เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 กันยายน 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8261.jpeg
      IMG_8261.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      259.8 KB
      เปิดดู:
      32
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพนำพระภิกษุวัดท่าขนุน รับบิณฑบาตจากประชาชนในชุมชนและนักท่องเที่ยว ตามโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน"

    ไม่ว่าจะการรับบิณฑบาตตามโครงการวันเสาร์นี้ก็ดี หรือว่าการรับบิณฑบาตตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระ ทุกวันอาทิตย์" ก็ตาม ในเมื่อทางวัดได้แจ้งให้กับทุกคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวแล้วว่า "มีการใส่บาตรทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์" ดังนั้น ไม่ว่าจะติดงานสำคัญขนาดไหนก็ตาม ทางวัดท่าขนุนก็จะต้องมีพระภิกษุสงฆ์มารับบิณฑบาตตามโครงการเหล่านี้

    ถ้าหากว่าเป็นงานวัดสำคัญ ต้องการใช้กำลังพลมาก ก็จะแบ่งมาให้บิณฑบาต ๙ รูป ตามตัวเลขมงคลที่ญาติโยมเชื่อถือกัน แต่ด้วยความที่ว่างานแรกของวันนี้นั้นก็คือเวลา ๘ นาฬิกาตรง กระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีเวลาเหลือเฟือ จึงได้นำพระภิกษุวัดท่าขนุนเกือบทั้งหมดออกบิณฑบาต เว้นไว้แต่พระที่เป็นเวรยาม หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น

    เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงได้กลับมาแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศ ลงไปที่ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย เพื่อมอบรางวัลคนคู่คุณธรรมปี ประจำปี ๒๕๖๗ ให้กับเครือข่ายทางวัฒนธรรม ของชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนทั้ง ๒๘ แห่ง โดยให้แต่ละแห่งนั้นคัดเลือกเอาบุคคลในชุมชนที่ตัวเองเห็นว่าประกอบคุณงามความดีมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เป็นที่ยอมรับนับถือของบุคคลในชุมชนว่า เป็นผู้ที่มีคุณงามความดี สมควรที่จะได้รับการยกย่องอย่างแท้จริง แล้วส่งรายชื่อมาให้กับทางสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ

    ในเรื่องนี้นั้น ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า คนคู่คุณธรรมนั้น เขามีความดีงามที่เป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่เรามายกย่องให้ปรากฏต่อชุมชน เพื่อเป็นแบบอย่างแก่บุคคลอื่น ๆ เท่านั้น โดยที่ผู้ซึ่งเคยได้รับรางวัลแล้ว สามารถได้รับคัดเลือกจากชุมชนให้รับรางวัลได้อีก แต่ต้องไม่เกิน ๓ ครั้ง ซึ่งรางวัลนั้นประกอบไปด้วยเกียรติบัตรและเงินสด ๑๐,๐๐๐ บาทต่อ ๑ รางวัล มีการแจกกันในงานวันบูรพาจารย์วัดท่าขนุน ทุกวันที่ ๑๔ กันยายนของปี
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เพียงแต่ว่ามีหลายชุมชน ซึ่งถ้าไม่ใช่ตกข่าว ก็มักจะอยู่ในลักษณะที่ไม่ให้ความสำคัญกับการทำความดีของบุคคลอื่น จึงไม่ได้เสนอชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการยกย่องมา ที่ปรากฏบ่อยที่สุดก็คือชุมชนคุณธรรมวัดท่ามะเดื่อ ปีนี้ก็ขาดการส่งรายชื่อ ส่วนชุมชนคุณธรรมวัดนามกุยทายิการามนั้น เจ้าอาวาสเพิ่งจะสึกหาลาเพศไป บุคคลที่จะเสนอชื่อก็เลยหายไปจากสารบบ ทำให้ไม่มีผู้มารับรางวัลของปีนี้

    ส่วนการแจกรางวัลในวันนี้นั้น บางท่านอย่างเช่น คุณยายบุหงา มาโนช ก็อายุถึง ๘๗ ปีแล้ว ไม่สามารถที่จะนั่งลงรับรางวัลได้แบบคนอื่นเขา กระผม/อาตมภาพได้อะลุ้มอล่วยให้คุณยายบุหงายืนรับรางวัล ส่วนคุณตากมล ใจมั่น ซึ่งอายุเท่ากันก็คือ ๘๗ ปี มีนัดตรวจสุขภาพกับหมอในวันนี้พอดี จึงส่งตัวแทนให้มารับรางวัลนี้แทน

