งานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบเช้า) วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 3 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    งานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบเช้า)
    วันเสาร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ฟท.jpg
      ฟท.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.2 KB
      เปิดดู:
      63
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ใครที่ต้องการรับยันต์เกราะเพชร ไปหาธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่มไว้ด้วย ถ้าสุภาพสตรีมีบุตรในท้อง เตรียมมาสำหรับลูกในท้องด้วยชุดหนึ่ง

    ข้าวของส่วนตัวให้เอาไว้บนตัก ใครขนมามากก็ลำบากหน่อย เพราะว่าที่นั่งไม่พอ

    แจ้งให้ญาติโยมทั้งหลายทราบว่า การบวงสรวงไหว้ครูเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งนี้ ข้าวของที่ท่านนำมาเข้าพิธี ถ้าเป็นของใช้ส่วนตัวไม่เป็นไร แต่ถ้าทำมาเพื่อจำหน่ายหาเงิน พระท่านไม่สงเคราะห์ให้ ไม่ว่าท่านจะถ่ายรูปทำประชาสัมพันธ์สักกี่รอบ ว่าได้มาเข้าพิธีแล้วก็ไม่มีประโยชน์

    ตอนแรกอาตมภาพก็สงสัยว่าทำไมพระท่านถึงห้าม ท่านบอกว่า สมัยก่อนคนสร้างวัตถุมงคล ก็ทำด้วยความเคารพในพระรัตนตรัย สร้างเอาไว้เพื่อใช้งานจริง ๆ ท่านถึงสงเคราะห์ให้ แต่ในปัจจุบันนี้สร้างมาเพื่อจำหน่ายหาเงิน นอกจากไม่ได้ประโยชน์ในด้านอนุสติ ยังก่อให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง มากขึ้นอีกต่างหาก
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    (มีพระเดินเบียดต่อแถวมาทำบุญ)

    นี่ถ้าเป็นพระวัดผม โดนตบหัวทิ่มไปแล้วนะ..!
    เวลาคนเยอะ ๆ อย่ามาเดินเบียดกับเขา ต้องรู้จักเพศภาวะของตนเอง ว่าเวลาไหนสมควรอย่างไร ทุกวันนี้พระอุปัชฌาย์อาจารย์ไม่ค่อยมีเวลาสั่งสอน ก็ควรที่จะมีจิตสำนึกของตัวเอง ว่าทำอะไรที่จะรักษาความศรัทธาของญาติโยมเอาไว้ได้ ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจตัวเอง โดยลืมไปว่าเป็นพระเป็นเณร

    บางท่านก็บอกว่ากระผม/อาตมภาพดุเกินไป
    ถ้าหากว่าพระเณรมาก ๆ แล้วไม่ดุ พวกไม่รู้ภาษา ไม่เห็นแก่พระพุทธศาสนา จะพาให้พุทธศาสนาบ้านเราล่มจมเร็วกว่านี้ เป็นพระภิกษุสามเณรจะทำบุญไม่ใช่ความผิด แต่ให้ดูกาลเทศะที่เหมาะสม เข้ามาเองแล้วไม่งาม ก็โปรดฝากลูกศิษย์เข้ามา หรือถ้าอยากจะทำด้วยตัวเอง ก็ต้องรอตอนคนว่างก่อน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ทำบุญแล้วรับวัตถุมงคลได้เลย วัตถุมงคลที่มอบให้สำคัญมาก โดยเฉพาะผงที่บรรจุอยู่หลังพระ มีสังฆาฏิครูบาอาจารย์ปนอยู่ประมาณ ๒๐ รูป คนสร้างใช้เวลาสะสมอยู่ ๕๐ กว่าปี

    ญาติโยมจะทำบุญเตรียมปัจจัยมาให้พร้อม ไม่ใช่มาถึงข้างหน้านี้แล้วค่อยตัดสินใจ คนด้านหลังมากมายเขาจะช้าไปด้วย

    ธูป ๓ ดอก กับเทียน ๑ เล่ม เอาไว้ใช้ตอนรับยันต์เกราะเพชร ไม่ใช่เอามาถวายอาตมา..!

    พระเจ้าหน้าที่ดูแลในศาลา ให้โยมขยับชิดด้วย ใครไม่ขยับก็หาไม้เคาะกะโหลกไปเลย..! งานแบบนี้ต้องแบ่งปันกัน ไม่ใช่เห็นแก่ตัว เอาสบายคนเดียว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้พวกเรามารับยันต์เกราะเพชร มีสิ่งหนึ่งที่พวกเราไม่เข้าใจ และไม่คิดที่จะทำความเข้าใจ ก็คือ การรับยันต์เกราะเพชร หรือว่าการเป่ายันต์เกราะเพชร เขาไม่ได้ทำทีละคน หากแต่เป่ากันทีละศาลา จะกี่หมื่นกี่แสนคนก็ทำพร้อมกัน..!

    เมื่อถึงเวลา อาตมภาพจะบวงสรวงขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ให้ท่านช่วยสงเคราะห์ พวกเราก็ให้พนมมือตั้งใจรับ ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม เป็นการแสดงความเคารพในพระรัตนตรัย แต่ถ้าพูดแบบอาตมภาพให้เสียเรื่อง ก็บอกว่าเป็น "เสารับสัญญาณ" ก็คือถึงเวลาใครมีอยู่ ท่านก็จะสงเคราะห์ให้ ใครไม่มี "เสารับสัญญาณ" สัญญาณก็มาไม่ถึง อ้าว..ทำไมเป็นเสียอย่างนั้น..!

