เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖

​

 

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพลงจากกุฏิกรรมฐานเพื่อไปห้องน้ำ ซึ่งห่างจากกุฏิไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ปรากฏว่าเมื่อเดินผ่านสระน้ำ ได้ยินเสียงประหลาดเหมือนกับลูกหมา ดังอยู่ในบริเวณนั้น จึงได้พยายามเพ่งมองดูในความมืด แล้วก็เห็นลูกหมาตัวหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายว่ายน้ำ จวนจะหมดแรงอยู่แล้ว..!

ไม่ทราบว่าตกลงไปสระน้ำตั้งแต่เมื่อไร จึงได้หิ้วขึ้นมา แล้วพยายามปฐมพยาบาลด้วยการใช้ผ้าเช็ดหน้า ๒ ผืนของตัวเองเช็ดตัวให้แห้ง แต่ไอ้ตัวเล็กกินน้ำเข้าไปจนท้องกางแข็งโป๊ก..! ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่มาเจอเสียก่อน คาดว่าอีกไม่กี่นาทีมีหวังจมน้ำตายอย่างแน่นอน จึงได้ตั้งชื่อให้ว่า "เจ้าบุญรักษ์" ก็คือ บุญรักษา

หลังจากนั้นก็กลับขึ้นไปเจริญภาวนาของตนเองตามระเบียบ จนกระทั่งประมาณตี ๓ ก็ลงมาใต้ถุนกุฏิกรรมฐาน ซึ่งมีปลั๊กไฟที่ใช้การได้อยู่อันเดียว ทำการติดตั้งโน้ตบุ๊ก แล้วเข้าอินเตอร์เน็ต ไปตรวจการในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ครั้นตรวจแก้งานต่าง ๆ ในเว็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้วยความเป็นห่วง ก็เดินไปดูเจ้าบุญรักษ์อีกหนึ่งรอบ

ปรากฏว่าหายไปแล้ว..! ทิ้งผ้าเช็ดหน้าเปียก ๆ ไว้ ๒ ผืน พยายามเดินหาบริเวณใกล้เคียงก็ไม่เจอ หลังจากนั้นก็กลับไปภาวนา แล้วต่อด้วยการอ่านหนังสือ ซึ่งในระยะนี้ก็เหลือแค่อ่านประมาณวันละ ๑ เล่มเท่านั้น จนกระทั่งตี ๕ ครึ่งก็ไปสรงน้ำ แต่งตัว แล้วก็ไปรอที่ใต้ถุนกุฏิหมู่เรือนไทย ซึ่งบรรดาแม่ครัวกำลังเตรียมอาหารเช้าเป็นการใหญ่

ทางด้านพระมหาประชัน ธมฺมวิริโย เจ้าอาวาสวัดอ่าวน้อย ซึ่งเป็น FC วัดท่าขนุนเช่นกัน เข้ามากราบเรียนสอบถามวิธีบริหารจัดการวัด โดยเฉพาะการนำญาติโยมทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้าน ว่ามีเคล็ดลับหรือว่าส่วนสำคัญที่ต้องจัดการอย่างไรบ้าง แล้วบรรดาพระทั้งหลายของที่วัดนี้ ทยอยกันเข้ามากราบเรียนถามเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติ หรือว่าอารมณ์ปฏิบัติที่ตนเองติดข้องอยู่ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่า แม้กระทั่งแม่ครัวก็วางมือมาร่วมวงด้วย..!

กระผม/อาตมภาพเห็นว่าพระกลับมาจากบิณฑบาตแล้ว ถ้ามัวแต่คุยอยู่ ไม่ฉันเสียก่อนก็อาจจะเสียเวลามาก จึงนำทุกท่านไปฉันข้าวต้มทะเล ซึ่งนอกจากจะเป็นข้าวต้มที่ประกอบไปด้วยกุ้งหอยปูปลาแล้ว ก็ยังมีบรรดากุ้งทอด ตลอดจนกระทั่งอาหารทะเลอื่น ๆ อีกมาก ที่บรรดาแม่ครัวทั้งหลายตั้งใจทำเพื่อถวายคณะกรรมการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลางทั้งหมด แต่ปรากฏว่ามีมาพักอยู่แค่ส่วนของอนุกรรมการ ๓ - ๔ รูปเท่านั้น มีกรรมการเต็มตัวอยู่รูปเดียว ก็คือกระผม/อาตมภาพเอง..!

หลังจากอิ่มแล้วกระผม/อาตมภาพก็ขอตัวไปนอนภาวนาตามระเบียบของตน จนกระทั่งเวลา ๙ โมงครึ่ง ก็ให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พาวิ่งเข้าไปยังตัวเมือง เนื่องเพราะว่าคณะกรรมการนัดพบกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณหน้าอ่าวประจวบ เมื่อไปถึง ปรากฏว่าทางเจ้าถิ่นไม่ว่าจะเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด หรือว่าเจ้าคณะอำเภอในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มารอต้อนรับอยู่แล้วหลายรูป

 

