กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    เช้าวันนี้จะนำภาพอัศจรรย์ธรรมชาติที่ไม่พบบ่อย
    คล้ายกับ"แสงเหนือ"ที่เกิดขึ้นบนขั้วโลกเหนือ
    และ"แสงใต้"ที่เกิดขึ้นบนขั้วโลกใต้
    แสงเหนือ-แสงใต้ที่คณะทัวร์ต่างจัดโปรแกรมทัวร์
    ยังพอคาดคะเนวันเดือนที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น
    แต่บางครั้งก็ผิดคาด.....ไปแล้ว"ผิดหวัง"กลับมา
    ที่ไม่ผิดคาดคือ "ความหนาวสั่นที่ติดลบ"
    แสงเหนือ-แสงใต้เกิดจากการปลดปล่อยพลังงานของดวงอาทิตย์
    รวมทั้งปัจจัยอื่นๆก๊าซในชั้นบรรยากาศ สนามแม่เหล็ก ความสูงฯ
    มีสีสรรและรูปลักษณ์แปลกตา รวมทั้งที่เป็นลำแสงสีต่างๆ

    ลำแสงสีน้ำเงินขึ้นจากขอบฟ้าตะวันออกสู่ขอบฟ้าอีกด้าน
    จึงเรียกว่า "แสงเหนือบูรพา"
    เป็นอัศจรรย์ธรรมชาติที่ขึ้นมาเหนือท้องฟ้าทิศตะวันออก

    นิยามนี้คงไม่ต่างอะไรกับที่มาของชื่อแสงเหนือแสงใต้
    "แสงเหนือ" เป็นอัศจรรย์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนขั้วโลกเหนือ
    "แสงใต้" เป็นอัศจรรย์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนขั้วโลกใต้

    ส่วนตัวเคยเห็นครั้งแรกที่ชายหาดสามร้อยยอด
    เช้าตรู่วันนั่นลำแสงสีน้ำเงินจากบริเวณใกล้ขอบน้ำพุ่งสู่ท้องฟ้า
    ....ครั้งนั่นตื่นตาตื่นใจกับภาพธรรมชาติที่สวยงามมาก
    ยังเปรยออกมาว่า...โชคดีจัง...ที่ได้เห็น
    133198.jpg

    135405.jpg

    135410.jpg

    135411.jpg

    เมื่อเร็วๆนี้ได้เห็นครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 8 ปี
    ประจวบเหมาะที่มาเที่ยวเขาใหญ่
    เช้าตรู่ก่อนที่พระอาทิคย์ใกล้จะขึ้น

    กำลังฟินกับเมฆหมอกขาวโพนที่ละอ่อน
    ค่อยๆล่องลอยไปปะทะกับขุนเขาที่แข็งแกร่ง
    ขุนเขาคงอยู่...แต่เมฆหมอกแตกกระเจิง
    ...แล้วค่อยๆรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง


    พอเงยมองขึ้นไปบนท้องฟ้า Wow !
    ...โชคดี...ที่ได้เห็นอีกครั้ง
    ลำแสงสีน้ำเงินขึ้นจากตะวันออกฝากฝั่งวัดป่าภูหายหลง
    ทอดผ่านกลางท้องฟ้า...ลงสู่ทิวเขาด้านทิศตะวันตก
    ท่ามกลางตะวันสีทองอร่ามตาค่อยๆขึ้นจากขอบฟ้า

    135377.jpg

    133569.jpg


    135381.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2022
  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สบายดีไหมขอรับ
     
  3. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ฝัน 20/02/2565
    ฝันว่าไปพระธาตุศรีจอมทอง ในฝันบ้านและพระธาตุอยู่ที่เดียวกันเฉยเลย เหมือนมิติมาชนกัน นครปฐมชนเชียงใหม่ ในฝันผมบอกหัวหน้าไกด์ที่พามาว่าไหนก็มาแล้ว หาซื้อของมาถวายสังฆทานกันเถอะ จากนั้นผมก็เดินหาของมาถวายพระ และผมก็ตื่น

    ฝัน 04/12/2565
    ฝันว่าขับรถไปที่ไหนสักแห่ง จากนั้นก็โผล่ไปที่อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สถานที่นี้เป็นรร. สักพักก็เห็นแสงสีทองส่องมา ด้านหน้าเป็นพระเจดีย์ชเวดากอง ผมแปลกใจมากว่าเจดีย์มาอยู่นี้ได้ไง จากนั้นภาพก็สลายเปลี่ยนจากรร.เป็นบ้านผม ตอนนี้เหมือนภพชนกัน บ้านผมกับเจดีย์อยู่ตรงข้ามกัน พระเจดีย์สวยงามมาก มีคนดูแลโผล่มา และผมขออนุญาติเค้าถ่ายรูป เค้าบอกว่ารอก่อนต้องไปขออนุญาต ในใจคิดอยากเดินข้ามไปกราบเลย แต่ก็ตัดจบไป

    มีใครพอแก้ฝันตรงนี้ผมได้ไหม งงมากเลย
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719

    "แก้ฝันไม่เป็น"
    แต่พอรู้ว่า...ฝันดีครับ
     
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ครับท่าน9 สบายดีไหม
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    เช้านี้มาตามล่า(ล่าฝัน)"แสงเหนือบูรพา"
    ในเมืองไทยใครเคยพบเห็นแสงนี้ที่ไหนบ้าง
    เชิญเข้ามาเล่าสู่กันฟังหรือแชร์เป็นรูปภาพยิ่งดี

    ช่วงเวลาไหน วันเดือนปีไหน ณ สถานที่ใด
    เพื่อเก็บไว้เป็นสถิติข้อมูลส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป
    ใครจะไปรู้ถ้าเกิดขึ้น ณ สถานที่ใดบ่อยครั้ง
    ที่นั่นอาจกลายเป็นจุดเช็คอินสำคัญของโลกไปก็ได้
    (แค่ตามล่าฝัน...บางฝันอาจกลายเป็นความจริง)


    ********************************

    (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา)