    การรับยันต์เกราะเพชรนั้น ท่านให้ภาวนา "พุทโธ" เพราะว่ายันต์เกราะเพชรคือบารมีของพระพุทธเจ้า ถ้าหากว่าใครไม่ชอบพุทโธ ก็ภาวนา อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๓ ห้องไปเลยก็ได้ หรือถ้าใครเก่งมาก จะภาวนา อิติปิ โสฯ ถอยหลัง ก็ได้ หรือถ้าเก่งกว่านั้นอีก ก็ภาวนา อิติปิ โสฯ ๘ ทิศไปเลยก็ได้ แต่หลัก ๆ ก็คือ
    ต้องนึกถึงพระพุทธเจ้า

    คราวนี้การรับยันต์เกราะเพชรนั้น ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าได้รับยันต์แล้ว ? วิธีแรกให้สังเกตตัวเอง ถ้ามีอาการหนักหัว หนักไหล่ ร้อนหู ร้อนหน้า หรือว่าขนลุก บางคนก็มีกระทั่งน้ำตาไหล หรือโยกไปโยกมา ลักษณะนั้นแปลว่ายันต์เกราะเพชรเข้าตัว

    เมื่อรับยันต์ไปได้แล้ว ควรที่จะรักษาด้วยการปลุกไว้ทุกวัน ก็คือจะต้องภาวนา อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ทั้ง ๓ ห้อง ตอนเช้า ๆ ภาวนา พอกำลังใจมั่นคงแล้วก็กลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง อานุภาพยันต์เกราะเพชรจะคุ้มครองท่านได้ทั้งวัน
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ถ้าถามว่ายันต์เกราะเพชรมีอานุภาพอย่างไร ? ท่านที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว อันดับแรก จะไม่ตายด้วยไสยศาสตร์ ต่อให้เขาทำเราหนักแค่ไหน อย่างเก่งก็ฉี่เป็นเลือด ดิ้นอยู่สามวันสามคืน แล้วก็ไม่ตาย..!

    อันดับที่สอง จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษ จะทดสอบแบบอาตมภาพก็ได้ เพราะว่าโดนงูกัดมาหลายครั้งแล้ว..ไม่ตาย แต่ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ ตอนงูกัดนี่ปวดสุดใจขาดดิ้นเหมือนกัน แต่พิษจะวิ่งขึ้นมาได้ถึงแค่ข้อแรกเท่านั้น อย่างเช่นว่า ถ้าโดนกัดที่ฝ่ามือ พิษจะเกินข้อมือมาไม่ได้ ถ้าโดนกัดที่ท่อนแขน พิษก็จะไปได้ไม่เกินข้อศอก เหล่านี้เป็นต้น พิษจะวิ่งขึ้นวิ่งลงให้เราปวดดิ้นทุรนทุรายอย่างมีความสุขสัก ๗ - ๘ รอบ ก็หายไปเอง..!

    อันดับที่สาม คนที่รับยันต์เกราะเพชรไปจะไม่ตายโหง พูดง่าย ๆ ว่านอนตายบนเตียงสบาย ๆ แต่อาจจะมีสายระโยงระยางหน่อย..! คำว่าไม่ตายโหงก็คือจะไม่ตายด้วยอาการผิดปกติ และไม่ตายก่อนอายุขัย อย่างโยมแม่ของกระผม/อาตมภาพ ไปโดนสิบล้อเสยมา กระดูกทางด้านขวาของร่างกายหักหมดทุกชิ้น นอนไอซียูอยู่ ๓ เดือน แล้วก็รอดตาย ทำกายภาพบำบัดอยู่อีก ๓ ปี กว่าที่จะเดินได้ตามปกติ..!

    เพราะฉะนั้น..อย่าเข้าใจว่ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้วจะปลอดภัยทุกประการ ไม่ตายด้วยไสยศาสตร์ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บ ไม่ตายด้วยพิษสัตว์ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บ กระผม/อาตมภาพลองมาแล้วทุกอย่าง ส่วนไม่ตายโหงนี่ ลองมาหลายทีแล้ว ยังไม่ตายสักที..มั่นใจได้..!
     
  7. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ยันต์เกราะเพชรนั้นมาจากตำราพระร่วง ก็คือพระร่วงเจ้าสมัยกรุงสุโขทัย สืบทอดกันมาตามสายลูกหลาน จนกระทั่งมาถึงท่านอาจารย์แจง ชาวสวรรคโลก ได้ให้หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ยืมตำรามาใช้งาน เมื่อหลวงปู่ปานท่านได้ตำรามาจากอาจารย์แจง ชาวสวรรคโลกมา ก็ศึกษาตำรานั้น มีอยู่วิชาหนึ่ง คือวิชาการสร้างธงมหาพิชัยสงคราม เป็นธงนำทัพในสมัยพระร่วง อานุภาพก็คือธงผืนเดียวป้องกันทหารได้ทั้งกองทัพ

    แต่คราวนี้ถ้าทำในลักษณะนั้น บุคคลที่เป็นผู้นำต้องบารมีมากพอ หลวงปู่ปานจึงขอพระท่านสงเคราะห์ว่าทำอย่างไรจะให้เฉพาะแต่ละคนได้ ท่านถึงให้เอาตัวอักขระที่คอธง ซึ่งก็คือ อิติปิ โสฯ ทั้งบท มาจัดเรียงเป็น ๗ แถว ไม่ใช่ยันต์ ๗ แถวนะ อิติปิ โสฯ ๗ แถว เขียนลงมา ๘ ตัว เขียนแบบหนังสือจีน แต่อ่านแบบหนังสือไทย อ่านว่า

    อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง เป็นต้น ไปจนถึง อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ แล้วชักสูตรสำเร็จออกมาเป็นยันต์เกราะเพชร

    ดังนั้น..ในเรื่องของยันต์เกราะเพชร จึงนับว่าเป็นบารมีพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปสามารถพิสูจน์ได้ คือถ้าหากว่าใครเป็นผู้หญิงที่ท้องครั้งแรก ที่โบราณเขาเรียกว่าลูกคนหัวปี คือลูกคนแรก ไม่ใช่ลูกคนหัวปลี..! นั่นคือดอกกล้วย ถ้าเกิดมาเป็นผู้ชาย จะมียันต์ติดตัวมาด้วย

