เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 9 มิถุนายน 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ภารกิจสำคัญของกระผม/อาตมภาพก็คือ งานเจริญพระพุทธมนต์ฉลองพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัด เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุทธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่พระอุโบสถวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) พระพุทธรูปสำคัญองค์นี้ คือพระพุทธชินราช ๕๐ พรรษา ม.ว.ก. ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สมัยเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้จัดสร้างฉลองพระชนมายุ ๕๐ ชันษา แล้วมอบให้แก่พระอารามหลวงสำคัญของทุกจังหวัด

    เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมาเป็นคณะกรรมการสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์และพระผู้ทรงพระปาฏิโมกข์ ซึ่งปีนี้ทางด้านคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ขอเข้าสอบผู้ทรงพระปาฏิโมกข์จำนวน ๙ รูป เป็นของวัดท่าขนุน ๓ รูป สอบผ่านทุกรูป ขณะเดียวกันมีผู้เข้าสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ ๔๙ รูป สอบผ่าน ๔๒ รูป เป็นของวัดท่าขนุน ๔ รูป

    ในเรื่องของพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์นั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือการสามารถสวดกรรมวาจาได้ถูกต้อง โดยเฉพาะอักขระฐานกรณ์ต่าง ๆ จะต้องไม่ผิดพลาด ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะมีความเคยชิน อย่างเช่น พระอุปัชฌาย์ มักจะออกเสียงเป็น อุป-ปัด- ชา ซึ่งถือว่าเป็นอักขระวิบัติ

    คราวนี้การสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าพระคู่สวดนั้น แม้ว่าจะไม่เข้มงวดเท่ากับการสอบพระอุปัชฌาย์ แต่ว่าก็ต้องถือว่ามีความเข้มข้นในระดับหนึ่ง จึงมีผู้ที่ติดหรือว่าเคยชินกับการออกเสียง แม้กระทั่งการตั้งนะโมฯ ก็สามารถทำให้สอบตกได้..!

    รุ่นที่กระผม/อาตมภาพสอบพระอุปัชฌาย์นั้น มีผู้หนึ่งมาจากทางภาคอีสาน อักขระฐานกรณ์ทุกอย่างชัดเจนมากแต่สอบตก เนื่องเพราะท่านขึ้นนะโมฯ เพื่อให้ศีลว่า นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทตัสสะ แม้ว่าอาจารย์ผู้สอบจะขอให้ท่านเริ่มต้นใหม่ถึง ๑๖ ครั้ง ท่านก็ลง สัมมา สัมพุทตัสสะ ทั้ง ๑๖ ครั้ง ในเมื่อไม่สามารถที่จะแก้ไขความเคยชินได้จึงสอบตกไป..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    อีกท่านหนึ่งก็ตกในเรื่องของการตั้งนะโมเหมือนกัน คือท่านตั้งนะโมว่า นะโม ตัสสะ พระคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ทุกครั้งก็จะออกเสียงว่า พระคะวะโต ซึ่งกระผม/อาตมภาพไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเอาตำรามาจากไหน เพราะว่าบาลี ภควา ผู้จำแนกแจกธรรมนั้น ไม่มี ร.เรือประกอบ แต่ท่านสามารถออกเสียงเป็น พระคะวะโต ได้ทุกครั้ง แสดงว่าจดจำมาจากครูบาอาจารย์โดยไม่เคยเปิดตำราดู ท่านนี้ก็ตกตั้งแต่นะโมฯ ให้ศีลเช่นกัน

    โดยเฉพาะศีลข้อ กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี ก็คืองดจากการประพฤติผิดในกาม จะต้องออกเสียงให้ขาดว่า กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมณี เพราะว่าคำว่า กาเมสุ ก็คือ กาเม นั่นเอง แต่เป็นวิภัตติที่ ๗

    คำว่า วิภัตติ นี้บางทีเราฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ ก็คือคำว่า Tense ในภาษาอังกฤษ ก็คือประกอบไปด้วยระยะเวลาต่าง ๆ กันไป ถ้าหากว่าของภาษาอังกฤษก็จะมี อดีต ปัจจุบัน อนาคต แค่ ๓ เวลาเท่านั้น แต่ว่าบาลีนั้นมีทั้ง อดีตใกล้ปัจจุบัน ปัจจุบันใกล้อนาคต บรรดาวิภัตติหรือว่ากาลต่าง ๆ จึงมีมากกว่าปกติ

    คำว่า กาเมสุ ตัวนี้ เป็นสัตตมีวิภัตติ ก็คือวิภัตติที่ ๗ แปลว่า ในกาม มิจฉาจาร คือการกระทำที่ผิด เวระมณีคือให้งดเว้น คืองดเว้นการกระทำผิดในกาม แต่คราวนี้มักจะออกเสียงกันว่า กาเมสุมิจฉา จารา เวระมณี