    แสงเหนือ แสงใต้ ปรากฏการณ์จากท้องฟ้า
    ความสวยงามที่หลายคนตามล่าเพื่อที่จะได้เห็นกับตาสักครั้ง ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คน ความงดงามของแสงสีบนท้องฟ้าในเวลากลางคืนที่มองดูคล้ายกับม่าน และมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างรวดเร็วราวกับว่าแสงนั้นกำลังเต้นระบำอยู่ ซึ่งมีชื่อเรียกว่าแสงเหนือ – แสงใต้ หรือออโรรา (Aurora)


    ออโรรา (Aurora) เป็นปรากฏการณ์การเกิดแนวแสงสว่างสีต่าง ๆ บนท้องฟ้ายามค่ำคืน มักเกิดขึ้นในแถบประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดสูง ซึ่งก็คือ บริเวณขั้วโลกที่มีอุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวเย็น ซึ่งหากเกิดบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ จะเรียกว่า แสงเหนือ (Aurora borealis) และบริเวณใกล้ขั้วโลกใต้ เรียกว่า แสงใต้ (Aurora australis)

    แสงเหนือ – แสงใต้ เกิดได้อย่างไรกันนะ
    แสงเหนือ-แสงใต้ เกิดจากอนุภาคอิเล็กตรอน โปรตอน หรือไอออนอื่น ๆ ที่มีพลังงานสูงถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ขณะกำลังโคจร ซึ่งอนุภาคเหล่านี้จะเคลื่อนที่มากับลมสุริยะและเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก เมื่ออนุภาคเคลื่อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศในระดับความสูงประมาณ 80 – 1,000 กิโลเมตร จากพื้นดินจะชนเข้ากับโมเลกุลของก๊าซที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ และปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสงที่เรามองเห็นเป็นสีต่าง ๆ ซึ่งสีของแสงที่ปรากฏให้เห็นบนท้องฟ้าจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าอนุภาคดังกล่าวชนกับโมเลกุลของก๊าซในช่วงระดับความสูงใด รวมถึงชนิดของก๊าซที่พบในชั้นบรรยากาศนั้น ๆ ด้วย โดยก๊าซออกซิเจนจะให้แสงสีเขียวหรือสีแดง ไนโตรเจนให้แสงสีน้ำเงินหรือสีม่วง ส่วนฮีเลียมให้แสงสีฟ้าหรือสีชมพู

    แสงเหนือ – แสงใต้ พบได้ช่วงใด
    ความจริงแล้วแสงเหนือ – แสงใต้ เกิดขึ้นตลอดทั้งปี หากแต่ว่าบริเวณขั้วโลกมีช่วงเวลากลางวันกลางคืนที่สั้น-ยาว ไม่เท่ากัน บางเดือนไม่มีกลางคืน บางเดือนมีกลางคืนยาวนาน จึงไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ดังนั้นการล่าแสงเหนือ-แสงใต้ ที่ดีจึงต้องมีช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสการพบมากที่สุด นั้นคือ ช่วงปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนเมษายน หรือในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีระยะเวลากลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน ทำให้เรามีเวลาในการออกตามล่าหาเเสงเหล่านั้น

    แต่หากกลางคืนยาวนานมากเกินไป เช่น ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม แม้จะมีเวลาให้ตามล่าแสงเหนือ-แสงใต้ได้ยาวนานขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ต้องการมาท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ด้วย อาจจะต้องจัดตารางเวลาให้ดี เพราะสภาพอากาศจะมืดเร็วมาก นอกจากช่วงเดือนที่มีความสำคัญต่อการพบแสงเหนือ – แสงใต้ แล้วปัจจัยอื่น ๆ เช่น ช่วงเวลาและสภาพอากาศก็มีส่วนสำคัญ คือ ต้องเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ บรรยากาศมืดสนิท และช่วงเวลาประมาณ 22.00-24.00 น. จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือ – แสงใต้ มากขึ้นด้วย

    อย่างไรก็ตามสภาพอากาศในแถบขั้วโลกมักมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบที่คาดการณ์ไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถพบแสงเหนือ-แสงใต้ การตามล่าแสงเหนือ-แสงใต้ในช่วงที่ดวงอาทิตย์ผ่านวัฏจักรสุริยะ (Sun spot) มาแล้ว 2 วัน จึงเป็นช่วงที่แสงเหนือ-แสงใต้ ปรากฏให้เห็นชัดเจนที่สุด จากนั้นแสงจะค่อย ๆ ลดลง และจะเปล่งแสงสว่างขึ้นมาอีกครั้งเมื่อครบรอบวัฏจักร 11 ปี (วัฏจักรสุริยะ คือ รอบของการเปลี่ยนแปลงจำนวนจุดดับหรือจุดมืดบนดวงอาทิตย์

    เป็นสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศด้านล่างดวงอาทิตย์ ซึ่งใน 1 รอบของวัฏจักรสุริยะจะมีระยะเวลาเฉลี่ยถึง 11 ปี และในทุก ๆ ครั้งของการเกิดวัฏจักรใหม่ ขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะมีการสลับขั้วเหนือ – ใต้ระหว่างกัน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์มากมาย รวมถึงการเกิดพายุสุริยะ (Solar storm) และเปลวสุริยะ (Solar flare) ที่ส่งผลต่อการเกิดแสงเหนือ-แสงใต้ นั่นเอง) จะเห็นได้ว่าหากดวงอาทิตย์มีกิจกรรมมากขึ้นโอกาสที่จะพบแสงเหนือ – แสงใต้ ก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน


    ขอขอบคุณแหล่งที่มา
    https://sciplanet.org/content/9817
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    อีก 2 อาทิตย์จะส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 2566
    ผมขออนุญาตนำบทความจาก"ไทยรัฐฉบับพิมพ์"
    มาแชร์ต่อกระทู้นี้
    ด้วยเห็นว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
    สำหรับผู้ที่กำลังหาจุดเช็คอินช่วงใกล้ปีใหม่
    ...ลองอ่านดูนะครับ
    คนที่รักนครพนมจะรักมากยิ่งขึ้น
    คนที่มีเรื่องราวลี้ลับผูกพันกับนครพนม
    ไม่ว่าอดีตกาลหรือปัจจุบันจะเพิ่มพลังศรัทธายิ่งขึ้น
    ส่วนตัวผมรักทุกสิ่งในนครพนม
    จึงขอขอบคุณเจ้าของบทความ
    และเจ้าของภาพถ่ายทุกภาพ