    กระผม/อาตมภาพจัดเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งแรก ๆ มีเด็กที่มียันต์ติดตัวมาหลายคน ลักษณะของยันต์ที่ติดตัวมาไม่ใช่ว่าเป็นรูปยันต์เลย แต่หากว่าเป็นขีด เป็นเส้น เป็นแต้ม ลายไปหมด แต่ให้สังเกตว่าภายใน ๗ วันก็จะหายไปเป็นปกติ
     
  8. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    แต่คราวนี้เด็กคนหนึ่ง หมอไม่เข้าใจ คิดว่าเป็นโรค ก็เลยมีการเจาะเลือด เจาะไขสันหลังตรวจกัน ทำให้เด็กเดือดร้อน สู้ต่างจังหวัดไม่ได้ หมอตำแยเห็นเด็กตัวลายพร้อย พ่อแม่ตกใจว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ? หมอตำแยบอก "ไม่เป็นไรอีหนู เดี๋ยวแม่จัดให้" ว่าแล้วก็อมเหล้าพ่นพรวดเดียว หายเกลี้ยงเลย..! โห..ยาย เขาอุตส่าห์รับมาเกือบตาย ยายเล่นเสียหายเกลี้ยงเลย..! แต่ยันต์เกราะเพชรไม่ได้หายไปไหน หายจากผิวหนังไปอยู่ในกระดูก เพราะว่ายันต์เกราะเพชรไม่ชอบเหล้า

    บางท่านมียันต์เกราะเพชรออกมาประหลาดกว่าคนอื่นเขา มีอยู่รายหนึ่งอยู่จังหวัดลพบุรี ยันต์เกราะเพชรขึ้นหัวเด็กเป็นรูปกงจักร เมื่อสงสัยแล้วถามว่าทำไมถึงเป็นรูปแบบนี้ ? แม่เด็กบอกว่า ทันทีที่รู้ตัวว่าท้อง ก็แยกห้องนอนกับพ่อเด็ก ไปนอนภาวนาอยู่ในห้องพระทุกวัน กว่าจะครบ ๙ เดือน ผัวจะคลั่งตาย..!

    พอคลอดลูกออกมา ก็เลยมียันต์เกราะเพชรเป็นรูปกงจักร ซึ่งปกติจะอยู่แค่ ๗ วัน แต่เด็กคนนี้ประหลาดมาก ยันต์จะปรากฏขึ้นมาทุกวันพระใหญ่ ก็แปลว่าเดือนหนึ่งจะโผล่ขึ้นมา ๒ ครั้ง อันนั้นต้องบอกว่าแม่เด็กเก่งมาก ก็คือตัดใจทิ้งพ่อไปเลย ๙ เดือน ภาวนาเอาความดีตามที่ครูบาอาจารย์สอน
     
  9. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เครื่องบวงสรวงที่ท่านเห็นนี่ พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม ป.ธ.๖ หรืออาจารย์มหาเอ หรือหลวงพ่อเอ บ้านสุมโน ท่านเป็นเจ้าภาพจัดให้ ราคาไม่แพงหรอก แสนเดียวเท่านั้นเอง..! ท่านรับเป็นเจ้าภาพอย่างนี้มาทุกงาน ท่านเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของอาตมภาพ ที่ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระครูบาอาจารย์ได้มาก
     
  10. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    คราวนี้ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิง หรือว่าเป็นผู้ใหญ่ ยันต์เกราะเพชรจะไม่ปรากฏ จะไปรู้กันอีกทีตอนตายแล้วเผา จะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูก

    ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง หลายรายเผาแล้วมียันต์ติดอยู่ที่กระดูก ก็เลยมีคนหนึ่งเดือดร้อน ก็คือพอเห็นมียันต์ติดกะโหลกแม่ เขาก็เอาไปเจียระไนอย่างดีแล้วก็เลี่ยมแขวนคอ..! แม่เอ็งไม่ต้องไปไหนหรอก โดนลูกห้อยคออยู่อย่างนั้นแหละ..! ไอ้ลูกก็เหลือเกิน..ไม่ได้คิดถึงพ่อถึงแม่เลย เห็นมียันต์ติดกระดูก ก็เอากระดูกมาแขวนคอเลย..!

    คราวนี้ยันต์เกราะเพชร ถ้ารับไปแล้ว มีข้อห้าม ๒ ประการ ข้อที่หนึ่งคือห้ามลักขโมย ข้อที่สอง ห้ามดื่มสุราหรือยาเสพติด การลักขโมยเป็นการเบียดเบียนคนอื่น การดื่มสุราหรือเสพยาเสพติด เป็นการเบียดเบียนตัวเอง พระท่านขอแค่สองข้อนี้เท่านั้น

    ส่วนที่ญาติโยมต้องระวังก็คือเรื่องของเหล้า เพราะว่าสมัยนี้เขาผสมในอาหารเยอะมาก อาตมภาพเจอมาทั้งช็อกโกแล็ตไส้บรั่นดี ทั้งไอศกรีมรัมเรซิ่น ทั้งขนมเค้กผสมบรั่นดี แถมเชอรี่หน้าเค้กก็แช่เหล้ามาอีกต่างหาก กูจะบ้า..!