    ในเมื่อ สุ ถ้าหากว่าขึ้นต้น แปลว่า ดี แปลว่า งาม แปลว่า ง่าย สุมิจฉา จึงกลายเป็นผิดแล้วดี ดังนั้น..ถ้าหากว่าออกเสียงไม่ขาด ก็จะกลายเป็นคำศัพท์ที่ผิดพลาด จึงต้องออกเสียงให้ขาดว่า กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมณี เป็นต้น บุคคลที่ไม่เคยชินกับภาษาบาลี ก็จะไม่รู้ว่าต้องเว้นวรรคตรงไหน แล้วการเว้นวรรคให้ขาดนั้น ก็ไม่ได้เว้นวรรคนาน หากแต่ว่าเป็นการเว้นวรรคประมาณ ๑ วินาที หรือครึ่งวินาทีเท่านั้น

    แม้กระทั่งการออกเสียงว่า สะระณัง คัจฉามิ ไม่ใช่ออกเสียงสระอะเต็มที่ แต่เป็นอัฒสระ ก็คือครึ่งเสียง จึงเป็น ส ร ณัง แต่มักจะออกเสียงกันว่า สะ-ระ-ณัง ชัด ๆ ซึ่งนั่นเป็นการออกเสียงสระเต็มคำที่ผิดพลาด เหล่านี้เป็นต้น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    การอุปสมบท ก็คือการบวชพระของเรานั้น ถ้าหากว่าเกิดวิบัติ ก็ถือว่าความเป็นพระนั้นไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในส่วนของกรรมวาจาวิบัติ เป็นส่วนที่ผิดพลาดได้ง่ายที่สุด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมาปรับปรุง แก้ไข เคี่ยวเข็ญกัน

    ผู้ขอเข้าสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์ท่านใดก็ตาม ถ้าแก้ไขความเคยชินของตนเองไม่ได้ ก็จะสอบตกไปโดยปริยาย อย่างเช่นว่า สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ แต่ว่าหลายท่านก็ออกเสียงว่า สิกขาประทัง สะมาทิยามิ เพิ่ม ร.เรือเข้าไป ทำให้สอบตกโดยใช่เหตุ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขให้ได้ ไม่เช่นนั้นอาจารย์ผู้สอบก็จะไม่มีใครปล่อยให้ผ่าน

    กระผม/อาตมภาพคุยอยู่กับท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านอาจารย์พระมหาวิสูตรบอกว่า "ผมมาถึง ยังมีผู้เข้าสอบไม่ครบตามจำนวน เพราะว่าพวกท่านอาจารย์พระครูไปเจริญพระพุทธมนต์ในโบสถ์ ผมกวักมือเรียกท่านที่นั่งรออยู่ว่าให้มาสอบกับผม ท่านบอกว่า "ไม่ขอรับ ขออนุญาตรอตรงนี้ดีกว่า" แล้วพวกเราก็หัวเราะกัน เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพบอกว่า "ถ้าเป็นผม เขาก็ไม่เอาเหมือนกัน เขาบอกว่าอาจารย์เล็กโหดมาก..!"

    เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว สมัยที่กระผม/อาตมภาพจะสอบพระอุปัชฌาย์นั้น ผู้ที่ขึ้นชื่อลือเลื่องที่สุดในเรื่องของความโหดในการสอบพระอุปัชฌาย์ ก็คือพระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมเสนานี (ชุณห์ กิตฺติวณฺโณ) ซึ่งท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ภายหลังเลื่อนขึ้นเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

    กระผม/อาตมภาพไปกราบเท้าเรียนถวายท่านว่า "หลวงปู่ขอรับ กระผมจะสอบพระอุปัชฌาย์ เมื่อใกล้เวลาแล้ว กระผมจะนำเอาพานดอกไม้ธูปเทียนมากราบขออนุญาตสอบกับหลวงปู่ล่วงหน้านะครับ"

    ปรากฏว่าหลวงปู่ชุณห์ ท่านบอกว่า "ไม่ทันกิน เอ็งท่องมาให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้เลย ผิดตรงไหนจะได้แก้ไขให้..!"
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    นี่คือสิ่งที่ท่านเมตตา แล้วดีที่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเป็นลูกศิษย์สู้ครู ไม่ยอมหนี แม้ว่าครูจะโหดร้ายขนาดไหนก็ตาม ถือว่าครูยิ่งมีความโหด ก็คือเข้มงวดเท่าไร ก็สามารถที่จะขัดเกลาเราออกมาได้ดีเท่านั้น แล้วทุกวันนี้ กระผม/อาตมภาพที่ได้เพียงเศษเสี้ยวของพระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมเสนานี วัดวังตะกู ซึ่งท่านมรณภาพไปแล้ว ก็ทำให้ผู้เข้าสอบของทางจังหวัดกาญจนบุรีบ่นว่า "พระอาจารย์เล็กโหดเกินไป ขอสอบกับคนอื่นดีกว่า" เป็นต้น