    **********************************


    B6FtNKtgSqRqbnNsbMruphdvmOBx5sUx9EeDY8cQSW6VrqNOztIhHJv591ljpA5crW2uE.jpg

    เที่ยว “นครพนม” พลังแห่งศรัทธา..พญานาค

    “วิวเป็นของเรา แต่เขาเป็นของลาว”


    คือ สโลแกนที่พูดกันติดปากของผู้คนชาวนครพนม เหตุเพราะเมื่อมองจากฝั่งโขงเมืองไทยไปยังแขวงคำม่วน ของลาว จากจังหวัดนครพนม เราจะเห็นทิวเขาที่อุดมสมบูรณ์เป็นแนวยาวของภูเขาควาย ที่ได้ชื่อว่า เป็นกุ้ยหลินเมืองลาว

    10 ปีมานี้ เมืองนครพนม เติบโตอย่างก้าวกระโดด จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า 130% เช่นเดียวกับราคาที่ดินริมแม่น้ำโขงที่แพงลิ่วจนแทบจับต้องไม่ได้ กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของภาคอีสานที่ผู้คนเลือกเดินทางมาท่องเที่ยว
    Dtbezn3nNUxytg04aoblcrqaQYcMj2qv5Il1tHgGRgQtmA.jpg

    แลนด์มาร์กสำคัญๆของที่นี่ คงหนีไม่พ้น พระธาตุพนม องค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จากการขุดค้นทางโบราณคดี ทราบว่า พระธาตุพนม สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ.1200-1400 ตามตำนานกล่าวว่า ผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ และพระอรหันต์ 500 องค์ รวมทั้งท้าวพระยาเมืองต่างๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของมีค่าอีกมากมาย ลักษณะองค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐ มีลวดลายสลักลงบนแผ่นอิฐสวยงาม มีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร บนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำมีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม และมีพลอยประดับงดงาม

    ตามตำนานเล่าว่า องค์พระธาตุพนมมีความเกี่ยวกันกับพญานาคราช โดยมีพญานาคราช 7 ตน คือ 1.พญาสัทโทนาคราชเจ้า เป็นประธาน 2.พญาศีลวุฒินาโค 3.พญาหิริวุฒินาโค 4.พญาโอตตัปปะวุฒินาโค 5.พญาพาหุสัจจะวุฒินาโค 6.พญาจาคะวุฒินาโค 7.พญาปัญญาเตชะวุฒินาโค ได้รับบัญชาจากพระอินทราธิราชเจ้าให้มารักษาพระอุรังคธาตุ ไปจนกว่าจะหมดสิ้นศาสนาพระสมณโคดม

    PZnhTOtr5D3rd9odAC98qgXKbq8b6JylBdqAAvhXZm1bSm6.jpg

    ราวเดือนมีนาคม 2518 เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ทำให้เกิดรอยร้าว ขนาดใหญ่ที่องค์พระธาตุลามจากส่วนบนที่เริ่มปริร้าวลงมายังฐาน ทำ ให้เริ่มเอียงจากแกนเดิม พอเข้าช่วงฤดูฝน เกิดฝนตกและพายุพัดแรงติดต่อกันหลายวัน ทำให้พระธาตุพนมหักโค่นล้มลงมาทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิมจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2522 โดยเป็นพระธาตุประจำวันของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก ใครที่มาเที่ยวนครพนม ไม่ได้ไปสักการะองค์พระธาตุพนม ถือว่ามาไม่ถึง

    อีกที่หนึ่งที่กลายเป็นจุดสำคัญของเมืองนครพนม ก็คือ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง องค์พญานาคหล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร โดยความเชื่อของทั้งชาวไทยและชาวลาวเชื่อว่า องค์พญาศรีสัตตนาคราช เป็นตระกูลพญานาคที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล เรียกได้ว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลาย แม้จุดประสงค์ของการสร้างองค์พญานาค จะเป็นไปเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และความเชื่อ แต่คนนครพนมบอกว่า นับตั้งแต่มีองค์พญาศรีสัตตนาคราชมาประดิษฐาน คนนครพนมมีรายได้ มีฐานะดีขึ้น และทำให้เมืองเจริญอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว


    Dtbezn3nNUxytg04aoblcrqaQYcMj2qu2hBA6h4Ju1h6pJ.jpg

    อีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด คือ บ้านลุงโฮ หรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า บ้านท่านโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นอีกสถานที่ประวัติศาสตร์ ที่ทั้งชาวไทยและชาวเวียดนามต่างต้องแวะเวียนมา เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์การหลบหนีสงครามเข้ามาพำนักในประเทศไทยของ ลุงโฮ หรือ เหงียน ซิญ กุง นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ และอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามของเวียดนาม

    ตามประวัติศาสตร์บอกว่า ครั้งหนึ่งโฮจิมินห์เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม เพื่อเตรียมการปฏิวัติสู้กับประเทศฝรั่งเศส โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2467-2474 ลุงโฮได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครพนม โดยมาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่มาจากเวียดนามที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อนสนิทของลุงโฮ ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยและมีครอบครัวที่ประเทศไทย

    ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และ เรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทย ภายในบ้านถูกแบ่ง มีข้าวของเครื่องใช้ของลุงโฮที่ยังเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงาน ห้องนอน บ้องสูบยา ภายในยังมีรูปเกี่ยวกับชีวประวัติท่านประธานโฮจิมินห์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้อีกด้วย