    บรรดาน้ำพั้นช์ต่าง ๆ ก็ต้องระวัง เพราะหลายแห่งก็หยอดบรั่นดีลงไปด้วย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น ก็ผสมเหล้า ตกลงว่าจะรับยันต์ดีไหม ? รับไปแล้วระวังกันตัวลีบเลย ถ้าหากว่าท่านกินหรือว่าเสพยา ยันต์เกราะเพชรจะหลุดจากตัว ถ้าหากว่าดื่มเหล้าลงท้องปุ๊บ จะรู้เลย จะวาบออกผิวหนัง ก็แปลว่า "นายจ๋า..ยันต์ลาก่อน มีโอกาสแล้วค่อยเจอกันใหม่นะจ๊ะ"
     
  11. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    คราวนี้อาตมภาพเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไร เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรให้ ท่านประกาศให้ครอบครูทั้งวัด ให้พวกเราภาวนาจับภาพพระล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ เพื่อที่จะรับการครอบครู แต่คณะกรรมการสงฆ์วัดท่าซุงในยุคนั้น ไม่ทราบว่าเห็นอย่างไร ปรึกษาหารือกันแล้วบอกว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นภาระของหลวงพ่อท่านเท่านั้น พวกเราไม่ควรที่จะวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์ด้วยการไปครอบครู..+

    กระผม/อาตมภาพถือว่า
    สิ่งใดที่ครูบาอาจารย์สั่ง สิ่งนั้นเราต้องทำด้วยชีวิต แม้ว่ากรรมการสงฆ์ประกาศห้ามครอบครูก็ช่างเถอะ เราจะทำ ก็เลยไปหาโยมศุภาพร ปุษยะนาวิน อดีตภรรยาmjkoเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย บอกว่า "ป้าศุ..รบกวนทำพานไหว้ครูให้หน่อยจ้ะ" ก็มีรุ่นน้องคือท่านชาติชายอีก ๑ รูป มาขอพานไหว้ครูด้วย

    ป้าศุมองหน้าเด็กน้อยสองราย เพราะว่าอาตมภาพตอนนั้นแค่ ๗ พรรษา ท่านชาติชายยิ่งแล้วใหญ่ ๒ พรรษาเท่านั้น ป้าศุมองหน้าแล้วก็ถอนหายใจเฮือก...! "หลวงพี่เจ้าขา สองคนรวมกันยังไม่ถึง ๑๐ พรรษาเลย จะงัดข้อเขาไหวหรือ ?"

    อาตมภาพก็แจ้งป้าศุไปว่า "โยมก็รู้ว่านิสัยอาตมภาพเป็นอย่างไร ? อะไรที่พ่อสั่ง..ต่อให้ตายก็ต้องทำ..!" ป้าศุก็เลยตัดสินใจว่า "เอาอย่างนี้ เดี๋ยวโยมจะทำพานเผื่อพระผู้ใหญ่ที่รับใช้หลวงพ่ออยู่แถวนั้นด้วย ถ้าโดนก็จะได้มีคนโดนด้วยกัน..!" เข้าท่า..ป้าคิดหาวิธีแก้ให้ได้

    ก็สรุปว่าป้าศุทำพานไหว้ครูไปให้ ๙ ชุด น่าเสียดายมาก เพราะว่าพระที่ได้รับการครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชร ปัจจุบันนี้มีทั้งมรณภาพ มีทั้งสึกหาลาเพศไป แล้วก็มีทั้งออกจากวัดไปอยู่ที่อื่น ก็ต้องบอกว่า ตอนนี้ในวัดท่าซุงเหลือพระที่ได้รับการครอบครูอยู่แค่รูปเดียว เป็นใครอาตมภาพไม่บอก..!

    แล้วอย่างที่บอกกล่าวไว้ก็คือว่า อาตมภาพนั้นพรรษาน้อยมากในช่วงนั้น เมื่อท่านชาติชายออกจากวัดมาไม่นานก็สึกหาลาเพศไป อาตมภาพก็กลายเป็นน้องเล็กสุดที่ได้รับการครอบครู ไม่ได้หมายความว่า ท่านที่สึกหาลาเพศไปแล้วไม่สามารถที่จะทำได้ ถ้ากลับมาบวชใหม่เมื่อไร ก็ใช้สิทธิ์เดิมของตัวเองได้

    คราวนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสั่งเอาไว้ชัดเจนว่า อันดับแรกเลย การเป่ายันต์เกราะเพชร ต้องให้พระพุทธเจ้าสงเคราะห์เท่านั้น อย่าบังอาจใช้กำลังตนเองเป็นอันขาด ต่อให้แกคล่องตัวในสมาบัติ ๘ แค่ไหน ก็ได้ไม่ถึง ๒ เปอร์เซ็นต์ของพระพุทธเจ้าท่าน..!
     
  12. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    อันดับที่สอง ขณะที่ทำการเป่ายันต์เกราะเพชร ให้เอาจิตจดจ่ออยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านสั่งอะไรให้ทำตามนั้น

    อันดับที่สาม อยู่ที่ไหนให้ทำเฉพาะที่นั่น ห้ามเดินสายรับจ้างเป่ายันต์เด็ดขาด เพราะว่าการโลภในลาภแบบนั้น พระท่านจะไม่สงเคราะห์ อาตมภาพเองระยะหลังได้รับนิมนต์จากหลายวัด ให้ไปทำการเป่ายันต์เกราะเพชรให้ แต่ว่ารับไม่ได้ ซึ่งความจริงน่ารับนะ เพราะเขาประกันว่าเขาจะถวายสองแสนบาท..เสียดาย..!

