีที่สุด ไปเรียนปริญญาเอกดีกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้..!

    ดังนั้น..ในส่วนนี้ ถ้าหากว่ามีใครตำหนิมาหรือว่ามา เราต้องชี้แจงเขาได้ว่า ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น แฝงไว้ด้วยหลักธรรมอะไรบ้าง แม้กระทั่งในส่วนของไสยศาสตร์ ก็ยังมีการห้ามด่าแม่ มีการห้ามกินของบางอย่าง มีการห้ามเข้าไปในสถานที่บางแห่ง ข้อห้ามนั่นคือศีล ถ้าท่านทั้งหลายสามารถทำตามข้อห้ามนั้นได้ ท่านทั้งหลายก็สามารถรักษาศีลได้ทุกคน

    เพราะว่ากำลังใจในการหักห้ามตนเอง ความมีสติระลึกรู้อยู่ ไม่ละเมิดข้อห้ามของครูบาอาจารย์ เป็นสติและกำลังใจเดียวกันกับการที่เรารักษาศีล แล้วศีลก็จะเป็นพื้นฐานให้การภาวนาของเรา สะดวกแล้วก็ง่ายขึ้น เมื่อมีศีล มีสมาธิทรงตัว ปัญญาก็จะตามมาเองโดยอัตโนมัติ

    ดังนั้น...สองวันที่อาตมาไม่อยู่ จะว่าไปแล้วก็มีภารกิจโดยตลอด แต่ว่าในส่วนที่กล่าวถึงมีคร่าว ๆ แต่เพียงเท่านี้ จึงได้เรียนถวายพระเถรานุเถระและน้องสามเณร ตลอดจนกระทั่งบอกเล่าให้แก่ญาติโยม ทั้งในที่นี้แล้วก็ที่อยู่ทางบ้านทุกคนได้รับทราบเอาไว้ว่า ท่านที่แหงนคอรอคอยเสียงธรรมอยู่นั้น อาตมาเองไม่ได้ว่างเลยแม้แต่วันเดียว..ขอเจริญพร

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...