    Dtbezn3nNUxytg04aoblcrqaQYcMj2qwFyzQskY04YInMQ.jpg

    Dtbezn3nNUxytg04aoblcrqaQYcMj2qwX3vkMatEb9OiTu.jpg

    สุดท้ายที่ต้องไปเช็กอิน เห็นจะเป็น หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนครพนม หากใครมาตัวเมืองนครพนมต้องไม่พลาด หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกสร้างโดยชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นที่ระลึกก่อนย้ายกลับเวียดนามตามท่านโฮจิมินห์ หลังชนะสงครามภายในประเทศ เมื่อครั้งฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู ชาวเวียดนามที่ลี้ภัยมาอาศัยในนครพนมได้ร่วมกัน สร้างหอนาฬิกาขึ้นเพื่อระลึกถึงไมตรีจิตของคนไทย เมื่อปี พ.ศ.2503 เป็นอนุสรณ์ของการขอบคุณคนไทย ของชาวเวียดนามที่ควรค่าแก่การจดจำรำลึก


    Dtbezn3nNUxytg04aoblcrqaQYcMj2qwRi9zReNnvdmY1D.jpg

    ใครที่มองหาที่เที่ยวในช่วงสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
    ถ้านึกอะไรไม่ออก แนะนำที่นี่...นครพนม
    เมืองที่ใครได้มาก็ต้องหลงเสน่ห์เมืองเรืองแสง...แห่งลุ่มน้ำโขง.


    Dtbezn3nNUxytg04aoblcrqaQYcMj2qu7BVIpy6TKyzJnR.jpg



    ขอขอบคุณแหล่งที่มา
    https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/2573993
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2022
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สาธุๆ
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    นับจากวันนี้จะทยอยนำหนังสือทิศที่11
    เป็นหนังสือธรรมะบันทึกโดยลพ.ชุมพล พลปญโย
    ที่ท่านปรารถนาจะมอบให้ชาวโลกเพื่อเป็นธรรมทาน

    (มุ่งเน้นเรื่องวิธีจัดการกับจิตใจไม่ให้ทุกข์ร้อนหรือเดือดร้อนน้อยที่สุด)

    บทที่ ๑ สิ่งใดที่มีคุณจะมีโทษทั้งสิ้น สิ่งใดมีโทษสิ่งนั้นก็มีคุณอยู่ไม่มากก็น้อย บัณฑิตฝึกตนเมื่อเจอโชคร้าย คนพาลนิสัยเสียเมื่อเจอโชคดี อุปสรรคช่วยให้บัณฑิตพัฒนาความเก่งกล้าสามารถ ความสะดวกสบายทําให้คนพาลหมดสมรรถภาพในการ พึ่งตนเอง ขมเป็นยา หวานเป็นภัย ไส้เดือนทําให้ปลาเดือดร้อนจากการติดเบ็ด บัณฑิตทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น เห็นแจ้งในความมีคุณมีโทษของโลก จึงวางจิตเป็นกลางมีสติมองโลกด้วยปัญญาญาณ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย เป็นผู้สงบ ดับเย็น แม้ยังอาศัยโลกแต่มิได้ถูกโลกกัด มีเหมือนไม่มี เป็นเหมือนไม่เป็น
     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    น้องเอก....ปีใหม่นี้มีโปรไปเที่ยวไหน
    ปกติชอบเที่ยวทะเล หรือป่าเขา
    หรือท่องเที่ยวตามฤดูกาล
    หน้าร้อนไปทะเล หน้าหนาวไปป่าเขา
    หน้าฝนปิดทริป(จำศีล)
     
  11. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    คงพักผ่อนอยู่บ้านครับ เพราะว่าโรคภัยเยอะเหลือเกิน 555+
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    หลวงพ่อชุมพล พลปญโย
    มอบให้ชาวโลกเพื่อเป็นธรรมทาน

    (หนังสือทิศที่๑๑)

    บทที่ ๒ ในยามผิดพลาดยิ่งต้องการแก้ไข ถ้าผิดพลาดแล้วหมดกําลังใจจะยิ่งซ้ําเติมกันไปใหญ่ เมื่อร่างกายแปดเปื้อนยิ่งต้องการชําระล้าง ถ้าแปดเปื้อนแล้วท้อใจจะยิ่งหมักหมมกันไปใหญ่ เวลาท้อแท้ก็ต้องเพิ่มกําลังใจ ถ้าท้อแท้แล้วล้มเลิกจะยิ่งหมดแรงกันไปใหญ่ เวลาขัดสนต้องการความขยันขันแข็ง ถ้าขัดสนแล้วขี้เกียจจะยิ่งสิ้นไร้กันไปใหญ่ เวลาเจออุปสรรคต้องการความอดทน ถ้าเจออุปสรรคแล้วตีโพยตีพายจะพ่ายแพ้กันไปใหญ่ โลกนี้ไม่มีอะไรดีพร้อม ผู้มีวาสนาจะมีชีวิตอยู่เพื่อการแก้ไข เจอปัญหาไม่ท้อแท้ มีอุปสรรคไม่ท้อถอย จะสามารถผ่านพ้นเภทภัยทั้งปวงไปได้อย่างราบรื่น
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    Tips & Tricks หน้า207 #4123(ตอน1)
    "บุรุษไร้เงา, post: 10968980, member: 111296"]


    DEE0B6B3-114A-465E-929C-A1E9A5AE8A49.jpeg
    นี่มะม่วงหาวมะนาวโห่ ข้างกุฏิท่าน
    จะใช้ผลดิบ ๒ ถึง ๓ ลูก เอามาตำ
    (อย่าลืมแกะเมล็ดออก) แล้วผสมน้ำผึ้งแท้
    ๑ ข้อนชา ผสมๆกันแล้วรับประทาน
    หลักๆจะแก้เรื่องสายตาได้ มีอื่นๆด้วย
    แต่จำไม่ได้ ที่แน่ๆเรื่องลมในท้อง
    ที่มีมากปกติของคนเริ่มมีอายุด้วย
    (ไม่ใช่น้ำผึ้งแบบ ที่เราถามแม่ค้าว่า

    ช่วงนี้ทำไมน้ำผึ้งแพงจัง ลดได้ไหม
    แล้วแม่ค้าบอกว่า ลดไม่ได้หรอก
    น้ำตาลแพงนะครับ ๕๕๕)