    คราวนี้เมื่อถึงวาระ แทนที่ครูบาอาจารย์จะบอกท่านที่อยู่หัว ๆ ให้ทำการเป่ายันต์สงเคราะห์ญาติโยม กลับมาลงที่อาตมภาพ ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านอาจจะเห็นว่าอาตมภาพบ้าพอกระมัง ? เพราะว่าสมัยที่อยู่วัดก็สร้างวีรกรรมไว้เยอะมาก อะไรที่พ่อสั่งแล้วต้องทำ แถมยังจำตลอดชีวิต จึงเป็นที่เบื่อหน่ายของคนอื่นมาก เพราะว่าพอเขาเริ่มแกล้งทำเป็นลืม ๆ ก็จะบอกว่า "หลวงพ่อสั่งไว้อย่างนี้" ไปสะกิดให้เขารู้ตัวว่าเอ็งกำลังจะออกนอกลู่นอกทางแล้ว พรรคพวกเพื่อนฝูงเขาก็เลยเหม็นขี้หน้ากัน

    ในเรื่องของการรับยันต์เกราะเพชร พวกเราตั้งใจรับยันต์ ก็คือพนมมือที่ถือธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม ภาวนาพุทโธ หรือว่าคาถาที่เป็นพุทธานุสติ แต่ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ถ้าตั้งใจรับแบบนี้ จะสมาธิดีหรือไม่ดี ท่านก็สงเคราะห์ให้ทั้งนั้น

    ถ้าหากว่าใครรับยันต์แล้วรู้สึกว่าหนักหัวหนักตัว หนักไหล่ ร้อนหู ร้อนหน้า บางคนก็ขนลุก บ้างก็มีน้ำตาไหล มีตัวโยกไปโยกมาด้วย อันนั้นให้รู้ว่ายันต์เกราะเพชรกำลังจะเข้าตัวของเรา เมื่อยันต์เข้าหมดแล้ว อาตมภาพจะให้สัญญาณบอกว่าเลิกได้

    แต่ก็ยังมีปัญหาว่าบางคนจะมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนอาตมภาพหรือเปล่า เพราะว่ารับยันต์ไปแล้วก็ป่วยไปสองวัน พอครั้งที่สองก็ชักสงสัย รับยันต์ทีไรป่วยทุกที ก็ไปกราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "เกิดจากสาเหตุอะไรครับ ?" ท่านบอกว่า "แกมันดื้อเกินไป พอยันต์จะเข้าตัวก็ไปต้านเอาไว้ ในเมื่อกำลังของพระกดลงมา แล้วเราไปต้านเอาไว้ ก็เหมือนกับแบกของหนัก กว่าที่ยันต์จะเข้าตัวหมด ก็ไข้จับอยู่นั่นแหละ..!"

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าวันนี้ใครกลับบ้านไปแล้วไข้จับ โปรดตรวจ ATK ด้วย..! ไม่รู้ติดโควิดไปหรือเปล่า ? จะบอกว่ายันต์เข้าตัว..เดี๋ยวตายก่อน..! โปรดอย่าประมาท เพราะว่าระยะนี้ทองผาภูมิโควิดระบาดหนัก คนไข้เต็มโรงพยาบาลเลย เพียงแต่ว่ารักษาตัวไม่กี่วัน ส่วนใหญ่ ๔ - ๕ วัน ก็กลับบ้านได้ แต่ถ้าไม่รักษา หรือไม่รู้ว่าตัวเองเป็น อาจจะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น หรือว่าอาการกำเริบหนักแล้วเราก็เดือดร้อน เนื่องจากว่าที่นี่ก็เผากันเกือบทุกเดือน..!
     
  13. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เมื่อพวกเรารับยันต์ไปแล้ว อย่าไปทดลองแบบกระผม/อาตมภาพทำ เพราะว่าถ้าความบ้าไม่พออาจจะตายฟรี..! เพราะอาตมภาพไปไล่จับงูเห่า งูจงอางเล่นเป็นปกติ โดนงูกะปะกัดจมเขี้ยวตรงชีพจรข้อมือพอดี ก็เป็นเรื่องแปลกมากที่ไม่เป็นอะไรเลย ญาติโยมที่เห็นใจหายวาบ บอกว่า "ถ้าโดนไอ้ตัวนี้กัด พวกชาวสวนยางเขาต้องตัดขาทิ้งเลยครับอาจารย์"

    อาตมภาพก็เอาน้ำล้าง ๆ พลาสเตอร์แปะแล้วก็ไปทำงานต่อ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่หว่า..?! การทดลองแบบนี้ไม่ค่อยดี เนื่องเพราะว่าถ้ากำลังของเราไม่มั่นคง เราอาจจะใจฝ่อ ตายไปก่อนก็ได้

    อีกประการหนึ่งก็คือ ในเรื่องของยันต์เกราะเพชร ท่านที่รับไปแล้ว อย่าประมาท อาตมภาพรับยันต์เกราะเพชรใหม่ ๆ ประมาณปี ๒๔๒๕ - ๒๕๒๖ ตอนนั้นอายุแค่ ๒๓ - ๒๔ ปี ห้าวมาก ไม่แขวนวัตถุมงคลอะไรเลย ถึงเวลานึกเมื่อไรก็เห็นยันต์เกราะเพชรสว่างไสวอยู่ในตัว จึงลุยร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ

    จนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเตือนว่า "แกประมาทเกินไป หลวงพ่อปานยังโดนเขาทำไสยศาสตร์ล้มทั้งยืน แล้วแกแน่มาจากไหน..! เพราะว่าคนเรา ถ้าหากว่าเผลอ ลืมภาวนา ก็อาจจะเป็นจุดให้คนอื่นเขาเล่นงานเราได้" เมื่อครูบาอาจารย์เตือน กระผม/อาตมภาพถึงได้แขวนวัตถุมงคลกับคนอื่นเขาบ้าง ก็แปลว่าญาติโยมอย่าได้ประมาท มีวัตถุมงคลติดตัวไว้จะดีกว่า

