เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 15 ตุลาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตอนเช้ากระผม/อาตมภาพออกบิณฑบาตตามปกติ จนกระทั่งมาถึงร้านค้าชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ซึ่งที่นี่จัดโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ควบคู่ไปกับวันเสาร์ ซึ่งมีโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน"

    จะว่าไปแล้ว ก็คือให้ญาติโยมในชุมชน ตลอดจนกระทั่งนักท่องเที่ยว "สายบุญ" ทั้งหลาย ได้มีสถานที่ในการทำบุญใส่บาตรร่วมกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ดูคึกคักขึ้นมามาก โดยเฉพาะเวลานักท่องเที่ยวและชาวบ้านเป็นร้อย ๆ มาร่วมกันใส่บาตร ทำให้ภาพที่ออกมางดงามมาก

    ความจริงแล้วงานนี้กระผม/อาตมภาพเลียนแบบมาจากการใส่บาตรยามเช้าที่ถนนสู้ศึก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องเพราะว่าพาคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนไปดูงาน แล้วเห็นว่าเขามีพระเณรแค่ ๙ - ๑๐ รูป ยังกล้าที่จะทำงานในลักษณะแบบนี้ ก็คือมารับบาตรจากนักท่องเที่ยวทุกวันหยุด

    กระผม/อาตมภาพเห็นว่า วัดท่าขนุนมีพระเณร ๓๐ - ๔๐ รูปทุกปี บางทีก็ทะลุไปถึง ๖๐ กว่ารูป จึงจัดงานนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นาน ที่อื่น ๆ พอเห็นภาพที่ลงในสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ตลอดจนกระทั่งกลุ่มไลน์ต่าง ๆ ก็มีการจัดเลียนแบบขึ้นมาบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันกันในด้านที่ดี

    เมื่อรับบาตรมาและฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็นำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นที่ ๗/๒๕๖๖ ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง เป็นที่น่าสงสารว่า หลายท่านแยกไม่ออกว่า ระหว่างท่องพระคาถาเงินล้านกับภาวนาพระคาถาเงินล้านต่างกันอย่างไร ? การท่องก็คือการสักแต่ว่าให้ครบ ว่าให้จบไปตามที่เราต้องการ แต่การภาวนานั้นก็คือการภาวนาโดยใช้พระคาถาเงินล้าน ควบกับลมหายใจเข้าออก ยิ่งทรงสมาธิสมาบัติได้สูงเท่าไร ผลก็จะมีมากเท่านั้น
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    บรรดาท่านผู้ที่สอบถามเข้ามาตามช่องทางต่าง ๆ นั้น บางทีท่านเองก็ไม่คิด ไม่ตรอง ไม่ทดลองทำดู หากแต่ถามอย่างเดียว บางทีก็สร้างความเหนื่อยให้กับทางวัดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะท่านที่สอบถามมาทางโทรศัพท์ อย่างเช่นว่า "งานกฐินและตักบาตรเทโววัดท่าขนุนมีกำหนดการอย่างไร ?" ทางวัดก็ให้ท่านไปดูกำหนดการในเว็บไซต์วัดท่าขนุน หรือว่าเฟซบุ๊กวัดท่าขนุน ท่านหายไปไม่ถึง ๓ นาทีก็โทรกลับมาใหม่ว่า "เข้าเว็บไซต์ยากมาก เข้าเฟซบุ๊กแล้วหาไม่เจอ..!"

    กระผม/อาตมภาพลองพิมพ์คำว่า "กำหนดการงานวัดท่าขนุน" ในกูเกิ้ล แล้วเคาะลงไป ข้อมูลมาเป็นล้าน..! ตั้งแต่ปีเก่า ๆ มาจนถึงปีปัจจุบัน มีครบหมด ก็เลยสงสัยว่าท่านทั้งหลายขี้เกียจหรือว่าโง่กันแน่ !? ถึงไม่สามารถที่จะหาข้อมูลได้ ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลนั้นแทบจะท่วมบ้านตาย..!