    เมื่อก่อนเวลามองหน้าจอระยะปกติ
    ต้องใช้แว่นสายตาด้วย พอทานไปได้

    ซัก ๕ ถึง ๖ ครั้ง ต้องได้ถอดแว่นออก
    เพราะมองได้ชัด

    ระยะใกล้ๆยัง
    ไม่ค่อยชัดนะครับ
    เลยต้องมาใช้เฉพาะแว่นที่กรองแสงแทน
    เพราะไม่งั้นถ้ามองหน้าจอคอมนานๆ
    สายตาเราจะล้า เพราะแสงที่สะท้อนออกมา
    และเราไม่ค่อยได้กระพริบตา
    ส่วนเลนส์ที่จะกันแสงสีฟ้าได้
    ต้องมีค่ากัน UV 420 up ทั่วๆไปที่ขาย
    จะแค่ 380- 400 ครับ แต่ 400 จริงๆก็พอได้
    เพราะแสงสีฟ้า ก็ใช่จะไม่มีประโยชน์
    แว่นสายตาที่กันแสงสีฟ้า ที่เวลาเรามอง
    จะเห็นแสงสะท้อนในแว่นออกฟ้าๆ
    ม่วงๆนั้นหละครับ มีไว้ก็ดี
    ช่วยได้เยอะ เวลาอยู่หน้าจอ
    ไม่มีก็แว่น UV 400 ก็ได้ครับ
    แล้วแต่ยี่ห้อด้วยครับ

    บางยี่ห้อ uv 400 แต่ไม่ถนอมสายตานะ
    ส่วนโพลาไลท์ เหมาะ
    กับแสงสะท้อนคลื่นทะเล
    หรือท้องถนนครับ


    จริงๆโม้มา คือจะหา ความชอบธรรม
    ในการเปลี่ยนเลนส์ครับ ๕๕๕
    เพราะมีอันหนึ่ง ที่เฟรมมันใช้ได้อยู่
    แต่เปลี่ยนเลนส์ กับชุดยางจมูกกับหูไปแล้ว
    ๒ รอบ ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ ๓ แล้ว
    ปล ใช้มาแล้ว ๒๐ กว่า ปีแล้วนะครับ
    ใส่กันแดด ขับรถ เล่นกีฬา ทำงานกลางแจ้ง
    รวมทั้ง ใส่เพื่อ ความเท่ห์
    เก๊กหล่อ ไปวันๆ ๕๕ จบเรื่องมะนาวโห่

    (อจ.นพ)



    มาต่อกุฎิ
    (ภาค2)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2022
  14. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    Tips & Tricks หน้า207 #4123(ตอน2)
    "บุรุษไร้เงา, post: 10968980, member: 111296"]


    67CBAC8A-4E15-4793-991C-C8638A6872FC.jpeg
    บรรยากาศภาพข้างกุฏิ
    ช่วงเวลาท่านพักผ่อน ช่วงหั่วค่ำ
    จะมีลูกศิษย์ท่าน มารอพบท่าน
    มีกิจกรรมทานข้าว แล้วแต่ใครจะเอาอะไรมา
    บางทีก็อาหารที่เหลือจากการใส่บาตร
    ข้าพเจ้า เปิ๊บมือนะครับ แซ่บหลาย
    เพราะหิวด้วย ๕๕ บางวันก็มียาต้ม
    ให้รับประทานด้วยครับ

    นี่บรรยากาศเก่าๆล่าสุด เป็น
    รถที่มาจอดรอพบพระอาจารย์ มอไซด์ได้ ๒
    รถยนต์ได้ ๔ ตู้ได้ ๑๐ หรือ ๑๒ ไม่แน่ใจ
    ถ้าหมดคิวคิอรอวันต่อไป สาเหตุหนึ่ง
    ที่ต้องมีการนอนค้างนั่นเอง
    เริ่มจอดรอตั้งแต่ ๑ ทุ่ม เพื่อรอประตูวัดเปิด
    ๖ โมงเช้า แล้วถึงเอารถเข้าไปจอดตาม
    ช่องที่โรงจอดรถด้านใน และรอรับบัตรคิว
    หลังจากที่พระท่านฉันท์เช้าเสร็จประมานก่อน ๙โมงเช้า คิวทั้งหมด
    ต่อวันนั้นทั้งหมดมี ๕๐ คิวเท่านั้น(สมัยก่อน ๑๐๐) เริ่มดูหลังจากท่านทำพิธีอาบน้ำมนต์ รับสังฆทาน
    เจิมรถเสร็จ โดยประมานคิวแรกประมานเที่ยง เสร็จอีกทีประมาน ๕ ถึง ๖ โมงเย็นโดยเฉลี่ย.... ถามได้ทุกเรื่อง การงาน สุขภาพ วาสนา ทรัพย์ มิตร บริวาร ศัตรู คู่ครอง ญาติ เพื่อน โรคภัย โชค ลาภ
    ขายของ ที่ดิน รถ บ้าน
    ทั้งอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ การแก้ไขต่างๆ
    การเสริม หนุน กรณีที่เสริมเรื่องไม่เป็นดังใจ
    หรืออาจจะไดัรับคำตอบแบบฟันธง(ต้องทำใจ)
    รวมทั้งเรื่องการปฎิบัติที่เหมาะกับตนเอง
    เรียกว่า ถามได้ตั้งแต่สากระเบือ ยันเรือรบ
    เรื่องในโลกยันนอกโลกนอกจักรวาล ๕๕๕
    พอเสร็จแล้ว หลังทำวัตรเย็น
    ก็จะมีคิวลูกศิษย์ลูกหา คิวนอกรอบอีก
    เรียกว่า กว่าจะได้หลับได้นอน
    ไม่ต่ำกว่าเที่ยงคืน
    เห็นแล้วเพลียยยยยยแทน ท่าน