    ถ้ามีวัตถุมงคลที่เป็นยันต์เกราะเพชรติดตัวอยู่ ถ้าเราละเมิดข้อห้าม อย่างเช่นว่าลักขโมยหรือว่ากินเหล้าเมายา ยันต์ก็แค่เลิกคุ้มครองชั่วคราวเท่านั้น กลับมาตั้งใจเป็นคนดี รักษาศีลใหม่ ยันต์ก็คุ้มครองใหม่ แต่ถ้าเป็นยันต์ที่เป่าติดตัวแล้วท่านไปละเมิดศีล ถ้าหายแล้วหายเลย ก็แปลว่าทั้งสองอย่างควรที่จะใช้รวมกัน ก็คือรับยันต์ติดตัวไปด้วย แล้วใช้วัตถุมงคลที่มีรูปยันต์เกราะเพชรติดตัวไปด้วย เป็นการ "เผื่อเหนียว" เอาไว้ก่อน
     
  14. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    อาตมภาพจากคนที่ไม่พกวัตถุมงคล ปัจจุบันนี้ถ้าเอาออกจากตัว ก็น้ำหนักลดไปเกือบ ๒ กิโลกรัม เราเป็นเด็กดี เชื่อครูบาอาจารย์ พอท่านบอกให้พกไว้บ้าง เราก็เอานิดหน่อย แค่ ๒ กิโลกรัมเท่านั้นเอง..!

    เคยไปถามหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ ปัจจุบันนี้ท่านอยู่ที่วัดเขาหลาว จังหวัดราชบุรี ถามหลวงพ่อว่าพกวัตถุมงคลเท่าไรครับ ? หลวงพ่อท่านบอกว่า "๓๐ กิโลกรัม..!" พอท่านเปิดจีวรให้ดู เจ้าประคุณเถอะ..พระพุทธรูป ๕ นิ้วยังอุตส่าห์เอามาแขวน..! ใครที่อยู่รุ่นนั้นได้เห็นกันทุกคน คือท่านแขวนแม้กระทั่งพระพุทธรูปหน้าตัก ๕ นิ้วจริง ๆ พอมาระยะหนึ่งท่านก็เริ่มปลดออก แจกลูกศิษย์คนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง อาตมภาพยังได้คตมะพร้าวมาเม็ดหนึ่ง

    คดมะพร้าวนี่เป็นจาวมะพร้าว ก็คือตัวที่ขึ้นเป็นต้น กลายเป็นหิน ไม่ใช่ลูกมะพร้าวนะ ลูกมะพร้าวสมัยนี้ส่วนใหญ่ที่บอกว่าเป็นคดมะพร้าวนั่นเป็นของปลอม คือกะลาปาล์มน้ำมัน โปรดอย่าให้ใครแหกตาได้

    มีคนส่งมาให้อาตมภาพหลายลูก ดีอกดีใจที่ได้ถวายของดีอาจารย์
    อาตมภาพบอกไปว่า "ข้างวัดกูมีเป็นสวนเลย" ก็คือไม่รู้จักของ แต่คิดว่าเป็นของดี ไปเสียเงินให้เขาแพง ๆ เขาเอากะลาปาล์มน้ำมันมาขัดชักเงาอย่างดี แล้วเอามาขายให้ ถ้าดูของไม่เป็นโปรดอย่าไปยุ่ง ไม่อย่างนั้นจะเสียค่าโง่ฟรี..!
     
  15. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เลี้ยวกลับมาเรื่องยันต์เกราะเพชรของพวกเราใหม่ สิ่งที่ต้องระวังมาก ๆ เลยก็คือเรื่องของอาหาร อาตมภาพเองยังหนักใจมาก อาหารนี้ถ้าหากว่าเราปรุงแล้วใส่เหล้า ถ้าไม่มีรส ไม่มีกลิ่น กินได้ แต่ถ้ายังมีรส มีกลิ่น กินแล้วเมาอยู่ก็แปลว่าจบกันแค่นั้น..!

    แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่งก็คือ ยาดองเหล้าที่เราต้องกินเพื่อรักษาโรค ถ้ากินตามหมอสั่งก็ไม่เป็นไร เพราะว่าส่วนใหญ่ยาดองหมอก็ให้กินทีละ "เป๊ก" ประมาณ ๓๐ ซีซี โบราณเขายังอนุญาตให้พระฉันรักษาโรคได้ว่า ประมาณหนึ่งข้อนิ้วจิ้มลงไปในแก้วเล็ก ๆ ที่เขาใช้ครอบปากขวด

    แต่ก็มีไอ้พวกอยากกินเยอะ ให้หนึ่งข้อนิ้วก็เทใส่ฝาบาตร ล่อไปค่อนขวด..! กินแล้วเดินเซออกนอกทาง ยั้งไม่อยู่ หัวทิ่มตกถนนไปเลย
    ถ้าลักษณะที่เรากินเอาเมา กินเอามัน ก็เป็นอันว่าจบกัน แต่ถ้ากินรักษาโรคไม่เป็นไร แต่ว่าต้องเป็นไปตามสูตร เป็นไปตามที่หมอสั่ง ไม่ใช่กินกันไปเรื่อยเปื่อย

    ในส่วนของยันต์เกราะเพชร ถ้าใครศึกษาเอาไว้ ให้พยายามหัดซักซ้อมเขียนแล้วชักสูตรไว้เสมอ ๆ โดยกำหนดภาพพระไว้เหนือศีรษะของเรา ถึงเวลาเขียนอักขระแต่ละตัว ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าท่านให้เป็นปกติ ยิ่งจับภาพได้สว่างไสวมากเท่าไร ก็ยิ่งดีเท่านั้น แล้วก็ว่าอิติปิ โสฯ ๓ ห้อง เขียนไปเรื่อย ชักสูตรเสร็จก็ใช้งานได้เลย แต่พวกเราก็มักจะขาดความมั่นใจ เหมือนกับกระผม/อาตมภาพนั่นแหละ

    สมัยก่อนพอหลวงพ่อท่านบอก อาตมภาพก็จัดการเขียนแล้วก็เอาใส่พานไป "หลวงพ่อครับ กระผมเขียนเสร็จแล้ว โปรดเมตตาเสกให้ด้วยครับ" ท่านบอกว่า "แกเอาไปเสกเอง วิธีการก็บอกไว้หมดแล้ว"