    ครั้นเมื่อรับรางวัลแล้ว คุณตากมล ใจมั่น คุณยายบุหงา มาโนช คุณเฉลิมเดช รุจิราวรรณ และ คุณมธุรส คันธวจนะ ได้มอบเงินรางวัลจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาทนั้น คืนมาให้ทางวัดท่าขนุน เพื่อนำไปใช้สอยในกิจการงานอื่น ๆ ของทางวัดต่อไป ต้องขอเจริญพรขอบพระคุณท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุที่ว่าท่านไม่ได้เดือดร้อนในเรื่องของเงินทองอยู่แล้ว เมื่อรับรางวัลไปก็ภูมิใจกับเกียรติบัตรของตนเอง ส่วนเงินนั้นก็ถือว่าได้รับเป็นกำลังใจแล้ว ขอเอามาทำบุญต่อก็แล้วกัน

    อีกส่วนหนึ่งก็คือบรรดา "พะตี" หรือว่า "มื่อกา" ซึ่งก็คือ "คุณลุง" "คุณป้า" ชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง ซึ่งแต่งกายประจำเผ่าของตนเองอย่างสวยงามมารับรางวัล ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วัดท่าขนุนของเรานั้นเป็นศูนย์กลางนานาชาติจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มอญ พม่า ทวาย กะเหรี่ยง ม้ง เย้า ลีซอ ไทยอีสาน ถึงเวลาก็มีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องเชื่อมโยงเข้ามารวมกัน กลายเป็นชุมชนนานาชาติที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะร่ำรวยทางวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง

    เขาทั้งหลายเหล่านี้มีความภาคภูมิใจในความเป็นตัวตนของตน แล้วขณะเดียวกัน ก็ยังมีการแสดงออก
    ถึงความเป็นชาติพันธุ์ทางวัฒนธรรมอย่างชัดเจน ถ้าเราบริหารจัดการดี ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นจุดขายที่สามารถนำรายได้เข้าสู่ชุมชนได้ทั้งสิ้น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เมื่อถ่ายรูปหมู่รูปเดี่ยวกับทุกคนแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้มอบเกียรติบัตรกับทางคณะที่พันเอกวิเชียร ถิ่นวัฒนากูล ผู้ทรงคุณวุฒิของสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ได้ไปทำโครงการรักษาร่องรอยทางประวัติศาสตร์ชุมชนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็คือทางรถไฟสายมรณะ ขอความร่วมมือท่านทั้งหลายเหล่านี้ ให้รักษาร่องรอยของทางรถไฟเอาไว้ อย่าได้ไปไถกลบไถทิ้งเหมือนกับที่อื่น ๆ เพื่อที่จะได้มีร่องรอยของทางรถไฟที่ยังสมบูรณ์อยู่ เช่นเดียวกับส่วนของวัดท่าขนุน ถึงเวลาจะได้มีนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์ส่วนนี้ ได้ชมในร่องรอยเส้นทางรถไฟสายมรณะมากกว่าที่ทางวัดท่าขนุนมีอยู่

    ท่านทั้งหลายเหล่านี้ได้สละพื้นที่ของตนเพื่อเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ชุมชน ยินดีให้พันเอกวิเชียร ถิ่นวัฒนากูลไปติดตั้งป้ายบอกหมุดหมายแหล่งประวัติศาสตร์ชุมชน ประกอบไปด้วยคุณนันทิกร บ่อเกิด คุณรุ่งคุณ สายรัตณี คุณสุรภี ทองสุข คุณสุขเจริญ ทะแยง และคุณประสิทธิ์ ยอดไกร ซึ่งทางด้านคุณสุรภี ทองสุขนั้น ด้วยความที่เจ็บไข้ได้ป่วยในระยะนี้พอดี ก็เลยส่งคุณแม่ที่ยังดูแข็งแรงอยู่มาก มาเป็นผู้รับรางวัลแทน