    4584A1FD-7641-401E-AC29-749F29C99E42.jpeg
    ส่วนตัวได้เคยมีโอกาสสนทนานอกรอบ
    อยู่กับ ท่าน พระลูกวัด ลูกศิษย์ท่าน
    ที่ช่วยงานสม่ำเสมอ
    ได้มีโอกาสทำอะไรเล็กๆน้อยๆ
    ตามที่ท่านบอกพระลูกวัด ที่ลูกศิษย์ว่า
    ถ้าอยากรู้ให้ลองดู เจ้าตัวเค้าอยู่พอดี
    (เจ้าตัวหมายถึงข้าพเจ้า) พอดีมีพระลูกวัด
    ท่านหนึ่งเกิดสงสัยอะไรบางอย่าง
    ตอนที่ข้าพเจ้า
    ได้ขอลาท่านกลับบ้าน ก็ถือสนุกสนาน
    เฮฮากันไป มีเคสที่ถูกแทรกที่วิบากคลาย
    แล้วก็มี(ฆารวาส) ส่วนกรณีอื่นๆ
    ว่าทำอะไรบ้าง ส่วนตัว คงเล่าไม่ได้นะครับ
    เพราะว่าไม่มีในตำรา และใช้หลายสูตร
    หลายกรรมฐาน มาผสมผสานกันกันไป
    และถ้าเล่าแล้ว มันน่าจะทำให้ข้าพเจ้าอยู่แบบฮาๆ ใช้ชีวิตปกติ เดินไปเดินมา
    คนเดียวได้ลำบาก ๕๕๕๕๕ อันนี้โม้เล็กน้อย


    เอาว่าเป็นแบบฮาๆ
    รวมๆไม่แน่ใจว่า
    น่าจะเฮฮาทั้งพระลูกวัดทั้งหมดที่อยู่วัด ณ เวลานั้น
    ทั้งฆารวาสใกล้ชิดอาจารย์บางส่วน
    เป็น ๑๐ ท่านได้มั่ง ? น่าจะได้นะ
    ก็คิดว่าไม่มีอะไร



    หลังจากนั้นก็กลับบ้าน เอารถเล็กไป
    แวะนอนงีบไป ๒ ปั๊ม ที่ละ ๒๐ นาทีได้
    ถึงบ้านเกือบเช้า ตื่นอีกทีมาเที่ยง
    ลุกมาทานข้าว ซักผ้า รวมทั้งผ้าปูที่นอน
    หมอน ชุดสวมใส่ ทำความสะอาดห้องนอน
    อาบนำ้ นอนเล่นอีกที บ่าย สอง


    ผลปรากฎว่า สลบไม่รู้เรื่อง
    ฟื้นอีกที สี่ทุ่มครึ่ง ๕๕๕๕
    สรุป แว๊วววววว นอนไปเกือบ ๑๕ ชั่วโมง
    เรียกว่า ฟ้าฝ่า ก็ไม่ตื่น ๕๕๕
    นี่ผลของการเฮฮาแค่ ไม่กี่ชั่วโมงนะเนี่ย


    มานึกดูวันหนึ่ง พระอาจารย์
    รับไม่รู้กี่เคส ทำหลายอย่างมาก
    ตั้งแต่เช้า ยันเที่ยงคืน
    ทั้งงานหลวงงานนอก บางเคสนิมนต์
    ท่านไว้เป็นปีก็มีนะครับ กว่าจะได้คิว
    ท่านยังมีแรงทำต่อเนื่องได้ตลอด
    ส่วนตัวนี่ทึ่งจริงๆ


    นี่หละท่านเลยบอกว่า สมาธิทำๆไปเหอะ
    จะนั่งจะเดินจงกลม เป็นการสะสม
    ในวันหนึ่งๆก็ทำไปเหอะ ได้เท่าไรก็ตาม
    มันได้ใช้อยู่ตลอดเวลานั้นหละ
    อย่าไปสนว่าใครจะบอกว่าเราติดสมาธิ
    ไม่งั้นถ้าเรามีไม่พอ มันจะไม่เพียงพอ
    ให้เราต้าน ควบคุม กิเลสต่างๆได้



    ลองนึกภาพการนอน เหมือนก่อนหน้าไปวิ่ง
    มาราธอนมา แล้วหลับแบบลืมว่า
    ตอนนี้อยู่ส่วนไหนของจักรวาลนั่นหละ
    ๕๕๕๕


    โอ้ยยย พึ่งจะอาการปกติ
    เด่วพรุ้งนี้ ลุยงานหลวงต่ออีก
    นี่หละชาวโลก ใครว่าเกิดมาแล้วสบาย


    พอสบายมันก็ไม่เห็นทุกข์
    ที่แอบซ่อนคอยจะเล่นงานเราอีก
    มันต้องเห็นทุกข์ถึงจะถือว่าเราโชคดี
    เพราะมันจะทำให้เราได้รู้ ได้เข้าใจ
    และจะได้มีการเตรียมตัว พร้อมกับ
    มีการปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ
    เพื่อเตรียมความพร้อมไว้รับมือ
    ดังนั้นทางพุทธศานา
    คนที่โชคดี คือคนที่เกิด
    มาแล้วเจอความทุกข์
    คือ เจอเรื่องที่ทำให้ใจเราเศร้าหมอง
    หงุดงิด รำคาญ กระทบกระเทือน
    เดือดร้อนทั้งกายและใจ
    เราถึงจะเห็นอะไร พร้อมกับเกิด
    การปรับปรุงตัวเองขึ้นมาได้
    ดังนั้น ความสุข ความสบาย
    มันมีอะไรที่คอยรอจ้องเล่นงาน
    เราอยู่เสมอแบบลับๆ
    เช่น บางคนเดินๆอยู่
    ไม่คิดอะไรเพราะชีวิตสบาย
    ถูกรถชนตายเอาดื้อๆก็มี
    บางคนไม่เคยเป็นอะไร
    บทจะตาย ก็ป่วยตายเอาดื้อๆ
    ดังนั้นพี่น้องทั้งหลาย
    ถ้าเราเกิดมาได้เจอความทุกข์
    ให้ท่านระลึกไว้เถอะ ว่าท่านนั้น
    เป็นบุคคลที่โครตโชคดีแล้วในทาง
    พุทธศาสนาครับ ^_^