    ถามว่า "เอาสักเท่าไรดีครับ ?" ท่านบอก "อิติปิ โสฯ ๑๐๘ จบ" โอ้โห..เหนื่อยเกือบตาย กว่าจะว่าจบสองชั่วโมงกว่า เพราะว่าอิติปิ โสฯ ที่หลวงพ่อท่านบอกก็คือ สวากขาโตฯ และ สุปฏิปันโนฯ ด้วย

    แต่ก็ยังขาดความมั่นใจ พอถึงเวลา หลวงพ่อท่านจัดพิธี ก็แอบเอาไปซุกไว้ในกองด้วย แล้วท่านก็เห็นอีกต่างหาก มาหัวเราะอาตมภาพ บอกว่า "ก่อนหน้านี้พอสิ้นหลวงพ่อปาน ข้าก็ไม่ได้มั่นใจตัวเองเหมือนแกนี่แหละ แต่พอชาวบ้านเขามาขอให้เป็นที่พึ่ง ไม่มั่นใจก็ต้องมั่นใจแล้ว ในเมื่อขาดความมั่นใจ จึงต้องขอบารมีพระ ขอบารมีครูบาอาจารย์ท่านทำให้ พอทำแล้วมีผลก็ค่อย ๆ มั่นใจขึ้นมาเรื่อย ๆ"
     
  16. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    คราวนี้ท่านทั้งหลาย ถ้าหากพกวัตถุมงคลที่เป็นไสยศาสตร์มา ถ้ามาเข้าพิธีจะกลายเป็นพุทธศาสตร์หมด อย่างเช่นพวกที่พกกุมารทองมาบ้าง พกบรรดาของต่ำที่ทำด้วยไสยศาสตร์มาบ้าง โดนล้างเกลี้ยงนะจ๊ะ จากผีเด็กก็กลายเป็นเทวดาไปเลย..!

    มีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าหากว่าใครมีของไม่ดีในลักษณะผีเกาะติดตัวมา เมื่อถึงเวลาแล้ว ท้าวมหาราชกับบริวารท่านจะ "เคลียร์พื้นที่ให้" ขับไล่พวกนี้กระเจิดกระเจิงหมด บางคนที่ดื้อมาก ก็แหกปากร้องลั่นไปสามบ้านแปดบ้าน กรุณาอย่าตกใจ เพราะงานที่ผ่าน ๆ มาเห็นนั่งกันแน่นแบบนี้ พอมีคนดิ้นแล้วร้อง ไม่รู้ว่าขยับกันอย่างไร เหลือที่ห่างโล่งเลย..! แล้วทำไมตอนนี้ถึงเบียดกันจัง ? พอมีคนดิ้นขึ้นมาคนหนึ่ง ทำไมพื้นที่ถึงได้เหลือเยอะขนาดนั้นก็ไม่รู้ ? ไม่ต้องไปใส่ใจนะ เป็นภาระของท้าวมหาราชท่านที่จะจัดการ เราเองมีหน้าที่ภาวนาอย่างเดียว

    หรือถ้าหมั่นไส้มากอย่างกระผม/อาตมภาพ สมัยก่อนครั้งแรกหลวงพ่อท่านเป่ายันต์เกราะเพชรที่ศาลาพระพินิจอักษร ก็จะมีพวกผีเข้านี่แหละ มาถึงก็ลุกขึ้น ชี้หน้าพระสงฆ์ทั้งอาสนะ "เดี๋ยวกูจะเอาให้ตายให้หมดเลย" อาตมภาพย่องเข้าไปถึงข้างหลัง ตบฉาดเดียวร่วงทั้งยืน ผีหายไปเลย..! แสดงว่าผีก็กลัวของหนักเหมือนกัน..!

    ดังนั้น..ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าเจอลักษณะอย่างนั้น ถอยห่าง ๆ แล้วยังร้องไม่เลิก จะลองดูสักทีก็ได้นะ..! พอได้สติขึ้นมาก็ไปขอโทษขอโพยกันเองก็แล้วกัน
     
  17. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เมื่อรับยันต์ไปแล้ว โปรดระมัดระวัง อย่าประมาทเหมือนอาตมภาพ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องยึดหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นใหญ่ สิ่งที่ท่านให้เรามานั้นเป็นการปฏิบัติในพุทธานุสติ คือระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ในธัมมานุสติ คือระลึกถึงพระธรรมเป็นปกติ ในสังฆานุสติ คือระลึกถึงพระสงฆ์เป็นปกติ เพราะท่านให้เราภาวนา อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ทุกวัน แล้วรักษาศีลอย่างน้อย ๒ ข้อ ก็คือ ห้ามลักขโมย และห้ามดื่มสุรายาเสพติด ก็เป็นสีลานุสติ เราได้ทำกรรมฐานใหญ่หลาย ๆ กองพร้อมกัน

    ดังนั้น..ในส่วนที่โบราณาจารย์ท่านกำหนดมา ส่วนใหญ่ก็เพื่อให้เราทั้งหลายได้ปฏิบัติในกองกรรมฐาน คือในไตรสิกขา ไม่ว่าจะเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญานั่นเอง ไม่ใช่เรื่องของการงมงาย ไม่ใช่เรื่องของการออกนอกลู่นอกทางพระพุทธศาสนา ถ้าใครเขาว่ามาก็กรุณาอธิบายให้เขาฟังด้วย แต่ถ้าอธิบายแล้วไม่ฟัง ก็จัดแจงช่วย "ยัน" ด้วย..! ในเมื่อเรารับยันต์เกราะเพชรมาแล้ว เราก็มีสิทธิ์ "ยัน" คนอื่นเวลาอารมณ์ไม่ดี แต่ถ้าเขา "ยัน" คืนมา ก็ตัวใครตัวมัน อาตมภาพไม่สามารถที่จะช่วยได้เหมือนกัน..!