    กระผม/อาตมภาพมอบเกียรติบัตรและกล่าวคำขอบคุณแก่ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ที่มีน้ำใจให้กับชุมชน รักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งต่อชุมชน ต่อจังหวัด ต่อประเทศ และต่อโลกของเรานี้เอาไว้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนรุ่นต่อ ๆ ไปจะยินดีให้รักษาร่องรอยแบบนี้ไว้อีกหรือเปล่า ? แต่ว่าสิ่งที่ท่านได้ทำเอาไว้นั้น อย่างน้อยก็ช่วยให้ร่องรอยทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งโด่งดังมากก็คือทางรถไฟสายมรณะ จากบ้านหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรี ออกไปสู่ประเทศเมียนมาร์ที่เมืองตันบวยเซียด กระผม/อาตมภาพเองขอชื่นชมท่านทั้งหลายเอาไว้ ณ ที่นี้ ที่ได้สละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนมากของชุมชน

    หลังจากนั้นแล้วก็ได้ทำการจัดงานทำบุญวันบูรพาจารย์วัดท่าขนุนเป็นการภายใน ซึ่งงานวันบูรพาจารย์วัดท่าขนุนก็ดี งานวันแม่แห่งชาติวัดท่าขนุนก็ตาม กระผม/อาตมภาพไม่สามารถจัดอย่างเป็นทางการมา ๕ ปีแล้ว โดยที่ปี ๒๕๖๓ , ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ ติดตรงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาดหนัก ไม่สามารถที่จะจัดงานได้ มาปี ๒๕๖๖ และ ๒๕๖๗ ก็ติดงานเป็นคณะกรรมการหลักในการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางทั้ง ๒๓ จังหวัด จึงได้แต่จัดเป็นการภายในเท่านั้น
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    แต่ก็เหมือนกับเป็นงานรวมศิษย์เก่าวัดท่าขนุน ก็คือบรรดาบุคคลที่วัดท่าขนุนของเราบวช หรือว่าขัดเกลาอบรมสั่งสอนไปนั้น ท่านได้ไปเจริญเติบโตตามสายงาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าอาวาสก็ดี เจ้าสำนักสงฆ์ก็ดี ประธานที่พักสงฆ์ก็ตาม ถึงเวลาก็กลับมาร่วมงานนี้ด้วยกัน เพราะว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีวัดท่าขนุนเป็นหลัก

    ส่วนที่ไม่สามารถจะมาได้เพราะว่าอยู่ไกลและติดน้ำท่วม อย่างเช่นว่าประธานที่พักสงฆ์ห้วยน้ำริน (พระปลัดอาทิตย์ ชุตินฺธโร) หรือว่าประธานที่พักสงฆ์สุธรรมาราม (พระสมุห์ฐิติ ฐิติโก) ก็ตาม เนื่องจากว่าสถานที่นอกจากจะไกลแล้ว การเดินทางในช่วงที่มรสุมเข้าอย่างนี้ยังอันตรายมาก และน้ำป่าที่ไหลหลา กยังมีโอกาสที่จะทำความเสียหายให้กับสถานที่ได้มาก จึงต้องคอยอยู่ดูแลสถานที่ของตนก่อน

    ส่วนอื่น ๆ ที่มาก็ได้ร่วมกับสวดธรรมนิยามถวายกุศลต่อพระเดชพระคุณหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน และอดีตเจ้าอาวาส ตลอดจนกระทั่งบุคลากร ที่เป็นพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุนตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้

    เมื่อทำการถวายสังฆทาน ตลอดจนกรวดน้ำรับพรแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางไปตามที่ได้นัดหมายบุคคลต่าง ๆ เอาไว้ โดยที่ไม่ได้ร่วมฉันภัตตาหาร ซึ่งวันนี้คณะบุญเพื่อพระนิพพาน นำโดยทิดโจ้ (นายปฏิวัต สมสะอาด) ได้เป็นเจ้าภาพถวายอาหารโต๊ะจีนมาถึง ๑๖ โต๊ะด้วยกัน แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพถือว่าการทำอะไรต้องตรงต่อเวลา จึงจำเป็นที่จะต้องสละโต๊ะจีนมาฉันซาลาเปาบนรถยนต์แทน เพราะว่าไปได้เพลกันกลางทาง แล้วก็เดินทางไปพบปะกับบุคคลที่ได้นัดหมายเอาไว้ตามความสำคัญของแต่ละคนได้ทันเวลา

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...