    บางทีบุคคลสมัยนี้ก็เอาแต่มักง่ายเข้าว่า ไม่ใช้ความเพียรพยายามแม้แต่น้อย ถ้าในลักษณะแบบนี้ ท่านไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม เพราะว่าถ้าความเพียรไม่พอแบบนี้ การปฏิบัติธรรมย่อมไม่เกิดผล

    เนื่องเพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้น อันดับแรกเลย ต้องมีความอดทนอดกลั้น อันดับที่สอง ต้องมีความพากเพียรพยายาม อันดับที่สาม ต้องมีปัญญา รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว หาจุดที่เหมาะสมกับตัวเอง อันดับที่สี่ ต้องมีความจริงจัง สม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำ ๆ ทิ้ง ๆ อันดับที่ห้า กำลังใจต้องจดจ่อ ปักมั่นอยู่กับสิ่งที่เราทำ ไม่สำเร็จไม่เลิกเด็ดขาด..!

    แต่ถ้าหากว่าพิจารณามาแล้ว เรื่องที่พูดมาทั้งหมดนี้ ท่านไม่น่าจะมีอยู่เลย เนื่องเพราะว่าเอาแต่ถาม พอตอบไปก็ยังโวยวายว่า "ไม่ชัดเจน ทำไมไม่ตอบตอนนี้เลย ทำไมต้องให้ไปค้นดูที่โน่นที่นี่ด้วย..!?" ขออภัยเถอะพระคุณท่าน ผู้ตอบกำลังขับรถอยู่ แล้วจะให้ไปค้นหาอะไรให้กับท่านได้..!

    โปรดมองในลักษณะของ "ใจเขาใจเรา" บ้าง ในมุมมองของท่านก็คือ ไม่ได้รับความสะดวก แต่ว่าในมุมมองของผู้ตอบก็คือ กำลังทำผิดกฎจราจร ต้องรีบหยุดการพูดคุยเร็วที่สุด ก่อนที่จะโดนจับและปรับ ในเมื่อมุมมองต่างคนต่างมีไม่เหมือนกัน ถ้าเราไปยึดมั่นถือมั่นว่ามุมมองของเราถูกต้อง คนอื่นทำไม่ได้อย่างใจเรา ถ้าอย่างนั้นชาตินี้ทั้งชาติท่านก็จะมีแต่ความทุกข์ เพราะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้อย่างใจ ถ้าหากว่าได้อย่างใจ เราย่อมไม่ทุกข์
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    หลังจากที่นำญาติโยมผู้ปฏิบัติธรรมภาวนาพระคาถาเงินล้านจนครบ ๑๐๘ จบ และนั่งรับการทำบุญจากท่านทั้งหลายแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งลงมายังวัดท่ามะขาม (วัดราษฎร์ประชุมชนาราม) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อค้นหาวัตถุมงคล ๒ ชิ้นที่เตลิดเปิดเปิงหนีไปทั้งที่มีผู้จองแล้ว ก็คือตะกรุดคอช้างศึกม้าศึก หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า และตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ซึ่งเป็นตะกรุดเปลือย ไม่มีการถักเชือก

    ดูท่าว่าวัตถุมงคลทั้ง ๒ ชิ้นนี้ ไม่อยากที่จะจากไป เมื่อตามมาถึงวัดท่ามะขามก็ยังไม่เจอ จนท้ายที่สุดก็ต้องสอบถาม "ผู้รู้" ปรากฏว่าหนีไปอยู่ในเป้ที่บรรจุแล็ปท็อป หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า "โน้ตบุ๊ก" เมื่อหยิบขึ้นมา รู้สึกเย็นเหมือนกับเพิ่งออกมาจากตู้เย็น เป็นอาการที่เขาพยายามแสดงให้เรารู้ว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้นมีอานุภาพ มีหัวจิตหัวใจก็ว่าได้ ก็คือกลัวว่าไปแล้วจะไม่ได้รับการโมทนาบุญ แบบที่อยู่กับกระผม/อาตมภาพ ไปแล้วจะไม่ได้ร่วมสร้างบุญสร้างกุศล ในทาน ในศีล ในภาวนา