    แล้วเมื่อตอนที่กระผม/อาตมภาพเข้าสอบ ปรากฏว่าหลวงปู่พระธรรมเสนานีท่านไม่สบาย ไม่สามารถไปเป็นกรรมการในการสอบระดับประเทศที่วัดสามพระยาวรวิหารได้ กระผม/อาตมภาพก็ดวงดีเหลือเกิน ก็คือจับสลากไปเจอพระเดชพระคุณพระธรรมปิฎก (ชวลิต อภิวฑฺฒโน ป.ธ.๙) ซึ่งตอนนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี

    จังหวัดสระบุรีในปีนั้น มีบุคคลรอดมาเพื่อสอบพระอุปัชฌาย์แค่ ๒ รูปเท่านั้น เนื่องเพราะท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก ท่านได้กำหนดกติกาเอาไว้ว่า "ผู้ที่จะสอบพระอุปัชฌาย์ของจังหวัดสระบุรี ต้องท่องกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๑๗ ว่าด้วยการแต่งตั้ง ถอดถอนพระอุปัชฌาย์ให้ได้ทุกข้อ..!" ซึ่งทั้ง ๔๐ กว่าข้อนั้น ถ้าเรามีเวลาท่อง ก็สามารถที่จะจดจำได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะอ่านแล้วจำ เพื่อที่จะเอาไปทำข้อสอบกันเท่านั้น

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านที่ได้ชื่อว่าเข้มงวดกวดขันเป็นอันดับที่ ๒ ของการสอบระดับประเทศ กระผม/อาตมภาพที่พลาดจากลำดับที่ ๑ ก็คือไม่ได้สอบกับหลวงปู่ชุ้น แต่ว่าไปทวนกับท่านมา ได้มาเจอกับผู้ที่เข้มงวดเป็นลำดับที่ ๒ แล้วที่แน่ ๆ ก็คือเมื่อได้ทำการสวดสาธยายตามที่พระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมเสนานีสอนมา ปรากฏว่าผ่านมาอย่างชนิดที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ทำให้ได้ลายเซ็นมาอวดคนอื่นว่า "นี่ลายเซ็นพระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี" ซึ่งไม่มีใครบังอาจที่จะสงสัยว่า
    กระผม/อาตมภาพสอบผ่านมาได้เพราะว่าท่านปล่อยผ่าน..!

     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อเจ้าคุณชวลิต ต้องบอกว่าเป็นบุคคลที่เข้มงวดจริง ๆ ในการสอบพระอุปัชฌาย์ถัดจากหลวงปู่พระธรรมเสนานี เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้ ห่วงในเรื่องของการวิบัติในการอุปสมบทในพระพุทธศาสนา จึงได้เข้มงวดขนาดนั้น

    กระผม/อาตมภาพก็ถือว่าได้ครูดี แล้วทุกวันนี้ก็ยังถือแบบของครูอยู่ ทำให้บรรดาผู้เข้าสอบพระกรรมวาจานุสาวนาจารย์เจอหน้าก็สั่นหัว เนื่องเพราะว่าท่านอาจารย์พระมหาวิสูตรนั้น ท่านจบเปรียญธรรม ๙ ประโยค ท่านเก่งบาลี ดังนั้น..ถ้าหากว่าผิดพลาด ก็แปลว่าจะโดนท่านให้แก้ไขแล้วแก้ไขอีก ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้น แทบจะหลับตาท่องตามแบบที่หลวงปู่พระธรรมเสนานีท่านสอนเอาไว้ได้ครบถ้วนกระบวนความ จึงทำให้ในเรื่องของการสอบ ถ้าใครพลาดไปจากแบบ
    กระผม/อาตมภาพก็จะขอให้แก้ไข จนกลายเป็นที่เลื่องลือไป

    วันนี้กระผม/อาตมภาพก็เลยตกงาน
    เจริญพระพุทธมนต์เสร็จแล้วออกจากพระอุโบสถ ต้องมาให้กำลังใจพรรคพวกเพื่อนฝูง ตลอดจนกระทั่งพระวัดท่าขนุนที่เข้าสอบแทน เนื่องเพราะว่าไม่มีใครยอมสอบด้วยเช่นกัน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...