    ลำดับต่อไป ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจสมาทานศีล และสมาทานพระกรรมฐาน หลังจากอาตมภาพชุมนุมเทวดาแล้ว
     
  18. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    (หลังพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร)

    พุทโธ..พุทโธ..พุทโธ..คลายสมาธิ ลืมตาได้แล้ว ทุกคนได้รับยันต์เกราะเพชรไปเต็มที่แล้ว เป็นอย่างไร ตกใจเสียงดังไหม ? เอ้า..ไปหาข้าวหาปลากิน เข้าห้องน้ำห้องท่าได้แล้ว ใครจะกลับบ้านก็กลับได้เลย หรือถ้าไม่มั่นใจ จะรับอีกรอบก็ได้ เผื่อจะดิ้นเองร้องเองบ้าง ไม่ต้องไปใส่ใจนะจ๊ะ "หน้าม้า" พวกนั้น วัดท่าขนุนจ้างมาทั้งนั้นแหละ..!

    ธูปเทียนที่ท่านถืออยู่ เอากลับบ้านไปใช้งานได้เหมือนกับมีดหมอ ถ้าหากว่าใครโดนผีเจ้าเข้าสิง เอาธูปเทียนนี้จี้ พร้อมกับว่า "นะโมพุทธายะ" ผีจะออกเอง หรือจะทำแบบอาตมภาพ ถึงเวลาจะบนอะไรก็ใช้ธูปเทียนชุดนี้แหละ มั่นใจว่าถึงแน่ เพราะว่าทำพิธีมาแล้ว

    พระที่แจกไปสำคัญมาก ๆ เลย เป็นการรวมสังฆาฏิของครูบาอาจารย์ถึง ๒๐ กว่ารูป ที่ชาตินี้ก็หาไม่ได้อีกแล้ว อาตมภาพใช้คำว่า "องค์เดียวเที่ยวทั่วโลก" ไปไหนติดตัวไปได้เลย ถ้าหมั่นรักษาศีล เจริญภาวนา จะมีแต่ความสุขความเจริญกันทุกคน

    ทางด้านฝั่งสะพานแขวน มีร้านค้าชุมชนและตลาดริมแควเมืองท่าขนุน ใครจะข้ามไปซื้อหาสินค้าก็เชิญแวะได้ เดินออกทางข้างโบสถ์ ตรง ๆ ไป ข้ามสะพานแขวนไปเลย แต่ถ้าใครเมารถ อย่าเดินข้ามสะพานแขวน เพราะว่าพื้นแกว่ง ๆ เดี๋ยวจะไปไหนไม่รอด..!

    ท่านที่มาไม่ทัน หรือว่าอยู่นอกศาลาแล้วไม่มั่นใจตัวเอง กรุณารอรอบบ่าย ตอนบ่ายโมงมีเป่ายันต์รอบสอง ส่วนท่านที่อยากได้น้ำมนต์เสาร์ ๕ เผื่อเอาไปดื่มเอาไปอาบแล้วจะชักดิ้นชักงอกับเขาบ้าง..! ก็บูชาได้ข้างพระประธาน ตรงประตูเล็กทางออกนั่นเลย

    เห็นทุกคน เพียงแต่ไม่ได้ทักทายกันจนทั่ว เมื่อครูนี้ตอนเป่ายันต์ มองลงมาเห็นชัดทุกคนเลย

    รับยันต์ เขาใช้ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม ไม่ใช่เอามาทั้งห่อแบบนี้ ดอกไม้ก็ไม่ต้อง แล้วธูปเทียนเขาให้ถือตอนรับยันต์ ไม่ใช่เอามาประเคนให้อาตมา แต่ไม่เป็นไร ให้มาเป็นห่อก็ดี ทางวัดจะได้ใช้งานต่อไป
     
  19. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    (มีโยมมาขอพร) สอบนายร้อยหรือ ? อาตมภาพสอบ ไม่เห็นต้องขอใครเลย ได้ทุกที ไปเถอะ..มั่นใจตัวเองได้เลย เขาจะรู้ไหมว่าตอนอาตมภาพสอบ ๑๕ กองพันมีให้ตำแหน่งเดียว ตูยังอุตส่าห์สอบได้เลย..!

    ขออาศัยเสียงนี้ อาราธนาพระภิกษุสามเณรไปฉันเพลที่หอฉันนะครับ ถ้าไม่รู้ว่าหอฉันอยู่ที่ไหน ? ก็ดูพระประธานในศาลานี้ คือ หลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม อยู่ด้านหลังพระประธานนั่นแหละ ออกจากศาลานี้แล้วก็ตรง ๆ ไปทางนั้นได้เลย ถ้าเป็นประตูเล็กด้านซ้ายมืออาตมภาพ ออกไปก็จะเจอหอฉันพอดี

    ถวายอะไรไม่ถวาย เล่นถวายน้ำกัญชา ถ้าเมามากนี่ยันต์หลุดนะจ๊ะ..!

    ยายหนูไม่ต้องกังวล ผู้หญิงมีเมนส์ก็รับยันต์ได้ แหม..ยายนี่เขาเครียดว่ามีเมนส์อยู่รับยันต์ได้ไหม..!?

    ญาติโยมที่เพิ่งมาถึง ไปหาข้าวปลาอาหารในโรงทานกินนะจ๊ะ กินให้เรียบร้อยแล้วค่อยเข้ามาหาที่นั่งด้านใน บ่ายโมงจะเป่ายันต์รอบสองให้ ธูปเทียนสำหรับรับยันต์เกราะเพชร มีที่เต็นท์หน้าศาลาหลังนี้ ไปรับได้ ทำบุญหรือไม่ทำบุญเขาก็ให้จ้ะ

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    งานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบเช้า)
    วันเสาร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...