    บริษทต่างๆที่แนะนำไป
    และบริษท สุดท้ายข้าพเจ้า
    นั่งฟัง พระอาจารย์
    เล่าให้ฟังมากับหูตัวเอง
    เวลาท่านสนทนากับบุคคลอื่นๆ
    เรียกว่า เป็นการเก็บตก
    ยังไงลองไปอ่านพิจารณาดู
    จะเป็นประโยชน์แห่งตนเองได้



    แค่เพียงแต่โม้ และเล่าสู่กันฟัง
     
  15. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ตอนนี้ผมได้รับมอบหมายให้บอกบุญสร้างระเบียงคตพระธาตุโสฬสเจดีย์ครับ
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    หลวงพ่อชุมพล พลปญโย
    มอบให้ชาวโลกเพื่อเป็นธรรมทาน

    (หนังสือทิศที่๑๑)

    บทที่ ๓
    ในสายตาของผู้ไร้ปัญญาปัญหาปรากฏทุกที่ ในสายตาของผู้มีปัญญาโอกาสหาได้ทุกที่ เมื่อท้อแท้ท้อถอยอะไรก็เป็นภาระที่หนักอึ้ง เมื่อกระตือรือร้นอะไรก็เป็นงานที่น่าเรียนรู้ เมื่อขัดเคืองขุ่นแค้นใครก็เป็นศัตรูของเรา เมื่ออโหสิอภัยใครก็เป็นผู้ร่วมงานที่ดี เมื่อจิตใจคับแคบใครก็มาเอาเปรียบเราจังเลย เมื่อจิตใจกว้างขวางก็น่าภูมิใจที่ได้มีโอกาสเสียสละ ตั้งจิตไว้ผิดจะเจอทางตัน ตั้งจิตไว้ถูกจะเจอหนทางโล่งว่าง คนโง่คิดว่าโลกนี้สร้างปัญหาให้ จึงคิดแต่ตีโพยตีพายด่าว่าโทษฟ้าโทษดิน คนฉลาดคิดว่าปัญหาอยู่ที่ความไร้สมรรถภาพของตน จึงขวนขวายเรียนรู้ศึกษาพัฒนาตนตลอดเวลา ถ้าคิดผิดกี่ปีกี่ปีก็โง่เท่าเดิม ถ้าคิดถูกก็ได้พัฒนาตนให้ดีขึ้นตลอดเวลา ที่คนโง่ว่าเป็นปัญหานั้นผู้มีปัญญาว่าเป็นโอกาสทอง
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    Tips & Tricks หน้า207 #4129
    "บุรุษไร้เงา, post: 10968980 ]


    มาต่อนิทานขี้โม้ ท้าวเวชฯ
    เมื่อก่อนท่านเคยตาม
    ส่วนตัวเมื่อประมาน ๑๐ ปีก่อน
    ช่วงออกจากวัดป่าใหม่ๆ และ
    ไปเป็นคอนเซาว์เคยเจอท่านบ้าง
    ก็เลยถามดูว่าท่านเป็นใคร

    และ เมื่อ ๙ ปีก่อน
    เคยพบท่านตอนกลางวันนี่หละ
    ที่ห้องพักแห่งหนึ่งที่ชลบุรี
    รายละเอียดต่างๆไม่สามารถ
    เล่าออกสื่อได้ เอาว่าช่วงนั้น
    ส่วนตัวชักทำตัวเหลวไหลแล้วกัน
    เลยได้พบท่านแบบนี้

    ส่วน ลป. ป เมื่อ ๑๐ ปีก่อนยังรู้สึกผิด
    เคยสวนกับท่าน กลางอากาศ
    ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่มีบรรไดแก้ว
    มีลานหิน มีคนแต่งชุดชาว
    ไปเรียนอะไรกับท่านก็ไม่รู้เหมือนกัน
    ในระยะประมาน ๑ ฟุต (คือจริงๆ
    เกือบไปชนท่าน เพราะตอนแรก
    มองไกลๆไม่ทราบว่าเป็นท่านใด
    เพราะเกิดไม่ทันท่าน)
    สมัยก่อนกำลังสติน้อย ติดโหมด
    ท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อย ไร้สาระมากจริงๆ

    ไม่ได้ฝันไม่ได้อะไรถึงท่านหรอกช่วงนี้
    แต่เมื่อ ๗ ปีก่อน
    ท่านเคยมาแนะทริคการอุทิศส่วน
    กุศลเพิ่มเติมจากสูตรเดิมที่เคยแนะนำ
    คนอื่นๆไป(สูตรเดิมท่านบอกไม่ผิด
    ทำถูกแล้ว) แต่เสริมทริคให้พิเศษ
    ไว้มีโอกาสหรือมีคนสนใจหรือมีวาระ
    จะเขียนเอาไว้ให้อ่านแล้วกัน

    แค่มีนิทานมาโม้ให้ฟัง

    ปล. จะสร้างพระพุทธเจ้าฯ แต่ไฉนใย
    กลายเป็นพระปัจจเจกไปได้หละ... ^_^

    คำคมพูดรวมๆ
    **เวลาที่ข้าพเจ้าชี้นิ้วให้ท่านมองดวงจันทร์เหตุไฉน
    ใจท่านถึงได้จ้องแต่คอย
    มองและให้ความสนใจแต่นิ้วชี้ของข้าพเจ้า
    แทนที่จะมองดวงจันทร์**
    พิจารณาดูเถิด จะเกิดผล
    (อจ.นพ)
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    หลวงพ่อชุมพล พลปญโย
    มอบให้ชาวโลกเพื่อเป็นธรรมทาน

    (หนังสือทิศที่๑๑)