ครั้นบรรดาคณะกรรมการส่วนหนึ่งที่เดินทางมาถึง จึงได้เริ่มลงมือฉันอาหารเพลกัน อิ่มเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางต่อไปยังวัดตาลเจ็ดยอด เพื่อร่วมในการประเมินยกหมู่บ้านตาลเจ็ดยอดขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อไปที่ไหนก็ต้องเข้าโบสถ์เพื่อไปกราบพระประธานและเจริญพระพุทธมนต์ถวายก่อน แต่ว่าวันนี้ล่าช้าไปเล็กน้อย เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสิทธาจารย์ (ละเอียด สุทนฺโต) หรือ หลวงพ่อเอียด เจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ (พระอารามหลวง) ขอมาร่วมงานด้วย

เมื่อหลวงพ่อเอียดนำพวกเราเจริญพระพุทธมนต์และถ่ายรูปหมู่แล้ว ยังมีการปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก ซึ่งบรรดาพระเถระทั้งหลายที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นท่านเจ้าคุณอาจารย์ประสิทธิ์ - พระเทพปวรเมธี, รศ.ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี) ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลางก็ดี พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) รองประธานคณะกรรมการอำนวยการกลางก็ดี

ตลอดจนกระทั่งท่านเจ้าคุณอาจารย์พล พระเทพเวที, รศ.,ดร. (พล อาภากโร ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๖ ซึ่งมีความสนิทสนมกับหลวงพ่อเอียดเป็นการส่วนตัว ก็เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย ทำให้บรรดา "ชั้นเทพ" ทั้งหลายมีการแซวกันว่า "ถ้าหากว่าปลูกแล้วไม่โต ก็ตัวใครตัวมันนะ..!" ซึ่งในส่วนนี้แล้ว มีการถือเคล็ดว่า ถ้าต้นไม้เจริญเติบโต บรรดาผู้ปลูกก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองไปด้วย แต่ถ้าไม่โต ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยอย่างไรได้..?!

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปกราบรูปหล่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ซึ่งอยู่บนหลังคาศาลา เสร็จสรรพเรียบร้อย ค่อยเข้าไปยังศาลากรรมฐาน เพื่อร่วมในการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของบ้านตาลเจ็ดยอด ซึ่งโดยปกติแล้วปลัดเก่ง (นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ) ปลัดกระทรวงมหาดไทย รับปากว่าจะมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็จะมาร่วมงานด้วย

แต่ปรากฏว่าวันนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหมาด ๆ คือนายอนุทิน ชาญวีรกุล เรียกบรรดาหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ของกระทรวงมหาดไทย เข้าไปรับฟังนโยบายของรัฐมนตรี จึงทำให้ท่านปลัดเก่ง และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่สามารถที่จะมาร่วมงานได้ จึงได้ส่งท่านรองอธิบดีกรมการปกครองมาทำหน้าที่แทน

สำหรับการตรวจประเมินในส่วนที่กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบอยู่ ก็คือด้านการปฏิบัติธรรมนั้น เกือบจะไม่มีคำถามอะไรที่ต้องถาม เนื่องเพราะว่าวัดตาลเจ็ดยอด ซึ่งมีท่านอาจารย์พระมหาจำนงค์ จรณธมฺโม เป็นเจ้าอาวาสนี้ ได้รับการยกขึ้นเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แห่งที่ ๒๐ เป็นมติมหาเถรสมาคมเดียวกันกับที่ยกวัดท่าขนุนขึ้นเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓

 

ขณะเดียวกัน เมื่อปีที่แล้ว ท่านก็ไปรับรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดดีเด่นในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง จากพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลางมาด้วยกัน กระผม/อาตมภาพจึงได้แค่สอบถามผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า มีการสนับสนุนงบประมาณอย่างไรในการปฏิบัติธรรมของวัดตาลเจ็ดยอดแห่งนี้บ้าง ?

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็นำหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิญาณตนในการใช้ศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิต แล้วมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่บุคคลตัวอย่างต้นแบบในการรักษาศีล ๕ ของหมู่บ้านตาลเจ็ดยอด ๖ รายด้วยกัน

เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสิทธาจารย์ เจ้าคณะภาค ๑๕ ได้มอบประกาศนียบัตรแก่บุคคลรักษาศีล ๕ ต้นแบบของบ้านตาลเจ็ดยอดแล้ว มีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แล้วบรรดาหัวหน้าส่วนราชการก็ประเคนของที่ระลึกให้แก่คณะกรรมการที่อุตส่าห์เหนื่อยยากเดินทางมาไกล ซึ่งเมื่อกระผม/อาตมภาพรับมาแล้วจึงเห็นว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าชาวบ้านแถวนี้ไปเสาะหามาถวาย หรือว่าไปซื้อหามาจากที่ใดที่หนึ่งมาถวาย

ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็เป็นการชมนิทรรศการ ซึ่งบรรดาทางด้านผู้จัดนิทรรศการได้แหงนคอรอคอยอยู่เป็นเวลานานแล้ว แต่เนื่องจากว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก กระผม/อาตมภาพจึงขอตัวเดินทางก่อน

หลังจากที่สอบถามจากผู้ติดต่อประสานงานแล้ว ทราบว่าคืนนี้ "วัดใครวัดมัน" แปลว่าถ้าใครจะพักอยู่แถวนี้ต้องหาที่พักกันเอาเอง กระผม/อาตมภาพจึงติดต่อไปยังพระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร ขอให้ช่วยจัดห้องพักให้สองห้อง สำหรับกระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก จะได้พักในคืนนี้ ก่อนที่พรุ่งนี้จะทำการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่บ้านหุบกระพง จังหวัดเพชรบุรีต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)