    ตรงนี้ต้องบอกกล่าวแก่ท่านทั้งหลายที่จองวัตถุมงคลไปว่า กระผม/อาตมภาพปฏิบัติต่อวัตถุมงคลแต่ละชิ้น เหมือนกับเขามีชีวิตจิตใจ ถึงเวลาสร้างบุญสร้างกุศลอะไร ก็ขอให้เขามาร่วมในส่วนบุญนั้น บรรดา เทวดา นางฟ้า พรหม ที่รักษาวัตถุมงคล จึงไม่ค่อยอยากจะไปอยู่ที่อื่น จนกระทั่งต้องเกลี้ยกล่อมกันขนานใหญ่ เป็นต้นว่า ถึงไปอยู่ที่อื่น ถ้ากระผม/อาตมภาพสร้างบุญกุศลอะไร ก็ให้เขาอนุโมทนาได้ ถึงจะยอมรับและยอมไปกัน

    บางท่านก็อาจจะสงสัยว่าวัตถุมงคลบางอย่างหายากมาก หรือหายากที่สุด แต่ทำไมกระผม/อาตมภาพมีอยู่ ? และสภาพบางทีก็ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เหมือนใหม่เลย ก็เนื่องเพราะว่าเราปฏิบัติต่อวัตถุมงคลเหมือนกับเขามีชีวิตจิตใจ เหมือนกับเป็นคน ๆ หนึ่ง เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ว่าเขาจะอยู่ในภพไหนภูมิไหน ก็มีความรักสุขเกลียดทุกข์เช่นเดียวกัน ดังนั้น..สิ่งไหนที่จะเพิ่มความสุข เพิ่มศักดานุภาพให้แก่เขาทั้งหลายเหล่านั้น กระผม/อาตมภาพก็จะทำเป็นปกติ พวกเขาจึงอยากที่จะมาอยู่ด้วย
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่าได้รับฟังแล้ว ก็ควรที่จะประพฤติปฏิบัติตาม เนื่องเพราะว่าเรายิ่งสร้างบุญกุศลแล้วอุทิศให้กับท่านทั้งหลายมากเท่าไร บรรดานางฟ้า เทวดา หรือพรหม ที่รักษาวัตถุมงคลชิ้นนั้น ๆ ก็ยิ่งมีศักดานุภาพมากขึ้น โดยเฉพาะท่านทั้งหลายเหล่านี้ มีความกตัญญูเป็นปกติ ถึงเวลามีอะไรไม่เกินวิสัย หรือไม่เกินกฎของกรรม ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะช่วยเหลือเราอย่างเต็มกำลังที่ท่านช่วยได้

    ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้มีศักดานุภาพน้อย ก็จะช่วยเหลือเราได้น้อย มีเรื่องที่เกินวิสัย หรือเกินกฎของกรรมอยู่มาก แต่ถ้าหากว่าเราปฏิบัติต่อท่านทั้งหลาย ในลักษณะทำให้ท่านมีศักดานุภาพเพิ่มขึ้น สิ่งที่เหลือวิสัยของท่านก็น้อยลง แล้วขณะเดียวกันเท่ากับว่าเราผูกบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ต่อกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องที่เกิดขึ้น ท่านจึงมีส่วนร่วมด้วย ทำให้ท่านสามารถอาศัยความสัมพันธ์ตรงนี้ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราได้มากกว่าคนทั่ว ๆ ไป

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับ หรือว่าอุปเท่ห์ในการใช้วัตถุมงคลอย่างหนึ่ง ซึ่งท่านทั้งหลายรับทราบแล้วก็รีบปฏิบัติตามได้เลย กระผม/อาตมภาพไม่หวงความรู้ ไม่หวงวิชา อะไรที่รู้มา ถ้าหากว่าสามารถบอกต่อได้ก็จะบอกต่อทันที และโดยเฉพาะบางสิ่งบางอย่างที่รู้แล้วบอกต่อไม่ได้ กระผม/อาตมภาพบอกกล่าวท่านทั้งหลายเหล่านั้นอยู่เสมอว่า ถ้ารู้แล้วบอกต่อไม่ได้ อย่ามาให้รู้ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่ชอบปิดบังอะไรกับใคร

    ดังนั้น..สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเข้าถึงหูของท่าน แล้วเห็นว่าไม่เกินวิสัยที่จะประพฤติปฏิบัติได้ ให้ทดลองทำดู แล้วจะพบว่าวัตถุมงคลแต่ละอย่างของท่านนั้น จะมีประสบการณ์ที่มากกว่าผู้อื่นอยู่เสมอ

    สำหรับวันนี้ก็เรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...