    บทที่ ๔
    ในความรู้สึกของบัณฑิตนั้น คําใส่ร้ายป้ายสีไม่รู้สึกว่าน่ากลัว แม้เจอความอยุติธรรมก็ไม่รู้สึกว่าเป็นทุกข์โทษ กลับเป็นเครื่องฝึกใจอย่างดี ความคับข้องใจนั้นมนุษย์หนีไม่พ้น อย่างน้อยก็มีความแก่ความเจ็บความตายเป็นความคับข้อง จงฝึกฝนตนเองจากความคับข้องที่ได้เจอในชีวิต จงฝึกกับความคับข้องเล็กน้อยตอนนี้ จะได้เตรียมพร้อมจิตที่จะรับความคับข้องใหญ่ ความแก่เจ็บตายนั้นอยู่ข้างหน้า ความพลัดพรากจากของรักก็จะมีโอกาสได้เจอแน่ เรื่องใส่ร้ายป้ายสีนั้นเป็นเรื่องเล็กเล็ก เรื่องอยุติธรรมก็ดูไม่ใหญ่โต โลกนี้มีเรื่องทุกข์ยากลําบากเข็ญมากมาย อย่าประมาทเพลิดเพลินหลงระเริง อย่าท้อถอยหมดกําลังใจในการฝึกฝนตน
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,882
    ค่าพลัง:
    +4,719
    ภาพขนลุก รวมเรื่องปาฏิหาริย์ความเชื่อ
    เมื่อคนบันเทิง เยือนถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ

    นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม สำหรับปรากฏการณ์ยากที่จะหาคำตอบหรือที่หลายคนเชื่อว่า เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ ของเหล่าศิลปินดาราคนบันเทิง ที่ได้ประสบพบเจอขณะเดินทางไปร่วมทริปบุญ ณ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ
    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTcwNC84NTIzMTU0LzEuanBn.jpg
    ไม่ว่าจะเป็นเคสของ แม่แก้ว คุณแม่พระเอกหนุ่มชื่อดัง ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่บังเอิญว่าในภาพหลายๆ ภาพจากทริปที่เจ้าตัวเดินทางไปยังถ้ำนาคาภูลังกา ได้ปรากฏแสงสีงดงามหลากหลายเฉด ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นแสงแห่งพลังมงคลและบุญบารมี ตามความเชื่อความศรัทธา

    ขณะที่ มดดำ-คชาภา ตันเจริญ พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้มีโอกาสเดินทางไปถวายสักการะ ณ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ ก็ได้แชร์เรื่องราวประสบการณ์ตรงของตนเอง ที่อยู่ๆ ก็เกิดได้ยินเสียงดัง ตึ้ง!! และคำพูดที่บอกว่า 'อยากได้อะไรให้ขอเราสิ' บริเวณปากถ้ำใกล้หัวพญานาค แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ยิน จึงได้ทำการขอพรเรื่องงานให้ประสบความสำเร็จ กระทั่งเมื่อเดินทางกลับมายัง กทม. หลายๆ อย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้
    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTcwNC84NTIzMTU0LzIuanBn.jpg
    เช่นเดียวกับ เพลง ชนม์ทิดา ทายาทศิลปินดีว่าคนดัง ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย ก็เคยสร้างความฮือฮาให้กับใครหลายคน เมื่อ 1 ในภาพถ่ายที่เจ้าตัวโพสต์ลงบนอินสตาแกรม @plengasavahame ถูกชาวเน็ตคอมเมนต์ทักเรื่องแสงสีเขียวที่ปรากฏอยู่บริเวณด้านข้างของผนังถ้ำ ในทำนอง แสงสีเขียวๆ ที่ก้อนหินดูเหมือนอีกมิติหนึ่ง, ขนลุกเลย สาธุๆๆ, ฝากไหว้เผื่อด้วยนะ เดินขึ้นไม่ได้ สาธุ สาธุ สาธุ และอีกมากมาย จนส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์อยู่พักใหญ่บนโลกโซเชียลฯ

    NC84NTIzMTU0L2tlYXdfanVuZ18yNDIzMzY5ODRfOTE1MTY5NDM5NDE5NjEwXzczMzcwMjUyODMzMjUwMjkyNDdfbi5qcGc=.jpg
    NC84NTIzMTU0L2tlYXdfanVuZ18yNDIxOTYzMzlfNDMwMTAzMjkxMDAxMDk3NF84MTIxNzUxNzQ1MDkxNTU4NDE5X24uanBn.jpg
    NTIzMTU0L29vbXNha2FvamFpXzI3MzAzMzAwN18zMjc3MjYyMzU5NDgxMTBfNDE0Nzc4Mjc4MTU0NDMxNzY4MF9uLmpwZw==.jpg

    MTU0L3BsZW5nYXNhdmFoYW1lXzI3MjMyNzkwOF8yMzcyNTcyMjUyNDY2MDBfNzE4MzE4NDAwNjMyMjI4MzMxMV9uLmpwZw==.jpg

    รวมถึงกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับนางร้ายลูกหนึ่ง อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ หลังจากที่เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ เจ้าตัวก็ได้สังเกตเห็นว่า บริเวณจุดหนึ่งของภาพที่ถ่ายไว้มีแสงประหลาดสีฟ้าปรากฏอย่างเด่นชัด อีกทั้งยังมีลักษณะชวนให้นึกถึงเมืองบาดาลตามเรื่องเล่าความเชื่อ จน อ๋อม สกาวใจ ต้องนำเอาเรื่องนี้มาตั้งคำถามแบ่งปันมุมมองกับแฟนๆ บนโลกโซเชียลฯ "ปาฏิหาริย์!!! เห็นอะไรกันมั้ยคะ สังเกตุแสงสีฟ้าเหมือนเมืองบาดาลเลยอ่ะ" ซึ่งก็ส่งผลให้มีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเห็นอย่างล้นหลามเช่นกัน
    NC84NTIzMTU0L2tlYXdfanVuZ18yNDIyODg4MTRfNjQwNTEzMTYwNjY4Njc1XzgxNjcwMzYwOTMxMTk3NjI1NTZfbi5qcGc=.jpg

    แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเรื่องราวที่ปรากฏให้เห็นทั้งจากภาพถ่ายและจากเรื่องเล่าของคนบันเทิงหลายๆ คน เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นและความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งทีมข่าว Sanook.com ยังคงต้องขอเน้นย้ำว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม ไว้ ณ ที่นี้ด้วย


    ขอขอบคุณแหล่งที่มา
    www.sanook.com/news/archive/author/Wirut/
    บทความโดย Wirut D.
     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สวัสดีครับท่าน9
     

แชร์หน้านี้

Loading...